Toggle navigation
หน้าหลัก
ตั้งกระทู้ใหม่
ติดต่อเรา
Login
Register
ชีวิตคนไทยในต่างแดน
รบกวนถามคนที่อาศัยอยู่ในญี่ปุ่นหน่อยครับ เกี่ยวกับวัฒนธรรม
รบกวนถามคนที่อาศัยอยู่ในญี่ปุ่นหน่อยครับ เกี่ยวกับวัฒนธรรม
สวัสดีครับ พอดีผมดูการ์ตูนญี่ปุ่นหลายเรื่องเลยเกิดข้อสงสัยต่างๆเกี่ยวกับการ์ตูนญี่ปุ่นว่ามันเหมือนชีวิตจริงของชาวญี่ปุ่นเลยไหม แล้วก็เรื่องทั่วๆไป
อยากถามเป็นความรู้ครับ ส่วนใหญ่ที่ผมถามเอามาจากการ์ตูนทั้งนั้น
1.การ์ตูนญี่ปุ่นส่วนใหญ่จะกินข้าวเช้าและข้าวเย็นพร้อมหน้าพร้อมตากันหมดเลย ไม่ทราบว่าชีวิตจริงเป็นแบบนั้นหรือเปล่าครับ
2.ในการ์ตูนญี่ปุ่น บางเรื่องมีเวรแแบ่งการทำความสะอาด ทำกับข้าวตอนเช้า ไม่ทราบว่าในชีวิตจริงเป็นแบบนั้นหรือเปล่าครับ
3.ส่วนใหญ่คนญี่ปุ่นจะเรียนแถวๆบ้านเหรอครับ ไม่ว่าจะเป็นมัธยมหรือมหาลัยเช่น เราเด็กต่างจังหวัดก็จะเข้าเรียนในเมืองส่วนใหญ่ แต่ในญี่ปุ่นเน้นเรียนแถวๆบ้านเอา แบบนี้อะครับ
4.ผมสงสัยเรื่องคำแปลญี่ปุ่นอยู่คำหนึ่ง คำว่า ฉันรักเธอ หรือบอกรักต่างๆผมลองใส่ในกูเกิ้ล มันแปลยาวมากครับ แต่ในการ์ตูนญี่ปุ่นมันพูดสั้นมาก จับใจความได้ ชิๆ อะไรสักอย่างเนี่ยแหละครับ ถ้าเป็นไปได้ขอวิธีบอกรักในแบบญี่ปุ่นหน่อยครับมันต้องพูดอย่างไร ไม่ได้ใช้บอกกับใครครับ อยากประดับความรู้ครับ
5.ในภาษญี่ปุ่นผมเห็นมีตัวญี่ปุ่นอยู่เหนือตัวอักษรด้วยอะครับ มันคืออะไร มันคือสระ วรรณยุกต์แบบไทยเปล่าครับ
6.โรงเรียนของญี่ปุ่นจะไม่ใช่แบบ ม.1-3 ม.4-6 แต่เป็นแบบ ชั้นปีใช่ปะครับ
7.แล้วคำว่า ซัง ต่อท้ายคืออะไรครับ หรือว่ามันคือคำว่า จัง ในแบบภาษาไทยที่เราพูดกัน
8.แล้วเกี่ยวกับการทักทาย เวลาเจอกันต้องพูดอรุณสวัสทุกครั้งเลยใช่ปะครับ ถ้าเขาบอกมาเราก็ต้องบอกกลับไปใช่เปล่าครับ
9.เห็นการ์ตูนบางเรื่องมีกินมื้อดึกด้วยหรือว่ามื้อเย็นของญี่ปุ่นจะกินดึกๆกันเหรอครับ
ตอนนี้ก็นึกได้แค่นี้อะครับ
ขอบคุณเพื่อนๆที่เสียเวลาอ่านครับผม
ความคิดเห็นที่ 1
เอาเฉพาะข้อที่พอจะตอบได้ตามความเข้าใจของผมก็แล้วกันครับ แต่ผมไม่ได้อยู่ญี่ปุ่นนะ
