เสีียงจากโจร หนังสือเปิดผนึกถึงท่านนายกรัฐมนตรี และพี่น้องประชาชน

หนังสือเปิดผนึกถึงท่านนายกรัฐมนตรี และพี่น้องประชาชน

เสียงจากโจร
เรื่อง วิธีแก้ปัญหาความไม่สงบในภาคใต้ที่ถูกต้องถูกวิธี

กราบเรียน ฯพณฯ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี

สิ่งที่ส่งมาด้วย ขอทำสัญญาสงบศึกหยุดยิง

วันนี้เป็นวันที่ 19 สิงหาคม เป็นวันตรุอีดิลฟิตริ เป็นวันเฉลิมฉลอง การสิ้นสุด การถือศีลอดในเดือนรอมฎอน ของพี่น้องชาวไทยมุสลิมทั่วโลก ถือว่าเป็นวันรื่นเริง เป็นวันให้อภัยซึ่งกันและกัน เป็นวันขออโหสิกรรม ขออภัยให้ซึ่งกันและกัน

ท่านนายกครับ ท่านต้องการปรารถนาให้ภาคใต้เกิดความสงบร่มเย็น ปราศจากเสียงปืน เสียงระเบิด ทหาร ตำรวจ พี่น้องประชาชน จะได้ไม่ต้องมานอนตาย นอนเจ็บ ในเดือนรอมฎอนปีหน้าอีก

ท่านนายกต้องการเช่นนั้นหรือไม่ ถ้าท่านต้องการก็ยกมือให้พร้อมกัน ทั้งฝ่ายรัฐบาล เจ้าหน้าที่ของรัฐ ต้องพร้อมใจกัน อโหสิกรรมให้อภัยแก่ฝ่ายโจร ฝ่ายพี่น้องมุสลิม ที่ได้ไปกระทำการในสิ่งที่ไม่ดีงามต่างๆ ที่แล้วมา

สำหรับฝ่ายโจร ฝ่ายพี่น้องมุสลิม ตัวกระผมพร้อมเสมอที่จะอโหสิกรรม ยกโทษให้อภัยต่อทางรัฐบาลทางเจ้าหน้าที่ของรัฐ แล้วเราทั้งสองฝ่าย มาคืนดีกัน เรามาเริ่มต้นนับถอยหลัง ตีระฆัง คืนดีกัน ให้อภัยซึ่งกัน และมาเริ่มต้นกันใหม่ เราคนไทยเหมือนกัน ชาติไทยเหมือนกัน เราเป็นพี่น้องกัน

มุสลิมผู้นับถือศาสนาอิสลาม มีพระเจ้าทรงมีพระนามว่า อัลเลาะห์ อัลเลาะห์ทรงตรัสว่า คนที่ดีที่สุดในโลกนี้ในสายตาของอัลเลาะห์ คือคนที่ได้กระทำผิดแล้ว รู้สึกตัวว่ากระทำความผิด รู้สึกเสียใจ ที่ได้กระทำผิดที่แล้วมา แล้วขอปฏิญาณตนว่า จะขอกลับตัวกลับใจ จะไม่ไปกระทำชั่วแบบเดิมอีก ขออภัยจากอัลเลาะห์ (มีต่อ)

ความคิดเห็นที่ 1
อัลเลาะห์ก็จะยกโทษให้
คนที่เลวที่สุด คนที่ชั่วช้าที่สุดในสายตาของอัลเลาะห์ คือคนที่ได้กระทำความผิดแล้ว ปีนี้ทำผิด ปีหน้าก็กระทำความผิดอีก เมื่อกระทำความผิดแล้ว ยังไม่ขอโทษขออภัย เมื่อทำผิดแล้ว ก็ยังยัดเยียดความผิดนั้น ว่าตัวเองไม่ได้ทำ คนอื่นต่างหากเป็นผู้กระทำ
ทางเจ้าหน้าที่ของรัฐ และพี่น้องประชาชน ท่านเลือกเอาเองก็แล้วกันว่า ท่านจะเป็นคนดีในสายตาของอัลเลาะห์ หรือท่านจะเลือกเอาเป็นคนเลวคนชั่วในสายตาของอัลเลาะห์
ท่านนายกครับ ต้นเหตุของปัญหา ที่ทำให้ภาคใต้เกิดความไม่สงบ ทำให้ทหาร-ตำรวจ พี่น้องประชาชน ล้มตายนั้น สาเหตุมาจากฝ่ายรัฐบาล ทหาร ตำรวจ เจ้าหน้าที่ของรัฐ ที่ได้ไปกระทำการอุ้มฆ่า ยัดเยียดข้อกล่าวหา และที่สำคัญที่สุด เจ้าหน้าที่ของรัฐได้ไปพูดจา ย่ำยี ดูถูกเหยียดหยาม ศาสนาอิสลามเป็นประจำทุกๆ ปี เป็นระยะยาวมาหลาย 10 ปี ซึ่งพี่น้องมุสลิม ฝ่ายโจร เขาเป็นผู้อดทนอดกลั้น มาเป็นระยะเวลายาวนาน
ถ้าท่านรู้สึกตัวว่าผิด ก็กลับตัวกลับใจ แล้วมาสารภาพผิด กระผมและพี่น้องมุสลิม ฝ่ายโจร พร้อมเสมอที่จะยินดี ยกโทษให้อภัย อโหสิกรรม ให้พวกท่าน
ทางรัฐบาลฝ่ายวิชาการได้วิเคราะห์วิจัยไว้ว่า เหตุการณ์ที่ไม่สงบในภาคใต้นั้น สาเหตุมาจาก
1. โจรมุสลิมต้องการแบ่งแยกดินแดน
2. มีกลุ่มขายยาเสพติด
3. มีกลุ่มอิทธิพล
4. มีผู้บิดเบือนคำสอนศาสนา
(มีต่อ)


ตอบกลับความเห็นที่ 1
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 2
ขอถาม คห 1 ญาติเราเป็นคนธรรมดาทำสวนไปมีความแค้นอะไรกับพวกโจรถึงต้องเอาระเบิดมาวางในสวนทำให้ญาติเราขาขาดบางคนก็โดนยิง แล้วมาวางระเบิดไทยพุทธอีก เค้าทำอะไรให้คุณหรอ ถึงต้องฆ่าเขาพวกเขาเป็นคนบริสุทธิ์


ตอบกลับความเห็นที่ 2
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 3
เอ๋อมีต่อ แล้วเหมือนกรณีคนทำหนังล้อเลียนศาสนาที่เผยแพร่ในยูทูป พวกคุณโกรธคนที่ทำหนังล้อเลียน แล้วพวกคุณไปฆ่าฑูตทำไมเค้าเป็นคนทำหนังหรอ ถ้าโกรธคนทำหนังเรื่องนี้ควรไปตามแก้แค้นคนทำหนังไม่ใช่ฑูต เห็นคนเป็นผักปลาคิดจะฆ่าคัยก็ฆ่า กรรมมีจริงน่ะเราเหนมาหลายคนแล้ว พวกที่ฆ่าคนมาหลายคนแต่ไม่ติดคุก คนพวกนี้เมื่อมีลูกลูกก็ตาย พอแก่ตัวก็ลำบากเพราะลูกตายหมด เห็นมาหลายเคสแร้ว คุณคห 1 ถ้ารู้จักพวกโจรก็เฝ้าดูว่ากรรมแบบนี้จะเกิดกับเพื่อนคุณมั๊ยน่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 3
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 4
ถึง อัลเลาะห์ จะยกโทษให้ท่าน
แต่ กฎหมาย ไม่อาจจะยกเว้นได้
ฆ่าตัดคอ ฆ่าคนบริสุทธิ์ ฆ่าเด็ก
มันไม่ใช่เรื่องที่จะละเว้นไปได้นะ
เผลอๆ นี่ก็เป็นแค่แผนการเท่านั้น
เพื่อสร้างความรู้สึก กลบความผิด


ตอบกลับความเห็นที่ 4
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 5
ผมไม่รู้ว่าจขกท.เขียนขึ้นเล่นๆหรือจริงๆ เอ้า..สมมุติว่าจริงและเหล่านั้นคือสาเหตุที่สร้างความเจ็บปวดให้กับพี่น้องมุสลิมสามจังหวัดชายแดนภาคใต้
๑. ทำไม่ต้องแก้แค้นโดยฆ่าและทำร้ายผู้บริสุทธิ โดยเฉพาะเป็นพี่น้องมุสลิมหรือคนไทยพุทธด้วยกันเองละครับ เหมือนที่ลิเบีย เอกชนสร้างหนังเลวๆเรื่องหนึ่ง ทำไมไปฆ่าฑูตและคนบริสุทธิ ผมว่าอัลเลาะห์ก็คงไม่อยากให้ทำอย่างนั้นมั้งเพราะไม่ใช่ศัตรูของมุสลิม คนที่ทำต่อผู้บริสุทธิ อัลเลาะห์ควรจะสาบแช่งให้ตกนรกไปอยู่ขุมต่ำสุดในยมโลก
๒. ถ้าจขกท.บอกว่าคนที่ดีที่สุดคือคนที่สำนึกผิดและขอโทษเสียใจ...โจรใต้เคยสำนึกผิดและเสียใจและตั้งใจว่าจะไม่ทำอีกหรือไม่
๓. จขกท.คิดว่ารัฐบาลไทยควรทำอย่างไรถึงจะบ่งแสดงออกได้ถึงการ"สำนึกผิด"ในความหมายของมุสลิม และควรทำอย่างไรที่มุสลิมใต้จะเชื่อได้อย่างจริงใจ


ตอบกลับความเห็นที่ 5
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 6
เลี้ยงไม่เชื่อง .... ระวังหันมากัดอีก


ตอบกลับความเห็นที่ 6
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 7
Are you serious?


ตอบกลับความเห็นที่ 7
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 8
คือค่อนข้างงงที่ว่าอยากสงบศึก แต่ทำไมยังมีเหตุการณ์ร้ายๆอยู่เลย
แถมรู้สึกว่ารุณแรงขึ้นด้วย คนเราถ้าอยากจะสงบศึกมันต้องค่อยๆวางมือไม่ใช่เหรอค่ะ????


ตอบกลับความเห็นที่ 8
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 9
แม้แต่ในกระทู้นี้ ไม่มีใครที่จะยอมกันไปได้ง่ายๆ

ดังนั้น ปัญหาทางใต้ คิดว่าคงไม่มีวันจบครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 9
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 10
มันจะจบได้ไง เล่นฆ่าโหดแบบนั้น พอมาตอนนี้ของสงบศึก เหมือนเด็กทะเละตีหัวแล้วมาขอโทษ
แต่นี่ฆ่าอย่างโหดตายกันเยอะคนที่ไม่รู้เรื่องด้วย

อย่างให้สงบ นะ แต่คนกระทำต้องได้รับการลงโทษตามกฎหมาย จะอยากสงบศึกมั๊ยคุณโจรใต้ ถ้าอยากสงบศึกก็ทำตามนี้ รับรองทางการจะดูแลคุณอย่างดี และพระเจ้าคุณย่อมเห็นด้วยแน่ ถ้าไม่เห็นด้วยก็ไม่ใช่พระเจ้าแล้ว

อยากให้ไปลองฟังเสียงญาติพี่น้องที่โดน โจรฆ่าดูบ้าง เขาต้องขาคสมาชิกในครอบครัวที่ถูกฆ่า ถามว่าเขานั้นอยากอยู่อย่างสงบเหมือนกันมั๊ย
ส่วนเรื่องหนังที่เป็นปัญหาอยู่นี้ ให้เป็นปัญหาทางนู้นไป

ตอบกลับความเห็นที่ 10
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 11
ส่วนกระผมขอเพิ่ม ข้อ 5. อีก 1 หัวข้อ คือ มีโจรนินจา อยู่ในภาคใต้ จึงเกิดความไม่สงบขึ้น
ข้อ 1. ทางรัฐบาลเจ้าหน้าที่ของรัฐได้กล่าวหาว่า โจรมุสลิมต้องการแบ่งแยกดินแดนนั้น กระผมยอมรับว่ามีจริง แต่ความจริงแล้ว มีคนคิดที่จะแบ่งแยกดินแดนนั้น มีอยู่แค่ 2-3 คนเท่านั้น และคน 2-3 คนนั้น บัดนี้ ได้สูญหายตายจากโลกนี้ไปนานแล้ว คงเหลือแต่พี่น้องมุสลิม ที่รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ รักแผ่นดินไทย แผ่นดินเกิด มุสลิมทุกคนในภาคใต้ เขาไม่ยอมให้ใครผู้ใด มาคิดแบ่งแยกแผ่นดินไทยแน่นอน มีแต่พี่น้องศาสนาอื่น มาเอาที่ทำกินไปจากมุสลิมคนภาคใต้ มีแต่รัฐบาล เจ้าหน้าที่รัฐ บางคนบางท่าน มีแต่โจรนินจา ที่คิดโกงชาติ โกงแผ่นดิน พอโกงมาได้แล้ว ก็นำมากิน พอกินแล้วก็ขี้ พอขี้แล้วก็เอาขี้มาป้ายยัดเยียดข้อกล่าวหา ว่าโจรมุสลิมต้องการแบ่งแยกดินแดน
กระผมต้องกราบขอร้อง พวกโจรนินจาทั้งหลาย ได้โปรดกรุณา หยุดใช้คำพูดนี้ หยุดพูดเสียที ว่าโจรมุสลิมต้องการแบ่งแยกดินแดน ท่านใช้คำพูดนี้ มาทำมาหากินจนร่ำรวยมาแล้วหลายคน ยังไม่มีดินแดนเสียไปเลยสักตารางนิ้วเดียว ก็ยังไม่มี
ท่านนายก และพี่น้องประชาชน ที่รักความเป็นธรรมทั้งหลาย สมมุติติดต่างเอาว่า เหตุการณ์ในภาคใต้ เกิดความสงบร่มเย็น ไม่มีเสียงระเบิด เสียงปืน ทหาร ตำรวจ พี่น้องประชาชน ที่อยู่ในภาคใต้ โดยเฉพาะพี่น้องมุสลิมในภาคใต้ทั้งหมดนั้น เขาดีใจ เขาปลอดภัย เขาออกไปทำมาหากินค้าขาย ไปกรีดยาง ลูกหลานไปโรงเรียน ไปประกอบศาสนกิจ เขาดีใจกันทั่วทั้งภาคใต้
แต่ก็มีคนบางคน พวกโจรนินจานี้แหละ ที่พวกนี้เขาต้องร้องไห้เสียใจ เสียโอกาส เพราะทุกปีเขาได้เงินจากเหตุการณ์รุนแรงความไม่สงบในภาคใต้นี้ เป็นเงินก้อนโตมหาศาล แล้วนำไปแบ่งไปกินไปใช้กัน ทำไมโจรนินจา จึงดาหน้าออกมาพูดในเดือนรอมฎอน เพราะงบประมาณเข้าสภาพิจารณาขอเงินงบประมาณ
พอเหตุการณ์จะสงบ โจรนินจามันก็ออกมาอาละวาท วางเพลิง วางระเบิด ฆ่าทหาร ตำรวจ พี่น้องประชาชน แล้วก็โยนความผิดไปให้มุสลิมว่าเป็นโจร เวลามุสลิมถูกฆ่าตาย พวกโจรนินจามันก็กล่าวหาว่า มุสลิมผู้นั้น มันเป็นเป็นโจรมาก่อน มันพึ่งจะกลับตัวกลับใจเลิกเป็นโจร แล้วหันมาเข้ากับฝ่ายเจ้าหน้าที่รัฐ คอยให้ข่าวช่วยรัฐ โจรมันรู้ว่า มุสลิมคนที่เป็นโจรมาก่อน จะนำความลับของโจรมาเปิดเผย มันก็เลยมาฆ่าปิดปาก


