ทั้งหมดที่ผมรู้เกี่ยวกับ New York

ผมกลับมาจาก New York ได้ระยะนึงแล้ว จึงไม่ขอกล่าวถึงขั้นตอนการขอวีซ่านะครับ เพราะมีบางท่านอธิบายไว้ดีมากแล้ว ผมก็ได้อานิสงค์จากข้อมูลนั้นเป็นการขอวีซ่าของผมเองด้วยครับ ของพระคุณท่านไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ

เรื่องทั้งหมดไม่มีเนื้อหาเกี่ยวกับการขุดทองใดๆทั้งสิ้นครับ ผมไม่ใช่โรบินฮูด แต่ผมก็ไม่ได้รังเกียจพวกโรบินฮูดนะครับ รักและเป็นห่วงคนไทยในต่างแดนทุกคนครับ ไม่ว่าจะเหลืองแดงเขียว สามัคคีไว้ ยังไงเราก็คนไทยด้วยกันครับ หวังว่าข้อมูลทั้งหมดนี้จะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยครับ

เรื่องราวทั้งหมด ผมขอเล่าเป็นแบบบรรยายนะครับ ไม่อยากใส่ความเห็นส่วนตัวลงไป เพราะคนเรามีรสนิยมที่แตกต่างกันครับ

พิมพ์ผิด ตกหล่น ขออภัยครับ ไม่ได้เจตนา เป็นคนรณรงค์ให้ใช้ภาษาไทยให้ถูกต้องอยู่แล้วครับ

เริ่มเลยละกันครับ ขั้นแรกการเข้า ตม. จะแบ่งเป็นสองช่อง ช่องอเมริกันกับชาวต่างชาติ สิ่งที่จะต้องมีให้ ตม. ก็คือสถานที่ที่เราพักอาศัย เพราะเขาต้องใช้ในการติดต่อเรากรณีฉุกเฉิน หลังจากผ่าน ตม. จะเจอศุลกากรอีกที ทั้งสองขั้นตอนนี้ผมบอกได้เลยว่าคนไทยจะโดนเพ่งเล็งเป็นพิเศษครับ ขอให้ทำใจ ห้ามนำอาหารที่เขาห้ามเข้าไปครับ เช่น หมู อาหารที่มีส่วนประกอบของหมู ฯลฯ

ถ้าลงที่สนามบิน JFK มีรถไฟใต้ดินเข้าไปในเมืองได้โดยใช้ สาย E รถไฟใต้ดินเก่าและสกปรกมากนะครับ ( เพราะจะมีพวก Homeless อาศัยอยู่ ) แตกต่างจากที่เห็นในภาพยนต์อย่างสิ้นเชิง แถมเสียงดังมากๆ และยังมีพวกหารายได้บนรถอีก ตะเบ็งแข่งกับเสียงรถไฟไป ผู้โดยสารก็ทำหูทวนลมเหมือนตอนแอร์โฮสเตทสอนเราใช้ร่มชูชีพน่ะแหละ ส่วนมากเป็นเม็กซิกันเล่นกีต้าร์ครับ ถ้าใครมาแสดงความสามารถแล้วเราถ่ายรูป เราสมควรจ่ายเงินให้เขานะครับ เพราะเขาทำเพื่อหาเลี้ยงตัวเอง แต่ถ้าเราไปขอมิกกี้เมาส์ถ่ายรูปในร้านดิสนีย์ไม่ต้องจ่ายครับ เพราะร้านเขาจ้างมาเขาก็ต้องทำงานเพื่อร้าน ( เป็นความแตกต่างทางวัฒนธรรมครับ )

แผนที่รถไฟขอได้ฟรีที่บูธ หรือโหลดเป็น Application มาก็ได้ครับ ( แผนที่รถบัสก็มีนะ )

ความคิดเห็นที่ 1
ถ้าเราถามทางหรือถามคำถาม เขาอาจจะขอเงินเราหนึ่งดอลล่่าร์ครับ ไม่ต้องให้ครับ พวกนิสัยไม่ดี  ผมจะตอบไปว่า Just Thank you is enough พร้อมรอยยิ้ม ( บอกเป็นข้อมูลไว้ เผื่อเจอครั้งแรกแล้วตกใจ เผลอควักให้เขาไป เดี๋ยวเขาจะติดนิสัยครับ )

ห้ามหลับบนรถไฟฟ้าเป็นอันขาดนะครับ จะเจอมิจฉาชีพโดยไม่รู้ตัว และห้ามรอรถไฟในสถานีเปลี่ยวๆนะครับ เกิดอะไรขึ้นบอกได้คำเดียวว่าไม่คุ้มเลย

อย่าคิดว่า New York อันตราย เพราะบ้านคุณแสนจะปลอดภัย ไม่ว่าจะที่ใดก็มีทั้งความปลอดภัยและอันตรายด้วยกันทั้งนั้น หากเป็นละแวกบ้านท่านท่านก็จะรู้ว่าที่ไหนสุ่มเสี่ยงไม่ควรเข้าใกล้ New York ก็เป็นเช่นเดียวกันมีทั้งอันตรายและปลอดภัย ที่สำคัญคืออย่าเปิดโอกาสให้อาชญากร และมีสติอยู่เสมอ อย่าเอาตัวเองเข้าไปในอยู่ในจุดเสี่ยง ที่ลับตาคน มุมมืด เปลี่ยว ย้ำนะครับ อย่าเปิดโอกาสให้เขา


ตอบกลับความเห็นที่ 1
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 2
สำหรับผมการป้องกันย่อมดีกว่าแก้ไข ผมเองก็มีนาฬิกาเครื่องประดับเรือนแสน แต่ผมทิ้งไว้ที่เมืองไทย ผมไม่ได้ไปทำธุรกิจ หรือสร้างเครือข่ายสังคม ไม่รู้จะใส่ไปอวดใคร ลด ละ เลิก คือหนทางที่เราจะมีความสุขได้อย่างแท้จริง หาใช่การได้ครอบครองอัญมณีล้ำค่าแต่อย่างใด

การขึ้นบันไดเลื่อนให้ยืนชิดขวา ช่องทางซ้ายไว้สำหรับคนเดิน ถ้ายืนชิดซ้ายถึงกับโดนด่าได้ครับ

ร่ม หาอันเบาๆพกติดกระเป๋าไว้ก็ดีครับ จะได้ไม่ต้องเสียครั้งละ 5 ดอลล่าร์ แต่หากใครใช้ iPhone ก็ดูพยากรณ์อากาศรอบสัปดาห์ก่อนก็ได้ครับ ค่อนข้างไว้ใจได้ทีเดียว

ที่อยู่ที่คนไทยนิยมคือบริเวณสถานี Elmhurst แต่ผมแนะนำให้เลยไปอีกสถานีนึงชื่อ Jackson High ซึ่งจะเป็นชุมทางของรถไฟใต้ดินและรถบัสหลายสาย แถมยังมี Supermarket ขนาดใหญ่ชื่อ Pacific ( ถ้าอาศัยที่ Elmhurst จะซื้อที่ Top Line ) แต่หากอยากได้ของที่เป็นไทยๆจริงๆ ให้ไปที่ร้านน้ำตาล Sugar Club มีแม้กระทั่ง สาคู ขนมบัวลอย เมี่ยงคำ หนังสือพิมพ์ไทย ฯลฯ ( เจ้าของร้านมีน้ำใจมากครับ ผมเองยังติดหนี้บุญคุณเขาอยู่ ขอบคุณคุณจิและคุณโบว์มากๆครับ ) 


ตอบกลับความเห็นที่ 2
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 3
คนไทยใน NY มีน้ำใจนะครับ เขาดูจะพร้อมช่วยเหลือทุกๆคนที่ช่วยเหลือตนเองโดยสุดความสามารถก่อน 

ผมขออนุญาตไม่กล่าวถึงวัดไทยนะครับ ด้วยมุมมองส่วนตัวและความแตกต่างทางความคิดครับ ( ไม่อยากพูดเรื่องศาสนาหรือการเมือง )

วิธีการหาบ้านเช่ามีหลายแบบนะครับ 1 ประกาศร้านน้ำตาล 2 เอเจนซี่ ( เสียค่าดำเนินการให้เขาตามราคาเช่า 1 เดือน ) 3 craiglistดอทคอม

หากนัดหมายต้องไปตรงเวลาครับ หากคุณสายแม้เพียงห้าหรือสิบนาที คู่นัดของคุณอาจหาเรื่องโวยวายได้ แต่โดยรวมก็ไม่ใช่ความผิดร้ายแรงครับ ( คำว่า "ทุเรศ" ก็มีสาเหตุมาจากนิสัยมาสายของคนไทยนี่แหละครับ You too late ! ยูทู้เรศ คือ นิสัยคนไทยนัดเช้ามาเที่ยงอ่ะครับ )


ตอบกลับความเห็นที่ 3
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 4
เครื่องใช้ไฟฟ้าที่อเมริกาใช้ไฟ 110 Volt นะครับ ถ้านำอุปกรณ์ไฟฟ้ามาจากเมืองไทยให้ตรวจสอบก่อนนะครับ

