สงสัยเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างญี่ปุ่นกับสหรัฐ

จากกรณีพิพาทเรื่องเกาะระหว่างจีนกับญี่ปุ่น ก็เพิ่งทราบว่ารัฐธรรมนูญญี่ปุ่นมีกฏห้ามทำสงคราม ถ้าจะทำสงครามนั้นจะต้องใช้กฏหมายที่ทำร่วมกันกับเมกาคือเมกาจะรบเเทนญี่ปุ่น(หรือช่วยญี่ปุ่นรบ) ก็เลยสงสัยว่าเมกาจะรบเเทนญี่ปุ่นจริงๆเหรอ ตกลงสองประเทศนี้เขามีความสัมพันธ์เเน่นเเฟ้นขนาดออกรบเเทนกันได้เลยหรือคะ สงสัยค่ะ

ความคิดเห็นที่ 1
อเมริกามันมีฐานทัพอยู่ในดินแดนญี่ปุ่นนะครับ เอาง่ายๆยิงกันเกิดกระสุนมันไปโดนเรือของอเมริกาคราวนี้เจ้าของกระสุนก็เดือดร้อนแล้ว ลองศึกษาเพิ่มเติมว่า ทำไมอเมริกาได้ฟิลิปปินส์มาครอบครอง ทำไมอเมริกาประกาศสงครามกับเยอรมัน ทำไมอเมริกาประกาศสงครามกับเวียดนามเหนือ ไม่รวมกรณีพิพาทในตะวันออกกลางนะครับ อันนี้แค่เรืออเมริกันอย่างเดียว ยังไม่พูดึงเหตุอื่นๆสุดจะหามานะครับ ลองศึกษาดูครับ กูเกิลก็ได้


ตอบกลับความเห็นที่ 1
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 2
อืม..ต้องดูการตีความจากภาษาที่ใช้
คิดว่าไม่ใช่"ห้ามทำสงคราม "
แต่น่าจะเป็น"ห้ามใช้อาวุธบุกรุกชาติอื่น"

ถ้าจำไม่ผิดในสมัยนายกฯโคะอิซุมิ ได้แก้ไขเนื้อหาบางอย่าง
ในเรื่องของกองทัพป้องกันตัวเอง เพื่อให้มีประสิทธิ
มากขึ้นในป้องกันตัวเองในอาณาจักรและนอกอาณาจักร
ลองค้นหาด้วยคีย์เวิรด์นี้ดูค่ะ
有事法制関連法


ตอบกลับความเห็นที่ 2
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 3
เปลี่ยนจากความสัมพันธ์เป็นผลประโยชน์ต่างตอบแทนดีมั้ยคะ

ทราบแต่ว่าถ้าใครทำประโยชน์ให้เค้าได้ ผลตอบแทนมากแน่นอน ตัวอย่างจากตชด.ไทย ที่เคยร่วมรบในสงครามรอบบ้านเราเมื่อหลายสิบปีก่อน อเมริกาให้ผลตอบแทนคนละหลายร้อยล้านบาท และเคยใด้วีซ่าตลอดชีพ แต่หลังจาก9/11 วีซ่าตลอดชีพถูกยกเลิกเรียบร้อยแล้ว


ตอบกลับความเห็นที่ 3
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 4
日本国とアメリカ合衆国との間の相互協力及び安全保障条約 Treaty of Mutual Cooperation and Security between the United States and Japan :)

http://en.wikipedia.org/wiki/Treaty_of_Mutual_Cooperation_and_Security_between_the_United_States_and_Japan <<

เอาจริงๆ แล้วคนที่ให่ญี่ปุ่นก่อตั้งกองกำลังป้องกันตนเองนี่คืออเมริกานะคะ ... ตอนหลังสงครามใหม่ๆ ก็ไม่มีหรอก พอสงครามเย็นเริ่มก็ตัว เลยยอมให้ญี่ปุ่นมีกองทัพบ้างเล็กๆ น้อยๆ จริงๆ แล้วคนที่คอยซัพพอร์ทอเมริกาหลังสงครามเป็นคนจากพรรคจิมินโต เป็นพวกหัวอนุรักษ์นิยมด้วยซ้ำ ถึงไม่ชอบอเมริกาเท่าไหร่ แต่ถ้านับว่าญี่ปุ่นต้องรบกับจีน เกาหลีเหนือ ขึ้นมาจริงๆ ก็คงดีกว่าไม่มีใครช่วยเลยล่ะค่ะ

ณ ตอนนี้คำว่า "ป้องกันตัวเอง" มันขยายไปไกลเยอะ มีกระทรวงกลาโหมแล้วด้วย ขนาดญี่ปุ่นส่งเรือไปรบกับโจรสลัดโซมาเลีย ยังเป็นการป้องกันตัวเองเลย..

