สอบถามความคิดเห็นเพื่อนๆ ก่อนแต่งงานกับหลังแต่ง มีผลกระทบกับการเดินทางไหมครับ

ไม่ว่าใครๆก็คงไม่ชอบการเดินทางท่องเที่ยว ถ้าพอมีเวลาและกำลังทรัพย์

เห็นเพื่อนๆที่นี่เที่ยวกันเก่งจริงๆ ไม่รู้เอาเวลาที่ไหนมาเยอะแยะ
ไม่ทราบว่าส่วนใหญ่นี่ยังโสดหรือว่าแต่งงานแล้วครับ
หรือว่าหาแฟน คนที่ชอบเที่ยวเหมือนกัน เลยไม่มีปัญหา
จะวางแผนไปไหนก็ราบรื่น ไม่มีใครคอยห้าม


ตอนที่ยังโสดกับแต่งงานแล้ว ยังมีเวลาเที่ยวเหมือนเดิมไหมครับ
หรือว่าแทบไม่มีโอกาสเลย หรือว่ายังเหมือนเดิม แล้วไม่มีปัญหากับ
ชีวิตครอบครัวไหมครับ เพราะคงจะทำอะไรไม่ได้มากเหมือนชีวิตตอนโสด

เคยเห็นบางคนรักการเดินทางมาก พอแต่งงานแล้วต้องขอแฟนก่อน
ถ้าแฟนไม่เห็นด้วยก็อด ครั้นจะไปด้วยกันก็ว่างไม่ตรงกันอีก
ยิ่งคนที่มีลูกนี่ไม่ต้องพูดถึง ไหนจะต้องห่วงอนาคตลูก ต้องประหยัดเงิน
ไว้ให้ลูก บางคนนี่เคยเห็นตัดขาด ชีวิตการเดินทางเลย

บางคนแต่งงานเร็ว ชีวิตทั้งชีวิตแทบไม่ได้ไปไหนเลย เพราะทุกอย่าง
ทั้งเรื่องเวลาเรื่องเงินต้องทุ่มเทไปกับลูกหมด อะไรๆก็ต้องคิดถึงลูกก่อน
ถึงแม้ว่าอาจจะพร้อมเรื่องเงิน แต่ก็ต้องมีภาระเรื่องดูแลลูกอยู่ดี

จะว่าไปแล้ว ชีวิตโสดเนี่ยมันก็ดี กับคนที่รักการเดินทางเหมือนกันนะ
แต่ถ้าต้องแต่งงานมีครอบครัว ชีวิตมันจะเหมือนเดิมไหมเนี่ย

ความคิดเห็นที่ 1
เที่ยวเยอะเหมือนเดิมค่ะ แต่ที่เปลี่ยนคือมีตัวตุ่นน้อยเกาะไปด้วยทุกที่ค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 1
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 2
หลังแต่งทำให้เที่ยวมากขึ้น


ตอบกลับความเห็นที่ 2
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 3
เยี่ยมจังเลย ทำไมเพื่อนๆเรา ถึงไม่มีใครทำได้เลย


ตอบกลับความเห็นที่ 3
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 4
หลังแต่งเที่ยวมากขึ้น และเที่ยวน้อยลงตอนมีลูกตัวน้อยค่ะ ^^


ตอบกลับความเห็นที่ 4
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 5
หนีตามกันมา เอ้ย!อยู่ด้วยกันมา 10 กว่าปีแล้ว แต่ยังไม่ได้แต่ง เลยไม่รู้ว่าจะอยู่หมวดไหนดีครับ
แต่ที่แน่ๆ เที่ยวกันมากกว่าเมื่อก่อนเยอะครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 5
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 6
ดิฉัน ก่อนแต่ง ก็เที่ยวเก่ง
แต่...หลังแต่ง ก็เที่ยวเก่ง

เพียงแต่ พ่วงคนข้าง ๆ ไปด้วย
สไตล์การเที่ยวไม่เหมือนเดิม ลุยน้อยลง
เพราะเบื่อคนบ่น เดินมากก็บ่น เที่ยวมาก็บ่น

อยากไปเที่ยวคนเดียวเหมือนกันค่ะ
แต่...แค่คิด ก็ไม่สนุกแล้ว เพราะถ้าไม่มีคนคอยบ่น คงเหงาพิลึก


ตอบกลับความเห็นที่ 6
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 7
มีแบบว่า แค่แฟนอ่าค่ะ...
เป็นพวกพากันเที่ยวอ่ะ
ยิ่งอยู่ด้วยกันยิ่งเที่ยว เรียกว่าชีพจรลงเท้าเลยทีเดียว
แม่บ่นว่า ไอคู่นี้จะเที่ยวอะไรกันหนักกันหนา!!!!

