*_* มุมมอง การสร้างเสริมทัศนคติที่ดีงาม ประโยชน์ที่เกิดจากการไปวัดพุทธไทยในต่างแดน

เรื่อง มุมมอง การสร้างเสริมทัศนคติที่ดีงาม ประโยชน์ที่เกิดจากการไปวัดพุทธไทยในต่างแดน



ความนำ
จากการได้อ่านหัวข้อกระทู้หลายๆประเด็น เกี่ยวกับ วิถีชีวิตไทยในต่างแดน ที่เพื่อนๆสมาชิกนำมาแบ่งปัน แลกเปลี่ยนทัศนคติกัน จากหลายมุม หลายกลุ่ม วัย อาชีพ ฯ

พบบ่อยมาก สำหรับคำถามความเหงา คิดถึงครอบครัว อยากพบเพื่อน และอยากพูดภาษาไทย

การให้กำลังใจกันในเว็บบอร์ด และแนะนำกิจกรรมต่างๆ สำหรับเป็นทางเลือกนั้น เป็นสิ่งที่ดีมาก ขอชื่นชมจากใจจริงนะคะ

เช่นการเข้ากลุ่มชมรมตามสถานภาพของตนในพื้นที่นั้น เล่นดนตรี กีฬา ไปห้องสมุด พิพิธภัณฑ์ หรือนัดพบท่องเที่ยว เป็นต้น


ทั้งนี้ การไม่เบนเข็มไปจากทิศทางที่ตั้งไว้ คือแกนหลักที่จะช่วยให้ดำเนินชีวิตได้อย่างมีความสุขขึ้น

อย่างไรก็ดี การได้เข้าไปสู่ชุมชน และสัมผัสบรรยากาศ รับและให้กำลังใจจากภายนอก ควรจะปฏิบัติจริง ให้เห็นผล


กระทู้นี้ ขอนำเสนอมุมมองเล็กๆ เกี่ยวกับการสร้างทัศนคติที่ดีงาม
โดยเน้น ประโยชน์ใหญ่น้อยและกุศลานิสงส์
ที่เกิดจากการไปวัดพุทธไทยในต่างแดน
ซึ่งได้นำภาพกุลบุตร ลูกหลานคนไทย ที่กำลังเบนเข็มเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์ เรียนรู้การปฏิบัติบูชาสืบทอดพระพุทธศาสนา


ประกอบรวมประเด็นที่มีผู้ถามเกี่ยวกับการออกบวชในต่างแดน
โดยมีพื้นฐานข้อมูลจากภาพชีวิตจริงที่พบในศาสนสถานท้องถิ่น


.................................................

เริ่ม...

มิ้วว ....แมวสีขาวผสมเทา จมูกและขาปนสีดำตัวหนึ่ง ร้องทักผู้คนที่เดินผ่านหนาประตูวัดพุทธไทยในท้องถิ่น


ถ้าใครขับรถมา ก็จะสังเกตเห็น แมวหน้าตาน่ารักตัวนี้ นั่งเฝ้าทางเข้าอยู่เป็นนิจ บริเวณปากทาง จัดเป็นสวนหย่อมมีต้นกุหลาบหลากสีปลูกอยู่



ลานจอดรถ แน่นขนัดในช่วงวันจัดงานเทศกาลประเพณีไทยและพิธีทางศาสนาต่างๆ จนต้องเพิ่มที่จอดในพื้นที่อาคารด้านข้างของวัดติดเนินเขา


เรามาสะกดรอยตามแมวกันค่ะ มิ้ววๆๆๆ

หลังจากแมวน้อยได้แสดงท่าทางเป็นเจ้าของพื้นที่ด้วยความมั่นใจแล้ว
ก็กระโดดแผล็ว นำไปยังบันไดด้านหน้าโบสถ์ที่สง่างามอลังการ

ประกอบด้วยช่อฟ้า ใบระกา หางหงส์ และอักษรย่อ พระนาม ส.ก.
เนื่องด้วยสมเด็จ พระนางเจ้า พระบรมราชินี นาถ สิ ริ กิ ติ์ ได้เคยเสด็จฯ
มาทรงวางศิลาฤกษ์ในปี ค.ศ. ๑๙๙๓ ให้ประชาชนเข้าเฝ้าฯนับพันๆคน


เดินขึ้นบันไดไปที่หน้าประตูโบสถ์ (ก่อนเข้า ถอดรองเท้า วางไว้ที่ชั้นวาง ริมระเบียงให้เป็นระเบียบ)


อาคารโบสถ์ เป็นห้องโถงกว้าง ปูพรมนุ่มอย่างดี จุคนได้ราว ๓๕๐ คน
พระพุทธประธานทองคำขนาดใหญ่ ประดิษฐานกลางห้อง ผนังด้านใน

มีนามว่า พระพุทธวโรสุโขทัยไตรโลกนาถ ในปางมารวิชัย
สองข้างคือรูปปั้นพระโมคคัลลาน์และพระสารีบุตร พระอรหันต์ในสมัยพุทธกาล หิ้งพระประดับพานพุ่ม แจกันดอกไม้สดเช่นดอกทานตะวัน กล้วยไม้ ดวงเทียนแท่งสีขาวลดหลั่นบนชั้นบูชา และกระถางธูปบูชา


มองเหนือขึ้นไป บนผนังมีภาพวาดจิตรกรรม จากบางตอนในไตรภูมิพระร่วงที่ให้ข้อคิด และภาพศิลปะประสูติ ตรัสรู้ ปรินิพพาน

ซึ่งเป็นการส่งเสริมศิลปะของไทย ควบคู่กับแนวคิดของศาสนาพุทธ บานประตูและการตกแต่ง มีรูปปั้นเทวดา หน้าต่างไม้สลักลายไทยวิจิตร



กิจกรรมที่ผู้เขียนได้ไปร่วมในพิธี ล่าสุด เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เป็นงานถวายสังฆทานแบบจัดเต็ม ของครอบครัวคนไทยที่ได้ย้ายมาสร้างรากฐาน ตั้งแต่ ก่อนพ.ศ. ๒๕๑๕ หรือประมาณนานกว่า ๔๐ ปีก่อนหน้านี้

โดยผู้นำครอบครัว มีลูกหลานในเมืองต่างๆ เช่นซาคราเมนโต้
มอนเทอเร่ย์ เมนโลพาร์ค ได้พาเยาวชนมารวมกัน