สรุปคือ มีพวกเยอะไว้ อุ่นใจกว่า :P

ตอบกลับความเห็นที่ 4
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 5
หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ทั้งญึ่ปุ่นและเยอรมนีถูกปลดอาวุธในฐานะผู้แพ้สงคราม นั่นหมายถึงทั้ง 2 ประเทศถูกห้ามไม่ให้มีกองทัพไม่ว่าจะเป็น บก น้ำ หรือ อากาศ และยังห้ามไม่ให้สร้างสมอาวุธสงครามใดๆ อีกด้วย วรรคต่อมาในรัฐธรรมนูญที่ห้ามไม่ให้ก่อสงครามกับประเทศใดๆ จึงเป็นแค่เสริมให้ชัดเจนยิ่งขึ้นเท่านั้น จริงๆ ถ้าไม่มีกองทัพเสียแล้วยังไงก็ก่อสงครามไม่ได้อยู่ดี

เยอรมนีกับญี่ปุ่นจะต่างกันตรงที่สถาณการณ์การมีศัตรูคุกคามความปลอดภัยของประเทศรอบบ้านตนเอง เยอรมนีมีพันธมิตรจาก 5 ประเทศเป็นผู้ทำการเข้ายึดครองโดยแบ่งออกเป็นพื้นที่ 5 ส่วน ซึ่งสถานะการณ์กลายกลับต่อมาว่ารัสเซียซึ่งเป็นหนึ่งในพันธมิตรกลับมาเป็นศัตรูเพราะระบบการเมืองคอมมิวนิสต์ สหรัฐจึงต้องยอมให้เยอรมนีก่อตั้งกองทัพเพื่อร่วมเข้าเป็นสมาชิกนาโต้และเป็นประเทศหัวหอกสำคัญที่จะรับมือกับรัสเซีย

ปัจจุบันนี้เยอรมนีไม่มีข้อพิพาททางดินแดนกับเพื่อนบ้านอีก กองทัพที่มีอยู่จึงเป็นการพอเพียงเพื่อปกป้องประเทศและให้ความร่วมมือทางทหารในฐานะสมาชิก UN เท่านั้น เยอรมนีจึงเป็นอิสระจากการช่วยเหลือทางทหารของสหรัฐอย่างสิ้นเชิง แต่สำหรับสถานะการณ์รอบบ้านญี่ปุ่นแล้วเป็นตรงกันข้ามที่มีภัยคุกคามเพิ่มขึ้นทุกขณะจาก จีน และ เกาหลีเหนือ และแม้แต่กรณีพิพาทดินแดนกับรัสเซีย

หลังญี่ปุ่นแพ้สงครามนั้นมีสหรัฐเป็นผู้เข้าทำการยึดครองแต่เพียงผู้เดียว เมื่อมีการเขียนรัฐธรรมนูญขึ้นมาใช้ปกครองในระบบประชาธิปไตยตามรูปแบบของสหรัฐ จึงมีการกำหนดข้อความไว้ใน Article 9 ห้ามญุี่ปุ่นมีกองทัพและห้ามก่อสงครามกับประเทศอื่นใดจริงๆ ในทางแลกเปลี่ยนสหรัฐทำสัญญารักษาความปลอดภัยให้แก่ญี่ปุ่นหากถูกรุกราน สัญญานี้ถูกต่อมาแล้ว 2 ครั้ง และเป็นหัวข้อถกเถียงในทางการเมืองของญึ่ปุนมาตลอดเกี่ยวกับการคงไว้ของฐานทัพอเมริกาทบนเกาะโอกินาวาเพื่อจุดประสงค์นี้ แต่ไม่ว่าจะมีการต่อต้านจากชาวญี่ปุ่นส่วนหนึ่งอยู่ตลอดเวลาอย่างไรก็ตาม ผลการสำรวจความคิดเห็นประชาชนชาวโอกินาวาเกิน 70% ที่ต้องการให้ฐานทัพสหรัฐคงอยู่ต่อไป

