อยากฟังประสบการณ์ที่ถูกบรรดาสัตว์ต่างๆ บุกรุกบ้านค่ะ

อยากให้แชร์ประสบการณ์กันหน่อยค่ะ ว่าใครประสพพบเจอบรรดาสัตว์ต่างๆ ให้เราเห็นจะๆ ไม่ว่าตัวเล็ก ตัวใหญ่ ประเภทไหนก็ได้ เล่าสู่กันฟังสนุกๆค่ะ ของลูกชาย อยู่ Seattle ระหว่างเดินทางไป โรงเรียน ไปทางลัดกัน เป็นป่าสน ครึ้ม เจอกวาง ตัวใหญ่ๆ เดินเล็มหญ้า และสัตว์อื่นๆ บ่อยครั้งค่ะ รู้สึกได้ถึงความอุดมสมบูรณ์ของป่าเลยนะคะ

ความคิดเห็นที่ 1
กวางบุกหอค่ะ สมัยเรียนโรงเรียนประจำที่อเมริกา โรงเรียนอยุ่ดิดกับ national park Mt. Diablo เป็นคืนวันเสาร์ น้องกวางมาเดินเล่น ใครลืมปิดประตูหอหญิงไม่รู้ น้องกวางวิ่งเข้าไปในหอ พอดีเดินเข้าไป เจอ น้องกวางกำลังงง หาทางออก ร้องไม่ออกเหมือนกัน กวางเห็นเรา สงสัยกลัวคน เลยวิ่งออกไปประตูเก่า เดขะบุญค่ะ

ที่อเมริกา เป็นธรรมชาติจริง ๆ ค่ะ เพื่อน เคยขับรถชนกวาง ตอนจะมาโรงเรียน เห็นว่า โดนปรับด้วยค่ะ แต่เพื่อนคนนั้น เสียใจมาก ๆ เลยค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 1
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 2
แต่ก่อนมีกวางมาบ่อย ตอนนี้มีแต่กระต่าย ที่บุกมาจริงที่บ้านคือคุณหนูเล็กๆสองตัว เข้าไปดูวิธีดักหนูในยูทูป เรียบร้อย เอาไปปล่อยหลัง Strayer U ตอนดึก


ตอบกลับความเห็นที่ 2
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 3
ตอนที่ไป internship ที่อเมริการัฐนิวแฮมเชียร์ ระหว่างทางที่เดินไปทำงานตอนเช้าเคยเจอหมีดำแอบอยู่หลังต้นไม้ค่ะ มีคนเคยบอกว่าถ้าเจอหมีให้อยู่นิ่งๆ แลเวค่อยๆถอยหลังช้าๆ ประมาณสองนาทีมันก็วิ่งหนีเราไปเองค่ะ แต่ที่เจอบ่อยก็จะเป็นสุนัขจิ้งจอกตัวเล็กๆ ส่วน moose เคยเจอแค่ครั้งเดียวค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 3
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 4
บ้านเรามีบริเวณที่เป็นป่าอยู่หลังบ้าน
มีกวางมากินหญ้าประจำ มีกระต่าย แรคคูน จิ้งจอกสีแดงๆ
ไม่นับพวกนก กระรอก ชิพมั้งค์
ไม่ได้มาบุกอะไร ต่างคนต่างอยู่มากกว่า
ที่มาบุกจริงๆคือ แรคคูนครอบครัวนึง
มากินข้าวโพดที่ปลูกไว้ แทบหมดทั้งแปลงเลย


ตอบกลับความเห็นที่ 4
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 5
ถ้าตามถนน ทางเดิน เคยเจอกวางเยอะมากๆ , turkeyเจอครั้งเดียว
ในสนามที่บ้าน เคยเจอ สุนัขจิ้งจอก มุดรั้วมานอนผึ่งแดด เจอกระต่ายมากินหญ้า, chipmuck วิ่งไปวิ่งมา เคยวางอาหารปลาไว้นอกบ้าน เจอ raccoon แอบมากิน
ในบ้านเลย เจอหนูนาบุก มันขุดดินจากนอกบ้านมุดเข้ามาเลย วิ่งจี๊ดจ๊าด นึกว่ามีตัวเดียว ที่ไหนได้เจอตั้งสี่ตัว


ตอบกลับความเห็นที่ 5
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 6
แรคคูนตัวใหญ่มากินอาหารหมาประตูหน้าบ้านค่ะ ทัั้งเราและแรคคูนตกใจมากพอๆกันเลยค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 6
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 7



ขอร่วมตอบกระทู้ แบ่งปัน เรื่องราวชีวิตจริงของสัตว์ปีกตัวจิ๋วๆ
ที่พวกเราชาวแคลิฟอร์เนีย ได้พบเห็นบินโฉบไปมาอยู่เป็นประจำในสวน

โดยบินอย่างเร็ว กระพือปีกถี่ๆ หยุดนิ่งเพื่อใช้ปากแหลมยาว
ดูดน้ำหวานสีแดงใสในขวดพลาสติกที่แขวนห้อยกับกิ่งไม้

บรรยายเพียงเท่านี้ เราต่างก็ร้องอ๋อ หมายถึงนกฮัมมิ่งเบิร์ดนั่นเอง

ขอเล่าอย่างสนุกๆ เก็บเอาสาระเท่าที่พึงมีก็แล้วกันนะคะ



บ่ายวันอาทิตย์ ขณะที่พ่อบ้านหากิจกรรมกลางแจ้งทำสวน
เตรียมวางกระถางดอกทิวลิปซึ่งเริ่มบานรับฤดูใบไม้ผลิ ปีก่อนนี้เอง
ผู้เขียนออกไปยืนชมนกชมไม้ด้วย

เพระฟ้ากระจ่าง จึงนำกล้องดิจิทอลออกไปด้วย
โดยไม่ได้คาดหมายว่าจะมีอะไรให้ได้บันทึก

