สำหรับคนมีสอง passport (dual citizenship) สำคัญมั้ยที่ต้องต่ออายุพาสปอร์ตไทย

ถ้าเราอาศัยและทำงานอยู่ต่างประเทศเป็นหลัก แต่นานๆทีจะกลับไปเที่ยวเมืองไทย มันสำคัญมากมั้ยที่ต้องมี พาสปอร์ตไทยที่ไม่หมดอายุ?

เคยอ่านในกระทู้ว่า ถ้าพาสปอร์ตหมดอายุ ยังไงเราก็สามารถเข้าประเทศไทยได้โดยใช้บัตรประจำตัวประชาชนที่หมดอายุ หรือพาสปอร์ตที่หมดอายุ (แล้วค่อยไปทำเล่มใหม่เมื่อเข้าเมืองไทยไปแล้ว)

จริงๆมันก็ไม่ได้ลำบากอะไร(มาก)ในการต่ออายุพาสปอร์ต แต่ช่วงนี้ไม่ได้มีแพลนว่าจะกลับเมืองไทย ก็ยังไม่คิดจะต่อ แต่สมมุติว่ามีเรื่องฉุกละหุกต้องเดินทางไปเมืองไทย(แล้วอยู่ยาวกว่าที่จะใช้ US passport อยู่ได้) ก็อยากจะรู้ไว้ว่าทำได้หรือไม่เป็นแผนสำรอง

ความคิดเห็นที่ 1
สำหรับดิฉัน.... ไม่คำนวณถึงความจำเป็น หรือไม่จำเป็นต้องมีพาสปอร์ตไทย

ดิฉันใช้พาสปอร์ตไทยเข้า และออกจากไทย


ต่ออายุพาสปอร์ตไทยต่อเนื่องมาตลอด ๓๐ กว่าปี และไม่ได้กลับไปเมืองไทยบ่อยเหมือนคนไทยส่วนมาก... เพิ่งมาล่าสุดใน ๘ ปีที่ผ่านมาไม่กี่วันนี้ไได้ปอยู่ในไทยสี่เดือน และยุโรปสองเดือน... ทุกครั้งที่เข้าออกไทยใช้พาสปอร์ตไทย ไม่ว่าจะเข้าไปอยู่ไทยหนึ่งอาทิตย์ หรือสี่เดือนก็ตาม.... ไม่คิดกับการมีสองพาสปอร์ตแล้วจะยุ่งยากอะไร


ตอบกลับความเห็นที่ 1
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 2
http://www.pantip.com/cafe/klaibann/topic/H12459466/H12459466.html


ตอบกลับความเห็นที่ 2
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 3
ง่ายๆ นะคะ...เอกสารสำคัญที่ทางราชการออกให้เพื่อใช้เป็น identification นั้น ไม่ควรให้หมดอายุ... จะใช้หรือไม่ใช้ไม่สำคัญ... ขอให้เป็นปัจจุบันและใช้ได้เป็นดีที่สุด...ส่วนตัวแล้วอยู่ต่างประเทศมีอเมริกันพาสปอร์ตแต่พาสปอร์ตไทยก็ valid ค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 3
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 4
เราความเห็นต่างคะ

การเข้า-ออก ด้วยpassportไทย จะมีความสะดวกถ้าเราต้องการอยู่เมืองไทยต่อเนื่องนานๆ แต่ถ้าคิดว่าอยู่เมืองไทยไม่เกินที่กม.กำหนด ก็ไม่จำเป็นต้องใช้ ใช้พาสของปท.ที่เรามีอยู่ก็ได้ ไม่ต้องเสียเงินทำพาสไทยหรอกคะ เอาไว้คิดว่าจะต้องใช้อยู่ยาวแล้วค่อยไปทำก็ได้ อายุพาสก็ยืดออกไปอีก

ปีที่แล้วครอบครัวเรากลับไทย 3 ด. แต่ไม่ได้อยู่ต่อเนื่อง เราเข้าๆออกๆ ไปเที่ยวโน้น-นี่ ตปท.ตลอด อยู่ไทยต่อเนื่องยาวที่สุดประมาณ 2 weeks เราก็ไม่ได้ต่อพาสไทยให้ลูก ลูกๆเราก็ถือพาสตปท.เข้าออกไทย ไม่มีปัญหาอะไร


ตอบกลับความเห็นที่ 4
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 5
เตึอนผู้ที่โอนสัญชาติเป็นคนอเมริกัน และยังใช้หนังสึอเดินทางของไทยเข้าออกประเทศไทย อย่าให้ต.ม.ประเทศไทยจับได้จะมีความผิด กฎหมายของประเทศไทยให้ถึอเพียงสัญชาติเดียว ต่างกับของประเทศอเมริกาให้ถึอสองสัญชาติได้ โอนเป็นคนอเมริกันกฎหมายเมึองไทยถึอเป็นคนต่างชาติไปแล้ว แม้แต่ทรัพย์สินก็มีไม่ใด้เกิดการหักหลังกันใด้ ถ้ามีคนรู้ว่าโอนเป็นคนอเมริกัน ผมอยู่อเมริกามา 34 ปีแล้วเปลียนใจในนาทีสูดท้ายในการโอนสัญชาติ เพราะเพึ่อนโอนเป็นคนอเมริกันถูกน้องชายหักหลังที่เมึองไทย ในเรึ่องทรัพย์สินของครอบครัว ศาลตัดสินว่าเพึอนหมดสิทธิ์กลายเป็นคนต่างชาติไปแล้ว ระวังกันหน่อยจะเสึยเงินทองถ้าถูกจับได้


ตอบกลับความเห็นที่ 5
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 6
ปรกติแล้วคนที่โอนสัญชาติเป็นคนอเมริกันจะต้องขอ visa เข้าประเทศไทยตามกฎระเบียบของประเทศไทย ถ้าอยู่เกินกำหนดที่ visa ออกให้จะถูกปรับวันละ 100 บาทขาดกี่วันก็ว่ากันไป ถ้าใช้หนังสึอเดินทางของไทยเผลิอๆจะเสียเงินมากกว่าค่าปรับ visa ขาดอายุเสียอิก ถ้าเขาจับได้ผมไม่รู้เหมึอนกันคนอึนเหมึอนผมหรึอเปล่า ผมไปเมึองไทยทุกครั้งในตอนขากลับมาอเมริกาทางต.ม.ตอนขาออกเขาขอดู green card ของผมตลอด เพราะหนังสึอเดินทางของผมไม่มี visa เขาอเมริกา ถ้าเดินทางเข้าประเทศไทยไม่มีหนังสึอเดินทาง จะถูกต.ม.กักตัวที่สนามบินสอบสวน ถ้าหนังสึอเดินทางหมดอายุก็จะเสียค่าปรับ


ตอบกลับความเห็นที่ 6
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 7
คุณ moonwalking คคห ๖ ไปเอาที่ไหนมา ที่บอกว่า...กฎหมายของประเทศไทยให้ถึอเพียงสัญชาติเดียว ...


