รบกวนเพื่อนๆพี่ๆทุกท่าน ช่วยดูทริป @เวียดนามกลาง หน่อยครับ ว่าควรปรับเปลี่ยนเพิ่มเติมแก้ส่วนไหนบ้างห

อยากช่วยนะ

แต่ยุ่งยากไปมั้ยอะ

เปิดลิงค์ไปก็เป็นภาษาต่างดาวแล้ว

ก๊อปมาโพสเลยได้นะครับ ยาวแค่ไหนก็ดูได้ครับ


ผมทำแผนที่ กเกิลแม๊ปไว้ เผื่อได้ประโยชน์นะครับ

สมาร์ทโฟน+ซิม3G อยู่ไหนก็ไม่หลงครับ

http://goo.gl/maps/gClQ

ขอบคุณมากครับ คุณ เต่าไม่กินผักบุ้ง :)

รบกวนอีกสักรอบนะครับ

http://www.upfile2day.com/uploads/1350291737.docx อาจเป็นเพรา word 2010 ก็ได้ครับ เลยเป็นตัวหนังสือต่างดาว

รบกวนอีกรอบ ผมแปลงเป็น PDF ไฟล์แทนครับผม
http://www.upload-thai.com/download.php?id=4dc5f106d6f9b0d80d3c356d5f370ce7

24/12/55 (จันทร์) เดินทางจากกรุงเทพ-มุกดาหาร โดยรถรอบสุดท้าย เพื่อให้ถึงที่มุกดาหารไม่เกิน 7 โมงเช้า ค่ารถ 490 บาท
25/12/55 (อังคาร) ถึงมุกดาหาร 7โมงเช้า นั่งรถต่อไปที่สะหวันนะเขต โดยจองรถรอบแรก 7.30 น. เพื่อจะได้เดินทางไปให้ถึงก่อน 9.00 น. ค่ารถ 45 บาท ต้องผ่านด่านตรวจคนออกจากเมืองมุกดาหาร โดยกรอกรายละเอียดและทำเรื่องออกนอกประเทศพร้อมยื่น passport แล้วกลับมาที่รถคันเดิมเพราะรถจะจอดรออยู่ เพื่อจะไปต่อรถไปเว้ โดยจะไปส่งที่ท่ารถ



เมื่อถึงท่ารถ ก็ซื้อตั๋วรอบ 9.00 เพื่อเดินทางไปเมืองเว้ ค่ารถ 440 บาท ยื่นเงินพร้อมพาสปอร์ต













นั่งไปไม่นาน ก็ถึงเมืองแดนสะหวัน ก่อนถึงชายแดน ลาว -เวียตนามแล้วที่นี่รถจะจอดให้แม่ค้าแลกเงินขึ้นมาบนรถ ได้การละ ลองๆดูก่อนจะได้หรือเปล่า





ปรากฎว่า อัตราแลกเปลี่ยนที่ได้คือ 1 บาท แลกได้ 560 ด่องไม่นานนักรถก็มาถึงด่านชายแดน ลาว - เวียตนามหรือฝั่งนี้เรียกว่า ด่านแดนสะหวัน


ค่าผ่านด่านที่นี่จ่ายเป็นเงินไทย คนละ 40 บาท ไม่มีใบเสร็จอีกแล้วเข้าห้องน้ำห้องท่าเรียบร้อย ก็เดินลอดซุ้มฝั่งลาวที่ด่านแดนสะหวันไปเพื่อไปยังด่านฝั่งเวียตนาม หรือด่านลาวบาว







เดินข้ามสะพานข้ามคลองอันเป็นเส้นแบ่งเขตแดน ลาว และ เวียตนามนั่นเอง


กรอกใบตรวจคนเข้าเมือง และประทับตราพร้อมระบุวันที่สามารถอยู่ได้จนถึงวันที่เท่าไหร่พร้อมกับจ่ายเงินด่องไป 10000 ด่องหรือประมาณ 20 บาท



ได้เวลา เราจะออกเดินทางกันต่อไปแล้ว มุ่งสู่เมือง ดองฮา ให้นั่งรถฝั่งขวา วิวจะสวยกว่า


