แชร์ประสบการณ์เฉียดตาย โดนโจรบุกของผู้หญิงโสดใช้ชีวิตคนเดียวในอเมริกา

สวัสดีค่ะ เราเป็นคนไทยในอเมริกา จริงๆ ไม่ค่อยได้เข้าห้องนี้เท่าไหร่ แต่เห็นว่าเรื่องที่เกิดขึ้นน่าจะมีประโยชน์ต่อสาวๆที่ใช้ชีวิตในอเมริกาไม่มากก็น้อย

เรื่องของเรา เป็นเรื่องที่เลวร้ายมากมากมาก เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 13 กันยายน หลังวันเกิดเราวันเดียว เป็นประสบการณ์ที่เรียกได้ว่า เฉียดตาย หรือ เฉียดตายทั้งเป็น เลยอยากมาเล่าไว้เป็นอุทธาหรณ์ให้ฟังค่ะ

น่าจะใช้ได้กับทุกคนไม่ว่าอยู่ที่ไหนค่ะ

ความคิดเห็นที่ 1
วันที่ 12 กันยายน (ตามเวลาอเมริกา) เป็นวันเกิดครบรอบ 28 ปีของเราค่ะ

เรามาทำงานที่อเมริกาได้ครบหนึ่งปีนิดๆพอดี (บริษัทลูกส่งมาทำงานที่บริษัทแม่ที่อเมริกาค่ะ) วันที่ 12 เป็นวันเกิดเรา ก็มีเลี้ยงฉลองวันเกิดกับเพื่อนๆคนไทย ปาร์ตี้เป็นปาร์ตี้ธรรมดา ทานข้าว เครื่องดื่มนิดหน่อย เราออกจากบ้านเพื่อนเวลา 22.30 น.

ขับรถกลับบ้านคนเดียว ตามประสาคนใช้ชีวิตที่อเมริกาค่ะ

อพาร์ทเมนต์ของเรา เป็นสไตล์ที่เรียกว่า Apartment Complex นะคะ คือมี ประตูรั้วใหญ่ๆ อยู๋ข้างหน้า แล้วเข้าไปก็จะมี Apartment หลายๆหลัง หลังนึงก็จะมีห้องหลายๆห้อง ห้องเล็กสุดที่เราอยู่ขนาดประมาณ 500-600 SQF คือมี 1 bed + 1 Bath + living room + kitchen ก็จัดเป็นอพาร์ทเมนต์ทั่วไปค่ะ (ถ้าใครอยู่อเมริกาคงนึกออกเนอะ)

จุดแรกที่อาจจะอันตรายสำหรับหลายๆคน คือ เราชอบอยู่ที่ชั้น 1 ค่ะ เพราะว่าขนย้ายข้าวของสะดวกดี ถามว่ามีคนผ่านไปมาเยอะมั้ย ถ้าไม่ใช่เพื่อนบ้าน กับคนใน apartment ข้างเคียง ก็คงไม่ค่อยมีโอกาสผ่านค่ะ เพราะคนอเมริกาใช้รถกันส่วนใหญ่ ไอ้เรื่องเดินผ่านไปผ่านมาหน้าห้องเนี่ย ต้องเฉพาะเจาะจงมากๆ

คืนนั้นกลับมาก็ไม่มีอะไร เล่นเนต ล้างหน้า แปรงฟัน ตามประสา จนหลับไปตอนประมาณ เที่ยงคืนกว่าๆค่ะ

จุดนี้ค่อนข้างมั่นใจว่าก่อนนอนเช็คประตู หน้าต่าง ว่าปิดมิดชิด ไม่มีเปิดให้แมลง หรือลมเข้าเลยค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 1
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 2
รู้ตัวตื่นอีกที เพราะได้ยินเสียงกุกกัก เหมือนคนไขประตูเข้ามา

เราสะดุ้งตื่นขึ้นทันที (ปกติเรานอนง่ายตื่นง่าย ไม่ขี้เซา) อยู่ในท่านั่งบนเตียงของเราค่ะ

ทั้งห้องมืด แต่เราเห็นเงา คนดำตะคุ่มตะคุ่มอยู่ที่ประตู้ห้องนอนของเรา

เห็นมือของเค้าพยายามเปิดไฟด้วยสวิทช์ไฟที่อยู่ข้างประตู

แต่ปรากฎว่าเปิดไม่ติดค่ะ ที่ไม่ติดเพราะว่า ที่ห้องเราเป็นระบบสวิทช์ไฟสองทาง คือสวิทช์ห้องจะเหมือนว่าเปิดไว้ตลอดเวลา ส่วนไฟพัดลมเพดานก็จะเชื่อมระบบกัน ถ้าสวิทช์พัดลมเปิดอยู่ จะสามารถใช้สวิทช์กำแพงปิดได้ แต่ถ้าสวิทช์กำแพงปิดอยู่ จะเปิดที่พัดลมไม่ได้ (ตรงนี้ถ้าอ่านแล้วงงข้ามไปค่ะ)

โดยสรปคือมันพยายามเปิดไฟ แต่เปิดไม่ได้ค่ะ

เราเลยตะโกนออกไป ว่า "What do you want, Who are you, Why are you here?" คือยิงถามรัวๆ เลย ว่า คุณเป็นใคร คุณต้องการอะไร ทำไมเข้ามาในนี้

ขอบอกตรงๆ ว่าตอนแรกที่เห็นเงานั้น แว๊บแรกเราคิดว่า เอ๊ะ เราลืมล็อกประตูรึเปล่านะ ทำให้เวลาดึกๆ คนเมาๆ เค้าเข้าผิดห้องได้ แล้วล็อกประตูเราก็มีแค่ dead bolt อันเดียวไม่ได้แน่นหนาอะไร ในใจแว๊บแรกคิดแง่บวกจริงๆค่ะ ว่าอาจจะเป็นคนเมา หรือเป็น พวกพนักงานซ่อม ที่อาจจะมาบอกว่า มีไฟไหม้ หรือหม้อแปรงระเบิดอะไรประมาณนั้น (คิดได้เนอะ)


ตอบกลับความเห็นที่ 2
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 3
ในความมืดนั้น หลังจากเราถามมัน มันก็ตอบกลับมาว่า

"Don't move, I have a gun" .... มันบอกให้เราห้ามขยับ เพราะมันมีปืน

ณ วินาทีนั้นก็รู้แล้ว ว่า โดนแน่นอน มันเข้ามาปล้นเรา

เราเลยบอกว่า "What do you want, I will give you everything, don't shoot me"
เราบอกมันว่า เราจะให้มันทุกอย่าง อยากได้อะไรเอาไปเลย แต่อย่ายิงเราเป็นพอ

จุดนั้นรู้เลยค่ะ ว่าคนเรารักชีวิตมากมายแค่ไหน แก้วแหวนเงินทองอะไรที่มียอมสละให้หมด ขอเพียงแต่ให้มันเอาเงินแล้วรีบๆไปให้พ้นซะ

มันบอกว่า มันต้องการเงิน ให้เอาของมีค่าทุกอย่างที่มีให้มันค่ะ

ตายละหว่า เราไม่มีของมีค่าอะไรเลย ในกระเป๋าเงินเรามีแบงค์ดอลล่าร์ไม่กี่ใบ เพราะปกติอยู่อเมริกาแทบไม่เคยพกเงินเกิน $100 เลย ทุกอย่างตั้งแต่ super market ของเล็กของใหญ่ ใช้เครดิตการ์ดตลอด

โชคดีที่เราเอากระเป๋าตังค์ไว้ข้างตัวตลอด ในความมืดเราเลยพยายามคว้าๆกระเป๋า
คว้าได้แค่ธนบัตรสองใบเท่านั้นค่ะ

เพราะมันมืด โจรมันไม่เห็น มันเลยตะโกนถามเราว่า "เรามีเงินท่าไหร่"

เราตอบมันไปว่า "เรามีแค่ไม่กี่เหรียญ" แล้วเราก็โชว์ธนบัตรให้มันดู

ได้ยินมันสบถออกมา คงรู้สึกผิดหวังอย่างแรงที่เข้าห้องเราแล้วเราไม่มีของมีค่าอะไรเลย


ตอบกลับความเห็นที่ 3
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 4
ในชั่ววินาทีนั้น มันเลยเปลี่ยนแผนค่ะ T___T

คำที่่มันพูดออกมาจากปาก ทำเราร้องไห้โฮออกมาเลยค่ะ

มันบอกให้ เราหันหลัง แล้วถอดกางเกงนอนออกค่ะ

ในใจตอนนั้นบอกตรงๆว่า คงโดน "ข่มขืน" แน่นอน ไม่รอดแน่นอน

แล้วไม่มีทางสู้จริงๆค่ะ หน้าต่างเราปิดสนิท ข้างเตียงไม่มีของอะไรที่จะฟาด หรือต่อสู้ได้เลย ทางออกเดียวที่มีคือประตูห้องนอนซึ่งมันยืนขวางอยู่แล้ว เราก็เลยคิดว่า เอาเถอะนะ ถ้ามันจะข่มขืนเรา เรายอม เราอยากรักษาชีวิต

คิดแล้วว่าคงโดนข่มขื่นแน่ๆ ....


ตอบกลับความเห็นที่ 4
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 5
มันสั่งให้เรายืนขึ้น พร้อมหันหลังให้มัน พร้อมบอกว่าให้ทำตามที่มันสั่ง เพราะมันมีปื่น

เราก็ยืนขึ้นบนเตียง ถลกกางเกงออก และโชว์ก้นของเราให้มันแต่โดยดี ไม่ขัดขืน

เราหันหน้าเข้ากำแพง หางตาของเราเห็นว่ามันเดินใกล้เข้ามาทางปลายเตียง แล้วเริ่มปลดซิบกางเกงออก ตอนนั้เราร้องไห้ออกมา ในสมอง process ไปไกลแล้ว ว่าโดนข่มขินจะต้องทำไง มันจะฆ่าเรามั้ย แต่เราไม่ได้ทำเสียงดังโวยวายนะคะ เพราะมันบอกว่าให้เราอย่าเสียงดัง ไม่งั้นมันยิงทิ้ง เราก็เลยได้แต่ร้องคร่ำครวญอยู่ ปากก็พร่ำขอร้องว่า อย่าทำอะไรเราเลยนะ อย่าทำอะไรเราเลย

มันก็เลยบอกเราว่า "I am not gonna touch you, I am not gonna touch you" มันบอกว่ามันสัญญามันจะไม่แตะตัวเรา แต่ให้ทำตามที่มันบอกค่ะ

เราก็หันหลัง มันเริ่มช่วยตัวเอง ใช้มือชักเข้าออกค่ะ

ไม่กี่นาที มันก็บอกให้เราก้มลง ให้ทำท่าสุนัขค่ะ ไม่พอ มันบอกให้ เราตบก้น แล้วก็ร้องครวญครางทำเสียงเซ็กซี่

ณ จุดนี้ หลายๆคนอ่านอาจจะขำนะ ว่าเออ แมร่งโรคจิตว่ะ จะบอกว่าในใจเราก็ทั้งขำ ทั้งงงนะ ว่ามันจะมาไม้ไหน แต่เราเหมือนไม่มีอะไรจะเสียแล้วก็เลย เอาก็เอาวะ!!