ตอบกลับความเห็นที่ 11
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 12
ข้อ 2. ทำไมมุสลิมจึงถูกเจ้าหน้าที่รัฐใส่ร้ายทุกเรื่อง มีกลุ่มมุสลิมค้ายาเสพติด เมื่อขายได้เงินทองมาแล้ว ก็นำมาซื้อระเบิด ซื้อปืนยิงทหาร ตำรวจ พี่น้องประชาชน เขาพูดใส่ร้ายย่ำยีศาสนาอิสลามว่า ศาสนาสอนสั่งมุสลิมมีว่า ได้เงินจากขายยาบ้าแล้ว นำมาฆ่าคนได้กุศลแรง ได้บุญแรง ไม่บาป ศาสนาของพวกท่านล่ะกระมัง ที่บัญญัติไว้เช่นนั้น ความเป็นจริงแล้ว ในประเทศไทยในโลกใบนี้ มีผู้ค้ายาเสพติด ทุกชาติศาสนา แต่มีมุสลิมที่ค้ายาน้อยกว่าทุกๆ ศาสนา ทำไมศาสนาที่ทำการค้ายาเสพติดอื่นๆ อีกหลายศาสนาในโลกนี้ เจ้าหน้าที่รัฐจึงไม่ไปอบรมสั่งสอน จึงต้องมาจ้องมองแต่มุสลิมในภาคใต้ ทั้งที่มุสลิมในภาคใต้ เขาเคร่งครัดในศาสนา เป็นผู้มีคุณธรรมดีไปกว่าท่านทั้งหลาย
ศาสนาอิสลามนั้น ห้ามมุสลิม ทำการซื้อ ขาย ดื่มของมึนเมา ยาเสพติดทั้งหลาย และห้ามดื่ม ห้ามเสพของมึนเมา ทุกวันทุกเดือน ทุกคนที่นับถือศาสนาอิสลาม ไม่ใช่วันธรรมดาแล้วดื่มได้เสพได้ ไม่ใช่ห้ามดื่ม ห้ามเสพเฉพาะวันเข้าพรรษาเท่านั้น และไม่มีคำสอนบทใดบ่งบอกไว้ว่า ให้นำเงินจากการขายยาแล้ว นำมาวางระเบิดฆ่าคนตาย และได้บุญแรง


ตอบกลับความเห็นที่ 12
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 13
ข้อ 3. ทางรัฐบาล เจ้าหน้าของรัฐ ได้กล่าวหาพูดจาย่ำยีดูถูกศาสนาอิสลามว่า มีอุสต๊าส ครูสอนศาสนาในภาคใต้ ทำคัมภีร์อัลกรุอ่านมาสอนบิดเบือนคำสอนศาสนา จึงเป็นสาเหตุทำให้ภาคใต้เกิดความไม่สงบ
ท่านนายกปู ทราบเรื่องนี้มาก่อนหรือไม่ ถ้าท่านไม่ทราบมาก่อน กระผมก็จำเป็นจะต้องขอเรียนต่อท่านนายกว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ เป็นต้นเหตุที่ทำให้ภาคใต้เกิดความรุนแรงจากเสียงระเบิด มีทหาร ตำรวจ พี่น้องประชาชนตายมากขึ้น เพราะเวรกรรมที่ท่าน พ.ต.ท. ผู้นี้ได้สร้างกรรมเอาไว้ในเรื่องนี้
ท่านได้พูดตะโกนออกอากาศ เช้า สาย บ่าย เย็น ว่า เหตุการณ์ที่ไม่สงบในภาคใต้ สาเหตุมาจากอุสต๊าส ครูสอนศาสนา นำมาสอนสั่งบิดเบือน
ต่อมา พ.ต.ท. ผู้นี้ ได้มีบัญชาให้แม่ทัพนายกอง มารับคำสั่งที่หอประชุมกองทัพบก โดยให้แม่ทัพนาย กองสอดส่องดูแลมัสยิด โรงเรียนสอนศาสนาในภาคใต้เป็นพิเศษ ท่านได้รับข่าวกรองมาว่า โจรมุสลิมต้องการแบ่งแยกในเร็ววันนี้ ได้จัดขั้นบันไดสามขั้น บัดนี้เขาเหลือบันไดขั้นสุดท้ายแล้ว
ต่อมาท่านพันตำรวจโท ผู้นี้ยังไม่หยุดพูด ยังปากเสีย ออกไปพูดให้ชาวต่างประเทศฟังอีกว่า มีสถาบันการศึกษาในตะวันออกกลาง สอนศาสนา บิดเบือน


ตอบกลับความเห็นที่ 13
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 14
หลังจากนั้นเหตุการณ์ในภาคใต้ก็ทวีความรุนแรงมากขึ้น ผู้นำศาสนาโดนจับ โรงเรียนปอเนอาะโดนสั่งปิด และที่ร้ายแรงไม่น้อยหน้าไปกว่า พ.ต.ท. ยังมีพลเอก ออกมาพูดจาย่ำยีเหยียบย่ำดูถูกศาสนาอีกเป็นประจำ โดยเฉพาะในเดือนรอมฎอน ท่านได้พูด เช้า สาย บ่าย เย็น 22 วันติดต่อกัน พี่น้องมุสลิมเข้าจำได้ เขาจดบันทึกเอาไว้ข้างฝาบ้าน พูดจบวันแรก ระเบิดก็ตามมา 1 ลูก ทหารตาย 1 ศพ พูดวันที่สอง เสียงระเบิด 2 ลูก ทหารตาย 2 ศพ ท่านพูดติดต่อกัน 22 วัน ท่านเรียกร้องลูกระเบิดได้ 22 ลูก ท่านได้สร้างเวรกรรมให้ทหารตาย 22 ศพ พ.ต.ท. พูดใส่ร้ายมุสลิม 1 ครั้ง ระเบิดก็ตามมา 1 ครั้ง ตำรวจตาย 1 ศพ ท่านพูดใส่ร้ายย่ำยีดูถูกศาสนาอิสลาม 1,000 ครั้ง ลูกระเบิดก็จะมาตามคำขอของท่านพันครั้ง แล้วก็พร้อมพันศพ ถ้าท่านหยุดพูด ระเบิดก็หยุด ท่านเลือกเอาเองก็แล้วกัน ถ้าท่านนายกปู ปรารถนาจะให้ในเดือนรอมฎอนปีหน้า เสียงระเบิด เสียงปืน สงบ ทหาร-ตำรวจ เจ้าหน้าที่รัฐจะต้องไม่ต้องล้มตายอีก ท่านนายกปู ท่านนายกไม่ต้องเสียงบประมาณเพิ่ม ท่านนายกไม่ต้องสั่งส่งกำลังทหาร-ตำรวจ ลงไปเพิ่มในภาคใต้ ทำง่ายนิดเดียว
เพียงแต่ท่านนายก เสียเงินส่วนตัว 10 บาทเท่านั้น 5 บาทแรก ท่านนายกนำมาซื้อปากกา 5 บาทที่สอง ท่านนายกนำมาซื้อกระดาษ แล้วท่านนายก ก็มีบัญชาสั่งการไปยังรัฐมนตรีว่าการกลาโหม 1 ฉบับ ผู้บังคับบัญชาตำรวจแห่งชาติ 1 ฉบับ ให้ท่านสอดส่องดูแลปากของทหาร-ตำรวจ อย่าใช้ปากไปพูดใส่ร้ายพูดจาดูถูกย่ำยีศาสนาอิสลามอีกต่อไป ปีหน้าในเดือนรอมฎอนปีหน้า เสียงปืน เสียงระเบิด ทหาร ตำรวจ จะได้ไม่ต้องล้มตาย ภาคใต้มันจะได้สงบเสียที


ตอบกลับความเห็นที่ 14
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 15
ตัวปัญหา ตัวต้นเหตุ อยู่ที่ปากของทหาร-ตำรวจ เจ้าหน้าที่ของรัฐ ท่านนายกต้องจัดการอย่างเด็ดขาด เอาตัวปัญหา ตัวต้นเหตุออกไปให้พ้นจากภาคใต้ แล้วภาคใต้ก็จะสงบร่มเย็น เมื่อท่านนายกได้มีบัญชาไปแล้ว ยังมีปากออกมายังมีเสียงออกมาจากทหาร-ตำรวจ ดูเหมือนเดิมหรือหนักไปกว่าเดิม ท่านนายกต้องย้ายหรือปลดรัฐมนตรีกลาโหมออก เมื่อปลดออกแล้ว ถ้าท่านนายกยังหาบุคคลไปทำหน้าที่แทนไม่ได้ กระผมขออาสาตนไปเป็นรัฐมนตรีว่ากระทรวงกลาโหม เผื่อทำให้ภาคใต้เกิดความสงบร่มเย็นขึ้นมาได้ภายในระยะเวลา 1 ปี แต่ถ้าท่านหาบุคคลใดบุคคลหนึ่งที่รับปากสัญญากับนายก จะปฏิบัติตามสัญญาสองประการนี้ คือ
1) จะไม่ยอมให้ทหารยศพลเอก หรือยศใดๆ ก็ตาม ออกมาใช้ปากพูดในทำนองพูดจาดูถูกย่ำยีศาสนาอิสลามอีก เช่น วันสำคัญ เดือนสำคัญ วันครบรอบเบอร์ซาตู ครบรอบมาเลย์ ของศาสนาอิสลาม จะมีโจรออกมาแสดงศักยภาพฆ่าตำรวจ ทหาร มาวางระเบิด ทำได้แล้ว ได้กุศลแรงไม่บาป
2) จะใช้เวลา 1 ปี ทำให้ภาคใต้เกิดความสงบร่มเย็น ปราศจากเสียงระเบิด ทหาร-ตำรวจ พี่น้องประชาชน จะไม่ถูกฆ่าตาย และบอกรายละเอียดว่า ในหนึ่งปีนั้น สามเดือนแรกจะทำอะไร สามเดือนที่สองจะทำอะไร และสามเดือนสุดท้ายวันนับถอยหลัง ไม่ให้มีเสียงระเบิดวันไหน และจะทำอะไร มีมาตรการอะไรมารองรับให้พี่น้องประชาชน เกิดความเชื่อถือสบายใจได้บ้าง
ถ้าท่านนายกปู หาผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่ง รมต.กลาโหม มีคุณสมบัติครบ 2 ประการนี้แล้ว กระผมก็ยินดีเสียสละให้ผู้นั้นเป็นเถิด หรืออย่างน้อยๆ ให้ทางรัฐบาลนายกปูเชื่อฝ่ายโจรสักครั้งหนึ่ง ที่ฝ่ายโจรได้ทำเรียนเสนอแนะด้วยความบริสุทธิ์ โดยมีความตั้งใจจริงต้องการให้ภาคใต้สงบ เกิดความสงบขึ้นมาภายใน 1 ปี โดยใช้วิธีแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ ส่วนรัฐบาลที่แล้วมาใช้แก้ปัญหาที่ปลายเหตุ ทหารตาย 100 ศพ ก็ส่งทหารไปเพิ่ม 1,000 คน ตำรวจตาย 100 ศพ ก็จัดส่งตำรวจไปเพิ่มอีก 5 กองร้อย ของบเพิ่มทุกๆ ปี


ตอบกลับความเห็นที่ 15
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 16
เกือบ 100 ปีแล้ว รัฐบาลทำแบบเดียว รัฐบาลยิ่งแก้ปัญหาภาคใต้ ทหาร-ตำรวจ พี่น้องประชาชน ก็ยิ่งตายเพิ่ม เคยตายปีละ 5 ศพ ขณะนี้หลายพันศพ แล้วนะท่าน อย่าว่าแต่รัฐบาลที่แล้วมา ทำไม่สำเร็จเลย รัฐบาลของท่านนายกปู ที่ท่านปรารถนาดี ได้จัดตั้งคณะกรรมการที่มีชื่อ ศ.ป.ท. จ.ช.ต. นี้ขึ้นมาก็เถอะ ผมว่าทำไม่ได้ที่จะไปทำให้ภาคใต้เกิดความสงบร่มเย็น มีแต่จะเข้าไปเพิ่มปัญหาให้มันรุนแรงมากไปกว่าเดิม
ทำไมกระผมจึงกล้าบังอาจพูดเช่นนั้น ก็เพราะว่า ผมเห็นมากับตา ฟังมากับรูหู แล้วใช้สมองคนคิดว่าท่านทำไม่ได้แน่ การดับไฟใต้นั้น เขาใช้น้ำไปดับ แต่คณะกรรมการบางท่าน บางท่านไม่ใช่ทั้งหมด มีอยู่ 3 ท่านด้วยกัน ท่านเอาน้ำมันเบนซินไปราดแล้วก็จุดไฟเผา ขนาดท่านยังไม่ได้ไปปฏิบัติหน้าที่จริงในภาคใต้เลย เพียงแต่ได้รับเลือกจากท่านนายกแสดงลายมาให้ผมเห็นแล้ว
หลังจากกรรมการสามท่านนี้ ได้สร้างกรรมเวรไว้ ผลกรรมก็ตามมาให้ท่านนายกและพี่น้องประชาชนได้เห็นผลกรรมตามมาภายใน 7 วัน
วันที่ 31 ส.ค. 55 มีทหาร ตำรวจ พี่น้องประชาชน ล้มตายบาดเจ็บ มีโจรมาวางระเบิดจริง ระเบิดปลอม 102 จุด มีการเผาธงชาติไทย มีการทำธงชาติมาเลย์ขึ้นเสา มีร้านค้าถูกเผาทำลาย แล้วทหาร-ตำรวจหลายหมื่นท่านหายหัวไปไหนหมด ปล่อยให้เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นมาได้อย่างไร สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นเพราะปากเพราะน้ำลายเป็นพิษของกรรมการสามท่านนี้ ที่เป็นต้นเหตุของปัญหาในวันที่ 31 ส.ค. (มีต่อ)


ตอบกลับความเห็นที่ 16
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 17
1. ท่านแรกพูดว่า เหตุการณ์ในภาคใต้ในขณะนี้มีความรุนแรงมากขึ้น โจรมันยิ่งวันยิ่งเพิ่มความรุนแรง เราก็จะต้องจัดการจับโจรอย่างเด็ดขาด ต่อไปเราจะใช้ตาต่อตา ฟันต่อฟัน จัดการกับโจรภาคใต้ ท่านพี่น้องประชาชนครับ ความหมายภาษาไทยที่ท่านพูดว่า ตาต่อตา ฟันต่อฟัน นั้น หมายความว่า โจรมุสลิมออกมาฆ่าทหาร-ตำรวจ 100 ศพ เจ้าหน้าที่รัฐก็จะต้องไปจัดการเอาคืนไปฆ่าพี่น้องมุสลิมที่เป็นโจร 100 ศพ ใช่หรือไม่ ต่อมาพี่น้องมุสลิมเขาก็โกรธแค้นเจ็บใจเป็นเหมือนกัน เขาก็ฆ่าเอา แก้แค้นคืนเป็นหนึ่งพันศพ ปีหน้าเจ้าหน้าที่รัฐก็ไปจัดการเอาคืนอีกหนึ่งพันศพ ใช่หรือไม่ แล้วอย่างนี้ภาคใต้มันจะสงบได้อย่างไร ปีหน้า ชาติหน้า ก็ไม่สงบ ต้องชาติหน้าตอนบ่ายๆ น๊ะท่าน
2. ท่านออกมาพูดในไม่ช้าจะถึงวันสถาปนาวันชาติของมาเลย วันครบรอบเบอร์ซาตู ขณะนี้ได้ทราบข่าวรายงานมาว่า ได้มีโจรจำนวนมากได้ไปหลบซ่อนตัวอยู่ที่ประเทศมาเลย์ ฝึกอาวุธ ไปฝึกทำระเบิด แล้วนำอาวุธเข้ามาตามชายแดนใต้มาก่อเหตุในประเทศไทย ท่านนี้พูดจาเหมือนแผ่นตกร่อง เจ้าหน้าที่รัฐคนอื่นๆ เขาพูดมาเมื่อ 20 ปีก่อนโน้น แต่ท่านเป็นกรรมการจะต้องลงไปดับไฟใต้ ก็ไม่น่าไม่สมควรจะนำมาพูดจา เพิ่มลูกระเบิด เพิ่มความตายให้คนอื่น ให้กับตัวท่านเอง
3. ท่านผู้นี้ มียศ พลเอก พูดจาย่ำยีดูถูกศาสนาอิสลาม ท่านกล่าวหาว่าในเดือนรอมฎอน มีโจรออกมาสร้างสถานการณ์ความรุนแรงในปีนี้มากขึ้น ท่านกล่าวต่อไปว่า หลังเดือนรอมฎอนอีก 7 วัน ยังต้องดูแลเฝ้าระวังเข้มงวดให้มากขึ้น เพราะผู้ก่อเหตุโจรเชื่อว่า หากก่อเหตุในช่วงนี้จะได้บุญแรง ท่านพูดออกข่าวไปทั่วประเทศ ในวันที่ 26 ส.ค. 55 ลงในหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ วันที่ 26 ส.ค. หน้า 15


