คนไทยไกลบ้าน พกอะไรไปจากเมืองไทยบ้างคะ

ถ้าเราต้องไปอยู่ต่างประเทศ ที่ไม่มีคนไทย คนเอเชียอาศัยอยู่เลย คิดถึงบ้าน คิดถึงพ่อแม่นั้นแน่นอนอยู่แล้วค่ะ อาหารไทยก็คิดถึง เป็นสิ่งเดียวที่ทำให้หายคิดถึงบ้านได้
เลยอยากรู้ว่าพวกของใช้ อาหาร ควรพกอะไรไปจากเมืองไทยบ้างคะ เพราะไม่คิดว่าจะหาได้จากที่นั่นค่ะ

ความคิดเห็นที่ 1
ใจตรงกันเลยค่ะกำลังอยากรู้เหมือนกันส่วนตัวเอาผงปรุงรสอร่อยชัวร์อันนี้แม่แนะนำว่าอร่อยกว่ารสดี ปูนขาวเวลาทำผลไม้เชื่อม ใบมะกรูด พริกป่น ข้าวคั่ว ยาแก้ไข้แก้ไอที่นี่ซื้อยาก เอสพีไว้ทำขนมเค้ก ปฏิทิน ปลาร้านึกออกแค่นี้รอความเห็นอื่นมาเพิ่มเติมนะคะ


ตอบกลับความเห็นที่ 1
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 2
ทวีปอะไรล่ะ ? ? ?.....ประเทศไหน ? ? หากบอกมาได้.......คนไทยทั่วโลกจะให้คำตอบจากประสบการณ์ได้สมใจ


ตอบกลับความเห็นที่ 2
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 3

ของที่ไม่มี หรือมีก็หายากกก เว้นเเต่จะไปซื้อร้านไทย/เอเซีย (เเพง)
- ยาหม่อง
- ยาธาตูน้ำเเดง/น้ำขาว ยาหอม 5 เจดีย์
- ยาบำรุงสตรี (สมัยนี้ยังมีคนกินหรือเปล่าหนอ?)
- ยาคุมกำเนิด จะซื้อที่นี่ต้องมีใบสั่งจากเเพทย์



เครื่องปรุงของไทยที่นี่มี เเต่หากเอามาได้จากไทยก็ดี ประหยัดไปได้หลายตัง
- กุ้งเเห้ง
- วุ้นเส้นอย่างดีที่นี่หายากหน่อย ชอบยี่ห้อไหนเอามาจากไทยบ้างก็ดี
- ผงเครื่องปรุงโลโบ้หลากชนิด
- ผงทำหมูเเดง ผงทำน้ำราดข้าวหมูเเดง
- เครื่องปรุงพะโล้เเบบเป็นชิ้น (หอมกว่าเเบบผง)



ของใช้ส่วนตัว ที่นี่มีหมด เเต่ราคาสูงเเละเเบบหรือคุณภาพอาจไม่ถูกใจคนไทย
- หมวกคลุมผมอาบน้ำ เอามาสัก 2-3 ใบ ของนอกเเพงเเละบางมาก ไม่ทนเลย
- กิ๊บติดผม ที่คาดผม หวี เเปรงกลม
- บราเซียร์ กางเกงใน
- เครื่องเขียน
- รองเท้าเเตะฟองน้ำไว้ใส่ในบ้าน


ที่ว่ามามั้งหมดนี่คือเป็นไอเดีย ขนมาหมดทุกอย่างคงไม่ไหวหรือที่ไม่พอ จขกท ลองเลือกดูเอา
ว่าอันไหนคิดว่าจำเป็น ความจำเป็นเเต่ละคนไม่เหมือนกัน ขอให้เดินทางโดยสวัสดิภาพนะคะ


ปล. เสื้อผ้าไม่ต้องขนมาเยอะก็ได้ ที่นี่เวลาลดถูกๆเยอะเเยะ เสื้อยืดของไทยเอามาใส่เครื่องอบที่นี่หดหมด






ตอบกลับความเห็นที่ 3
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 4
ไปอยู่แอลจีเรียค่ะ อยากขนไปหลายอย่างเยอะแยะมากมายเลยค่ะ
เพราะครั้งที่แล้วไปมา ไม่มีของเอเชียเลย เจอมาม่ายี่ห้ออินโดหมี่อยู่อย่างเดียวเลยค่ะ

ตอบกลับความเห็นที่ 4
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 5
น้ำพริกนรก น้ำพริกกุ้งสด เอาไปคลุกข้าวกิน


ตอบกลับความเห็นที่ 5
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 6
ไม่ได้ไปอยู่ที่ไหนลึกลับ
แค่ออสเตรเลียเท่านั้นเอง
ทุกครั้งที่กลับไทย พกยากฤษณากลั่น กลับไปทุกครั้ง


ตอบกลับความเห็นที่ 6
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 7
ถ้าเป็นของใช้ก็เพียบค่ะ สาธยายไม่หมดแน่ๆ แชมพู ครีมนวด ครีมอาบน้ำ ยังเอาไปเลยค่ะ
(เผอิญว่าลืมไป ว่าไปประเทศที่พัฒนาแล้ว พกไปซะเยอะ)
ผ้าอนามัยขนไปใช้ได้ปีนึงเลย เยอะมากกกก
ยาสามัญประจำบ้านทุกชนิด อยู่ 3 ปีแทบไม่ได้ใช้ เหลือกลับมาเหมือนเดิมหมดอายุ

ของกินก็ กุนเชียง หมูหยอง หมูแผ่น โลโบ้ มาม่า พริกไทย พริกป่น
ดอกเก็กฮวยเอามาต้มเอง เป็นต้น

หลังๆไม่ค่อยเอาไปแล้วค่ะ ไปซื้อเอาที่นุ่นง่ายกว่า หาซื้อไม่ได้ยากมาก


ตอบกลับความเห็นที่ 7
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 8
ที่ๆเราอยู่ไม่มีอะไรที่จะอดเลยง่ะ มีทุกอย่าง มีตังค์ซื้อไหมเท่านั้นเอง แหะ แหะ


ตอบกลับความเห็นที่ 8
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 9
ถ้ามาถามเราว่า การที่จะนำอะไรไปจากเมืองไทยบ้าง ยามที่ต้องออกไปอยู่ต่างประเทศ คำแนะนำของเราก็คือขึ้นอยู่กับว่า

1. คุณจะไปอยู่ในประเทศนั้นในฐานะอะไรนะคะ เช่น

1.1 นักเรียน นักศึกษา นักวิจัย

1.2 คนทำงาน ซึ่งยังแยกได้อีกว่า ทำงานบริษัทเอกชน หรือ บริษัทของรัฐบาล และเป็นบริษัทของไทย หรือบริษัทของ
ประเทศไหนสัญชาติไหน