เราก้มลง เปิดก้นให้มัน ตบก้นตัวเอง แล้วก็ร้องครวญ เหมือนมีความสุขมากมายค่ะ

ขอบอกว่าทั้งชิวิตไม่เคยคิดว่าจะต้องมาทำอะไรบ้าๆ แบบนี้เลย ไม่เคยพบเจออะไรแบบนี้ แม้แต่หนังติดเรทก็ไม่เคยดู แต่ที่นึกถึง เพราะว่าเพิ่งอ่าน Fifty Shades of Grey ค่ะ ก็เลยพอเข้าใจว่ามันอยากให้ทำอะไร

หางตาเราหันหน้าไปแอบมองมัน มันก็ยืนช่วยตัวเองแบบนั้น ทำเสียงซี๊ดซ๊าด เราทำอะไรไม่ได้ เราก็ตบก้นตัวเองอยู่แบบนั้น ร้องครวญครางไปเรื่อยๆ เพราะอยากให้มันพอใจ เผื่อมันจะได้เสร็จๆ แล้วจบกันไป

ในขณะที่เรื่องเกิดขึ้น มันไม่แตะต้องตัวเราเลยแม้แต่น้อยค่ะ....


ตอบกลับความเห็นที่ 5
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 6
พอมันช่วยตัวเองซักพัก มันก็เหมือนว่าพอใจแล้ว แล้วก็เดินออกจากห้องไปไม่ร่ำไม่ลา

-_-" เราไม่ได้ยินเสียงว่ามันเสร็จหรืออะไรรึเปล่า ในใจเราคิดล่วงหน้าว่ามันอาจจะสำเร็จความใคร่แล้วพุ่งน้ำมาที่เรา แต่ก็ไม่มีอะไรแต่อย่างใด มันเดินออกไปเงียบๆค่ะ

เรากลัวมาก กลัวมากๆจริงๆ ตอนมันเดินออกไปเราไม่เข้าใจว่ามันจะไปทำอะไร อาจจะเดินออกไปค้นของ ออกไปเปิดไฟ หรือจะทำอะไรอีก

แต่เรารักชีวิต เราก็เปิดก้น ตบไปเรื่อยๆ จนซักพักเห็นว่าเงียบแล้ว เราก็เลยรีบไปปิดประตูห้องนอน แล้วโทร 911 ทันทีค่ะ

ทีนี้ปล่อยแบบร้องไห้โฮเลยจริงๆ ตอนโทรไป 911 ตำรวจรับสายทันที คำแรกเราจำได้จนถึงตอนนี้ เราบอกตำรวจว่า Somebody broke into my apartment มีคนเข้ามาในห้องเรา เราบอกที่อยู่เรา ชื่อถนน เบอร์โทร ชื่อเรา ร้องไห้ไป แต่สติอยู่ดีทุกอย่างค่ะ

ไม่เกิน 10 นาที รถตำรวจมา จะบอกว่าฉากต่อไปนี้เหมือนดู CSA มากๆ แต่พอเราเป็นเหยื่อในเหตุการณ์จริง ไม่สลิงไม่แสตนด์ มันขำไม่ออกค่ะ มันไม่สนุกเลย


ตอบกลับความเห็นที่ 6
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 7
โอย อ่านไปลุ้นไป ขำไม่ออกเหมือนกันค่ะ

ขวัญเอยขวัญมา คุณพระคุ้มครอง เดี๋ยวมาอ่านต่อนะคะ ขอขั้นหน่อย อดใจไมไหว


ตอบกลับความเห็นที่ 7
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 8
ตอนแรกไม่มีตำรวจมา เรายังถือสายคุยกับ 911 ในโทรศัพท์

มีเสียงเคาะประตู แต่ไม่มีเสียงคน เราเลยถาม 911ในโทรศัพท์ไป ว่า มีคนมาเคาะประตู้ เป็นตำรวจรึเปล่า แล้วเราจะแน่ใจได้ยังไง ว่าเค้าเป็นตำรวจ

ตอนนั้นเค้าก็ wall กันอยู่ รถตำรวจเลยเปิดไฟ สาดเข้ามาในห้องเราค่ะ แต่ตำรวจไม่เปิดประตูเข้ามาทันที เราเห็นว่ามีตำรวจมาแล้ว ก็เลยแอบเอาหัวลอดไปดูว่านอกห้องมีใครอยู่มั้ย พอแน่ใจว่ามีแต่เราแล้ว เราเลยวิ่งไปเปิดประตูค่ะ

ปรากฎว่าประตูหลักเข้าบ้านยังล็อกอยู่ค่ะ เลยทำให้รู้ว่า มันไม่ได้เข้ามาทางประตูหลัก ...

ตำรวจเข้ามาประมาณ 4 คน สัมภาษณ์นู่นนั่นนี่ ให้เรานั่งลง สงบสติ สัมภาษณ์กันไปหลายรอบค่ะ ให้เล่าเรื่องซ้ำๆกัน

สุดท้ายตอนที่ค้นหาหลักฐาน เจอว่ามันงัดประตูเลื่อนที่ติดกับระเบียงบ้านเข้ามา มีร่องรอยแงะ (เหมือนว่าใช้ไขควง) อย่างชัดเจน ประตู้ก็เปิดโล่งไว้ทั้งบาน ซึ่งวินาทีนั้นแน่ใจมาก ว่าเราไม่มีทางสะเพร่าเปิดแบบนั้นแน่นอน เลยสรุปได้ว่ามันเข้ามาทางประตูเลื่อนค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 8
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 9
โอ้ ขวัญเอ๊ยขวัญมานะคะ

เราอยู่ต่างประเทศคนเดียวในแฟลตห้องแบบจขกท.เลย ประตูมีล็อกแบบใช้กุญแจล็อกอันเดียวเหมือนกันด้วย ทุกคืนก็ผวาๆเหมือนกันค่ะว่าใครจะเข้ามาห้องเรานี่ทำได้ง่ายเหลือเกิน ได้แต่เอาโทรศัพท์ไว้ข้างตัว กะว่าถ้าได้ยินเสียงใครเข้าแฟลตมาก็จะโทรเรียกตำรวจเลย


ตอบกลับความเห็นที่ 9
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 10
ตำรวจก็คุย ถาม นู่นนั่นนี่ซักพัก แล้วก็ถามว่าเรามีเพื่อนที่พอจะให้มาหาได้มั้ย

เราบอกว่ามีเราก็เลยโทรหาเพื่อนคนไทยค่ะ เพื่อนก็งัวเงียตกใจตื่นขึ้นมาทันที ซักพักประมาณ 15 นาที เพื่อนก็มาถึงอพาร์ทเมนต์เราทั้งชุดนอนค่ะ (ขอบคุณ และรู้สึกอุ่นใจจริงๆ ที่มีเพื่อนในเวลาแบบนี้)

ตำรวจบอกว่าต้องรอ นักสืบ Detective มาเพื่อสัมภาษณ์และพิสูจน์หลักฐานก่อน

ซักพักนักสืบก็มา และขอให้ทุกคนออกจากห้อง เหลือแต่เราเพื่อทำการสัมภาษณ์ค่ะ
ก็เริ่มด้วยการอัดเสียง ซักประวัติ และถามทุกอย่างละเอียดมาก

เริ่มตั้งแต่ว่า ก่อนเรากลับบ้านเราไปไหน อยู่กับใคร ที่เราไปปาร์ตี้วันเกิด มีคนแปลกหน้ามั้ย มีการใช้ยา หรือมึนเมารึเปล่า (เราบอกว่าไม่มี)

กลับมาเห็นอะไรผิดปกติ หรือเจอใครมั้ย (เราบอกว่าไม่เจอใคร)

ก่อนนอนทำอะไร นอนเวลาไหน เราก็ตอบไปว่าเราทำอะไรเรื่อยเปื่อยนอนไปตอนเที่ยงคืนครึ่งถึงตีหนึ่ง

แล้วก็ทวนฉากที่เล่าไปข้างบนทั้งหมดค่ะ
แต่ที่นักสืบถามละเอียด คือถามว่า โจรมันหน้าตาเป็นไง สูงต่ำดำขาว

เราบอกว่า เรารู้แต่ว่ามันเป็นคนดำ น่าจะหัวโล้น หรือสกินเฮด สูงและตัวใหญ่มาก เกือบถึงประตู (เกิน 180 แน่นอน) แล้วก็ค่อนข้างมีกล้าม นอกนั้นเราไม่เห็นจริงๆ

อ้ออ แล้วที่มันบอกว่ามีปืน เราก็พูดได้ไม่เต็มปาก เพราะเราไม่เห็นปืน แต่มันบอกว่ามีปืน ใครจะเสี่ยงจริงมั้ยคะ (ต่อให้ไม่มีเราก็คงสู้มันไม่ได้อยู่ดี)

แล้วก็ถามว่าเห็นมันช่วยตัวเองมั้ย เห็นไอ้นั่นของมันมั้ย ซึ่งเราเห็นแค่มันใช้มือชัก ไม่เห็นตรงนั้นค่ะ (มืดมาก)

ก็เล่ากันไปเกือบชั่วโมงนึงค่ะ จำได้ว่าเริ่มสัมภาษณ์ตีสีกว่าๆ เสร็จตอนตีห้านิดๆค่ะ

พอเสร็จ ตำรวจและนักสืบก็บอกว่า อยากให้ทิ้งของที่จำเป็นไว้แบบนั้น ห้ามขยับ เพื่อหาหลักฐานค่ะ ส่วนตัวเรา เค้าแนะนำว่าอย่าอยู่ที่นี่ต่อ เพราะไม่รู้ว่ามันจะกลับมาเมื่อไหร่ เลยให้ไปนอนกับเพื่อนแทน เพื่อนมากันสองคน ก็ช่วยกันเก็บของใช้ที่จำเป็น ตั้งใจว่าจะไปอยู่ค้างกับเพื่อน คืนวันพฤหัส และศุกร์ กลับมาเก็บของวันเสาร์แล้วย้ายออกทันทีค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 10
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 11
สรุปก็ไม่ได้นอนค่ะ เราก็ยังมีอารมณ์ว่า ไปถึงบ้านเพื่อน อาบน้ำแล้วก็แต่งตัวออกมาทำงาน ตอนเจ็ดโมงกว่าๆ พอดีค่ะ -_-"