ตอบกลับความเห็นที่ 7
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 8
ข้อแย้ง คห 5และ6

1.การขอได้สัญญชาติเมกัน ไม่ใช่เป็นการโอนสัญชาติ ไม่มีการสาบานตนว่า ตนจะสละสัญชาติเดิมที่มี เพราะเมกาเป็น Melting pot มีผู้คนร้อยพ่อพันสัญชาติเดินทางเข้ามาอยู่อาศัยตั้งแต่มีประเทศป็นต้นมา จึงไม่มีการตราในรัฐธรรมนูญว่า ผู้ที่จะได้สัญชาติเมกัน ต้องทำการโอน ฉะนั้น จะไม่เรียกว่าเป็นการโอนสัญชาติ แต่เป็นการได้รับการแปลงสัญชาติ ซึ่งการแปลงเป็นสัญชาติเมกันนี้ สัญชาติเดิมที่มีอยู่ก็ยังอยู่ หากเป็นการโอนสัญชาติแล้ว จะต้องมีการเพิกถอนสัญชาติเดิมที่ตนมีอยู่ก่อน แล้วจึงสามารถมาทำการขอโอนสัญชาติได้ ดังประเทศอื่นๆเช่น เยอรมันนี จีนและอีกหลายๆประเทศ

การที่มีสัญชาติไทยโดยกำเหนิดนั้น ตามกฏหมาย พรบ สัญชาติไทย ปี พ.ศ.2508 ไม่มีทางที่จะเพิกถอนสัญชาติไทยได้ นอกจากเจ้าตัวยื่นอสดงความประสงค์ โดยต้องทำเรื่องต่อมหาดไทย และได้รับอนุมัติแล้ว ประเกาศในราชกิจจานุเบกสาเป็นเวลา 180 วันจึงจะมีผล

การที่จะมีคนหักหลังร้องต่อศาลนั้น ทำได้แต่ศาลท่านจะไม่รับพิจารณา เพราะผู้ถูกร้องยังไท่มีการดำเนินการขอสละสัญชาติไทยแต่อย่างไร กฏหมายไทยตาม พรบ สัญชาติระบุว่าคนไทยมีแค่สัญชาติเดียว แต่ไม่ได้ระบุว่า หากมีมากกว่าสัญชาติไทย จะต้องทำการเลือกเอาสัญชาติใดสัญชาติหนึ่ง ดังกฏหมายฉบับเดียวกันนี้ในหมวดที่ว่าด้วย การเลือกสัญชาติของผู้ที่เกิดในต่างประเทศที่เป็นบุตรของพ่อหรือแม่ที่เป็นคนไทย เมื่อครบอายุสิบแปดปีแล้วให้เลือกสัญชาติใดสัญชาติหนึ่ง แต่ในความจริงแล้ว คนก็เลือกสัญชาติไทย แต่ก็ถือสัญชาตในประเทศที่ตนเกินอีกในเวลาเดียวกัน

เราเองเดินทางเข้าออกเมืองไทย บางครั้งถือพาสเมกัน ที่ได้เปลี่ยนชื่อนามสกุลที่ไม่ใช่ชื่อไทยๆ แต่ ตม เปิดดูก็ถามว่า เอ้า นี่คนไทยหรือ ไปอยู่เมกานานแค่ไหนแล้ว? เพราะในพาสฯ เขามีระบุคำว่า Thailand แล้วก็ถามว่าจะอยู่นานไหม ถ้านานควรจะใช้พาสปอร์ตไทย

2.การอยู่เกินกำหนดในวัซ่าของคนต่างด้าว ตามกฏหมายเข้าเมืองของไทยจะปรับวันละ 500 บาท ไม่ใช่ 100บาท และปรับได้สูงสุดไม่เกิน 20,000บาท
เช่นต่างด้าวอยู่เกิน 2 เดือนก็ปรับได้แค่ 40วันคือ 20,000 บาท ที่เกินก็ Write off ไป แต่จะเสียเรคคอร์ดในการเดินทางเข้ามาประเทศไทยอีก


ตอบกลับความเห็นที่ 8
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 9
ใช่ค่ะ ถือพาสปอร์ตอเมริกันเข้าไทย ยังไงเขาก็รู้ว่าเป็นคนไทยเพราะในพาสปอร์ตอเมริกันเขียนไว้อย่างที่คุณ Rapier บอก... เมื่อเร็วๆ นี้เพิ่งมีคนมาโพสต์เกี่ยวกับการให้คนไทยที่ได้สัญชาติอื่นๆถือพาสปอร์ตไทยเข้าไทยได้ (ใครก็ได้ช่วยไปตาม link ให้หน่อยค่ะ)...

เรื่องกรีนการ์ดกับไทยพาสปอรตนั้น...ถ้าคุณถือกรีนการ์ดคุณก็ต้องใช้พาสปอรตไทยในการเดินทางไปประเทศต่างๆ เพราะสถานภาพคือ permanent resident ไม่ใช่ citizen... ซึ่งตามระเบียบก็ต้องใช้คู่กับพาสปอร์ตไทยอยู่แล้วในการเดินทางกลับเข้าอเมริกา แต่ถ้าจะเดินทางไปประเทศอื่นๆ ด้วยพาสปอร์ตไทยก็ต้องขอวีซ่าอยู่แล้วนี่ค่ะ...

การถือพาสปอร์ตหมดอายุเพื่อเดินทางกลับไทยนั้นทำได้ตามที่หน่วยงานราชการไทยบอกไว้...แต่อย่าลืมว่าการขึ้นเครื่องบินนั้นถ้าไม่ใช่การบินไทยแต่เป็นสายการบินอื่นเขาจะยอมให้คุณขึ้นเครื่องหรือไม่ถ้าคุณถือพาสปอร์ตที่หมดอายุ...และหากเครื่องบินเกิดจะต้องไปหยุดพัก ณ ประเทศใดประเทศหนึ่งระหว่างทางไม่สามารถเดินทางต่อไปได้ ผดส.จะต้องพักค้างคืนที่นั่นและต้องมีการลงประทับตราขาเข้าจาก ตม. เขาก็อาจจะไม่ประทับตราให้ก็ได้นะคะ...

ถ้ามี valid passport จะดีกว่าปล่อยให้หมดอายุ เพราะคุณจะไม่รู้ว่าในอนาคตคุณอาจจำเป็นต้องใช้ทันที...แล้วคุณจะทำอย่างไร? อยู่ต่างประเทศบัตรประชาชนหมดอายุยังพอไหวแต่พาสปอร์ตหมดอายุนี่แย่เลยนะคะ..