อย่างที่ คห 4 ระบุไว้ เพียงระยะเวลาไม่นานหลังจากญี่ปุ่นประกาศใช้รัฐธรรมนูญก็เกิดการเปลี่ยนแปลงการปกครองในจีนเป็นระบบคอมมิวนิสต์และเริ่มเข้าสู่ภาวะสงครามเย็น สหรัฐจึงมีความคิดว่าญี่ปุ่นจำเป็นจะต้องมีกองทัพเป็นของตนเองเพื่อช่วยเป็นกำลังต่อต้านระบบคอมมิวนิสต์ที่สหรัฐกลัวหนักหนา ในเวลาไล่เลี่ยกันก็เกิดสงครามเกาหลีซึ่งทำให้สหรัฐต้องเคลื่อนฐานทัพทั้งหมดไปปกป้องเกาหลี กลายเป็นว่าญี่ปุ่นขาดกำลังกองทัพเพื่อปกป้องประเทศทันทีทันใด จึงนำมาสู่การจัดตั้งกองทัพของญี่ปุ่นขึ้นโดยสหรัฐและเรียกชื่อกองทัพนี้ว่า Japan Self-Defense Forces (JSDF)

เมื่อเริ่มได้แล้วต่อมาก็กลายเป็นขยายทั้งขนาดของกองทัพ กำลังยุทโธปกรณ์ทางทหาร และแม้แตการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อให้ตีความครอบคลุมการออกปฏิบัติการไปทั่วโลก จากที่เคยกำหนดเงินงบประมาณสำหรับกองทัพไว้ไม่เกินปีละ 1% ของ GDP ปัจจุบันนี้กลายเป็นมากกว่า 5% ญี่ปุ่นถือว่าเป็นประเทศอันดับที่ 4 ที่ใช้งบประมาณเพื่อกองทัพมากที่สุดในโลกรองจาก โซเวียต สหรัฐ และ จีน และยังเป็นประเทศที่แม้แต่ส่งอาวุธสงครามออกขายต่างประเทศอีกด้วยโดยเฉพาะอย่างยิ่งในการสนับสนุนเกาหลีใต้ การแก้ไขรัฐธรรมนูญยังไปไกลถึงขนาดที่ว่าญี่ปุ่นสามารถจะมีอาวุธนิวเคลียร์ในครอบครองเสียด้วยซ้ำ เพียงแต่ยังไม่ได้ลงมือเท่านั้น

ดังนั้นตัวหนังสือบนกระดาษในรัฐธรรมนูญญี่ปุ่นกับความเป็นจริงเป็นคนละเรื่องกัน เหลืออยู่แต่ว่าวันใดวันหนึ่งที่ญี่ปุ่นจะแก้กฏหมายรัฐธรรมนูญให้ตรงกับความเป็นจริงนั่นคือ มีกองทัพเพื่อปกป้องประเทศเหมือนประเทศ normal country ทั่วไปอย่างที่ในทางปฏิบัติได้เกิดขึ้นและคงอยู่มานานแล้ว

กลับมาตอบคำถามของ จขกท ญี่ปุ่นเป็นประเทศหนึ่งที่มีกองทัพทันสมัยที่สุดในโลกและสามารถป้องกันตนเองได้เป็นอย่างดี ถ้าจะต้องรบกับจีนเรื่องเกาะพิพาท เซนกากุ ในขณะนี้ก็ตีความตามรัฐธรรมนูญ Article 9 ได้ว่าเป็นการปกป้องตนเอง และถึงแม้ว่าจีนจะมีกองทัพที่ใหญ่กว่าก็ไม่ได้หมายความว่าจะได้เปรียบต่อญี่ปุ่น ประวัติศาสตร์การรบระหว่างจีนและญี่ปุ่นก็ได้แสดงผลให้เห็นเป็นประจักษ์พยานอยู่แล้ว การชนะสงครามขึ้นอยู่กับผู้นำ การวางแผนยุทธวิธี การมีวินัย กำลังใจของกองทัพ ถึงทุกวันนี้ญี่ปุ่นก็ยังมีสิ่งเหล่านี้พร้อมกว่าจีน