1.3 ผู้ติดตามคนทำงาน เช่นติดตามภรรยา หรือ สามีไป

2. สวัสดิการในด้านการเดินทาง รายละเอียดในการขนย้ายสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็น หรือการขนย้ายทั้งครอบครัว
ขนย้ายทั้งบ้านข้ามประเทศข้ามทวีป มีว่าอย่างไรบ้าง เช่น

2.1 ทางหน่วยงาน หรือทางบริษัท ออกค่าตั๋วเครื่องบิน และค่าระวางน้ำหนักเกินให้หรือไม่

2.2 ทางหน่วยงาน หรือทางบริษัทออกค่าชิปปิ้ง (ค่ารีโลเคชั่น-Relocation Allowance/Fee)
ชนิด Door-To-Door ให้หรือไม่

2.3 ถ้าต้องไปอยู่ในประเทศที่ล้าหลังมาก กันดารมาก ห่างไกลความเจริญ ทางหน่วยงาน หรือทางบริษัท มีสวัสดิการ
ในเรื่องตั๋วเดินทางโดยเครื่องบินให้ออกไปพักผ่อนและไปช้อปปิ้งในประเทศที่เจริญแล้วที่ใกล้เคียงที่สุด ปีละกี่ครั้ง

2.4 ทางบริษัท หรือทางหน่วยงาน มีสวัสดิการในเรื่องตั๋วไปกลับระหว่างประเทศไทย และ ประเทศที่จะต้องไปอยู่ปีละกี่ครั้ง

3. ในประเทศที่จะต้องย้ายไปอยู่นั้น ทางหน่วยงาน หรือบริษัท มีที่อยู่ให้ในคอมเพาน์ดของคนต่างชาติ หรือต้องไปหาที่อยู่
เอง
4. ถ้าต้องไปอยู่ในฐานะภรรยาผู้ติดตามสามีไปทำงานในต่างแดน และมีบุตรไปด้วยหรือไม่

4.1 ต้องมีการจัดเลี้ยงสังสรรค์โชว์ฝีมือทำอาหารไทยบ้างหรือไม่ ถ้ามี ก็ต้องขนเครื่องครัวเพิ่มเติมไปเลย เช่น ครก สาก เขียง ตะหลิว กะทะใบบัว หม้อหุงข้าว เตาขนมครก ซึ้งนึ่งอาหาร พวกเครื่องครัวไทยๆ หลักๆ เอาไปให้หมด ถึงจะไม่ต้อง
เอาไว้จัดเลี้ยง แต่ในชีวิตประจำวันก็ต้องใช้ เอาไว้ทำอาหารไทยรับประทาน

4.2 อุปกรณ์เครื่องครัวฝรั่ง เครื่องทำกาแฟ หม้อต้มกาแฟ กาน้ำเอาไว้ชงชา ชา กาแฟ ต่างๆ

4.3 เครื่องปรุงอาหารไทย ของแห้งๆ ที่สามารถเก็บได้นาน สมุนไพรต่่งๆ พวกน้ำจิ้มสุกี้ น้ำจิ้มแม่ประนอม กะทิผง มะนาวผง
ผงโลโบ้ต่างๆ มามายกลัง

4.4 ยารักษาโรคพื้นฐานที่จำเป็น อุปกรณ์ปฐมพยาบาลเบื้องต้น

5. ขนมไทย ขนมฝรั่ง แบบแห้งๆ ที่สามารถเก็บได้นาน เช่นพวกมะขามหวาน มะขามคลุก ทุเรียนทอด คุ้กกี้
เมล็ดมะม่วงหิมพานต์

6. ของใช้ในชีวิตประจำวันอื่นๆ เช่น ยาสีฟัน สบู่เหลว ยาสระผม ผ้าอนามัย ไหมขัดฟัน สำลี กระดาษชำระ
กระดาษเช็ดหน้า คัตตั้นบัด/สำลีพันก้าน เป็นต้น

7. ข้าวหอมมะลิแบบต่างๆ เช่นข้าวกล้อง ข้าวขาว ข้าวสีนิล เพราะข้าวไทยอร่อยที่สุด ให้เลือกยี่ห้อดีๆ แบบถุงศูนย์ยากาศ
แบบที่มีห่อกันชื้นในถุง ที่สามารถตุนเอาไว้ใช้ได้หลายเดือนหรืออย่างน้อยๆ 1 ปี

8. น้ำดื่ม (กรณีที่บริษัทจ่ายค่าขนย้ายให้)

____________________

ข้างบนนั้น มาแนะให้คร่าวๆ นะคะ เพราะคุณ จขกท. ไม่ได้ให้ข้อมูลที่เพียงพอต่อการที่จะให้ผู้อ่านเข้ามาช่วยแนะนำเลย
แอบเข้าไปดูในบล็อก คาดว่าคุณ จขกท. เป็นคนไทยที่ต้องติดตามสามีไปประจำการยังต่างประเทศนะคะ

และท้ายสุด อยากทราบค่ะ ว่าประเทศไหนในโลกนี้ที่ไม่มีคนไทยอาศัยอยู่เลย และไม่มีคนเอเชียอาศัยอยู่เลย
ไม่เชื่อค่ะ เพราะคนไทยอาศัยอยู่ในแทบจะทุกประเทศทั่วโลก เช่น

1. ขนาดประเทศภูฏาณ ยังมีคนไทยอาศัยอยู่เลย คนสิงคโปร์ก็เยอะ ฝรั่งก็มี และ ส่วนใหญ่คนกลุ่มที่กล่าวมานี้
แต่งงานกับคนภูฏาณ แล้วไปตั้งรกรากที่นั่น ขนาดที่ว่า คนระดับรัฐมนตรีของภูฏาณยังมีภรรยาเป็นฝร่ังที่มาจากครอบครัว
นักการทูตเลย หรือ สาวไทย สาวสิงคโปร์ มีสามีภูฏาณก็หลายท่าน

2. ประเทศอิหร่าน มีคนไทยไปทำงานที่นั่น บางท่านไปอยู่มานานแล้ว จนเป็นเจ้าของร้านอาหารไทย เจ้าของ
บริษัททัวร์ที่มีขื่อเสียงเชี่ยวชาญในเรื่องนำคนไทยเข้าไปเที่ยวในอิหร่าน

3. ประเทศเฮติ ตอนที่แผ่นดินไหว มีคนไทยครอบครัวหนึ่งอยู่ที่นั่น คุณผู้ชายสามีทำงานที่นั่น
ตอนแผ่นดินไหว คุณสามีออกไปทำงาน คุณภรรยาอยู่บ้าน และเธอกำลังท้องด้วย ตอนเธอกลับมาเมืองไทย
เป็นข่าวดังไปทั่ว

4. เราไปเที่ยวมาชู พิชชู ประเทศเปรู ไปเจอคนไทยที่อาศัยอยู่ที่นั่น ตอนเราเจอเธอเธออยู่ประเทศเปรูมานานมากแล้วด้วย