ตอบกลับความเห็นที่ 9
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 10
มาเพิ่มเติมว่าเดี๋ยวนี้สำหรับพาสปอร์ตไทย
ขาเข้าเขาใช้เครื่องอัตโนมัติในการบันทึกการเข้าออกแล้วค่ะ
มีเจ้าหน้าที่คอยช่วยเหลือในการใช้เครื่องเท่านั้น
ตม.ไม่ประทับตราที่สมุดแล้ว
ส่วนขาออกนี่น่าจะใช้เครื่องเช่นเดียวกัน (ไม่แน่ใจ เพราะเพิ่งเข้ามา)
เพราะฉะนั้นคนถือพาสปอร์ตคงไม่ต้องกังวลเรื่องเจ้าหน้าที่คอยถามว่ามีสองเล่มหรือไม่
เพียงแต่ใช้เข้าออกด้วยพาสปอร์ตเล่มเดียวกันเท่านั้น เพื่อข้อมูลในระบบ
จะได้ตรงกันค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 10
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 11
คุณ คห 10

จนท ตม ไทยเขาไม่ถามหรอกว่ามีถือพาสปอร์ทกี่เล่ม เพราะถึงแม้คนไทยจะถือพาสปอร์ทนอกจากของไทยแล้วไม่ผิดกฏหมาย พรบ สัญชาติใดๆ เนื่องมันไม่มีกฏหมายหรือบทเฉพาะการใดที่บอกว่า บุคลสัญชาติไทย ห้ามมิให้มีการถือครองสัญชาติอื่น นอกจากมีการสละสัญชาติที่ตนมีอยู่แล้วเท่านั้น ดังนั้นในกรณีคนไทย ถือหนังสือเดินทางไทย เข้าออกประเทศไทยได้ทุกเมื่ออย่างอิสระเสรี ตม ไม่มีการมาตั้งคำถามว่าตัวเองมีหนังสือเดินทางกี่เล่ม? เพราะกฏหมายไม่ได้ให้อำนาจไว้

การเดินทางออกเขาใช้เครื่องแสกนกับ อี พาสปอร์ตแล้ว แต่ก็เปิดใช้มั่งไม่ใช้บ้าง นัยว่าระบบยังไม่คอมพรีทร้อยเปอร์เซ็นต์


ตอบกลับความเห็นที่ 11
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 12
ยังติดใจเรื่องที่ คห 5 ที่บอกว่าเพื่อนมีสัญชาติเมกันแล้วถูกน้องชายที่เมืองไทย หักหลังฟ้องศาลให้เพิกถอนสิทธิถือครองกรรมสิทธิ์เรื่องทรัพย์สินในครอบครัว รบกวนขอหมายเลขคดีแดงให้หน่อยได้ไม๊ครับ จะได้เป็นกรณีศึกษาเพิ่มเติมความรู้แก่ตนเอง และอาจจะเป็นความรู้แก่ผู้อื่นๆได้

ขอแค่หมายเลขคดีแดงและเขตอำนาจศาลจังหวัดไหนก็พอ ไม่ต้องระบุชื่อใดๆ ขอบคุณล่วงหน้าอย่างยิ่ง


ตอบกลับความเห็นที่ 12
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 13
ตอบคุณ คห. 10 ขาออกมีออโต้ เกท เช่นกันค่ะ สะดวกสบายมาก ดิฉันใช้บริการมาราวๆ 4 เดือนแล้ว
ทั้งขาเข้าขาออก ใช้ไปหลายสิบรอบแล้ว เครื่องไม่เสีย ใช้ได้ตลอด และเจ้าหนัาที่พยายามให้ประชาชน
ที่เดินทางเข้าออกใช้ออโต้ เกท มากกว่าที่จะไปเคาน์เตอร์ ต.ม. เพราะ ต.ม. ไม่ค่อยอยากสแตมป์แล้วค่ะ
เขาอยากให้ใช้ออโต้ เกท บางครั้ง ต.ม. จึงไม่ค่อยอยากเปิดเคาน์เตอร์ด้วยค่ะ

ใช้ออโต้ เกท เข้าออกนอกประเทศสะดวกสบายมาก ขั้นตอนทั้งหมดไม่เกิน 30 วินาทีทั้งขาเข้าและขาออก
และไม่ต้องมีสแตมป์ให้เปลืองหน้าพาสปอร์ต จะได้ไม่ต้องไปทำพาสปอร์ตบ่อยๆ ค่ะ

//ปอลอ ดิฉันเดินทางเข้าออกสนามบินสุวรรณภูมิขาออกอย่างน้อยเดือนละ 2 หน และขาเข้าอีกอย่างน้อย
เดือนละ 2 หนค่ะ จึงอยากมาช่วยให้ข้อมูลจริงๆ นะคะ และออโต้ เกทเริ่มเปิดใช้ที่สนามบินสุวรรณภูมิ
มาตั้งแต่ช่วงสงกรานต์ของปีนี้นี่เองค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 13
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 14
ตอบ Pammeluff ที่ถามว่า สำคัญไหมที่ต้องต่ออายุพาสปอร์ตไทย


สำคัญ เพราะ

๑. พาสปอร์ตไทย เป็นใบเบิกทางให้ได้เดินทางมาอยู่ถาวรในต่างประเทศ

คนไทยควรเห็นคุณค่าของหนังสือเดินทางไทย ถ้าไม่มี ก็ไม่ได้มีวันนี้


๒. สำคัญมากที่สุด เวลาแจ้งตาย ด้านหลังของพาสปอร์ต และในใบยื่น

คำร้อง จะต้องแจ้งชื่อบุคคลที่ติดต่อได้ในเมืองไทย เวลาตาย จะได้รู้


เพราะฉะนั้น การอัพเดทหนังสือเดินทาง สำคัญมาก ตอนแจ้งขอทำ

มรณบัตร คนที่ทำให้ เขาต้องใช้หนังสือเดินทางของคนตายแนบไปด้วย

เป็นหลักฐาน หากว่าหมดอายุไปนานมากๆ ข้อมูลคนติดต่อก็เปลี่ยนไป

ทำให้หาญาติให้กับศพที่ตายเมืองนอกไม่ได้ เมื่อเร็วๆนี้ก็เกิดกรณีนี้ขึ้น

ทางกงสุลต้องติดต่อหาคนรู้จักศพเป็นการยุ่งยากมากทั้งในต่างประเทศ

ติดต่อใครไม่ได้ เพราะข้อมูลที่ให้ไว้ ที่อยู่ของคนสนิท ใช้ไม่ได้ไปแล้ว

ส่วนญาติทางไทยก็ย้ายไปแล้ว ทางการต้องไปสืบค้น ประกาศออกนสพ.