ถึงเมืองเว้ ประมาณ 6.00 น. มึดเร็วกว่าบ้านเราเพราะว่าอยู่ด้านทิศตะวันออกก่อนเรามากนั่นเองวิ่งขึ้นสะพานข้ามแม่น้ำหอม หรือ Perphum River โดยรถมาจอดที่จุดสิ้นสุดการเดินทาง ที่ บขส.เมืองเว้




รถมาถึงสถานี บขส. เมืองเว้ ราวๆ 6 โมงเย็นกว่าๆ โดยเข้าไป Xinemax เข้าไปข้างในอาคารเพื่อสอบถามดูรถจะไปดานังพรุ่งนี้
-นั่งรถไปถนน Chu Van An ใกล้ๆ กับถนน Pham Ngu Lao และ Le Lo iแท๊กซี่เสนอราคามาว่า 1 US ต่อ 1 คน
เราไม่รู้ว่าไกลแค่ไหน เพราะในแผนที่ไม่มีบอกว่าบขส.อยู่ตรงไหนในแผนที่แต่ ถ้าไม่ไกล 1 เหรียญ ก็ตกคนละ 35 บาท
ถือว่าเป็นค่านำทางแล้วกันแต่ถ้าไกลก็คุ้มอยู่หรอกผมทำเนียนบอกว่า จะไปแท๊กซี่พวกบอกว่า ไกลมาก ประมาณ 7 กม. ถ้าแท๊กซี่ 10 US แต่ไปมอเตอร์ไซต์พวกกระผม คนละ 1 US 4 คน ก็ 4 US เอง(อย่ามาโกหกเลย 7 กม. ได้ไง เมื่อกี้นั่งรถมา ก่อนถึง บขส. ยังเห็นสะพาน Tran Tien ที่ข้ามแม่น้ำหอมอยู่เลย ไม่น่าเกิน 2-3 กม. ก่อนมาถึงนี่ เพราะย่านที่เราจะไปอยู่ตรงสะพาน Tran Tien)แต่เอาก็เอาวะ คนละ 1 US (คนละ 35 บาท) ไม่แพงหรอกเพราะมีกระเป๋าด้วยเลยตกลง







- เข้าที่พัก ย่าน Chu Van An โรงแรม Phuong Hoang (เผืองฮวาง) ปากซอยทางเข้าอยู่ ตรงข้าวโรงแรม Century ราคา ห้องละ 12 USD/ 2 คน (คนละ 195 บาท) e-mail: Phonix [email protected] www.phoenixhotelhue.com
สถานที่ตั้งของโรงแรม อยู่ระหว่าง Pham Ngu Lao และ Chu Van An









หลังจากเข้าพักที่โรงแรมแล้วก็ออกมาเดินชมความงามยามค่ำคืนโดยเดินออกจากที่พักจนถึงถนน Le Loi เราก็เลี้ยวซ้ายไปยังถนน Pham Ngu Laoเป็นถนนที่มีชื่อเสียง หรือพักที่ Thai Binh II อยู่ข้างๆ โรงแรมอิมพีเรียล ไม่ไกลจาก Phu An ราคา 6 เหรียญ




-ก่อนเข้านอนเราก็จองตั๋วเพื่อเดินทางไปดานัง โดยระยะทางจากเว้-ดานัง ประมาณ 100 กม.รถที่จะไปด่าหนังมีเที่ยว 8.00 น. และ 14.00 น. ราคาคนละ 50,000 VND หรือ 100 บาท / คนถ้าเป็นเที่ยวเช้า 40,000 VND หรือ 80 บาท / คนเท่านั้น








26/12/55 (พุธ) จากเว้ พอรอรถรอบ 14.00 น จึงจองทิปนั่งเรือ ตกคนละ 5.5 USD ต่อคน (180 บาท) เพื่อล่องเรือชมความงามของแม่น้ำหอม


เมื่อได้เวลาเราก็เริ่มออกเดินทางไปยังเรือ ซึ่งอยู่ที่ท่าน้ำ ริมสวนสาธารณะ ใกล้ๆสะพาน Tran Tien (ตรังเทียน) เดินออกไป เจอถนน Le Loi อยู่ปากซอยเห็น โรงแรม Century อยู่อีกฟากฝั่งของถนน Le Loi เดินไปเรื่อยๆเดี่ยวก็ถึงไม่ไกล