6. ประเทศในแถบหมู่เกาะทะเลใต้ที่คนไทยไม่ค่อยไปกัน เพราะไปลำบาก และ ค่าใช้จ่ายสูง ค่าที่พักแพง
อย่างเช่นประเทศจำพวกหมู่เกาะในทะเลแปซิฟิคใต้ทั้งหลายนั้น ก็มีคนไทยไปอาศัยอยู่ไปทำงานเยอะนะคะ

7. ประเทศในแถบทะเลแคริบเบี้ยน มีคนไทยไปทำกิจการโรงแรม มีคนไทยไปทำงานค่ะ

8. ประเทศทางแถบอาฟริกาหลายประเทศ มีคนไทย คนจีนแผ่นดินใหญ่ ไปทำงานทางด้านการเกษตร
ทำงานทางด้านเหมืองแร่ทางด้านอัญมณีมีค่ามากมาย

9. กรุงลิม่า เมืองหลวงของเปรู มองไปทางไหนมีแต่ร้านอาหารจีน อาหารญี่ปุ่น ไฟล์ทหลายๆ ไฟล์ทที่บินเข้าลิม่า
มีแต่คนจีน คนญี่ปุ่น

10. ตอนนี้นึกออกที่เดียวค่ะ ที่ว่าอาจจะไม่มีคนไทย หรือ คนเอเชียอาศัยอยู่เลย คือ ที่หมู่เกาะอีสเตอร์ค่ะ

11. หลายๆ เมือง หลายๆ ประเทศในยุโรป ในออสเตรเลีย ในทวีปอเมริกาเหนือ คนไทย คนเอเชีย เดินแทบจะชนกันตาย
หรือเดินๆ อยู่ในลอนดอน ในแฟรงเฟิร์ท ในซิดนี่ย์ อาจจะได้ยินภาษาไทย ได้เจอคนไทยมากมาย

12. หลายๆ ประเทศในตะวันออกกลาง มีคนฟิลิปปินส์ไปทำงานเยอะมาก คนไทยเยอะ คนอินเดียก็เยอะ

13. เราเคยอ่านบล็อกของสมาชิกพันทิปท่านหนึ่ง เธออาศัยอยู่ในชิลีค่ะ

14. ที่อาร์เจนติน่า มีคนไทยอาศัยอยู่ และมีอยู่ท่านหนึ่ง เป็นสมาชิกพันทิป เธอเล่นอยู่ประจำที่ห้องบลูแพลเน็ตค่ะ

15. ที่หมู่เกาะเมอร์ริเชียส เกาะรียูเนี่ยน มีไฟล์ทไปจากเมืองไทย หรือไฟล์ทไปจากสิงคโปร์ และ มีไชน่า ทาวน์

16. ที่หมู่เกาะมัลดีล์ฟ ก็มีคนไทยอาศัยและทำงานอยู่มากมาย

17. อีกประเทศ(เขตปกครองพิเศษ) ที่คิดว่าไม่มีคนไทยอยู่ คือ ธิเบต ค่ะ ขั้วโลกเหนือ ขั้วโลกใต้ อาจจะไม่มีคนไทยอยู่
แต่อาจจะมีนักวิทยาศาสตร์ไทยหรือนักสำรวจไทยไปทำงานที่นั่นเป็นครั้งคราว

18. เราเคยอ่านบล็อกเจอว่ามีคนไทยที่เล่นพันทิปท่านหนึ่ง ทำงานที่อิรัคค่ะ

//ตอนนี้นึกออกแค่นี้ค่ะ

ที่ไหนบ้างคะ ที่ไม่มีคนเอเชียไปตั้งรกราก หรือไปอาศัยอยู่เลย กรุณาบอกเราหน่อยเถอะค่ะ
ต้องเรียนให้ทราบก่อนว่า เราไม่ได้กวนนะคะ และไม่ได้มาเหน็บด้วย แต่เราถามจริงๆ ค่ะ เพราะเราอยากให้คุณ จขกท.
ได้คำตอบที่แน่นอน และเราอยากทราบเอาไว้เป็นความรู้รอบตัวค่ะ เผื่อว่าเรายังไม่ทราบว่าในประเทศไหนในโลกนี้
ที่ไม่มีคนไทยไปอาศัยอยู่ หรือ ไม่มีคนเอเชียไปอาศัยอยู่หน่ะค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 9
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 10
จาก คห. 9 ข้างบนนะคะ ต้องขออภัยด้วย ที่กดส่ง คห. 9 มาแล้วหลังจากที่คุณ จขกท. เข้ามาบอกใน คห. 4
แล้วว่าจะไปอยู่ที่แอลจีเรีย อยู่แอลจีเรียแค่นั้นเองค่ะ ถ้าขาดเหลืออะไร บินไปยุโรป หรือ ไปตะวันออกกลางไม่ไกลเลย
จะกลับเมืองไทยก็สะดวกแค่นั่งเครื่องบิน 2 ต่อ อย่างมากก็ 3 ต่อ

แอลจีเรีย เนี่ย เราเคยอ่านเจอว่ามีร้านอาหารไทยนะคะ มีคนไทยอาศัยอยู่ที่นั่นด้วย

ขนาดประเทศใกล้เคียงอย่างโมร็อคโค ยังมีคนไทยอยู่เลย โดยเฉพาะที่มาราเก๊ช เป็นคนไทยที่ทำงานโรงแรม
ทำงานสปาค่ะ

ยิ่งถ้าคุณ จขกท. อาจจะต้องไปอยู่ในฐานะภรรยาของนักการทูต หรือ ภรรยาของพวกเอ็กซ์แพ็ทหน่ะ คุณไม่ต้องห่วงเลย
ขนไปเลยค่ะ สากกระเบือยันเรือรบ จะกี่คอนเทนเน่อร์ก็ขนไปเถอะ เดี๋ยวบริษัทหรือหน่วยงานเขาจ่ายให้เองค่ะ
ยิ่งถ้าไปอยู่ในประเทศที่ไม่เจริญหน่ะ สวัสดิการยิ่งดีนะคะ


ตอบกลับความเห็นที่ 10
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 11
ลืมบอกไปว่า ถ้าไปอยู่ต่างประเทศหน่ะ ขนพวกซีดีหนัง ซีดีเพลงไปด้วยค่ะ ทั้งหนังไทยหนังฝรั่ง เพลงไทยเพลงฝรั่ง
ขนของลิขสิทธิ์ไปนะคะ แต่ต้องศึกษาในเรื่องของการเซ็นเซ่อร์ด้วยค่ะ ว่ามีกฏระเบียบอะไรบ้าง