ขณะที่กำลังยืนสบายๆ ก็มีบางสิ่งบินอย่างรวดเร็ว
ตัดแสงตะวันมาเกาะที่ต้นไม้ไร้ใบต้นหนึ่ง
มองย้อนแสงขึ้นไป ก็เห็นนกฮัมมิ่งเบิร์ด เจ้านกจิ๋ว ลำตัวเล็กเพียง ๗ เซนติเมตร เกาะกิ่งไม้อยู่

ด้วยความสนใจ จึงเฝ้ามอง ว่าเมื่อไร นกน้อยตัวนี้
จะบินลงมาดูดน้ำหวาน เผื่อจะได้มีภาพน่ารักๆ

แต่นกจิ๋ว กลับบินสูงขึ้นไปบนฟ้า แล้วพุ่งหายไปในดงต้นไม้ใหญ่
สักพักหนึ่งก็บินกลับมา ที่ต้นโลควอท (ซึ่งพ่อบ้านแขวนขวดน้ำหวานเติมใหม่ไว้ให้เสมอ) นกจิ๋ว เลือกคาคบไม้ชั้นบนสุด เข้าไปเกาะนิ่งอยู่ประมาณ ๕ นาที แล้วก็บินออกไปในกลุ่มต้นไม้ใหญ่เหมือนเดิม

หลังจากพิจารณาแล้ว พ่อบ้านก็ฟันธงว่า เขาบินไปหาวัสดุมาทำรัง
โดยเลือกยอดโลควอทเป็นทำเล

ด้วยความตื่นเต้น ผู้เขียนก็ลืมโลกไปเลย
ตัดสินใจสังเกตพฤติกรรมของนกฮัมมิ่งเบิร์ด ซึ่งในที่นี้
ขอตั้งชื่อให้ว่า ทวิชิตา (เป็นเพศเมียค่ะ)




ทวิชิตา เป็นนกฮัมมิงเบิร์ด Hummingbird นกขนาดเล็ก ซึ่งได้ชื่อว่า
บินเร็วกว่าไอพ่น เพราะนกชนิดนี้มีความสามารถบินกระพือปีก ๘๐ ครั้ง
ต่อวินาที บินหยุดนิ่งกับที่และถอยหลังได้ด้วย ค่ะ

บ่ายวันนี้ นกจิ๋วตัวนี้ ได้ให้ความรู้แก่ผู้เขียนมากมาย

ทวิชิตา บินกลับไปกลับมา ระหว่างรวงรังเล็กๆของเธอบนคาคบ
ต้นโลควอท กับต้นไม้ใหญ่ต้นอื่นๆในบริเวณสวนหลังบ้านของเรา
เพื่อทำหน้าที่สำคัญบางอย่างของนก โดยอาศัยร่มเงาของใบไม้ที่ใหญ่กว่าร่างของเธอ เป็นเสมือนชายคา เธอมีสิ่งสำคัญอยู่ในรังของเธออย่างแน่นอน

เรามาแอบดูกันค่ะ ว่าทวิชิตา ทำอะไรบ้าง จากประมวลภาพถ่าย ที่ซูมเข้าไปในระยะพอเหมาะ เพราะเธอกำลังใช้ชีวิตส่วนตัว เราจึงต้องให้ความเกรงใจ และไม่ทำให้เธอตกใจบินหนีเราไป


จากการเฝ้าสังเกตพฤติกรรมของนกฮัมมิ่งเบิร์ดรายนี้
พบว่า เธอบินหาวัสดุมาที่รัง และเกาะนิ่งอยู่เป็นเวลาครั้งละประมาณ ๑๐ นาที ถึง ๒๐ นาที ในแต่ละครั้ง

ความสนใจของผู้เขียนมีปริมาณมากขึ้น อยากจะทราบว่า
ในรังของเธอมีอะไรเอ่ย จึงได้นำบันได มาตั้งใกล้ๆต้นโลควอท
ระหว่างที่ทวิชิตา บินไปหาวัสดุจากต้นไม้อื่น

พอเธอบินกลับมา และพบว่าผู้เขียน ถือกล้องคอยอยู่
เพื่อบันทึกภาพ เธอหยุดมองหน้า ประมาณ ๒ วินาที กระพือปีกถี่ยิบ
แล้วก็เข้าพำนักที่รังของเธอ ยินยอมให้ถ่ายภาพได้
ในระยะค่อนข้างใกล้ทีเดียว

ต้นโลควอทต้นนี้ มีอายุประมาณ ๖ ปีขึ้นไป จึง มีความสูงมาก
คือสูงกว่าหลังคาบ้านมากกว่า ๑๐ ฟุต


ทวิชิตา นอนนิ่งอยู่กับรังของเธอ เพื่อปกป้องบางอย่างในรัง
เราจึงแน่ใจว่า เธอเป็นแม่นกมากกไข่ค่ะ


ขอกล่าวถึงต้นโลควอท Loquat จะออกผลประมาณเดือนพฤษภาคม เป็นผลไม้ที่มีอีกชื่อว่า Japanese Medlar ใบเป็นยาสมุนไพรชนิดหนึ่ง ข้อมูลจากฐานข้อมูลงานวิจัย ระบุว่า ชื่อสามัญ : โลควัท, ปีแป้ (loquat)
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Eriobotrya japonica Lindl.
ตระกูล : Rosaceae ใบโลควอท นำมาเป็นส่วนผสมต้มน้ำ มีสารช่วยแก้ไอได้ ผลนั้นเมื่อสุกสีเหลืองแก่ มีประโยชน์ในการช่วยย่อยสลายกากอาหาร นับว่าเป็นผลไม้ที่มีคุณค่าทางโภชนาการชนิดหนึ่ง


การที่ทวิชิตา รู้จักเลือกทำเลสร้างรวงรัง เพราะเป็นนกที่เฉลียวฉลาด
แม้ว่าจะมีขนาดจิ๋วมากก็ตาม ต้นไม้นี้มีร่มเงาครึ้ม ผลดกหวาน กิ่งใบคลุม
ให้นกได้อาศัยอย่างปลอดภัย