ชาว New York เค้าไม่ค่อยรับโทรศัพท์กันสักเท่าไหร่หรอกนะครับ หากจะโทรหาใครให้ทำใจไว้ก่อนเลย หากให้ฝากข้อความเราก็สันนิษฐานได้ว่าเขาอยู่ในรถไฟใต้ดินนะครับ ( ในรถไฟใต้ดินไม่มีสัญญาณ )

หนังสือพิมพ์ที่นี่แจกฟรีนะครับ เขาหารายได้จากการโฆษณาแทน มีตู้แจกแทบทุกหัวมุมถนน

แม้แต่ขึ้นรถเมล์ก็ต้องต่อคิวนะครับ คิวจะต่อมาจากป้ายรถเมล์ ก่อนจอดรถเมล์จะก้มต่ำลงให้เราขึ้นง่ายๆครับ ( เมืองไทยอาม่าวัดดวงเอาเองครับ ยังขึ้นไม่เสร็จเลย รถเลื่อนแระ )

ราคาสินค้าแต่ละร้านไม่เท่ากัน แต่ละร้านสามารถตั้งราคาขายได้ตามใจชอบ โค๊กกระป๋องอาจจะมีราคาตั้งแต่ 69 เซ็นต์ ( ไชน่าทาวน์ ) ไปจนถึง 1.5 ดอลล่าร์ อาจจะดูไม่มาก แต่หากเทียบเป็นเปอร์เซ็นต์มากกว่า 120% เลยทีเดียว 

ผลไม้กับผักขายตามความสดครับ ยิ่งสดยิ่งแพง แต่เห็นราคาแล้วซื้อไม่ลงเลย เมืองไทยเราน่าอยู่กว่าเยอะ

มาตราชั่งที่ใช้เป็นปอนด์ lb ( พาว )  สองพาวเป็นหนึ่งกิโลกรัมโดยประมาณ


ตอบกลับความเห็นที่ 4
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 5
ร้านอาหารจีน กินกันตาย 5 เหรียญ กินได้สองมื้อ สำหรับอาหารแนวกรรมกร ไม่เน้นคุณภาพแต่เน้นปริมาณ วันไหนผมไม่ทำกับข้าว ก็ไปสั่งร้านอาหารห้าเหรียญนี่แหละครับ ประมาณว่าเป็นเมนูสิ้นคิด ช่วงเย็นๆ ก่อนปิดร้าน มีการลดราคาเหลือสี่เหรียญกว่าๆ แต่จืดชืดกว่าอาหารไทย

มาม่า ไม่ต้องหอบมาเยอะครับ สมัยนี้ครบทุกยี่ห้อ แทบทุกรส แต่ถ้าอยากประหยัดให้หาบ้านที่มีครัวครับ ทำอาหารทานเองจะประหยัดได้มากๆ ( คนไทยบางส่วนทำงานในร้านอาหารก็ไม่ต้องกังวลมาก เพราะร้านที่เราทำงานเขาให้เราทานได้หนึ่งมื้อเป็นอย่างน้อย ) ส่วนผมไม่ได้ทำงาน แต่โชคดีที่ได้บ้านที่มีคนไทยอาศัยอยู่ เขาจึงมีเครื่องครัว และเครื่องปรุงให้พร้อม ถือเป็นโชคดีครับ เพราะไม่งั้นต้องเสียค่าใช้จ่ายและเวลาในการตามหาเครื่องปรุงที่ต้องการนานพอสมควรครับ 

ที่อเมริกาไม่มี 7-11 แบบบ้านเรา ( ที่มีทุกๆ 25 เมตร ณ. แหล่งท่องเที่ยว ) แต่จะมีร้านขายยาที่ชื่อว่า Duane Read อ่านว่า ดเวน รีด ( แฟนบอกถ้าเรียกยากเรียกร้าน วิโนน่า ไรเดอร์ก็ได้ ) เปรียบเสมือน 7-11 แบบบ้านเรา ราคาสินค้ามีมาตรฐานแต่อาจจะต่างกับ 7-11 ตรงที่ไม่มีของกินมากนัก 

หากเรามีโทรศัพท์สมาร์ทโฟน ให้เปิดบริการ 3G นะครับ ใช้เปรียบเทียบราคาสินค้า เสียค่า 3G ดีกว่าซื้อของแพงนะครับ 

อาหารข้างทางมักจะเป็นเม็กซิกัน แต่ขอแนะนำว่าเลี่ยงได้ให้เลี่ยง เพราะน้ำมันเยอะมาก แถมฝุ่นควันรถ 

( อันนี้ความเห็นส่วนตัวครับ ) Mc Donals KFC รสชาติแย่มาก ต้นแบบอาหารขยะของแท้ ใครไม่เชื่อไปลองดูได้ครับ ที่พอทานได้คือ Burger King

Pizza Hut กับ Swenzen ไม่มีนะครับ ไม่ต้องหาให้เสียเวลา

แต่มีร้านพิซซ่าเยอะใน Manhattan เพราะพิซซ่าที่นี่ได้ชื่อว่าเป็นอันดับสองของโลก ราคามาตรฐานประมาณห้าดอลล่าร์ขนาดประมาณ iPad 


ตอบกลับความเห็นที่ 5
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 6
การเข้าออกตึกใหญ่ๆ ต้องมีการแลกบัตร จดชื่อ รายละเอียดไว้ก่อน ขึ้นตึกระฟ้าแต่ลิฟท์ไวมากครับ

ค่าถ่ายเอกสาร ค่าส่งแฟกส์ หาร้านยากและแพงแบบขูดรีดทีเดียวครับ ถ่ายพาสปอร์ต วีซ่า ใบขับขี่สากลมาจากเมืองไทยให้เสร็จดีกว่าครับ กระดาษสี่ห้าใบไม่หนักขึ้นเท่าไหร่ครับ

พกใบขับขี่ หรือใบขับขี่สากลแทนพาสปอร์ตครับ เพื่อความปลอดภัย ส่วนพาสปอร์ตเก็บไว้บ้านครับ ( จริงๆแล้วก็ไม่ค่อยได้ใช้ นอกจากเข้าสถานบันเทิง )

ห้ามเปิดประตูหนีไฟโดยเด็ดขาด มาตรการขึ้นลงชั้นเดียวใช้บันไดไม่เหมาะกับอเมริกา เพราะสัญญาณเตือนไฟจะดังขึ้นทันที 

ห้องน้ำ หายากมาก ไม่ใช่นึกอยากจะเข้าห้องน้ำร้านไหนก็ขอเข้าได้ หรือแวะปั๊มฟรีแบบบ้านเรา หากทำธุรกรรมที่ตึกใด ควรทำกิจให้เสร็จก่อนออกจากอาคารนั้นจะง่ายกว่า 

ห้องน้ำที่อเมริกาไม่มีสายฉีดล้างก้น ( อันนี้ไม่มีใครเคยเตือนข้าพเจ้ามาก่อนเลย ) เขาใช้กระดาษทิชชู่ แถมเป็นทิชชู่แบบแห้ง ไม่ใช่แบบเปียกน้ำแล้วละลายแบบบ้านเรา แถมที่นั่นอากาศหนาว ( อุจจาระจะแข็งและแห้งกว่าปกติมากๆ เช็ดยังไงก็ไม่สะอาด มันไม่เหมือนล้าง เราคนไทยชินกับการล้างก้น ) แต่มีวิธีแก้ ซื้อทิชชู่เปียก Wipe ที่เขาใช้เช็ดก้นเด็กแก้ขัดไปก่อน 


ตอบกลับความเห็นที่ 6
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 7
เสื้อผ้าที่ใส่แล้วเขามีร้านซักรีดหยอดเหรียญ และมีเครื่องอบ เราจะไม่ได้เห็นการตากผ้าอีกต่อไป ที่นี่คือสวรรค์ของการซักผ้าโดยแท้จริง ผมเตรียมเสื้อผ้าที่ไม่ต้องรีดไปอบเสร็จก็ใส่ได้เลย 

พระจันทร์ที่นั่นไม่เหมือนที่บ้านเรา เอียงเป็นรูปแบบโลโก้ Dream Works เลยทีเดียว

ฤดูร้อนพระอาทิตย์อาจตกตอนสามทุ่ม ( ถูกแล้วครับสามทุ่ม ) 

ฤดูหนาวอุณหภูมิอาจลดลงได้ถึง -15 องศาเซลเซียส ( แต่หน่วยวัดที่อเมริกาจะใช้องศาฟาเรนไฮต์ ต้องคำนวนนิดหน่อยครับ ) เราต้องระวังเรื่องไฟไหม้ในช่วงฤดูหนาวให้ดี ไม่ได้พูดเล่นนะครับ เคยมีไฟไหม้ในตอนล่างของเกาะแมนฮัตตันกว่าสองร้อยหลังคาเรือน เหตุเพราะน้ำในหัวดับเพลิงกลายเป็นน้ำแข็งจึงไม่สามารถใช้การได้ ( ปัจจุบันคงมีรถดับเพลิงเพียงพอ ) 