กรณีที่ร้ายแรง คือป่วยหนัก ติดต่อคนมาดูแลหรือตัดสินอาการไข้ไม่ได้

ถ้าข้อมูลไม่อัพเดท เพราะฉะนั้น อย่าปล่อยหนังสือเดินทางหมดวาระนาน


ส่วนเรื่องไม่ต้องมี เพราะไม่อยากเดินทาง หรือไม่ต้องใช้ก็เข้าไทยได้

นั้น ไม่ใช่ไม่จริง แต่ปัญหาไม่ได้มีแค่การมีชีวิต คนเราจะตายเมื่อไรไม่รู้


หนังสือเดินทางที่มีอายุใช้ได้นั้น จะช่วยให้อะไรๆง่ายขึ้นเยอะ สำหรับคน

ที่จะทำเรื่องต่างๆให้ในภายหลัง ไม่ต้องเสียดายค่าทำหนังสือเดินทาง

สมัยนี้ ราชการเขาดูแลให้อย่างดี ส่งกลับทางไปรษณีย์ ๖ สัปดาห์เท่านั้น


ตอบกลับความเห็นที่ 14
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 15
ตอบค.ห. 12 เรึ่องของเพึ่อนผมเกิดขึ้นเมึ่อ 25 ปีที่แล้ว มันคงจะหาอะไรมาแสดงไม่ได้ในตอนนี้ ตอนนี้เขาซึ้อบ้านอยู่ที่ ny เมึองเดียวกับผม กฏหมายที่เมึองไทยเขาไห้ถึอสัญชาติเดียว ลองไปถามนักกฎหมายดู ถ้าถึอสองสัญชาติได้ ผมโอนเป็นคนอเมริกันไปนานแล้ว เพราะไม่อยากมีปัญหาตามในเรึ่องของทรัพย์สิน ถ้าไม่มีทรัพย์สินมันก็ ok ประเทศอเมรืกา อังกฤ สิงคโปร์ และอีกหลายๆในยูโรปเขาไห้ถึอสองสัญชาติได้ ยกเว้นไทยเรามันแปลกมาก


ตอบกลับความเห็นที่ 15
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 16
ความคิดเห็นที่ 10
มาเพิ่มเติมว่าเดี๋ยวนี้สำหรับพาสปอร์ตไทย
ขาเข้าเขาใช้เครื่องอัตโนมัติในการบันทึกการเข้าออกแล้วค่ะ
มีเจ้าหน้าที่คอยช่วยเหลือในการใช้เครื่องเท่านั้น
ตม.ไม่ประทับตราที่สมุดแล้ว
ส่วนขาออกนี่น่าจะใช้เครื่องเช่นเดียวกัน (ไม่แน่ใจ เพราะเพิ่งเข้ามา)
เพราะฉะนั้นคนถือพาสปอร์ตคงไม่ต้องกังวลเรื่องเจ้าหน้าที่คอยถามว่ามีสองเล่มหรือไม่
เพียงแต่ใช้เข้าออกด้วยพาสปอร์ตเล่มเดียวกันเท่านั้น เพื่อข้อมูลในระบบ
จะได้ตรงกันค่ะ

จากคุณ : BluE field



ใช่ค่ะตามนั้น... ขั้นตอนตม. สำหรับคนไทยถือพาสปอร์ตไทยเข้าและออกนอกอาณาจักรไทย... เร็วมากๆ

ขาเข้าไทยเมือ่ ๖ เดือนมาแล้ว โซนของคนต่างชาติยาวมากๆๆ แต่ของคนไทยมีดิฉันและคนไทยอีกหนึ่งคนเท่านั้น

ตอนแรกดิฉันยืนมองคิวยาวๆอย่างถอดใจ... จนท.ตม.ของตม.คนไทยถือพาสปอร์ตไทยเรียกให้ดิฉันไปสะแกนพาสปอร์ต... นิ้วมือ และถ่ายรูป(ถ่ายรุปนี่ไม่แน่ใจว่าถ่ายหรือแค่เพียงสะแกนใบหน้า)


ดิฉันไม่เคยคิด และไม่คิดเลยกับการเสียดายเงินของการมีพาสปอร์ตไทย


ตอบกลับความเห็นที่ 16
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 17
ข้อแย้งค.ห. 8 ผมไม่ทราบว่าคุณได้สัญชาติอเมริกันมาแบบไหน เพราะผมอ่านดูแล้วงงเอามากๆ เพราะว่ามันไม่ได้อยู่บนหลักการกฎหมายของการโอนสัญชาติเป็นคนอเมริกันเลย การขอสัญชาติหรึอโอนสัญชาติเป็นคนอเมริกันมันก็กฎหมายอันเดียวกัน ที่ใช้อยู่ในปัจจุบัญนี้ ต้องถึอ green card ก่อนอย่างน้อย 5 ปีขึ้นไปแล้วไปยึ่นเรึ่องขอสัญชาติอเมรืกัน แล้วทาง immigration เขาจะนัดเราสัมภาษ และสอบ english & history ถ้าสอบผ่านเขาก็จะนัดเรามาทำพิธีสาบานตน แล้วรับ citizenship certificate เป็นอันว่าจบ ที่ค.ห.บอกมารับรองว่าไม่ใช่อเมริกาแน่นอน เพราะผมอยู่นี้มา 34 ปีแล้วไม่เคยได้ยินว่าขอสัญชาติกับโอนสัญชาติว่ามันแตกต่างกัน


ตอบกลับความเห็นที่ 17
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 18
คุณ moonwalking คะ เราว่าคุณเข้าใจอะไรผิดเยอะเลยแหละ เพราะ

1. คนไทยที่ถือสองพาสปอร์ตสองสัญชาติมีอยู่มากมายหลายล้านคนทั่วโลก บางคนถือสามพาสปอร์ต
สามสัญชาติด้วยซ้ำไป

2. ประเทศสิงคโปร์ มีกฏหมายห้ามถือสองสัญชาติ คนต่างชาติที่จะถือสัญชาติและพาสปอร์ตสิงคโปร์
ต้องสละสัญชาติเดิม มาถือสัญชาติและพาสปอร์ตสิงคโปร์เพียงอย่างเดียว

ส่วนคนสิงคโปเรี่ยนท่่ไปอาศัยอยู่ในต่างประเทศ จนขอสัญชาจิและพาสปอร์ตของประเทศอื่นได้
หลายคนจำใจต้องสละสัญชาติสิงคโปร์และพาสปอร์ตสิงคโปร์ เพื่อที่จะได้ไปถือพาสปอร์ตของประเทศ
อื่นได้ มิเช่นนั้นจะขัดกับกฏหมายของบ้านเกิด

______________________________________

นอกนั้นไม่มีความคิดเห็นอื่นๆ นอกจากอยากจะขอชื่นชมคุณ JidNince คห. 1 และ คุณ BMW คห 3
มาด้วยความเคารพ และ จริงใจ

และ ขอชื่นชมคุณ Melody คห. 14 เป็นอย่างสูง สำหรับข้อหนึ่ง ที่ตระหนัก และเขียนให้คนไทยที่อาจจะ
หลงลืมตัวไปบ้างได้ฉุกคิดและเห็นถึงความสำคัญของหนังสือเดินทางไทยทร่มีบุญคุณเป็นใบเบิกทางให้เขา
เหล่านั้นและได้ตระหนักว่าจริงๆ แล้วพวกเขาคือคนไทย เพราะไม่ว่าจะไปถืออีกกี่สัญชาติ แต่ในพาสปอร์ต
ของเขาตรงช่อง Place of Birth จะเขียนว่า Thailand หรือไม่ก็ชื่อจังหวัดใดจังหวัดหนึ่งในประเทศ
ไทยเสมอ