รำลึกถึงบุคคลอันเป็นที่รัก ที่ได้จากไปนานถึง ๑๗ ปี โดยกิจกรรมนี้ได้ทำมาทุกปี มีสวนกุหลาบปลูกลงนามไว้หลังวัด


พิธีกรรม ได้เริ่มโดยผู้นำกล่าวสวดบทบูชาพระรัตนตรัย บทอาราธนาศีล และพระภิกษุสวดพระคาถาจนครบวาระ

ผู้เข้าร่วมพิธี นั่งพนมมือ รำลึกถึงพระคุณขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ ครบ

ต่อจากนั้นเป็นการสวดถวายสังฆทาน แด่พระภิกษุผู้เจริญด้วยธรรม ผู้กล่าวนำทั้งภาษาบาลีและบทแปลภาษาไทย


จากนั้นได้มีการถวายผ้าบังสุกุล การถวายพานเครื่องสักการะและสิ่งอันจำเป็นสำหรับพระภิกษุเพื่อการดำรงสังขาร

ต่อด้วยการถวายปัจจัยช่อดอกไม้ จำนวนพระสงฆ์ ๙ รูป และตามด้วยการกรวดน้ำ ขณะที่พระได้สวดเป็นพระคาถายถาวารี


สิ้นสุดพิธีส่วนแรกนี้ ด้วยการรับน้ำมนตร์ รับพร และข้อคิด จากหลวงพ่อเจ้าอาวาส ให้ส่งเสริมกุลบุตรกุลธิดามาเข้าวัดต่อไป

(เพราะเหตุใดท่านจึงกล่าวเช่นนี้ เพราะวัดเติบโตมาได้ เพราะการประสานพลังจากคนทุกคน นำเยาวชนมาเรียนรู้ให้ปฏิบัติสืบทอด

เช่นเดียวกับที่เราทั้งหลาย ผู้ได้ปฏิญาณ เป็นพุทธมามกะนั้น ได้กระทำกันมาหลายชั่วอายุคนแล้ว)


ในการบำเพ็ญบุญ วัดได้เปิดให้สาธุชนมาร่วมในพิธีได้อย่างเสรี
หากเป็นผู้มีจิตศรัทธาในพระศาสนา จะได้อานิสงส์ร่วมกัน

กลุ่มคนที่มาจากที่ต่างๆ คนละทิศทาง บางคณะมาจากซาน โฮเซ่
และจากเมืองซาน ฟรานซิสโก ต่างก็ถวายเครื่องสังฆทานของตน


หลังจากนั้น เป็นการถวายภัตตาหารเพล ซึ่งได้รวมน้ำใจของประชาชน ทั้งที่มาด้วยเหตุวันสำคัญ หรือมาโดยเหตุอยากมาทำบุญก็ดี


ในกรณีที่เกิดขึ้นนี้ มีมิตรของผู้เขียนอีกชุดหนึ่ง ได้เดินทางย้ายรัฐมาประกอบธุรกิจในเขตเมืองแถบนี้ โดยนำบุตรมาศึกษาต่อในท้องถิ่น
ประกอบพิธีกรรมเป็นสิริมงคล หรือเนื่องในวันครบรอบวันเกิด สิ่งเหล่านี้ นำญาติโยมมาร่วมถวายอาหาร ตักข้าวใส่จานให้พระภิกษุ

อันประกอบด้วยข้าวน้ำ อาหารหวานคาว ผลไม้ต่างๆ ซึ่งจัดทำมาอย่างบรรจงตั้งใจ มีผู้จัดเตรียมโต๊ะ ให้สะดวกแก่พระสงฆ์


หลังจากพระฉันเพลแล้ว ได้ให้พร และสวดอีกครั้งหนึ่ง เป็นอันเสร็จพิธีกรรมที่อยู่ในความรับผิดชอบของทางคณะพระภิกษุธรรมทูต



เวลาผ่านไป ร่วมสองชั่วโมง กับกิจกรรมนี้ เป็นสิ่งที่คนไปวัดคุ้นเคยและหากปฏิบัติยาวนาน ก็จะช่วยกันดำเนินการให้พิธีเรียบร้อยด้วยดี


ในภาคประชาชน เราได้ประโยชน์อย่างไร นอกเหนือจากความสุขทางใจ ที่ได้ไปอยู่ในพิธีกรรม อันมีคาถาศักดิ์สิทธิ์ตามความเชื่อของชาวพุทธ



ประโยชน์นั้น หาใช่เกิดจากการได้ร้องขอสิ่งต่างๆจากองค์พระ หรือจากการไหว้วิงวอนไปตามความเชื่อก็หามิได้

แต่ประโยชน์อย่างสำคัญ คือการได้พิจารณาถึงความเป็นจริงทางโลก มองให้เห็นว่าสิ่งที่ปฏิบัติอยู่นั้น เกิดผลอย่างไร ต่อเรา และผู้รอบล้อม


มองไปรอบๆตน มองไปนอกหน้าต่าง เห็นแมวน้อย วิ่งอยู่ที่สนามด้านข้างวัด แล้วแอบพรางตนได้ท้องรถ เราได้รู้ว่าที่นี่มีความเมตตาต่อสัตว์

แมวได้รับการดูแล มีอาหาร และอยู่ในอาณาบริเวณที่กว้างขวาง มีเงาไม้แผ่ร่มครึ้ม มีสวนตกแต่งไว้อย่างเหมาะสม เป็นที่พักผ่อนจิตใจผู้ผ่านมาเยือน



มองไปที่เด็กเล็กๆ เด็กชายคนหนึ่ง นั่งวาดรูปอยู่ในห้องสมุด เขาได้รับประโยชน์จากการมาเรียนภาษาและดนตรีไทย ที่วัดจัดครูอาสามาสอน

มองไปที่สวนดอกไม้ เด็กหญิงเล็กๆสองคน เดินเล่น นั่งขอบสระน้ำ รับประทานอาหารที่ซื้อมาจากซุ้มของวัด ประโยชน์คือได้พบเพื่อนวัยเดียวกัน

มองไปที่ใบหน้าเหี่ยวย่นของคนชรา ที่มาวัด เพราะเป็นที่พึ่งทางใจ

ได้เห็นว่า มีชาวต่างชาติอายุประมาณ ๗๕ ปีนั่งอยู่ พร้อมกับเครื่องมือสื่อสารสมัยใหม่

คุณปู่ฝรั่งท่านนี้ ได้เปิดให้ชมภาพคุณแม่ของท่าน อายุ ๑๐๒ ปีที่ยังอยู่ และรวมครอบครัวไว้ถึง ๕ เจเนเรชั่น เด็กๆมีทั้งไทยล้วนและไทยครึ่งอเมริกัน

