สับสนชีวิต..เรียนต่อภาษาในหรือนอกดีกว่า

อายุเกือบ 40 แล้ว มีงานทำที่มั่นคง จบปริญญาโท แต่ก็แอบฝันที่อยากจะไปสัมผัสชีวิตการเรียนในต่างแดนดูบ้าง เลยคิดว่าจะไปเรียนภาษาซัก 6 เดือน ซึ่งที่ทำงานก็อนุญาต แต่ต้องนำความรู้กลับมาใช้ให้เต็มที่ แต่ติดปัญหาว่าได้วางแผนกับสามีไว้หลังจากที่ผลัดผ่อนมานาน ในการมีลูก โดยคาดว่าจะมีประมาณปลายปีหน้า ดังนั้นในช่วงเวลาแห่งนี้จึงเป็นโอกาสเดียวที่จะทำได้ แต่ก็มีหลายคนท้วงติงว่า ค่าใช้จ่ายที่จะต้องไปเรียน รวมทั้งประกาศนียบัตรที่ได้ ไม่คุ้มค่ากับการลงทุน และไม่ได้มีเงินมากมายอะไร จึงเกิดความลังเล ทั้งอยากสานฝันตัวเอง กับถ้าไปได้จริงๆแล้วจะอยู่ได้มั้ย เพราะไม่ใช่เด็กๆแล้ว หรือจะเรียนภาษาที่ไทยให้เก่ง ถ้าจะไปนอกก็ควรไปเที่ยวอย่างเดียวน่าจะดีกว่า..ขอคำชี้แนะด้วยเถอะ..

ความคิดเห็นที่ 1
มีเงิน เมืองนอกย่อมดีกว่า เพราะสิ่งแวดล้อมเป็นตัวบังคับให้เราคุ้นเคยได้มากกว่า

ถ้าไม่ เมืองไทยก็เก่งขึ้นได้ ถ้าคุณพยายาม/ลงทุนมากพอ


ตอบกลับความเห็นที่ 1
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 2
ไปเลยครับ ประสบการณ์ การค้นหา แรงบันดาลใจ การอยากทำ บางทีใช้เงินซื้อไม่ได้หรอกนะ ต้องลองไปดู แม้ว่าไปแล้วภาษาจะไม่ได้พัฒนาขึ้นมากก็ตาม แต่เราได้ทำในสิ่งที่อยากทำ มันก็คุ้มนะ

ก็ไปประเทศที่สามารถทำงานได้ก็ได้ เช่น ออสเตรเลีย อังกฤษ เราก็เรียนไปด้วย ทำงานพิเศษไปด้วย เช่นร้านอาหาร คลีนเนอร์ จะได้ช่วยค่าใช้จ่าย ลองไปดูนะ 40 ยังไม่สายเกินไป เหมือนเราไปเรียนไปเบรคไปเที่ยว ไปสัมผัสสิ่งใหม่ๆ หลังจากทำงานมานาน ให้รางวัลชีวิตบ้าง


ตอบกลับความเห็นที่ 2
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 3
เมืองนอกครับ
ใช้ชีวิตด้วย ครบและคุ้มค่ามากๆ


ตอบกลับความเห็นที่ 3
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 4
ขอบคุณสำหรับทุกความคิดเห็น..เพราะบางคนอาจจะคิดว่าเพ้อเจ้อ แต่บางอย่างทั้งเรื่องการใช้เงิน ชีวิตครอบครัว กับอะไรหลายๆอย่าง..ขอบคุณจริงๆ


ตอบกลับความเห็นที่ 4
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 5
แต่บางคนก็บอกว่าถ้าเสียเงินหลายแสนขนาดนี้ ก็ควรไปเรียนอะไรที่เป็นสาระมากกว่านี้ มันเหมือนไม่คุ้ม...และบางทีไปแล้วอาจไม่เป็นอย่างที่เราเคยคิด..(กังวลลึกๆ)..แต่กลับไม่ได้..เลยกลายเป็นความทรมานไป


ตอบกลับความเห็นที่ 5
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 6
เมืองนอกน่าจะดีกว่านะคะ ประสบการณ์ชีวิต อะไรที่อยากทำและมีโอกาสไขว่ขว้าไว้เถอะคะ