เรื่องที่ใครจะถือกี่พาสปอร์ตกี่สัญชาติ ไม่ใช่กงการอะไรของเรา แต่ที่เราไม่ชอบคือคนที่ลืมตัว
และคนที่พอไปถือสัญชาติอื่นแล้วคิดว่าตัวเองไม่ใช่คนไทยอีกต่อไป ทั้งๆ ที่ตอนไปหน่ะ หลายๆ คน
ก็โตเป็นผู้ใหญ่แล้ว ภาษาของประเทศนั้นๆ ก็ไม่ได้ใช้ได้ลึกซึ้งเหมือนคนที่นั่น เรียนก็เรียนโรงเรียนไทย
จนจบขั้นมัธยมหรือในระดับมหาวิทยาลัย ไม่ได้ไปโรงเรียนที่นั่นมาแต่อ้อนแต่ออก ความอภิเชฐในวัฒน
ธรรมต่างชาติก็มีแค่ในระดับหนึ่งหรืออาจจะไม่มีเลย อาหารการกินก็ยังชอบของไทยเหมือนเดิม
ยังคิดเลขในใจเป็นภาษาไทยเหมือนเดิม ยังท่องสูตรคูณเป็นภาษาไทยเหมือนเดิม

คำจำกัดความที่ถูกต้องหน่ะ คือคนไทยที่อาศัยอยู่ในต่างแดนและมีสัญชาติมีพาสปอร์ตของประเทศนั้นๆ
ด้วย แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคนๆ นั้นได้กลายเป็นฝรั่งชาติต่างๆ ได้กลายเป็นญี่ปุ่น ไปเพียงชั่วข้ามคืนนะ
ไม่ใช่เลยจ่ะ ก็ยังเป็นคนไทยเหมือนเดิมในสายตาของเราและคนไทยอีกมากมายนี่แหละ

เราเห็นเราเจอคนไทยในต่างแดนมาเยอะมาก เรารู้พฤติกรรมของคนไทยบางส่วนว่าพอไปได้สัญชาติใหม่
แล้วลืมตัวนะ แต่มีไม่กี่คนหรอกที่ไม่กระโตกกระตากไป และไม่เห็นว่าเป็นเรื่องใหญ่

คนไทยบางคนที่เราเคยเห็นตามด่าน ต.ม. ไม่น่ารักเลย คือชอบถือสองพาสปอร์ตซ้อนกัน โดยที่เอาของ
ประเทศรวยๆ ไว้ข้างบน เอาของไทยไว้ข้างล่าง แล้วพยายามอวดว่ามีสองพาสปอร์ตหน่ะ บางคนทำแย่
กว่านั้น ที่เราเคยเห็นคือ เธอใช้เท้าเขี่ยกระเป๋าที่วางเอาไว้กับพื้นด้วยแล้วทำเท่ห์สุดๆ แต่เราเห็นว่าไม่
เท่ห์เลย แต่น่ารังเกียจและน่าริบสัญชาติไทยคืนมากๆ

สำหรับคนที่ถือสองสัญชาติที่ได้มาด้วยความยากลำบากและทำให้ตัวเองและครอบครัวสบายขึ้น
แบบนี้เราชื่นชมนะ และพวกคุณจำเป็นต้องมีในการใช้อยู่อาศัยในประเทศใหม่ แต่ไม่ลืมเมืองไทย
ไม่ลืมว่าพื้นฐานดั้งเดิมคือคนไทย แบบนี้หน่ะเราชื่นชมมากๆ ค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 18
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 19
^
|

#18 ขอชื่นชมคุณ Melody คห. 14 เป็นอย่างสูง สำหรับข้อหนึ่ง
ที่ตระหนัก และเขียนให้คนไทยที่อาจจะหลงลืมตัวไปบ้างได้ฉุกคิด
และเห็นถึงความสำคัญของหนังสือเดินทางไทย
ที่มีบุญคุณเป็นใบเบิกทางให้เขาเหล่านั้นและได้ตระหนักว่า
จริงๆ แล้วพวกเขาคือคนไทย ......


Thx for your appreciation, however this kratoo is for
those who are holding Dual Citizenship, and/or having their real experiences of passing the ports of entry with 2 passports Only.

Pammeluff is just curious to get the point if it's necessary or not
to have a valid Thai passport, in case she wants to travel later on.

The main content does not open for anyone to make his/her own
opinions about Thai People out there who might forget Thailand.

Especially, anyone who does not pass the Examination through
the process of getting Foreign Citizenship, should not mention
anything negatively about the truth/the facts beyond one's own acknowledgements.

This kratoo should not link any thoughts to blame those who have
their own decisions of living in foreign countries, no matter what,
no matter how some Thais you met might behave not so nicely.

If you want to pick on somebody or really need to complain about
Thai People you deeply hate, you'd better create your own topic.

Remember that WE, Thais here are all having good morality and
our fine characteristics are confirmed by the formal statements
and/or having Governmental Certificates to show our social status.

No one in this website is predicted or expected to return to our
Kingdom, and the decisions to return or not to return are up to
our destiny and fate. There's no need to make a strong point of
view to appreciate or not appreciate those who will return or will
not return to Thailand, you have no right at all to judge people
through your liitle knowledge of travels in short period of time.

Moreover, this is not your duty to come around dragging on those
who hold 2 citizenships, just because you have one Thai Passport.


ตอบกลับความเห็นที่ 19
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 20
คห 17 ไปอ่านข้อความแล้วทำความเข้าใจกับคำว่า "โอนสัญชาติ" และ "แปลงสัญชาติ" ให้เข้าใจถ่องแท้ด้วย

ถามว่า "ผมได้สัญชาติเมกันมาแบบไหน?"

ขอตอบว่า ได้มาด้วยการเข้าสาบานตนว่า ข้าพเจ้าจะจงรักภักดีต่อประเทศนี้ และจะปกป้องอธิปไตยของด้วยชีวิต แต่ไม่มีคำว่า "ข้าพเจ้าได้ขอสละสัญชาติเดิมที่ตนมี" ส่วนที่คุณบรรยายๆใน คห นี้นะ เขารู้กันมาตั้งนานแล้วละลุ้ง เรื่องถือกรีนการ์กี่ปีๆแล้วสมัครซิติเซ่นได้ ว่าแต่ที่คุณรู้เรื่องซิติเซ่นนี่คุณรู้จริงลึกซึ้งแค่ไหน?ถึงมาเที่ยวบอกว่าขั้นตอนมันเป็นอย่างไร? แค่เรื่องการ"โอน" และ "แปลง" สัญชาตินี้คุณก็ไม่รู้เรื่องแล้ว จะถกกันไปทำไมมี?