ตอบกลับความเห็นที่ 17
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 18
ท่านนายกลองกลับไปเปิดไทยรัฐดูแล้วก็จะทราบว่า ที่ผมนำกราบเรียนนี้เป็นเรื่องจริง กระผมจึงมีความจำเป็นขอร้องเรียนไปยังท่านนายกว่า ได้โปรดกรุณาเปลี่ยนตัวกรรมการ 3 ท่านนี้ออก หรือท่านจะสั่งปลดก็แล้วแต่ท่าน ท่านไม่รู้หน้าที่ว่า ท่านจะต้องปฏิบัติตนอย่างไร ที่จะทำให้ภาคใต้สงบ
ความจริงที่ต้องพูด
กระผมต้องถือโอกาสนี้ชี้แจงทำความเข้าใจต่อท่านพี่น้องประชาชนชาวไทยทุกท่านให้ได้รับทราบว่า การที่พี่น้องมุสลิมเขาถือศีลอดในเดือนรอมฎอนนั้น เป็นบทบัญญัติของศาสนาอิสลาม และวันสำคัญใดๆ ของศาสนาอิสลาม ก็ไม่มีตำราเล่มใดสั่งสอนให้มุสลิมต้องไปกระทำผิดชั่วช้า แต่ประการใด ตามที่ท่าน พลเอกได้กล่าวหา ยิ่งเข้าเดือนรอมฎอนเดือนถือศีลอด ตลอดจนวันสำคัญทางศาสนาอิสลามด้วยแล้ว จะต้องกระทำคุณงามความดีให้มากยิ่งขึ้นๆ ไป
และข้าพเจ้าคิดว่า ศาสนาทุกๆ ศาสนา ที่มีขึ้นมาในโลกใบนี้ คงไม่มีศาสนาใดๆ เขาใช้ให้กระทำความชั่วความเลวในวันสำคัญของศาสนา คงจะมีแต่ศาสนาของ พลเอกผู้นี้กระมังที่สั่งสอนไว้ให้กระทำความชั่วความเลวในวันสำคัญเดือนสำคัญของศาสนาของท่านแน่ ข้าพเจ้าขอรับรองว่าศาสนาอิสลามไม่มีคำสั่งสอนเช่นนั้นเด็ดขาด
ท่านนายกปูที่เคารพ กระผมไหว้ 10 ครั้ง กระผมขอความกรุณาจากท่านนายกได้โปรดกรุณาเชิญตัว พ.ต.ท. มาถามให้ผมหน่อยว่า
ใครบอกท่านหรือท่านพูดเอง ว่าสาเหตุที่ทำให้ภาคใต้เกิดความไม่สงบนั้น สาเหตุหนึ่งมาจากอุสต๊าส ครูสอนศาสนาอิสลามนำคัมภีร์อัลกุรอ่านมาสั่งสอน บิดเบือนคำสั่งสอนของศาสนา ครูคนไหน ครูชื่ออะไร อุสต๊าสคนนั้นสอนอยู่โรงเรียนใด ที่นำคัมภีร์มาสอนนั้น เขานำคัมภีร์อัลกุรอ่านบทใด หน้าที่เท่าไร เขาบิดเบือนเรื่องอะไร
และที่ท่าน พ.ท.ต. ได้กล่าวหาว่า มีสถาบันการศึกษาในตะวันออกกลางสอนศาสนาบิดเบือนนั้น สถาบันชื่ออะไร อยู่ประเทศใด กรุณาพาผมไปพบได้หรือไม่
จ้าพเจ้าขอรับรองด้วยเกียรติว่า ไม่มีอุสต๊าสคนใด ไม่มีสถาบันสอนศาสนาใดๆ ในโลกนี้ ได้กล้าบังอาจนำคัมภีร์อัลกุรอ่านมาสอนบิดเบือนแม้แต่อักษรเดียว เพราะมหาคัมภีร์อัลกุรอ่านนั้น มาจากอัลเลาะห์ มาจากพระผู้เป็นเจ้า ไม่เหมือนกับคัมภีร์ของศาสนาอื่นๆ ซึ่งมาจากมนุษย์ คัมภีร์ที่มาจากมนุษย์ เขาสามารถนำมาสอนบิดเบือนได้ เขาสามารถนำมันมาเปลี่ยนแปลงแก้ไขใหม่ได้
พระมหาคัมภีร์อัลกุรอ่าน นั้นมาจากพระผู้เป็นเจ้าโดยตรง จะนำมาสอนบิดเบือน จะนำมาเปลี่ยนแปลงแก้ไขไม่ได้เด็ดขาด
ผู้ใดใครก็ตาม ได้บังอาจนำพระมหาคัมภีร์อัลกุรอ่านไปสอนบิดเบือน ไปเปลี่ยนแปลงแก้ไขเรื่องใดข้อความใด แม้แต่ตัวอักษรเดียว โทษ คือ ประหารชีวิต
ทำไมกระผมจึงกล้ารับรอง ว่าไม่มีสถาบันสอนศาสนาใดและไม่มีอุสต๊าสคนใดกล้าบังอาจนำพระมหาคัมภีร์ไปสอนบิดเบือน


ตอบกลับความเห็นที่ 18
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 19
ท่านนายกครับ กระผมนั้น เกิดมาในโลกนี้ช่างโชคดีจริงๆ เป็นผู้หนึ่งที่เคยได้รับเกียรติคัดเลือกให้ดำรงตำแหน่งคอเต็บจากพี่น้องประชาชน
คอเต็บนั้น มีหน้าที่ขึ้นธรรมมาสน์ เทศนาสั่งสอนบรรดา สัปบุรุษโดยนำคัมภีร์อัลกุรอ่านและคำสั่งสอนทุกวันศุกร์และวันสำคัญทางศาสนา
ทุกครั้งทุกคราวที่ข้าพเจ้าขึ้นทำหน้าที่เทศนาสั่งสอนข้าพเจ้าขึ้นทำหน้าที่เทศนาสั่งสอนข้าพเจ้ามิกล้า มิบังอาจ นำคัมภีร์อัลกุรอ่านมาสอนสั่งบิดเบือนแม้แต่ครั้งเดียวเรื่องเดียวก็มิบังอาจ แล้วอุสต๊าสท่านจะกล้าบังอาจได้อย่างไร ใครพูดจริง ใครพูดไม่จริง ใครพูดเท็จ
ได้มีกรรมการ ศ.ปท. จ.ชต. กรรมการฝ่ายความมั่นคง ยศ. พลเอก ได้พูดเมื่อ 26 ส.ค. 55 เร็วๆ นี้ ให้พี่น้องทั่วประเทศฟังว่า หลังจากเดือนรอมฎอน อีก 7 วัน ยังต้องเฝ้าดูแลภาคใต้ให้เข้มงวดเป็นพิเศษ เพราะผู้ก่อเหตุเชื่อว่า หากก่อเหตุใน 7 วันหลังจากเดือนรอมฎอนแล้ว จะได้กุศลผลบุญแรง
ต้องเรียนถาม พลเอกผู้นี้ว่า ท่านนึกขึ้นมาเอง หรือตอนที่ พ.ต.ท. มีบัญชาให้ท่านไปดูแลมัสยิดในภาคใต้ ท่านได้ยินมากับหูท่านเอง หรือมีสมภารวัด ครูบาอาจารย์คนใดสอนสั่งคุณเช่นนั้น เมื่อประมาณ 10 ปีที่แล้วก็มีทหารยศพลเอก ได้พูดขึ้นมาว่า ทำชั่วทำเลว วางระเบิดฆ่าทหาร ตำรวจ ในเดือนรอมฎอนแล้วได้กุศล ผลบุญแรง วันนี้มีพลเอกทหารหน้าใหม่โผล่มาอีกนาย พูดว่าหลังจากเดือนฎอนอีก 7 วัน ทำชั่วทำเลว วางระเบิด ฆ่าทหารแล้วได้ผลบุญได้กุสลแรง
ความจริงแล้ว การคือศีลอดในเดือนรอมฎอนนั้นเป็นบทบัญญัติของศาสนาอิสลามให้มุสลิมทุกคนต้องถือศีลอด ถ้าไม่ปฏิบัติ ถือว่าเป็นโทษได้รับบาป แต่การถือศีลอด หลังจากเดือนรอฎ อีก 7 วันนั้น เป็นซุนนัต ใครถือก็ได้บุญ ใครไม่ถือก็ไม่ได้บุญ ไม่มีบาป แต่ถ้าใครผู้ใดถือศีลอดหลังจากเดือนรอมฎอนอีก 7 วันนั้น จะได้ผลบุญมากจริง ตามที่ท่านพลเอกพูดบอก คือผู้ที่ถือศีลอดหลังจากเดือนรอมฎอนอีก 7 วัน เสมือนหนึ่งเขาได้ถือศีลอดตลอดทั้งปี หมายความว่า ถือบวช 7 วัน หลังรอมฎอนได้ผลบุญมากเป็นทวีคูณเหมือนกับเท่ากับคนได้ถือศีลอดตลอดปี
แต่ พลเอก หน้าใหม่นี้ ท่านได้โกหกสีแดงต่อเติม คำตรงกลางข้อความว่า ใครถือศีลอดหลังจาก 7 วัน ในเดือนรอมฎอน ท่านพลเอกได้เพิ่มเติม ใครก่อเหตุฆ่าคน วางระเบิด หลังจากเดือนรอฎ อีก 7 วัน แล้วกุศลแรง ได้บุญแรง
ท่านพี่น้องคงจะสงสัยว่า ท่านพลเอก ท่านไม่ได้เอ่ยนามว่ามุสลิม ท่านไม่เอ่ยปากพูดว่าโจรมุสลิม ผู้นับถือศาสนาอิสลามเลยแม้แต่น้อย
ทำไมผมจึงต้องถือโกรธ กล่าวโทษท่านว่าพูดจาย่ำยีดูถูกศาสนาอิสลาม ถึงท่านจะไม่ได้พูดว่า หลังจากการถือศีลอดในเดือนรอฎ 7 วัน โจรมุสลิม ผู้นับถือศาสนาอิสลาม เชื่อว่าช่วงนี้ หากก่อเหตุในช่วงนี้จะได้ผลบุญแรง
ท่านกล่าวพูดเพียงว่า ในเดือนรอมฎอนก็ต้องหมายความว่า คือโจรมุสลิม เมื่อโจรมุสลิมก็นับถือศาสนาอิสลาม ใช่หรือไม่
แต่ถ้าพลเอกผู้นี้พูดว่า ในวันพระ วันเข้าพรรษา ก็ต้องหมายความว่า โจรชาวพุทธ ผู้นับถือศาสนาพุทธ


ตอบกลับความเห็นที่ 19
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 20
ทำไม พลเอกทั้งสองท่านนี้พูดเป็นแต่ในเดือนรอมฎอน หลังเดือนรอมฎอน คนที่เป็นชายชาติทหารลูกผู้ชายนั้น เขาต้องกล้าพูดความจริง พูดอย่างไรพูดความจริง พูดความจริงก็คือ ในภาคใต้นั้นมีทั้งพี่น้องมุสลิมและพี่น้องชาวพุทธในเดือนรอมฎอนเกือบทุกปีนั้น ตรงกับวันพระและตรงกับวันเข้าพรรษา
ผมจึงต้องขอวิงวอนและขอร้องท่านพลเอกทั้งสองท่าน ถ้าท่านยังมีอายุชีวิตอยู่ ยังไม่ตายเสียก่อน กระผมก็ให้ท่านเปลี่ยนคำพูด คือพูดให้ตรงกับความจริง เพราะท่านนับถือศาสนาพุทธ ท่านน่าจะไปตักเตือนพี่น้องชาวพุทธด้วยกันจะดีกว่า ท่านไม่สมควร ท่านไม่ต้องเป็นห่วงพี่น้องมุสลิม เพราะพี่น้องมุสลิมนั้น เขามีครูบาอาจารย์อบรมสั่งสอน มุสลิมนั้น เขามีคุณธรรม จริยธรรมดีอยู่แล้ว เป็นผู้ที่เคร่งครัดต่อศาสนาดีอยู่แล้ว
ถ้าท่านต้องการจะพูดในปีหน้า กระผมต้องขอร้องท่านให้ท่านพูดเทศนาให้ชาวพุทธฟังจะดีกว่า เปลี่ยนจากคำว่าเดือนรอมฎอน เป็นดังนี้
* อีกไม่กี่วันข้างหน้า ก็จะเป็นวันพระและเป็นวันเข้าพรรษา ใครก็ตาม ท่านผู้ใดก็ตามที่นับถือศาสนาพุทธ ประสงค์จะทำคุณงามความดีก็จงทำชั่วทำเลวให้มากที่สุด สมควรไปวางระเบิด และฆ่าทหาร-ตำรวจ ที่เป็นชาวพุทธด้วยกัน จะได้ผลบุญแรงเพราะวันพระและวันเข้าพรรษานั้นวันดี เป็นวันสำคัญทางศาสนาพุทธของเรา ใครทำชั่วทำเลวมากเท่าไร ก็จะได้ผลบุญมากเช่นนั้น และท่านอย่าลืมหลังจากวันเข้าพรรษาอีก 7 วัน ท่านจงทำความชั่วความเลว วางระเบิด ฆ่าทหาร ที่เป็นชาวพุทธต่อไป จะได้ผลบุญแรง
ท่านพี่น้องที่รักความเป็นธรรมทั้งหลาย การแก้ปัญหาที่ถูกต้องถูกวิธีนั้น เขาแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ เขานำความจริงมาพูด มาบอกกันอย่างเปิดอกบนโต๊ะเจรจา
แต่ครั้งคราวใดที่มีการเจรจา ทางรัฐบาลเจ้าหน้าที่ของรัฐ จะนำความไม่จริง ความเท็จ ขึ้นมาพูด มาบอก มาเจรจา แล้วโฆษณาตัวเองว่า ผู้ปรารถนาดีต่อพี่น้องมุสลิมในภาคใต้ และโฆษณาตัวเองว่า มือสะอาด ไม่เคยเปื้อนเลือด ไม่เคยไปทำร้ายฝ่ายโจรฝ่ายมุสลิม แม้แต่ครั้งเดียว
ความจริงที่ต้องพูด กระผมจึงมีความจำเป็นจะต้องนำความจริงมาพูดมากราบเรียน มาบอกพี่น้องประชาชนว่าต้นเหตุของปัญหานั้นมันอยู่ที่รัฐบาลและเจ้าหน้าที่ของรัฐ
ขอเรียนเชิญทุกๆ ท่านได้ชมภาพยนตร์ตัวอย่างในความปรารถนาดีของรัฐบาลและเจ้าหน้าที่รัฐ ที่มีความปรารถนาดี แต่มีความประสงค์ร้ายแอบแฝงทุกครั้งที่มีการกระทำต่อพี่น้องมุสลิมในภาคใต้
เรื่องที่ 1 ให้ชื่อเรื่องว่า สะพานพูดได้ ทางรัฐบบาลและเจ้าหน้าที่ของรัฐ ได้จัดส่งเจ้าหน้าที่ของรัฐไปดูแลความไม่สงบเรียบร้อยในภาคใต้ ได้มีกลุ่มเยาวชนได้เดินทางไปละหมาดที่มัสยิด ได้มีเจ้าหน้าที่เดินทางไปดูแลไปส่งถึงบ้าน ในระหว่างเดินทางกลับบ้าน เจ้าหน้าที่ได้พูดจาสนทนาสอบถามเด็กที่ไปละหมาดว่า เจ้าไปไหนกันมา ไปทำอะไรกันที่มัสยิด ไปรวมกลุ่มทำอะไรกัน เด็กก็ตอบตรงไปตรงมาว่า ผมกับเพื่อนไปทำการละหมาดที่มัสยิด ไม่ได้ไปมั่วสุมอย่างที่ท่านอ้าง ไม่ได้ไปทำอะไรที่เสียหาย