หากมีอุบัติเหตุเกิดขึ้น ก็จะมีรถดับเพลิง และรถพยาบาลไปสมทบกันที่เกิดเหตุครับ เขาเตรียมความพร้อมไว้เสมอ แม้จะเป็นเพียงแค่การชนท้ายก็ตาม ถ้าเราไม่สบายฉุกเฉินการเรียกรถพยาบาลจะมีค่าใช้จ่ายประมาณ 100-200 ดอลล่าร์ครับ 

สุดท้าย การส่งของกลับไทย มีบริการส่งหลักๆอยู่สองเจ้า ราคาไม่ถูกนะครับ ดังนั้นการไปใช้ชีวิตอยู่ที่นู่น การจะซื้อสินค้าแต่ละชิ้นให้เราคำนึงถึงระยะเวลาในการใช้งานและความจำเป็นด้วยครับ หลายอย่างที่อยากส่งกลับมาแต่ค่าส่งกลับแพงกว่าซื้อใหม่ที่ไทยก็เยอะครับ สรุปคือทิ้งแทบทั้งหมดเลย


ตอบกลับความเห็นที่ 7
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 8
ใช้เวลานึกและพิมพ์พอสมควรครับ หวังว่าคงเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านไม่มากก็น้อยครับ ส่วนเรื่องเที่ยว ชิม และชอปปิ้งจะกล่าวถึงในครั้งต่อไปครับ

สาเหตุที่เขียนก็เพราะได้แรงบันดาลใจมาจากที่นี่ จึงอยากนำข้อมูลตรงที่ได้จากประสบการณ์มาแบ่งปันกันครับ

หลังจากนี้จะไปศึกษาต่อที่ประเทศอังกฤษ ถ้ามีโอกาสคงได้นำความรู้มาเปรียบเทียบให้ได้อ่านกันครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 8
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 9
ดีครับ
ถ้ามีคนขอเงิน ให้ได้ก็ให้ไปเถอะ แต่ระวังยกมาทั้งกระเป๋าแล้วกะจะให้สักบาท เพื่อนจะคว้าไปทั้งกระเป๋าก็ได้
ส่งของกลับ ครับ ค่อนข้างแพง โดยเฉพาะถ้่าให้เขาออกของด้วย ถ้าส่งทั้ง Container แนะให้เช็คหลายๆแห่ง แล้วค่อยมาหาคนออกของที่กรุงเทพ เอาแแบไหนก็ได้


ตอบกลับความเห็นที่ 9
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 10
รบกวนคุณ SAINT_OF_FIRE ขอคำแนะนำ ไม่ทราบว่าีรู้จักคนไทยในนิวยอร์ดเปิดบ้านให้นักท่องเที่ยวชาวไทยเช่าบ้างใหมครับอยากไ้้ด้ในแมนฮัตตั้น คือผมมีโครงการไปเที่ยวนิวยอร์คในปีหน้าไปคนเดียวครับ 10 วัน อยากประหยัดค่าโรงแรม และจะได้คุยกับคนไทยด้วยกันครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 10
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 11
แมนฮัตตันก็กว้างนะครับ มีหลายโซน ผมไม่ทราบว่าท่านอยากได้โซนไหน แต่ละโซนก็มีเอกลักษณ์แตกต่างกันไป งบประมาณเท่าไหร่ แต่ผมรู้จัก Hostel ที่ดีที่สุดแห่งนึง แต่ไม่ใช่ของคนไทยครับ

ไม่เคยทราบว่ามีคนไทยที่อาศัยในแมนฮัตตันเปิดบ้านหรืออพาร์ทเมนต์ให้ใครเช่านะครับ แต่ท่าน DR.thai ลองหาจาก craiglist ดอทคอมดูก็ได้ครับ ผมไม่ได้กว้างขวางถึงขนาดตอบแทนคนไทยทั้งเกาะได้ครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 11
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 12
ไม่เป็นไรครับ ถ้าไม่ืทราบไม่เป็นไร


ตอบกลับความเห็นที่ 12
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 13
พระจันทร์ที่นั่นไม่เหมือนที่บ้านเรา เอียงเป็นรูปแบบโลโก้ Dream Works เลยทีเดียว
ช่างสังเกตจัง อมยิ้มเลย เดี๋ยวคืนนี้ต้องเงยหน้าหาพระจันทร์มั่งแล้ว
ตอบกลับความเห็นที่ 13
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 14
แปลกใจ จขกท บอกว่าไม่มี pizza hut ทำไมแถวบ้านเรามีหว่า ไปเปิดดูใน web site เฉพาะ new york มี 125 สาขาแหนะ 7-11 ก็มีเยอะเหมือนกัน


ตอบกลับความเห็นที่ 14
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 15
อยากไปนิวยอร์ก ถ่ายรูปกับคุณเทพีเสรีภาพสักครั้งในชีวิต ^ ^

Thank you very much for the information @,@


ตอบกลับความเห็นที่ 15
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 16
ทำไมนิวยอร์คเรียกรถพยาบาลจะมีค่าใช้จ่ายประมาณ 100-200 ดอลล่าร์เอง
ที่แคลิฟอร์เนียนี่เรียกทีอย่างต่ำก็ 500 แล้วค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 16
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 17
พี่ SAINT_OF_FIRE รบกวนเวลาช่วยตอบคำถามกระทู้นี้หน่อยครับ

http://www.pantip.com/cafe/klaibann/topic/H12414690/H12414690.html

ขอบคุณล่วงหน้านะครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 17
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 18
ขอบคุณมากเลยคะ กำลังจะไปนิวยอร์ค
ช่วยแชร์ความรู้ให้เยอะๆนะคะ
เดี๋ยวจะเข้ามาติดตามอ่านทุกวันเลยคะ ^^


ตอบกลับความเห็นที่ 18
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 19
มาเที่ยว nyc กันเยอะๆน่ะครับ ^^


ตอบกลับความเห็นที่ 19
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 20
if u can make it in NY, u can make it anywhere


ตอบกลับความเห็นที่ 20
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 21
" ( คำว่า "ทุเรศ" ก็มีสาเหตุมาจากนิสัยมาสายของคนไทยนี่แหละครับ You too late ! ยูทู้เรศ คือ นิสัยคนไทยนัดเช้ามาเที่ยงอ่ะครับ )"
👆
👆
ชอบท่อนนี้ค่ะ เป็นความรู้ใหม่จริงๆฮ่าๆๆ

ขอบคุณ คุณจขกท มากๆนะคะที่นำมาเล่าสู่กันฟัง


ตอบกลับความเห็นที่ 21
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 22
แปลกใจ จขกท บอกว่าไม่มี pizza hut ทำไมแถวบ้านเรามีหว่า ไปเปิดดูใน web site เฉพาะ new york มี 125 สาขาแหนะ 7-11 ก็มีเยอะเหมือนกัน

จากคุณ : pixp


---------------------
เรื่อง 7-11 น่าจะหมายถึงว่าไม่ได้มีถี่ๆ แบบบ้านเรา

คือก็มีอ่ะแหละครับ แต่บ้านเรานี่คือแค่ข้ามถนนๆ ก็เจอ 7-11 อีกแล้วอะไรแบบนั้นอ่ะครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 22
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 23
คิดถึง Top Line , Pacific , ร้านน้ำตาล อยู่ Elmhurst เกือบ 5 ปี แต่จากมาเกือบ 10 ปีแล้ว ไม่รู้เดี๋ยวนี้ร้าน Flagship, New York super market และ Hong kong super ยังอยู่รึเปล่า?
ตอนอยู่ที่นั้นชอบกินร้านจีน ที่อยู่ใกล้ๆ Top Line กลางวันเค้าจะมี Lunch Special มีเต้าหู้ลาดหน้าไก่ อร่อยมาก
เคยทะเลาะกับพวกแม็กซิกันที่ร้านซักผ้าบ่อยๆ เพราะแย่งตู้อบผ้า หรือ ตะกร้ารถเข็นกัน (ร้านที่อยู่ระหว่าง Duane Read กับ Top Line ) ปีหลังๆย้ายไปอยู่แถว Grand Ave นอกๆหน่อย ดีกว่าเยอะ แต่เสียต้องรอรถเมล์ เวลาจะมาขึ้น Subway
ตอนอยู่ แถว Elmhurst เกือบโดนจี้ 2 ครั้ง จำได้แม่น และ โดนฝรั่งตบกระเป๋าในร้านที่ทำงานอยู่ 1 ครั้ง (หมดไป 200 กว่าUS ) ฝรั่งที่ตบกระเป๋าไป ก็เป็นลูกค้าที่มาที่ร้านประจำ ถ้าไม่เมาเฮียแกพูดจาดีมาก Sweet heart ทุกคำ แต่พอไม่ทันสังเกตุ มันฉกกระเป๋า เรา และเด็กในร้านไป 2ครั้ง กรณีของเราเป็นครั้งที่2 เลยแจ้งตำรวจเลย
แต่ก็ทำให้รู้ว่า พวกฝรั่งไม่ได้ดีทุกคน โดยเฉพาะพวกที่ดูทะ:-)ๆ เหมือนเอาใจ พูดดี แต่พอเมาเมื่อไหร่คนละเรื่อง หลายคนอาจจะสงสัยว่าไปรู้ตอนเค้าเมาได้ยังไง เพราะถ้าไม่มีเรียนวันไหน เราจะทำงานทั้งวัน ยืนตั้งแต่ 9 am-10pm
แต่ยอมรับ เรียนและทำงานที่ นั้นได้ประสบการณ์ชีวิตที่เยอะดี การเรียนสอนให้เรากระตือรือร้น ตรงต่อเวลา รู้จักแบ่งเวลา(และเงิน)
ส่วนการทำงาน สอนให้เรารู้หน้าที่ มีมนุษยสัมพันธ์ ไม่ใช่เราเลิศเลอกว่าคนอื่น มีวินัย เสียสละ และ รู้จักอด-ออม เราเลิกนิสัยกินขนมไทยหวานๆ ลูกชิ้นปิ้ง หมูปิ้ง ตั้งแต่ ปี '98 จนถึงทุกวันนี้
เมื่อก่อนพอไปร้านน้ำตาลก็จะเลือกขนม 1 อย่างที่ชอบจะกินจริงๆเท่านั้น จะไม่เปะปะ เพราะต้องจำกัดเรื่องเงิน(ตอนนั้น 45 บาท/USD) และ ควบคุมน้ำหนักไปได้ในตัว
เลยผสมโรงซะยาวเลย สรุปแล้วอยากกลับไปเที่ยวอีก แต่ถ้าจะให้อยู่ ขออยู่เมืองไทยดีกว่า