พอสายหน่อยๆ ก็มีนักสืบอีกคนโทรมาขออนุญาตเข้าไปค้นห้อง หาหลักฐาน บอกว่าจะเอา backlight เข้าไปดูเผื่อมี DNA/ คราบอสุจิค่ะ

แต่ในใจเราคิดว่าไม่น่าจะมีอะไรหลงเหลือล่ะ เพราะมันไม่ได้เสร็จในห้องเรา ตำรวจล็อตแรกก็ส่องหาน้ำอสุจิแต่ก็ไม่เจออะไรค่ะ เลยคิดว่าคงชวดไปคราวนี้

เดี๋ยวจะกลับมาสรุปประเด็นนะคะ

ตอนนี้ต้องกลับบ้านเพื่อนแล้ว T_T ผวาจริงๆค่ะ ทั้งวันไม่เป็นอันทำอะไร


ตอบกลับความเห็นที่ 11
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 12
โห....น่ากลัวจังค่ะ ดีแล้วที่คุณไม่เป็นอะไร ขวัญมานะคะ แต่เราก็คงกลัวห้องนั้นไปเลยไม่กล้าอยู่คนเดียวล่ะค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 12
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 13
โขคดีครับที่ จขกท ไม่เป็นไร เป็นโจรสมัครเล่นแน่ๆถึงคลำหาสวิชท์ไฟ ส่วนมากเห็นถือแต่ไฟฉายเล็กๆกัน


ตอบกลับความเห็นที่ 13
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 14
อยู่เมืองไหนคะนี่ น่ากลัวจริง แต่จขกทมีสติดีมากเลยอ่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 14
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 15
คุณพระคุ้มครองนะคะ เสียขวัญไปหน่อย เป็นกำลังใจให้ค่ะ มีสติไว้ทุกอย่างจะ่คลี่คลายไปด้วยดีค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 15
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 16
ให้กำลังใจนะคะ ขอบคุณที่นำเรื่องมาแบ่งปันให้ได้ระวังตัวกัน อ่านแล้วดีไม่ดีไอ้โจรนั้นอาจจะเป็นคนที่พักในอพาร์ทเม็นต์นั้น ที่อาจจะแอบดูการเข้า-ออกของคุณ จขกท. มาเรื่อย ๆ ก็ได้นะคะ ยังไงถ้าย้ายไปที่ใหม่คงต้องหาซื้อที่ล็อคด้านในที่เป็นแบบโซ่มาติดประตูเพิ่มน่าจะดี ตอนที่ยังพากันเช่าอพาร์ทเม็นต์อยู่ก็จะพากันซื้อที่ล็อกแบบเป็นโซ่มาล็อคด้านในเพิ่มอีกตลอด ขนาดตอนนี้อยู่บ้านตัวเอง ที่บ้านก็ยังติดที่ล็อกแบบโซ่เพิ่มเลยค่ะ ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้เป็นเมืองที่น่ากลัวนะ แต่ป้องกันไว้ก็ดี อย่างน้อยเวลาอยู่บ้านกลางค่ำกลางคืนเราล็อกด้านในไว้แน่นหนาก็สบายใจดีน่ะ เผื่อมีอะไรหรือมีคนมาเคาะก็จะได้ดูและมีที่ล็อคด้านในไว้อยู่

ปล. อ่านตรง คห. 5 แล้วก็อดขำกับพฤติกรรมโจรไม่ได้เหมือนกัน แสดงว่าโจรยังมีใจอ่อนอยู่น่ะ อย่างน้อยมันก็ไม่ได้ทำอะไรคุณ จขกท. มากไปกว่านี้ แต่ไม่ว่าจะแบบไหนก็ไม่ขอเจอดีกว่าค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 16
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 17
คุณ Jazzio โชคดีมากที่โจรมันไม่ทำอะไร และคุณก็มีสติดีมาก

ประตูเลื่อนควรหาแท่งไม้กลมๆ หนาประมาณหนี่งนิ้วความยาวก็เท่ารางประตู
ดันเอาไว้มันก็จะเลื่อนไม่ได้ ถ้าหน้าต่างเลื่อนก็ทำแบบนี้ด้วยค่ะ

ไม้อันนี้เราซื้อมาจาก Home Depot ประมาณ $2 เองค่ะ

ตอบกลับความเห็นที่ 17
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 18
แวะมาให้กำลังใจจขกท. ค่ะ เราว่า ย้ายออกจากอพาร์ทเม้นท์ตามที่คุณตำรวจแนะนำเถอะค่ะ

ปล. ฝากชื่นชมคุณตำรวจที่นั่นด้วยนะคะ


ตอบกลับความเห็นที่ 18
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 19
จะมาแนะนำแบบคุณตกตะกอน แต่ว่าเราอยู่มา 10 ปีก็ยังไม่ได้ซื้อ สงสัยต้องไปซื้อมาแล้ว

ขวัญเอ๋ยขวัญมา ยังดีที่คุณมีสติและก็คนร้ายไม่ได้ทำอะไรมากกว่านั้น


ตอบกลับความเห็นที่ 19
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 20
เคราะห์ดีที่คุณ จขกท รอดมาได้
ขอให้ได้อพาร์ทเม้นท์ใหม่ ปลอดภัยกว่าเดิมนะคะ


ตอบกลับความเห็นที่ 20
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 21

อ่านเเล้วใจหายใจคว่ำตาม เดชะบุญคุณพระคุณเจ้าช่วยคุ้มครองให้น้อง จขกท อยู่รอดปลอดภัยมาได้
เราชอบดู Crime channel เคสเเบบนี้ รอดมาเเบบไม่มีรอยขีดข่วนเเบบน้องยากมากๆ น้องโชคดีเเท้ๆ

มีเคสหนึ่ง ขนาดผู้หญิงกับเเฟนของเธอ (ยังไม่ได้เเต่งงานกัน) นอนหลับในบ้านอยู่ด้วยกันเเท้ๆ คนร้ายงัดเเงะเข้าไปเจอ
มันยังฆ่าผู้ชาย (เเทง) เเล้วข่มขืนผู้หญิงเลย ไม่เเน่ใจว่าทำไมคนร้ายไว้ชีวิต เเต่เเค่นี้ชีวิตเธอก็เเทบไม่เหลือเเล้ว

กรณีนี้คนร้ายน่าจะเป็นมือใหม่อย่างที่ว่า มีที่ไหนไฟปิดอยู่เเต่พยายามจะเปิดไฟให้เหยื่อเห็นหน้าซะงั้น



ตอบกลับความเห็นที่ 21
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 22
ขวัญเอ๋ย ขวัญมา โชคดีแล้วที่มันไม่ทำร้ายหรือข่มขืน

ขอให้ต่อไปมีแต่เรื่องดีๆ เข้ามาในชีวิตนะคะ


ตอบกลับความเห็นที่ 22
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 23
คุณโชคดีมากๆเลยนะที่ไม่ได้ถูกทำร้ายร่างกายหรือข่มขืน
ขอบคุณมากๆที่มาเล่าประสบการณ์ให้ฟังกัน จะได้ป้องกัน รอบคอบไว้ก่อนเพราะอะไรก็เกิดขึ้นได้

เราเองอยู่บ้านที่เป็นเขตที่อยู่อาศัยที่มีความปลอดภัยสูง เราไม่ล็อคบ้านเลย แถมมีทางเข้าออกสองทางทั้งหน้าบ้านและหลังบ้าน
ต่อไปนี้คงจะระวังให้มากขึ้นเพราะไม่รู้เหตุร้ายจะเกิดขึ้นกับเราตอนไหน......


ตอบกลับความเห็นที่ 23
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 24
ขอบคุณที่แบ่งปัน

เราอยู่เมืองที่มีอาชญากรรมสูงค่ะ มีเคสแบบคนกลับดึกแล้วโดนปล้นตอนไขกุญแจเข้าห้องก็เยอะ กระชากสร้อยก็เยอะ มากดกริ่งหน้าบ้านแล้วกระชากสร้อยไปก็มี

เราใช้ไม้ขัดประตูบานเลื่อนแบบ คห ข้างบน

บางทีเราไปนอนตามโรงแรม ถ้าตรงไหนมีหน้าต่างที่คนจะปีนเข้าง่าย สามีเราก็เอาไม้แขวนเสื้อไปขัดไว้ แล้วที่ประตูก็เอาเก้าอี้ไปขวาง
เรามี alarm แบบพกพา ทำได้หลายเสียง มีเสียงแบบ 7-11 เสียงหวอ คุณ จขกท ไปซื้อมาไว้ก็ดีค่ะ อย่างน้อยช่วงขวัญผวาเนี่ย จำเป็นเลย


ตอบกลับความเห็นที่ 24
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 25
เห็นใจจขกทมากค่ะ คุณเข้มแข็งมากนะคะ นึกไม่ออกว่าเป็นเราคงยืนไม่ไหว หรือเป็นลมไปแล้ว ต่อไปก็ขอให้อยู่อเมริกาอย่างปลอดภัยนะคะ

ตอนนี้อยู่เมืองไทยก็อันตรายไม่แพ้ที่ใดในโลกค่ะ เราทำแบบคุณตกตะกอนเปี๊ยบเลย คือเอาท่อนไม้หรือราวม่านที่เหลือๆ มาวางในรางหน้าต่างและประตูเลื่อน
รู้วิธีนี้โดนบังเอิญ เนื่องจากไม้ถูพื้นร่วงไปขัดประตูเปิดไม่ได้


ตอบกลับความเห็นที่ 25
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 26
ขอบคุณที่แชร์เรื่องให้ได้อ่านจะได้ระวังตัวมากขึ้น
โชคดีที่จขกท.รอดปลอดภัย

ขอให้พระคุ้มครองนะคะ


ตอบกลับความเห็นที่ 26
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 27
ขอบคุณที่แชร์กันนะครับ
ผู้หญิงอยู่บ้านคนเดียว อันตรายจริงๆ