ปกตินกฮัมมิ่งเบิร์ด จะไม่หยุดสนทนาวิสาสะกับคน แต่จะบินมาดูดน้ำหวานเป็นเวลา แล้วกลับไปอย่างรวดเร็ว สำหรับกรณีนี้ ทวิชิตา ทำหน้าที่พิเศษ รักษาความปลอดภัยให้กับไข่ในรังของเธอ

แต่เนื่องจากยอดไม้สูงมาก เรียกว่าถ้าเป็นคอนโด เธอก็เลือกชั้นสูงสุด ห้องระดับวีไอพีเลยทีเดียว

หากไม่สังเกตจะไม่มีทางรู้เลยว่า ตรงนั้นมีรังของนกน้อยชนิดนี้อยู่
เพื่อกกไข่อย่างแสนรักแสนหวง

อาจเป็นได้ว่า ทวิชิตาไม่ไว้ใจผู้เขียน ว่าจะทำอะไรกับรังของเธอ ถึงขนาดพาดพันไดไปรอบันทึกภาพ เธอจึงตัดสินใจ หยุดบิน และเกาะนิ่งตรงรัง เป็นเวลานานกว่าครึ่งค่อนชั่วโมง จนเราได้ภาพมาพอใจแล้ว
ว่าได้ภาพชัดเจน ในรูปลักษณ์ตลอดจนบรรยากาศของที่พักอาศัยของฮัมมิ่งเบิร์ด จึงได้ถอนบันไดกลับ และถอยออกมา เฝ้ามองดูทวิชิตากกไข่ใบน้อยๆ อยู่ห่างๆ ไม่ไปรบกวน หรือเข้าใกล้รังให้เธอเครียดอีก


เนื่องจากฮัมมิ่งเบิร์ด เป็นนกขนาดจิ๋วที่บินถอยหลังได้ และมีปากแหลมยาว เป็นลักษณะเด่นมาก สีสันของปีก เมื่อส่องกระทบประกายแดด สะท้อนสีเขียวเข้มมีเหลือบ และแดงหรือชมพูในบางส่วน

ทำให้เราได้ยิ้มกันเสมอ เมื่อเธอบินมาเยี่ยม แม้เป็นเวลาไม่กี่วินาที
ไม่ว่าจะมาที่โลควัท หรือต้นส้มก็ดี


ข่าวใหญ่เกี่ยวกับโครงการนาโน่ ฮัมมิ่งเบิร์ดของสหรัฐฯ ประกาศแล้วว่า
มีการลงทุนกว่าสี่ล้านดอลล่าร์จากงบของฝ่ายวิจัยเพนตากอน กระทรวงกลาโหม กองทัพบก เพื่อสร้างเทคโนโลยี่อากาศยานลำจิ๋ว

มีต้นแบบจากนกชนิดนี้ สำหรับการสอดแนม สืบจารกรรมความลับทางการทหาร ระดับโลกเลยทีเดียว

เรียกได้ว่า ประสิทธิภาพในด้านความเร็วของการบิน ขนาดเล็ก
ทำให้เกิดยานลับไร้คนขับไปแอบเก็บข้อมูลจากแหล่งเป้าหมายได้
โดยไม่มีใครทันรู้ตัว ทั้งหมดนี้ต้องยกความดีความชอบในนกฮัมมิ่งเบิร์ด



ทวิชิตากกไข่ อยู่กับธรรมชาติ ในสวนหลังบ้าน คนไทยในแคลิฟอร์เนียเหนือนำมาฝาก เธอเป็นต้นแบบของยานอากาศไร้คนขับเพื่อล้วงความลับทางการทหาร จึงสมควรให้เกียรติปรบมือให้

ตัวเธอเอง ก็โดนสอดแนมซึ่งหน้า แต่หาได้สะท้านไม่ ทั้งที่ขนาดของเธอเล็กกว่าฝ่ามือคนเกือบเท่าหนึ่ง

แปลว่า นกฮัมมิ่งเบิร์ดเป็นสัตว์ปีกมหัศจรรย์ของอเมริกา นกสายลับพิเศษชนิดนี้ พบเห็นในท้องถิ่นอเมริกาเหนือ บางฝูงบินไปแถบหนาวมาก

ขอบคุณธรรมชาติที่ให้กำเนิดสิ่งมีชีวิตต่างๆนานาพันธุ์ ให้มาอยู่ร่วมกันโดยสันติสุข เพื่อพึ่งพาอาศัยกัน คนรักนก ย่อมมีความสุขที่ได้ชื่นชมกับความเป็นกันเองที่ทวิชิตามอบให้กับเรา

๑ ปีผ่านมา.. ทวิชิตา ได้เติบโต พร้อมกับน้องชายหน้าตาดี
ทั้งคู่ได้พากันมาเกาะที่ต้นไม้ดอกไม้ในสวน ตลอดซัมเมอร์ที่ผ่านมานี้

เราทำน้ำหวาน (น้ำผสมน้ำตาล) ในภาชนะรูปดอกไม้ ประดับไว้กับ
ดอกเยอเรเนี่ยมสีชมพูสด ดอกฟูเชียสีแดงรายล้อม กับดอกเจ้าสาวสีขาว

นกฮัมมิ่งเบิร์ด บินมาดูดน้ำทุกเช้าเย็น บางทีบ่ายๆร้อนจัดก็บินมาวนเวียน
กระโดดโลดเต้น ร้องเพลง อยู่บนกิ่งไม้ที่ยอดสูงสุด ถ้าเราพูดกับเขาดีๆ

เขาจะหันมาตอบ เหมือนเด็กๆ คุยกันทุกเย็นกับพ่อบ้าน อย่างสนิทรักใคร่
เหมือนเขาจะบอกว่า ที่นี่เป็นโลกที่ร่มเย็น เขารักมนุษย์ที่มีเมตตาอารีค่ะ