เป็นที่น่าสนใจ คุณปู่ได้เล่าอย่างสรุปว่าใครอยู่ในรูป มีถิ่นฐานที่ไหนบ้าง และทำงานอะไรกัน มีลูกหลานทั้งสิ้น ร่วม ๔๐ คนได้ในเครือสกุลนั้น



มองที่ผู้สูงอายุที่เดินอยู่ด้านนอก หลายๆท่านอยู่กันมาคนละไม่ต่ำกว่า ๓๐ ปีขึ้นไป บางท่านไม่รู้จักกัน ต่างถือไม้เท้า หรือเดินมาอย่างช้าๆ


แมวเดินเคล้าเคลียไปที่ขาของผู้อาวุโสหลายคน ในกรณีที่มีใครพอจะแนะนำกันได้ วัดเปิดโอกาสให้มีการสนทนากันอย่างกว้างขวาง

ที่น่าประหลาดใจ ผู้อาวุโสอาชีพแพทย์ท่านหนึ่ง ซึ่งเกษียณแล้ว ได้พบสิ่งที่สมหวังมาแล้วทั้งชีวิต มาวัดเพื่ออุปถัมภ์งานบุญกุศลในวัดอย่างต่อเนื่อง

ได้พบกับผู้อาวุโสที่นำลูกหลานมาทำบุญ เริ่มทักทายกันเพียงนิดหน่อย
ก็พบว่า น้องชายของท่านหลังนี้ เป็นแพทย์ร่วมรุ่นกับท่านแรก


ต่อจากนั้น ทั้งสองท่านก็มีความสุขมาก ที่ได้รู้จักกัน ได้พบกันในวัน เวลา สถานที่อันนำมาซึ่งกัลยาณมิตร มีการสนทนาที่เบิกบานแลกเปลี่ยนกัน



ส่วนวัยกลางคน คนหนึ่งที่ย้ายมาทำธุรกิจใหม่ ได้รับการแนะนำให้รู้จักกับเพื่อนของเพื่อน และครอบครัว ซึ่งเผอิญอาศัยในเมืองใกล้ๆกัน

และต่างมีกลุ่มเครือข่าย ที่จะส่งเสริมกันได้ ทั้งในแง่การทำงาน และการดำเนินชีวิตของลูกหลาน จึงได้เริ่มรู้จักกัน ตัวเป็นๆในความเป็นจริง ที่นี่


อีกมุมหนึ่งของวัด กลุ่มเด็กหนุ่มสาว กำลังมาร่วมประชุมในกิจกรรมของเยาวชนอาสาสมัคร ที่ทางหน่วยราชการจะนำไปหาประสบการณ์ในประเทศไทย


วัยนักศึกษา ๑๘ ถึง ๓๐ ปี เด็กไทยอเมริกัน กลับไปเรียนรู้ความเป็นมาของบรรพบุรุษ ได้เห็นแนวทางที่พวกเขาจะรักษามรดกวัฒนธรรมของชาติไว้ในต่างประเทศ



ประโยชน์ที่ได้จากการไปร่วมบำเพ็ญบุญ มีมากกว่าภาพที่เห็นจากมุมมองที่เล่ามานี้ อย่างเหนือคณานับ และเป็นประโยชน์ที่มีการแบ่งปัน จากการปฏิบัติธรรม


การปฏิบัติธรรม ข้อแรก คือ การมุ่งมา เพื่อเป็นผู้ให้ เป็นผู้มอบน้ำใจ ให้ความช่วยเหลือ ต่อผู้อื่นๆ แม้ในเรื่องที่เราอาจไม่ต้องการ แต่คนอื่นต้องการสิ่งนั้นอยู่

ข้อสอง คือการรู้สติ เมื่ออยู่ในพิธีกรรมเก็บกิริยาสำรวมสงบ เมื่อสนทนาให้เกียรติผู้อยู่ในที่ประชุมชน มีการทักทายปราศรัยกล่าวลา ตามมารยาทไทยและสากล


ต่อจากนั้น การวางตน การเข้าสังคม การแสวงหามิตรจิตมิตรใจ ย่อมต่อยอดไปตามที่ระบบสังคมเอื้ออำนวยไว้ให้



รอยยิ้ม ความเข้าใจ การแสดงน้ำใจ เกิดได้ในความเป็นจริง ผู้ให้และผู้รับ ย่อมได้ประโยชน์อย่างอนกอนันต์ ในความเป็นจริง

ไม่ใช่เพียงตัวอักษร ที่สะกดพิมพ์เพียงไม่กี่บรรทัด แต่ความอบอุ่นจะเกิดขึ้นได้ ก็ต่อเมื่อมีการก้าวออกไปเผชิญกับปรากฏการณ์ในชีวิต



เมื่อสองสัปดาห์ก่อน หน่วยงานราชการได้ใช้สถานที่ของวัด เพื่อจัดบริการเรื่องหนังสือเดินทางให้ความสะดวกกับประชาชนในท้องที่นี้

ได้พบมาด้วยตาตนเอง ว่า มีคนไทยที่มีปัญหาเอกสารอยู่จำนวนหนึ่ง ซึ่งหากใครให้ความอนุเคราะห์ข้อมูลได้ ก็จะสะดวกแก่เจ้าหน้าที่ในการทำงานเร็วขึ้น และในสัปดาห์หน้า คณะกงสุลสัญจรจะมาที่อีกวัดในท้องที่นี้
ยังมีพี่น้องไทยอีกมากนัก อยากจะเดินทางกลับไปหาคนที่รัก รอคอยอยู่


นอกจากประโยชน์ที่เป็นของแมว ของคน ของผู้ใหญ่ ของเด็ก ของวัด ของพระ ของชุมชนไทยโดยรวมแล้ว



ยังมีประโยชน์ที่เกิดจากการได้สัมผัสกับบรรยากาศในวัด คือ
การสร้างเสริมทัศนคติในทางบวก ให้กับชีวิต

เพราะวัดชุมชน ที่สร้างมานานหลายทศวรรษ ผ่านการรองรับเหตุการณ์ทางสังคมมาหลายฉาก ทั้งที่ดีมากถึงมากสุด และยามคับขัน


เป็นความจริง ว่าคนมาอยู่อาศัยไม่ได้มีมาเท่ากัน มีพื้นฐานมาไม่เหมือนกัน

แต่คนที่อยู่รอด คือ ผู้รู้จักคิด แม้จะไม่มีความรู้ในทุกด้าน ก็มีความคิด หากคิดดี ย่อมมีแนวทางให้ไปดีได้