ถือเป็นประสบการณ์ ให้ระวังตัวเพิ่มขึ้นนะครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 27
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 28
ขวัญเอ๋ย ขวัญมาค่ะ คุณ จขกท. คุณโชคดีมากๆ ค่ะ ที่ไม่ถูกทำร้าย ไม่ถูกข่มขืน อย่าลืมไปทำบุญด้วยนะคะ หรือให้
ทางบ้านที่เมืองไทยทำบุญทำทานทำสังฆทานให้คุณค่ะ

เราเคยเจอเหตุการณ์แนวๆ นี้มาเหมือนกันค่ะ ทั้งที่เมืองไทย และที่ต่างประเทศ เจอมาอย่างน้อยๆ ก็ 4-5 ครั้งค่ะ
(4-5 ครั้งนี่ ในรอบหลายสิบปีนะคะ ต้องบอกกก่อน ไม่งั้นเด๋วจะคิดว่าทำไมเยอะจัง)
แต่คนร้ายไม่เคยเข้าถึงตัวเราค่ะ เพราะเราจะระวังตัวอยู่เสมอ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนในโลกนี้ ประตู หน้าต่าง ซอก หลืบ
จะเช็คตลอด และจะสังเกตความผิดปกติดเสมอ สังเกตคนรอบข้าง แต่บางครั้งมีเผลอ ไม่ระวังเช่นกัน โดยเฉพาะถ้าอยู่
กันหลายๆ คน แต่ถ้าอยู่คนเดียวจะระวังสิ่งรอบข้างสังเกตสิ่งและผู้คนรอบข้างตลอด และ จะไม่นำพาตัวไปอยู่ในที่เสี่ยง
เด็ดขาด ไม่ว่าจะเป็นที่พัก หรือ โรงแรม และ ไม่เปิดประตูให้คนแปลกหน้าเด็ดขาด

เวลานอน เราจะเอามือถือที่ปิดไว้ และโทรศัพท์เบอร์ธรรมดาแบบไร้สาย ไว้ข้างๆ เสมอ พร้อมทั้งไฟฉายกระบอกเล็กๆ ค่ะ
เราไม่เคยไว้ใจเมืองไหนในโลกนี้ทั้งสิ้น เวลาที่อยู่ลอนดอน ซิดนี่ย์ สิงคโปร์ โตเกียว ปารีส ฯลฯ เราระมัดระวังตัวเท่ากับ
ตอนอยู่กรุงเทพฯ ค่ะ และถ้าอยู่เมืองไทยรอด รู้จักดูแลตัวเองได้ในเมืองไทย รับรองว่ามีภูมิคุ้มกันแน่นหนาค่ะ

เวลาไปข้างนอก เราพกไฟฉายเล็กๆ ด้วยตลอดค่ะ เพราะอาจจะไปเจอรถไฟใต้ดินหยุดกลางทางนะคะ หรือ ไปอยู่ใน
สถานที่ๆ ไฟดับโดยไม่ทันตั้งตัวค่ะ

อย่าคิดว่าที่อยู่ปลอดภัย แต่ให้คิดว่าไม่ปลอดภัยเอาไว้ก่อนค่ะ จะได้ระมัดระวังตัวกัน
หรือยกตัวอย่างสิงคโปร์ เป็นประเทศที่ปลอดภัยมาก แต่ทางการมีคำขวัญมาเตือนประชาชนเสมอ ว่า
Low crime, does not mean no crime ค่ะ

อ่านกระทู้นี้แล้ว นึกถึงกระทู้ของคุณเชอร์รี่ ชอบดื่มwineค่ะ ที่เธอเคยมาเล่าเมื่อไม่นานมานี้เองว่า มีคนมาขอใช้โทรศัพท์
ตอนดึกๆ ตอนที่เธอกลับมาจากข้างนอกนะคะ มาขอตรงรั้วบ้าน แล้วเธอก็เอาโทรศัพท์ออกมาให้เขาใช้ เธอก็ปลอดภัย
เช่นกันไม่ได้โดนทำร้ายไม่ได้โดนจี้ปล้นไม่โดนข่มขืน

หรืออย่างสวิทเซอร์แลนด์ ที่คนไทยมากมายไฝ่ฝันอยากจะไปกันสักครั้งในชีวิต เรามีเพื่อนผู้หญิงฝรั่งชาวสวิส
โดนข่มขืนนะคะเธอออกไปเที่ยว แล้วเมากลับบ้าน คนร้ายสะกดรอยตามมา แฟลตของเธออยู่ชั้นล่าง เธอชอบนอนเปิด
หน้าต่าง คนร้ายเข้ามาทางหน้าต่างค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 28
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 29
จขกท. โชคดีมากๆ เลยที่ไม่เป็นอะไร...อ่านไปใจหายตามไปด้วย...ตอนนี้ จขกท.คงโอเคแล้วนะคะ ถ้ายังไงก็ไปนอนกับเพื่อนก่อนดีกว่าค่ะ

เคยได้ยินว่าพวกประตูบานเลื่อนนี่ควรหาอะไรมาล็อคหรือขัดไม่ให้เลื่อนได้ ส่วนใหญ่พวกโจรร้ายชอบงัดเข้าบ้านที่อยู่ชั้นแรกมากกว่าชั้นบน ต้องระวังกันดีๆ นะคะ ช่วงนี้คนตกงานเยอะขโมยเลยชุม...

รออ่านต่อนะคะ...


ตอบกลับความเห็นที่ 29
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 30
อ่านแล้วขนลุกเลยค่ะ น่ากลัวมาก แต่ยังดีที่มันไม่แตะต้องคุณนะคะ
ขวัญเอ๊ยขวัญมา


ตอบกลับความเห็นที่ 30
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 31
อ่านแล้วอึ้ง จขกทโชคดีมากที่โจรมันยังเป็นคนดีอยุ่บ้าง
น่ากลัวมาก ขวัญเอ๋ยขวัญมานะคะ

พูดแล้วแฟลทเราที่อังกฤษก็อยู่ชั้นหนึ่งเหมือนกัน มีสองชั้นแต่ห้องนอนเราอยู่ชั้นหนึ่ง หน้าต่างใหญ่มาก
ประตูบ้านก็มีกลอนเป็นโซ่เพิ่มอย่างเดียว แอบน่ากลัวเหมือนกันแต่ไม่มีอะไรเท่าที่อยู่มา ถ้าอ่านตอนอยู่ที่นู่นเราคงหลอนมากไปแล้ว Y_Y


ตอบกลับความเห็นที่ 31
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 32
ขอบคุณสำหรับเรื่องราวครับ เป็นไปได้ไงเนี่ยแต่นับว่าคุณโชคดีมาก


ตอบกลับความเห็นที่ 32
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 33
ไม่แน่ใจว่าตำรวจพิมพ์ลายนิ้วมือแฝงรึเปล่า ถ้าคนร้ายไม่ใส่ถุงมือ น่าจะพบตอนเปิดบานเลื่อน หรือตอนพยายามเปิดไฟ


ตอบกลับความเห็นที่ 33
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 34
ขอบคุณมากๆๆนะคะที่เอามาแชร์ เรากำลังมีแพลนจะไปเมกาอยู่เลยค่ะเนี่ย ผู้หญิงคนเดียวด้วย T^T ไม่ทราบว่าคุณ Jazzio อยู่เมืองไหนอะคะ โชคดีมากๆที่ไม่ได้ถึงขั้นลงไม้ลงมือเอาชีวิต เราว่าเค้าค่อนข้างฉลาดทีเดียวเพราะหากมา touch คุณ อาจจะทิ้งรอยนิ้วมือ หรือทิ้งคราบอสุจิ แล้วตำรวจสามารถสาวตัวไปถึงได้ (เป็นไปไำด้หรือเปล่าว่าอาจจะเพิ่งพ้นโทษออกจากคุก?) ถ้ายังไงแนะนำให้ช่วงนี้ทำบุญมากๆ รักษาศีล5 สร้างบุญสร้างกุศลนะคะ ขอให้เรื่องร้ายๆไม่มาเยือนและความทรงจำแย่ๆลบเลือนไปอย่างเร็วไวค่ะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ ^_^


ตอบกลับความเห็นที่ 34
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 35
จขกท มีสติมาก ใจเย็นๆไม่เป็นไรนะครับ มันผ่านไปแล้ว เก็บไว้เป็นสิ่งเตือนใจให้เราไม่ประมาทมากขึ้นแล้วกันครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 35
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 36
เป็นกำลังใจให้ครับ ขอให้ช่วงเวลาเลวร้ายผ่านไปด้วยดี


ตอบกลับความเห็นที่ 36
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 37
มาเป็นกำลังใจให้และขอบคุณนะคะที่มาแชร์ประสบการณ์ให้อ่านค่ะ
จขกท.โชคดีมากๆนะคะที่ไม่โดนโจรทำอะไรคุณ คุณมีสติมากๆเลยค่ะ ตอนนี้ไม่เป็นไรแล้วนะคะ
เป็นผู้หญิงคนเดียวยังไงก็ต้องระวังตัวไว้เสมอนะคะ ตอนนอนเอาอะไรมาวางดันประตูไว้ก็ได้นะคะ
ยังไงก็พกมือถือไว้ตรงหมอนก็ดีนะคะ เผื่อมีเรื่องฉุกเฉินจะได้ช่วยได้ อย่าลืมตั้งเบอร์ฉุกเฉินไว้ด้วยนะค


ตอบกลับความเห็นที่ 37
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 38
ไม่เป็นไรแล้วนะคะ ขวัญเอ๋ยขวัญมา
เป็นกำลังใจให้นะคะ ระวังเนื้อระวังตัว
อย่าไปเครียดค่ะมันผ่านไปแล้ว


ตอบกลับความเห็นที่ 38
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 39
น่ากลัวมากคะ คุณพระคุ้มครองนะคะ


ตอบกลับความเห็นที่ 39
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 40
ขอบคุณที่นำเรื่องนี้มาแชร์นะคะ

ดีใจที่คุณปลอดภัยนะคะ พระคุ้มครองค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 40
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 41
ถ้าเป็นที่ไทยผมว่าคุณคงโดนข่มขืนแล้วฆ่าล่ะครับ จริงๆนะครับ ลองคิดดู โจรที่นั้นคงกลัวบทลงโทษมากๆเลย มันเลยไม่ทำไรเกินเลย แต่ที่ไทยบทลงโทษมันอ่อนครับ