สะพาน Tran Tien











เรือมังกร ริมฝั่งแม่น้ำหอม







สภาพภายในเรือเปรียบไปก็เหมือนเป็นบ้านลอยน้ำนั่นแหละครับเพราะมีครบทุกอย่างทั้งที่นอน ทีวี เสื้อผ้า ห้องครัว สำหรับเด็กๆก็มีกระเป๋าหนังสือด้วยนี่แหละ Life Style ของชีวิตของชาวบ้านในน้ำหอมที่เว้น้ำหอมเรียกว่า Song Huong



แม่น้ำหอม หรือที่ชาวเวียดนามออกเสียงว่า ซงเฮืองกำเนิดมาจากบริเวณต้นน้ำที่อุดมไปด้วยดอกไม้ป่าที่ส่งกลิ่นหอมและร่วงหล่นลอยมากับสายน้ำแม่น้ำหอมเป็นแม่น้ำสายสั้นๆ น้ำจึงไม่ลึกแต่ใสสะอาดไหลผ่านธรรมชาติที่งดงามสองฟากฝั่ง ทั้งแมกไม้ วัดวาอารามรวมถึงสุสานจักรพรรดิแห่งราชวงศ์เหวียนการนั่งเรือมังกรล่องลำน้ำหอมจึงนับเป็นโปรแกรมท่องธรรมชาติมีให้เลือกหลายรูปแบบตั้งแต่การล่องเรือไปตามลำน้ำเพื่อแวะขึ้นชมพระราชสุสานของเหล่าจักรพรรดิราชวงศ์เหวียนหรือล่องจากตัวเมืองเว้สู่วัดเทียนมู่เพื่อชมเจดีย์ 8 เหลี่ยม 7 ชั้น อันงดงามระหว่างทางคุณยังจะได้พบกับหมู่บ้านชาวน้ำให้เห็นอยู่เป็นระยะๆชาวบ้านเหล่านี้ใช้เรือเป็นที่อยู่อาศัย มีอาชีพจับปลาขุดทรายในแม่น้ำมาขายให้พ่อค้าคนกลางส่วนในยามเย็นนั้นนักท่องเที่ยวนิยมใช้เวลาหลังอาหารค่ำลงเรือล่องลำน้ำหอมโดยเรือจะไม่ล่องไปไกลเหมือนในตอนกลางวันแต่จะปล่อยให้เรือล่องลอยไปตามสายน้ำที่ไหลเอื่อยๆ ท่ามกลางศิลปินนักร้อง นักดนตรีที่มาฟ้อนรำและบรรเลงเพลงพื้นบ้านให้ฟังกันสดๆซึ่งในอดีตการฟ้อนรำและการบรรเลงเพลงพื้นบ้านนี้เป็นการเล่นถวายให้กับจักรพรรดิเท่านั้น
โดยมีสถานที่สำคัญ 5 จุด 1.เจดีย์เทียนหมู่ ซึ่งแปลว่าหญิงสวรรค์ เนื่องจากมีตำนานว่าขาวบ้านมาเห็นผู้หญิงแต่งชุดสีแดงบริเวณนี้นั่นเอง 2.สุสาร Du Duc เป็นพระราชวังและอุทยานที่ประทับของกษัตริย์ตื้อตึก 3.สุสารพระเจ้าไคห์ดิง
-วัดเทียนมู่ (Thien Mu Pagoda)
• วัดเทียนมู่ตั้งอยู่ฝั่งซ้ายของริมแม่น้ำหอมทางไปสุสานของพระเจ้ามิงห์หม่างวัดแห่งนี้นับเป็นศูนย์กลางทางพุทธศาสนานิกายเซน จุดเด่นที่สุดของวัดแห่งนี้คือเจดีย์ทรงเก๋ง 8 เหลี่ยม สูงลดหลั่นกัน 7 ชั้น แต่ละชั้นเป็นตัวแทนของชาติภพต่างๆของพระพุทธเจ้าส่วนทางฝั่งซ้ายและขวาเป็นที่ตั้งของศิลาจารึกและระฆังสำริดขนาดใหญ่หนักถึง 2,000 กิโลกรัม ถัดมาทางด้านหลังของเจดีย์เป็นประตูทางเข้าสู่บริเวณภายในวัดมีรูปปั้นเทพเจ้า 6 องค์คอยยืนเฝ้าปกป้องไม่ให้ความชั่วร้ายเข้ามาเยือนและวัดแห่งนี้เองมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และการเมืองในช่วงยุคหลังของเวียตนามเมื่อพระภิกษุทิกกวางหยุกเจ้าอาวาสของวัดเทียนมู่ได้ใช้รถออสตินสีฟ้าคันเล็กเป็นพาหนะไปเผาตัวเองที่กลางกรุงไซ่ง่อนหรือโฮจิมินห์ซิตี้ในปัจจุบันในช่วงสายของวันที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2506 เพื่อประท้วงการบังคับให้ประชาชนไปนับถือศาสนาคริสต์และการฉ้อราษฎร์บังหลวงของรัฐบาลโงดินห์เดียมที่เป็นคาทอลิกรวมทั้งใช้ความรุนแรงขัดขวางการฉลองวันวิสาขบูชาของประชาชนในประเทศปัจจุบันรถออสตินสีฟ้าคันนั้นได้ถูกเก็บรักษาและจัดแสดงไว้ภายในวัดแห่งนี้
-ตลาดดองบา อยู่ในเว้
-หลังจากหมดทิปนั่งเรือ ก็เดินเที่ยวไปรอบ ๆ โดยเจอ สะพาน 7 สี หรือสะพาน ตรังเทียนข้ามแม่น้ำหอมที่เราไม่มีโอกาสได้เห็นการเปลี่ยนสีแน่ๆในทริปนี้เพราะจะเห็นตอนกลางคืนเท่านั้น