4. "ฉันรักเธอ" พูดได้หลายแบบแล้วแต่ว่าลึกซึ้งแค่ไหน อาจจะแค่ suki / daisuki / aishiteru เรียงจากน้อยไปมาก
5. ตัวอักษรที่เห็นเรียกว่า ฟุริงานะ ใช้บอกเสียงอ่านของตัวคันจินั้นๆ
6. ระดับมัธยมก็เทียบได้กับของไทยเป็น ม.1-6 โรงเรียนที่นั่นจะแบ่งเป็น junior high school กับ high school ถ้าเป็นประเภทหลังสมมติว่าอยู่ปี 1 ก็จะเทียบเท่าม.4 ของบ้านเรา ปี 3 ก็คือม.6
7. ซังก็ประมาณ "คุณ" ในภาษาไทย ใช้เรียกต่อท้ายชื่อหรือนามสกุลหรือเรียกอาชีพ เช่น คนขายปลาก็เรียก ซากานะซัง คนขายดอกไม้เรียก โอฮานะซัง
8. แล้วแต่ครับ บางทีก็ใช้ ohayou gozaimasu / ohayou / oha แล้วแต่ระดับ ถ้าแบ่งตามเวลาก็ช่วงเช้าใช้ ohayou ช่วงสาย konnichiwa ช่วงเย็น kombanwa หรือจะทักทายโดยใช้คำอื่นก็ได้ อย่างเช่น วันนี้อากาศดีนะ หรือ จะออกไปข้างนอกเหรอ ก็เป็นการทักทายอย่างหนึ่งเหมือนกัน
ตอบกลับความเห็นที่ 1
Font Name
Size
RadEditor hidden textarea
Design
HTML
Preview
RadEditor - please enable JavaScript to use the rich text editor.
Image Src
Alt Text
Width
px
Height
px
All Properties...
OK
Cancel
ส่งข้อความ
ความคิดเห็นที่ 2
1.แล้วแต่ครอบครัวค่ะ ถ้างานไม่ดึกเขาจะกินร่วมกัน แต่หลายครอบครัวไม่ทำแบบนั้นแล้วแต่ความสะดวก
2.แล้วแต่ครอบครัวเหมือนกันค่ะ แต่ครอบครัวญี่ปุ่นต้องการสอนให้เด็กรู้จักการดูแลช่วยเหลือตัวเองดังนั้นส่วนมากถ้ามีลูกต้องแบ่งงานให้ทำกัน
แต่ถ้าครอบครัวที่มีเงินมากๆๆๆๆๆๆๆๆก็เหมือนคนไทยที่ลูกไม่ทำอะไรเลยค่ะ
3.มันเป็นเรื่องของกฎหมายค่ะ คิดว่าเหมือนเมืองไทยที่เรียนในรร.ที่เขตบ้านตัวเอง
เพียงแต่ว่ารร.ที่รับทั้งๆที่ไม่ได้อยู่ในเขตก็เริ่มมีแล้วเช่นกัน
หลายครอบครัวถึงกับย้ายบ้านเพื่อให้ลูกเข้ารร.ในเขตที่ต้องการเรียน (แต่ก็มีระบบสอบเข้าเช่นกัน) เห็นว่าเขาเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงระบบการเข้าเรียนแล้วเพราะคนร้องเรียนเยอะ
4.มีหลายคะค่ะ คิดว่าคงต้องการรู้คำว่า 好きSUKI(สุกิ) ใช่ไหมคะ?