โชคดีจริงๆที่ผ่านมาได้โดยไม่เป็นอะไร
ขอให้หาตัวมันให้เจอนะครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 41
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 42
รอบๆบริเวณอพาร์ตเมนท์ไม่มีกล้องวงจรปิดเหรอครับ ตำรวจน่าสืบสวนได้ไม่ยาก แต่ประเด็นที่น่าสนใจมากในเคสนี้คือทำไมโจรถึงไม่ข่มขืนคุณทั้งๆที่มันมีอารมณ์หื่นขนาดนั้น ผมว่าผู้ชาย เก้าในสิบคงไม่ปล่อยไปแน่ๆผมเข้าใจว่าคงเป็นคนที่เคยเห็นคุณมาก่อนและเป็นคนมีปัญหาทางเพศ สำเร็จความใคร่ก็ยังไม่เสร็จ เป็นมือสมัครเล่นแน่นอนและผมเชื่อว่าหากตำรวจควาญหาตัวไม่ได้ มีโอกาสกลับมาอีกสูงเพราะใจมันคงหวนนึกถึงภาพตอนนั้นอยู่ ระวังตัวมากๆหรือย้ายไปอยู่ที่อื่นเลยก็จะดีครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 42
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 43
โชคดีเหลือเกินค่ะที่ไม่เป็นอะไร ขอให้พระคุ้มครองนะคะ รีบย้ายที่พักโดยด่วนเลยค่ะ อันตรายจริง ๆ


ตอบกลับความเห็นที่ 43
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 44
ขอบคุณมากคะที่มาเล่าประสบการณ์ให้อ่านกัน
พระเจ้าคุ้มครองนะคะ โชคดีมากๆอ่านแล้วเข้าใจเลยคะว่ารู้สึกยังไง แบบนี้ต่อไปน่าจะหาเพื่อนมาอยู่ด้วยนะคะ จะได้สบายใจมากขึ้น


ตอบกลับความเห็นที่ 44
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 45
ลองสั่งซื้อกล้องวงจรปิด มาไว้ก็ดีครับ เอาแบบที่เป็นบันทึกๆวนๆ ก็ได้ครับ ยังดีกว่าไม่มี
ราคาขอถูกๆ จากจีน มีขายใน ebay เอามาติดไว้ครับ จะได้ปลอดภัยระดับหนึ่ง


ตอบกลับความเห็นที่ 45
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 46
แม่คุณเอ้ยอ่านแล้วกลั้นใจตาม
อย่างแรกขอบคุณที่แชร์ประสบการณ์นะคะ
อย่างที่สองดีใจด้วยที่คุณโชคดีไม่โดนทำอะไรไปกว่าโชว์ก้นให้ไอ้บ้านั่น

เฮ้อ อ่านแล้วนึกถึงพวกซีรี่ส์สืบสวนที่ชอบดู
ถ้าเป็นเรา เราเป็นลมตายไปตั้งแต่มันบอกว่ามีปืนแล้ว
จขกทอายุใกล้เราเลย แถมอยู่ต่างประเทศคนเดียวเหมือนกันอีก ชอบอยู่ชั้นล่างเพราะย้ายของง่ายเหมือนกันอีก
แต่เรานี่เพื่อนคนไทยอะไรก็ไม่ค่อยมี
เฮ้ออออออ


ตอบกลับความเห็นที่ 46
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 47
คุณเข้มแข็งและมีสติมาก โชคดีด้วยที่มันไม่ทำอะไรมากกว่านี้ อ่านจบ ดิฉันลุกสำรวจล็อครอบๆบ้านเลย ว่าจะติดโซ่เพิ่มด้วย กลัว

ขอบคุณนะคะที่เล่าเรื่องมาเตือนสติ


ตอบกลับความเห็นที่ 47
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 48
>> จขกท ค่ะ

ไม่นึกว่าจะได้ขึ้นกระทู้แนะนำ แต่ก็ดีใจที่จะเป็นอุทธาหรณ์นะคะ

เมื่อคืนหายไปเลย เพราะกว่าจะออกจากที่ทำงานก็เกือบสองทุ่มแล้ว
ที่บริษัทไม่ได้บังคับทำนะคะ แต่คิดว่าอยู่กับเพื่อนๆ ทำงานไปเรื่อยเปื่อยดีกว่า ต้องไปอยู่คนเดียว

เมื่อคืนนอนบ้านเพื่อนค่ะ แต่นอนคนเดียวในห้องนะคะ จะว่าไปก็ตื่นเต้นอยู่เหมือนกัน ลุ้นตัวเองว่าจะนอนได้ไหม เพราะว่าเป็นคืนแรกหลังจากเกิดเหตุการณ์

ปรากฎว่าพอได้อยู่คนเดียว มันก็ผวาค่ะ ไม่ได้กลัวความมืด แต่ผวาว่า จะมีคนเปิดประตูผัวะเข้ามา เราคงสะดุ้งลุกขึ้นแบบไม่คิดเลยค่ะ (ทั้งที่เป็นบ้านเพื่อนแท้ๆ)

แต่ยังดีเพื่อนให้ความร่วมมือ ไม่มีมาเคาะถามหาอะไร สงบสติซักพัก คิดถึงเรื่องที่ผ่านมา มันยังติดตาอยู่บ้างเหมือนกัน โดยรวมก็หลับเป็นตาย ไม่ฝันร้ายอะไรค่ะ ^^"

สงสัยเพราะเหนื่อย แล้วร่างกายคงไม่ไหวแล้วมากกว่าอะนะ


ตอบกลับความเห็นที่ 48
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 49
ตอบคำถามค่ะ

- เราอยู่ชั้นหนึ่ง คิดว่าไม่มีวงจรปิดนะคะ เพราะว่าถ้ามีต้องมีเยอะมาก มันเป็น apartment complex แบบ low rise และมี ประตูรั้วใหญ่เท่านั้นค่ะ ถ้าถามว่าจะมีคนปีนป่าย หรือมาจากห้องข้างๆก็เป็นไปได้สูงค่ะ

-พูดถึงเรื่องป้องกันตัว คิดกลับไปแล้ว ยังไงเราไม่มีความสามารถในการสู้ได้แน่นอน ณ สถานการณ์นั้น มันมาตอนเรานอนอยู่ ให้ลุกขึ้นไปเทควันโด ฟาดหางจระเข้ก็คงไม่ได้ เพราะตอนเรานอนอยู่ มันก็ตะโกนมาแล้วว่ามันมีปืน

ในห้องต่อให้มีไม้เบสบอล ถ้าเอามือไปหยิบ แล้วมันมีปืนจริงๆ คงโดนยิงไปแล้วค่ะ
(แต่ก็ไม่แน่ใจอยู่ดีว่ามีหรือไม่มี กลัวไว้ก่อนอะนะ)

ต่อให้เราลุกทัน ตัวเค้าใหญ่มากค่ะ แทบจะเต็มประตู เราคงสู้ไม่ไหวจริงๆ ของข้างเตียงไม่มีอะไรเอาไปฟาดได้ ขอตายดีกว่า T_T

-- รอดมาได้ไง????

คุยกับตำรวจ คุยกับเพื่อน หรืออะไรใดๆ ยังนึกหาเหตุผลไม่ออกว่ารอดมาได้ยังไง
รอดมาแบบไม่โดนทำร้าย ไม่เสียทรัพย์สินอะไรเลย ยังงงๆ ปนดีใจ ปนตกใจ

ทุกคนบอกตรงกันว่า ถ้าถึงขั้นประชิดตัวสองต่อสองขนาดนี้แล้ว ไม่มีรอด ไม่เจ็บตัว โดนข่มขืน ก็ต้องเอาเงินไปบ้าง นี่มันเดินออกไปปเฉยๆเลย

เพื่อนเราสันนิษฐานเหมือนกันว่าอาจจะเป็นผู้อาศัยแถววนั้นที่แบบกำลังมีอารมณ์แล้วอาจจะอยากรีบกลับไปต่อที่ห้อง เพื่อนบางคนก็แซวว่าเราคงไม่ใช่สเปค -_-"


ตอบกลับความเห็นที่ 49
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 50
ความโชคดี

โชคดี ที่มันเปิดไฟไม่ได้ค่ะ เพราะถ้ามันเปิดไฟ แล้วเห็นว่าเราไม่มีตังอาจจะโกระ

โชคดีที่มันเปิดไฟไม่ได้ ไม่เห็นหน้าเรา มันเห็นเป็นคนเอเชียอาจจะเกิดอารมณ์มากขึ้น หรืออาจจะคิดว่า เราเป็นคนส่ววนน้อย ทำอะไรแล้วฆ่าทิ้งคงไม่มีใครสนใจ

โชคดีที่สุด คือ ณ จุดนั้นที่สามารถควบคุมสติอย่างมากที่สุด
ไม่กรี๊ด ไม่โวยวาย ทำตามที่มันบอกทุกอย่าง

มันบอกให้เราเบาเสียง เราก็เบา
มันบอกให้เราทำอะไร เราก็ทำ

สติ เป็นสิ่งสำคัญที่สุดจริงๆ ค่ะ คิดไม่ออกว่าถ้าเราสติแตก ร้องไห้โวยวาย แล้วมันตกใจมากกว่านี้ เราอาจไม่มีชีวิตมาเล่าแบบนี้แล้วค่ะ T_T


ตอบกลับความเห็นที่ 50
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 51
โชคดีมากๆจริงๆค่ะ

ขอบคุณที่เอามาเล่าให้ฟังนะคะ


ตอบกลับความเห็นที่ 51
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 52
to be continued

-จนถึงตอนนี้ยังไม่ได้ข่าวจาก จนท นะคะ ว่าจะทำอะไรยังไง

-ยังไม่ได้ติดต่อ leasing office นะคะ แต่ทางตำรวจก็ได้แจ้งไปทางเจ้าของอพาร์ทเมนต์แล้ว โดยปกติอีกไม่กี่วัน เพื่อนบ้านทุกคนก็จะได้จดหมายไปเสียบที่ประตูค่ะ ว่าให้ระวังเพราะมีโจรที่ยังจับตัวไม่ได้ประมาณนี้

- จขกท จะระดมเพื่อนหลายๆคนไปเก็บของเสาร์นี้ (เอาแบบวันเดียวเสร็จ) แล้วย้ายของเข้าที่ใหม่ทันทีค่ะ ส่วนสภาพจิตใจ คิดว่าจะนอนที่บ้านเพื่อนไปก่อน เพื่อนแนะนำว่าเรายังไม่ควรนอนอยู่บ้านคนเดียว เอาให้ความตื่นเต้นมันเจือจางลงกว่านี้ซักพัก

- ที่ใหม่อาจต้องลองหาระบบป้องกันที่มากขึ้น ตามที่คห ข้างบนแนะนำ ตำรวจก็แนะนำค่ะ ว่าคานรูปตัว U ที่วางระหว่างลูกบิด กับพื้น เพื่อกันคนทะลายประตูจะปลอดภัยที่สุด