หลังจากเที่ยวเรียบร้อยก็ได้เวลาไปขึ้นรถไป ฮอยอัน บ่ายโมงตรง ได้เวลามานั่งรอรถที่เราจองไว้เมื่อคืนนี้ เป็นแบบ Sleeping Bus ราคา 80,000 ด่อง คิดเป็นเงินไทยก็ 120 บาทครับ ใช้เวลา 4 ชั่วโมงโดยประมาณแบบไม่มีจอดพัก
นั่งรอกันที่ออฟฟิศของ Sinh Cafe ข้าง ๆ โรงแรม Phu An บนรถแถมน้ำฟรี 1 ขวดนะครับ รถรอบที่ผมไปมีห้องน้ำในตัว


อีกหนึ่งไฮไลท์ของการเดินทางจากเมืองเว้ไปฮอยอันครับอุโมงค์ HAM HAI อ่านออกเสียงกันเอาเองนะ เลือกใช้วรรณยุกต์กันให้ดีล่ะ 5555อุโมงนี้มีความยาว 6 กิโลเศษ ๆ ครับ เจาะทะลุภูเขา เพื่อข้ามไปยังเมืองดานัง



เกือบ 4 ชั่วโมงในการเดินทาง ดูเวลาแล้วเหมือนเนิ่นนาน แต่บนรถคันนั้น ในวันนั้น มันช่างผ่านไปอย่างรวดเร็วมาก ๆ ครับ
เส้นทางจากเว้ - เก๋าไห่ - ดานัง - ฮอยอัน เป็นเส้นทางที่สวยงามมากจริง ๆ ประมาณ 5 โมงเย็น เรามาถึงเมืองฮอยอัน
ในรีวิวหลาย ๆ รีวิวบอกว่ารถจะไปจอดที่หน้าสำนักงานของ Sinh Cafe ในฮอยอัน แล้วแถว ๆ นั้นจะมีโรงแรม มีเกสต์เฮ้าส์ตั้งอยู่มากมาย แต่ตอนนี้คนขับรถพาเรามาส่งไว้ในสถานีขนส่งแห่งนึงผมรีบวิ่งไปถามคนขับรถว่า Sinh Cafe อยู่ไหน คนขับรถตอบมาคำเดียวว่า"Motorcycle" หาที่พักเรียบร้อยก็ออกไปเดินเล่นที่แถบ old town
ที่พักที่ฮอยอัน 1. Thanh Binh ถนน Le Loi ราคา 12 เหรียญ (390 บาท) 2. nhi nli ราคา 9 เหรียญ (290 บาท)
3.Thanh Vah Hotel อยู่ในเขตเมืองเก่า ราคา 12.5 เหรียญ (400 บาท) รวมอาหารเช้า มีสระว่ายน้ำด้วย 4. Van Loi
( www.hoianvanloihotel.com)
27/12/55 (พฤหัส) เช้าวันรุ่งขึ้นก็เดินเที่ยวตลาดฮอยอัน แล้ว เดินเล่นที่
-สะพานญี่ปุ่น ไฮไลท์สำคัญของเมืองฮอยอัน ในวันที่ท้องฟ้าไม่เป็นใจ แต่ไม่เป็นไร ธรรมชาติเค้าให้แค่ไหน เราก็รับมาแค่นั้น