ขึ้นกับว่าจะประพฤติปฏิบัติอย่างไร ที่จะทำให้ความคิดดีนั้น ประยุกต์เป็นประโยชน์แก่ตน โดยไม่เดือดร้อนแก่ผู้อื่นๆ


มุมมองของคนไปวัด ในต่างประเทศ ไม่ใช่เพียงแค่ไปกราบไหว้บูชาเพราะศรัทธาในผ้ากาสาวพัสตร์เท่านั้น

หากแต่ในระดับลึกลงไปกว่านั้น คือการสร้างสรรค์สิ่งหนึ่งสิ่งใดตามที่มีความพร้อม หรือมีความชำนาญในกิจนั้นๆ


มองไปรอบๆ วัดสะอาด มีระเบียบ มีต้นไม้ดอกไม้ สนามหญ้าเขียวขจี
แปลว่า มีคนดูแล มีพนักงานทำความสะอาด มีหลายๆคนที่บำรุงพื้นที่
ใครช่วยงานในวัด มีทั้งฝ่ายสงฆ์ ฝ่ายอาสา ฝ่ายวางแผน ฝ่ายแรงกาย หน้าที่ประจำ หน้าที่หมุนเวียน ตามสมควร

อาสาสมัครคือผู้ที่เราต่างชื่นชม และพวกเขาเหล่านี้ ก็คือผู้อยู่เบื้องหลัง ความสำเร็จของชุมชนไทย ที่มีวัดเป็นศูนย์กลางของการรวมพลังศรัทธา


ใครล้างจานที่กองพะเนิน ใครเก็บขยะ ใครกวาดใบไม้ ใครขัดห้องน้ำ
ใครยกโต๊ะ ใครปลูกต้นไม้ พระทำด้วย คนช่วยก็มากอยู่

กำลังพลเหล่านี้มาจากหน่วยไหน ที่แน่ๆคือไม่มีใครบังคับ เป็นสิ่งที่หล่อหลอมจากจิตศรัทธาล้วนๆ



วัดที่เติบโตกับเยาวชนไทยหลายรุ่น มีครูและผู้ปกครองหลายร้อยชีวิต ที่ทุ่มเทเพื่อลูกหลานของตน จนมีผลงานเป็นที่ประจักษ์

บ้างก็หยุดไปตามวาระ หรือหลายคนก็ยังมีแรงใจมาช่วยเหลือ ตามโอกาสที่ทำได้ ต่างเป็นสุขใจ ที่เห็นเด็กๆประสบความสมหวังในชีวิต

ซึ่งพ่อแม่ปู่ย่าตายาย พี่ป้าน้าอา ญาติมิตร คนรู้จัก ไม่มีใครปฏิเสธว่า เราต่างอยู่เพื่อบำรุงสายโลหิตเผ่าพันธุ์ ให้เป็นความภูมิใจในสากลประเทศได้


ขออนุโมทนาบุญให้กับผู้ให้ทุกๆท่านค่ะ


จากมุมมองของผู้เขียน ไม่ใช่จะมาเชิญชวนให้ท่านผู้อ่านกระดานสาธารณะ พากันไปทำบุญที่วัดใดวัดหนึ่งเป็นพิเศษ ไม่ใช่หาทุนเข้าวัด

แต่ต้องการให้เห็นว่า ชีวิตไทยในต่างแดน ต้องการความเป็นหนึ่งเดียวของทุกฝ่าย ที่จะแบ่งปันให้กันอย่างแท้จริง และรวมพลังสามัคคีให้ต่อเนื่อง

ท่านจะพ้นจากความเหงา ความรู้สึกหลุดโลก หรือไร้คนสนทนาด้วย
เพียงช่วยยื่นมือออกไปทำสิ่งหนึ่งสิ่งใดให้กับการพัฒนาชุมชนดูบ้าง


อย่างน้อยที่สุด ถ้าทำอะไรไม่ได้ หรือไม่ประสงค์เกี่ยวข้องเลยจริงๆ
ก็นิ่งมองพิจารณาดูว่า คนที่ไปวัดในมุมมองที่เล่ามานี้มีความสุขใจหรือไม่

เทียบกับการที่จะไม่เกี่ยวข้อง ไม่ได้เห็นรอยยิ้มของเด็กเล็กๆหลายๆคน ที่เข้าไปหัดพนมมือไหว้พระ หรือวิ่งกระโดดโลดเต้น ตั้งแต่ไร้เดียงสาจนเป็นหนุ่มสาว


หากท่านไปวัดเป็นนิจ ในเวลาเช้าหรือเย็นด้วย ยิ่งจะได้เห็นกิจกรรมของการทำวัตร นั่งสมาธิ การฝึกลมหายใจเข้าออก และการหัดปฏิบัติจิตเพื่อปล่อยวาง


สิ่งที่เกิดขึ้นแล้วให้ผลอันดีงามแก่หมู่คณะ ล้วนเป็นแนวทางที่สร้างให้สังคมไทยต่างแดน อยู่ร่วมกันอย่างปราศจากรอยแค้นรอยขุ่นเคืองเรื่องร้ายจบสิ้นไป

ความเจริญทางจิตวิญญาณ การให้อภัยกัน ไม่ได้สร้างได้ในหนึ่งนาที และต้องทำในหมู่ชนที่มีเจตนารมณ์แน่วแน่ไปในทิศทางเดียวกันอย่างไม่หยุดยั้ง


บางครั้ง ความผิดพลาดหรือความไม่ประสานทางทฤษฎี ก็มีผลต่อการปฏิบัติ แต่ในที่สุด หลักธรรมก็จะนำมาซึ่งการแก้ไขปัญหาด้วยปัญญาได้ในที่สุด ให้มีการยอมรับกันมากขึ้น หรืออย่างน้อย ก็ไม่ใช้วิธีที่เคยผิดซ้ำ



อนึ่ง ในการบวช หรือนำกุลบุตรเข้ามาศึกษาธรรมะ บวชเณร หรือบวชพระในต่างประเทศ


สิ่งที่จะต้องมีแน่นอน คือศรัทธาอันยิ่งใหญ่ เป็นนามธรรม และมีบุคลากรสำคัญ คือ พระอุปัชฌาย์ พระระดับเจ้าอาวาส ผู้มีตำแหน่งและพรรษาสูง