โซ่คล้อง ไม่ช่วยค่ะ
ประตูล็อก ก็ไม่ช่วยค่ะ
dead bolt ก็งัดได้ง่ายค่ะ
T_T สรุปก็คือเหมือนว่า ถ้ามันอยากเขัาจริง เข้ายากเข้าง่ายก็จะเข้ามา แต่ถ้าเข้ายากหน่อยอาจจะทำให้มันถอดใจ

- อยู่คนเดียว? ก็คงต้องอยู่คนเดียวต่อไปค่ะ ไม่มีทางเลือกในการย้ายไปอยู่กับเพื่อน เพราะไม่สะดวกเท่าไหร่ จริงๆที่นี่คนอยู่คนเดียวก็เยอะ ผู้หญิงโสดคนเดียวก็เยอะมากค่ะ ในอพาร์ทเมนต์เราก็เป็น community ที่โอเคนะ คือมีทั้งคนเกษียร เด็กนักเรียนมหาลัย คนเม็กซฺิกัน คนดำ เอเชีย สาวทำงาน ปะปนกันไป

เราอยู่มาอย่างจะครบปี (จริงๆครบสัญญาแล้วจะย้ายออกอาทิตย์ที่ 22 กันยาแล้ว) ก็ไม่ได้ยินเรื่องร้ายแรงอะไรค่ะ แล้ว area นี้ เพื่อนที่อยู่ใกล้ๆ ก็เป็นคนแนะนำ เพราะว่าเพื่อนเราเองก็อยู่มาหลายปีแล้วค่ะ ไม่ได้จัดเป็น crime area แต่อย่างใด

แต่ตอนนี้ห้องเรากลายเป็น Crime Scene ไปแล้วนะเออ ^^"


ตอบกลับความเห็นที่ 52
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 53
อันนี้เอารูปมาให้ดูค่ะ คุณตำรวจบอกว่า แบบนี้น่าจะปลอดภัย สำหรับประตูแบบเปิด
คือถ้ามีคนถีบ คนแงะ จะเข้ามาไม่ได้ค่ะ (ดีกว่าลูกโซ่ และประตูล็อกทั่วไปค่ะ)


จริงๆ เป็นไม้ก็พอค่ะ ไม่ต้องแบบมีติดสัญญาณด้วย อันนี้เป็นภาพที่เราหาได้ใน google นะคะ


ตอบกลับความเห็นที่ 53
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 54
ส่วนของเรามันเข้ามาทางประตูบานเลื่อน กรณีป้องกันข้างบนก็เลยยังช่วยไม่ได้อยู่ดี

จริงๆ ห้องเรามีบาร์คั่นนะคะ เป็นบาร์เหล็ก แล้วก็มั่นใจว่าเราขัดไว้ด้วย
แต่อาจจะไม่ได้ขัดแน่น เลยเลืือนหลุดได้

ที่ป้องกันได้เพิ่มขึ้นคือตัวกันเลื่อนแบบนี้ค่ะ มีทั้งขนาดเล็กใหญ่ หาซื้อได้ตาม home depot นะคะ ใช้ได้ทั้งหน้าต่างเลื่อน และประตูเลื่อนค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 54
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 55
อ่ออ ส่วนคุณตำรวจแนะนำกรณี bar สำหรับบานเลื่อน บอกว่าหลายๆกรณี ไอ้แทงอลูมิเนียมก็ไม่พอนะคะ (น่ากลัวเกินมั้ยนะ)

ตำรวจแนะนำแบบประหยัดค่ะ ให้วัดความกว้าง แล้วไปหาซื้อไม้หนาประมาณ 3 นิ้วให้เค้าตัด แล้วเอามาสับคั่นประตูค่ะ จะแน่นหนากว่า


ตอบกลับความเห็นที่ 55
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 56
ขวัญเอ๋ยขวัญมานะน้อง
ไหว้พระสวดมนต์ก่อนนอน อุทิศส่วนกุศลให้เจ้ากรรมนายเวรไป จะได้ปลอดภัยกลับมา


ตอบกลับความเห็นที่ 56
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 57
แวะเข้ามาให้กำลังใจค่ะ
โชคดีที่ไม่เป็นอะไร
น่ากลัวมากเลย
รักษาเนื้อรักษาตัวด้วยน่ะค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 57
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 58
ขวัญเอ๊ย ขวัญมาค่ะ
สติช่วยได้ทุกอย่างจริงๆ


ตอบกลับความเห็นที่ 58
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 59
ให้เเง่คิดด้านสติดีจริงๆคะสติเท่านั้นที่ทำให้เราผ่านพ้นมันไปได้ไม่ว่าด้วยเรื่องอะไร
จขกท....เก่งมากคะที่ผ่านมากได้....ผ่านเรื่องร้ายๆมากเเล้วก็ขอให้มีเเฟนเร็วๆนะคะจะได้ไม่ต้องอยู่คนเดียว.....เพราะมันเหงาคะอิอิอิล้อเล่นนะคะ


ตอบกลับความเห็นที่ 59
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 60
ลุ้นไปด้วยจริงๆ
ขอให้คุณพระคุ้มครองนะคะ

โชคดีที่ไม่เป็นอะไรค่ะ
ต่อไปขอให้ปลอดภัยและอย่าเกิดเรื่องแบบนี้อีกเลย

อยู่เมืองอะไรคะ?


ตอบกลับความเห็นที่ 60
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 61
จขกท. โชคดีค่ะที่แคล้วคลาดมาได้
เพราะสติดีมากด้วย

บุญรักษานะคะ อย่าได้เจอเรื่องร้ายๆ อีก


ตอบกลับความเห็นที่ 61
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 62
มาให้กำลังใจคุณJazzio (จขกท) ให้ผ่านพ้นประสบการณ์ที่น่ากลัวนี้ไปด้วยดี เป็นเรื่องที่น่าตกใจและน่ากลัวสำหรับผู้หญิงทุกคน เป็นอุทาหรณ์ให้ระมัดระวังตัวยิ่งขึ้น เห็นด้วยกับคุณ Been there, done that! (ความเห็นที่28) ทางสิงคโปร์ที่ว่า low crime doesn't mean no crime.
ตอบกลับความเห็นที่ 62
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 63
เรื่องประตูเลื่อน ลองใช้เพิ่มอีกแท่งตรงกลางหรือด้านบนนะคะ ดิฉันใช้วิธีซื้อที่แขวนผ้าม่านทีมันสามารถหมุนเลื่อนปรับความยาวได้(หาซื้อที่วอลมาร์ทเอาแบบแข็งแรงมากหน่อยราคาน่าจะสิบกว่าเหรียญขึ้น) คือตรงด้านล่างสุดที่ติดกับพื้นก็ใช้ไม้ท่อนนึงคั่น ส่วนด้านบนใช้ที่แขวนผ้าม่านแบบแข็งแรง ๆ หน่อยคั่น แค่ที่ล็อคประตูเลื่อนมันไม่พอน่ะ

ปล. แต่จะว่าไปแล้วถ้าดวงคนเราจะซวย ต่อให้ป้องกันแบบไหน เกิดเป็นโจรร้าย ๆ มันก็อาจจะพังกระจกเข้ามาได้อยู่ดีล่ะเนาะ แต่ป้องกันไว้ก่อน ถ่วงเวลาไว้หน่อยก็ดี


ตอบกลับความเห็นที่ 63
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 64
แวะมาช่วย จขกท ตอบ พอดีอยากรู้เหมือนกันว่าอยู่ที่ไหน เราเองอยู่ Castro Valley,CA
ตามไปดูบล็อกมา เห็นว่าอยู่ แอตแลนต้า นะคะ ยังไง จขกท ช่วยยืนยันอีกทีนะ

จขกท ตั้งสติได้ดีมาก เราว่าจริงๆเค้าไม่มีปืนหรอก ทรัพย์สินก็ไม่ใช่อยากจะได้อะไรมาก เพราะไม่งั้นคงหยิบอย่างอื่นไปด้วยแล้ว ได้ไปไม่กี่เหรียญเอง น่าจะเกิดอารมณ์มากกว่า แล้วอย่างที่ คห อื่นบอก คิดว่าเป็นคนในคอมเพล็กซ์แหละค่ะ ถึงรู้ว่า ห้องนี้เป็นผู้หญิงอยู่คนเดียวอ่ะค่ะ

พระเจ้าคุ้้มครองนะคะ


ตอบกลับความเห็นที่ 64
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 65
ตอบคำถาม

เราอยู่ Atlanta, GA ตามที่ คุณ I'm in awe บอกค่ะ

คุณ I'am in awe เรื่องปืน มีโอกาสมีปืนสูงค่ะ เพราะว่ารัฐเรามีกฎหมายให้พกปืนได้ ผู้ชายส่วนใหญ่มีปืนกันแทบทุกคนค่ะ แม้แต่เพื่อนคนไทยเองก็ยังมีไปยิงปืนกัน ราคาปืนถูกค่ะแค่ 300-500 เหรียญเท่านั้น เราก็ซื้อได้ ^^" แต่ในความมืดก็กลัวตายไว้ก่อนอะเนอะ

แต่ไม่อยากให้คนมองในแง่ลบกับเมืองนี้นะคะ ทุกที่ไม่ว่าปลอดภัยแค่ไหนก็เกิดเรื่องได้ค่ะ อย่างตอนเราเลือกก็เลือกแบบ gated community แล้ว เพราะตอนมาอยุ่ใหม่ๆ agent ก็บอกว่าอย่างน้อยต้องมีรั้วก่อนเข้านะ เพื่อ block รถแปลกหน้าบ้าง แต่เอาเข้าจริง ก็มักเห็นบ่อยๆ แล้วรถก็ขับตามๆกันเข้ามา หรือเราเองก็ยังเปิดให้คนที่ไม่มีการ์ดในบางครั้ง (ก็มันรอหลังเค้าก็หงุดหงิด)

อีกอย่าง ที่มันก็กว้างใหญ่ ถ้าคนแปลกหน้าจะเดินเข้ามาตามรั้ว ตามรูก็เป็นไปได้ง่ายมากๆ เพราะมันเป็น apartment ให้เช่า ไม่มีใครรู้จักใคร ใครย้ายมาใหม่ อยู่ห้องไหนยังแทบไม่รู้เลย

อยากให้มีสติ รักษาตัวรอดเป็นยอดดี และหาทางป้องกันเท่าที่ทำได้
แต่อย่างถึงขั้นหวาดระแวง หรือว่าใช้ชีวิตเป็นปกติไม่ได้เลยค่ะ