เราไม่รู้ว่าเขาพูดอะไร ฟังได้ประมาณแจ็กๆแก็กๆ บางทีก็ดังมากเหมือนจะ
เล่าอะไรที่เขาบินไปพบ สื่อสารเหมือนเพื่อนๆคุยกันในบอร์ดเนี่ยแหละค่ะ

แต่ท่าทาง นกน้อยและน้องของเขา จะไม้ได้คิดว่าเราเป็นเจ้าของบ้าน
แล้วนกมาอาศัย เขาคิดว่าพวกเขาเป็นเจ้าของสวนและต้นไม้ ที่เรายืมอยู่
เพราะฉะนั้น จะเรียกว่านกบินมาทำรัง บุกรุกพื้นที่ของเรานั้นคงไม่ได้แล้ว

เรากลายเป็นผู้อาศัยไปเสียเอง เรียนรู้และศึกษานิสัยของเขาละเอียดขึ้น
สิ่งที่เขาทำไม่ได้ คือเอาข้อมูลมาออกออนไลน์ แต่เขาให้เราเยอะกว่านี้
คือบินไปในท้องฟ้า แต่กลับมาหาเราตลอดเวลา ทั้งที่จะไปเมื่อไรก็ได้

ไม่มีกรงขัง ไม่มีสัญญาผูกมัด ไม่มีดีลอะไรเลย นอกจากมีน้ำหวานให้ดื่ม

หวังว่าจะได้อะไรนิดหน่อย จากการแบ่งปันนี้นะคะ ขอบคุณที่ตั้งกระทู้นี้ค่ะ


ความรักความเมตตาอาทร เป็นสิ่งจรรโลงโลก









ตอบกลับความเห็นที่ 7
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 8
เราโดนกระรอกบุกรุกบ้านค่ะ
ฟังดูเรื่องเล็กๆแต่แบบ หลอนมาก
มันตัวใหญ่และวิ่งไวมาก ไปทุกห้อง ยกเว้นห้องนอน ฉี่ใส่ทุกอย่าง สกปรกมาก อึใส่กระจกหน้าต่าง ทำลายข้าวของในห้องครัว ขนาดลิ้นชักครัว (ที่วางช้อนส้อม) มันยังเปิดได้ ช้อน ส้อมนี่ มันเหยียบ + ฉี่เรียบ แล้วกลางคืน มันไปซ่อนหลังตู้เย็น

มันออกไม่ได้ มันอยู่ในบ้านเรา 3 วันอะ เราถึงต้องกลั้นใจเปิดประตูล่อให้มันออกไป ช่วงที่มันอยู่ บางทีเราต้องออกไปข้างนอก เพราะเราอยู่ไม่ได้ กลัวมาก (มันก็กลัวเรานะ)

สาเหตุเพราะเราลืม เปิดประตูทิ้งไว้ แป๊บนึง มันเลยเข้ามาได้
จากนั้นเข็ด ไม่ลืมปิดประตูทุกครั้งเด็ดขาด เหตุเกิดเมื่อปีที่แล้ว ยังหลอนมาจนทุกวันนี้


ตอบกลับความเห็นที่ 8
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 9
ถ้าเล่าเรื่องนี้อาจจะนอกเรื่องเพราะเกิดที่เมืองไทย แต่ก็อยากเล่าอยู่ดี ขอเล่าหน่อยนะคะ

เราเป็นคนกลัวความมืด กลัวผี ไม่ชอบอยู่คนเดียว
แต่เคยได้ยินไหมว่าไม่ชอบอย่างไรมักจะได้อย่างนั้น
ช่วงนั้นเราขายของชำอยู่ในบ้านหลังใหญ่คนเดียว พ่อแม่อยู่อีกบ้านนึง
ที่บ้านมีตั่งขนาดใหญ่ตั้งอยู่ในห้องนั่งเล่น
วันนั้นบรรยากาศมืดครึ้ม ไฟในบ้านก็สลัวๆ
เราเดินไปหลังบ้านแล้วกลับมานั่งเล่นบนตั่งนั้นแหละ

ทันใดนั้นเราก็ใดยินเสียงหายใจแรงๆมาออกมาจากใต้ตั่ง
แฮ่กๆๆๆๆๆๆ ติดๆกัน
เราสะดุ้งสุดตัว ใจเต้นรัวยิ่งกว่ากลองรบ หันรีหันขวาง
เฮ้ย เสียงไร(วะ)........
ใจนึกไปถึงผีสางแต่ก็ปลอบตัวเองว่าอย่าบ้ามันไม่มีจริง
(แต่ทุกวันนี้ทำไมยังกลัวผีกลัวความมืดอยู่ก็ไม่รู้)

ครั้นจะลงจากตั่งก็ไม่กล้า
กลัวอะไรมากัดขาเรา เราเลยยืนขึ้นบนตั่ง ยังไงก็อยู่ที่นี่ไม่ไหว
คิดว่าเอาวะ กระโดดไปไกลๆอะไรที่อยู่ใต้ตั่งคงจู่โจมเราไม่ทัน
เราตั้งท่ามั่นแล้วก้าวกระโดดไปให้ห่างจากตั่งมากที่สุด
พอมาอยู่บนพื้นแล้วก้มลงหัวลงมองไปทางตั่งโดยไว

สิ่งที่เห็นคือมีหมาขี้เรื้อนนอนหอบแฮ่กอยู่ใต้ตั่ง
เราร้องว๊ายตกใจหมา หมามันก็ตกใจเรา
แต่ผ่านไปไม่กี่วิเราก็โล่งแล้วหล่ะ เฮ้อ นึกว่าเสียงอะไรซะอีก
จากนั้นก็ไปเอาไม้กวาดดันตัวมันออกมาจากใต้ตั่ง
แล้วไล่ออกจากบ้านไป
(ตอนหลังเราก็นึกออกว่า ก่อนหน้านี้แถวบ้านเขาจุดประทัดกัน
หมาตัวนี้คงตกใจเลยวิ่งเข้ามาแอบในบ้านเรานั่นเอง
โธ่ ทำเอาขวัญหายหมด)


ตอบกลับความเห็นที่ 9
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 10
ที่สวนหลังบ้านมีนกกระทุง(มาขโมยกินปลาที่เลี้ยงไว้ในบ่อเล็กๆ)
มีไก่งวง(เตอรกี)
กระต่าย
ตัวอีเกิ้ล

อารายอีกน๊า... แค่นี้แหล่ะ ^__^

หมีแพนด้า เอ๊ย ล่อเล่น !