5.ไม่ใช่ค่ะ เป็นการกำกับคำอ่านให้ทราบว่า อ่านว่าอะไร เพราะบางคำยากเกินไปเด็กที่ยังไม่ได้เรียนก็อ่านไม่ออกค่ะ เรียกว่า "ฟุริคานะ"
คิดซะว่าเหมือนมีคำเช่น "สะ-หวัด-ดี" ของไทยกำกับบนคำว่า "สวัสดี" นะคะ
6.ก็มีความหมายเดียวกับ ม.1-6 เพียงแต่ รร.ของญี่ปุ่นเขาไม่เป็นรร.ที่เรียนยาวหกปีในตึกเดียวแบบของไทย
แยกเป็นคนละรร.แบ่งทีละสามชั้นปีเลยเป็น ม.ต้นปี1-3 และม.ปลายปี 1-3 เท่านั้นค่ะ
7.ไม่เหมือนค่ะ จังของไทยเป็นวลี "อย่างน่ารักจัง" แต่ของญี่ปุ่น คำว่า "ซัง" เป็นการใช้ต่อชื่อคนที่เราไม่สนิท คนที่แก่กว่า คนที่เราเคารพ ความหมายในภาษาไทยคือคำว่า "คุณ"
เช่น "ยามาดะซัง" = "คุณยามาดะ"
ทั้งนี้ทั้งนั้น คำว่า "จัง" ในภาษาญี่ปุ่นเองก็มีเช่นกันค่ะ ความหมายคือ "หนู (โดยประมาณ)"
การใช้ "จัง" ของภาษาญี่ปุ่นคือ การใช้กับเด็ก เช่น "มานามิ จัง" = "หนู มานามิ"
นอกจากนี้อาจจะเคยได้ยิน "คุง" ด้วย กรณีการใช้คุง คือใช้เหมือนกับ จัง แต่ใช้กับเด็กผู้ชาย
นอกเหนือยจากนี้เป็นการใช้ "จังและคุง" แบบแสลงในหัวข้ออื่นค่ะ
8.เป็นคำทักทายปกติค่ะ คนไทยเราก็ทัก สวัสดี เพื่อนก็จะตอบว่า สวัสดี เหมือนกันค่ะ
9.แล้วแต่ครอบครัวค่ะ แต่หลายครอบครัวกินตอนดึกเพราะเลิกงานช้า อยากรอกินข้าวพร้อมหน้า หรืออาจจะเป็นแค่ปกติชอบกินเวลานั้นค่ะ
ตอบกลับความเห็นที่ 2
Font Name
Size
RadEditor hidden textarea
Design
HTML
Preview
RadEditor - please enable JavaScript to use the rich text editor.
Image Src
Alt Text
Width
px
Height
px
All Properties...
OK
Cancel
ส่งข้อความ
ความคิดเห็นที่ 3
ขอบคุณทั้งสองคนมากๆครับ นึกว่าไม่มีคนตอบแล้ว มาดูตอนบ่ายไม่มีใครตอบ
อ้าวคำบอกรัก มันอ่าน สุกิเหรอนิ ผมฟังไม่ว่ายังไง มันก็ออกเสียง อะชิ อะไรสักอย่างเนี่ยแหละครับ ผมเดาจาก sub eng
ขอบคุณหรับคำตอบจริงๆครับ ^^
ตอบกลับความเห็นที่ 3
Font Name
Size
RadEditor hidden textarea
Design
HTML
Preview
RadEditor - please enable JavaScript to use the rich text editor.
Image Src
Alt Text
Width
px
Height
px
All Properties...
OK
Cancel
ส่งข้อความ
ความคิดเห็นที่ 4
ถ้าแบบนั้นก็คงจะเป็น 愛してるaishiteruไอชิเตรุ คำนี้เป็นคำบอกรักอีกคำค่ะ
ตอบกลับความเห็นที่ 4
Font Name
Size
RadEditor hidden textarea
Design
HTML
Preview
RadEditor - please enable JavaScript to use the rich text editor.
Image Src
Alt Text
Width
px
Height
px
All Properties...
OK
Cancel
ส่งข้อความ
Font Name
Size
RadEditor hidden textarea
Design
HTML
Preview
RadEditor - please enable JavaScript to use the rich text editor.
Image Src
Alt Text
Width
px
Height
px
All Properties...
OK
Cancel
ส่งข้อความ
Copyright 2024 by pai-nok.com