เราว่าด้วยความที่รักษาสติ เราพยายามเข้าใจเหตุผลแล้ว มันก็จะพออธิบายได้ ไม่ทำให้ผวาเกินไปนัก ที่ไหนก็เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นได้ เพียงแต่มันบังเอิญเกิดขึ้นกับเราอะะะะ (ซ ว ย) -_-"

ถามว่า จขกท เป็นคนป้ำเป๋อมั้ย เราระวังตัวค่อนข้างดีนะ ไม่เคยถูกล้วง ถูกหลอก ถูกกรีดกระเป๋า ถูกช่วงชิงวิ่งราว หรืออะไร แต่คราวนี้มันประชิดตัว ก็ยากที่จะป้องกันค่ะ

(ปรับปรุงข้อความเพิ่มเติม)

ตอบกลับความเห็นที่ 65
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 66
มาให้กำลังใจคุณ Jazzio ค่ะ
จากนี้ไป ขอให้เจอแต่เรื่องดี ๆ งาม ๆ นะคะ


ตอบกลับความเห็นที่ 66
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 67
น่ากลัวมาก

ต่อไปให้ขอให้ไม่พบเจออะไรแบบนี้อีกนะคะ


ตอบกลับความเห็นที่ 67
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 68
คุณพระคุ้มครองค่ะ ปลอดภัยดีไม่เป็นอะไรก็ดีแล้วค่ะ

เรื่องร้ายๆผ่านไปแล้วต่อไปสิ่งดีๆก็จะตามมาค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 68
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 69
มาให้กำลังใจค่ะ โชคร้ายผ่านไป โชคดีกำลังจะเข้ามานะคะ

โชคดีที่โจรโรคจิตนะคะ เลยปลอดภัยมาได้ ^^

ตำรวจทำงานดูมืออาชีพมากเลยค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 69
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 70
เข้ามาให้กำลังใจจขกท.ค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 70
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 71
โชคดีมากค่ะ ที่ไปเจอพวกไม่ใช่มืออาชีพ ไม่งั้นไม่รอดแน่
เข้าใจอารมณ์ว่าอยู่คนเดียว คงขวัญผวาไปอีกนาน

แต่ไม่เข้าใจกฏหมายอเมริกาเลยทำไมถึงอนุญาตให้มีปืนกันได้ง่ายๆ
ถ้าจะบอกว่าเอาไว้ป้องกันตัว แสดงว่าบ้านเมืองมันไม่ปลอดภัยมาก
ทุกคนเลยต้องมีไว้ป้องกันตัวเหรอคะ?

ใครรู้เรื่องนี้ช่วยอธิบายให้ฟังหน่อยค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 71
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 72
แอตแลนต้าคนดำเยอะด้วยอะ เราไปเที่ยวยังกลัวเลย ขนาดเขาไม่ได้มาทำอะไร แต่บรรยากาศมันทำให้เราระแวดระวัง


ตอบกลับความเห็นที่ 72
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 73
เข้ามาให้กำลังใจ จขกทฺ
นับถือความมีสติของคุณจริงๆ
ขวัญเอย ขวัญมา จงกลับมาไวๆ นะคะ


ตอบกลับความเห็นที่ 73
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 74
เป็นเคสที่แปลกที่โจรไม่แตะต้องตัวคุณเลย คงจะหลับตาจินตนาการอย่างเดียวเพราะ
มืดสนิทมองไม่เห็นอะไร ( แล้วมันจะให้ถอดกางเกงทำไมหว่า มองก็ไม่เห็น)

จขกท ระวังตัวด้วนะครับ ต้องหาทางป้องกันเผื่อมันจะหวนกลับมาอีก เป็นผู้หญิงควรจะมี
Pepper spray หรือนกหวีดไว้ไกล้มือบ้าง


ตอบกลับความเห็นที่ 74
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 75
พอบอกอยู่แอตแลนต้า …แหะๆ ไม่กี่เดือนก่อน นศ ในห้องพักแท้ ๆ ยังโดนจี้เลยนะค่ะ

มันเยอะนะค่ะ แต่ก่อนเราจะได้รับ อีเมล์ อะเลิด จาก ตำรวจแคมปัสบ่อย ๆ (เวลามีเหตุ ปล้น จี้ เขาส่งแจ้งตลอดค่ะ)
แล้ว 99% ของรายการ crime ที่ ตร.​ แคมปัสส่งมา คนดำทั้งนั้น

แต่ จขกท.​ โชคดีมาก ๆ ค่ะ ขวัญเอ๋ยยย ขวัญมา...

บอกตรง ๆ ว่า เราจะระมัดระวังตัวมากเป็นพิเศษ เวลาเข้าไปแอตแลนต้าค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 75
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 76
ปล.​ ห้องพักในดอร์มของมหาลัยด้วยนะค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 76
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 77
ขณะทึ่ความทรงจำยังใหม่ๆๆ ก้อยากจะแนะนำให้เขียนรายละเอียดเหตุการณ์ทุกขั้นตอน โดยเฉพาะเวลาที่ออกไปข้างนอก กลับมาถึงบ้านเวลาเท่าไร แล้วทำอะไรบ้างก่อนที่จะเข้านอน แล้วเวลาที่ตืนขึ้นมา ข้อมูลคนร้ายอย่างละเอียด ความสูง อ่าจจะประมาณเปรียบเทียบกับห้องที่นอนอยู่ น้ำหนัก น้ำเสียง อายุ ทรงผม เสื้อผ่้าที่ใส่ และก้อะไรอีกหลายอย่างๆๆ เข้าใจครับว่าห้องมันมืด เพราะมันเปิดไฟไม่ได้ ถ่ายรุปห้องนอนที่คุณนอนอยู่ก่อนที่จะย้ายออกไป โดยเฉพาะ Switch ไฟที่พูดถึง พัดลมที่คุณว่าเป็น two-ways switch รูปถ่ายในห้อง รูปถ่ายประตูเลื่อนที่มัดงัดเข้ามา ระยะทางระหว่างประตูเลื่อน มาถึงห้องนอนของคุณ เสือผ้าที่คุณใส่นอนคืนนั้่น
ที่กล่าวมานี้เพราะว่านานเข้า ความจำในเหตุการณ์มันก็จะเลือนลางตามไปกับเวลา โดยเฉพาะรายละเอียดเล็กๆๆน้อยๆๆ เมือใดที่เขาจับชายคนนี้ได้อาจจะเป็นเดือนหรือปี เจ้าหน้าที่ DA เขาอาจจะติดต่อมาหาคุณเพื่อให้คุณไปชี้ตัวผู้ต้องหา หรือขึ้นศาลเพื่อให้การ ถึงเวลานั้นเขาก็จะถามคุณอีกครั้ง และก็อีกหลายครั้ง แม้ว่าคุณจะให้การกับ Detectives ไปแล้ว แต่เขาก็จะถามคุณอีกในศาล
และมันต้องตรงกันกับวันที่คุณเล่าเหตุการณ์นะวันนั้น
พิมพ์ และ ก็เก็บรูปถ่าย ส่งให้ Email ตัวเอง ไว้เป็นหลักฐานข้อมุลของคุณเอง ซึ่งอาจจะต้องใช้หรือไม่ นั้นก็ไม่มีใครรู้ได้ แต่คุณก็พร้อมเสมอ

เวลานอนก็วางโทรศัพท์มือถือไว้ใกล้ๆๆ ตัว ถ้ามันกระชั้นชิดอย่างไรขึ้นมา กด 911 แล้วโยนโทรศัพท์ไว้ใต้เตียงหรือใกล้ๆ ตัวอย่าให้คนร้ายมันเห็นหน้าจอสว่างๆๆ ก็พอจะช่วยได้ ปล่อยให้ line มัน open ไว้


ตอบกลับความเห็นที่ 77
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 78
เป็นผู้หญิงควรมีติดตัวไว้ซักอันครับ ในบ้าน นอกบ้าน crimeเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา
โดยเฉพาะชอบกลับบ้านดึกๆ อันละไม่กี่ตังค์อาจสามารถช่วยคุณได้

http://www.guardian-self-defense.com/mini-travel-alarm-pir-sensor#.UFPmNlJUF8E

http://www.guardian-self-defense.com/personal_alarms_category.htm




http://www.guardian-self-defense.com/

ตอบกลับความเห็นที่ 78
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 79
#17ความเห็นมีประโยชน์มากๆนะคะบ้านดิฉันก็มีการพยายามงัดทางบานเลื่อนเหมือนกันแต่เข้าไม่ได้เพราะทำแบบ#17ค่ะ

ยังเป็นบุญที่เจ้าโจรไม่ได้ทำอะไรนะคะขวัญกลับมานะคะหาroommateดีไหมคะ


ตอบกลับความเห็นที่ 79
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 80
อ่านแล้วตกใจมากค่ะ จขกท.โชดดีมาก(บนความโชคร้าย)ค่ะ
เป็นเราคงช็อคอะทำไรไม่ถูกแน่เลย กลัวค่ะ อ่านแล้วเป็นกำลังใจให้นะค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 80
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 81
เป็นกำลังใจให้ครับ หมดเคราะห์กันซะที


ตอบกลับความเห็นที่ 81
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 82
เป็นกำลังใจให้จขกท.นะคะ คุณมีสติดีมากและโชคดีมากเช่นกัน
ถือว่าเหตุการณ์ครั้งนี้เป็นการฟาดเคราะห์ไปนะคะ ต่อจากนี้ขอให้คุณเจอแต่เรื่องดีๆค่า


ตอบกลับความเห็นที่ 82
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 83
มันก็บอกให้เราก้มลง ให้ทำท่าสุนัขค่ะ ไม่พอ มันบอกให้ เราตบก้น แล้วก็ร้องครวญครางทำเสียงเซ็กซี่

.. อ่านถึงตรงนี้แล้ว ห๊ะ! เสร็จก๊ากเลย

ขอโทษ จขกท. ด้วยนะครับ


โชคดีมากๆๆๆๆๆ ที่รอดปลอดภัย


ตอบกลับความเห็นที่ 83
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 84
จขกท ขออนุญาต ขำ คุณเล่าซะเห็นภาพ

โชคดีที่รอดมาได้


ตอบกลับความเห็นที่ 84
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 85
ขอบคุณที่เอามาแชร์ค่ะ ข้อมูลมีประโยชน์มากๆ

เป็นกำลังใจให้จขกท.ผ่านไปได้ด้วยดีนะคะ


ตอบกลับความเห็นที่ 85
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 86
โอ้ยยย คุณจขกท. คะ ขวัญเอ้ยขวัญมา

