เคยไปพักโรงแรมแล้วโดนผีหลอก แต่มีเหตุที่จะต้องกลับไปนอนโรงแรมนั้นอีก ทำไงดีอะคะ

ขอเล่าถึงความกังวลใจก่อนเลยนะคะ

คือเรารับราชการอยู่หน่วยงานหนึ่งในกรุงเทพนี่แหละค่ะ ซึ่งหน่วยงานเราก็จะมีการจัดอบรมหรือสัมนาโดยพาเจ้าหน้าที่ไปทำกิจกรรมต่างจังหวัดเป็นประจำทุกๆปี หรือไม่ก็อาจจะมีการอบรมของกระทรวงที่หน่วยงานเราสังกัดอยู่บ้างอะไรบ้าง รวมๆแล้วก็ประมาณปีละ 4-5 ครั้งค่ะ และโดยส่วนใหญ่แล้ว ถ้าไปจังหวัดใดก็มักจะนอนโรงแรมเดิมๆทุกครั้ง(ประมาณว่าพอเรารู้จังหวัดที่จะไป เราก็จะสามารถบอกชื่อโรงแรมได้เลย เพราะบางที่ก็ไปซ้ำมาเป็น10 รอบ)

เกริ่นมานานขอเข้าเรื่องดีกว่าค่ะ555
คือเมื่อประมาณเดือนมีนาคมที่ผ่านมาเราได้ไปสัมนาที่เขาใหญ่ค่ะ โดยหน่วยงานได้จัดให้เข้าพักที่รีสอร์ทแห่งหนึ่ง2 คืน(ที่เจ้าของชื่อว่าปีใหม่ไทยค่ะ)
ลักษณะที่พักจะเป็นอาคารสองชั้นโดยมีห้องพักเรียงติดกันไป เราได้อยู่ห้องชั้น 2 ค่ะ พอเราเข้าห้อง เราก็เริ่มสำรวจโน่นนี่ตามประสา ก็เลยเดินไปเปิดม่านในส่วนที่จะออกไประเบียงอะค่ะ

โอ้วววว แม่เจ้า ห้องเราอยู่ตรงตำแหน่งศาลพระภูมิและศาลตายายพอดีเป๊ะเลยค่ะ อยู่ตรงชนิดที่แบบว่าเราไม่กล้าเดินออกไปที่ระเบียงเลยค่ะ เพราะเกรงว่าเหมือนจะไปยืนอยู่ด้านบนของศาลเลย

เราเลยหันไปบอกแฟนที่จะนอนด้วยว่า เธอๆห้องเรานี่ปลอดภัยนะ มีทั้งป้อมยาม มีทั้งศาล(คือว่าเราเป็นสาววายอะคะ หน่วยงานเลยสามารถจัดให้นอนด้วยกันได้555) จากนั้นเรากับแฟนก็ลงไปจุดธูปไหว้ศาลและบอกเจ้าที่เจ้าทางค่ะว่า มาขออาศัยชั่วคราว ไม่ได้มาทำอะไรไม่ดี ขอให้คุ้มครองเราด้วย

จากนั้นก็เข้าอบรมจนกลับมาถึงห้องพักตอนประมาณ 4 ทุ่ม แฟนเราเค้าบ่นปวดหัวก็เลยกินยานอนหลับไป เราก็เลยนั่งเปิดทีวีแล้วนั่งดูอยู่ปลายเตียง โดยเราเปิดเสียงทีวีให้เบาที่สุดค่ะ เพราะกลัวว่าแฟนจะตื่น