ตอบกลับความเห็นที่ 20
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 21
พอวันพรุ่งนี้ เจ้าหน้าที่คนเดิม คณะเดิมก็มาพบเด็กกลุ่มเดิม เจ้าหน้าที่รัฐก็ได้ถามคำถามเด็กเหมือนเดิม พวกเองมาทำอะไรกันที่มัสยิด เขาพูดจาอะไรกันบ้าง คุณบอกกูมาตามตรงนะ แล้วก็เข้าไปจับตัวเด็ก รัดตัวเด็ก เขย่าตัวเด็กหลายครั้ง บังคับให้พูดให้บอกความจริงว่า คุณไปทำอะไรกันที่มัสยิด
เด็กก็ตอบ ผมและเพื่อนมาทำการละหมาดนมัสการต่อพระเจ้า เจ้าหน้าที่รัฐก็ตะคอกกับเด็กว่า คุณอย่ามาโกหก เมื่อวานนี้คุณก็โกหกกู บอกว่า มาละหมาด วันนี้คุณก็พูดโกหกกูอีกว่า มีงมาละหมาด ว่าแล้วเจ้าหน้าที่รัฐก็ใช้ด้ามปืนตีไปที่ตัวเด็กเบาๆ คนละหนึ่งที
เมื่อเด็กมันเจ็บ เด็กมันก็ร้องตะโกนขึ้นมาว่า ทำไมพวกคุณไม่ไปจับโจร ไปจับคนในบ่อน มาจับผม มาสงสัยผมทำไม คนเขาไปละหมาด เขาไปทำความดี แต่คนที่ทำความชั่ว คุณไม่มีปัญญาไปจับ
ว่าแล้วเจ้าหน้าที่รัฐ ก็ใช้บั้นท้ายปืนตีไปที่ท้ายถอยเด็กหลายครั้ง ทุกๆ คน เขาแน่ใจแล้วว่าเด็กตายแล้ว สิ้นใจแล้ว จึงได้นำเด็กนั้นโยนทิ้งบนสะพานลงน้ำบนสะพานไม้แห่งนั้น เด็กบางคนรู้สึกตัว ก็โดนเจ้าหน้าที่ตามไปตีซ้ำ จนตายคามือ
แต่ก็มีเด็กอีกคนหนึ่งแกล้งตาย มุดไปเอาจมูกหายใจในพงหญ้า แล้วก็รอดตายกลับไปบ้าน ไปบอกเล่าให้พ่อแม่พี่น้องได้ทราบโดยทั่วกัน
หนังเรื่องนี้ชื่อภาษายาวีว่า สะพานกอตอ ความหมายก็คือ สะพานพูดได้ เอาลูกกูคืนมา หนังเรื่องนี้เป็นบทเรียนสอนใจให้รัฐบาลทุกรัฐบาล ก่อนที่จะส่งใคร เจ้าหน้าที่คนใด ลงไปภาคใต้ เพื่อไปดับไฟใต้นั้น จะต้องระมัดระวัง จะต้องน้อมนำกระแสพระราชดำรัสขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของพระองค์ที่ว่า เข้าใจเข้าถึงพัฒนาเสียก่อน ต้องเข้าใจว่าพี่น้องมุสลิมนั้นเขาทำละหมาดกันวันละห้าเวลา และเขาทำการละหมาดกันทุกวัน ไม่ได้ไปมั่วสุมกระทำการชั่วร้ายแต่ประการใด
รัฐบาลปรารถนาดี แต่ประสงค์ร้ายจบไปแล้วหนึ่งเรื่อง ขอเรียนเชิญท่านชมหนังเรื่องที่ 2 ต่อไป
เรื่องที่ 2. มีชื่อเรื่องว่า ทำอย่างไรก็ได้ให้มันหายไปจากโลกนี้ อันสืบเนื่องมาจากรัฐบาลปรารถนาดี เจ้าหน้าที่มีเจตนาประสงค์ร้ายแอบแผง ทางรัฐได้ปรารถนาดี ได้จัดส่งเจ้าหน้าที่ลงไปดูแลความสงบเรียบร้อยในภาคใต้ เจ้าหน้าที่ท่านก็ได้ปฏิบัติหน้าที่อย่างดี ทุกซอก ทุกหมู่บ้าน แม้แต่ในสวนในป่าเขา ก็ออกตรวจตราโดยทั่วถึง แม้แต่เพิงหมาแหงนที่เขาสร้างขึ้นมา เพื่อหลบแดดกันฝน ก็โดนเจ้าหน้าที่ตรวจค้นไม่เว้นหน้า
วันหนึ่งนานมาแล้วได้มีเจ้าหน้าที่ 5 นาย มีอาวุธครบมือ ได้มาขอตรวจค้น
คำถามแรกที่เจ้าหน้าที่ถามก็คือ คุณเป็นเจ้าของสวน หรือเป็นคนดูแลเฝ้าสวน
คนเฝ้าสวน ก็ตอบตรงไปตรงมาว่า ผมเป็นคนเฝ้าสวน ใครเป็นเจ้าของ และสิ่งของเครื่องใช้เงินทอง อาหารการกิน เงินทองที่อยู่ในโอ่งข้าวสาร เสบียงอาหารทั้งหมดนี้ คุณซื้อมาเอง หรือเจ้าของเป็นคนจัดหามาให้
คนเฝ้าสวน ก็ตอบตรงไปตรงมาว่า เจ้าของสวนชื่อ ฮัจยีสุหรง โต๊ะมีนา สิ่งของเสบียงอาหารเงินทองที่ท่านพบในโอ่งข้าวสารนั้น ฮัจยีสุหรง เป็นผู้บริจาค เป็นผู้จัดซื้อให้ทั้งสิ้น
เจ้าหน้าที่ 5 คน ก็ได้เดินทางต่อไปตรวจค้นเพิงหมาแหงนกระต๊อบต่อไป ทุกสวน มีผลไม้นานาชนิด บางสวนเป็นสวนเงาะ สวนลำไย สวนลองกอง ทุเรียน สวนยาง
ทุกสวน ฮัจยีสุหรง จะให้ลูกหลานเป็นผู้ดูแลเฝ้าสวน
ต่อมาเจ้าหน้าที่รัฐ ก้ได้เดินทางมาพบเจ้าของตัวจริง เสียงจริง ที่บ้านของท่านฮัจยีสุหรง ได้พูดจาสนทนากันหลายชั่วโมง แต่มีคำสนทนาที่น่าจะนำมาพิจารณาก็คือ
เจ้าหน้าที่รัฐ ท่านได้พูดจาอย่างตรงไปตรงมาว่า มาขอค่าคุ้มครองให้เจ้าหน้าที่รัฐ เพื่อมาดูแลคุ้มครองสวน ดีกว่าคนธรรมดา เพราะเจ้าหน้าที่รัฐนั้นมีความรู้ความสามารถ มีอาวุธ มีกำลังเพียงพอ
ฮัจยีสุหรง ก็บอกไปว่า เงินทองที่บริจาคที่ท่านเห็นอยู่ในโอ่งข้าวสารนั้น เป็นเงิน ซ่าก๊าต เป็นพลีทานตามศาสนาบัญญัติ ผู้ที่จะได้รับเงินซ่าก๊าตนั้นจะต้องเป็นคนมุสลิม คุณไม่ใช่คนมุสลิม เราให้คุณไม่ได้หรอก ด้วยความรำคาญ ฮัจยีสุหรง ก็ตอบตกลงไป เราตกลงให้คุณดูแลสวนของเรา สวนละห้าร้อยบาท ส่วนสวนยางให้สวนละ 1,000 บาท ทุกๆ เดือน เจ้าหน้าที่ก็มารับเงินค่าคุ้มครองจากฮัจยีสุหรง และยังได้รับผลไม้ติดไม้ติดมือกลับบ้านไปทุกครั้งไป
หลายปีต่อมา ทางเจ้าหน้าที่รัฐ ก็ได้ขอเปิดการเจรจาต่อรองราคากันใหม่ โดยให้เหตุผลว่า น้ำมันมันแพง ของมันขึ้นราคา ขอขึ้นราคาอีกเท่าตัว สวนละห้าร้อยบาท ก็ขอขึ้นราคา 1,000 บาท สวนยางเดิม 1,000 บาท ขอขึ้นราคา 2,000 บาท


ตอบกลับความเห็นที่ 21
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 22
ทางฮัจยีสุหรง นั่งคิดอยู่นาน ก็ให้คำตอบกลับไปว่า เราไม่สามารถปฏิบัติตามคำขอของเจ้าได้ และเราขอยกเลิกสัญญาเก่าที่ให้เจ้าดูแลสวนละห้าร้อยบาทจากเดิมด้วย
หลังจากนั้นไม่นาน ฮัจยีสุหรง โต๊ะมีนา ก็โดนข้อหา ซ่องสุมโจร ขบถ ผู้ก่อการร้าย หัวหน้าแบ่งแยกดินแดน โดนจับตัวไปเข้าคุกอยู่หลายปี
ต่อมาท่านฮัจยีสุหรง ได้ขอประกันตัวขอสู้คดี ต่อมาคนที่พูดที่บอกว่า ท่านฮัจยีสุหรงไม่ผิด ไปใช้ผู้ก่อการร้าย ไม่ใช่หัวหน้าแบ่งแยกดินแดน ก็คือ ผู้พิพากษา ทั้งสามศาล ได้ยกข้อกล่าวหาทั้งหมด ยกฟ้องข้อกล่าวหาทั้งหมด
หลังจากศาลฎีกาได้ตัดสินยกฟ้องแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ของรัฐเกรงว่า ตัวเองถูกฟ้องกลับ ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ของรัฐก็ได้ประชุมลับกัน โดยมีมติในที่ประชุมลับว่า ทำอย่างไรก็ได้ให้มันหายจากโลกนี้ไป
ต่อมามีผู้หวังดีผู้ปรารถนาดี ไม่ประสงค์ร้ายต่อท่านฮัจยีสุหรง ที่ท่านเป็นฝ่ายเสียงข้างน้อย ในการประชุมลับครั้งนั้น ได้เดินทางมาบอกกระซิบบอกข้างหูฮัจยีสุหรงว่า ให้ท่านรีบหนีไปให้ไวที่สุด เพราะเขาประชุมลับกันแล้ว มีมติให้รีบจัดการท่านโดยให้ทำอะไรก็ได้ให้มันหายจากโลกนี้ไป
เมื่อฮัจยีสุหรง แกเป็นผู้ใหญ่ที่ว่านอนสอนง่าย ท่านก็รีบเก็บเสื้อผ้าลงกระเป๋า แล้วรีบเดินทางออกจากประเทศไทย ไปขี้ที่ประเทศมาเลย์ พอตกกลางคืนตอนดึกหน่อย ก็มีคนมาเคาะประตูบอกว่า มีคนไทยมาขอเข้าพบ ท่านจะให้พบหรือไม่ ท่านฮัจยีสุหรงก็หนีตาย รีบออกจากประตูหลังโรงแรมรีบไปขี้ที่ประเทศอินโดนีเซีย
บางครั้งท่านฮัจยีสุหรง ต้องเปลี่ยนที่นอนคืนละสามครั้ง มีผู้ไม่หวังดี ตามไปพบท่าน
หลังจากนั้นอีกหลายปี ท่านมีธุระสำคัญที่บ้านปัตตานี กลับเมืองไทยบ้านเกิด ลูกๆ ก็ไม่ประมาท ได้จ้างไทยยามเฝ้าตั้งแต่ปากทางเข้าบ้าน บนบ้าน ในห้องนอน
ต่อมาวันหนึ่ง ทางเจ้าหน้าที่รัฐได้มาขอเชิญตัวไปสอบเพิ่มเติม แต่ฮัจยีสุหรงไม่ยินยอมไป เจ้าหน้าที่รัฐก็บอกว่า ถ้าไม่ไปอีก ก็ต้องจัดการอุ้มตัวลากขึ้นรถ ท่านก็ได้ต่อรองว่า ขอให้นำลูกชายไปด้วยอีกคนหนึ่ง ไปไหนก็ไปด้วยกัน
ทางเจ้าหน้าที่รัฐก็ยินยอมตกลงตามขอ หลังจากนำตัวฮัจยีสุหรงไปสอบ 3 วันแล้ว ลูกๆ ก็ออกตามหา ก็ได้รับคำตอบว่า ทางฮัจยีสุหรง เจ้าหน้าที่ได้นำส่งกลับบ้านแล้ว แต่ไม่ปรากฎตัวที่บ้าน ลูกๆ ยังไม่เห็นหน้าพ่อ
หลังจากนั้นอีก 3 วัน ทางบ้านฮัจยีสุหรงได้รับโทรศัพท์แจ้งมาจากชาวประมง เขาทอดแห ลงอวนหาปลาอยู่ที่ทะเลสาปสงขลา ว่าเขาพบศพฮัจยีสุหรงลอยน้ำอยู่ที่ทะเลสาบสงขลา ขอให้ลูกๆ รีบมารับศพด่วน เขาจำหน้าได้ว่าเป็นฮัจยีสุหรง ขอให้รีบมารับศพ พอลูกฮัจยีสุหรงมารับศพพ่อ ก็มีพี่ชาย ติดใจสงสัยขึ้นมาว่า แล้วน้อยชายที่ติดตามพ่อไปด้วย เขาไปไหน จึงปล่อยให้พ่อตายไปต่อหน้าต่อตาเช่นนี้ จึงคิดขึ้นมาได้ เอ๋ หรือน้องชายจะถูกฆ่าปิดปากโดนถ่วงน้ำตาย ตามคุณพ่อไปด้วย ว่าแล้วทุกๆ คนก็คิดเช่นนั้น จึงได้ไปว่าจ้างประดาน้ำให้ชาวประมงช่วยกันค้นหาศพน้องชายให้พบ ในบริเวณใกล้เคียงที่พบศพคุณพ่อ ภายใน 2 ชั่วโมง ประดาน้ำก็ได้ค้นพบศพน้องชายขึ้น โดยมีสภาพมัดด้วยเชือกแล้วมีหินเสาปูนมัดแน่นติดกับตัวศพ
ภาพยนตร์เรื่อง ทำอย่างไรก็ได้ให้มันหายจากโลกนี้ไป ก็จบลงด้วยประการล่ะชะนี้
ท่านนายก พี่น้องประชาชนก็ตะโกนพูดบอกว่า ไม่น่าจะนำเรื่องเก่านานมาแล้วมาเล่าให้เสียเวลา ถ้าเช่นนั้นกระผมก็จะขอนำเรื่องใหม่ๆ ในเร็วๆ นี้ มาเล่าให้ท่านฟัง ชื่อภาพยนตร์ ชื่อเดียวกันคือชื่อเรื่อง ทำอย่างไรก็ได้ให้มันหายจากโลกนี้ไป แต่เปลี่ยนตัวแสดง พระเอกอย่างเดียว ตัวพระเอกเดิมชื่อ ฮัจยีสุหรง โต๊ะมีนา เปลี่ยนพระเอกเป็นคุณทนายสมชาย นีละไพจิตร ส่วนผู้ร้ายคนเดิม หน้าเดิม คือ เจ้าหน้าที่ของรัฐ ได้อุ้มตัว ทนายสมชาย หายออกไปจากโลกนี้
ท่านพี่น้องครับ เรื่องรัฐบาล ปรารถนาดี เจ้าหน้าที่ประสงค์ร้าย ที่ตากใบ ท่านจำได้ไหมครับในเดือนรอมฎอน เช่นเดียวกัน รัฐบาลท่านปรารถนาดีต่อพี่น้องมุสลิมในภาคใต้ มีเจ้าหน้าที่ของรัฐได้ออกรถโฆษณาประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องมุสลิมในตากใบและใกล้เคียง ได้รับแจกผลอินทผลัมฟรี ชาวบ้านพี่น้องมุสลิมได้ยินโฆษณาก็แห่กันมาขอรับผลอินทผลัม เพื่อนำไปรับทานตอนละศีลอด กันมืดฟ้ามัวดินเต็มอำเภอไปหมด
เจ้าหน้าที่ของรัฐมองหน้าตา ผู้ที่เข้ามาขอรับผลอินทผลัมแล้ว มีหน้าตาคล้ายเป็นโจรมีมากหน้าหลายตา ก็เลยเปลี่ยนจากปรารถนาดี เป็นความประสงค์ร้ายขึ้นมาทันที ได้จัดรถบรรทุกมาจอดรถแล้วแจ้งข้อกล่าวหา มัดใส่กุญแจมือแล้วลากขึ้นรถ โยนขึ้นรถบรรทุกเหมือนหมูเหมือนหมา แบบยัดไหปลาร้า นอนซ้อนทับกันเป็นร้อยเหมือนปลากระป๋อง บางท่านได้ได้รับทานละศีลอดโดยอินทผลัมที่ได้รับแจกมาแล้ว บางท่านก็ถือถุงอินทผลัมอยู่ในมือยังไม่ได้รับทาน ก็มาถูกเจ้าหน้าที่จับโยนขึ้นรถอยู่ด้านล่าง หายใจไม่ออก ก็สิ้นลมหายใจไป บางท่านที่ถูกจับโยนลงไป หายใจไม่ออกก็ตะโกนร้องขอความช่วยเหลือ มีพี่น้องวิ่งเข้าไปช่วยเหลือก็โดนเจ้าหน้าที่กันออกไป
ผมถามจริงๆ ถ้าเป็นคุณพ่อคุณแม่ของเจ้าหน้าที่จะจับขึ้นรถไปทำการสอบสวน จะใช้วิธีโยนทับกันเหมือนหมู เหมือหมา เหมือนปลาร้า ยัดลงไหเช่นนี้หรือไม่
ทำไมจึงใจดำอำมหิตได้ถึงขนาดนี้
ความจริงแล้วยังมีอีกหลายเรื่องที่รัฐบาลประสงค์ดี เจ้าหน้าที่ประสงค์ร้ายยังมีอีกมาก กระผมขอเล่าเรื่องนี้เป็นเรื่องสุดท้ายก็แล้วกัน คือเรื่องเดียวแต่มีชื่อเรื่องภาพยนตร์เรื่องนี้อยู่สองชื่อ ท่านพี่น้องเลือกเอาเองก็แล้วกัน ท่านชอบชื่อไหนดี
1) ชื่อเรื่อง ข่าวกรองจ๋า ข่าวกรองจ้า
2) ชื่อเรื่อง บันไดสามขั้น
เรื่องนี้เกิดขึ้นมาในประเทศไทยประมาณ 10 ปีที่แล้ว โจรนินจาส่วนใหญ่มันจะออกมาแสดงเดชในเดือนรอมฎอน เพื่อนผมบอกว่า เรื่องบันไดสามขั้นนั้น มันพูดต้องการเงินงบประมาณเพิ่มขึ้นให้มากกว่าทุกปี เพื่อนผมอีกคนหนึ่งก็บอกผมก่อนตายว่า เขาพูดข่าวกรองจ๋า เขาต้องการเอาอกเอาใจเจ้านาย เพื่อหวังเก้าอี้นั่งเท่านั้น ไม่มีอะไร โจรนินจามันออกมาพูดเรื่องนี้ในเดือนรอมฎอน มันประชุมกันในหมู่โจรนินจาด้วยกันว่า เราจะทำอย่างไรให้ได้งบประมาณมาแบ่งกันกินให้มากที่สุดในปีนี้ มันจึงคิดได้ว่า บันไดสามขั้นนี้แหละได้งบประมาณมากที่สุดแน่ๆ