หลังจากปั่นจักรยานไปทั่วแล้วก็หาอาหารกลางวันวันนี้ อร่อยบ้าง ไม่อร่อยบ้างคำแนะนำสำหรับคำว่า Fired Rice ของที่นี่ คือเค้าเอาข้าวไปทอดครับ เค้าไม่ได้เอาไปผัด ผมเจอข้าวทอดทุกร้านเลย แถมยังอมน้ำมันอีกต่างหากอร่อยที่สุดมื้อนี้คือปลากะพงย่างในใบกล้วยนี่แหละครับ แหล่มมาก


กินอิ่มกลับโรงแรมไปพัก เพราะอากาศเริ่มร้อน
- สักบ่าย 3 ได้เวลาแล้วผมจะพาไปทะเล หลายคนไม่รู้ว่าฮอยอันก็มีทะเล ถ้างั้นเราไปดูพร้อมกันเลยคร้าบจากโรงแรมเขียนบอกไว้ว่าประมาณ 2.5 กม. จะถึง CUA DAI BEACHจักรยานคันเดิมที่เช่ากับทางโรงแรมไว้วันละ 30 บาท พากันปั่นมุ่งหน้าสู่ชายหาดแห่งนี้ หาดทรายไม่ถึงกับขาวหรือละเอียดมาก หลังจากนั้นก็เดินเที่ยวชมเมืองฮอยอันยามค่ำคืน มีไฟประดับประดาสวยงามมากก่อนกลับ ขอแนะนำร้านอาหารที่มาถึงฮอยอันแล้วต้องลิ้มลองครับที่นี่ขอบคุณน้องคนไทย 3 คนที่เราเจอกันตอนเดินทางมาเว้ แล้วมาเจอกันอีกทีที่ฮอยอันตรงร้านโคมไฟ ที่ช่วยแนะนำร้านนี้ให้ร้านนี้รับรองถูกปากคนไทยแน่ ๆ


ร้าน Bale Well มีดีที่น้ำจิ้มครับ น้ำจิ้มแซ่บมาก ถ้าไม่เผ็ดมีพริกให้เราเติม เผ็ดกันให้สะใจคนไทยไปเลย รับประกันด้วยเกียรติของน้าชาติว่า มันอร่อยมากจริง ๆ ที่สำคัญไม่แพง
-พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ แสดงให้เห็นถึงความเป็นมาของชนเผ่าจาม ที่เป็นชนพื้นเมืองของที่นี่ แล้วก็รวมถึงการเข้ามาของอารยธรรมจีนและญี่ปุ่น ที่ทำให้เกิดการผสมผสานอย่างลงตัวของเมืองฮอยอันแห่งนี้

-วัดจีนแถวๆหน้า Central Market ครับ ลืมบอกไปว่า การเข้าไปชมสถานที่ต่างๆอยู่ใน package ตั๋วรวมราคา 75000 ด่อง (ราคา 150 บาท) ที่เข้าชมสถานที่ได้ 5 ที่ครับ มันมีพวกบ้านโบราณ พิพิธภัณฑ์ ศาลเจ้า การแสดงคอนเสิร์ตพื้นเมือง แล้วก็วัดครับ