จากนั้นเราก็นั่งดูรายการข่าวไปเรื่อยๆ อ่านมาถึงตรงนี้ลองนึกภาพตามนะคะ เรานั่งจ้องดูภาพข่าวในทีวีตามปกติ โดยที่มือเราไม่ได้ถือรีโมทไว้ค่ะ ระหว่างที่เรากำลังจ้องทีวีอยู่ อยู่ๆมันก็มีแถบเมนูปรกฎขึ้นบนหน้าจออะค่ะ เป็นเมนูเร่งเสียง นึกภาพออกมั้ยคะ ที่พอเรากดแล้วมันจะเป็นแถบๆเพิ่มขึ้นเรื่อยๆอะค่ะ แล้วเสียงทีวีมันก็ดังขึ้นจริงๆ

สิ่งแรกที่เราทำตอนนั้นคือหันหลังกลับไปมองแฟนเราเลยว่าเค้าเป็นคนกดรีโมทรึเปล่า ปรากฎว่าแฟนเราหลับสนิทเพราะฤทธ์ยาแบบเราเขย่าตัวเค้ายังไม่ตื่นเลยค่ะ เราก็เลยปรายตามองหารีโมท ปรากฎว่ามันนอนนึ่งอยู่ตรงชุดเก้าอี้รับแขกค่ะ เนื่องจากตอนที่เราเข้าห้องมาตอนแรกนั่งดูทีวีตรงนั้น เราก็เลยสวดมนต์และนอนทันทีเลยค่ะ จำได้ว่าเรานอนนี่แทบจะมุดเข้าไปอยู่ในตัวแฟนเลย555

จนเช้าวันรุ่งขึ้น เราก็ไม่ได้เล่าให้แฟนฟังนะคะ เพราะเดี๋ยวเค้าจะกลัวค่ะ ก็ตื่นมาเข้าอบรมตามปกติ จนช่วงเย็นทางหน่วยงานเรามีงานเสี้ยงค่ะ เราก็เลยนั่งดื่มกับเพื่อนๆจนคิดว่าตัวเองสามารถกลับไปแล้วนอนหลับได้เลย555 พอได้ที่ละก็แยกย้ายกันกลับห้องนอนค่ะ คืนนั้นก็ผ่านมาได้ด้วยดี

ตื่นมาวันที่3 วันนี้เป็นวันสุดท้ายละ(แอบดีใจจะได้กลับบ้านซะที)
เราลุกจากที่นอนเพื่อจะไปอาบน้ำเพราะเรานัดพี่ๆไว้ที่ห้องอาหารตอน8 โมง จากนั้นเราก็เดินถือผ้าเช็ดตัวเข้าห้องน้ำไป (ห้องน้ำจะอยู่ติดกับประตูหน้าห้องค่ะ) และเวลาอาบน้ำโดยส่วนมากถ้าเรานอนห้องเดียวกับแฟนเราจะไม่ปิดประตูค่ะ เพราะบางทีเค้าก็จะเดินเข้ามาแปรงฟันหรือทำธุระส่วนตัวบ้างอะไรบ้างระหว่างที่เราอาบน้ำ และครั้งนี้ก็เหมือนกันเพราะคิดว่าเดี๋ยวสักพักแฟนเราก้คงจะตามเข้ามาอาบน้ำด้วย เพราะมันไกล้เวลานัดแล้ว

ระหว่างที่เรายืนแปรงฟันอยู่หน้ากระจก ซึ่งมันอยู่ติดกับประตูห้องน้ำที่มันเปิดอยู่ ทันใดนั้น หางตาเราก็เห็น(มั่นใจ100% ว่าเห็น)ว่ามีผู้ชายตัวใหญ่ผิวดำ นุ่งโจงกระเบนสีแดง เดินผ่านหน้าประตูห้องน้ำไปค่ะ และทิศทางการเดินคือเหมือนเดินมาจากในห้องแล้วผ่านหน้าห้องน้ำและออกไปยังประตูของห้องอะค่ะ ตอนนั้นเราตัวเย็นวาบเลย รู้สึกกลัวมากๆค่ะ ก็เลยไปเปิดผ้าม่านในห้องน้ำที่จะสามารถมองออกไปยังเตียงนอนได้อะค่ะ เพื่อดูปรากฎว่าแฟนเรายังนอนหลับปุ๋ยอยู่บนเตียงอยู่เลย เราก็ทำใจดีสู้เสืออาบน้ำต่อไปจนเสร็จ