ตอบกลับความเห็นที่ 22
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 23
* ทำไมโจรนินจาจึงออกมาพูดเรื่องนี้ในเดือนรอมฎอน เพราะในเดือนรอมฎอนของทุกๆ ปีนั้น รัฐบาลตั้งงบประมาณประจำปี และนำเข้าสู่สภาพิจารณาขอความเห็นชอบในที่ประชุมสภาผู้แทน มันจึงประชุมกันคิดหาวิธีการ ทำอย่างไรจึงจะได้เงินมาแบ่งกันกินแบ่งกันใช้ให้มากไปกว่าทุกๆ ปี ใครได้ยินกรรมาธิการได้ยิน ก็ไม่กล้าจะตัดงบประมาณ
ผมจึงขอแนะนำให้ท่านได้รู้จักนิสัยใจคอของโจรนินจาเสียก่อน โจรนินจานั้นเวลามันฆ่าใคร มันออกมาวางระเบิด มันฆ่าทหาร ตำรวจ มันหายตัวไวมาก จึงเรียกชื่อมันว่า นินจา หายตัวไว
ปกติธรรมดาในภาคใต้นั้น มีทหาร-ตำรวจ ตั้งด่าน ทุกๆ ถนน บางถนนมีถึงสามด่าน เวลาโจรนินจามันฆ่าใคร วางระเบิดตรงไหน มันหายตัวแว้วแว๊บ หายตัวไประหว่างด่านตำรวจกับด่านทหารที่ตั้งอยู่ มันหลบหนีไวมาก
นิสัยมันชอบโกง ชอบกิน พอมันกินได้แล้ว มันก็ขี้ พอมันขี้แล้วมันก็เอาขี้ของมันป้ายใส่มุสลิม มันบอกมุสลิมต้องการแบ่งแยกดินแดน
มันโจรนินจานี้ มันมีพวกเพื่อนฝูงมาก เวลามันออกมาพูดจา ข่าวกรองจ๋า ข่าวกรองจ้า มีนักข่าวโทรทัศน์เอาไมค์มาจ่อที่ปากให้มันพูดออกอากาศ รัฐบาลสมัยนั้นเมื่อได้รับข่าวกรองแล้ว เชื่อถือทันที แต่งตั้งให้มันเป็นเสนาบดี มันก็เลยได้ใจกำเริบใหญ่ เพราะรัฐบาลสมัยนั้น ท่านเอาหูดูเอาตาฟัง แต่ถ้ารัฐบาลเอาตาดูเอาหูฟังแล้ว โจรมันพูดบอกอะไร ก็อย่าพึ่งเชื่อ ต้องไปดูให้เห็นกับตาทั้งสองข้างด้วยตัวเองเสียก่อนจึงเชื่อ แต่โจรดีๆ อย่างผม โจรที่รักชาติ รักประเทศ ไม่โกงไม่กิน พูดบอกรัฐบาล รัฐบาลไม่ยอมฟัง ไม่เชื่อไม่ขอเจรจาด้วย
แต่โจรนินจามันออกมาพูดทางรัฐบาล ชาวบ้านเชื่อมันหมด มันพูดบอกออกอากาศเป็นเดือนว่า ข่าวกรองจ๋า ข่าวกรองจ้า บัดนี้มีโจรมุสลิมกำลังฝึกอาวุธ มีกองกำลังทุกหมู่บ้านในภาคใต้หลายหมื่นคน โจรนินจามันรู้หมด ใครหัวหน้าใคร โจรมุสลิมขณะนี้เขาพร้อมแล้วได้ประกาศแบบบันไดสามขั้น
บันไดขั้นที่ 1 โจรมุสลิมได้เตรียมพร้อมฝึกอาวุธ และมีกำลังติดอาวุธทุกๆ หมู่บ้าน หมู่บ้านละหลายพันคน ถ้าผู้ใดใครไม่เชื่อเขา มาขอดูรูปถ่ายได้เลย เขาโจรนินจาผู้นี้ได้ถ่ายรูปภาพโจรมุสลิมกำลังซ้อมฝึกยิง เขารู้หมด หมู่บ้านนั้นใครเป็นหัวหน้า เขารู้กระทั่งธงชาติสีอะไรที่จะชักธงขึ้นสู่ยอดเสา วันที่เขาประกาศแบ่งแยกดินแดน เขามีรูปภาพถ่ายไว้หมดแล้ว
บันไดขั้นที่ 2 โจรมุสลิมเขาพร้อมแล้วได้รับสนับสนุนกำลังติดอาวุธจากต่างประเทศ และเงินสนับสนุนพร้อม
บันไดขั้นที่ 3 วันประกาศชัยชนะวันชักธงขึ้นสู่ยอดเสาในวันสำคัญทางศาสนา ในเร็ววันข้างหน้านี้แน่นอน
ความจริงมาความเท็จก็หายไป
เมื่องบประมาณ แผ่นดินได้ผ่านสภาไปเรียบร้อย โจรนินจามันก็หายแว๊บ ไม่ยอมให้นักข่าวเห็น ไม่ยอมพูดคุยกับนักข่าว มีนักข่าวอยู่ท่านหนึ่งที่ติดตามเรื่องนี้อยู่ใกล้ชิด จึงขอดูรูปภาพโจรนินจาพูดบอกว่า วันนี้เขามีธุระด่วนต้องเร่งรีบไปพบเจ้านายที่ทำเนียบ ขอวันหลังก็แล้วกัน พอวันหลังนักข่าวก็ไปรอที่ทำงานของมัน โจรนินจาก็พูดบอกว่า ถ้าคุณต้องการภาพ ผมให้คุณได้ แต่ห้ามนำไปลงข่าวหนังสือพิมพ์ นำรูปออกข่าวทางโทรทัศน์ คุณให้นักข่าวให้สัญญาตามนี้ เขาจึงจะให้ภาพไป นักข่าวคนนั้นก็ยินยอมทำตามสัญญา ว่าจะไม่นำภาพไปออกอากาศทางโทรทัศน์
มีอยู่มาวันหนึ่ง นักข่าวคนนั้นยอมเสียสัจจะกับโจร โดยนำภาพออกอากาศทางโทรทัศน์ ทางหนังสือพิมพ์ มีภาพฝึกอาวุธ มีภาพกำลังฟันดาบ มีธงสีต่างๆ มีภาพฝึกอาวุธ ทุกๆ หมู่บ้านจริง แต่ไม่ใช่ภาพโจรแบ่งแยกดินแดน
พออาจารย์ทางภาคใต้ ท่านได้ชมโทรทัศน์ ได้อ่านหนังสือพิมพ์ดูภาพแล้ว ท่านจำได้ว่าภาพที่นำลงหนังสือพิมพ์ และออกทางโทรทัศน์นั้นเป็นลูกศิษย์ นักเรียนของโรงเรียนเขาเอง ไม่ใช่โจรมุสลิมกำลังแบ่งแยกดินแดน มันเป็นรูปภาพของนักเรียนที่ทำกิจกรรมกีฬาสี มีสีขาว สีเหลือง สีแดง กำลังฝึกอาวุธยิงปืนนั้นก็เป็นปืนพลาสติก ยิงหมายังไม่ตายเลย และที่นำรูปภาพกำลังฟันดาบนั้นก็เป็นการละเล่นในงานทำซุนนัตของพี่น้องชาวมุสลิม เขามีการเล่นการแสดงขณะฟันดาบตีกระบอง
สิ่งที่น่าแปลกใจน่าเสียใจที่สุดของกระผมก็คือ หลังจากเรื่องแดงเกิดขึ้นแล้ว แทนที่รัฐบาลจะต้องรับผิดชอบต้องออกมาขอโทษพี่น้องประชาชน หรือขอให้สั่งย้ายหรือปลดออกจากตำแหน่งหน้าที่ เปล่าเลย รัฐบาลยังให้ทำงานต่อ
ถ้าเป็นผม ผมปลดออกแน่ ไม่เอาไว้ให้เสียข้าวสุกแน่ ทำไมจึงต้องเอาโจรมาบริหารประเทศด้วย
ท่านพี่น้องประชาชนที่รักความเป็นธรรมทั้งหลาย กระผมบอกตรงๆ ว่า กระผมนั้นเสียดายโอกาสทองที่พี่น้องชาวไทยของเรา จะได้พบได้เห็นและตั้งตารอคอยเมื่อไรภาคใต้ของเรา มันจะสงบเรียบร้อยเสียที
ครั้งที่ 1 ทางรัฐบาลมีความปรารถนาดี เจตนาดี ต้องการดับไฟใต้ โดยรัฐบาลได้ไปเรียนเชิญท่านนายกรัฐมนตรีและอดีตนายกรัฐมนตรีของประเทศมาเลย์ มาช่วยกันคิด มาช่วยกันทำให้ภาคใต้สงบร่มเย็น
ครั้งที่ 2 ฝ่ายกระผมอาสาตนเป็นตัวแทนฝ่ายโจรทำหนังสือ ขอทำสัญญาสงบศึกหยุดต่อรัฐบาลไทย รัฐบาลก็ตอบไม่ยอมเจรจา
กระผมกราบเรียนตรงๆ ว่า กระผมเสียดายโอกาสทองนั้นจริงๆ ถ้าฝ่ายรัฐบาลตอบตกลงเจรจาเมื่อ 10 ปีที่แล้วมา ป่านนี้ภาคใต้ก็สงบร่มเย็น ปราศจากเสียงปืน เสียงระเบิด ทหาร-ตำรวจ พี่น้องประชาชนไม่ต้องมาล้มตาย ปีหนึ่งตายสองพันศพ ปีหนึ่งใช้เงินงบประมาณสามหมื่นล้าน 10 ปีบวกลบคูณหารแล้ว เป็นเงินก้อนโตมหาศาล มันน่าเสียดายจริงๆ
การที่ทางรัฐบาลเจ้าหน้าที่รัฐไม่ยอมเจรจากับตัวกระผมฝ่ายโจรนั้น ก็ไม่เป็นไร เป็นสิทธิของรัฐบาล การที่ทางรัฐบาลไม่ยอมเจรจานั้น ท่านให้เหตุผลว่า ทางรัฐบาลไม่มีวันจะทำการเจรจากับฝ่ายโจรเด็ดขาด ถ้าเรารัฐบาลไปร่วมเจรจากับฝ่ายโจรแล้ว เท่ากับรัฐบาลไปยอมแพ้ฝ่ายโจร
เท่านั้นยังไม่พอ เจ้าหน้าที่รัฐยังได้พูดจาใส่ร้ายป้ายสี เหยียบย่ำ ดูถูกตัวกระผม ฝ่ายโจรว่า ฝ่ายเจรจาต้องการอวดอ้างตัวตนเพื่อเอาชื่อเสียง ไปแสดงขอความช่วยเหลือขอเงินจากต่างประเทศจากโอไอซี เมื่อโจรมันได้เงินมาแล้ว มันก็จะนำเงินที่ได้มานั้นมาจ้างฆ่า วางระเบิด ทหาร-ตำรวจ พี่น้องประชาชนให้ล้มตายต่อไป