ท่านจะเป็นผู้พิจารณาคุณลักษณะของกุลบุตร ที่จะมาร่วมสืบต่อพระศาสนาในผ้ากาสาวพัสตร์


กล่าวคือ ให้เป็นไปตามบทพระวินัย ทราบที่มาที่ไปของผู้ต้องการบวช ได้เห็นอุปนิสัยใจคอก่อนระยะหนึ่ง ให้แน่ว่าเป็นผุ้ประพฤติดีประพฤติชอบ ไม่ต้องโทษไม่มีคดีความ เป็นผู้สมบูรณ์ทางกายภาพ และสุขภาพจิตดี
ตลอดจนเป็นผู้ได้เตรียมการในการขานนาค ทราบขั้นตอนพิธีกรรม
รู้ภาษาที่จะใช้สวดและท่องบทพระคาถามาแม่นยำ มีการศึกษามาตรฐาน


เรื่องโยมอุปัฏฐาก หรือผู้อุปการะบำรุงพระไทยในต่างแดนนั้น หากเป็นวัดที่สร้างมานานมั่นคงและเป็นวัดเพื่อกิจของชุมชนไทย

เมื่อตรวจสอบเจตนาในการบวช ว่าผู้นั้นๆมีความประสงค์ในทางชอบ จะได้นำธรรมไปใช้ในการดำเนินชีวิต อย่างแท้จริง



จะมีผู้อนุโมทนาบุญ และเข้ามาร่วมให้ความส่งเสริม พระท่านกล่าวว่า
ผ้าเหลืองผืนหนึ่ง จักเรียกโยมมาได้มหาศาล เพื่อทำนุบำรุงพระธรรมไว้

กรณีนี้จึงไม่มีการปิดกั้นกุลบุตร แม้จะไม่มีโยมใกล้ชิดมาดูแลแต่แรกก็ตามที เชื่อว่าจะมีตามมาหลังการอุปสมบทแล้วแน่นอน



แต่เรื่องที่สำคัญกว่าผู้อุปการะพระ คือผู้ที่จะขอบวช ต้องแสดงให้เห็นว่า มาอยู่ร่วมในชุมชนแล้ว เป็นผู้ที่มีจิตใฝ่ดีอย่างแท้จริง

ยิ่งเข้าบวชในวัดที่มีพร้อมรับรองได้ทุกด้าน จำเป็นที่ต้องมีความเสียสละ พร้อมจะอดทน และถือศีลถึง ๒๒๗ ประการนั้นแล ตลอดพรรษาที่บวช



การบวชในต่างแดน ไม่มีเกิดขึ้น ในลักษณะของบุคคลที่หนีคดีต้องโทษจากที่อื่น แล้วมาอาศัยวัดบวชหลบภัย ทำไม่ได้ (ที่นี่)
เพราะสายตาของคณะสงฆ์และสายตาของชุมชน จะตัดสินตั้งแต่ก่อนที่จะได้มีงานบวชเกิดขึ้น ก่อนที่จะมีผู้ยอกรวันทนาท่าน



การกระทำใดๆอันมิชอบด้วยเหตุผล ผิดศีลธรรมจรรยานั้น มิใช่เรื่องที่จะเกิดได้โดยง่ายในความจริง เพราะมีคณะสมัชชาสงฆ์ พระเถรานุเถระเป็นหลักดูแล

ถ้ามีคดี จะมีการพิจารณาโทษในหมู่สงฆ์ ไปตามขั้นตอน ข้อนี้จึงทำให้สบายใจได้ว่า วัดในเครือสมัชชา ได้คัดสรรพระธรรมทูตส่วนใหญ่ล้วนเป็นพระที่ดี



ท้ายนี้ ขอให้การเผยแพร่ในสิ่งที่มีข้อเท็จจริง และมุมมองจากภาพที่ชัดเจน ว่าการไปร่วมกิจกรรมที่วัดจะช่วยให้ชาวพุทธได้ปฏิบัติธรรม ในชีวิตจริง

ในต่างแดนนี้ สัมฤทธิผล ให้ผู้ที่จากบ้านมาอย่างว้าเหว่ นักศึกษาที่อ่อนแรง ท้อ หรือล้า หรือใครก็ตามที่เคยคิดว่าวัดนั้นเป็นแหล่งรวมของการนินทาว่าร้ายกัน แม้กระทั่งพบเห็นสิ่งอันไม่ชอบใจที่ไม่อาจยอมรับใดๆ


พึงได้ทดลอง เดินเข้าไปในวัดใหม่อีกครั้ง โดยไม่หวังจะเป็นผู้รับ โดยเริ่มต้นเป็นผู้ให้ ทั้งรอยยิ้ม และความเป็นมิตรจริงใจ จะกลับมาหาท่านอย่างไม่ขาดสาย


แม้นว่า เผอิญไปแล้วไม่พบใครเลย อย่างที่ใจคิดว่าจะพบ อย่างน้อย หนังสือธรรมะที่พระวางไว้ สำหรับผู้สนใจ หรือซีดีของพระอาจารย์ต่างๆก็ดี

ย่อมเป็นสิ่งที่จะช่วยให้หลุดพ้นจากความเหงาหรือความบอบช้ำทางอารมณ์ได้ ยังมีผู้คนมากมายที่โชคร้ายกว่าแต่เขาก็ต่อสู้และอยู่รอดได้ ด้วยสติที่มั่นคง


การเข้าถึงธรรมนั้น มิได้หมายความว่า จะต้องเป็นผู้ไม่มีกิเลสเลย
แต่ปุถุชน อาจลดมวลกิเลส อย่างหนาให้เบาบางลงมาได้ หากให้โอกาสตนเองฝึกฝนทีละน้อย จนเป็นผู้มีอารมณ์มั่นคงได้ในที่สุด สิ่งสำคัญคือเข้าใจตนเองให้ถ่องแท้ และขัดเกลาให้รู้สึกว่ามีความสบายเกิดขึ้นในใจ พลังที่จะสร้างประโยชน์จะมาเอง


ยิ่งได้เห็นแนวทาง จากคนที่ทำหน้าที่ของตนอย่างไม่หยุดหย่อน
มองให้เห็นว่า เพราะอะไร คนที่อยู่อย่างมีความสุข จึงยิ้มได้
ให้ความสุขแก่คนรอบข้างเสมอ เพราะมีพระ มีธรรมะอยู่ในใจ ใช่แล้วค่ะ


แม้เพียงน้อยนิด กิจอันใดเป็นประโยชน์ก็พึงกระทำ เพราะเราไม่อาจล่วงรู้ได้ว่า วันเวลาแห่งการสิ้นสุดลมหายใจนั้นคือเมื่อใด จะประมาทนั้นมิควร