อ้อ อีกอย่างคดีที่ศาลไทยไม่ว่าอาญาหรือแพ่ง ถ้ามีหมายเลขคดีดำหรือแดง ไม่ว่าจะกี่ปีต่อกี่ปี ก็สามารถขอดูได้จาดเขตอำนาจศาลนั้นๆ ไม้ว่าหลายสิบปีแล้วหาไม่เจอ ไม่ได้เป็นเช่นนั้น

คห 17 ไปได้ข้อมูลมาจากไหน ถึงยอมถือกรีนการ์ดตั้งสามสิบกว่าปี ไม่ถือสัญชาติเมกัน เพราะกลัวถูกยึดทรัพย์สินที่เมืองไทย


ตอบกลับความเห็นที่ 20
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 21
เอ้า เข้ามาให้ความรู้กับคห 17 อีกที

ถ้ายังไมเข้าใจคำว่า "โอนสัญชาติ" และ "แปลงสัญชาติ" แตกต่างกันอย่างไร ก็ให้ไปดู ของไทย พรบ สัญชาติ หมวด 1 "การได้สัญชาติไทย" ในมาตรา 12 ที่กล่าวเกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าว

และขอโทษทีครับ อย่ามาถามผมว่า "ผมได้สัญชาติเมกันมาแบบไหน" ผมถือว่าเป็นการ Offend กันเกินไป ตัวคุณเองนะ เวลาจะโพสอะไร ให้มีหลัก มีเกณฑ์ มีข้อเท็นข้อจริงที่สามารถอ้างอิงถึงได้ ไม่ใช่สักแต่จะพูดก็พูดออกมา ผมจะบอกให้ คนไทยที่เป็นผู้มีชื่อเสียงอยู่ในแอลเอ ก็มีสัญชาติเมกัน ท่านเองมีทรัพย์สินในเมืองไทยมากมายมหาศาล ไม่เห็นท่านต้องไปกลัวการถือครองเรื่องทรัพย์สินในเมืองไทยเลย

มาเพิ่มเติมคำตกหล่น พรบ สัญชาติ พ.ศ.2508

ตอบกลับความเห็นที่ 21
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 22
ขออภัย คุณ Melody คห. 19 ละกันค่ะ ที่ Quote คห. ของคุณมา คุณมีสิทธิในการแสดงความคิดเห็น
ในส่วนของคุณ ดิฉันก็มีสิทธิในการแสดงความคิดเห็นในส่วนของดิฉันค่ะ และดิฉันให้ค่าของตัวเอง
เสมอเท่าเทียมกับคนสัญชาติอื่นๆ ค่ะ _เขียนแค่นี้พอนะคะ ไม่ขอเขียนยาวค่ะ ดิฉันเคารพในความคิดเห็น
ของคุณเพราะฉนั้นโปรดให้ความเคารพในความติดเห็นของคนอื่นด้วยค่ะ ขอบคุณค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 22
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 23
ปอลอ ลืมไปว่าใน คห. 18 ของเรา เราไม่ได้ไป Quote คห. ของใครมา แค่อ้างอิงถึงและเอามาชมเชย
แค่นั้น ขออภัยที่พิมพ์ใน คห. 22 ผิดไปที่บอกว่าไป Quote มาไม่ใช่นะ อย่างไรก็ตามขออภัย คห.
19 เป็นอย่างสูงที่อ้างถึงและนำมาชมเชยค่ะ ขออภัยที่ทำให้คุณไม่พอใจ

ส่วนตรงนี้เป็น คห ส่วนตัวนะคะ ไม่ได้พาดพิงถึงใครทั้งสิ้น คือ ดิฉันรณรงค์เสมอค่ะ
ให้คนไทยตระหนักถึงคุณค่าและศักดิ์ศรีของตนเองค่ะ เพราะถ้าคนไทยเราไม่เคารพตนเอง
คนชาติอื่นๆ ก็จะไม่เคารพพวกเราค่ะ และดิฉันภูมิใจในความเป็นคนไทยค่ะ
คนไทยเราต้องให้คุณค่า ให้ Value ตนเองสูงๆ และต้องมี Self-esteem สูงๆ ค่ะ
เราถึงจะนำพาประเทศชาติให้เจริญได้ ไม่ใช่เจริญแต่วัตถุ (คห. ส่วนตัวค่ะ)


ตอบกลับความเห็นที่ 23
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 24
Been there, done that !


นี่ไม่ใช่เรื่องเคารพหรือไม่เคารพความเห็นของผู้อื่นเลยนะ

ปัญหาคือ เธอ ไม่เคารพกติกามารยาทในการเข้ามาตอบกระทู้ต่างหาก


ประเด็น คืออะไร เขาจั่วหัวข้อและเนื้อหาชัดเจนแบบร้อยเต็มร้อยไว้แล้ว
ว่า ต้องการคำตอบจากบุคคลที่ถือสองพาสปอร์ต และมีประสบการณ์ตรง

ไม่ได้ว่าผิดนะ ที่เธอมาตอบในคคห.แรกที่เกี่ยวกับการผ่านเกทเข้าออก

แต่ควรจะพอแค่นั้น ถ้าจะมาชื่นชมใครต่อ ก็ทำได้ แต่อยากลากประเด็น
ไปต่อว่าพาดพิงไปเรื่องที่ไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาของกระทู้แต่อย่างใด

เอาตรงๆนะ ไม่มีใครถามสักคำ ว่าเธอรู้สึกอย่างไรกับคนไทย ๒ สัญชาติ
และนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรก เป็นครั้งที่มากกว่าสิบ แล้วที่เธอเข้ามาในหัวข้อ
ของพาสปอร์ต แล้วโยงเรื่อง เลื้อยไปด่าว่าคนไทยลืมตัว หรือไม่รักชาติ

เธอก็เป็นคนฉลาดพอตัวนะ อย่าทำเป็นไขสือ ไม่เข้าใจว่าประเด็นกระทู้
เขาไม่ได้เอ่ยเรื่องที่คนไทยไปอยู่ต่างแดนแล้วคิดว่าตนเองไม่ใช่คนไทย

ไม่มีใครถามในประเด็นนี้เลย เพราะไม่ใช่สาระ ที่จะต้องพูดกันในกระทู้นี้

คนอื่นๆ เขาก็มาตอบตามที่หัวข้อเกี่ยวข้อง เธอต้องนึกถึงสาธารณะไว้สิ
ว่าคนอ่านจำนวนมาก เขาเข้ามาเพื่อเก็บความรู้หรือข้อมูลในเรื่องนี้อยู่

จู่ๆก็เข้ามาดึงประเด็น ลากเอาของคนอื่นๆมาเสริม โยงเข้าสู่การด่าทอ
คนไทยด้วยกัน กี่ครั้งกี่หนมาแล้ว ที่เธอชอบเขียนดูหมิ่นคนอยู่เมืองนอก