ตอบกลับความเห็นที่ 23
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 24
พาลูกไปเที่ยวนิวยอร์คมาเหมือนกันค่ะ ยังมีร้านซุปเปอร์มาเกตคนไทยอีกร้านที่นอกเหนือจากร้านน้ำตาลคือร้านอินทิรา อยู่ตรงข้ามร้านอาหารไทยศรีประไพ


ตอบกลับความเห็นที่ 24
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 25
อีกที่ที่มีคนไทยอยู่ก๊บริเวณนี้ค่ะ ดิฉันเจอคนไทย ดูรุ่นๆ เดินคุยกันมา2คน ใด้ยินเขาคุยภาษาไทยกัน รีบเข้าไปทัก เขาหันกลับมามอง เเต่ยังไม่หยุดเดิน พูดตอบกลับว่าสวัสดี เเล้วหันหน้าเดินต่อไป เเป่ว!


ตอบกลับความเห็นที่ 25
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 26
When I lived in Chicago, IL, there are plenty 7-11 stores and Burger Kings to be found.

I also found that there are several Swensen stores as well when I went to downtown Chicago, IL and Orlando, FL.

One thing that surprised me the most was that there used to be Tops supermarket when I lived in OH.


ตอบกลับความเห็นที่ 26
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 27
ไปเที่ยวมากะเขาเหมือนกัน ไปเองค่ะ เขียนใว้ที่บล็อก เข้าไปอ่านเป็นไกด์ เป็นเเนวๆใด้ค่ะ ที่ลิงค์นี้

เที่ยวนิวยอร์ก ตอน1 -http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=kamuttira&month=04-2012&date=09&group=32&gblog=1

ตอน2- http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=kamuttira&month=04-2012&date=10&group=32&gblog=2

ตอน3-http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=kamuttira&month=04-2012&date=11&group=32&gblog=4

ตอน4-http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=kamuttira&month=04-2012&date=12&group=32&gblog=5

ตอน5-http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=kamuttira&month=04-2012&date=14&group=32&gblog=6

ตอน6-http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=kamuttira&month=04-2012&date=17&group=32&gblog=7

ตอน7-http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=kamuttira&month=04-2012&date=18&group=32&gblog=8

ตอนจบ-http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=kamuttira&month=05-2012&date=04&group=32&gblog=9

สำหรับผู้ที่รักการท่องเที่ยว หาที่พักราคาถูก นี่เลยค่ะ โฮสเทล นิวยอร์คคืนละ30ดอลล์ เเละอีกหลายที่พักราคาถูกทั่วโลก โฮสเทลที่เมืองไทย เช่นที่ถนนข้าวสาร ราคาอยู่ที่ 10-20 ดอลล์ล่าสหรัฐ เข้าไปอ่านรายละเอียดที่นี่ค่ะ

http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=kamuttira&month=07-2012&date=01&group=20&gblog=48


ปล. เรืองค่ารถพยาบาลฉุกเฉิน ที่รัฐจอร์เจีย จ่าย 600ดอลล์ค่ะ
ชอบจัง คำว่า You too late ! ยูทู้เรศ ของ จขกท. คนไทยไปสายจริงค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 27
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 28
@pixp ผมก็ไปมาเกือบทั่ว New York แล้วนะครับ ยืนยันว่ามีไม่ถึง 125 สาขาครับ ผมเองก็ตามหาจะลองชิมอยู่ แต่หาไม่ได้ครับ

@ตกตะกอน ผมไม่ได้เรียกนะครับ แต่พยาบาล + หมอ บอกว่าราคานี้ ระยะทางอาจจะต่างกันมั้งครับ

@หน้าตัวผู้ If you can make it there , You can make it anywhere. ^^

@Norita Boy ขอบคุณที่ช่วยอธิบายครับ

@รักเมืองไทย Hong Kong ยังอยู่ครับ แต่ Flag Ship ไม่เห็นแล้ว

@Quel เดี๋ยวรอบหน้าผมก็จะไปเช่ารถขับข้ามรัฐแบบนี้เหมือนกันครับ น่าตื่นเต้นดี


ตอบกลับความเห็นที่ 28
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 29
ขอบคุณ จขกท. นั่งอ่านทุกบรรทัด


แอบชอบรูปข้างบน (เทพีสันติภาพ ของคุณ Quel)


ตอบกลับความเห็นที่ 29
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 30
เข้ามารำลึกอดีตที่ใช้ชีวิตที่โน้นและเข้ามายืนยันว่า 7-11 หาเจอได้น้อยมากผมเคยเข้าไปแถวๆ Laguardia Community College. อยู่โน้นผมทาน Wendy's บ่อยมากกว่า McDonald's สถานี Jackson's Height คือสถานีรถไฟที่ขึ้นลงบ่อยที่สุด Pacific Super คือซุปเปอร์ที่เข้าไปบ่อยที่สุด ธนาคารที่ใช่บ่อยที่สุดคือ ทีดีแบงค์ ก่อนหน้าเป็นคอมเมิรซ์แบงค์ อาหารที่ซื้อกินเองมื้อแรกคืออาหารรถเข็นแถวๆสถานีรถไฟ Jackson' Height ไม่แน่ใจว่าร้านเนปาลหรือแขกอินเดีย แต่ตั้งอยู่แถวๆแขกอินเดียไม่อร่อยเลย เคยซื้อปลาแซลมอลม่าใส่ในมาม่าต้มยำกุ้งกิน ปล ทำงานร้านไทยพาวิลเลี่ยนแห่งย่านAstoria ต้องขอบคุณป้าอี้ด พี่ตู่ เต้ ที่ให้การเอื้อเฟื้อในการทำงาน ปล อยู่โน้นใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่แต่ย่านควีนส์เพราะทำงานและอาศัยอยู่ย่านนี้ แต่ก็ไปเที่ยวมิดทาวน์และดาวน์ทาวน์ในแมนฮัทตันอาทิตย์ละครั้ง


ตอบกลับความเห็นที่ 30
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 31
เคยเจอคน(ผิวสี)มาอาสาช่วยลากระเป๋าีที่ port authority ด้วยความวุ่นวาย เลยปล่อยเค้าลากไป

นึกขึ้นได้ เห้ยยยย ไม่เอา เอาคืนม๊าาาาา ก็เลยบอกเค้าว่าส่งเท่านี้ล่ะขอบคุณมาก ยัดไป 3 เหรียญ เค้าบอกว่า โอ้วววขอบคุณมาก ขอให้เค้าไปส่งถึงรถหน่อยให้คุ้มค่าเงิน
เราก็แบบว่า ไม่เป็นไรค่ะถึงแล้ว เดี๋ยวจะรอเพื่อน บลาบลาบลา เค้าก็ไม่ยอมไป ยืน ซาบซึ้งกับทิป $3 ที่เราให้

ตอบกลับความเห็นที่ 31
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 32
เขียนอ่านสนุกดีค่ะ
ใช้ภาษาน่าอ่านมากๆ 555


ตอบกลับความเห็นที่ 32
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 33
ขอบคุณจขกท อย่างมากที่สละเวลามาเขียน เซฟไว้แล้วคะ

เป็นประโยชน์มากๆ กับใครก็ตามที่จะแวะไปเมืองนี้

ขอบคุณอีกครั้งคะ


ตอบกลับความเห็นที่ 33
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 34
ขอบคุณนะคะ