แม้ได้เห็นแสงสว่างสักเพียงน้อย และหรือพอจะเกิดดวงปัญญาอันนำทางให้พ้นจากความทุกข์ใดๆได้ ก็นับว่าได้รับอานิสงส์จากการบำเพ็ญบุญอย่างแท้จริง



เพราะอะไร ผู้เขียนจึงอยากชักชวน ให้เพื่อนๆ ได้มองดููทุกทางทุกคนที่อยู่ในสังคมไทย จากในวัดก่อน แล้วค่อยนำข้อคิดไปในที่อื่นๆ


เพราะที่ตรงนั้น เป็นจุดรวมของหลากชีวิตที่เดินทางมาตามความฝันของตน ในร้อยคน มีมากกว่าหกสิบคน ที่เคยรู้สึกอย่างเดียวกับท่าน คือเหงา คิดถึงบ้าน อยากจะเลิกล้ม เบื่อความลำบาก อยากมีคนเอาใจใส่ดูแล ฯ

ในหกสิบคนที่เหงา มีมากกว่าสามสิบคนที่ม้วนเสื่อกลับบ้านไป โดยหมดสิ้นพลังใจ เพียงเพราะไม่มีคนพูดภาษาไทยด้วย หรือไม่มีใครให้กำลังใจในการต่อสู้


และในจำนวนที่เหลือ อาจมีเพียงไม่ถึงยี่สิบคน ที่ก้าวออกไปในทุกมิติของฉากชีวิต ปรับตัวเข้ากับวัฒนธรรมของนานาชาติ จนกลมกลืนกับสภาพสังคมได้


ในจำนวนไม่ถึงยี่สิบคนที่อยู่ได้ มีไม่ถึงสิบคน ที่โชคดีตลอดเวลา เพราะชะตากรรมต่างวาระกัน ใครไม่เคยทุกข์ ไม่เคยสูญเสีย ไม่เคยเจ็บไข้ ไม่เคยผิดหวัง



ทุกคนต้องทำหน้าที่ และรับผิดชอบต่อบทบาทของตน เป็นลูก เป็นพ่อแม่ เป็นตา ปู่ เป็นหลาน เป็นคนสอน เป็นคนเรียน
เป็นคนสั่ง เป็นคนเดินตาม และในบางครั้ง เป็นคนที่ซับน้ำตาให้กับคนอื่นได้ ทั้งที่ตนเองมีรอยแผลอยู่ในใจอย่างยับเยิน


สิ่งที่ทำให้คนไทยในต่างแดน อยู่มาได้ จนมีชุมชนขนาดย่อม นับแสนๆคน มีธงไทยปักพลิ้วในวัดได้ เพราะไม่ทิ้งหน้าที่ของตน ผิดพลาดก็แก้ไข

ไม่ละเลิกอุดมการณ์ ไม่เบนเข็มไปจากเป้าหมายของชีวิต และคิดในสิ่งที่เป็นคุณ มองโอกาสที่เปลี่ยนแปลงไปตามปัจจัยรอบล้อม

ประเทศนี้ เราท่านเปลี่ยนเมืองได้ เปลี่ยนอาชีพ เปลี่ยนสถาบัน เปลี่ยนครอบครัว เปลี่ยนชื่อ เปลี่ยนเส้นทางเดิน เปลี่ยนกลุ่มสังคม ฯ

แต่อย่าเปลี่ยนศรัทธาในการทำดี อย่ายกเลิกความรักและความเมตตาที่เคยมีให้ต่อสังคม



เพราะไม่ทำสิ่งที่ดีแล้วไม่มีความสุข ไม่แบ่งปันแล้วรู้สึกว่าไม่ใช่เรา

แสดงว่าต้องเปลี่ยนให้กลับมานำเสนอสิ่งที่ดีจากหัวใจ และจากความคิดใหม่ๆ หวังว่าเพื่อนๆที่มีธรรมะเป็นหลักเที่ยงตรง จะได้ประโยชน์ข้อคิดจากเรื่องนี้ค่ะ



ป.ล. ก่อนกลับจากวัด อย่าลืมทักทายน้องแมว มิ้วๆ สายตาคมกริบ ที่แอบหลบอำพรางอยู่ในมุมหนึ่งของสวนดอกไม้ด้วยนะคะ


เพราะว่า สายตาคู่นั้น เห็นทุกอย่าง รู้จักคนมากมายหลายกระแส แต่จะวิ่งเข้ามา หาคนที่มีเมตตาจิตต่อเขาเท่านั้น



เพื่อนๆท่านใดต้องการจะแลกเปลี่ยนทัศนคติในทางส่งเสริมให้สังคมไทยต่างแดนอบอุ่น มองโลกในแง่บวก อะไรที่เราอยากได้จากใคร เราต้องให้
ในสิ่งนั้น และธำรงรักษาความตั้งใจอันนั้นเอาไว้ไม่ให้โยกไหวตามกระแส



หรือประสบการณ์ไปร่วมงานบุญในวัดต่างประเทศ ที่รู้สึกได้อานิสงส์ ขอกรุณาแบ่งปันความรู้สึกที่ดีต่อกัน (ทั้งภาพและอักษร)


เรื่องราวเกี่ยวกับวัดไทยในหลายๆที่ อาจมีมุมมองที่ชวนให้ไม่ชอบใจอยู่บ้าง แต่คิดในทางบวก วัดยังเป็นศูนย์กลางของการช่วยเหลือเกื้อกูลกันด้วยน้ำใจ



ข้อคิด อยากให้น้องๆที่มาอยู่ใหม่ๆ มองไกลไปข้างหน้า ให้เห็นว่า
ชีวิตคนจะมีการเปลี่ยนแปลงเสมอ คนที่เรายังมองไม่เห็นความดีใดๆวันนี้

สักวันเขาอาจจะเป็นคนที่ให้ความช่วยเหลือแก่เรา ทางอ้อมก็ดี ทางตรงก็ดี วันข้างหน้า คนที่เราเย้ยหยันไว้ อาจเป็นคนที่ชนะใจ ให้เราต้องยกมือไหว้ได้ และหรือในทางกลับกัน สิ่งที่จะเกิดขึ้น ซึ่งไม่มีใครรู้ก่อน เราต้องให้โอกาสเสมอ กับคนทุกคน รวมทั้งตนเอง เพื่อนที่ไม่เข้าใจกันในวันที่เราต้องการให้ช่วย