ไม่ใช่นี่ครั้งแรก เมื่อไม่นานมานี้ ก็มีคนมาถามเธอตรงๆเลยด้วยซ้ำ
ว่า ถ้าเธอไม่ชอบคนไทยที่อยู่ต่างประเทศแบบถาวร
ในเมื่อที่นี่มีคนนับพันเป็นคนถือหลายสัญชาติ

เธอกล้าทำ เธอก็จงกล้ารับ ว่า เธอมีปมด้อยอะไรในชีวิต เป็นคนที่ไม่ได้
อยู่ในต่างประเทศแบบถาวร และไม่มีประสบการณ์ที่จะตอบได้ในข้อนี้นะ

ไม่จำเป็นหรอกที่จะต้องเข้ามาแสดงความภูมิใจในความเป็นไทยแบบนี้
เพราะว่าไม่ใช่ประเด็น และคนอื่นๆเขาก็ไม่ได้แย้งในเรื่องความรักชาติ

การตอบที่ให้เห็นคุณค่าของพาสปอร์ต นั้นเพื่อให้รู้ว่าจะใช้ประโยชน์ได้แน่

แต่เธอมาโยงเรื่อง พลิกประเด็นไปโจมตีคนอื่นๆ บุคคลที่สามว่าลืมตัว
ซึ่งไม่ใช่สาระที่จะนำมาพูดหรือเขียน เธอควรเคารพหัวข้อกระทู้ก่อนอื่น

เธอควรเคารพในกติกาสากล ที่เขาสนทนากันในหมู่ของคนที่มี ๒ พาส
และเขาไม่ได้ถามเธอเลยสักคำ ว่ารู้สึกอย่างไร กับคนไทยในเมืองนอก

การนำประเด็นนั้นเข้ามาต่างหาก ที่ไม่เหมาะสมกับกาลเทศะอย่างยิ่ง
เธอนิยมหรือไม่นิยมอะไร ก็ไม่จำเป็นต้องมาบอกในทุกกระทู้แบบนี้เลย
หนที่เท่าไรแล้ว ที่เธอมีปัญหากับคนตอบคนอื่นๆ ที่เขาอยู่ในประเด็นกัน

เธอมีความรู้ มีความคิดอ่าน เป็นตัวของตัวเอง ก็ไม่มีใครเขาว่าอะไรนี่นะ

แต่ปัญหาคือ ประเด็นของกระทู้ ที่ไม่ได้เอื้อให้เธอจะมาโพสต์ด่าคนอื่นๆ
ความเห็นของเธอก็ไม่ผิดหรอกนะ แต่ไม่ถูกที่ ไม่ถูกเวลา ไม่มีใครถาม

นั่นคือสิ่งที่เธอควรจะย้อนถามตนเอง ว่า เธอให้ความเคารพผู้อ่านคนอื่นๆ
หรือเปล่า คนเขาอยากจะมาเก็บข้อมูลจากผู้ที่ถือ ๒ พาส หรือรู้เรื่องนี้อยู่
กลับต้องมาทนอ่านความเห็นโยงใยไปด่าใครๆ ตามที่ใจเธอแฝงชิงชังนั่น

จะเขียนทำไมแบบนี้ ในทุกๆกระทู้ที่เกี่ยวกับคนไทยที่มีหลายสัญชาติล่ะ
จะเข้ามาเล่นทำไม ถ้ามีใจเป็นปฏิปักษ์กับคนที่เขาอยู่ถาวรในต่างประเทศ

หรือถ้าจะเล่นที่นี่ ก็เว้นๆเสียบ้างก็ได้ ไม่ต้องโจมตีคนถือหลายสัญชาติ
ในทุกที่ทุกโอกาส ในเมื่อเธอถิอพาสเดียว มีสัญชาติเดียว เขารู้กันทั่่วแล้ว

ไม่จำเป็นเลยต้องมาอ้างนั่นนี่ เธอมีปัญหาอะไรก็ไปแก้ไขที่จิตของตนนะ
อย่าสร้างความรำคาญในเว็บบอร์ดลักษณะนี้อีกเลย โดนจวกไปกี่หนแล้ว

ถ้าประเด็นมีคนเขาถามว่ารู้สึกอย่างไรกับคนไทยที่ไม่รักชาติศาสนาแล้ว
แบบนั้น ค่อยเข้ามาเขียน แล้วถ้ามีคนโต้แย้ง ค่อยมาว่าเขาไม่เคารพนะ

แต่กรณีนี้ ตัวเองเข้ามาผิดกระทู้เอง ไม่มีประสบการณ์อยู่เมืองนอกถาวร
ไม่ได้ถือหลายสัญชาติ ไม่ได้มีประสบการณ์ถือสองพาสปอร์ตในชีวิต
ก็ไม่ควรจะมากร่างวางท่าใหญ่โต ว่าเป็นคนถือพาสเดียว ใครถามหรือล่ะ
ว่ามีพาสเดียวดีกว่ามีสองพาส หรือว่า มีสัญชาติเดียวรักชาติจริงกว่าไหม

ขอร้องละ ให้เป็นกระทู้สุดท้ายที่เธอจะเข้ามาด่าคนที่ถือ ๒ พาสปอร์ต
หรือกลุ่มคนไทย ภรรยาสามีต่างชาติ ที่อยู่ถาวรในประเทศที่เจริญแล้ว
เธอเขียนด่ามาจนกระทู้จะล้นทะลักจออยู่แล้ว พอแล้ว ไม่มีใครอยากรู้


ตอบกลับความเห็นที่ 24
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 25
และนี่ก็เป็น คห ส่วนตัวของเราจริงๆ

การที่คนไทยได้ไปใช้ชีวิตอยู่ในต่างประเทศ แล้วมีการถือสัญชาติของประเทศที่ตนอยู่ ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะลืมตัวลืมตน (A cow forgets its feets) แต่เขาก็สำนึกอยู่ถึง The first air we breathed หลายๆท่านสร้างชื้อเสียง สร้างเศรษฐกิจให้แก่ประเทศไทยอย่างมากมาย ดังเช่นในแองเอ ไทยทาวน์, ตลาดสดที่ใหญ่ไม่แพ้ของคนจีนใกล้ไชนาทาว์นในแอลเอก็เป็นของคนไทย ในนิวยอร์ค ที่คนไทยพี่น้องตระกูลนึงเป็นตัวแทนจำหน่ายนำเข้าเบียร์ชื่อเสียงโด่งดังของไทยมาขายแพร่หลายในตลาดเมกาเหนือ เป็นต้น ดังนั้น ถ้าไปพูดว่าคนไทยบางส่วนพอได้สัญชาติจากประเทศที่ตนอยู่ เป็นวัวลืมกำพืดไป อันนี้ เราขอบอกตรงๆว่า คนไทยที่ถือสัฐชาติเมกันที่เราเจอในเมกานี่ยังไม่เห็นมีใคร เจอคนไทยด้วยกันแสองอากัปกิริยาดังว่าเลยสักคน ทุกคนทุกท่านที่เจอคนไทยด้วยกัน ไม่ว่าเจอที่วัด ที่โบสถ์ หรือสถานที่มีงานไหนๆ พอรู้ว่าเป็นคนไทยเขาก็พูดจาต้าอ้วยกันด้วยภาษาไทยทั้งนั้น ที่เจอนี่กลับมีเป็นพวกทัวร์ลิสหรืออาจจะมาดูงานอะไรนี่ พยายามพูดภาษาอังกฤษใส่ ทั้งๆที่รู้ว่าผู้ที่อยู่ต่อหน้าเป็นคนไทย นี่เจอที่ Outlet ในลาสเวกัส พวกเขาไปหาซื้อกางเกงยีนกัน เจอคนขายเป็นคนไทย