ตอบกลับความเห็นที่ 10
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 11
กวาง elk นี่เรื่องธรรมดาเลย แต่มันก็ไม่บุกเข้าบ้านนะ แถวบ้านมีป่าอยู่ใกล้ๆ จะมีสกังค์ที่รู้คือได้กลิ่น กับ coyote อันนี้ก็ชอบมาเป็นเสียง

แต่ที่บุกมาบ้านเป็นมดค่ะ เจอทั้งรังเลย พูดแล้วขนลุก


ตอบกลับความเห็นที่ 11
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 12
สวัสดี ทุกๆ คนในบอร์ดค่ะ

มาแชร์ประสบการณ์ค่ะ ปรกติแถวๆ บ้านเรามีกวางเยอะมากค่ะ จึงมีเทศกาลล่ากวางปีละครั้งค่ะ

เราเจอกวางบ่อยๆ เวลาไปเดินออกกำลังกายบริเวณที่มีป่าไม้เยอะๆ หรือไม่ก็เวลาขับรถเดินทางค่ะ
ช่วงเช้า-เย็น ขับรถต้องระวังกวางเดินข้ามถนนค่ะ

ปีที่แล้วโชคดีมากๆ กวางมาทานอาหารนกหลังบ้านเราค่ะ เราเลยแอบถ่ายรูปกวางจากในบ้านเราค่ะ
กวางมา 2 ตัวค่ะ อีกตัวเดินห่างออกไป เลยแอบถ่ายได้มา 1 ตัวค่ะ (มีภาพประกอบค่ะ)

ที่หลังบ้านเรา มีกระบอกใส่อาหารสำหรับเลี้ยงนกค่ะ นกจะมาทานอาหารช่วงกลางวัน ช่วงเย็นๆ นกก็
จะบินกลับรังค่ะ นกที่มาทานส่วนมากจะเป็นนก Sparrow bird ค่ะ นอกจากนี้จะมีกวาง และกระรอก
ชอบมาแย่งอาหารนกด้วยค่ะ (ชมภาพประกอบด้านล่างค่ะ)

ตอบกลับความเห็นที่ 12
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 13
ภาพกวางที่เราแอบถ่ายที่หลังบ้านค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 13
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 14
Sparrow bird (ถ่ายเมื่อ 2 วัน ที่ผ่านมานี้เองค่ะ)


ตอบกลับความเห็นที่ 14
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 15
ภาพกระต่าย และกระรอก ที่มาแย่งอาหารนกทานค่ะ

(ถ่ายเมื่อ 2 วัน ที่ผ่านมา พร้อมกับภาพนก นั่นหละค่ะ)


ตอบกลับความเห็นที่ 15
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 16
ภาพกระต่ายตัวเดียวค่ะ ดูชัดเจนมากขึ้นค่ะ

ตอบกลับความเห็นที่ 16
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 17
ภาพกระรอกตัวเดียวค่ะ ดูชัดเจนมากขึ้นนะค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 17
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 18
มาทีเป็นฝูงเลยค่ะ Sparrow bird


ตอบกลับความเห็นที่ 18
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 19
กระต่ายมาที่สนามหลังบ้านทุกวันค่ะ
แล้วก็เคยเจองูหางกระดิ่งที่หน้าโรงจอดรถครั้งหนึ่งค่ะ เมื่อปีที่แล้วนี่เอง คิดแล้วยังสยองไม่หาย เพราะดิฉันกับลูกสาวเดินข้ามมันอ่ะค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 19
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 20
ภาพกระรอกของคุณ Khun-Data
กระรอกตัวใหญ่เหมือนกระต่ายเลยค่ะ สงสัยขโมยอาหารนกกินจนอ้วน 55555
ต่างจากกรุงเทพเลย กระรอกตัวผอมนิดเดียว


ตอบกลับความเห็นที่ 20
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 21
ขอบคุณทุกๆกระทู้นะคะ น่าสนุก ตื่นตา ตื่นใจดีจัง บางกระทู้ก็น่าเห็นใจกับการกระทำของเจ้าสัตว์ตัวน้อยบางตัว หรือบางทีก็น่ากลัวกับสัตว์ตัวใหญ่ๆ บางชนิด อ่านเพลินมากค่ะ สำหรับคุณ Idealist USA อิจฉามาก อ่านแล้วนั่งยิ้มอยู่คนเดียว ที่ได้เพื่อนน่ารักอย่าง สองพี่น้อง ทวิชิตา :)


ตอบกลับความเห็นที่ 21
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 22
ยุงคัฟฟฟฟฟ ของผมมันคือยุง

อยู่ที่นิวยอร์ก มันชอบแอบเข้ามาดูดเลือดผมกินเสมอๆ เวลาอยู่ในบ้านต้องใส่กางเกงผ้าแบบมุ้งลวดจากนั้นก็ใส่ถูกท้าวด้วย และยังต้องเอาผ้าโพกหัวตลอดเวลา
เวลาที่มันกัดขาผมไม่ได้ ทั้งสองตัวผัวเมียมันก็รุมเข้าโจมตีหัวของผม สยองมากๆทีเดียว ฉีดยามันก็ไม่กลัวครับ