ตอบกลับความเห็นที่ 6
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 7
ลองไปอังกฤษดูสิครับ สมัยก่อนเขามีเรียกว่า แซนวิชคอร์ส เรียนภาษาฟูลไทม์ แต่จะมีช่วงบ่ายบางวัน เลือกเรียนได้พวก การท่องเที่ยว การโรงแรม ทำอาหาร ถ่ายรูป แล้วที่สำคัญเป็นนักเรียนของวิทยาลัยแท้ๆด้วยไม่ใช่โรงเรียนสอนภาษา จบแล้วก็ได้เซอของวิชาที่เลือกมาด้วย ลองติดต่อเอเจนต์ดูครับ อันนั้นดีกว่า ได้เจอเพื่อนด้วย อาจารย์ก็อาจารย์จริงๆไม่ใช่มือปืนรับจ้าง


ตอบกลับความเห็นที่ 7
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 8
มายกมือส่งเสริมให้คนที่มีความฝัน ได้เดินตามความฝันค่ะ ครึ่งปีถือว่าไม่นานนะคะ เพราะหากถึงเวลาที่คุณมีลูก มีห่วงเพิ่มขึ้นแล้ว คุณอาจต้องใช้เวลาอีกครึ่งชีวิต ดูแลครอบครัว .. ไหนๆ ตอนนี้ภาระไม่มี ก็มาทำฝันให้เป็จริงเถอะค่ะ อย่าปล่อยให้โอกาสผ่านไป แล้วมาคิดทีหลังว่า "รู้งี้น่าจะ..." เลยค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 8
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 9
ขอแชร์ประสบการณ์นะคับว่า จิงๆการเรียนที่ต่างประเทศย่อมดีกว่าตรงที่มันบังคับให้เราใช้ทุกวัน
แต่จากประการณ์ผม ก่อนไป ตปท ต้องถามตัวเองก่อนว่าพาสาเราพร้อมยัง ไม่ได้หมายถึงเก่งนะคับ แต่คิดง่ายๆว่า ถ้าเราจะพูดไรเป็นพาสาอังกิดเราพูดออกมาได้ทันทีไหม พูดออกมาเลยนะคับ ไม่ใช่แค่คิดในหัว เพราะคนไทยมีปัญหามากว่าคิดได้ ทำข้อสอบได้ แต่พูดไม่ได้ โดยทุกคนชอบบอกว่ามันติดอยู่ที่ปาก เพราะผมเห็นหลายคนตอนไปเรียน ทำรายงาน ทำข้อสอบได้ทุกอย่าง แต่พูดกับอาจารย์ไม่รู้เรื่องเลย
แล้วผมเห็นส่วนใหญ่ พอพูดไม่ได้ ก้อจะจับกลุ่มอยู่แต่กับคนไทยด้วยกันเอง สุดท้ายปีหนึ่งผ่านไปก้อไม่ต่างจากวันแรกที่มา เพราะสอบผ่านจบครอสเหมือนกัน แต่พูดไม่ได้เหมือนเดิมนะคับ


อันนี้นอกเรื่องนะคับ คือผมแอบน้อยใจ เพราะคนไทยเป็นชาติเดียวที่เวลาคนต่างชาติพูดไม่รู้เรื่องก้อจะพยามฟัง ฟังช่วย แต่ชาวต่างชาติพอเราพูดแล้วเค้าไม่เข้าใจปุ๊บ เดินหนีเราเลย เศร้า แต่ก้อไม่ได้คิดมาก แต่เลยยิ่งต้องพยามพูดเยอะๆ พูดไปเรื่อยๆจนพูดได้เอง อาศัยเป็นคนพูดมากอยู่แล้วนะคับ


ตอบกลับความเห็นที่ 9
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 10
น่าจะห่วงลูก อย่าฝันกับไปเรียนภาษา ตปท 6 เดือน
เอาเวลาและค่าใช้จ่าย ไปเที่ยวกับครอบครัวดีกว่าความฝันที่อาจจะเป็นความจริงอันร้ายนะ


ตอบกลับความเห็นที่ 10
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 11
ถ้าไม่มีปัญหาเรื่องเงินน่าจะมาเรียนเมืองนอก