ตอบกลับความเห็นที่ 23
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 24
ท่านนายก พี่น้องประชาชนที่เคารพ กระผมตัวแทนฝ่ายโจรที่ทำการขอเจรจาสงบศึกหยุดยิงนั้น มีเจตนาตั้งใจจริง อยากเห็น อยากทำให้ภาคใต้เกิดความสงบร่มเย็นขึ้นมาโดยเร็ววันจริง
จึงคิดริเริ่มทำโครงการมีแผนงานแก้ไขปัญหาภาคใต้ให้สงบ แบบถูกต้องถูกวิธีตามหลักวิชาการ
ถ้าในโลกนี้ มีตาชั่งวัด ความรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ รักแผ่นดินเกิดแล้ว กระผมจะขอท้าให้เจ้าหน้าที่รัฐคนนั้น คนที่ได้พูดจากล่าวหาดูถูกผมมาขึ้นตาชั่ง วัดความรักชาติกันว่า ใครรักชาติมากกว่ากัน ใครรักแผ่นดินเกิดมากกว่ากัน
ในแผนดำเนินการนั้น กระผมบอกเจตนาวัตถุประสงค์ว่า การแก้ไขปัญหาภาคใต้ในครั้งนี้ กระทำความดีถวายแด่องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว คณะผู้กระทำความดี ประกอบไปด้วยคณะบุคคลใด ใช้ระยะเวลา 1 ปี สามเดือนแรกจะทำอะไร สามเดือนที่ 2 จะทำอะไร สามเดือนสุดท้ายจะทำอะไร บอกจนกระทั่งนาทีสุดท้ายที่ประกาศหยุดยิง
และที่สำคัญที่สุดได้แนบหนังสือถวายฎีกา ขอพระราชทานความช่วยเหลือ แด่องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวแนบไปให้ดูด้วย
ในขณะที่กระผม นำหนังสือไปกราบบังคมทูลถวายฎีกาที่สำนักพระราชวังผ่านประธานองคมนตรีนั้น เพื่อขอความแนะนำว่า ควรหรือมิบังควรประการใดที่คนของกระผมจะทำงานเรื่องนี้
ทางคณะองคมนตรีได้เมตตากรุณาส่งนิติกรมาให้คำแนะนำสองท่าน ท่านนิติกรท่านได้ซักถาม และให้คำแนะผมสอบถามผมอย่างละเอียด มีสาระสำคัญที่จะแจ้งให้ท่านนายก และพี่น้องประชาชนได้ทราบดังนี้
ท่านนิติกร เมื่อท่านออกมาพบผม ท่านได้แนะนำตัวท่านทั้งสองแล้ว ท่านกล่าวเป็นคำแรกว่า
เรื่องนี้คุณแน่ใจหรือว่าคุณทำได้และทำสำเร็จ ต้องเป็นคนที่กล้าเสียสละจริงๆ ภาคใต้นั้นอันตรายมากๆ ทำไมคุณและคนของคุณจึงเอาชีวิตเข้าไปเสี่ยง คุณมีอะไรเป็นแรงจูงใจและแรงบันดาลใจ ให้คุณและคณะรับอาสาไปทำงานแก้ไขปัญหาความไม่สงบในภาคใต้ในครั้งนี้
กระผม จึงเรียนตอบคำถามของนิติกรไปว่า กระผมมั่นใจว่า กระผมและคณะทำได้และทำสำเร็จ สิ่งที่กระผมมีกำลังใจ แรงจูงใจ แรงบันดาลใจ ให้กระผมและคณะคิดทำเรื่องนี้ก็คือ
ท่านประธานองคมนตรี พณฯ พลเอกเปรม ตินสูลานนท์ เจ้านายของคุณนี้แหละ ท่านเป็นคนแรกที่มากล่าวให้กำลังใจ กระผมว่ากระผมทำถูกต้องแล้วว่า การแก้ปัญหานั้นต้องแก้ที่ต้นเหตุ และท่านได้ย้ำให้ผม และจับมือผมแน่น ท่านบอกว่า อย่าลืมคุณอีซาต้องไปช่วยแก้ปัญหาให้ชาติด้วยน๊ะ
ท่านได้กล่าวให้กำลังใจผม ในวันที่ท่านเป็นประธานมอบเกียรติบัตรให้กระผม เป็นข้าราชการดีเด่นประจำกรุงเทพมหานคร เมื่อท่านส่งมอบเกียรติบัตรให้ผมแล้ว ท่านจับมือผมแน่น แล้วท่านกล่าวย้ำว่า อย่าลืมไปช่วยแก้ปัญหาของชาติด้วยน๊ะคุณอีซา
หลังจากท่านได้มอบเกียรติบัตรให้ข้าราชการดีเด่นแล้ว ท่านได้ให้โอวาทในวันงานข้าราชการพลเรือนในวันนั้นว่า
ข้าราชการทุกคน เมื่ออายุครบ 60 ปีแล้ว ก็จะต้องเกษียณอายุราชการ หมดหน้าที่ แต่ข้าราชการดีเด่นนั้นจะต้องทำงานต่อไป จนกว่าอายุจะหมดลมหายใจ มีหน้าที่จะต้องกระทำ 2 ประการ
1) เมื่อพบเห็นองค์กรใด บุคคลใด ได้กระทำความดี จะต้องออกมาแสดงความยินดีและชื่นชม สรรเสริญ ยกย่องให้กำลังใจเขา
2) เมื่อพบเห็นบุคคล คณะบุคคล ที่ได้กระทำในสิ่งที่ไม่ดีงาม ก็จะต้องออกมาบอกกล่าวพูดจา ติติง เพื่อเสนอแนะให้เขาได้กลับตัวกลับใจ เปลี่ยนมากระทำความดี ความที่ถูกต้องต่อไป
ต่อมา ท่านนิติกรได้ถามผมว่า คณะผู้กระทำความดีที่จะนำรายชื่อกราบบังคมทูลถวาย เพื่อแต่งตั้งนั้น มีองค์กรใด ชื่ออะไรเปิดเผยได้หรือไม่
กระผมตอบว่า คณะกระทำความดี เพื่อแก้ปัญหาภาคใต้ให้สงบนั้น เป็นองค์กรคณะบุคคล ซึ่งผมมีแรงจูงใจและแรงบันดาลใจให้ผมคิดทำในครั้งนี้ คือ
ท่านประมุขฝ่ายศาสนาอิสลาม ท่านจุฬาราชมนตรี ท่านสวาท สุมาลยศักย์ ท่านผู้นี้ผมรู้จักท่านดี และท่านก็รู้จักผมเป็นอย่างดี ท่านเป็นประถมบรมจารย์ อาจารย์ใหญ่คนแรกของอิสลามวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ซึ่งท่านมีลูกศิษย์นักเรียนที่ภาคใต้ มาเรียนมาเป็นนักเรียนกินนอนประจำที่นี่ ทุกจังหวัดในภาคใต้ และกระผมก็โชคดีที่เกิดมาได้มีโอกาสทำงานอยู่ในรั้วโรงเรียนเดียวกับท่าน ท่านจึงรู้จักผมเป็นอย่างดี
และสิ่งจูงใจบันดาลใจให้กระผมทำงานนี้มากที่สุดก็คือ ผมได้รู้จักคนใหญ่คนโตในภาคใต้เป็นอย่างดี รู้จักนิสัยใจคอ ขนบธรรมเนียม ประเพณีของคนภาคใต้ รู้ปัญหาที่แท้จริงของภาคใต้ ว่าต้นเหตุของปัญหาอยู่ตรงไหน และรู้วิธีแก้ปัญหาที่ถูกต้องถูกวิธี ควรแก้อย่างไร ผมเคยกินเคยนอนรั้วเดียวกันมาหลายสิบปี
ผมเคยปลุกเด็กชายมูฮำหมัด นอมะทา ให้ขึ้นมาทำละหมาด มาดูหนังสือตอนเช้า ผมเคยปลุก ด.ช.อาชิด เบ็ญหาวัญ ด.ช.สมชาย นีละไพจิตร ผมอยู่มานาน อยู่มาสองรั้ว รั้วที่บางซื่อ และรั้วที่ทุ่งครุ เพระอิสลามได้ย้ายมาสร้างใหม่ที่ทุ่งครุ
คณะผู้กระทำความดีประกอบไปด้วย
1) ท่านประมุขฝ่ายศาสนาอิสลาม ทางจุฬาราชมนตรี นายสวาท สุมาลยศักย์
2) ท่านประมุขฝ่ายศาสนาพุทธ องค์พระสังฆราชในภาคใต้นั้นมีมุสลิมอยู่ 90% มีศาสนิกอื่นอยู่ 10%
ท่านจุฬาราชมนตรี ก็จะสรรหาคัดเลือกบุคคลที่ท่านเห็นว่า เป็นคนรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ รักแผ่นดินเกิด ไม่โกง ไม่กิน ไม่ขายชาติ 10 ท่านด้วยกัน แล้วก็มอบอำนาจมอบหมายให้ 10 ท่านนั้น ให้ไปสรรหาคัดเลือกบุคคลที่มีคุณสมบัติดังกล่าวอีก 10 ท่าน รวมกันแล้วได้ 110 ท่าน และให้ประมุขฝ่ายศาสนาพุทธ องค์พระสังฆราชไปจัดหาบุคคลที่มีคุณสมบัติดังกล่าวอีก 10 ท่าน รวมรวมแล้วเป็น 120 ท่าน เป็นคณะผู้บริหาร เป็นคณะผู้กระทำความแก้ปัญหาภาคใต้
แล้วนำรายนามคณะกรรมการทั้ง 120 ท่านนั้น ทูลเกล้าถวายเพื่อโปรดกรุณาทรงแต่งตั้งต่อไป และมอบอำนาจมอบหมายให้คณะกรรมการ 120 ท่าน ได้พิจารณาบุคคลที่มีคุณสมบัติดังกล่าวอีก 10 ท่าน จาก 10 ท่าน เป็น 100 จาก 1,000 เป็นหมื่น จากหมื่นเป็นล้านคน เพื่อเป็นอนุกรรมการเป็นหูเป็นตาดูแลความไม่สงบในภาคใต้ ให้เป็นตาสัปปะรดทุกตำบลทุกหมู่บ้าน
ต่อไปนี้เราจะใช้วิธีจับโจรตัวจริงคือ โจรนินจา เราจะทำรายชื่อบัญชีดำ หรือที่เขาเรียกว่า แบ็คลิส นำมาจัดการเผาไฟทิ้งทั้งหมด


ตอบกลับความเห็นที่ 24
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 25
เราต้องร่วมมือร่วมใจกันจับโจรตัวจริงโจรนินจาเอามาลงโทษให้ได้
วิธีจับโจรมีดังต่อไปนี้ อนุกรรมการที่ปรึกษา ที่อาสาเข้ามาจับโจร ต้องมีรูปภาพรูปถ่ายทำวีดีโอนำมาแสดง ในขณะโจรมันกำลังเผาโรงเรียน กำลังวางระเบิด กำลังเหนี่ยวไกปืนจ่อยิงทหาร-ตำรวจ พี่น้องประชาชน
ใครผู้ใดจับโจรได้พร้อมมีรูปภาพโจรมาแสดง จะได้รับรางวัลดังต่อไปนี้
1) ถ้วยพระราชทานและเงินพระราชทานรางวัล 1 ล้านบาท จากสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
2) 5 ล้านบาท จากคณะกรรมการบริหารและอนุกรรมการ
3) 5 ล้านบาท จากพ่อค้าประชาชนชาวไทย
4) 5 ล้านบาท จากรัฐบาลไทย
ใครผู้ใดจับโจรได้คาหนังคาเขา พร้อมมีรูปภาพมาแสดงจะได้รับรางวัล 16 ล้านบาท
พอผมพูดมาถึงตอนนี้ คือ เงินรางวัลพระราชทาน ท่านนิติกร ท่านได้ถามผมว่า ทำไมขอเงินพระราชทานน้อยจัง แค่ 5 ล้านบาท
และท่านนิติกร ท่านได้กล่าวชื่นชมผมและคณะว่า เป็นผู้เสียสละ ทำงานเพื่อชาติ เป็นโครงการที่ดี ถ้าห้าล้านบาทไม่พอ ก็ขอพระราชทานมาขอใหม่ขอเพิ่มใหม่ และท่านก็ขอให้ผมกลับไปรีบดำเนินการแต่งตั้งคณะกรรมการชุดดังกล่าว แล้วรีบนำทูลเกล้าถวายฎีกา
ท่านสั่งเสีย ท่านเป็นห่วงใยเงิน 5 ล้าน ที่ทรงพระราชทานนั้น ท่านบอกว่า ต้องเก็บรักษาอย่างดี เหรัญญิกต้องเป็นคนดี ไว้ใจได้ และอย่าลืมคราวหน้า กรุณานำผลรายงานการประชุมของคณะกรรมการแนบมาด้วย
ผมจึงได้อำลากลับ ก่อนกลับได้ถ่ายภาพร่วมกัน หลังจากนั้นกระผมก็ทำหนังสือขอเจรจาสงบศึกหยุดยิงต่อรัฐบาลไทย ถามว่าผมและคณะอาสาจะทำให้ภาคใต้เกิดความสงบร่มเย็น ท่านว่าดีไหม ท่านตอบว่าดี ถามต่อไปว่า แล้วรัฐบาลจะตอบยอมเจรจาสงบศึกหยุดยิงหรือไม่ รัฐบาลตอบว่า ไม่ ไม่ ไม่ ไม่
กระผมเสียดายโครงการดับไฟใต้ที่ถูกต้องถูกวิธีของผม รัฐไม่เอา
ท่านนายกปูครับ วันนี้ก็ยังทำได้ ยังไม่สายเกินแก้ ที่ท่านจะทำให้ภาคใต้สงบ ถ้าท่านได้พิจารณานำข้อเสนอแนะของกระผมไปปรับปรุง นำไปใช้ก็จะเป็นประโยชน์ต่อชาติบ้านเมือง ทำให้ภาคใต้สงบขึ้นภายใน 1 ปีแน่นอน
ฉะนั้น กระผมจึงขอเรียนต่อท่านนายกได้โปรดพิจารณาแผนการดำเนินงานของคณะผู้กระทำความดี เพื่อแก้ปัญหาภาคใต้ให้สงบภายในหนึ่งปีนั้น
3 เดือนแรก หลังจากแต่งตั้งคณะบริหารแล้ว นำรายนามถวายฎีกาเพื่อขอพระราชทานความเป็นธรรมความช่วยเหลือ ทรงลงพระนามแต่งตั้งแล้วก็จะประชุมแบ่งงานแบ่งหน้าที่การงาน
จะประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องประชาชนให้ได้รับทราบโครงการโดยละเอียดว่า สามเดือนแรกเราจะทำอะไร สามเดือนที่สามจะทำอะไร และวันสิ้นสุดวันนับถอยหลัง วันหยุดยิงจะทำอย่างไร
สามเดือนแรก เราจะติดกล้องวงจรปิดให้ทั่วทุกซอกทุกมุมให้เป็นตาสัปปะรด เสริมจากของรัฐบาลที่มีอยู่แล้ว 1 ล้านกล้อง ของอาสาสมัครอนุกรรมการ 1 ล้านคนนั้นเอง
เราจะเสนอกฎหมายมายังรัฐบาล เพื่อให้รัฐบาลออกมาเป็นบทบัญญัติ จะเป็นมาตราใด 17 หรือ 107 ก็สุดแล้วแต่ แต่ขอร้องให้มีข้อห้ามข้อความต่อไปนี้ก็แล้วกัน
1) ห้ามมันผู้ใดมาพูดจาย่ำยีดูถูกศาสนาอิสลาม และศาสนาอื่นเด็ดขาด ถ้าผู้ใดฝ่าฝืน โทษประหารชีวิต
หมายเหตุ ให้ใช้เบาไปหาหนัก ครั้งแรกให้ว่ากล่าวตักเตือน ครั้งที่สองที่สามให้ว่ากล่าวตักเตือน แล้วให้ผู้นั้นทำการขอโทษและจะต้องรับปากว่า จะไม่ไปกระทำเช่นนั้นอีก ถ้าครั้งที่ 4 ให้จัดการเชิญตัว เรียกตัว ลากตัวมันมา จัดการผ่าปากมันออก โดยนำปากคนออกแล้ว นำ:-)มาใส่แทน ถ้าผ่า:-)ใช้แทนแล้ว มันยังพูดจาย่ำยีดูถูกศาสนาอีก ก่อนจะนำมันไปประหารชีวิต ให้นำมันให้แพทย์ทำการผ่าตัดสมองคนออก แล้วเอาสมองควายใส่เข้าไปแทน แล้วนำมันไปประหารชีวิต
ท่านพี่น้องคงจะไม่สบายใจว่า ผมทำไมใจดำทำกับคนรุนแรงถึงขนาดนั้น ก็ต้องเรียนตรงว่า ผมตั้งใจจริงจะต้องแก้ปัญหาภาคใต้ให้สงบ และก็มีเวลากำหนด จะทำให้ภาคใต้สงบร่มเย็นภายในหนึ่งปี ถ้าไม่มีกฎหมายมารองรับ ชาติหน้าตอนบ่ายๆ ก็ไม่สงบ
2) และถ้าใครอนุกรรมท่านใดจับโจรได้ พร้อมนำภาพมาแสดง ก็ใช้บทลงโทษมาตราเดียวกันนี้กับโจรที่มันวางระเบิด ฆ่าทหาร ตำรวจ พี่น้องประชาชน กระผมได้ศึกษามาอย่างละเอียด ต้นเหตุของตัวปัญหาคือ ผู้ใช้ปากพูดจาดูถูกย่ำยีศาสนาอิสลาม และมีตัวโจรนินจา มันกินแล้วก็ขี้ พอมันขี้แล้วก็โยนความผิดมาให้ มันใช้ปากพูดว่า โจรมุสลิมต้องการแบ่งแยกดินแดน ท่านช่วยพาผมไปดูหน่อยได้ไหม มีดินแดนไทยตรงไหนถูกแบ่งแยกไป ใครเป็นหัวหน้ามันชื่ออะไร ที่ว่ามีกำลังฝึกอาวุธในต่างประเทศในประเทศ มีกำลังเป็นหมื่นเป็นแสน มันอยู่ตรงไหน หมู่บ้านไหน คุณช่วยพาผมไปพบหน่อยได้ไหม
3) เดือนที่สอง ถ้าทหาร-ตำรวจ ยังถูกฆ่าตายเป็น 100 นาย ก็จะขอทางรัฐประกาศใช้เคอฟิว เคอฟิวของผมนั้นแปลกแตกต่างจากรัฐบาล