เกี่ยวกะคำถาม จขกท.มั้ยเนี่ย


ตอบกลับความเห็นที่ 7
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 8
แต่งแล้วเที่ยวมากขึ้นค่ะ ไม่ต้องขออนุญาตแล้วไง ลุยโลด

แล้วตั้งใจไม่มีลูก เที่ยวแหลกเลยทีนี้ ไม่ต้องรอลูกปิดเทอมแบบเพื่อนๆนิ


ตอบกลับความเห็นที่ 8
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 9
ผมว่าคนห้องนี้ส่วนใหญ่มักจะมีแฟนที่ชอบเที่ยวเหมือนกันครับ
หรือไม่ก็จะพยายามหาแฟนที่ชอบเที่ยวเหมือนกัน
ผมว่าเรื่อง life style เป็นตัวกำหนดคนที่จะมาอยู่กับเราอย่างสำคัญมากๆเลย


ตอบกลับความเห็นที่ 9
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 10
เพิ่งจะหัดเที่ยวต่างประเทศค่ะ ส่วนในประเทศไปทุกครั้งที่มีโอกาส (วันหยุด-มีคนชวน)
แต่ไม่ว่าจะนอกหรือใน ลุงแกไม่ไปด้วย อย่างดีก็ได้ยินเสียงพึมพัมว่า "ไปอีกแล้ว"
ก็ไม่เห็นว่าอะไร ชวนไปก็ไม่ไปเค้าไม่ชอบ วัน ๆ เอาแต่ส่องพระ ชอบไม่เหมือนกัน
แต่ก็ไม่ขัดกันค่ะ ..


ตอบกลับความเห็นที่ 10
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 11
ปกติเที่ยวกับครอบครัวตั้งแต่เด็กค่ะ
โตมาก็เที่ยวกับเพื่อน พอมีแฟน แรกๆแฟนไม่ชอบเที่ยวเอาซะเลย
พอเราไปกับเพื่อน ก็บ่น (จริงๆคงแอบน้อยใจอยากไปด้วยมากกว่า 55)
หลังจากนั้น ก็เริ่มพาเค้าเที่ยว จนตอนนี้ ติดไปแล้วค่ะ เป็นคนนั่งคิดทริปเองเลย ว่าปีนี้จะไปไหนดี

เดี๋ยวเดือนหน้าจะแต่งงานแล้ว เสร็จงานก็ลุยฮันนิมูนกันเลย
ก็คงจะเที่ยวกันไปเรื่อยๆ อีกหน่อยมีลุกก็คงพาลูกไปด้วยเหมือนเดิมค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 11
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 12
ก่อนแต่งก็ชอบเที่ยวกันอยู่แล้ว หลังแต่งก็ชวนกันเที่ยวบ่อยกว่าเดิมอีก

แพลนกันว่าจะมีน้องเจแปน, น้องซิดนี่, น้องเทมส์ แต่ทำไปทำมามีแต่ น้องนนท์ อยู่คนเดียว


ตอบกลับความเห็นที่ 12
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 13
กรณีผม ผมรู้ว่าชอบเที่ยวมาตั้งแต่สมัยเรียนละเลย หาคนที่มี life style คล้ายๆกันมาเป็นภรรยามันเลยไม่มีปัญหาอะไรครับ บางครั้งไม่ต้องไปด้วยกันก็ไม่มีปัญหาเพราะเข้าใจว่าแต่ละคนอาจชอบบางที่ไม่ชอบบางที่ก็ต่างคนต่างไปไม่ว่ากัน
*แต่ถึงบางคู่มี life style ไม่เหมือนกันแต่ว่าเรื่องเที่ยวนี่เป็นยังไงก็คงคุยต่อรองกันได้ครับไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไร

ตอบกลับความเห็นที่ 13
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 14
ก่อนแต่งงานไปเที่ยวกับเพื่อนๆ ที่สนิทกลุ่มใหญ่ปีนึง 1-2 ครั้งจะไปต่างจังหวัดค้างคืนคุณนายแม่อนุญาตให้ไปได้เพราะเป็นกลุ่มเพื่อน ที่คุณนายแม่รู้จัก แต่พอแต่งงานแล้วคุณนายแม่ก็ปล่อยแล้ว เริ่มมีคนขับรถให้ 555... เคยจัด Trip ไปกับกลุ่มเพื่อนๆ แต่ไม่เคยครบองค์ประชุมเลย คุณเืพื่อนก็ติดธุระโน้นนี่นั้น รอกันไป รอกันมา มากคนก็มากความ สรุป สุดท้ายก็ไปเที่ยวด้วยกัน 2 คนเฉลี่ยแล้วก็เดือนละ1 ครั้ง ก็จะแพลนล่วงหน้าลาพักร้อน ไปเที่ยวก็ออกต่างจังหวัดหรือไม่ก็มีไปต่างประเทศบ้าง สามีไม่เคยว่าไรเลยตามใจทุกอย่าง เลยได้ใจเที่ยวกันใหญ่ 555...ชอบ

ตอบกลับความเห็นที่ 14
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 15
ก่อนแต่ง เราเป็นคนไม่ชอบการท่องเที่ยวค่ะ คือทำแต่งาน แต่แฟนเค้าจะมีโอกาสไปต่างประเทศด้วยเรื่องงานบ่อยๆ เค้าก็จะชวนให้เราไป แต่เราไม่ไป
หลังแต่ง กลับกันเฉยเลย เราชอบไปเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ แต่อยู่ดีๆ แฟนก็กลายเป็นคนเบื่อเที่ยวไปซะงั้น ไปต่างประเทศเฉพาะที่จำเป็นต้องไปจริงๆเช่นเรื่องงาน
หลังแต่ง จะมีเรื่องที่ต้องคิดมากขึ้น ไม่ว่าเรื่องงาน เรื่องเวลา เรื่องลูก เวลาไปเที่ยวต่างประเทศพร้อมกัน จะค่อนข้างเครียด เพราะห่วงงาน ก็เลยใช้วิธีแยกกันไปเที่ยว แปลกๆไหม คือถ้าแฟนไป เราจะอยู่บ้าน ดูแลบ้าน งาน ลูก พอตาเราไป เค้าก็อยู่บ้าน ทำงาน
แต่เราก็ตกลงเวลากันได้ดีนะ เราไม่เคยเหงาที่ไปคนเดียวบ่อยๆ เพราะชินแล้ว ติดใจการไปคนเดียวด้วยซ้ำ แต่ที่มักจะเป็นเรื่องราว คือพ่อแม่แฟน เค้าจะไม่เข้าใจว่า เป็นผู้หญิงมีลูกและสามี ทำไมยังชอบไปไหนคนเดียว โดนบ่นบ่อยๆ แต่ในเมื่อสามีเราเข้าใจ และงานก็ไม่เสีย ทำไมจะไปไม่ได้ จริงไหม


ตอบกลับความเห็นที่ 15
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 16
แต่งแล้วเที่ยวสนุกมากขึ้น มีคนจ่ายตังค์ให้หมด เลย แต่ เลือกที่พักได้ไม่หรู เท่าก่อนแต่ง หลังแต่ง คนที่บ้านบอก พักยังไงก็ได้ ให้ถูก ๆ หน่อย แหม พอก่อนแต่ง บอกว่าเลือกที่หรู ๆ ดูโรแมนติกหน่อย ราคาไม่เกี่ยง แม๊ ช่าง เป็นไปได้เนอะคนเรา แต่ก็เที่ยวสนุกมากกก เมื่อมีเธอไปด้วย ทุกๆ ที่ ไปไหนก็ไปกัน


ตอบกลับความเห็นที่ 16
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 17
ก่อนแต่งไปใกล้ๆหลังแต่งถึงไหนถึงกัน มีลูกที่ไหนตั้งชื่อตามนั้นเลยจริงๆนะ


ตอบกลับความเห็นที่ 17
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 18
เหมือนเดิมค่ะ

เวลาเราไปเที่ยวเขาก็ทำงานของเขาไป (เราชอบเที่ยวแบบลุยๆ แต่เขาไม่ชอบ) แต่เวลาเขาไปเที่ยวถ้าเป็นโปแกรมที่เราสนใจก็ไปกับเขาด้วย อยู่กันมาก็หลายปีมีลูกชายแล้ว 1 คน ครอบครัวก็ไม่มีปัญหาค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 18