เพราะประสบการณ์จะมีมากกว่าในการใช้ภาษา อีกอย่างจะได้เรียนรู้วัฒนธรรมต่างๆด้วย

เงินทองอาจจะไม่สามารถชื้อประสบการณ์บางอย่างที่จะจำได้ตลอดชีวิต

ถ้ามีลูกหลานก็จะเล่าให้เค้าฟังได้ เป็นความภูมิใจเล็กๆ จากกระดาษหนึ่งแผ่น

ถ้าหากอนาคตมีโอกาสได้เปลี่ยนงาน กระดาษใบนั้นก็จะช่วยได้

ถือว่ามาเที่ยวระยะยาว แบบไม่ต้องชะโงกทัวร์

ถ้าหากมีลูกก็มีภาระอีกนาน กว่าจะได้มาเรียนไปอาจจะหมด หรือไม่สนุกแล้วตอนนั้น

ถ้าหากไม่มีลูก หรือไม่ท้องซักที ก็จะต้องรอไปอีกไม่มีกำหนด

มาก่อน จบก่อน สบายใจก่อน สู้สู้ค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 11
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 12
ถ้าอาการลังเลเกิดเพราะว่าหวังผลบวก
(ไม่ว่าจะเป็นด้านภาษาหรืออะไรก็ตาม)
แล้ว .. คิดว่าไม่คุ้มกับจำนวนเงินที่ต้องจ่าย

ถ้าเป็นแบบนี้ เรียนที่เมืองไทยค่ะ เก็บเงินไว้สร้างครอบครัวดีกว่า
เพราะอย่างน้อย ๆ คุณก็ต้องใช้เงินหลายแสนบาทอยู่ดี
ซึ่งคงกระทบกับเงินออม และผลตอบแทนด้านภาษาก็คงได้ไม่มากนัก

ยิ่งถ้ามีเงินมาจำกัด และพอมาถึงต่างแดนปุ๊บต้องรีบหางานให้ได้
ในเวลาสั้น ๆ จะยิ่งสร้างความเครียดโดยไม่จำเป็น เผลอ ๆ จะกลาย
เป็นประสบการณ์เลวร้าย และมองไม่เห็นด้านดีของการมาต่างแดน
นอกจากความเหงา เศร้า และว้าเหว่ ... สุดท้ายจะเสียดายเงินมาก ๆ
อย่างนี้อยู่บ้านที่เมืองไทยดีกว่ากันหลายขุมค่ะ

ยกเว้นว่า ... สิ่งนี้คือสิ่งฝันของคุณ เงินที่เก็บไว้ไม่เสียดาย
เพราะอยากไปอยู่ต่างประเทศในระยะหนึ่งอยู่แล้ว
ถ้าเป็นอย่างนั้นดิฉันเชียร์ค่ะ เพราะประสบการณ์ชีวิต
ไม่ว่าจะดีจะร้าย มันหาซื้อไม่ได้ และทุกครั้งของการเดินทางออกนอกบ้าน
โดยเฉพาะไปในต่างแดน ต่างวัฒนธรรม และยิ่งไปอยู่นาน ๆ
จะต่างกับการไปเที่ยวระยะสั้น ๆ ในฐานะนักท่องเที่ยวอย่างมาก(มาย)


ตอบกลับความเห็นที่ 12
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 13
ไปเถอะครับ เงินหมดก็กลับ ถ้าอายุแบบผมจะรู้ว่าเงินหาง่าย เดี๋ยวก็หาได้ แต่อายุไม่ไหวแล้ว แก่ตัวไป เปลี่ยนอากาศก็ต้องหามเข้าโรงหมอแล้วครับ หูตาก็ไม่ค่อยดี ไปตอนแก่มากๆจะไปเห็นอะไร ไปแล้วก็ดูลู่ทางไว้ นัดสัมภาษณ์ทำงานทำการก็ได้ เห็นบอกว่าจบปริญญาโท พวกเราน่ะมีการศึกษา โอกาสมันดีกว่าบางคน เขาจ้างงานได้ ผมเองก็เคยทำงานกับบริษัทยุโรปอยู่สองแห่ง โอกาสมีครับอย่าไปจำกัดตัวเอง


ตอบกลับความเห็นที่ 13
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 14
คุณจบโท หน้าที่การงานมั่นคง อายุก็กลางคนแล้ว เงินเดือนก็คงสูงพอควร มีครอบครัวแล้วด้วย ขอพูดจากประสบการณ์ของคนที่อยู่อเมริกามานานโขว่าไม่น่ามา 6เดือนคุณขาดรายได้ตั้งหลายแสน แล้วต้องมาเสียค่าใช้จ่ายอีกตั้งหลายแสนกับการเรียนภาษา รวมๆก็คงมากโขทีเดียว ถ้าคุณฐานะดีระดับหลายร้อยล้าน ผมว่าพาสามี หรือคุณพ่อคุณแม่มาเที่ยวด้วยกันจะสนุกและดูมีคุณค่ามากกว่า