ตอบกลับความเห็นที่ 34
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 35
อยากทราบเรื่องวัดไทยอะคะ รบกวนหลังไมค์ได้ไหมะคะ


ตอบกลับความเห็นที่ 35
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 36
@คนไทยหัวใจแกร่ง แมนฮัตตันต้อง TD Bank ส่วนควีนส์ต้อง Chase เลยครับ

@ขนมฮ่าๆ มาที่ Port นี่ห้ามทำตัวเงอะๆเงิ่นๆเป็นอันขาดเลยครับ เค้าจะจับไต๋ได้ว่าเราเป็นบ้านนอกเพิ่งลงรถบัสมา ก็จะมีพวกที่คอยดักบอกทาง นำทาง รวมไปถึงหิ้วกระเป๋าแบบนี้ล่ะครับ

@jasdorn เดี๋ยวจะต่อด้วยเรื่องแหล่งชอปปิ้ง กับแหล่งท่องเที่ยวให้ครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 36
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 37
ห้างสรรพสินค้า การซื้อของที่อเมริกาเหมือนเป็นการรับประกันไปในตัวครับ คือสามารถคืนได้ภายใน 30 - 90 วัน ( ผิดกับบ้านเรา ขายแพงกว่า แถมห้ามเปลี่ยนคืน ) ซื้อผิดไซส์ ผิดสี นำไปเปลี่ยน หรือแลกเงินคืนได้จริงๆครับ ตอนแรกผมก็ไม่อยากจะเชื่อเหมือนกัน

ทุกอย่างที่เห็นยังไม่รวมภาษี 8.76 % ซึ่งไม่สามารถ Tax Refund ได้แบบยุโรป ดังนั้นหากจะชอปปิ้งเตรียมเครื่องคิดเลขไว้ด้วยก็จะช่วยได้มากครับ ( แต่ถ้าเราซื้อของในซุปเปอร์มาเก็ตใกล้บ้านพวกร้านจีนเขาก็จะไม่บวกภาษีครับ )

Macy's เปรียบได้กับ Central หรือ The Mall แต่ไม่ได้มีสินค้าหลากหลายแบบเมืองไทย มีแต่สินค้าแฟชั่นและเครื่องนอนครับ ห้างนี้ที่สาขาถนน 34 จะมีบันไดเลื่อนที่ิก่าแก่ที่สุดในโลกอยู่ด้วย แต่ค่อนข้างเก่าและน่าหวาดเสียวเล็กน้อย หากนำเด็กเล็กไปด้วยขอให้ใช้ความระมัดระวังให้มากขึ้น ในวันขอบคุณพระเจ้าก็จะมีพาเหรดของห้าง จัดงานกันอลังการทีเดียว 

Toys R Us ถ้าได้มีโอกาสไป Time Square แนะนำให้ไปที่ร้านนี้ คุณจะลืมอายุของตัวเองไปชั่วขณะหนึ่ง ส่วนสาขาอื่นไม่แนะนำให้เข้า เพราะอาจสร้างความผิดหวังให้ ( อีกสาขาอยู่ที่ Flushing ใหญ่โตอลังการมากแต่ต้องลง Subway ที่ Flushing แล้วต่อรถเมล์ไป ) ซื้อของร้านนี้แล้วเก็บบิลไว้คืนเงินได้ใน 90 วัน

Babies R Us เจ้าของเดียวกับ Toys R Us เรียกได้ว่ามีทุกอย่างเกี่ยวกับเบบี๋ มีทุกอย่างจริงๆ แต่ไม่ได้อะไรกลับมาเลย เพราะว่าเลือกไม่ได้ เยอะจนงง แนะนำให้ทำการบ้านให้ดีก่อนเข้าไปครับ นโยบายเดียวกับ Toys R Us คืนเงินหรือเปลี่ยนของได้ภายใน 90 วัน

Best Buy แหล่งรวมเครื่องใช้ไฟฟ้า พนักงานตอบคำถามได้ดีครับ หากท่านอยากใช้ WiFi ฟรีที่ร้าน ให้พิมพ์ Bestbuy ในช่องค้นหาแหล่ง WiFi ในมือถือของท่านนะครับ รับรองว่ามีแต่เขาซ่อนเอาไว้ เปิด WiFi เฉยๆจะหาไม่เจอต้องพิมพ์ครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 37
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 38
B&H เป็นอาณาจักร ( ยิว ) เครื่องใช้ไฟฟ้าแบบเฉพาะเจาะจงครับ เช่นกล้องถ่ายรูป เครื่องขยายเสียง อุปกรณ์เกี่ยวกับการถ่ายภาพยนต์ ฯลฯ พนักงานที่นี่รู้ทุกอย่างเกี่ยวกับสิ่งที่ตนเองขาย ต่างกับที่เราเคยเจอ นอกจากเราจะถามปัญหาที่เฉพาะเจาะจงหรือปัญหาทางเทคนิค เขาจะไปหาคำตอบหรือปรินท์เอกสารมาให้ ( แต่ผมแนะนำว่าอย่าไปเชื่อเขามาก เช่นผมเคยไปซื้อกล้องถ่ายรูป ราคาก็ไม่ได้แพงกว่าร้านอื่น แต่เขาจะแกมบังคับให้คุณซื้อเมมโมรี่การ์ดแบบแพงที่เขาสามารถฟันกำไรจากเรา ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน ทำการบ้านก่อนชอปปิ้งจะดีที่สุดครับ )

Barns & Noble ร้านหนังสือชั้นนำ เหลืออีกไม่กี่สาขาสุดท้ายแล้ว เพราะโดน Kindle แย่งส่วนแบ่งการตลาดไปเยอะ

Wall mart ต้องขับรถไปไกล คงไม่มีใครถ่อขับไป เพราะตามกฎหมายห้างขนาดนี้ห้ามอยู่ในตัวเมืองครับ ไม่งั้นเมืองก็จะกระจุกตัวและมีปัญหารถติดแบบบ้านเราตามมา นี่เป็นสาเหตุนึงที่การซื้อขายแบบออนไลน์เติบโตมากในอเมริกา 

Fifth Avenue เป็นถนนชอปปิ้งทั้งเส้น ช่วงใกล้ Central Park มีสินค้าแบรนด์เนมชั้นนำ อาทิ LV Bvlgari Cartier ฯลฯ นัดมารวมตัวดูดเงินนักท่องเที่ยวด้วยกันที่นี่ ร้านค้าที่ไม่ใช่แบรนด์ชั้นนำไม่น่าเข้านะครับ สินค้าโก่งราคามากๆ แถมพ่อค้าลูกเล่นเยอะ ต้องการซื้ออะไรไปร้านเฉพาะทางที่บอกไว้ดีกว่าครับ ซื้อผิดไปแลกเงินกลับได้ครับ

ห้างอื่นๆที่ถนน Fifth Avenue ก็มีเยอะนะครับ แต่ไม่ใหญ่และครบวงจรแบบบ้านเรา เป็นยี่ห้อที่ผมไม่รู้จักครับ ต้องขออภัยที่ไม่สามารถให้ข้อมูลได้

ภัตราคาร ไม่หิวจริงๆอย่าสั่งมาเยอะนะครับ ขนาดอาหารแต่ละจานอลังการมาก ( อยู่ไปนานๆจะไม่แปลกใจ แต่ตอนไปใหม่ๆตกใจมาก จะกินหมดได้ไง ถ้าไปทานข้าวในภัตราคาร จะต้องห่อกลับมาบ้านทุกที ) อย่าลืมทิป 10% เป็นอย่างต่ำ งานบริการที่นี่ต้องทิปหมด ถ้าไม่ให้หรือลืมให้เขาจะทวง เคยไปตัดผมครั้งนึง เดินออกจากร้านมาแล้วช่างยังเดินตามมาทวงค่าทิป ( ก็เลยงงว่าตัดผมต้องทิปด้วยหรอ )

โดยรวมคิดว่าอย่าสุ่มเสี่ยงลองชิมดีกว่าครับ รสชาติไม่ถูกปากเอามากๆ แต่ถ้าใครมาถึงแล้วอยากลองก็คงห้ามกันไม่ได้ครับ

ธนบัตร เป็นสีเขียวเหมือนกันหมด เวลาจ่ายเงิน ให้ตรวจตราดูให้ดี แต่ถ้ามาหลายเดือนก็จะกลายเป็นบัตรเดบิทโดยธรรมชาติ เพราะทุกร้านรูดได้หมด ไม่เว้นร้านของชำ ( ต้องซื้อขั้นต่ำ 10 เหรียญถึงจะรับบัตร )

สถานที่ท่องเที่ยว ไม่ต้องซื้อ City Pass ให้เปลืองเงินนะครับ เดี๋ยวผมมีเทคนิคพาเที่ยวแทบไม่เสียตังค์


ตอบกลับความเห็นที่ 38
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 39
อมยิ้มเลยค่ะกับ you too late :)
ที่อเมริกานี่เรื่องเวลากับการนัดหมายเค้าตรงมาก

ปล. พิซซ่าฮัทกับ 7/11 ที่ฟลอริด้าก็มีนะคะ เพียงแต่ไม่หนาแน่นเหมือนไทย


ตอบกลับความเห็นที่ 39
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 40
ขอบคุณอีกครั้งคะคุณ saint of fire