ต่อไปข้างหน้า ชะตาหรือสถานการณ์อาจนำเขากลับมา เป็นผู้ให้
เป็นผู้มีอุปการะคุณ ในด้านใดก็ได้ ตราบใดที่ทุกคนยังเวียนว่ายอยู่ในสังสารวัฏเดียวกันค่ะ ชีวิตไม่ได้หยุดตรงที่เดิม ทั้งเราทั้งเขาต้องเติบโต

วันที่มองกันอย่างไม่เป็นมิตร จะผ่านไป เมื่อมีโอกาสได้ทำสิ่งเกิ้อหนุนกัน
ตามหลักธรรมแล้ว การเปลี่ยนแปลงในทางที่ดี คือสิ่งที่ถูกต้องกว่าการ
ยืดเยื้อความเข้าใจผิดหรือการปิดกั้นโอกาสทั้งของตนและของคนอื่นด้วย

อย่าเพิ่งสรุปว่าใครจะเป็นคนอย่างไร ตราบใดที่ลมหายใจของเขายังอยู่


โอกาสที่จะสร้างกรรมดีนั้นมีอยู่เสมอ มีศูนย์กลางที่รอคอยผู้มีน้ำใจ ทั้งศูนย์กลางในไซเบอร์ และหลักแหล่งสถานที่สร้างบุญในความเป็นจริง

ในสมัยนี้ เราต้องปรับใช้เทคนิค ให้ประสานกับแนวคิดของเรา และปรับวิธีคิดของเรา ให้เข้ากับความพร้อมของหมู่คณะ ในแต่ละที่ทาง

เราจะไม่สามารถมองเห็นความต้องการของตนเองได้ หากไม่เริ่มจากการมองดูความต้องการของคนอื่่นๆ และคิดหาทางทำให้เกิดผลดีร่วมกันให้สำเร็จ


การเข้าร่วมกิจกรรมของวัด เป็นไปในทางชอบ ตามหลักธรรมอยู่แล้ว สำหรับคนที่แสวงหามิตรภาพหรือดินแดนที่มีคนพูดภาษาไทย มาจากเมืองไทย แม้จะอยู่ไกลในพื้นที่ห่างสังคม หาโอกาสปีละครั้งก็ยังดี

แต่ไม่ได้หมายความว่า การไม่ไปวัด จะหมดโอกาสในการทำดี เรื่องนี้ต้องขอหมายเหตุเอาไว้ สำหรับการเขียนต้าน เพราะพื้นที่นี้ บางทีก็เป็นเช่นนั้น อยากขอให้มองในแง่ที่ส่งเสริมกัน ด้วยมุทิตจิตเป็นกุศลทาน


บุคคลใดๆที่มีวุฒิภาวะ มีความคิดอ่านของตนเอง มีทางเลือกของตนเองเหมาะสมแล้ว ย่อมถือได้ว่า มีธรรมะในใจประกอบอยู่ รู้คิด รู้สร้าง
และรู้ชั่วดี

ใครมีศีลมีสัตย์ มีคุณธรรมจากการอบรมสั่งสอนมา ไม่ว่าในศาสนาใด ย่อมถือได้ว่า เป็นผู้พร้อมจะสร้างความเจริญให้กับตน ให้กับครอบครัวและสังคมได้


อย่างไรก็ตาม สำหรับอีกส่วนหนึ่ง ที่มีจิตศรัทธาในการร่วมสร้างกุศลกับวัด ทั้งในแง่ปัจจัย ในแง่การมีมุทิตาจิต การแสดงความเมตตาต่อผู้ที่ยังเป็นทุกข์ ก็ขอได้กรุณาร่วมอนุโมทนา กับกุลบุตรมากมายที่หันหน้ามาสู่ผ้ากาสาวพัสตร์ ในสัปดาห์หน้า จะมีการอุปสมบทใหม่ ในช่วงเข้าพรรษา ญาติโยมยินดีปรีดากันถ้วนหน้า ใครที่ว่างอยู่หรือสนใจร่วมอนุโมทนาได้

แม้แต่สตรี ก็สามารถขอบวชชีพราหมณ์ ศึกษาปฏิบัติธรรมในชุดขาวได้เช่นกัน โดยไม่ต้องโกนศีรษะ ฝ่ายธรรมทายาทหรือพิธีเป็นพุทธมามกะ เปิดรับเสมอ ชุมชนไทย หมายรวมถึงผู้ชราอาวุโส หนุ่มสาว เยาวชนทุกรุ่น
ทั้งลูกหลานไทยที่นี่ ทั้งนักศึกษาที่มาใหม่ หรือคนเดินทางท่องเที่ยว

ท่านเป็นหน่วยสำคัญเสมอ ในแต่ละกลุ่มสังคม ถ้าพลังจากชุมชนหนึ่ง
สามารถผลักดันอีกชุมชนให้รับแรงบันดาลใจได้ ลูกโซ่แห่งบุญจะต่อกัน

คิดเช่นนี้ อย่าทำลายสายใยแห่งความศรัทธาในการประกอบกุศลใดๆ


ขอสรุปในบรรทัดนี้ว่า ถ้าลงมือกระทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งด้วยความเพียร
ทำแล้วดีต่อหมู่คณะใหญ่ ทำแล้วยังผลให้เกิดความสุขขึ้นได้
การกระทำนั้นจะเป็นอานิสงส์ ด้วยสัมมาสติ สัมมาชีพ สัมมาวาจา นำทาง

แม้ไม่ส่งผลในทันที ไม่ได้รับประโยชน์แก่ผู้สร้างในเวลาที่รอคอย ก็จะมีผลเป็นบุญสะสมไว้ สำหรับได้พบสิ่งที่ดี คลาดแคล้วภัยต่างๆในวาระต่อๆไปแน่แท้



ตามคำสอนของพระพุทธศาสดา ปฏิบัติธรรมเท่านั้น บุคคลจะพ้นจากความทุกข์ และบังเกิดความเข้าใจ ว่าชีวิตเกิดมาเพื่อไขว่คว้า หรือเพื่อสละ ให้หลุดพ้น

ทำในทางที่ทำได้ ให้ในสิ่งที่มีให้ ด้วยใจบริสุทธิ์ สักวันหนึ่ง
เจตนาที่มั่นคงนั้น ย่อมนำให้พบกับความสุขที่แท้จริง ในวาระที่สุขใจนั้น สิ่งใดก็ทำลายไม่ได้ค่ะ เพราะความดีอยู่ในใจของผู้ตั้งใจประกอบกรรมดี