ตอบกลับความเห็นที่ 25
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 26
กระผมประกาศใช้เคอฟิว ห้ามทหารออกนอกกรมกองสถานที่ แต่ให้พี่น้องประชาชนออกนอกบ้าน นอกสถานที่ได้
ท่านพี่น้องอาจจะเข้าใจผิด คิดว่าผมทำอย่างนี้คงจะไม่ดี ไม่ถูกต้อง เป็นคนไม่รักชาติกระมัง กระผมขอเรียนว่า ทหารนั้นเป็นพี่เป็นน้องของผม ชีวิตของทหารมีค่ามาก ไม่สมควรมาเป็นเหยื่อให้โจร มันยิง เช้า สาย บ่าย เย็น เมื่อทหารอยู่ในที่ตั้งมันปลอดภัย ปีหน้าปีไหนทหารก็ไม่ตาย ทหารก็ไม่เป็นศพเช่นทุกวันนี้
4) เดือนสุดท้าย ถ้าทหาร ตำรวจ ยังถูกยิงตายอีก โจรมันเอาลูกระเบิดใส่ค่ายทหาร ทหารตายอีก กระผมก็จะขอให้รัฐบาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กองทัพภาคที่ 4 ได้ถอนทหารกลับกรุงเทพ กลับกรมกองที่ตั้งเดิมของทหาร
ด้วยความรักชาติ ความเสียดายชีวิตทหาร และด้วยเหตุด้วยผล 2 ประการ
เหตุผลข้อ 1 เมื่อทหารกลับเข้ากรุงเทพ เข้ากรมกองแล้ว ท่านลองนึกดู ทหารปลอดภัยพันเปอร์เซ็นต์ เพราะอะไร ระยะทางจากภาคใต้ มากรุงเทพ ปืนเอ็ม 16 ปืนอาก้า โจรมันยิงมาไม่ถึงกรุงเทพแน่นอน
เหตุผลข้อ 2 การที่ท่านทางรัฐบาลนำกำลังทหาร ตำรวจลงไปในภาคใต้หลายกองพัน ในขณะนี้นั้นเจตนาวัตถุประสงค์ต้องการไปจัดการกับโจรแบ่งแยกดินแดนในภาคใต้ใช่หรือไม่ แท้ที่จริงแล้ว โจรแบ่งแยกดินแดนไม่มีแล้ว ที่มีมันก็แค่ 2 คน 3 คน มันตายออกจากโลกนี้ไปนานแล้ว
ฉะนั้นทหารอยู่ทุกวันนี้ที่ภาคใต้ผิดวัตถุประสงค์เดิมที่ตั้งเจตนาเอาไว้ ท่านพี่น้องที่รักความถูกต้องความเป็นธรรมทั้งหลาย ผมว่าพี่น้องคงคิดเหมือนผม เมื่อยังหาตัวโจรมุสลิมที่เขาต้องการแบ่งแยกดินแดนไม่พบ ยังไม่ได้เสียดินแดนแม้แต่ตารางวาเดียว ยังไม่มีใครประกาศชักธงสู่ยอดเสา ประกาศว่า เขาเป็นหัวหน้าแบ่งแยกดินแดน บัดนี้ที่ดินจังหวัดนี้หรือทุกจังหวัด เป็นของข้าฯ เรียบร้อยแล้ว ค่อยสั่งการทหารลงไปปราบลงไปจัดการ นำธงลงจากยอดเสา แล้วจัดการโจรแบ่งแยกดินแดนให้มันสิ้นซากต่อไป
และกระผมก็ต้องขอตัดเงินงบประมาณรายจ่าย 3 หมื่นกว่าล้าน ขอแปรญัตินำเงินงบประมาณนี้ไปใช้จ่ายให้เป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน กรรมาธิการในสภา ขอปรับลง 5 % 10 % ผมตัดงบประมาณทั้งหมด 100 % เพื่อนำมาซื้อรถยูโรสองชั้น แล้วนำมาทำรถเมล์โดยสารให้พี่น้องประชาชนนั่งฟรีทั่วประเทศ
ท่านพี่น้องบางคนบางท่านก็คงคิดว่า กระผมคิดอย่างนี้ได้ไง คงจะไม่ใช่คนรักชาติ รักแผ่นดินล่ะกระมัง ผมขอเรียนว่า กระผมนั้นทำถูกต้อง และทำเพื่อชาติ ทำเพื่อพี่น้องประชาชน ได้ทำการรักษาชีวิตทหาร ไม่ต้องตายปีละ 1,000 ศพ และยังรักษางบประมาณแผ่นดินไว้ปีละ 3 หมื่นล้านบาท
ถ้าเกิดมีโจรมุสลิมมาประกาศแบ่งแยกดินแดน ผมก็คืนเงินนี้กลับคืนไปให้ 3 หมื่นล้าน และถ้าเกิดมีโจรมาขอแบ่งแยกดินแดน เราก็สั่งทหารกลับไปประจำการที่ภาคใต้ใหม่ ไม่ดีกว่าหรือ
กระผมเคยรับราชการทหารอยู่กรมทหารราบ 11 กองพันที่ 2 ร.อ.
ในขณะที่กระผมกำลังแต่งกายชุดนอนอยู่ มีนายสิบเวรมาเป่านกหวีด แล้วท่านก็ออกคำสั่งให้ทหารแต่งกายแต่งชุดทหาร ผมก็ใช้สายตามองไปที่สิบเวร ก็แลเห็นร้อยเวรและพันโทสนั่น บุญรัตกลิน พ่อของพลเอกสนธิ บุญรัตกลิน ยืนอยู่ด้วย สิบเวรท่านเป่านกหวีดครั้งที่สอง มีคำสั่งให้ทหารขึ้นรถ อีก 10 นาที ท่านมีคำสั่งให้ทหารรับอาวุธอีก 10 นาที ท่านก็สั่งให้ทหารขึ้นรถพร้อมเดินทาง
ท่านนายก ท่านพี่น้องประชาชนครับ เห็นแล้วหรือยัง เพียงใช้เวลา 30 นาทีแต่งกาย 10 นาทีรับอาวุธ 10 นาทีเดินทางไปขึ้นเครื่อง เพื่อเดินไปภาคใต้ไม่เกิน 3 ชั่วโมง พอถึงภาคใต้แล้ว แม่ทัพภาคที่ 4 ก็สั่งทหารลุยได้เลย แม่ทัพภาคที่ 4 ก็ออกคำสั่งทหารข้างหน้ายิง ทหารด้านขวายิง ทหารด้านซ้ายยิง
เพียงใช้เวลา 3 ชั่วโมง แม่ทัพภาคที่ 4 ก็จัดการเรียบร้อยแล้ว ไม่ต้องเสียงบประมาณปีละ 3 หมื่นล้าน ไม่ต้องนำทหารไปล่อเป้าให้ตายปีละห้าร้อยพันศพ อย่างทุกวันนี้ เมื่อถึงนาทีสุดท้าย ถึงกำหนดเวลาสัญญาสงบศึก หยุดยิงแล้ว
วันนั้นเราจะจัดงานเรียกว่า วันงานอโหสิกรรมแห่งชาติ โดยกราบบังคมทูลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จทรงเป็นประธานในพิธี องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะเป็นผู้ให้สัญญาณเริ่มหยุดยิง พระองค์ท่านทรงตีระฆัง เป็นตัวแทนวัดทั่วประเทศ พระองค์ท่านทรงตีกลองเป็นตัวแทนมัสยิดทั่วประเทศ บอกสัญญาณเริ่มหยุดยิง
ต่อมา ท่านประมุขฝ่ายศาสนาอิสลาม จุฬาราชมนตรี เป็นตัวแทนฝ่ายมุสลิมจะกล่าวขอโทษขออภัย ที่พี่น้องมุสลิมทั่วประเทศ ที่เคยไปพูดในสิ่งที่ไม่ดีงาม ไปกระทำละเมิดสิทธิของพี่น้องชาวพุทธ เคยไปทำร้ายร่างกาย บาดเจ็บหรือถึงแก่ชีวิต ขอให้พี่น้องชาวพุทธทุกท่านได้โปรดให้อภัยต่อพี่น้องมุสลิม และข้าพเจ้าจุฬาราชมนตรียินดียินยอมอโหสิกรรมให้อภัยต่อพี่น้องชาวพุทธทุกท่านทั่วประเทศ ที่ได้เคยไปกระทำล่วงละเมิดทางกายวาจาใจ ต่อพี่น้องมุสลิมไว้มากแค่ไหนก็ตาม ผมและพี่น้องชาวมุสลิมทุกคนขออโหสิกรรมจากท่าน และยินดีให้อภัยแก่ท่าน เรามาดีกันใหม่ เรามาเริ่มนับถอยหลังคืนดีกัน เราเป็นคนไทยด้วยกัน เราพี่น้องกัน
ต่อมาท่านประมุขฝ่ายศาสนาพุทธ ก็กล่าวขออภัยแทนพี่น้องชาวพุทธ ที่พี่น้องชาวพุทธที่เคยไปละเมิดสิทธิทางกายวาจาใจ เคยไปอุ้มฆ่าพี่น้องมุสลิม เราขอโทษแทนพี่น้องชาวพุทธ และเราก็ยินดีพร้อมใจกันให้อภัยพี่น้องมุสลิมทุกท่านเช่นเดียวกัน


ตอบกลับความเห็นที่ 26
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 27
หลังจากนั้นท่านนายกรัฐมนตรี ขออภัยและให้อภัยทั้งมุสลิม และพี่น้องชาวพุทธ
ในวันงาน กระผมจะเป็นผู้ประสานงานขอความร่วมมือจากมัสยิดใกล้เคียงได้นำอาหารข้าวหมกไก่ นำมาเลี้ยงในงานวันฉลองวันเจรจาสงบศึกหยุดยิง ให้พี่น้องมุสลิมทั่วไปทุกชาติศาสนาที่มาร่วมงาน
หลังจากเจรจาสงบศึกหยุดยิงแล้ว กระผมคิดว่า มิมีใครกล้าบังอาจ มาสร้างปัญหา มาวางระเบิด มาฆ่าทหาร-ตำรวจ พี่น้องประชาชน ไม่มีแน่ ภาคใต้ของเรา คงจะเกิดความสงบเรียบร้อย มีแต่ความสุขความเจริญก้าวหน้าต่อไป
วันนี้วันดี วันที่ปราศจากเสียงระเบิด เสียงปืน วันนี้พี่น้องมุสลิมและพี่น้องชาวไทยทั้งประเทศ เขาตั้งตารอคอยกันมานานแสนนานแล้ว วันนี้เองพึ่งจะได้พบได้เห็นพี่น้องประชาชน เขาดีใจกันถ้วนหน้า ส่วนผมคงจะดีใจจนน้ำตาไหลแน่ เมื่อวันนั้นมาถึง
ที่ไม่มีวันทำสัญญาสงบศึกนั้น เพราะเหตุทางรัฐบาลตอบ ไม่เจรจา ผมจึงพูดได้คำเดียวว่า ผมเสียดายโอกาสทองนี้จริงๆๆ
ระเบิดฆ่าทหาร-ตำรวจ เจ้าหน้าที่ของรัฐ รัฐบาลไม่มีวันจะเข้าไปทำร้ายพี่น้องประชาชน ไม่มีเหตุ ไม่มีผล ไม่รู้ว่าจะทำไปทำไม
ผมว่าการที่ฝ่ายท่านนายกและท่านรองนายกมาเลย์ ท่านไม่เชื่อฟังฝ่ายรัฐบาล เจ้าหน้าที่ของรัฐนั้น ท่านไปเชื่อฟังฝ่ายโจรนั้น ผมว่าท่านนายกและอดีตนายกแห่งมาเลย์ ท่านทำถูกต้องแล้ว เพราะท่านนายกและอดีตนายกนั้น ท่านเป็นคน ท่านไม่ใช่ควายที่จะให้ฝ่ายเจ้าหน้าที่ของรัฐจูงจมูกไปโรงฆ่าสัตว์ ไปทางไหนก็ได้ ท่านเป็นคนตรงไปตรงมา ท่านมีลูกตาสองลูกตา ท่านมีรูหูสองรูหู ท่านได้เห็นการกระทำของฝ่ายรัฐบาลไทยทำกับพี่น้องมุสลิมในภาคใต้ ท่านได้ยินมากับสองรูหูท่าน ท่านเป็นคนมีสมองคน ไม่ใช่สมองควาย ท่านจึงต้องตัดสินใจเชื่อฝ่ายโจรมากกว่าฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายเจ้าหน้าที่ของรัฐได้ชี้แจง
ผมเรียนถามทางรัฐบาลและเจ้าหน้าที่ของรัฐอย่างตรงไปตรงมาว่า แล้วฝีมือใครที่อุ้มฆ่าฮัจยีสุหรงกับลูกชายท่านไปถ่วงน้ำที่ทะเลสาปสงขลา 2 ศพ แล้วฝีมือใครที่อุ้มทนายสมชาย นีละไพจิตร ไปถ่วงน้ำ และฝีมือใครที่ฆ่าพี่น้องประชาชนที่ตากใบ และที่มัสยิดกือเซ้ะ
ไหนล่ะที่ว่ารัฐบาล เจ้าหน้าที่ของรัฐมือสะอาด ไม่เคยทำร้ายพี่น้องประชาชนในภาคใต้ หลักฐานแค่นี้ พี่น้องประชาชน ก็คงทราบแล้วว่า ใครพูดจริง ใครพูดเท็จ ใครนำความจริงขึ้นมาเจรจาบนโต๊ะเจรจาในวันนั้น ความจริงเท่านั้นที่โลกใบนี้เขาต้องการ ผิดต้องอ่านผิด ถูกต้องอ่านว่าถูก ความยุติธรรมมีสันติภาพเกิด
ความจริงที่ต้องพูด-ต้องบอก ท่านพี่น้องบางท่าน ยังติดใจสงสัยว่า มุสลิมผู้นับถือศาสนาอิสลามนั้นเป็นคนดี มีคุณธรรม จริยธรรม เป็นผู้เคร่งครัดต่อศาสนา เป็นผู้มีความอดทน ไม่ละเมิดสิทธิผู้อื่น ไม่ไปรังแกชาวบ้านก่อน
บางท่านยังสงสัยในใจว่า แล้วทำไมยังเห็นมีพี่น้องมุสลิมออกมาจับปืนไล่ฆ่า วางระเบิด
ปกติธรรมดาของมนุษย์ที่เกิดมาในโลกนี้มีความอดทน มีขีดจำกัด แต่พี่น้องมุสลิมของผม ท่านมีความอดทนสูงมาก
อัลเลาะห์ (ซ.บ) พระเจ้าทรงสั่งเสียให้พี่น้องมุสลิมมีความอดทนอดกลั้นให้มากที่สุด โดยเฉพาะในเดือนรอมฎอนในขณะถือศีลอดนั้น ถ้าใครผู้ใดมาชวนทะเลาะท้าตีท้าต่อย ให้พูดเป็นภาษาอาหรับว่า อินนีซออีมุน อินนีซออีมุน ความหมายก็คือ แท้ที่จริง เรากำลังถือศีลอด นับ 1 ให้ได้ 100 ท่านดูตัวอย่างของจริง ลูกๆ ของท่านฮัจยีสุหรงโดนเจ้าหน้าที่ของรัฐอุ้มพ่อเขา น้องชายเขาไปถ่วงน้ำที่ทะเลสาบสงขลา ตายไปสองศพ ท่านยังอดทน ยังไม่เคยลากปืน ไม่เคยนำระเบิดออกมาไล่ฆ่าเจ้าหน้าที่เลย มุสลิมเขาถูกเจ้าหน้าที่รัฐพูดจาดูถูกย่ำยีศาสนา เขาอดทนฟังมายี่สิบกว่าปี ขอได้โปรดเอาใจเขามาใส่ใจเรากันบ้าง
ปกติ ประเทศทุกประเทศในโลกนี้ มีทหารกันทุกประเทศ เอาไว้ป้องกันประเทศ ถ้าประเทศใดรุกรานเข้ามาเปิดฉากยิงเราก่อน ถือว่าเขาเป็นศัตรูของประเทศเรา เราสามารถยิงป้องกันตัว และต่อสู้ยิงกลับไปเพื่อให้ศัตรูหนีถอยหลังกลับไป
ผมตอบคำถามได้ชี้แจงทำความเข้าใจขนาดนี้แล้ว บางท่านก็ไม่เข้าใจ บางท่านที่ยังมีสมองอคติอยู่ ก็ยังติดใจสงสัยอีก
กระผมก็จำเป็นต้องชี้แจงให้รายละเอียด เพื่อผู้ที่ยังหูตายังได้ยินไม่ชัด ยังไม่เห็นแสงสว่าง
อัลเลาะห์(ซ.บ) พระผู้เป็นเจ้าได้มีบัญชาสั่งเสียให้มุสลิมกระทำความดี ละทิ้งความชั่ว
ถ้าใครมากระทำความดีต่อมุสลิม มุสลิมผู้นั้นจะต้องรู้คุณกตัญญู กระทำความดีตอบให้มากไปกว่าเขาเท่าตัว หรือต้องมากกว่า
ห้ามมุสลิมไปรังแกทำร้ายจิตใจร่างกายผู้อื่น ห้ามฆ่าผู้อื่นเด็ดขาด
ห้ามฆ่าแม้แต่สัตว์ แต่อนุญาตให้ฆ่าสัตว์มารับประทานได้ ห้ามฆ่าสัตว์ 1 ล้านตัวแล้วนำมารับประทาน 5 ตัว แล้วทิ้งปล่อยให้เหม็นไปทั่วหมู่บ้านอย่างนี้ ห้ามทำ
ท่านลองคิดดู พระเจ้าทรงสั่งห้ามฆ่าแม้แต่สัตว์ แล้วท่านเป็นคนแท้ๆ พระเจ้าจึงต้องสั่งห้ามเด็ดขาด การฆ่าคนนั้นเป็นบาปใหญ่ แต่ แต่ต้องมีข้อยกเว้น ตามคำบัญชาของพระเจ้า