อนึ่งการย้ายถิ่นที่อยู่ โดยมีบริษัทหรือหน่วยงานออกค่าใช้จ่ายในการขนย้ายให้ โดยเฉพาะถ้าคุณ จขกท. มีสามีฝรั่ง
ทำงานบริษัทฝรั่ง คุณแทบจะไม่จำเป็นต้องทำอะไรเลยนะคะ คุณนายนั่งอยู่บ้่่านค่ะ เดี๋ยวมีคนมาเก็บของให้เอง
แล้วพอไปประเทศอื่น คุณไปอยู่เซอร์วิสอพาร์ทเม้น หรือ อยู่โรงแรมจนกว่าของๆ คุณจะเดินทางไปถึงนะคะ
ระหว่างอยู่ที่นั่นก็ต้องไปหาบ้าน หาคอนโด แล้วพอของมาถึง เดี๋ยวคนงานเขาขนมาให้ มาแกะกล่องให้คุณนายเองค่ะ

//ปอลอ แอบเข้าไปดูในบล็อกมานะคะ เห็นว่าคุณ จขกท. มีลูกครึ่งวัยเด็กเล็กมาก และ มีสามีฝรั่งค่ะ หน้าตาออกแนว
ฝรั่งเศสเชื้อสายโมร็อคโค หรือ ฝรั่งเศสเชื้อสายอัลจีเรี่ยนด้วย ถ้าพ้นจากนี้แล้วก็คือคนอิตาเลี่ยนทางใต้หน่ะค่ะ
เอ หรือว่า เป็นคนอัลจีเรี่ยนแล้วต้องย้ายกลับบ้านคะ _คือถ้าย้ายกลับบ้านเนี่ย บริษัทอาจจะจ่ายค่าขนย้ายให้ หรือ
ไม่จ่ายให้ ต้องดูที่สัญญานะคะ ถ้าบริษัทไม่จ่ายให้ ก็ต้องออกเองค่ะ ก็หลายตังค์อยู่ เป็นหลักแสนบาท หรือหลายแสนบาท
นะคะ แล้วแต่ว่ามีของมากหรือมีของน้อยค่ะ แล้วไปทางแถบนั้น อาจจะต้องรอของเดินทางไปถึงราวๆ 1-2 เดือนค่ะ

ส่วนอะไรที่ขนเข้าอัลจีเรียได้บ้าง หรือไม่ได้บ้าง ให้ปรึกษาพวกบริษัทชิปปิ้งในวันที่เขามาดูของค่ะ

แต่ถ้าจะขนเอง แบบที่เอาโหลดขึ้นเครื่องไปด้วยตอนเดินทาง ก็ต้องเป็นแบบจ่ายค่าระวางน้ำหนักเกินไปนะคะ
หรือบินชั้นสูงๆ เช่นชั้นเฟิสท์ หรือชั้นธุรกิจ ที่ได้น้ำหนักฟรีๆ เยอะๆ หน่ะค่ะ ถึงจะคุ้ม

ตอนนี้มีคำแนะนำแค่นี้ค่ะ และ ถ้าคุณเจ้าของกระทู้ หรือ ท่านใดท่านอื่นๆ ที่มาอ่สนแล้ว้ห็นว่าที่เรามาแชร์มีประโยชน์
ก็ขอความกรุณากดกระทู้นี้เก็บลงคลังกระทู้เอาไว้ด้วยนะคะ เพื่อให้คนข้างหลังที่เข้ามาหาข้อมูลค่ะ เพราะถ้าไม่เก็บเอาไว้
หลังจากนี้ 1 เดือน กระทู้นี้จะหายไปค่ะ ขอบคุณมากค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 11
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 12
หนังสือ นิตยสาร ก็ขนไปด้วยเยอะๆ ค่ะ ถ้าคุณชอบอ่านหนังสือ หรือ สมัครเป็นสมาชิกเอาไว้ แบบที่ให้ส่ง
ไปต่างประเทศให้คุณ สมัครล่วงหน้ารายปีค่ะ หรือ ถ้าจะกลับเมืองไทยบ่อยๆ ก็ให้ทางร้านเก็บเอาไว้ให้
แล้วขนกลับมาอ่านเองค่ะ แต่หนังสือ และ นิตยสาร หนักค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 12
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 13
ขอบคุณทุกความเห็นมากเลยนะคะ จริง ๆ ที่ตั้งกระทู้มา อยากทราบความเห็นว่าแต่ละคนขนอะไรกันไปจากเมืองไทยบ้างน่ะค่ะ
ที่กล่าวมาคงขนไปไม่หมดแน่เลยค่ะ แต่ได้ไอเดียดี ๆ เยอะเลยค่ะ
น้ำพริกแห้ง ๆ เอย ข้าวไทยเอย ของแห้ง ผงเครื่องปรุงทั้งหลาย ครกไม้ไทย (ที่นู่นมีแบบทองเหลืองค่ะ ตำยากจัง)
ของใช้จำเป็นหลาย ๆ อย่าง ชุดชั้นในเอย กำลังทำลิสท์ค่ะ ถ้าขนไม่หมดคงต้องส่งตามไป เลยอยากได้ไอเดียจากทุกคนบ้างค่ะ

ที่ไปไม่มีคนไทยเลยค่ะ ส่วนคนเอเชียก็จีน ญี่ปุ่น เป็นแรงงานต่างด้าวแต่อยู่เมืองอื่น ๆ ที่ไม่ใกล้กันค่ะ ไม่มีร้านเอเชียเลยค่ะ
อาจจะไม่ได้ศึกษาลึกมากพอว่ามีคนไทยอาศัยอยู่เมืองอื่น ๆ หรือเปล่านะคะ เท่าที่อยู่มายังไม่เจอค่ะ
ร้านอาหารไทยเคยได้ยินว่ามี อยู่ที่เมืองหลวง ไกลออกไปประมาณ 6-700 กิโลค่ะ แต่ไปแล้วไม่เจอค่ะ จึงคิดว่าคงไม่มีร้านไทยแล้วนะคะ
ส่วนยุโรป หรือ ตะวันออกกลางคงไม่ได้ไปหรอกนะคะ เพราะเราก็ไม่ได้ไปแบบคนมีตังค์หรือรวยอะไรมากค่ะ
ส่วนประเทศไทย เราคงไม่ได้กลับอีกหลายปีค่ะ เป็นแม่บ้านธรรมดา ๆ เนี่ยแหละค่ะ สามีก็ไม่ได้รวยอะไร ไม่ได้เป็นทูตอะไรหรอกค่ะ (^_^)


ตอบกลับความเห็นที่ 13
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 14
ไม่ได้ว่าอะไรนะคะหนู จขกท. โอ๋ๆๆ ไม่ได้พูดถึงเรื่องมีตังค์ไม่มีตังค์ด้วย แต่เพราะเห็นคุณบอกว่าจะไปอยู่ประเทศที่ไม่มีคน
ไทยเลย ประเทศที่ไม่มีคนเอเชียเลย เราจึงคิดว่ามันต้องกันดารมากค่ะ และจึงอนุมานว่า ต้องเป็นครอบครัว Expat
หรือ ครอบครัวนักการทูต เพราะมิเช่นนั้นแล้วก็หายากนิดนุงนะคะ ที่จะมาถามแบบนี้หน่ะ