จากนั้นก็เดินออกมาปลุกเค้าเพื่อให้ลุกไปอาบน้ำ ระหว่างที่แฟนเราอาบน้ำ เราก็เก็บกระเป๋า จัดของโน่นนี่ อยู่แถวตู้เสื้อผ้าหน้าประตูค่ะ สักพักแฟนเราก็โผล่หน้าออกมาจากห้องน้ำบอกว่าทำไมไม่เปิดประตูดูว่าพี่เค้ามาเรียกรึเปล่า ปล่อยให้เค้าเคาะอยู่ได้ตั้งนานสองนาน คือเราเอ๋อเลยค่ะ บอกว่าเรายืนอยู่หน้าประตูห้องเลยเนี่ย ไม่เห็นได้ยินเสียงใครมาเคาะอะไรซักแอะ แฟนเราก็เถียงว่าเค้าได้ยินเสียงเคาะประตูแบบดังมากๆและเคาะอยู่ประมาณ2 นาที จนเค้าต้อชะโงกหน้าออกมาบอกให้เราเปิดประตู ตอนนั้นเราก็กลัวขึ้นมาอีกแล้ว รีบเก็บของและรีบเช็คเอ๊าท์เลยค่ะ  

พอกลับเราก็เลยเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้ฟัง แฟนเราก็ทำหน้าตกใจและบอกว่าคืนที่ 2 เค้าฝันว่า มีผู้หญิงชุดขาวเดินมาจากประตูหน้าห้องและมานอนทับลงที่ตัวเค้า แต่เค้าไม่ทำอะไรนะ เหมือนมานอนพิงเค้าเฉยๆ ตอนนั้นเราคิดอย่างเดียวว่าเราไม่ไปอีกแล้ว เรากลัว

แต่ๆๆ เมื่อวันศกร์มีหนังสือของหน่วยงานแจ้งว่าจะต้องไปอบรมที่นั่นอีกในช่วงต้นเดือนมกราค่ะ โดยมีรายชื่อเจ้าหน้าที่ชุดเดิม จำนวนเท่าเดิม และนอนห้องเดิม อ๊ากกกกก

เราเลยนั่งคิดมาก ไม่อยากไปเลยอะค่ะ หรือไม่ก็คงจะต้องไปขอนอนกะเพื่อนห้องอื่น แฟนเราเค้าก็กลัว พูดกันไปพูดกันมาจิตใจก็ยิ่งย้ำแย่กันไปใหญ่  เล่ามาตั้งนานแค่อยากจะถามว่าเพื่อนๆจะต้องเตรียมตัวเตรียมใจยังไงดีคะ
ความคิดเห็นที่ 1
เป็นผม จะรีบกลับไปพักที่นั่นอีกรอบ และขอเป็นชั้นเดิม ห้องเดิม ด้วย

อยากทดลองว่าจะกลับมา หลอกเราต่ออีกไหม? ยังจำเราได้หรือเปล่า?

.
.
.
.
ผีหลอก ยังดีกว่า เจอคนหลอกลวง นะครับ
ตอบกลับความเห็นที่ 1
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 2
ทำใจ
ตอบกลับความเห็นที่ 2
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 3
ตั้งvdoถ่ายรอไว้เลยครับ :D
ตอบกลับความเห็นที่ 3
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 4
ผมว่าแค่เปลี่ยนห้องก็น่าจะจบครับ เพราะจากที่คุณเล่ามา ห้องนี้อาจอยู่ในตำแหน่งที่ไม่เหมาะสม

