อยากทราบข้อมูลล่าสุดที่ภูกระดึง ใครเพิ่งไปเที่ยวมาช่วยตอบหน่อยครับ

ตอบเท่าที่ได้เน้อ

-น้ำร้อน แก๊สกระป๋อง ของต้องห้ามเลยครับ ถ้าจะใช้ไปขอแม่ค้าตามร้านต่างๆดีกว่าครับ แม่ค้าพ่อค้าใจดี ^ ^ ส่วนเรื่องร้านอาหารปิดกี่โมงนั้น ขึ้นอยู่กับ เจ้าของร้านด้วยครับ5555555 บางทีเค้าคุยกับเราเพลินจนเลยเวลา3-4ทุ่มก็มี

-เอาเต๊นท์ไปเองคิดว่าไม่ต้องจองครับ เพราะผมจะไปวันพรุ่งนี้แล้ว ยังไม่ไดด้จองเลย ไปถึงวางเลย แต่ถ้าวันเทศกาลไม่แน่ใจน่ะครับ

-จักรยานเป็นเสือภูเขา ไม่นั่งซ้อนกันอยู่แล้วครับ ค่าบริการจะมีบอกตามระยะที่เราไปครับ เช่น วังกวาง-หมากดูด 80฿ หรือ วังกวาง-หล่มสัก300฿ และเค้าจะมีคนนำทางไปด้วยน่ะครับ เค้าไม่ให้เราไปปั่นเล่นสนุกๆเพลินๆหรอก ปั่นจักรยานมันอันตรายยิ่งกว่าเดินสะอีก หิน ดิน เนิน โคลน เละ โคตรเละ 5555555

-สัญญาณโทรศัพท์ ผมใช้DTACน่ะะ แต่ผมคิดว่าระดับภูกระดึง มีสัญญาณโทรศัพท์แน่นอน ไม่ว่าค่ายไหน

-ส่วนเรื่องรถผมไม่ชำนาญครับ แต่ทางที่ดีออกจากหมอชิต ตอนกลางคืน ถึงภูกระดึงตอนเช้าแล้วปีน ส่วนตอนกลับเรื่อยๆครับไม่รีบร้อน ไปรอรถตรงร้านเจ๊กิมตอนเย็นๆแล้วขึ้นรถกลับ กทม.ตอนกลางคืน ถึงบ้านตอนเช้า

ขอบคุณครับ

1. ไปขอน้ำร้อน ที่ร้านค้า สะดวกที่สุดครับ
2. ถ้าไม่ใช่ช่วงเทศกาล หรือวันหยุด ก็ไม่จำเป็นต้องจองเท่าไรครับ แต่ถ้าจ้างลูกหาบแบกขึ้นลง ผมว่าขึ้นไปเช่าของอุทยานฯ สะดวกกว่าครับ
3. จักรยานแบบที่มีซ้อนท้ายได้ เห็นมีอยู่ 2 คัน สำหรับให้เด็กนั่ง มากกว่าครับ
4. สัญญาณโทรศัพท์รับได้ดีทุกเครือข่าย ครับ ชาร์ทแบตฯ ได้ที่ร้านอาหารที่เราไปกินข้าว หรือที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ครับ
5. ถ้าอยากกลับถึงกรุงเทพฯ ภายในคืนวันเดียวกันกับที่ลงภู ต้องลงมาให้ถึงประมาณเที่ยงวัน พร้อมสัมภาระ แล้วไปขึ้นรถทัวร์ที่ผานกเค้า ให้ทันเที่ยวเวลาประมาณ 14.30 น. จะมาถึงกรุงเทพฯ ประมาณ 2 ทุ่ม ครับ

ตอบข้อ5 อย่างเดียวนะ
ขาไปจาก กทม ขึ้นรถสัก สาม สี่ทุ่ม ถึงผานกเค้าก้อเช้าพอดี ลงรถผานกเค้าต่อรถสองแถวเข้าภู (ถ้าขึ้นรถเร็วกว่านั้น ลงผานกเค้า เข้าร้านจ๊กิม พักผ่อนก่อนได้(แต่กลัวจะไม่ได้พักผ่อนสิ เพราะคนจะจอแจ)
ขากลับ ถ้าอยากถึง กทม เช้าก้อเลือกขึ้นรถสักประมาณสองทุ่ม
เอาง่าย กทม-ภูกระดึง 400กว่าโลถ้าืบขส ก้อวิ่งประมาณ เจ๊ด ชม แวะจองตั๋วขากลับที่ร้านเจ๊กิมเลยคับ