เวลาที่ไม่ระวังตัว ขาจะเป็นตุ่มบวมแดง และก็คันมากๆทีเดียว

แต่ที่น่ากลัวยิ่งกว่ายุง คือความขี้ลืมของผมเอง เวลาที่ใส่กางเกงผ้ามุ้งโปร่งใส มักจะลืมว่ามันโปร่งใส
เวลาที่มีเพื่อนบ้านไปเคาะประตู ผมก็เปิดรับด้วยผ้าโปร่งใส พร้อมด้วยผ้าคลุมหัว ทำให้ต้องอธิบายกันยาวนานทีเดียว......
แต่ก็แปลก ที่ยุงมันไม่กล้าเข้าไปกวนเพื่อนบ้านของผมหว่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 22
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 23
มีวันนึงสามียืนอยู่ระเบียงบ้่าน วิ่งหน้าตาตื่นเข้ามาเรียกเราออกไปดูอะไร พอเราออกไปก็มีตัวสีเขียวๆแดงๆ

ชะโงกหน้าออกมาจากมุมที่มีเตาBBQบังอยู่ แล้วบอกว่าhi hello!!ปรากฏว่าเป็นนกแก้ว หลงมาจากไหนก็

ไม่รู้ แฟนเราบอกเค้ายืนอยู่แล้วได้ยินเสียงคนทัก มองหาก็ไม่เห็นมีใคร แล้วหันไปเห็นเจ้านกน้อยนี่แหละ

ทำเอาตกใจ

ส่วนสัตว์อื่นๆก็มีนกฮั่มมิ่งเพราะข้างบ้านแขวนนำ้หวานไว้ให้นกมากิน ก็แวะมากินกันบ่อย แล้วก็มีcoyote ไม่

เคยเห็นแต่เวลาพาหมาไปเดินเล่นได้ยินเสียงเห่าหอนกันเป็นฝูง ส่วนสัตว์อื่นท่ี่เห็นก็มีbobcat , กระต่ายเห็น

บ่อย บางตัวเห็บหมัดเกาะเต็มตัวน่าสงสารมากๆๆๆอยากจะเอาออกให้ มีครั้งนึงขับรถจะกลับบ้านจากบ้าน

เพื่อน มีนกฮูกสีข่วตัวใหญ่บินออกมาจากพุ่มไม้มาเกาะเสาป้ายชื่อถนน แล้วก็มองเราไม่ยอมไปไหนด้วยมอง

กันไปมองกันมา ช่วงหน้าร้อนจะมาhorn sheep โผล่มาช่วงที่เป็นเนินสูงๆทักทายผู้คนที่ผ่านไปมา

ตอบกลับความเห็นที่ 23
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 24
ชอบจังเลยมีรูปด้วย
สัตว์ตามธรรมชาติ ดูแล้วมึความสุขจัง
เราพยายามถ่าบรูป แต่ไม่ค่อยได้ดั่งใจเลย


ตอบกลับความเห็นที่ 24
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 25
ห่านป่าจะมาเยอะช่วงฤดูใบไม้ร่วง


ตอบกลับความเห็นที่ 25
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 26
คัวนี้ทำรังอยู่แถวบ้าน แต่นานๆเห็นที ขี้อายมาก


ตอบกลับความเห็นที่ 26
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 27
^
^
^
Angry Bird!


ha


ตอบกลับความเห็นที่ 27
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 28
เหมือนจริงๆด้วย 555


ตอบกลับความเห็นที่ 28
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 29
นกสีแดงนั่นคือ คาร์ดินัลค่ะ Cardinal Bird

คุณ Febie ฝีมือถ่ายภาพยังเฉียบนะคะ คมมากๆค่ะ ได้อารมณ์นกขี้อาย

คุณ ข้อมูล K.Data นกกระจอกจ้อกแจ้ก มีถึง ๓๐ ตัวเลยนั่น ดิฉันนั่งนับ

แขวนอะไรไว้ให้พวกเค้าบ้างคะ ดูเหมือนจะไม่ได้ตีกันนะ มีระเบียบมาก


คุณ pixp วิธีกำจัดกองทัพมด สำรวจช่อง ร่องรอยทางเดิน แล้วทำเส้นทาง
ให้เขาไปที่อื่น ร่วมกับใช้ยาเฉพาะ ป้ายตามผนัง จริงๆแล้วคงกำจัดไม่หมด
แต่อย่าให้เหมือนในหนังละกัน ที่มาเป็นพันๆนี่ ก็แปลว่าเขาย้ายถิ่นหนีน้ำ

น้องที่เจองู แจ้งหน่วยบริการควบคุมหรือดูแลสาธารณภัย ให้จนท.มาจับ
เขามาในช่วงฤดูร้อนรึเปล่าคะ คือออกมาหาอาหาร ไม่ได้จะมาทำร้ายคน

แอบเข้ามาดูหน้าตา ผู้บุกรุก หลายหนแล้วค่ะ ชอบกระทู้รวมรูปสัตว์น่ารัก
รวมทั้งเรื่องเล่าจากไทย ตัวอะไรอยู่ใต้ตั่ง

ที่จริง เคยเจอตัวแปลกๆ พวกเลื้อยคลาน ตะขาบ ทาก กิ้งกือ กิ้งก่า ฯ
จะมีวิธีล่อให้กลับออกไปยังที่ที่เขามา ถ้าไม่อยากจะตัดชีวิตของพวกเขา

คุณ discreet ชอบทวิชิตา เข้าไปดูที่ H12420067 คุณจัสดอร์นโพสต์ให้
รวม Hummingbird Swans Sea Lion Pelican จาก Idealist USA ค่ะ


ยังไม่เคยเจอนกฮูก มีแต่บลูเจย์ นกเขา นกขมิ้น ผลัดกันมาค่ะ

เคยสังเกต กระรอก:-) ท่าทางเจ้าเล่ห์มากเป็นอริกับแมวซูเปอร์บิ๊ก
แมวฝรั่งบางตัว ใหญ่มาก เห็นไล่กันตลอด ผ่านหน้าต่างห้องพิมพ์นี่แหละ