ถ้าไม่มั่นใจ นิมนต์พระให้เต็มคอเลยก็ดีครับ


อ้อ อย่าลืมทำบุญ กรวดน้ำ แผ่กุศลให้สรรพวิญญาณที่คุณพบด้วยนะครับ
ตอบกลับความเห็นที่ 4
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 5
ป้าที่รู้จักเคยโดนสุกี้น้ำหลอกแต่ก็ไปที่เดิมเพราะไม่รู้จาไปพักที่ไหนค่ะ
ประมาณว่า รู้เขาหลอกแต่เต็มใจให้หลอก อิอิ
ตอบกลับความเห็นที่ 5
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 6
นึกออกแต่วิธีฮาๆ และไร้สาระ เลยเกรงใจเจ้าของกระทู้...
ตอบกลับความเห็นที่ 6
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 7
แนะนำทำสังฆทานให้เค้าเลยค่ะ
ระบุไปเลยว่าเป็นจิตวิญญาณที่อาศัยอยู่ใน(ชื่อสถานที่)
และบริเวณใกล้เคียง
บอกว่าข้าพเจ้า(ชื่อเรา)และหมู่คณะ
ได้มาอาศัย(เพื่อทำอะไรก็ว่าไป)
ไม่ได้มีเจตนาลบหลู่ (ประมาณนี้)

ถ้าเป็นไปได้ควรเป็นทั้งสังฆทานอาหาร
และสิ่งของที่พระภิกษุสงฆ์ต้องใช้
เอาหนังสือสวดมนต์ไปสวดก่อนนอน
แผ่เมตตาให้เจ้าของสถานที่
และเจ้ากรรมนายเวรด้วย

ขอให้โชคดี
ตอบกลับความเห็นที่ 7
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 8
อันดับแรก ขอย้ายห้องค่ะ
2. ก่อนเข้าห้อง เคาะประตูก่อนค่ะ ทั้งประตูหน้าและประตูห้องน้ำ ให้เค้ารู้ตัว
3. ขยับเตียงไม่ให้อยู่ที่เดิม ให้เอียงไปทางไหนก็ได้
4. ไหว้เจ้าที่เจ้าทาง บอกว่ามาขอนอนที่ห้องนี้ เป็นเวลากี่คืน ขอให้นอนหลับสบายตื่นเช้า
มาด้วยความสดชื่น
5. วางเหรียญ 5 หรือ 10 บาท บนหัวเตียง บอกขอซื้อที่นอนค่ะ
6. ก่อนนอนสวดมนต์
ทำอย่างนี้แล้วจะไม่เจอค่ะ จิงๆ นะ
ตอบกลับความเห็นที่ 8
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 9
ถ้าไม่มองว่า แย่มากนัก
ก็เปลี่ยนให้เป็นโอกาสเลยครับ
2ตัว 3 ตัว
อะไรก็ว่าไปครับ

เราก็ช่วยอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้เขาด้วย
ตอบกลับความเห็นที่ 9
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 10
ตั้งกล้องถ่ายไว้เลยครับ

เพราะผีกลัวกล้อง  ตั้งกล้องถ่ายไว้ทีไรไม่เห็นมา
ตอบกลับความเห็นที่ 10
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 11
สวดมนต์ก่อนนอนค่ะ    เราเคยเจออะไรทำนองนี้ครั้งนึง หลังจากนั้น เวลาพักนอกบ้านเราพกหนังสือสวดมนต์ไปด้วยตลอด แล้วสวดมนต์ก่อนนอนทุกคืน เราจะเลือกบทที่เน้นไปทางกันภัยค่ะ  
นอกจากจะไม่เจออะไรแล้ว ที่แปลกคือหัวถึงหมอนก็หลับสนิทถึงเช้าโดยไม่รู้สึกแปลกที่เลยค่ะ
ตอบกลับความเห็นที่ 11
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 12
หึ หึ หึ...