หรือ อย่างในพันทิปเนี่ย มีสมาชิกอย่างน้อยๆ ท่านหนึ่ง เป็นภรรยาของนักการทูตฝรั่งระดับสูงค่ะ เธอเคยไปอยู่ หรือ ไปอยู่
ประเทศที่เป็นโพสลำบากนะคะ หลายๆ ครั้งเธอมาตั้งกระทู้เล่าในพันทิป ดิฉันเคยได้อ่านอยู่หลายกระทู้ หลายๆ ครั้ง
เธอกลับมาเมืองไทยเพื่อมาช้อปปิ้ง ซื้อของไปเป็นคอนเทนเน่อร์ ซื้อแม้กระทั่งกระดาษ A4 (ที่อ่านหน่ะ
สนุกนะคะ และได้ความรู้ด้วย แต่ขอไม่เอ่ยชื่อล็อกอินของคุณเขานะคะ)

หรืออย่างเพื่อนฝรั่งของดิฉันบางครอบครัว เป็นครอบครัวนักการทูต หรือครอบครัวเอ็กซ์แพ็ท เวลาต้องไปอยู่โพสท์หรือ
เบสที่ลำบากๆ หน่ะค่ะ ทางบริษัท หรือทางรัฐบาลของประเทศเขาจะมีสวัสดิการให้อย่างดี จะดูแลอย่างดีค่ะ

ดิฉันมีเพื่อนฝรั่งหลายครอบครัว ที่เคยอาศัยอยู่ในเซี่ยงไฮ้ ในฐานะเอ็กซ์แพ็ทก่อนที่เซี่ยงไฮ้จะเจริญอย่างในทุกวันนี้
ตั้งแต่ยุคเมื่อ 20 ปีที่แล้ว หรือ 20 กว่าปีที่แล้วนะคะ เขาได้สวัสดิการเช่นว่า มีตั๋วชั้นบิสซิเนสให้บินไปฮ่องกง
ทุกๆ 2 เดือนค่ะ ให้ไปหายใจหายคอ และมีตั๋วเฟิสท์คลาสให้บินกลับบ้านที่ยุโรป ปีละ 2 ครั้งค่ะ แล้วเซี่ยงไฮ้สมัยก่อนหน่ะ
ไม่ได้ไฮโซ ไม่ได้หรูหราเหมือนในปัจจุบันนี้ค่ะ แต่เต็มไปด้วยการก่อสร้างตึกสูงระฟ้า เสียงดัง คนไม่เจริญ ไม่ทันสมัย


ตอบกลับความเห็นที่ 14
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 15
กระเป๋าเดินทางของเราเปิดมามีแต่ของกิน เช่น กะทิผง น้ำมันหอยผง น้ำพริกแกง ลูกมะกรูด เครื่องพะโล้
ข่า ตะไคร้ เม็ดพันธุ์ผัก เอามาปลูก เค้าห้ามแต่เราแอบเอามา ไส้เทียม ไว้ทำไส้กรอกกินเอง
ปูนแดงไว้แช่ ทำของกรอบๆ กิน ผงก๋วยเตี๋ยวเรือ เครื่องปรุงรสต่างๆ กุ้งแห้ง กะปิ น้ำปลา น้ำตาลปี๊บ เต้าเจี้ยว
ข้าวเหนียว เส้นหมี่ ขนมจีนอบแห้ง วุ้นเส้น เส้นจันทร์ แป้งทำขนมไทยต่างๆ


ตอบกลับความเห็นที่ 15
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 16
คุณ siamleela ขนไปยังไงหมดคะ กระเป๋าเดียวเลยเหรอคะ ทึ่งมาก


ตอบกลับความเห็นที่ 16
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 17
หม้อหุงข้าว SHARP ค่ะ สำคัญมากๆ


ตอบกลับความเห็นที่ 17
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 18
จริงๆแล้วไม่ได้อยู่นานๆติดต่อกันหรอกคะ เดือนนึงก็บินกลับไทยทีนึง ที่แนะไปคือให้เอาของแห้งๆที่ไม่หนักมาก และเอาไปทำอาหารอื่นๆได้อีกหลายอย่าง เช่นหิ้วแต่ไส้เทียมมา แล้วหาสูตรในห้องก้นคร้วทำไส้กรอกอีสานทานแก้ขัด


ตอบกลับความเห็นที่ 18
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 19
อีกอย่างที่ยังไม่ได้บอกคือเราไม่มีเสื้อผ้ามาด้วยเลยมีแต่ของกินล้วนๆ และเราก็ไม่ได้ใส่ในกระเป๋าเดินทาง เราใช้กล่องพลาสติก ใส่ของทั้งหมดมา1ลัง ประหยัดน้ำหนักได้4กก ถ้าเทียบกับใช้กระเป๋า และใช้ลังเก็บสะเบียงได้อีกด้วย แต่อันนี้ต้องดูแต่ละประเทศด้วย
ครั้งนี้เราขนน้ำสตอเบอรี่ เงาะ ลำไย แก้วมังกร สเต้กหมูแช่แข็ง ปลาแช่แข็ง เนยออร์คิด เป็ดเอ็มเค1ตัว สะตอแกะเม็ด
หน่อไม้ กะเพาะปลา และก็ขาหมู1ขา ไม่ต้องแช่เย็นเก็บไว้ได้1ปี
จริงๆแล้วบ้านที่นี้ก็ไม่ได้หาของกินยาก แต่บางทีต้องการกินอะไรที่เป็นรสชาดของร้านนั้นๆก็เลยต้องทั้งคาบและหอบ


ตอบกลับความเห็นที่ 19
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 20
สุดยอดเลยค่ะ อยากเอาไปได้อย่างนั้น และอยากกลับเมืองไทยได้บ่อย ๆ บ้างจังค่ะ

หม้อหุงข้าวก็น่าเอาไปด้วย จะมาหุงแบบเช็ดน้ำคงไหม้ซะก่อน


ตอบกลับความเห็นที่ 20
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 21
พวกน้ำพริก กะเครื่องแกง ประมาณนี้ค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 21
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 22
ก็จะพกยาดมโป๊ยเซียน ยาหม่อง มาน่ะค่ะ ที่นี่ก็หาซื้อได้นะคะแต่แพงกว่ามากเลย
ของกินไม่ค่อยนะคะ เพราะที่นี่มีร้านจีนหลายร้านหาซื้อที่นี่สะดวกดี