มีแพลนว่าจะพาเด็กๆ ไปรู้จักมหานครฯ ของประเทศนี้หน่อย ณ ตอนนี้มองหาที่พักไว้แถวๆ ควีนส์คะ

ขอถามหน่อยซิคะ เด็กๆ ชอบร้าน ross กับ marshalls มาก (คราวที่แล้วไปได้เหล่าบรรดาซูเปอร์ฮีโร่ในดวงใจ ราคาถูกจากที่นั้น แต่ได้จากเมืองอื่นคะ) คราวนี้ พอเด็กๆ รู้ว่าจะพาไปนิวยอร์ก ถามหา 2 ร้านนี้ก่อนเลย
คุณ saint of fire พอแนะนำได้ไหมค่ะ ว่าแถวไหน น่าเดิน ของดี

ดิฉันเคยไปมาครั้งหนึ่งแล้ว จำไม่ได้แล้วค่ะ

ขอบคุณล่วงหน้าไว้ ณ โอกาสนี้คะ


ตอบกลับความเห็นที่ 40
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 41
อยากไปอยู่นิวยอร์กซิตี้จัง ความวุ่นวายของเมืองอาจจะทำให้ไม่รู้สึกเหงาหว้าเหว่


ตอบกลับความเห็นที่ 41
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 42
ลืมดูพระจันทร์อีกแล้วคืนนี้ คืนนี้เดือนหงายหรือเดือนคว่ำก็ไม่รู้นะ

เสียดาย ไม่ได้ชมเชยนิวยอร์คจนสมใจเลย นึกว่าจะได้อยู่นานๆ แป๊บๆต้องไปแล้ว โธ่ กำลังตกหลุมรัก nyc อยู่ทีเดียว


ตอบกลับความเห็นที่ 42
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 43
มานั่งรอเทคนิคเที่ยวแบบไม่เสียตังค์ค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 43
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 44
น่าไปเที่ยวมากๆ ค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 44
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 45
@Gwan พิซซ่าฮัทเนี่ย ถ้ามาเปิดนิวยอร์คก็คงเสี่ยงกับยอดขายอ่ะครับ เพราะส่วนแบ่งการตลาดคงโดนร้านรายย่อยแบ่งไปแล้วหลายเปอร์เซ็นต์ และแต่ละร้านก็มีเอกลักษณ์พิซซ่าเป็นของตัวเอง ถ้าผมเป็นเจ้าของเฟรนไซส์ก็คงจะไม่เสี่ยงล่ะครับ

ส่วนสเวนเซ่นก็คงขายยสกนะครับ เพราะนิวยอร์คไม่ใช่เมืองร้อน จะมีสักกี่คนที่อยากทานไอศครีมในหน้าหนาว แต่ทราบว่าแถบทางใต้เขตร้อนจะมีบ้างครับ แต่สู้อีกยี่ห้อนึงไม่ได้ ( ผมนึกชื่อไม่ออก ใครนึกออกบอกทีครับ )

สรุปคือผมยกย่องเจ้าของลิขสิทธิ์เฟรนไชส์ไทยครับ ที่ซื้อลิขสิทธิ์เขาไป แล้วนำไปดัดแปลงพัฒนาให้เหมาะกะเมืองไทยได้อย่างดีมาก ดีกว่าต้นตำรับเยอะเลยครับ

@jasdorn ร้านของเล่นก็ Toy R Us ไงครับ ( โทษทีผมลืมบอกไปว่าเป็นร้านขายของเล่น ) Time Square สาขานี้พิเศษนะครับ มีกิจกรรมและความครึกครื้น ที่หาไม่ได้ในสาขาไหนครับ ไม่ไปไม่รู้ต้องลองดูครับ แต่ถ้าผมมีลูก ผมไม่กล้าพาลูกไปนะครับ กลัวเขาไม่ยอมกลับบ้าน : )

@ม่องเท่ง ความวุ่นว่ยของเมืองไม่ได้เกี่ยวกับความว้าเหว่ในใจแต่อย่างใดครับ ผมเดินท่ามกลางคนเป็นพันบางครั้งน้ำตาก็ไหลออกมาได้ครับ คิดถึงบ้าน

@jasmin noir ผมไม่มีเทคนิคเที่ยวฟรีนะครับ มีแต่เทคนิคที่เสียเงินน้อยที่สุด เสียค่าผ่านประตู 1 ดอลล่าร์อะไรแบบนั้น Notthing Free especially New York ครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 45
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 46
เพือไม่ให้สับสน เพิ่มให้นิดนะคะ
เรื่องสนามบินกับ subway
นิวยอร์ค (รวมนิวเจอร์ซี่) มี 3 สนามบิน JFK, LaGuardia, Newark
จะเลือกไปที่ไหน ต้องดูเอานะคะ ไม่ใช่เฉพาะสาย E ที่ไปได้

แผนที่รถไฟ ถ้าใครใช้ iPhone ก็ไปโหลด app มาได้นะคะ ฟรี มีหลายอัน คล้ายๆ กันหมด

Barnes & Nobles ยังเหลือ อีกเยอะค่ะ แค่ใน NY ก็เกิน 40 สาขาหล่ะค่ะ
Ref: http://store-locator.barnesandnoble.com/storelocator/stores.aspx?pagetype=storeList&city=&state=NY&zip=#content

#40 คะ
อันนี้ store locator ของ Ross
http://www.rossstores.com/locator.aspx?form=locator_search&addressline=ny

Marshall
http://www1.marshallsonline.com/tjx/search_results.aspx


ตอบกลับความเห็นที่ 46
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 47
@Carry On ขอบคุณมากครับ เดี๋ยวผมจะรีบแก้ไขให้ครับ ลืมคิดไปเลย เพราะส่วนมากเขาลงที่ JFK กัน


ตอบกลับความเห็นที่ 47
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 48
7/11 ไม่จำกัดเฉพาะแหล่งท่องเที่ยวนะครับ ย่านชุมชนในเมืองก็มีเหมือนกัน พวกแขกทั้งนั้น แบบเดียวกับโดนัท

แล้วกับข้าวจีน 5$บอกว่าเป็นอาหารกรรมกร 55 คนอะไรดูถูกแม้กระทั่งกับข้าว แต่ผมว่ารดชาดอร่อยเลยแหละ

แล้ว3G ที่นี่ช้ามากๆเลยครับ แนะนำ4G เลยดีกว่าถ้าเสพติดโชเชียลมีเดีย

รถไฟใต้ดินที่นั่งข้างๆถ้าว่าง อย่าเอาของไปวาง หรือเอาเท้าไปก่าย โชคร้ายอาจโดนปรับ60$ โดนมาแล้ว


ตอบกลับความเห็นที่ 48
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 49
พึ่งกลับมาเดือนที่แล้ว ตอนออกจากสนามบิน JFK

กำลังจะหา Taxi ขึ้น ระวังด้วยนะคะเราโดนคนดำมาเรียกๆ

บอกว่า taxi อยุ่นี่ให้ตามเค้าไป ดีที่เคยอ่านมาก่อนเลยรู้ว่าต้องไปต่อคิว



เรื่อง Subway เราว่ามันก็ไม่น่ากลัวเท่าไรนะ

เรากลับบ้าน เที่ยงคืน ตีหนึ่ง ลง subway ไปต่อ bus

ยังไม่เจออะไรค่ะ แต่เราระวังตัวตลอด



เรื่องห้องน้ำ สำหรับเราหาไม่ยากนะ เราเข้าตามร้านอาหาร เช่น Mc Donald / Starbuck อะค่ะ

เรื่องท้องผูกนี่เป็นกันทุกคนเลย มันไม่ชินที่ฉีดก็ไม่มี ถ้าอยู่นานๆจะชินไปเองค่ะ 555
สาวๆพก baby wipes ไปด้วยจะดีมากๆค่ะ


เฮ้ออ พูดแล้วคิดถึง เราชอบเมืองนี้นะ อยากกลับไปอีกถ้ามีโอกาส ><


ตอบกลับความเห็นที่ 49
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 50
@นักฆ่าดาบเดียว กรรมกรก็เป็นผู้ใช้แรงงานประเภทหนึ่ง ผมไปดูถูกอะไรตรงไหน ร้านบะหมี่ที่ให้เส้นเยอะๆเขาก็เรียกบะหมี่จับกัง เขาใช้แรงงานเยอะ ต้องทานเยอะๆ ผมว่าคุณต่างหากที่อ่านแล้วแปลความหมายผิด คิดอคติไปว่ากรรมกรต้อยต่ำกว่าคุณ

ส่วน 4G มีครับ แต่จะมีมือถือสักกี่รุ่นที่รองรับ ถ้ารู้ไม่จริง ไม่ต้องโชว์ภูมิก็ได้ครับ