ถ้าเมื่อไหร่ญี่ปุ่นเข้าสู่สภาวะอับจนต้องการความช่วยเหลือ สหรัฐจะลงมือปฏิบัติการทันทีอย่างไม่ต้องสงสัย สัญญานั้นมีไว้เพื่อให้ความชอบธรรมแก่สหรัฐที่จะลงมือปฏิบัติการอย่างถูกต้องเท่านั้น ญี่ปุ่นกับสหรัฐนั้นเป็นพันธมิตรกันอย่างแนบแน่น ที่ผ่านมาญี่ปุ่นสนับสนุนช่วยเหลือสหรัฐในทุกกรณีที่เข้าทำสงครามใหญ่ๆ เช่น Gulf War และเข้าร่วมปฏิบัติการทางทหารของ UN ไปทั่วโลก ยังไม่นับรวมการช่วยเหลือสนับสนุนสหรัฐทางด้านการเงินอีกด้วย

ประเทศที่เป็นมหามิตรเพื่อนเป็นเพื่อนตายของสหรัฐในโลกนี้มีอยู่ 2 ประเทศคือ อังกฤษ กับ ญี่ปุ่นนี่แหละครับ

ตอบกลับความเห็นที่ 5
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 6
ขอบคุณมากค่ะ คือบางทีก็เห็นญี่ปุ่นกับเมกาทะเลาะกัน เช่นเรื่องย้ายฐานทัพสหรัฐที่โอกินาวา เรื่องซื้อออสเปร ก็เลยสงสัย2ชาตินี่เขามีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันจริงหรือเปล่าน่ะค่ะ^_^


ตอบกลับความเห็นที่ 6
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 7
คูณ Hana ครับ พี่น้องท้องเดียวกันยังทะเลาะกันเลย แต่สายเลือดก็ตัดกันไม่ขาดเมื่อถึงคราวที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเดือดร้อนขึ้นมาอีกฝ่ายก็จะเข้ามาช่วยเหลือโอบอุ้มไว้เสมอ นับประสาอะไรกับประเทศซึ่งมีขอบข่ายครอบคลุมใหญ่โตและเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ของประชาชนทั้งประเทศ ก็ต้องมีความต้องการที่ขัดแย้งกันบ้างเป็นธรรมดา แต่เมื่อถึงจุดที่วิกฤตแล้วมิตรประเทศที่แท้จริงจะผนึกกำลังช่วยเหลือซึ่งกันและกันอย่างแน่นอน ยังไม่นับเนื่องรวมถึงการต้องการคงไว้ของมหาอำนาจอย่างสหรัฐเพื่อถ่วงดุลย์ในภูมิภาคที่สำคัญอย่างเอเชีย


ตอบกลับความเห็นที่ 7
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 8
ถ้าอเมริกาเป็นไจแอนท์ ญี่ปุ่นก็เป็นซูเนโอะล่ะค่ะ บางทีก็โดนไจแอนท์เขกหัวเอาบ้าง แต่ก็ต้องติดสอยห้อยตามเพราะยังต้องพึ่่งการคุ้มครองจากไจแอนท์อยู่ ส่วนไจแอนท์ก็อาศัยที่ซูเนโอะมันรวยนี่ล่ะค่ะ :D


ตอบกลับความเห็นที่ 8
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 9
^
^
ตอนนี้ซูเนโอะถังเเตกค่ะ ฮือๆๆๆ


ตอบกลับความเห็นที่ 9
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 10
^
^
ถังแตกแต่ก็ยังปล่อยกู้ให้เวียดนามสร้างศูนย์อวกาศแห่งชาติบ้าง ดาวเทียมบ้าง ไรบ้างได้อยู่ล่ะน่า :D

(http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1348114217&grpid=&catid=06&subcatid=0600)


ตอบกลับความเห็นที่ 10