ตอบกลับความเห็นที่ 22
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 23
เราว่า หม้อหุงข้าว ถ้าไม่มีที่เหลือเฟือ ก็ไม่ต้องเอามาหรอก
เราหุงข้าวไม่เช็ดน้ำ ด้วยเตาธรรมดามาเกือบสิบปีแล้ว ก็ไม่มีปัญหาอะไร
สูตรง่ายๆ ใส่ข้าว ใส่น้ำให้ท่วมหนึ่งข้อนิ้ว พอเดือด เปลี่ยนเป็นไฟเบา อีก สิบนาทีก็ได้กินแล้ว


ตอบกลับความเห็นที่ 23
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 24
อยู่เดนมาร์กนะคะ

ส่วนใหญ่เวลากลับไทยแล้วต้องซื้อกลับมาก็คร่าวๆดังนี้ค่ะ

1.ยาสามัญประจำบ้าน > เพราะถ้าเกิดไม่สบายขั้นพื้นฐานที่นี่ ไม่สามารถเป็นหมอตี๋รักษาตัวเองได้ค่ะ

ต้องโทรไปนัดคิวกับแพทย์ประจำตัว และต้องรอคิวหลายวันมากค่ะ เคยรอนานสูงสุด 5 วัน ไปซื้อยาที่ร้านขายยาก็ต้องมีใบสั่งแพทย์ไปค่ะ

2. ครีมทาผิวเจอร์เจ้น > อันนี้หาซื้อที่นี่ไม่ได้ค่ะ

3. เสื้อผ้าหน้าร้อน > ที่เมืองไทยสวยและถูกกว่าค่ะ เนื้อผ้าก็บางกว่าเหมาะกับหน้าร้อนเป็นอย่างยิ่ง

4. รองเท้าแฟชั่นหน้าร้อน > ที่เมืองไทยสวยและถูกกว่าอีกแล้วค่ะ จะขนมาเป็นสิบคู่ก็ไม่ได้หนักกระเป๋าเท่าไหร่ ใส่ได้ไม่ซ้ำแบบ ส้นสึกเมื่อไหร่ก็โยนทิ้งได้โดยไม่ต้องเสียดายค่ะ

5. ที่คาดผม ที่รัดผม กิ๊บส์ ต่างหู > อันนี้จะบ้าขนมากๆค่ะ เพราะสวย ถูก และเบา

ส่วนพวกเครื่องแกงต่างๆ ของกินที่สามารถหาซื้อได้ที่นี่ ดิฉันจะไม่ขนค่ะ เวลาทำอาหารไทยทานก็จะใช้ผักของที่นี่ดัดแปลงใส่ลงไปค่ะ เช่นพวกแกง ก็จะใส่บล็อคโคลี่ พริกหวาน มันฝรั่ง สคว็อท เป็นต้นค่ะ

ดิฉันทำอาหารทานหลากหลายชาติค่ะ กว่าจะวนมาเจออาหารไทยทีบางครั้งก็สองอาทิตย์ค่ะ เลยไม่ค่อยห่วงเรื่องเครื่องปรุงจะขาดตู้เท่าไหร่


ตอบกลับความเห็นที่ 24
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 25
เคยขนของพวกนี้ไปค่ะ
น้ำพริก ครก สาก มะม่วง ต้นกล้าผักต่างๆ ฝรั่ง น้อยหน่า กะทิกล่อง ถั่วลิสง ข้าวคั่ว เส้นก๋วยเตี๋ยว
มะขามเปียก พริกแกง กระทียม หัวหอม มะละกอ เสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า หนังสือ เสื่อ ผ้าไหม ขวดเครื่องปรุง3 ขวด

เอาทุกอย่างมัดใส่ถุงเล็กๆ หลายๆ ชั้น แล้วเอาเครื่องดูดฝุ่นดูดอากาศออก

รวมทั้งหมดยัดใส่กระเป๋าได้ 30.5 กก (ขึ้นการบินไทย ให้ นน กระเป๋าโหลด30 กก)

ทุกวันนี้คงไม่เอาอะไรไปด้วยแล้ว มีอะไรก็กินอย่างนั้น ดัดแปลงเอา ง่ายดี ไม่เป็นภาระตอนเดินทางด้วยค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 25
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 26
อยู่อเมริกา มีเกือบทุกอย่างคะ :)


ตอบกลับความเห็นที่ 26
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 27
พจนานุกรมไทยของราชบัณฑิตสถาน


ตอบกลับความเห็นที่ 27
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 28
ก็ตามที่คห.บนๆบอกค่ะ


เรานำหนังสือสวดมนต์มาด้วย


ตอบกลับความเห็นที่ 28
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 29
ที่เราขนมานะคะ ออกแนวมีสาระ และไร้สาระ ชนิดที่คิดว่าจะขนมาเพื่อ - -*

ยา

แซมบัค ชีวิตนี้ขาดแซมบัคไม่ได้ ทาถูๆๆๆ
ยาดมตราโป๊ยเซียน เวลาอากาศเย็นๆคัดจมูก หลอดนี้เอาอยู่
ยาพอนสแตน เราปวดปจด.ทุกเดือน เคยลองยาที่นี่แล้วเอาไม่อยู่ค่ะ ซัดไป3เม็ดยังนอนครางเหมือนยาไม่เข้าไปทำปฏิกิริยาใดๆในร่างกาย


อาหาร

สารพัดน้ำพริกแบบกระปุกเล็กๆ ขนมาเป็นสิบ สุดท้ายกินไม่ทันต้องแจกคนนั้นคนนี้
มาม่าต้มยำกุ้ง พกมาพอประมาณเวลาที่อยากกินไรแซ่บๆ กรณียังหาแหล่งซื้ออาหารเอเชียไม่ได้
ขนมจำพวกกูลิโกะ นมอัดเม็ด ตอนนี้โหยหามากๆค่ะ
ผงชากาแฟโบราณ ติดชากาแฟแบบรถเข็นค่ะ ชงไม่เป็นแต่ก็พยายามที่จะชง
สารพัดโลโบ้ เน้นเลยค่ะว่าโลโบ้ผัดกะเพรา มันง่ายดีค่ะเวลานึกไม่ออกว่าจะกินอะไร สมเป็นอาหารสิ้นคิดจริงๆ
น้ำจิ้มสุกี้ ข้าวมันไก่ และอะไรอีกน๊ออนึกไม่ออก จริงๆขนมาเยอะมากพวกอาหารและซอสร่วม 20กิโลได้

เครื่องใช้ไฟฟ้าที่จำเป็นมากสำหรับเรา

หม้อหุงข้าวระบบคอมพิวเตอร์ เพราะเราไม่รู้ว่าจะเจอข้าวแบบไหน เก่าหรือใหม่ เลยเอาที่มีหลายๆพังค์ชันเลยค่ะ
เครื่องทำน้ำแข็งไสไฟฟ้า ด้วยความที่ชอบกินน้ำแข็งไสมากและไว้ใส่ชากาแฟโบราณ *0*
เตาทาโกะยากิ ด้วยความที่ชอบกินทาโกะยากิมากๆ ทำไม่เป็นแต่ก็หัดทำจนกินได้แม้ไม่อร่อยมากก็ตาม เตานี้ยังทอดไข่นกกระทาและทำขนมครกได้ด้วย