การเดินทางที่ยิ่งใหญ่ที่สุด คือการก้าวไปข้างหน้าด้วยสติระลึกบาปบุญ
เข้าถึงสิ่งที่ยิ่งใหญ่ใดๆ ก็ไม่เท่าเข้าถึงรสธรรม ซึ่งจะชำระกิเลสให้จางลง
มีคนมากมายที่วายชีพไป โดยไม่เคยค้นพบว่าความสุขอยู่ที่ใจตนเท่านั้น

หลายๆครั้งที่พนมมืออธิษฐานขอพรจากพระ มีเสียงดังขึ้นในใจหรือยัง
ว่า ไม่มีใครทำให้คำขอพรนั้นสมหวังได้เลย จนกว่าจะเป็นผู้ปฏิบัติบำเพ็ญ



ขอบคุณพื้นที่ของการเผยแพร่ข้อมูล และแบ่งปันประสบการณ์อีกครั้งค่ะ

ความคิดเห็นที่ 1
ยาวจังอ่านไม่จบครับ จะลองเข้ามาอ่านใหม่แล้วกัน


ตอบกลับความเห็นที่ 1
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 2
ยาวมาก อ่านไม่จบ เหมือนกัน


ตอบกลับความเห็นที่ 2
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 3
" ๏ เที่ยวซุ้มวัด"

(แสดงวิถีชีวิต วัฒนธรรม ตลาดอาหารไทยในวัดต่างแดน)



"๑.๏ อยู่แดนไกล ไร้ญาติชิด สนิทเสน่ห์
ใช่แรมรอน ร้างร่อนเร่ ระเหระหน
ไทยสร้างวัด จัดโบสถ์ไว้ ให้ชุมชน
รวมมิตรพล คนทำดี สืบศรีอาริย์ ฯ


๒.๏ ร้าน-ตลาดไทย ได้เยี่ยมยล หลายหนแห่ง
'ฟู้ดคอร์ท' แหล่ง แสดงวัฒนธรรม ค้ำรากฐาน
ถาดสำรับ จับจัดวาง อย่างโอฬาร
ซุ้มอาหาร งานผลิตผล ของคนไทย ฯ


๓.๏ ของขายดี ทวีเหรียญแลก แตกลงถุง
กับข้าวปรุง หุงจรุงถนอม หอมหาไหน
แกงไก่เผ็ด รสเด็ดเจริด เลิศเหลือใจ
ข้าวมันไก่ แตงใส่กล่อง แบ่งช่องโชว์ ฯ


๔.๏ ขนมจีนนำ น้ำพริก-น้ำยา ผักสารพัด
หมี่เส้นผัด จัดเครื่องหนัก อร่อยอักโข
กรุ่นไก่ย่าง ว่างเยื้องเห็น เย็นตาโฟ
ไข่พะโล้ โผล่เต้าหู้ หมูติดมัน ฯ


๕.๏ ครกส้มตำ โขกทำอยู่ คู่หมูย่าง
ลูกชิ้นปิ้ง ขึ้นหิ้งข้าง หอมสร้างสรรค์
ไส้กรอกล่อ ห่อหมกปลา มาประชัน
ขายแข่งกัน เสียงสนั่นทุ้ม ซุ้มวัดไทย ฯ


๖. ๏ สุกสาคู ไส้หมูร้อน ก้อนกลมนิ่ม
ใครใคร่ลิ้ม ชิมเชยรส เกินอดไหว
ข้าวเหนียวหอม ล้อมหน้ากุ้ง สะดุ้งใจ
ชาวชาติฝรั่ง สั่งกล่องใหญ่ ไทยยิ้มงาม ฯ


๗.๏ กล้วยชิ้นหั่น มันแป้งทอด กรอบยอดเยี่ยม
หลายถาดวาง ข้างโต๊ะเตรียม ใครเทียมสยาม
ท่องเที่ยวชม ภิรมย์ตลาด ชาติลือนาม
ยกครัวคาม ข้ามเขตฟ้า ต่างหล้าธรณี ฯ



๘.๏ พริกขี้หนู ตรูก้านโก้ ต้นโตเต่ง
เม็ดป่องเป่ง เบ่งบานขาย หลายหลากสี
เขียว-เหลือง-แดง เด่นแรงเรื้อ ฤทธิ์เหลือดี
มะเขือพวง เม็ดพ่วงพี มีวางเรียง ฯ


๙.๏ ซุ้มวัดไทย ไกรสากล คนรู้จัก
ผัดไทยจาน อาหารหลัก ใครจักเถียง
ควันรมย่าง สร้างบรรยากาศ ตลาดวัดเวียง
ฝรั่งมองเมียง เพียงกรุ่นกลิ่น แจ่มจินตนา ฯ


๑๐.๏ นิ้วโป้งยก คู่ครกค้ำ ส้มตำอีสาน
ซุ้มขนมหวาน แสนปรานโปรด โหวตกะทิหน้า
หยิบฝอยทอง ลองเม็ดขนุน ถั่วคุ้นตา
เหนียวสังขยา หน้าฟักทอง ของคู่กัน ฯ



๑๑.๏ เชิญชวนชิม อิ่มอร่อยล้ำ ดื่มน้ำชื้น
ชาเย็นรื่น หวานชื่นใจ หยาดใยฝัน
คุ้มแสนคุ้ม ซุ้มวัดเจริญ เกินจำนรรจ์
ฤาสรวงสวรรค์ สรรมาฝาก จากฟ้าไกล ฯ



๑๒.๏ ไทยเลื่องชื่อ คือตำนาน อาหารทิพย์
ธรรมกะพริบ ระยิบแรง แสงเทียนไข
ประทีปเรือง ประเทืองสมอง ทั่วท้องไทย
เที่ยวซุ้มวัด เสมือนลัดใจ ใกล้บ้านเอย ๚ะ๛"


Idealist USA

นอกเหนือจากมุมมองประโยชน์ทางเจริญปัญญา และจิตใจ

ซุ้มอาหารในวัด ยังหล่อเลี้ยงบำรุงกาย ของผู้เข้าวัดให้เจริญโภชนาด้วยค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 3
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 4
Comment #1 + #2

เนื้อหากระทู้ เกี่ยวกับประโยชน์ของวัดและการไปวัด

ต้องยาววววววววว เป็นปกติธรรมดาอยู่แล้วค่ะ


ถ้าจะแยกส่วนคงได้สัก ๑๐ คคห. ค่อยๆอ่านนะคะ ขอบคุณค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 4