ส่วนเรื่องที่เท้้าคุณไม่อยู่สุขต้องเสียค่าปรับไป 60 ดอลล่าร์นี่ผมขอแสดงความเสียใจด้วยครับ คราวหน้าก็เก็บเท้าและเก็บปากให้เรียบร้อยด้วยนะครับ นานาชาติเขาจะได้ไม่ต้องมาดูถูกคนไทย กริยามันส่อสกุลครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 50
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 51
" คนอะไรดูถูกแม้กระทั่งกับข้าว" ว่างๆผมต้องบูชาซีอิ๊วกะมาม่าซะแล้ว ยิ่งชอบๆกินอยู่


ตอบกลับความเห็นที่ 51
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 52
NY มีคนแปลกแยก ต่างถิ่นเยอะ จนกระทั่งผมไม่รู้สึกแปลกแยก
ครั้งล่าสุดที่ไป ยืนรอซับเวย์อยู่ก็มีฝรั่งมาถามทาง

่เรื่องอันตราย ผมว่าลดลงจากแต่ก่อนเยอะ
สมัยโน้น(ที่มีmayorผิวสี ชื่อไรจำไม่ได้) ขึ้นซับเวย์จากjackson's height มีวัยรุ่นจีนมาดักหน้า
หาว่าผมเป็นพวกแก็งค์ไปฆ่าพี่ชายมัน ผมบอกไม่รู้และก็ไม่ใช่คนจีน
มันบอกว่าจะคอยจับตาดูผม และก็เดินตามจากสถานีถึงที่พัก....เออใจดี เดินมาส่ง
มันมาดักแบบนี้เป็นสัปดาห์ แล้วก็หายไป

เคยเจอฝรั่งขโมยจักรยานด้วย
เจ้าของจอดจักยานไปซื้อกาแฟ ไม่ผูกโซ่ แต่ถอดอานที่นั่งออก ไม่ให้ใครขี่ได้
ไอ้โจรมันคว้า ยืนขี่จักรยานทั้งๆที่ไม่มีอานนั่นแหละ เจ้าของเห็นโวยวายไล่ตาม
แต่ไม่ทัน


ตอบกลับความเห็นที่ 52
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 53
เจ้าของจักรยานเขาคงไม่ทราบน่ะครับ ว่าโจรเป็นเกย์ ( แซวเล่นนะครับ )

เรื่องที่คุณเจอนี่เป็นคนอื่นคงจะเหวอไม่น้อยเชียวครับ ไอ้หมอนั่นคงสติไม่ดี ที่มาประกาศว่ามันกำลังคิดร้ายกับใคร ที่ผมเคยเจอคือผมนั่งอยู่ที่ไทม์สแควร์ แล้วเจอขี้ยา เดินตาลอยมาเลยครับ มาจ้องหน้าผม จ้องอยู่นานสองนาน ผมก็เลยถามมันว่าจะเอายังไง มันก็ทำยียวนกวนประสาท แล้วถามว่าผมจะเอายังไง ( ต่อยกับมันไม่ได้นะครับ ถ้าคุณชนะคุณจะโดนส่งตัวเข้าคุกไปเสียค่าปรับ และได้ทัวร์ฟรีหนึ่งคืน ถ้าแพ้ก็โชคดีไป แต่เรื่องแบบนี้ใครจะอยากแพ้ล่ะครับ ) ผมก็เดินไปแจ้งตำรวจเลยครับ มันโชคดีที่ตำรวจคนนั้นเป็นคนสีผิวเดียวกับมัน ก็เลยไม่แยแสอะไร ทั้งๆที่เห็นอยู่ชัดๆว่ามันเมายา ผมไม่อยากจะนึกภาพมันไปเจอผู้หญิงเอเชียตัวเล็กๆ ในสถานีเปลี่ยวๆตอนดึกๆ


ตอบกลับความเห็นที่ 53
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 54
คุณ พระจันทร์เต็มดวง

เราก็โดนฝรั่งมาถามทางเหมือนกัน เค้าขึ้น subway ไม่เป็น 55

โดนคนจีนมาถามด้วย เราบอก ไม่ใช่คนจีนจ้าา


ตอบกลับความเห็นที่ 54
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 55
ขอบคุณที่ช่วยทำให้ระลึกถึงอดีต คงต้องหาเวลากลับไปเยือนอีกครั้ง

อยู่ที่นั่นพยายามปรับตัวให้เป็น New Yorker จะดี ถ้าทำเหรอหราเสร็จแน่ คนมีหลากหลายมาจากทุกมุมโลก (UN ยังอยู่ที่นั่นเลย)

ใครไป NYC แล้วไม่เจอดีเหมือนไปไม่ถึง หรือไม่ก็โชคดีไป แต่หากอยากเสี่ยงโชค คิดว่าน่ายังมีรถ bus ไป Atlantic city อยู่ ขึ้นที่ไหน ตั๋วเท่าไหร่จำไม่ได้แล้ว จำได้แต่เคยได้จาก slot หล่นมาให้ 800 เหรียญ Quarters จากที่นั่น เพราะอยากไปดูเมืองอื่นๆบ้าง เพราะผ่าน NJ ที่แตกต่างจาก NY เช่นกัน


ตอบกลับความเห็นที่ 55
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 56
เราว่าเราเคยเห็น Pizza Hut นะคะ ตรง 34st ระหว่าง 7ave กับ 8ave อ่ะค่ะ (หรือเราจำผิดหว่า จำได้ว่าเคยจะเข้าไปแต่เปลี่ยนใจไปกินอย่างอื่นแทน)

อ่านแล้วก็คิดถึง NYC มากๆๆๆ อยากกลับไปใช้ชีวิตที่นั่นอีกจัง


ตอบกลับความเห็นที่ 56
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 57
พระจันทร์ที่ผมบอกว่าองศาต่างจากบ้านเรา


ตอบกลับความเห็นที่ 57
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 58
วิวจากทางด่วนครับ New York เป็นสวรรค์ของนักถ่ายรูปเลยล่ะครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 58
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 59
สะพาน Brooklyn Bridge


ตอบกลับความเห็นที่ 59
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 60
วิวกลางคืนจากยอดตึก Empire State


ตอบกลับความเห็นที่ 60
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 61
อยากไปมากเลยครับ ขอบคุณเจ้าของกระทู้


ตอบกลับความเห็นที่ 61
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 62
อยากให้ จขกท เขียนหนังสืออ่ะครับ อยากซื้อ เขียนสนุกมากก


ตอบกลับความเห็นที่ 62
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 63
เพิ่มเติม

คนที่จะไปเที่ยว Manhattan แล้วต้องลงเครื่องจาก JFK หรือ LGA ก็ตาม
สามารถเรียกรถ shared van ได้ด้วย พอลงเครื่องปุ๊บ บริเวณที่รับกระเป๋าจะมีแผงโทรศัพท์ ลองถามกับพนักงานสนามบินแถวๆ นั้นก็ได้ค่ะ ทุกคนเป็นมิตรดี

เรานั่ง shared van จาก JFK ถึงที่พักเลย แถมวันกลับก็นัดให้เค้ามารับด้วย สบายมาก


ตอบกลับความเห็นที่ 63
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 64
อ่านแล้วคิดถึงนิวยอร์ค โซโห ทามสแควร์ 5555


ตอบกลับความเห็นที่ 64
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 65
@ted_chen ผมก็มีข้อมูลแค่เท่าที่ผมทราบล่ะครับ มิบังอาจจะไปเขียนหนังสือแต่อย่างใด เขียนให้อ่านกันฟรีๆนี่แหละครับ มีความรู้เทคนิคดีๆก็นำมาแบ่งปันครับ ดีกว่าปล่อยให้มันตายไปกับเรา หรือสูญหายไปตามกาลเวลากับความทรงจำของเรา


ตอบกลับความเห็นที่ 65
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 66
ชาว New York เค้าไม่ค่อยรับโทรศัพท์กันสักเท่าไหร่หรอกนะครับ

ถูกต้องเลยครับ แต่คนไทยส่วนมาก (ที่เคยโทรไปหาผมเรื่องของาน)
เขาก็ไม่ชอบที่จะ leave message ใว้อีกเช่นกัน

อย่างนี้เราคงไม่ได้คุยกัน เล่าเรื่องนิวบอร์กได้ดีมากครับ และรูปถ่ายก็ดีครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 66
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 67
ขอบคุณสำหรับข้อมูลนะคะ

เราชอบ New York ใฝ่ฝันว่าซักวันหนึ่งจะได้ไปเที่ยวไปเหยียบซักครั้ง (ความฝันสุดๆ)

แต่ที่ จขกท.เขียนเราอ่านละเอียดทุกตัวอักษรเลย ทั้งๆที่ไม่รุ้จะได้ไปเมื่อไหร่ ขนาดจะไปเที่ยวใกล้ๆนี้ยังไม่อ่านรีวิวละเอียดขนาดนี้ 55

อยากอ่านอีกน่ะค่ะ ว่าไปเที่ยวไหนมาบ้าง ที่โน่นที่นี่เป็นอย่างไรบ้าง ชอบสำนวนการเขียนของจขกท.มากๆค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 67
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 68
ขอขอบคุณ คุณ QWERTY-BB9700 มากครับ กีบให้แทบทุกความเห็นเลย ขอให้ข้อความเป็นประฌยชน์แก่คุณครับ