ไม่รู้จะขนมาให้หนักทำไม(ใส่มาทางเรือ)

ตุ๊กตาเป็นสิบตัวๆ ไปเหมาซื้อจากสำเพ็ง - - ขนกันข้ามทวีปเลย
โคมไฟจากจตุจักร ร่วม10อัน ซื้อมาก็ไม่ได้ใช้
ตระกร้าสาน บอลสาน มีคุณค่าทางจิตใจมากตอนอยู่ไทย พอหอบมาก็งงๆว่าจะเอามาเพื่อ 55+ เอาหวดนึ่งข้าวเหนียวมายังจะดีซะกว่า

ของที่จำเป็นแต่ดันไม่เอามา

หนังสือนิยายและการ์ตูน รักการอ่าน พอมาอยู่ที่นี่ต้องสั่งซื้อ ค่าส่งแพงกว่าค่าหนังสือ จ่ายทีสลบไป3ตื่นค่ะ 55+
อัลบัมรูปและสมุดเฟรนชิพ เวลาเหงาๆคิดถึงเพื่อน จะโหยหามากๆค่ะ กลับไปไทยรอบนี้ว่าจะขนกลับมาด้วย


ตอบกลับความเห็นที่ 29
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 30
กลับไทยเอาแต่ความทรงจำดี ๆ กลับมาค่ะ รูปถ่าย วิดิโอ สูตรอาหาร เครื่องมือทำอาหาร ทำขนมบางอย่าง พวกเทียนอบ ให้เขาแพคอย่างดีค่อยแกะใช้ทีละอัน ส่วนใหญ่สองป้าสอนให้ปรับใช้ของพื้นเมืองแทนค่ะ



อาจไม่เหมือนคนอื่นเท่าไหร แต่ที่โพสเอามาแบบนี้เลย

ที่เอาติดมากลับเป็นของฝาก ของกินน้อยมาก ชอบปั้นสิบไส้ปลา ถั่วแพทอด พริกไทยตรามือถุงใหญ่เป้งใช้ลืมชาติ แต่ต้องซื้อไม่รู้ทำไมค่ะ

ของฝากพวกกระเป๋าผ้าสวย ๆ ผ้าไหม ผ้าทอ รองเท้าแตะ เกงเล เสื้อยึดลายโฆษณาแปลก ๆ ของแปลก ๆ ที่จตุจักรไม่กินน้ำหนักมากนัก อ้อ แว่นตา กลับทีต้องทำแว่นตาตั้งหลายอัน ทั้งของพี่ที่บ้านของตัวเอง เต็มไปหมด

ยาสมุนไพรพวกข่าหอมเนี่ยชอบสุด เวลากินต้องระวังจะทำเสียงดัง ปุ๊งปั๋ง กินพวกชีสมาก ๆ ท้องอึด
ยาทาพวกโวลทาเรน ดีสุดยอด ไม่ร้อนไม่แสบ หายปวดยังกะปิดทิ้ง
ยาทารักษาพวกไฟลวก น้ำร้อนลวก เมืองไทยดีมากกกกกกกก
บางคนจะฝากเอาพวกยาแก้อักเสบมาก็ถือมาให้ ไม่มีปัญหา บางทีมาเป็น 2-3 ร้อยเม็ด (จะอักเสบอะไรหนักหนา)

ครีมกันแดด อันนี้ดีเยี่ยมของญี่ปุ่นพวกคาเนโบ้ บิโอเร แต่ราคาถูกเหลือเชื่อในไทย

ที่ติดผมยี่ห้อ Evita Peroni ใช้แต่เด็ก ติดใจซื้อที่อื่นแพง เมืองไทยถูกสุด แต่เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยทน

เท่าที่นึกได้ก็มีแค่นี้เองค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 30
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 31
เราขนยาประจำตัวที่ใช้ประจำ เราว่าตปท หายายาก บางอย่างต้องให้แพทย์สั่ง ถ้าได้กลับไทยปีหน้า เราอยากได้พวกยาธาตุน้ำขาว ยาน้ำ เพราะลืมเอามา

ชุดชั้นในเอามาเยอะมาก เพราะเราหาไซด์ยาก เนื่องจากตัวเล็ก แถมของบ้านเราใส่สบายกว่า

ของไทยที่เล็ก ๆ พกง่าย เผื่อเอามาให้ญาติ ๆ แฟน หรือเป็นของขวัญ


ตอบกลับความเห็นที่ 31
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 32
อิชั้น ขนทุกอย่างที่ผิดกฎหมาย แต่ไม่แนะนำคะ เพราะถ้าโดนตรวจขึ้นมาไม่คุ้มแน่นอน แต่ปานนั้นก็ทำ--"


โชคดี มากที่ประเทศที่อยู่ มีทุกสิ่งอย่าง หรือถ้าไม่มี ทางบ้านก็ส่งพัสดุมาให้ ซึ่งยังไม่เคยโดนยึด

.อิชั้นจำคุณได้ เคยเมนท์กระทู้ห้องงานฝีมือบ่อยๆ ^^


ข้างบน แนะนำไปหมดแล้ว ให้กำลังใจนะคะ อยู่ต่างบ้านต่างเมือง ต้องเข้มแข็ง

ช่วงปีแรก ที่มา จิตตกได้ทุกวัน......หมายถึงตัวเอง พอปรับตัวได้ หลั่นล้ากับทุกเรื่องทีเดียว ^^


ตอบกลับความเห็นที่ 32
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 33
อ่านแล้วอยากขนไปด้วยทั้งนั้นเลยค่ะ จริง ๆ แหละยาสามัญที่นี่ก็ต้องให้แพทย์สั่งแถมแพงด้วยค่ะ
ชุดชั้นในไม่มีแบบเสริมฟองน้ำเลยค่ะ เค้าไซส์จริงกันทั้งนั้นเลย
หนังสือไทยหลาย ๆ เล่มที่อ่านแล้วติด ที่สำคัญครกไทยนี่หาที่ไหนจะเหมือน
อีกเยอะแยะเลยค่ะ ได้ไอเดีย้พียบ สงสัยต้องเตรียมลังไว้ใส่ของชิปมาต่างหากแน่เลย
ขอบคุณคุณศศิที่จำได้นะคะ จิตตกจริง ๆ ค่ะ คราวก่อนที่มาอยู่คิดถึงบ้านมาก แต่คงต้องอยู่ให้ได้ค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 33
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 34
เมืองที่เราอาศัยอยู่ไม่มีร้านไทยเช่นกัน ต้องเข้าไปเมืองหลวง ถึงจะได้ซื้อ แต่เราก็ประยุกต์เอาของที่นี่แหละมาทำอาหารไทย