ผมไปเมื่อ 3-5 พย 54 ขอตอบเป็นข้อๆ ตามที่เห็นมาครับ
1.แก๊สห้าม แต่ผมขึ้นไปข้างบนก็เห็นมีคนนำแก๊สกระป๋องออกมาต้มน้ำหน้าเต้นท์อย่างที่ จขกท กล่าวมานะครับ อันนี้พิจารณาเอา
2.เอาเต้นท์ไปเอง ถ้าช่วงเทศกาลจองสักหน่อยก็ดี เราจะได้ทราบล่วงหน้าว่ามีพื้นที่ให้เรากางไหม แต่ตอนผมไป ก็ค่อนข้างจะมีพื้นที่เยอะนะครับ
3.จักรยานซ้อนผมไม่เห็นเขาซ้อนกันนะ มีแต่ขี่คนเดียว แต่ผมว่าเดินจะดีกว่า เช่าจักรยานก็ขี่ได้ไม่เท่าไหร่หรอก สุดท้ายก็ต้องจูง เหนื่อยกว่าเดินอีก
4.ผมก็ AIS แรงชัดดีครับ ส่วนที่ชาร์ตก็ตามร้านค้าเลยครับขอเขาชาร์ตได้ ถ้าเราซื้อของร้านเขาก็ชาร์ตฟรี แต่ถ้าไม่ซื้อก็น่าจะ 20.-
5.รถทัวร์เที่ยวสุดท้ายรู้สึกจะสามทุ่มกว่าๆนะ ถึงผานกเค้าประมาณตีห้า กำลังดีครับ ส่วนตอนกลับลงจากภูสายๆ ถึงผานกเค้า(ท่ารถ) ก็น่าจะเย็นๆขึ้นรถกลับ

ไปมาปลายปีก่อน
1 ห้าม ก่อ ไฟ หรือ หุ้ง ต้ม ทำกับข้าวเอง ให้ซื้อที่ร้านค้า เพราะง่ายต่อการควบคุม ราคาน่าจะอยู่ที่ราวๆจานละ50บาท คุ้มครับ ไม่ต้องแบก หรือจ้างแบกตีราคาก็พอๆกัน ถ้าจะแบก แนะมาม่าแล้วไปซื้อน้ำอุ่นมาทำกินเองแบบถ้วยคัพ

2 ไม่แน่ใจว่าแจ้งมั้ย ก่อนขึ้นถามเจ้าหน้าที่ครับ เพราะยังไงต้องแจ้งชื่อที่อยู่ ว่าพักที่คืนอยู่ดี พอดีแบกขึ้นไปกางเอง ได้เปรียบตรง ไปถึงก่อนกางก่อน ถ้าคนไม่เยอะ เลือกที่กางได้ ถ้าจ้างลูกหาบแบก อาจจะรอเต้นนานแล้วมากางอีกทีก็ค่ำ อยู่ที่ลูกหาบครับและจำนวนคน ว่าเยอะมั้ย เต้นมีให้เช่า แต่สภาพไม่ดีเท่าไหร่ รวมถึงผ้าห่มด้วย

3 จักรยานมีให้เช่า พอถึงหลังแป ไปที่พักกางเต้น แต่ราคาไม่รู้ แล้ว ผมเห็นบางคนปั่นไปผาหล่มสักด้วย ส่วนมากน่าจะเป็นเสือภูเขา เดี่ยวๆมากกว่าซ้อน เพราะ บางช่วงเป็นดินทราย อาจจะไม่เหมาะ แต่ก็ ประหยัดแรงได้เยอะ แอบคิดครับ ถ้ายางรั่วจะได้จูงมั้ย....555 แล้วค่ำๆปั่นกลับยังไง หรือคืนตรงผาแล้วเดินกลับ อันนี้ไม่แน่ใจ
4 มีแต่ไม่ทั่ว ตอนนี้ไม่รู้ว่าคลื่นดีกว่าเดิมรึป่าว แต่คงไม่ทุกพื้นที่แน่ๆ ที่ชาตร้านค้าน่าจะมี หรือ ตรง เค้าเตอร์เจ้าหน้าที่มีบริการ จำราคาไม่ได้ แต่มือถือ แพงๆแนะอย่าเสี่ยง
5รถทัวร์ไม่ทราบ เพราะขับไปเอง อยู่อุดรครับ แต่ที่แน่ๆ ถ้าจำไม่ผิด เกินบ่าย2เขาไม่ให้ขึ้นครับ เดี๋ยวถึงค่ำ อันตรายจะลำบาก

ปล. แนะไปถึงแต่เช้าๆ รีบไปจองคิวลูกหาบแบกขึ้น ไม่งั้นของถึงค่ำมืด จะยาก โดยเฉพาะถ้าจ้างแบกเต้นขึ้นจะหาที่กางลำบากและแสงไฟไม่อำนวย เพราะยังไงลูกหาบถึงช้ากว่าเราแน่ๆ ขอให้สนุกครับ