เราเองเข้ามาให้ข้อมูบความรู้แก่ผู้ที่ไม่รู้และต้องการรู้ โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวกับประเทศที่ตนใช้ชีวิตอยู่อย่างยาวนาน ไม่ได้ต้องการหัวโขนหรือพยายาม Make number กับสมาชิกท่านอื่นๆ แต่ที่ปาวนามาตอบเพราะ ในอดีตอันไกลโพ้นเราเคยถูกคนแหกตาให้ข้อมูลผิดๆ ตั้งแต่ย่างเท้ามาสู่ Land of opportunity แห่งนี้ ดังนั้นเมื่อมีข้อมูลไหนที่เราเห็นว่าไม่น่าจะใช้ ไม่น่าจะขนาดนั้นเราก็แย้งไปด้วยเหตุด้วยผล ผู้ที่ถูกเห็นแย้งต่างก็สามารถที่จะนำเหตุนำผลมาถกหากัน ประโยชน์มันไม่ได้ตกอยู่กับตัวผู้แย้ง ผู้ถกอย่างเดียว หรอก แต่จะตกอยู่กับคนที่มาตามข้างหลัง จะได้ข้อมูลที่ถูกต้อง เป็นจริงและได้ประโยชน์ ฉะนั้น โปรดอย่าได้เอาความเก๋า ถือว่าเป็นซีเนียร์อะไรมาแสดงอิทธิฤทธิ์ในเวปนี้เลย ไม่มีประโยชน์หรอก เสียอารมณย์ตัวเองเปล่าๆ
อีกอย่าง การแสดงความเห็นใดๆก็แล้วแต่ ไม่ควรอย่างยิ่งที่จะไป Offend ผู้อื่นเขา นั่นเป็นสิ่งที่ผู้มีความรู้เขาจะไม่ทำกัน Period.


ตอบกลับความเห็นที่ 25
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 26
Silent of A Lamb.....


ตอบกลับความเห็นที่ 26
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 27
เวลาคนต่างชาติเข้ามาอาศัยอยู่ในเมืองไทย แล้วมีความรู้สึกภาคภูมิใจในความเป็นไทย เรากลับชื่นชมกันว่าเป็นบุคคลน่ายกย่อง ที่เห็นคุณค่าความเป็นไทย

แต่ถ้าคนไทยที่ไปอาศัยอยู่ในประเทศอื่นแล้วมีความรู้สึกภาคภูมิใจในความเป็นชนชาตินั้นๆ กลับโดนเหน็บแนมว่าเป็นพวกลืมกำพืดตัวเอง แปลกดีนะ

ปล. สำหรับความคิดเห็นเกี่ยวกับหัวข้อกระทู้ขอตอบแบบเดียวกันกับความคิดเห็นที่ 3 คุณ BlackmagicW


ตอบกลับความเห็นที่ 27
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 28
ทำไมเวลาคนมีหลายสัญชาติเข้ามาโพสต้องเป็นแบบนี้ตลอดเลย เหอๆๆ


ตอบกลับความเห็นที่ 28
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 29
ตอบคุณ moonwalking

ถ้าคนไทยสามารถมีได้สัญชาติเดียว แล้วการที่ทักษิณได้สัญชาติกัมพูชากับมอนเตเนโกรจะไม่เป็นการเปิดช่องทางให้ฝ่ายค้านดำเนินคดีทางกฏหมายเกี่ยวกับทรัพย์สินหรอค่ะ? ไม่ได้ต้องการจะโยงเข้าเรื่องการเมืองแต่อย่างใด แต่ตัวเองไม่ค่อยได้ติดตามข่าวเมืองไทย แล้วเรื่องนี้มันค่อนข้างดังเลยรู้


ตอบกลับความเห็นที่ 29
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 30
คห 17 คนถือใบเขียวในอเมริกาตั้ง 34 แล้วไม่ขอแอพพลายซิติเซ่น มีอยู่กรณีเดียว คือ คุณสมบัติไม่ควอลิฟราย เพราะไม่มี Good moral charactor หรือติดคดีทางอาญา นอกนั้นอยู่นานเขาถือสัญชาติอเมริกันกันทั้งนั้แหละ แม้แต่พ่อครังแม่ครัวในร้านไทย ภาษาอังกฤษไม่ได้ เขายังไปสอบกันที่วัดไทย แอลเอ ตอนปีที่เปิดให้สอบโดยอิมมิเกรชั่นยอมให้มีล่ามด้วย


ตอบกลับความเห็นที่ 30
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 31
คิดว่าที่เค้าไม่ขอเพราะเป็นทางเลือกของเค้าเองค่ะ ไม่ใช่ว่าไปสมัครแล้วไม่ผ่าน เพราะเค้าเข้าใจว่าจะมีผลกับทรัพย์สินทางเมืองไทย


ตอบกลับความเห็นที่ 31
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 32
เรื่องคนอยู่ที่เมกานานๆแล้วไม่แปลงสัญชาติเป็นเมกันนี่ขอตอบแทนเพื่อนคนหนึ่งที่อยู่ที่นี่มาสี่สิบกว่าปีแล้ว แต่ยังถือใบเขียวอยู่

เพื่อนคนนี้ประวัติสะอาด ทำมาหากินสุจริต สามีเป็นฝรั่ง ภาษาคล่องเปรี๊ยะ ตอนนี้คุณท่านนึกครึ้มจะแปลงสัญชาติ (พูดถูกหรือเปล่านี่ อิอิ)เป็นเมกันซะแล้ว

ต่อข้อถามว่าอยู่มาตั้งนานไม่ทำ แล้วนึกอย่างไรมาทำตอนนี้..

คุณเธอบอกว่า ก็ชั้นรวยน่ะ มีไรอ๊ะปล่าว ตอนค่าธรรมเนียมถูกๆสี่ซ้าห้าสิบ ไม่ทำ จะมาทำตอนนี้ร่วมพันเหรียญ สะจายตัวเอง เอิ้กๆๆๆ


ตอบกลับความเห็นที่ 32
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 33
ส่วนมากจะทำตอนจวนไกล้ retire


ตอบกลับความเห็นที่ 33