เวลากลับไทย

เราขน พริกสด พริกแห้ง กะปิอย่างดี กุ้งแห้ง ปลาร้าอย่างดี ไตปลา เคยปลา
หอยดอง ปลาหวาน ปลาจิ้งจั้ง น้ำพริกต่างๆ เคยเอาครกไม้มา ส่วนครกหินซื้อที่ร้านเอเซีย เอากระติ๊บข้าวเหนียวมา ซื้อพวกสารพัดโลโบ้ ตะใคร้ ใบมะกรูด คือที่นี่มีขายที่ร้านเอเซีย แต่เราขนมาแช่แข็งไว้ ไม่ต้องซื้อ เส้นขนมจีนเจ้าอร่อย สรุป คือเรากลับไทยบ่อย และขนมาทุกอย่างที่อยากกิน อยากใช้ จนเดี๋ยวนี้ที่บ้านเรามีทุกอย่างเหมือนบ้านที่เมืองไทย ทำอาหารไทยได้อร่อยไม่แพ้กัน แต่ประยุกต์นิดหน่อย

ประเทศที่เราอยู่ไม่มีร้านไทย แต่ร้านเอเซียที่เป็นร้านจีน หรือร้านอินเดีย มีของไทยขายเยอะแยะ ขนาดร้านฝรั่งในเมืองหรือซุปเปอร์ยังมีของไทยบางอย่างขายเลย เช่น น้ำจิ้มไก่แม่พลอย กะทิชาวเกาะ กะปิตรากุ้ง เดี๋ยวนี้ของไทยไปทั่วโลกค่ะ เพียงแต่เราต้องรู้จักเสาะหา แต่ราคาอาจจะสูงไปนิด ถ้าเทียบกับเมืองไทยนะ แต่ถ้าอยู่นานๆ ก็ซื้อแบบไม่คิดอะไรมาก ถูกแพงขอแค่ได้กิน

เดี๋ยวนี้เราทำผักดองเอง ทำปลาแดดเดียวเอง ลูกชิ้นก็ทำเอง ดูวิธีทำจากเน็ตนี่แหละ สนุกดี

แต่ถ้าขนมาเป็นตู้คอนก็เอามาทุกอย่างก็ดีค่ะ อีกอย่างที่สำคัญมาก สำหรับเรา คือ ยาทั่วไป เราให้เภสัชที่ร้านขายยาเจ้าประจำ จัดให้ครบทุกอย่าง ประมาณว่า เป็นอะไรรักษาเองได้ทันที ส่วนหนังสือ เราขนมาเยอะเหมือนกัน ครั้งละห้าสิบเล่มได้ แต่เดี๋ยวนี้ก็อาศัยอ่านอีบุ๊ค ก็พอช่วยได้ แต่เราชอบอ่านหนังสือเป็นเล่มๆมากกว่า รอบนี้กลับไปก็คงขนมาอีก

จะขนอะไรมา ก็ให้ดูว่าชอบทานอะไร ชีวิตประจำวันทำอะไรบ้าง ถ้าชอบทำขนมก็ขนพวกเทียนอบ แป้งกวนหน้า ปูนแดง ชาไทย ชาเขียวตรามือ

จดๆใส่สมุด และทยอยซื้อไปเรื่อยๆ พอจะมาก็จัดๆทีเดียว จะได้ไม่ลืมนั่นลืมนี่
เวลาเราไปเที่ยวไหน เห็นอะไรอยากทาน เราก็ซื้อมารอกลับนะ คือของที่นี่ก็มีขาย แต่บางทีไม่อร่อยเหมือนของที่เราไปหาซื้อที่ไทยนะ


ตอบกลับความเห็นที่ 34
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 35
จดใส่สมุดไว้เลยค่ะ บางอย่างลืมนึกไปเลยว่าน่าจะต้องมี


ตอบกลับความเห็นที่ 35
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 36
ครกสากไม้ค่ะ หายากและแพงเกิน

ของกินที่พกมา ก็เช่น หมูหยอง กุนเชียง น้ำพริก กุ้งแห้ง

อ้อ หม้อสุกี้ อันนี้ชอบทั้งครอบครัว หาซื้อที่นี่ยาก แพงด้วย

นอกนั้น ซื้อที่ี่นี่ค่ะ เพราะต้องเผื่อกระเป๋าไว้ใส่พวกของฝากด้วย

ส่วนเสื้อผ้า ซื้อที่นี่หมด เคยซื้อจากไทยมา แป๊ปเดียวก็เบื่อ หาซื้อใหม่อยู่ดี


ตอบกลับความเห็นที่ 36
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 37
เมื่อ 30ปีที่แล้ว พกรูปพ่อและแม่ค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 37
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 38
เห็นว่า จขกท มีลูกเล็กด้วย
ลองหาหนังสือนิทาน/แบบเรียนภาษาไทยติดไปหลายๆเล่มนะคะ
พวก กอเอ๋ยกอไก่ คัดไทยสำหรับเด็กเล็ก โปสเตอร์ ก-ฮ ติดผนัง ประมาณนี้อะค่ะ
ไว้สอนลูก ตัวเล็กจะได้ไม่ลืมภาษาไทย (หาซื้อยากมากกกกก)


ตอบกลับความเห็นที่ 38
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 39
มะม่วงกวนค่ะ เพราะเราชอบกินมะม่วงมาก และที่นี่ไม่มีมะม่วงไทย


ตอบกลับความเห็นที่ 39
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 40
เพื่อนเรากำลังจะย้ายไปทำงานที่แอลจีเรียเหมือนกันค่ะ บริษัทพลังงานในไทยส่งไปประจำที่นั่น
ในเมืองใหญ่ๆน่าจะมีคนไทยอยู่บ้าง แต่เพื่อนที่เป็นแอลจีเรียนบอกว่านอกเมืองหาคนเอเชียยาก

เรามาสวีเดนขนทั้งข้าวหอมมันปู กะปิ ผงปรุงรสโลโบ้ คนอร์ ฟ้าไทย (หาซื้อได้แต่แพงค่ะ)
ไส้อั่ว กุนเชียง ปลาสลิด ปลาทู เส้นหมี่โคราช หมี่ผัก ผักกาดดอง ไชโป้วหวาน ปลาหมึกแห้ง ปลาลิ้นหมา ไว้กินกับข้าวต้มตอนเช้า
(จริงๆหาซื้อได้ที่นี่หมด แต่มันแพง และอย่างปลาทูแช่แข็งที่นี่เหม็นมาก)

ผ้าอนามัย ยาแก้แพ้ ยาประจำตัว วิตามินซี ยาแก้อักเสบ(ต้องหาหมอ) ยาแก้ไอ
ยาอมแก้เจ็บคอ ยาเม็ดสารสกัดขมิ้นชัน ยาเม็ดฟ้าทะลายโจร

นึกได้เท่านี้ค่ะ จริงๆของจุกจิกมีเยอะ


ตอบกลับความเห็นที่ 40