ภูชี้ฟ้า ครั้งแรกในชีวิตกับทริป 3 วัน 2 คืนย่ำ 3 ประเทศ

ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามชมครับ...ขอรีวิวต่อกันเลยนะครับ หลังจากสำราญใจกับขาหมูหมั่นโถวเรียบร้อย ก็ขับแบบสลืมสลือมาจนถึง อ.เชียงของ ทำใบผ่านแดนคนละ 40 บาทค่าเรือข้ามไปฝั่ง สปป.ลาว(แขวงบ่อแก้ว)อีกคนละ 40 บาท พอถึงฝั่งลาวก็เสียค่าผ่านแดนฝั่งลาวอีกคนละ 50 บาท สุขโขสโมสรที่ได้มาเหยียบแผ่นดิน สปป.ลาว

ความคิดเห็นที่ 1
หลังจากแจ้งกับเจ้าหน้าที่ฝั่งลาว ใบผ่านแดนค้างคืนที่ฝั่งลาวได้ 3 วันให้แจ้งกับเจ้าหน้าที่ ลาวว่าจะค้างหรือไม่ค้างก็ได้ ถ้าแจ้งว่าไม่ค้างทางเจ้าหน้าที่เขาจะ จ๊อบใบผ่านแดนของเราว่าไม่ค้าง ข้ามกลับฝั่งไทยได้ไม่เกิน 18.00 น.เสร็จพิธีการก็เดินออกมาลั๊ลลาแผ่นดินลาวได้เลย


ตอบกลับความเห็นที่ 1
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 2
เดินออกมาจากด่านมาถึงถนนมองซ้ายมองขวา เอ...เราจะไปทางไหนดีหว่า ก็มีรถสองแถวเล็ก เข้ามาโฉบแล้วบอกว่าจะพาไปวนรอบเมืองราคาไม่แพง เด้ออ้ายย...หลังจากต่อรองราคาให้แน่ชัดว่าไม่โดนโขกจนเกินไปก็ตกลงกันในราคา 300 บาท (แอบถามคนขับว่ารถพี่ราคาเท่าไรเขาบอกว่ารถของเขาเป็นรถทำมาจากประเทศจีน เขาซื้อมาในราคา 30 ล้าน...โอพระเจ้าจ๊อด เป็นบุญของกระผมกับแฟนจริงๆที่ได้นั่งรถราคา 30 ล้าน....อิอิ.)


ตอบกลับความเห็นที่ 2
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 3
นั่งรถมาได้สัก 5 นาทีก็มาถึงจุดหมายแรก ที่นั่นเขาเรียกตลาดจีน มีแต่สินค้าพวกเครื่องมือเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆที่มาจากประเทศจีน เขาบอกว่าราคาไม่แพงสนใจจะลดราคาให้ถูกๆ (คืออยากจะบอกว่าคนขายว่า ตรูกลับเครื่องบินแล้วตรูจะขนไปยังไงว๊ะ ขนาดไฟแช๊กจุดบุหรี่ของตรู เขายังยึดโยนลงทิ้งถังขยะเลยว่ะ)


ตอบกลับความเห็นที่ 3
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 4
เดินดูไปเดินมาไม่เห็นจะมีอะไรน่าสนใจเลย สู้ตลาดคลองถมบ้านเราก็ไม่ได้...มีแต่คนมาถามเราว่า เฮียๆๆโป๊มั๊ยโป๊....อิอิ


ตอบกลับความเห็นที่ 4
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 5
จากนั้นรถก็พาเรามาที่วัด ที่สมเด็จพระเทพได้ทรงมาบรูณะปฏิสังขรไว้ ชื่อว่าวัด พระธาตุ สุวรรณผ้าคำ(ผ้าทองคำ) คนลาวที่นั่นเขาบอกว่าเขารัก สมเด็จพระเทพกันมากๆเลย

ตอบกลับความเห็นที่ 5
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 6
เชิญท่านผู้รู้ช่วยแปลให้หน่อยคร้าบบบ


ตอบกลับความเห็นที่ 6
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 7
หลังจากที่เดินชมวัด พระธาตุสุวรรณผ้าคำ (ผ้าทองคำ)รถก็พาเรามาที่ตลาดลาว สินค้าก็เป็นพวกของสดของแห้งต่างๆเหมือนๆตลาดสดบ้านเรานี่แหละ แต่เงาะที่นี่ดำปื๋อกิโลนึงตั้ง 5000 แน่ะ...โห...รับประทานไม่ลงเลย...อิอิ ตอนที่ถ่ายรูปนี้แม่ค้าที่นั่นหัวเราะชอบใจกันใหญ่ เขาคงคิดว่าไอ้บ้านี่ มันไม่เคยเห็นเงาะหรือไงว๊ะถึงได้มาถ่ายรูปเงาะ ผมก็ขำเหมือนกันครับเงาะดำปี๋เกือบเน่าแล้วยังขายตั้ง 5000
*

ตอบกลับความเห็นที่ 7
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 8
จบจากตลาดนี้ก็ ล่ำลาพี่เจ้าของรถราคา 30 ล้านข้ามกลับมาฝั่งไทยนอนพักที่ อ.เชียงของ 1 คืน


ตอบกลับความเห็นที่ 8
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 9
นอนพักที่เชียงของริเวอร์วิิว ติดแม่น้ำโขงเลย