แอลกอฮอล์จัดหนัก หลับเลยค่ะ
ตอบกลับความเห็นที่ 12
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 13
ตาม คห 12 ครับ
ผมค้างไหน ไวน์คูลเลอร์ 3 ขวด หลับสนิทถึงเช้า
ตอบกลับความเห็นที่ 13
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 14
เหมือน 12 และ 13
เบนมอร์ โซดา โค้ก น้ำแข็ง
แถวหน้าโรงแรมหาซื้อง่าย ร้านอาหารขวามือก็มี
ไปมาทุกที่โรงแรมแถวเชียงใหม่อย่างเน่า ลาว อย่างเก่า
ไม่มีผึตัวไหนฝ่าด่านความเมา มาหลอกได้เลย
ตอบกลับความเห็นที่ 14
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 15
เอ...ปกติ  หน่วยงานราชการจัดอบรม

เขาจัดให้พักห้่องนึง 2 คนนี้ครับ


เปิดห้องให้พัก 1 ห้อง 1 คน เลยหรือครับ...
ตอบกลับความเห็นที่ 15
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 16
บอกคุณป๋องที่จัดรายการทีวีเกี่ยวกับวิญญานตามไปถ่ายด้วย

ตอบกลับความเห็นที่ 16
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 17
ขอบคุณทุกๆความเห็นมากนะคะ จะเอาวิธีการที่แนะนำมาไปใช้ให้หมดเลยค่ะ
------------------------------------

ตอบคุณ ฮิมดอยค่ะ นอนห้องละ2คนค่ะ โดยคราวนี้ก็ได้นอนกับแฟนเหมือนเดิม ซึ่งต่างคนต่างกลัวค่ะ สรุปคือกลัวทั้งคู่555
ตอบกลับความเห็นที่ 17
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 18
เคยท่องบทสวดมนต์ แต่น้องผีทักเสี่ยว่าท่องผิดน่ะ
เขินน้องผีเลย
ตอบกลับความเห็นที่ 18
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 19
พมีวิธีแก้ง่ายๆ แก้ผ้านอนครับ ต้องมีตกใจกันไปข้างนึง
ตอบกลับความเห็นที่ 19
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 20
#18  
ตอบกลับความเห็นที่ 20
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 21
หมอดูญาณท่านหนึ่งแนะนำว่า ก่อนนอนให้สวด พุทธังสะระณังคัจจามิ
ธรรมมังสะระณังคัจฉามิ สังฆังสะระณังคัจฉามิ
ตอนสวดให้ชี้นิ้วเป็นวงกลมให้ครบรอบพอดีครับ
ตอบกลับความเห็นที่ 21
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 22
ไกด์ที่เดินทางบ่อยบอกว่าให้ยกมือไหว้ขออนุญาตนอน แล้วขยับเตียงไปจากเดิมนิดนึง ถือเคล็ดไม่ให้ทับที่เค้า
ถ้าเจอจังๆแผ่เมตตาแล้วไม่ไป คงต้องเชิญท่านท้าวเวสสุวรรณคุ้มครองแล้วค่ะ
...เคยเจอทราบดีว่าทรมานขนาดไหนกว่าจะเช้าเนี่ย
ตอบกลับความเห็นที่ 22
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 23
ผีมันอยู่ในใจคุณนั่นแหละ
ตอบกลับความเห็นที่ 23
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 24
ไปห้องเดิมครับ แล้วก็ไปรอเล่นจ๊ะเอ๋กับคุณผี
ตอบกลับความเห็นที่ 24
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 25
ไล่ก็ไม่ไปนะเออ.. ท่าจะเป็นเจ้าที่เจ้าทาง..   ทำใจอย่างเดียว
ตอบกลับความเห็นที่ 25
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 26
ได้เวลาเอาคืน
ตอบกลับความเห็นที่ 26
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 27
ก่อนนอนก็ไหว้พระและบอกเจ้าที่เจ้าทางว่าเรามาดีไม่ได้มารบกวน และขอให้สิ่งศักดิ์คุ้มครองคะ เท่านี้ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นแล้วคะ  หลับสบายถึงเช้าเลย
ตอบกลับความเห็นที่ 27