มีสมัยหนึ่ง ครอบครัวบลูเจย์ พ่อแม่ลูกๆ อยู่กันที่ต้นเชอร์รี่บลอสซึม
รอบๆเป็นเมเปิ้ลสูงใหญ่ วันหนึ่ง ทางซิตี้มาโค่นต้นไม้ไปเป็นแถบๆ
เพราะหน้าฝน กิ่งใหญ่พัดไปโดนสายไฟจะอันตราย บลูเจย์ตัวโตออกไป
ไหนไม่ทราบ พอกลับมาตอนเย็น ไม่เจอต้นไม้แล้ว รังรวงไม่เหลือเลย

รู้ไหมคะ เขาเกาะที่หลังคาบ้านใกล้ๆ ร้อง เจย์ เจย์ จ้าๆๆๆๆๆๆ หลายชั่วโมง
นานจนเราปวดใจตามไปด้วย เหมือนว่าเขาถามไปก้องโลกว่าทำไมรังหาย

แล้วเมียลูกไปไหน จะไปตามที่ไหน จะร้องขอคืนจากใคร ก็ไม่มีคำตอบ

ดิฉันเชื่อเรื่องกรรม มองดูแล้วสะท้อนใจ ได้แต่ภาวนาให้เขาตามหากันได้
นกน้อยนั่น คงจะต้องระทมทุกข์มากรองแล้วก็บินจากไปอย่างไม่รู้หนทาง

อาจจะเป็นเรา เป็นใครก็ได้ ที่เคยต้องอยู่ในวาระกรรมเก่าแบบนั้น ต่อมา
ได้เกิดเป็นคน ได้พบกับคนที่เราเคยจากพรากไปในชาติก่อนๆตามกันพบ

ว่างๆ ช่วยตั้งกระทู้น่ารักๆแชร์ภาพกันอีกนะคะ จะมาเล่นด้วย


ตอบกลับความเห็นที่ 29
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 30
ดิฉันเจอตัว Marten ที่สวิสค่ะ สัตว์ชนิดนี่จะออกเดินทางจากป่าไปตามถนนและบ้านคน ช่วงเดือนมีนา ถึงเมษาค่ะ

คืนวันหนึ่งนานมาแล้ว ตอนจะนอนได้ยินเสียงคนเคาะหน้าต่างปังๆๆๆๆ ชั่วโมงผ่านไป ก็ไม่หยุด เอ อะไรนะเนี่ย ชักปอดๆๆ ทนไม่ไหวเคาะรประตูถามแม่บ้านว่า เธอทำอะไรหรือ ขอพักผ่อนได้ไหม นี่ดึกมากแล้ว

แม่บ้านตอบว่า ฉันคิดว่าเธอทำเสียงดังเสียอีก นอนรออยู่นี่ว่าเมื่อไหร่เธอจะเงียบเสียงสักที

โอ ขวัญบินเลยค่ะ เพราะว่าทั้งบ้านมีเราแค่สองคน แล้วแขกไหนเนี่ย ที่ไม่ได้รับเชิญ อะๆ ไปกันสองคนเอาไฟฉายไปด้วย ดูให้ทั่วๆบ้าน

ดิฉันคว้าตะไบอันยาวมากจากห้องเก็บของถือไปด้วย (หนอย ตะไบเจ้ากรรม พอถือ ด้ามหลุดมือเลย อย่างกะในหนังตลก อย่างไรอย่างนั้น ) เรากะแม่บ้านลงไปขำกลิ้งกันสองคน กลัวก็กลัวค่ะ

ห้องชั้นล่างไม่มี ห้องเก็บของไม่มี งั้นเสียงมาจากห้องใต้หลังคาแน่นอน

ดิฉันเลยส่งแม่บ้านขึ้นไปดู สำทับแกมขู่ในทีว่า บ้านเธอ ไปดูเอง ฉันจะรอตรงโทรศัพท์ หากว่าไม่ชอบมาพากล จะโทรแจ้งตำรวจ ฮ่าๆๆ เอาตัวรอดไว้ก่อน

แม่บ้านวิ่งปรูดกลับลงมา ว่าเป็นห้องใต้หลังคามีรอยรื้อค้น และมีเสียงดังในมุมมืด แกเลยล็อคห้องแล้วกลับลงมา


ตกลงว่าคืนนั้นทั้งคืน เราสองคนไม่ได้นอน พอจะหลับทีไร เสียงปึงๆมาอีกแล้ว (นึกเห็นภาพการ์ตูนโดแนลดักส์ ตอนที่หลานๆเล่นซน จนลุงไม่ได้นอน)

เราตื่นสโลสะเหลไปเรียน แม่บ้านโทรแจ้งตำรวจ ตกเย็นๆ ตำรวจแจ้งนักดับเพลิงมาดูว่ามีสัตว์ร้ายในบ้าหรือเปล่า
ช่วงนั้น ตัว Marten ได้ขุดซอกเพดาน(เพดานทำด้วยเศษไม้อัด ดูแล้วเหมือนเอาเศษขี้กบมาทำเพดานมากกว่าค่ะ ตัว Marten ถึงใช้เล็บตะกุยได้ง่าย) มาถึงชั้นล่างได้

พอจนท.มา โหตัวนี้อ้าปากเห็นเขี้ยว แสยะ บอกตรงๆ ว่ากลัว กลัวจะถูกกัดแล้วโดนไวรัสมากทีเดียว

ทั้งตำรวจ แม่บ้าน จนท.ไล่จับตัวนี้ใส่กระสอบกันให้วุ่น (ดิฉัน ขออยู่วงนอกค่ะ ไม่เสี่ยงชีวิตด้วย) เพราะว่าสัตว์ตัวนี้ชักเริ่มประสาท คุมไม่ได้ วิ่งกระโดดไปมา กว่าจะเอาตาข่ายมาคล้องได้ ก็กินเวลาร่วมๆครึ่งชั่วโมง