@hollywop << นี่ก็เป็นอีกท่านนึงที่คอยช่วยตอบปัญหาให้คนไทยในต่างแดน หลายๆคำตอบของท่านเป็นประโยชน์ต่อผมครับ ขอขอบคุณอีกครั้งครับ

@CherrYSuN ผมพยายามเขียนให้แปลความหมายได้ง่าย สำนวนอาจจะเหมือนมือสมัครเล่น แต่คงดีเสียกว่าถ้าใส่ความเห็นส่วนตัวลงไปเยอะๆแล้วสร้างความสับสนให้คนอ่านครับ ข้อมูลที่เขียนเป็นประสบการณ์ตรงแต่ไม่ใช่ข้อเท็จจริงครับ ยังไงก็ขออภัยนะครับ เพราะเขียนจากความทรงจำล้วนๆ ไม่ได้เปิด Google ช่วยเลย ตอนนี้กำลังเขียนอธิบายข้อมูลภาพรวมของ New York ให้อ่านง่าย เด็กๆก็สามารถอ่านเข้าใจได้อยู่ครับ ใช้เวลาสักระยะครับ ก่อนจะปิดท้ายด้วยรูปภาพ ( ป้องกันกระทู้โหลดยาก )


ตอบกลับความเห็นที่ 68
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 69
จำได้ว่าตอนไปเที่ยวพี่ที่เป็นเจ้าของบ้านที่เราไปพักยำ้นักยำ้หนาว่าอย่าเผลอขึ้น subway ไปแถวเขต Bronx เด็ดขาด!

คุณขนมฮ่าๆ: เราเจอเหมือนกันค่ะที่ port มาช่วยแบกกระเป๋าเสร็จแล้วบอกขอเงินดอลล์นึง เลยให้ไปเพราะท่าทางเขาน่ากลัวอยู่ ;(


ตอบกลับความเห็นที่ 69
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 70
อ่านแล้วคิดถึง NYC อยากกลับไปอีกครั้งจัง


ตอบกลับความเห็นที่ 70
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 71
สภาพเสารถไฟ Subway ของจริง ที่ไม่สามารถหาดูได้ในหนัง Hollywood


ตอบกลับความเห็นที่ 71
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 72
สภาพถนนจริงในนิวยอร์ค ผมว่าถนนเมืองไทยแย่แล้ว ที่นี่ไม่ยอมน้อยหน้ากันเลยทีเดียว


ตอบกลับความเห็นที่ 72
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 73
รถไฟใต้ดินที่ผมบอกว่าทั้งเก่าและสกปรก บางครั้งก็มีน้ำย้อยลงมาจากด้านบน ต้องระวังกันเอาเอง ตกดึกประมาณตีสองจะมีการล้างกันทุกวันนะครับ ระวังไถล


ตอบกลับความเห็นที่ 73
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 74
ไฟเขียวไฟแดงใช้ระบบควบคุมโดยคอมพิวเตอร์ครับ ถ้าแดงจะแดงพร้อมกันหมด ถ้าเขียวจะเขียวยาวไปตลอดทาง โดยส่วนตัวผมว่าน่าจะคำนวนดีเลย์สักนอดนึงครับ เพราะไปได้แค่สามแยกห้าแยกก็ติดแดงอีกแล้ว เพราะไม่ได้คำนวนเผื่อระยะเวลาที่เราใช้วิ่งไปครับ ( หรืออาจจะจำกัดไว้ เพื่อไม่สามารถให้ขับเร็ว )


ตอบกลับความเห็นที่ 74
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 75
จริงๆ แล้วอยากไปเที่ยวนิวยอร์คมากๆ เลยค่ะ อ่านแต่ละอย่างแล้ว แคลิฟอร์เนียน่าอยู่กว่าเนอะ
ยิ่งเมืองเรา Pizza Hut 7-eleven มีอยู่ใกล้ๆ บ้านแต่พิซซ่าเค็มไม่อร่อย 7 ของกินก็ ไม่น่ากินซักเท่าไร
และ Mc อร่อยกว่า Burger King รถต่อคิวกันยาวเหยียด Burger King เงียบได้ใจ
ที่นี่ถ้าคืนของ ได้เงินคืนรวมภาษีกลับมาด้วยอีกต่างหาก เราชอบรูปของ จขกทค่ะ เห็นแล้วคิดถึง
แอล เอ ดีดีนี่เอง เก่าเสื่อมโทรม คนไร้บ้านเยอะ ไม่ได้เหมือนในหนังที่เราดูๆ กันเล้ย


ว่าแล้ว ถ้ายังไม่ตัดสินใจไป นิวยอร์ค เปลี่ยนมาเที่ยว แคลิฟอร์เนียก่อนก็ได้นะคะ (เอ๊าา )


ตอบกลับความเห็นที่ 75
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 76
เรานะ จนบัดนี้ก็ยังไม่ได้กินพิซซ่าไอ้ตรงใต้สะพานบรุ๊คลินเลย คิวยาวมหากาพย์ละเกิ๊นน


ตอบกลับความเห็นที่ 76
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 77
ภาีพ คห72

ยังไงก็ยังดีกว่า กทม แน่นอนครับ
ใครท้องแก่ๆ เจอถนน กทม บางช่วง
อาจคลอดในรถได้

55555


ตอบกลับความเห็นที่ 77
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 78
ความคิดเห็นที่ 58

หากว่าเลื่อนกล้องลงไปทางซ้ายอีกนิหน่อย ก็น่าจะเห็นบ้านของผม อยู่แถวๆนั้นใกล้แม่น้ำนั้นแหละ ได้เห็นพระจันทร์ขึ้นบ่อยๆครับ เพราะว่าอยู่ทาง East หากว่าไปทาง West จะเห็นพระอาทิตย์ตกสวยๆทุกๆวัน แต่ผมไม่ยักรู้ว่าไม่เหมือนกับในเมืองไทย อย่างไรก็ตาม หากว่าไปนั่งที่ม้านั่งใกล้ๆแม่น้ำ จะมีคนมาชวนคุยแก้เหงา และดูพระจันทร์ไปด้วยกัน 555

ผมเข้ามาช่วยเติมอีกนิดหน่อยแล้วกันว่า หากว่าไปเดิน shopping แถวๆถนน Broadway เริ่มไปตั้งแต่ Houston ไปจนถึง Canal จะมีของให้ซื้อได้มากมาย ยิ่งถ้าเลี้ยวขวาไปทาง SOHO ของแปลกๆยิ่งมากขึ้น ไม่จำเป็นต้องออกไปซื้อนอกเมืองที่ Woodbury Commons ครับ

แถวๆถนน Fifth Avenue ก็มีร้านดีๆเกลื่อนถนน อยากจะได้ Brand name ออกไปเลือกได้ตามร้านบนถนน Madison Avenue ตั้งแต่ 50-80 ประมาณนี้นะครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 78
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 79
@LAPD21 รูปที่ผมลงคือธรรมดาครับ ไม่ได้ถ่ายอันแย่ที่สุดมาให้ดู สาเหตุที่มันแย่เพราะเปลี่ยนนายกเทศมนตรีบ่อย เลยต้องขุดกันบ่อย

@76 Walk more elegantly. คุณหมายถึง พิซซาเรียแห่งนี้ใช่ไหมครับ วันที่ผมไปคนก็ไม่เยอะมากครับ แถวยาวแค่ยี่สิบกว่าเมตร ถ้าผมเป็นเจ้าของ Pizza Hut ก็คงไม่กล้าแข่งด้วยจริงๆ


ตอบกลับความเห็นที่ 79
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 80
แก้ไขรูปครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 80
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 81
สถานที่ท่องเที่ยว

โดยมาจะเป็นการแนะนำให้ซื้อ City Pass ราคา 89 ดอลล่าร์ แต่ผมมีเทคนิคที่ทำให้ท่านสามารถเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวชั้นนำได้ถูกที่สุดอย่างเหลือเชื่อ

Central Park สวนสาธารณะที่ใหญ่ที่สุดในโลก เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีคนมาเยือนเยอะที่สุดในโลก หากตีราคาก็คงแพงที่สุดด้วยเช่นกัน มีขนาดสองพันกว่าไร่ใจกลางเมือง เราอาจเคยได้ยินนโยบายป่าล้อมเมือง ที่นี่เมืองล้อมป่าครับ แนะนำให้ไปช่วงฤดูใบไม้ร่วงครับ เพราะต้นไม้จะเปลี่ยนสีไม่่พร้อมกัน และแต่ละสายพันธุ์ก็เปลี่ยนสีไม่เหมือนกัน ต้นละสีดูแปลกตา ถ่ายรูปออกมาอวดใครไม่อายเลยครับ มีคอนเสิร์ตและกิจกรรมฟรีมาเล่นที่นี่นบ่อยๆเช่นกัน


ตอบกลับความเห็นที่ 81
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 82
คิดถึงมากๆ <3


ตอบกลับความเห็นที่ 82