ตอบกลับความเห็นที่ 27
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 28
การฆ่าคนนั้นเป็นบาป การฆ่าคนนั้นได้บุญ ฟังแล้วงง เรื่องเดียวกัน แต่คนละหัวข้อ
คุณลองพิจารณาดู ทหารนั้นปกติธรรมดา ห้ามไปเอาปืนไล่ยิงชาวบ้านและเพื่อนบ้าน ถือว่าผิดกฎหมาย และเป็นบาป แต่ถ้าไปปฏิบัติหน้าที่ ไปเอาปืนไล่ยิงสัตว์ที่มารุกรานเขามายิงเราก่อน ถือว่าทำหน้าที่ถูกต้องและผู้ปฏิบัติก็ได้กุศลผลบุญด้วย
หวังว่าท่านคงหูตาสว่างขึ้นมาบ้าง เพื่อให้ท่านเห็นชัดขึ้นกว่าเดิมอีก จึงจำเป็นอธิบายต่อไปว่า
มุสลิมห้ามฆ่าแม้แต่สัตว์ที่มันวิ่งไปมาบนถนน หมาตัวนั้นมันวิ่งไปมาบนถนน ตามภาษาหมา ห้ามไปฆ่าหมาตัวนั้นเด็ดขาด
ถ้าหมาตัวนั้นมันเป็นหมาบ้า มันปี่รี่เข้ามาหา เข้ามาจะกัดเรา ก็ยังห้ามฆ่า เราต้องอดทนให้พยายามไล่มันไปเสียก่อน แต่ แต่ถ้าเราได้พยายามแล้ว หลายครั้งแล้ว หมาบ้าตัวนั้น มันก็ยังอุตส่าห์วิ่งปี่รี่เข้ามากัดเราอีก อย่างนี้ศาสนาให้จัดการกับหมาตัวนั้นได้ เพราะมันเป็นหมาบ้า เข้ามาทำร้ายเรา ถือว่ามันเป็นศัตรูของเรา
ถ้าคนดี เขามาทำความดีแก่เรา เราจะต้องทำความดีตอบ แต่ถ้าคนนั้นทำตัวเลวเหมือนหมา เลวเท่ากับสัตว์ เท่ากับหมา ยังห้ามมุสลิมไปฆ่า แต่ถ้าใครผู้ใดมันทำตัวมันเลวยิ่งกว่า เลวยิ่งกว่า ม.บ้า เมื่อใด
ศาสนาอนุญาตให้ทำการฆ่าศัตรูผู้นั้นได้ อัลเลาะห์ได้สั่งเสียเอาไว้ว่า มุสลิมไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนในโลกนี้ เป็นพี่น้องกัน ถ้ามุสลิมเดือดร้อน อดอยากเรื่องอาหาร การกิน ที่อยู่อาศัย ก็ต้องเข้าไปช่วยเหลือดูแล
ถ้ามุสลิมคนใดถูกรังแก ก็จะต้องเข้าไปดุแลช่วยเหลือ ห้ามนิ่งดูดาย
ศาสนาอิสลามนั้น เป็นศาสนาของอัลเลาะห์(ซ.บ) พระผู้เป็นเจ้า ห้ามผู้ใด ใครก็ตามที่บังอาจมาพูดจาเหยียดหยามดูถูกศาสนาอิสลามเด็ดขาด อัลเลาะห์ฝากให้มุสลิมทุกๆ คน ทุกท่านที่เกิดมาเป็นคนมุสลิม ต้องช่วยดูแลปกป้องรักษาคุ้มครองศาสนาของอัลเลาะห์
ถ้าผู้ใดใครก็ตาม มันบังอาจมาพูดจาเหยียดหยาม เท่ากับผู้นั้นเป็นอาดูวัลเลาะห์ เป็นศัตรูของอัลเลาะห์
อนุญาตให้ต่อสู้ทำการยีอาต ต่อสู้ในวิถีทางของอัลเลาะห์ ให้รบเพื่อศาสนา
สรุปว่า การที่โจรมุสลิมฆ่าใครสักคนหนึ่งนั้น คนคนนั้นเป็นศัตรูของอัลเลาะห์ มันทำตัวมันเลวยิ่งกว่า ส.เสือ มันเลวยิ่งกว่า ม.บ้า มันจึงถูกโดนฆ่าโดนตัดคอ
ได้โปรดเข้าใจตามนี้ด้วย
ถ้าท่านไม่อยากโดนมุสลิมฆ่า ก็ทำตัวเป็นมิตร เป็นเพื่อที่ดีต่อกัน ทำง่ายๆ ทำแค่นี้แหละท่าน
ก่อนจากกัน กระผมต้องขอ มาอ๊าฟ ขอกราบขออภัยต่อท่านพี่น้องผู้ทรงเกียรติ์ ที่หนังสือฉบับนี้ บางตอนบางคำพูด ทำให้ท่านไม่สบายใจ
เจตนาวัตถุประสงค์ ที่ข้าฯ ได้จัดทำหนังสือฉบับนี้ มีความปรารถนาดี ต่อชาติ ศาสนา ต้องการให้ภาคใต้ของเรา ประเทศชาติของเรา เกิดความสงบสุขร่มเย็นขึ้นมาโดยเร็ววัน
จึงมีความจำเป็น จะต้องค้นหาความจริง จะต้องนำความจริงขึ้นมาพูดมาบอก นำมาแสดง เพื่อจะทำข้อเสนอแนะต่อท่านนายกต่อรัฐบาล และพี่น้องประชาชนว่า ต้นเหตุ สาเหตุของปัญหา ใครเป็นตัวปัญหา ใครเป็นตัวต้นเหตุ เราจะได้รู้ว่าตัวต้นเหตุมันอยู่ตรงไหน เราจะได้ร่วมมือกันช่วยกันแก้ปัญหาได้ตรงจุด ไม่มีเจตนาจะไปว่าใครผู้ใดให้ได้รับความเสียหาย และอับอายแต่ประการใด
การว่ากล่าวนินทาเรื่องชาวบ้านนั้น เป็นสิ่งที่ไม่ควรกระทำ แต่ครั้งนี้ ข้าพเจ้าทำเพื่อความรักชาติ ศาสนา ด้วยหัวใจบริสุทธิ์จริงๆ
ครั้งคราวใดที่มีใครมาพุดว่า ทหาร-ตำรวจ เจ้าหน้าที่ของรัฐ ที่ได้กระทำการไม่ดี ไม่งาม ข้าฯ มีความเจ็บปวดรวดร้าวดวงใจไม่แพ้ไปกว่าท่านทั้งหลาย ข้าพระเจ้าเคยเป็นทหาร ลูกชายผมเป็นตำรวจ และข้าฯ เป็นข้าราชการดีเด่น บางครั้งพูดแล้ว ฟังแล้วน้ำตามันไหล
ข้าฯ ยังดีใจและยังภูมิใจในประเทศไทยของเรานี้ ที่ยังมีทหาร-ตำรวจ เจ้าหน้าที่ของรัฐ ส่วนใหญ่ของประเทศไทยของเราเป็นคนดี มีมากกว่าคนไม่ดี แต่คนดีมีความปรารถนาดี แต่คิดประสงค์ร้าย เจตนาร้าย โจรนินจานั้นมีไม่กี่ตัวตน มีน้อยท่านมาก ถ้าเราทหารดี-ตำรวจดี เจ้าหน้าที่รัฐดี ทั้งหลายมาช่วยคิดร่วมแรงร่วมใจกันช่วยขจัดพวกที่คิดไม่ดีต่อชาติ ศาสนา นั้นให้ออกไปให้พ้น ต่อไปประเทศไทยของเราโลกของเราใบนี้ ก็มีความสุขความเจริญ ความร่มเย็นเกิดขึ้นมาให้เราได้ชื่นชมอย่างแน่นอน
ท่านพี่น้องครับ การที่รัฐบาลจัดการแก้ปัญหาน้ำ ปีหน้าต่อไปจะให้น้ำไม่ท่วมประเทศไทยนั้น ทางรัฐบาลได้ไปดูต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ ท่านทำถูกต้อง แต่การที่ท่านจะดับไฟใต้นั้น ท่านจะต้องดูต้นเพลิงมันอยู่ที่ใด
ผมจึงพาท่านไปพบตัวต้นเพลิง กลางเพลิง และตัวปลายเพลิง เพื่อจะได้รู้ว่า การทำลายล้างศาสนา การพูดจาดูถูกย่ำยีศาสนานั้น ต้นเพลิงอยู่ที่ใด ต้นตอมันอยู่ตรงไหน และเขาได้ทำงานกันเป็นทีม หรือว่าต่างคนต่างนึก ต่างทำกันแล้ว มันไปเหมือนกัน ท่านพี่น้องช่วยกันคิดพิจารณาดูก็แล้วกัน ว่าที่เขาพูดจาเหยียดหยามศาสนาอิสลามนั้น เขาทำงานกันเป็นทีมหรือคิดแล้วพูดแล้วเหมือนเหมือนแพะกับแกะ มันคล้ายกันจริงๆ ดูไม่ออก
สุดท้ายนี้ หวังว่าท่านนายกและคณะทำงานของท่าน จะได้โปรดพิจารณาคำเสนอแนะและข้อท้วงติงของข้าพเจ้า ไปดำเนินการปรับปรุงแก้ไขให้ถูกต้องต่อไป และเนื่องในโอกาสนี้ เป็นโอกาสที่พี่น้องมุสลิมเป็นวันอโหสิกรรม เป็นวันให้อภัยซึ่งกันและกัน มุสลิมและพร้อมด้วยตัวข้าพเจ้า พร้อมแล้วที่จะอภัยอโหสิกรรมให้ฝ่ายรัฐบาล และเจ้าหน้าที่ของรัฐ ทางฝ่ายรัฐบาลถ้าพร้อมแล้วยกมือ เรามาคืนดีกัน เริ่มมานับถอยหลัง เริ่มต้นกันใหม่ เราคนไทย อยู่แผ่นดินไทย เราเป็นพี่น้องกัน


ตอบกลับความเห็นที่ 28
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 29
"มาคิดแบ่งแยกแผ่นดินไทยแน่นอน มีแต่พี่น้องศาสนาอื่น มาเอาที่ทำกินไปจากมุสลิมคนภาคใต้"

>> แบ่งแยกเอง ศาสนาไหนไม่สำคัญคนไทยเหมือนกัน จะไปอยู่ไหนก็ได้รึเขากำหนดว่า ภาคไหนคนนับถือศาสนาอะไรอยู่ได้รึอยู่ไม่ได้รึคับ
ถ้าเข้าใจไม่ผิด ศาสนาพูทธเข้าไทยก่อน อิสลาม รึเปล่า

"พูดจบวันแรก ระเบิดก็ตามมา 1 ลูก ทหารตาย 1 ศพ"

>> ถ้าพูดแล้วคนตาย มันจะดีรึคับ คิดดูดีๆ
หลายปีก่อนในประเทศหนึ่งได้มีการระเบิดพระพุทธรูป ที่ใหญ่มากทิ้ง อายุเป็นพันปีทิ้ง อยากถามว่า คนที่มันระเบิด เขาคิดอย่างไง เพราะพระพุทธรูปก็อยู่ตรงนั้นมาก่อนที่ศาศนาที่พวกเขานับถือจะเข้าประเทศเขาอีก...
แต่ก็แปลก ไงพวกคนที่นับถือพุทธ กลับไม่ไปฆ่า พวกที่นับถือศาสนาหนึ่ง ปิดถนนประท้วง อะไรต่างๆ กับประเทศที่ระเบิดพระพุทธรูปทิ้ง!!

"ถ้าท่านไม่อยากโดนมุสลิมฆ่า ก็ทำตัวเป็นมิตร เป็นเพื่อที่ดีต่อกัน ทำง่ายๆ ทำแค่นี้แหละท่าน"

>> ข่มขู่ชัดๆ

ทุกคนมีเสรีภาพในทางความคิด แต่บางที ก็ต้องนึกถึงบุคคลรอบข้างบ้าง ไม่ใช่เอาแต่ตัวเอง เป็นแกนของจักรวาล เปิดใจรับฟังความคิดคนอื่น แล้วเอานึกคิดดูว่าทำไมเขาคิดอย่างนั้น เราไม่จำเป็นต้อง คล้อยตามเขา แต่ขอให้เราเข้าใจในสิ่งที่เขาคิดบ้าง คิดแบบนี้แล้วประเทศชาติก็จะเจริญ...

ผิดพลาดประการใดขออภัยไว้ในที่นี้ด้วยคับ


ตอบกลับความเห็นที่ 29