พอจับได้ ดิฉันถามว่าจะเอาไปไหน เขาตอบว่าจะเอาไปปล่อยป่า เออ ดี ขอว่าอย่ากลับมาที่นี่อีกเป็นใช้ได้

ตำรวจสอบถาม ได้ความว่า แม่บ้านจ้างช่างให้มาซ่อมกระเบื้องบนหลังคา

สันนิษฐานว่าช่างคงลืมปิดหน้าต่างบนหลังคา ตัว Marten อาจจะออกมาจากป่า แล้วปีนต้นสนใหญ่ข้างบ้าน ไต่มาเรื่อย จนถึงตัวบ้านน่ะค่ะ

อีกทีสองปีก่อน หมาจิ้งจอกค่ะ เดี๋ยวนี้เพิ่มพลเมืองมากมาย รุกรานมาตามบ้าน

ทำขำอย่างยิ่งคือ ว่าลูกของเพื่อน ถอดรองเท้าไว้หน้าบ้าน แล้วรองเท้าหายในวันต่อมา
ส่วนเพื่อนอีกคนที่อาศัยอีกช่วงถนนหนึ่งมีปัญหา ตื่นมาเจอรองเท้ากองไว้ตรงต้นไม้ใหญ่ในบ้านทุกวัน จนต้องจดหมายไปทางนสพ. ว่า หากท่านใดรองเท้าหาย ขอให้มาตรวจดูได้ที่บ้านข้าพเจ้า ฮ่าๆๆ กันทั้งเมืองค่ะ

แต่วันนี้ได้ข่าวสดๆว่า ทางการสวิสจะเริ่มกำจัดสัตวป่าที่ทำร้าย แกะ วัว ของชาวนา
โธ่ทั้งเอ๊ย แค่ แกะหายตัวเดียว ในรัฐแห่งหนึ่ง ก็โวยวายเกินเหตุไปแล้ว และสถิติแกะหายปีละห้าตัวเท่านั้น น้อยกว่าสถิติอาชญากรรมที่คร่าชีวิตคนในแต่ละปีอีกด้วยซ้ำ เอวังค่ะ เอวัง


ตอบกลับความเห็นที่ 30
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 31
คุณ Idealist USA คะ เป็นอีกเรื่องที่เศร้ามาก เหมือนใจเค้าจะขาดที่หาครอบครัวไม่เจอ น่าสงสารนะคะ ถึงแม้จะเป็นเพียงสัตว์ตัวเล็กๆ แต่ความรักความผูกพัน ก็ยิ่งใหญ่ไม่แพ้มนุษย์อย่างเราๆเลย ขอบคุณสำหรับเรื่องราวที่น่ารักและน่าประทับใจที่นำมาแบ่งปันกันนะคะ ชอบกระทู้แนวนี้เช่นกันค่ะ


คุณTop Of The Hill เล่าเรื่องได้น่าตื่นเต้น แถม ฮาได้อีก อมยิ้มเลย


ตอบกลับความเห็นที่ 31
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 32
เคยอยู่วัด ที่ออสเตรเลีย

แม่ชีที่วัด ชอบบ่นว่า จิงโจ้ ชอบมาขโมยกินดอกไม้ที่แกปลูกไว้ประจำเลย
แล้ววันนึงเจอเณรขี่จักรยานล้มหัวโนมา เลยถามว่าเป็นอะไร เณรน้อย บอกว่า โดน ตัว วอมแบท วิ่งชนจักรยาน ล้ม 5555


ตอบกลับความเห็นที่ 32
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 33
พาหมาไปเดินเล่นในป่าแถว ๆ บ้าน และเพื่อความปลอดภัยของทั้งคนทั้งหมาและของสัตว์ป่าที่กำลังเลี้ยงลูกอ่อน เราต้องให้หมาอยู่ในสายจูงตลอดเวลา

เดินผ่านไปตรงที่หญ้าค่อนข้างสูง เราก็สัตว์ตัวลาย ๆ เหมือนแตงไท ตัวไม่โตมากนัก สองคนสามีภรรยาปรึกษากันใหญ่ว่ามันเป็นตัวอะไรกันแน่ จะว่าลูกกวางก็ไม่ใช่เพราะหางมันยาว

สามีบอกต้องเป็นเม่นแน่ ๆ เรานึกแย้งในใจเม่นยุโรปนี่มันตัวใหญ่สุดก็แค่ชามก๋วยเตี๋ยวเรือ แต่เม่นตัวนี้ตัวโตเท่ากับเขียงแถมยังขายาวกว่าเม่นปกติอีก

ใกล้เข้าไปอีกนิด ก็เห็นว่าเม่นลายแตงไทขายาวโย่งเย่งนั่นคือลูกหมูป่าที่อายุยังไม่น่าจะครบเดือน

นึกหวั่นใจว่าเราอยู่ตรงกลางระหว่างแม่หมูกับลูกหมูซุกซนตัวนั้นหรือเปล่า ถ้าแม่หมูเกิดอาการหมั่นไส้สองคนหนึ่งหมาขึ้นมา เราคงไม่มีทางสู้

คิดได้ดังนั้นก็ตัดสินใจวิ่ง คนไปทาง ลูกหมูป่าไปอีกทาง ปลอดภัยด้วยกันทั้งสองฝ่าย


ตอบกลับความเห็นที่ 33
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 34
ที่ทำงานอยู่ข้างทะเลค่่ะ เจอนกอินทรีย์และนกที่ชอบจับปลาทั้งหลายประจำ แมวน้ำก็มี
แรคคูนมีเยอะมาก
มี coyote ด้วย

ตอนอยู่บ้านเก่าเคยเจอ bobcat และมีกระรอกตัวนึงเดินเข้าออกบ้านสนิทสนม


ตอบกลับความเห็นที่ 34