ดีใจด้วยค่ะที่ปลอดภัย คุณจขกท. ใจเย็นสุดๆ ><เป็นสิงห์ฯ คงทนไม่ไหวกรี๊ดต่อสู้ โดนมันฆ่าแน่เลย


ตอบกลับความเห็นที่ 86
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 87
อ่านไปแล้วก็สงสารไปขำไป ขอโทษด้วยนะคะ ยังไงก็ดีใจที่ไม่ได้เป็นอะไรมากค่ะ ถ้าเป็นเราเจอแบบนี้คงสติหลุดไปแล้ว
โชคดีที่รอดมาได้นะคะ ขอให้คราวนี้หมดเคราะห์ไปอย่าได้เจอะได้เจออะไรแบบนี้อีกเลยค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 87
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 88
จขกท เก่ง มีสติ และเป็นคนจิตใจดีมาก ที่นำประสบการณ์มาแบ่งปันเป็นอุทาหรณ์แก่คนอื่น
อ่านแล้วนอนไม่หลับ ต้องสำรวจรอบห้องพักและเอาไม้ม้อบไปขัดประตูไว้
จากนี้ไป ขอห้พบเจอแต่สิ่งดีๆ โชคดีและปลอดภัย


ตอบกลับความเห็นที่ 88
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 89
ให้กำลังใจเข้าของกระทู้ค่ะ ขอขวัญกลับมาไวๆนะคะ เราเกิดวันเดียวกับคุณเลยค่ะ เพิ่งครบ 24 นี่เอง วันนั้นที่เป็นวันเกิดเราน่าแปลกว่าเราไม่ได้รู้สึกดีเลยค่ะ แอบแย่ๆด้วยซ้ำ

อย่างไรก็ตามขอให้ระมัดระวังตัวให้มากนะคะ ไปไหนมาไหนขอให้สังเกตรอบข้างด้วยค่ะ เราเป็นคนเดินไวๆ เวลาเริ่มมีใครเข้ามาใกล้เราจะแอบมองๆเอาไว้ กระเป๋าก็กระชับตัวค่ะ

ถ้าเป็นไปได้ อย่ากลับบ้านค่ำนะคะ ขอให้มีเพื่อนมาส่งก็ยังดี


ขอบุญรักษานะคะ


ตอบกลับความเห็นที่ 89
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 90
ตอนแรกลุ้นๆ อ่านไปเราขำแตกเลยค่ะ!

เราเคยเจอ แต่บนถนน เราช่วงสามสี่ทุ่มพาน้องหมา ออกไปเข้าห้องน้ำ
มีผุชายคนนึง เดินสวนเรามา แล้ว เอา ดิ้ง ด้อง ออก fab fab ต่อหน้าเรา!


ตอบกลับความเห็นที่ 90
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 91
ขอบคุณที่มาเล่าเหตุการณ์ให้ฟังคะ
จากที่ไม่คิดว่าจะมีเหตุร้ายอะไรเกิดขึ้น ได้อ่านประสบการณ์ของคุณ และเพื่อน ๆ ที่แนะนำวิธีการป้องกันต่าง ๆ
เราก็ได้คิดและรู้จักมีสติและมองสิ่งต่าง ๆ รอบตัวให้มากขึ้น จากที่ไม่เคยสนใจความเป็นไปรอบ ๆ ตัว และรอบ ๆ บ้าน
ไม่มีใครรู้ว่าเหตุการณ์ร้าย ๆ จะเกิดกับเราขึ้นเมื่อไหร่ ทางที่ดีป้องกันไว้ดีกว่าแก้ อันนี้เป็นทางที่ดีที่สุด
ให้คุณสามีอ่านเรียบร้อย วันอาทิตย์นี้ จะไปซื้อไม้มาตัดแล้วใส่ไว้ตามบานเลื่อนแล้วคะ
ขอให้เจอเรื่องดี ๆ เข้ามาหลังจากได้ผ่านเรื่องร้ายนะคะ


ตอบกลับความเห็นที่ 91
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 92
ขอบคุณที่มาแชร์นะคะ ขออย่าเจอเหตุการณ์ร้ายๆ อีกนะคะ ^^


ตอบกลับความเห็นที่ 92
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 93
ตำรวจเมืองนอกมาไวจัง 191 ไทยโทร 3-4 รอบยังไม่มาเลย


ตอบกลับความเห็นที่ 93
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 94
ขวัญเอ้ย ขวัญมา สู้ๆนะคะ จขกท


ตอบกลับความเห็นที่ 94
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 95
อยู่ ATL มา15ปี เจอบ่อยไปครับ

เพื่อนก็เพิ่งโดนพี่มืดปล้นไปเมื่ออาทิตย์ก่อน ตอนลงรถกำลังจะขึ้นห้อง (อาพาร์ทเม้นแถว Gwinette)

ทำงานแถว V.Highland ก็ปล้นกันประจำ ทุบรถ
เมื่อเดือนที่แล้วก็เพิ่งมีคนแขกอินเดียถูกปล้น แต่ดันไปสู้กับโจร เลยถูกยิงตายไปคนนึงแถวๆ ถ. Ponce

ของแบบนี้มันมีทุกที่ครับ ไม่สำคัญว่าเมืองไหน คนดำหรือขาว เอเซียเราขโมยรถกันเองก็มีบ่อยไปครับ

มีอะไรหลังไมค์ถามได้ครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 95
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 96
การมีสติของคุณเป็นตัวอย่างที่ดีมากๆนะคะสำหรับทุกคน โดยเฉพาะสาวๆ
ที่ทำงานดึกกลับบ้านคนเดียวยามวิกาล


ตอบกลับความเห็นที่ 96
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 97
เยี่ยมมากครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 97
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 98
http://www.crimemapping.com

ลองเช็คดูนะคะ (สำหรับคนที่อยู่อเมริกา) กรอกที่อยู่บ้านลงไปแล้วจะมีขึ้นมาเลยค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 98
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 99
ขอบคุณที่มาเล่าให้ฟังนะคะ

ดีใจมากกที่คุณปลอดภัยดี

ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาแชร์เกี่ยวกับวิธีป้องกันเรื่องความปลอดภัยด้วยนะคะ

เป็นประโยชน์มากๆเลยค่ะ แล้วจะจำไว้ใช้หรือบอกต่อนะคะ

ขอบคุณอีกครั้งค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 99
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 100
ขอบคุณที่มาเล่าให้ฟังนะคะ

เป็นกำลังใจให้ลืมเรื่องร้ายได้เร็วๆค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 100
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 101
เข้ามาเป็นกำลังใจให้อีกคนค่ะ
ข้าวของเงินทองเป็นของนอกกาย ตัวเราปลอดภัยถือว่าเป็นสิ่งที่ดีที่สุดค่ะ
ส่วนตัวเคยเจอแต่เดินตาม กับขับรถตามเท่านี้ก็กลัวแล้วค่ะ
ถ้าเจอแบบ จขกท ไม่รู้ว่าจะมีสติแบบนี้หรือเปล่า
ไม่ชอบเรื่องคนโดนข่มขืนเลย รู้สึกหดหู่มากที่่ได้ยินข่าวเรื่องคนโดนข่มขืน
ขอให้อย่าเกิดเรื่องเลวร้ายไดๆ ต่อ จขกท อีกเลยนะคะ


ตอบกลับความเห็นที่ 101
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 102
ไม่ทราบว่า จขกท อยู่ รัฐอะไรค่ะ โชคดีในความโชคร้ายนะค่ะ ที่ไม่เป็นอะไร เห็นเกิดเรื่องแบบนี้แล้วมันน่าจะอันตรายมาก ขอให้พระคุ้มครองนะค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 102
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 103
มาให้กำลังใจค่ะ ที่บ้านก็เคยมีโจรขึ้นบ้านนี่เมืองไทยนะคะ ปีนขึ้นมาทางหลังคา ได้ไปหลายอย่าง ยังดีทุกคนปลอดภัย อยู่ที่ไหนไม่มีใครรู้ว่าจะเจออะไรดูแลระมัดระวังตัวเองดีๆเป็นดีที่สุด จขกท. โชคดีนะคะถือว่าฟาดเคราะห์ดีที่เสียขวัญแต่ไม่เสียอะไรอย่างอื่น พระคุ้มครองค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 103
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 104
ขอบคุณที่เอามาแบ่งปันนะคะ น่ากลัวมากเลยคุณโชคดีมากค่ะที่รอดมาได้แบบไม่มีรอยขีดข่วน
สติก็ดีมากๆเลยค่ะ ฟาดเคราะห์นะคะ


ตอบกลับความเห็นที่ 104
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 105
โชคดีนะคะที่ยังไม่เป็นอะไรมากกว่านี้
ต่อจากนี้ก็ขอให้เจอแต่สิ่งดีๆนะคะ


ตอบกลับความเห็นที่ 105
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 106
ขวัญเอย ขวัญมา.... จขกทอายุยังน้อยแต่สติสัมปชัญญะดีมาก ขอชมเชยจริงๆ ตั้งแต่นี้ต่อไปขอให้เจอแต่สิ่งดีๆนะคะ เรื่องความปลอดภัยนี่ ตอนนี้ฉันก็ขอเชิญชวน ทุกท่าน เมื่อเข้าไปนั่งในรถแล้วให้รีบล๊อครถทันที เพื่อป้องกันโจรกรรมคาร์แจ็คนะคะ คุณสามีแนะนำ ฉันก็เพิ่งเริ่มปฏิบัตมาได้สองสามวันนี่เองค่า ทำแล้วรู้สึกสบายใจ ขึ้นเยอะ ลองทำดูนะคะ


ตอบกลับความเห็นที่ 106
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 107
ขวัญเอย..ขวัญมานะค่ะ

ขอให้เรื่องร้ายผ่านไป เรื่องดีๆผ่านมานะค่ะ อย่าได้เจอะเจอกับเรื่องร้ายๆอีกนะค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 107
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 108
## ความเห็นนี้ถูกลบ ##
ตอบกลับความเห็นที่ 108
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 109
น่ากลัวมากค่ะ

เราอ่านถึงตอนที่ให้ถอดกางเกง แทบร้องไห้ไปด้วยเลย

ขอให้มีเรื่องดีๆเกิดขึ้นแทนนะคะ


ตอบกลับความเห็นที่ 109
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 110
http://www.crimemapping.com

เวบนี่ดูแล้วข้อมูลไม่น่าจะถูกนะคะ เราลองใช้ดูแล้ว ถิ่นที่น่าจะมีcrime มันขึ้นว่าไม่มี


ตอบกลับความเห็นที่ 110