ตอบกลับความเห็นที่ 9
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 10
วิวสวยๆยามเช้า บนระเบียงหน้าห้องที่พักติดแม่น้ำโขง


ตอบกลับความเห็นที่ 10
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 11
ตามไปเที่ยวด้วยคนครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 11
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 12
เงาะที่ท่านเห็นเป็นเงาะพันธ์พื้นเมืองครับปลูกแถวเชียงราย ไม่ใช่เงาะเก่าจากเมืองจันทร์หรือปักษ์ใต้นะครับลักษณะของเงาะจะเป็นแบบนั้น ขนจะสั้นมาก รสชาดใช้ได้ครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 12
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 13
คิดถึงเชียงรายจัง ตามติดครับ^^


ตอบกลับความเห็นที่ 13
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 14
มาทำการบ้านต่อให้จบครับ...หลังจากที่เช็คเอาท์ออกจากโรงแรมเชียงของริเวอร์วิว ก็ขับรถหน้าไป อ.เชียงแสน ระหว่างทางมาเจอกับร้านกาแฟ ตั้งอยู่โดดเดี่ยว ริมแม่น้ำโขง พี่เจ้าของร้านใจดีมากๆ อัธยาศัยดีเป็นกันเองมากครับ คุยกันเพลินจนเกือบลืมเดินทางต่อเลยครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 14
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 15
พี่เจ้าของร้านครับ...อัธยาศัยดีครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 15
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 16
มุมถ่ายรูปบริเวณร้าน


ตอบกลับความเห็นที่ 16
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 17
หลังจากจิปกาแฟฟังเรื่องราวในอดีต ของพี่เจ้าของร้านกาแฟ ก็เดินทางต่อมาจนถึง สามเหลี่ยมทองคำ แวะถ่ายรูปกันนิดหน่อยก็เดินทางต่อไปที่ตลาดชายแดนแม่สาย


ตอบกลับความเห็นที่ 17
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 18
ขอแอ๊คหน่อยครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 18
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 19
อีกรูป


ตอบกลับความเห็นที่ 19
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 20
ย่ำประเทศที่ 3


ตอบกลับความเห็นที่ 20
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 21
หลังจากทำใบผ่านแดนฝั่งไทยคนละ 30 บาทแล้วก็มาเสียค่าผ่านแดนฝั่งพม่าอีกคนละ 10 บาท จากนั้นก็เข้าไปลุยพม่าตามใจชอบ จะเที่ยวเจดีย์ชเวดากอง(จำลอง)หรือจะเดินช๊อปปิ้งก็สุดแต่ใจจะชอบครับ ของผมเลือกไปเที่ยวเจดีย์ชเวดากอง(จำลอง)แล้วค่อยกลับมาช๊อป


ตอบกลับความเห็นที่ 21
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 22
เหมารถเช่าคันนี้มาครับ ต้องตกลงกันให้ดีก่อนนะครับว่า ไป - กลับราคาเท่าไร มีค่าใช้จ่ายนอกเหนือจากนั้นมั๊ย ถ้าตกลงกันแล้วก็ไปกันได้เลย แต่ถ้าให้ดีควรเลือกผู้ขับรถเป็นคนไทลื้อจะดีกว่าครับ คุยกันรู้เรื่องกว่า ไม่โขกราคาเรามากครับ ของผมเหมาไป - กลับในราคา 200 บาทครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 22
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 23
แวะกินอาหารพื้นเมืองของพม่า สักหน่อยครับ เขาเรียก ข้าวซอยน้อย ครับรสชาติก็พอได้ครับ...อิอิ


ตอบกลับความเห็นที่ 23
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 24
แอบถ่ายสาวพม่า


ตอบกลับความเห็นที่ 24
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 25
ผ.บ.เกิดวันจันทร์


ตอบกลับความเห็นที่ 25
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 26
ผมเกิดวันศุกร์


ตอบกลับความเห็นที่ 26
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 27
เจดีย์ชเวดากอง (จำลอง)


ตอบกลับความเห็นที่ 27
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 28
จากนั้นก็กลับมาเดินช๊อปปิ้งที่ตลาด ท่าขี้เหล็ก ไม่รู้จะซื้ออะไรมากมาย เพราะหิ้วกลับเข้าฝั่งไทยก็โดนยึดหมด เลยไม่ได้ซื้ออะไรเลย...อิอิ คำเตือนนะครับถ้าไปเดินซื้อของฝั่งพม่าควรแลกแบ๊งค์ย่อยไปเยอะๆ มิฉะนั้นเราอาจไม่ได้เงินทอนครับ กิโลที่พม่า 8 ขีดเท่ากับ 1 กิโลครับ แล้วก็มีพวกที่หิ้วตระกร้าเดินขายของ พวกนี้ถ้าไม่สนใจอย่าไปสบตาหรือไปมองสินค้าของเขา มิฉะนั้นคุณจะโดนตามตื้อแบบไม่เลิกครับ ขอจบทริป ขึ้นภูชี้ฟ้าครั้งแรกในชีวิต 3 วัน 2 คืนย่ำ 3 ประเทศ โอกาสหน้าจะนำภาพสวยๆมาให้ชมอีกครับ ขอให้ทุกท่าน จงมีความสุขความเจริญครับ อย่าเจ็บอย่าจนครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 28
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 29
ขอบคุณที่พาเที่ยวค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 29