ู6เดือนมันเร็วมากเลยนะครับ อายุขนาดนี้สมองมันรับไม่เร็วเหมือนเด็กทารกหรอกครับ ภาษาคุณอาจจะดีขึ้นบ้างนิดหน่อยแต่ไม่มากนัก ผมว่าทำงานไปแล้วใช้เวลาหลังเลิกงานเรียนภาษาเพิ่มเติมในไทยจะดีกว่าครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 14
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 15
6 เดือนเร็วมาก ถ้าไม่ใช่ super woman ก็ยังไม่ได้อะไรเลย ภาษาอาจจะมีขึ้นมานิดหน่อย นิดหน่อย จริง ๆ
ใช่เอาเงินพาครอบครัวเที่ยวดีกว่า


ตอบกลับความเห็นที่ 15
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 16
ขอบคุณอีกครั้งและอีกหลายๆครั้ง..สำหรับความคิดเห็นอันมีคุณค่า ทราบดีว่า 6 เดือน คงไม่ได้อะไรมาก ในเรื่องของภาษา เพราะปัจจุบันก็ใช้ภาษาอังกฤษในการให้ข้อมูลและตอบข้อซักถามของนักท่องเที่ยวอยู่แล้ว รวมทั้งการแปลและประสานงานบ่อยครั้ง เคยมีความคิดว่าไม่จำเป็นต้องไปเรียนเมืองนอกก็เก่งได้ แต่วันนี้ วันที่เดินมาถึงจุดที่ชีวิตอยากมีบททดสอบใหม่ๆบ้าง ประกอบกับชอบศึกษาไ่ม่ว่าจะเป็นด้่านวิชาการ หรือหลักสูตร วิชาชีพ ทุกอย่างมีความหมายและมีคุณค่าหมด เห็นหลายคนกลับมามีเรื่องราวหลายอย่างกลับมาเล่า และมี อีกหลายคนที่ล้มเหลวกลับมา จริงๆแล้วอาจจะไม่เท่าไหร่ แต่ก็นั่นแหละไม่ลองไม่รู้ แต่ที่เขียนโพสต์มาเพื่อขอ ข้อคิดเห็น เพราะอย่างน้อยไม่อยากทำอะไรเพราะแค่อยากทำ เหมือนเอาแต่ใจตัวเอง แต่ถ้าใครเคยมีความฝัน คุณคงเข้าใจดีว่ามันไม่ง่ายที่จะลืมมันไป เพราะดิฉันไม่เคยมีช่วงเวลาของวัยรุ่น วัยเรียนในมหาวิทยาลัย เพราะ ช่วงชีวิตนั้นจนถึง 30 คือการดูแลแม่ที่ชราและป่วยหนักมาตลอด จึงเก็บฝันนี้ไว้ตลอด เพราะหลายโพสต์ คิดเห็นว่าเป็นวัยกลางคนแล้ว อายุมากแล้ว ไม่ควรมา เพื่อประกอบในการตัดสินใจอย่างมีเหตุผล เหตุผลให้กับ ตัวเองจะได้ไม่มีคำว่า รู้งี้น่าจะ ซึ่งแน่นอนมันคงจะแสลงหัวใจมาก และไม่ต้องเอาความฝันตัวเองไปใส่หรือคาดหวังกับลูก..


ตอบกลับความเห็นที่ 16
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 17
ความฝันเรา ยังไงมันก็เป็นของเราค่ะ จะไร้สาระหรือไม่มีเหตุผลในสายตาคนอื่น แต่ใจเรารับรู้ถึงความสุขนั้น โดยที่ไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน.. เท่านั้นที่ชีวิตต้องการ^^


ตอบกลับความเห็นที่ 17
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 18
ผมอายุ 31 ได้เงินเดือน หลายอยู่ ผมกำลังตัดสินใจว่าจะไปดีหรือเปล่า ซึ่งผมอยากไป new york ตั้งแต่เรียนจบแล้วแต่ไม่มีตังค์ ตอนนี้มีแล้ว ผมอยากไปใช้ชีวิตที่ต่างแดนซักครั้งหนึ่ง


ถ้าเดินไปถามคนที่บ้านพักคนชรา หลายคนจะไม่พูดว่าเสียใจที่ได้ทำอะไรลงไปแต่จะพูดว่าเสียใจที่ไม่ได้ทำอะไร


ตอบกลับความเห็นที่ 18