-ริมแม่น้ำทูโบนยามเย็น

-มรดกโลกหมี่เซิ่น My son ที่นี่ขึ้นทะเบียนของยูเนสโก้ เก่าแก่กว่าปราสาททางเขมรมาก เป็นศูนย์กลางความเจริญรุ่งเรืองของอาณาจักรจามปา
-ฝูงโคมไฟใน Handicraft Workshop

28/12/55 (ศุกร์) ฮอยอัน-เว้ ใช้เวลาสี่ชั่วโมงโดยประมาณครับ รถมีสองรอบคือประมาณ 7 โมง และบ่ายโมง ติดต่อซื้อตั๋วรถได้ที่ Sinh Cafe ที่ฮอยอันล่วงหน้าก่อนเดินทาง 1 วันนะครับ ประมาณ 170,000 D (300 บาท) และถ้าซื้อ day trip ไปปราสาทมิเซิน แบบ bus 4 เหรียญ และขากลับก็นั่งเรือ ประมาณ 6 เหรียญ เพื่อเปลี่ยนบรรยากาศ พักที่เว้ 1 คืน คือ 1.Binh Minh Hotel 2. Sunny fine ถนน Chu Van Au ห้องใหญ่ 170,000 D (300บาท) e-mail:[email protected]
29/12/55 (เสาร์) เว้-สะหวันเขต รถออก 8.30 น - 6.00 ซื้อจาก agent Sinh Tour ประมาณ 280,000 (500บาท) จากเว้ไปสะหวันนะเขตย้ำว่าต้องนั่ง Inter Bus เท่านั้น แล้วก็มีรถจากสะหวันนะเขตกลับมาที่มุกดาหารคอยให้บริการอยู่ครับ และต่อรถจากมุกดาหารรอบสุดท้าย
30/12/55 ถึงกรุงเทพโดยสวัสดิภาพ
-----------------------------------------------------------------------------------------------------
สรุปการเดินทาง
24/12/55 กรุงเทพ-มุกดาหาร ค่ารถ 490 บาท
25/12/55 มุกดาหาร-สะหวันเขต ค่ารถ 45 บาท ค่าธรรมเนียมผ่านด่านมุกดาหาร 40 บาทจาก สะหวันเขต-ดานัง ค่ารถ 440 บาท ค่าธรรมเนียมผ่านด่านชายแดนลาว 40 บาท ค่าธรรมเนียมผ่านด่านชายแดนเวียดนาม 40 บาท พักที่ เว้ ค่าที่พัก @ 200 บาท ค่ารถไปโรงแรม @ 50 บาท
26/12/55 เว้-ฮอยอัน ค่ารถ 120 บาท ทิปร่องเรือน้ำหอม คนละ 200 บาท พักที่ฮอยอัน ค่าทีพักคนละ 300 บาท
27/12/55 ฮอยอัน ทิปวันเดย์ คนละ 150 บาท ค่าที่พักฮอยอัน คนละ 300 บาท
28/12/55 ฮอยอัน-เว้ ค่ารถ 300 บาท ที่พักเว้ 200 บาท ทิปครึ่งวันคนละ 200 บาท
29/12/55 เว้-สะหวันเขต ค่ารถ 500 บาท จาก สะหวันเขต-มุกดาหาร 45 บาท จากมุกดาหาร-กรุงเทพ 440 บาท
30/12/55 ถึงกรุงเทพฯ
รวมค่าใช้จ่ายต่อท่าน 4,100 บาท ไม่รวมค่าอาหาร พักเว้ 2 คืน ฮานอย 2 คืน รวม 7วัน
-------------------------------------------------------------------------------------------------
สหพันธ์ร้อยเอ็ดทัวร์ 02-9360453, 02-9360309
เวลารถออก จาก กทม.-มุกดาหาร
7.30...18.30...19.30...20.00
เวลารถออกจากมุกดาหาร-กทม.
8.00....16.30 (เบอร์โทร.042-631306)