[สอบถาม] อยากให้แนะนำ สถาบันสอนภาษา หรือ สถาบันวิชาชีพด้านเทคโนที่รับคนไม่มีพื้นฐาน ในญี่ปุ่นที่ราคา

ส่วนตัวมีความรู้ภาษาญี่ปุ่นอยู่แล้วในระดับหนึ่ง จะเรียนจบมหาลัยแล้ว อยากไปเรียนภาษาให้สามารถสื่อสารพูดคุยได้แบบจริงจัง เพราะไม่มีทักษะด้านการพูดแล้วก็เขียนเลย (ให้ทำก็ทำได้แต่แบบติดๆขัดๆ มันไม่ใช่เอาไปใช้ได้จริงในสังคมแม้แต่น้อย) ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าจะมีปัญญาได้ N1 ในไทยก่อนไปรึเปล่าก็ได้แต่หวัง

อยากให้ผู้รู้แนะนำ สถาบันภาษา ที่ค่าเรียนต่ำ คุณภาพหรือค่าเรียนกลางๆแต่ชดเชยด้วยงานพิเศษที่หาได้ง่าย เงินดีและใช้ทักษะทางสังคมอะไรพวกนี้ครับ

หรือถ้าเป็น สถาบันวิชาชีพ อยากให้ช่วยแนะนำสถาบันวิชาชีพด้านเทคโนฯที่รับคนไม่มีความรู้ด้านนั้นเลยอ่ะครับ คือมาทางด้านสายเฉพาะด้านสังคม แต่อยากไปเรียนพวกเทคโน สร้างหุ่นหรือวงจรอะไรพวกนี้ครับ

ค่าเรียนที่อยากได้ประมาณ 300,000-500,000 yen ต่อปี สำหรับสถาบันสอนภาษา ถ้าวิชาชีพ 600,000 ขึ้นก็โอเคอ่ะครับ ใครทราบหรือเคยสถาบันอะไรพวกนี้มาช่วยแนะนำหน่อยครับ

สอบถามไว้เป็นทางเลือกในอนาคตของผมอ่าครับ เผื่อทุกอย่างไม่เป็นไปตามที่หวัง ทุนไม่ได้ โทไม่ติด อะไรแบบนี้ แต่ไม่อยากรบกวนบ้านมากไป โตแล้วแท้ๆแต่ยังไม่มีปัญหาเงินแบบจริงๆจังๆ เซ็งตัวเองเหมือนกัน

ขอบพระคุณทุกท่านที่มาช่วยตอบนะครับ

ปล.ตะกี้ไปตั้งผิดห้อง ไปตั้งห้องสมุดซะงั้น

ความคิดเห็นที่ 1
เลือกให้ได้ก่อนดีกว่าไหมคะว่าจะเข้ารร.สอนภาษาหรือว่าเข้าวิชาชีพเซมมง (^^")

เซมมงหลายๆที่ก็รับเข้าเรียนแบบที่ไม่มีพื้นฐานค่ะ
แค่ตอนตอบเข้าสอบผ่าน และ สามารถจ่ายค่าเทอมได้ก็ไม่มีปัญหา
ถ้าเป็นเซมมงที่ไม่ได้มีชื่อเสียงสูงมากเกิน มักรับที่ได้ภาษาระดับสอง
แต่ถ้าสื่อสารรู้เรื่อง ทำข้อสอบผ่าน สัมภาษณ์อาจารย์ถูกใจก็เข้าได้

ความเห็นของเรา แนะนำให้เลือกสถานที่ๆมีคอนเนคชั่นค่ะ

คุณจขกท เลือกก่อนว่าอยากทำงานที่ญี่ปุ่นไหม? อยากทำงานด้านสายงานไหน
ถ้าคิดว่าอยากแค่ได้ใบรับรองแล้วหางานต่อที่ไทยก็เลือก โรงเรียน เลือกสิ่งที่สนใจตามสะดวก

ถ้าอยากมีโอกาสสูงขึ้นในการหางาน แนะนำให้มองหาเครือข่ายค่ะ
เช่น เซมมงชื่อ เอ เป็นเสมือนสถานที่สร้างบุคลากรของ บริษัท บี
ถ้าเรียนดี เข้าเรียนเกือบร้อยเปอร์เซ็น โอกาสที่อาจารย์ผลักเข้าทำงานในบริษัทต่อก็จะมีสูงมาก

เรื่องการหางานพิเศษที่พอจุนเจือกับค่าเรียนและค่าใช้จ่ายได้ แนะนำให้ทำงานที่โรงงานค่ะ
แต่เรื่องได้งานที่ไหน จะหางานแบบไหนได้นั้น ต้องแล้วแต่โอกาสและดวงของคุณเองค่ะ
หรืออาจจะหางานอื่นทำได้ แต่เลือกทำหลายที่และเหนื่อยเพิ่มขึ้นหน่อย

เราเห็นหลายคนทำงานที่โรงงานได้เงินราวๆเดือนละแสนเยนพอที่จะเก็บและใช้จ่ายได้แบบประหยัด ไม่รบกวนทางบ้านและมีค่าเทอมค่าอยู่กินได้ค่ะ

ลองค่อยๆตัดสินใจและหาข้อมูลไปเรื่อยๆดูก่อนค่ะ

ปล.เห็นทางโตโยต้าก็มีรร.สอนงานช่าง และ มีให้ฝีกงานด้วยนะคะ
แรกเริ่ม คุณจขกท ควรลองดูสิ่งที่สนใจจริงๆและถนัดจริงๆก่อนค่ะ
ปล.2 ถ้าได้ภาษาน่าจะทำงานที่ไทยมากกว่า เงินเดือนก็ได้มากพอใช้อยู่แล้วนะคะ


ตอบกลับความเห็นที่ 1
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 2
ขอเพิ่มเติมนอกจากนี้นะคะ แนะนำทุนหนังสือพิมพ์ค่ะ
งานอาจจะหนักแต่ได้เงินเยอะคุ้มอยู่ เพื่อนเราทำงานที่นั่น

มีที่พักให้ มีเงินเดือน โบนัส และได้เรียนทั้งเซมมงและรร.สอนภาษา
ถ้าคุณอดทนได้ก็มีเงินเก็บได้ปีละหลายสตางค์ค่ะ
กรณีเพื่อนเรา ผู้หญิงตัวเล็กๆแต่ทำได้ถึงสี่ปีเลยนะคะ

ถ้าคุณสนใจลองไปหาข้อมูลดูนะคะ


ตอบกลับความเห็นที่ 2
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 3
ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ ตามตรงว่าถ้าเข้าเซมมงด้านเทคโนที่ว่าได้ก็ดีครับ แต่ผมไม่มีพื้นฐานด้านนี่เลยอ่ะครับ สอบเข้าได้ก็คงแค่ภาษาญี่ปุ่นอ่ะครับ เลยอยากจะรู้ว่ามันจะมีไหมไอ้ที่สอนตั้งแต่ไม่เป็นเลย ตอนนี้ก็ N2 อยู่แล้วครับ เกินมาเยอะพอดู ปลายปีนี้ก็มีโอกาสเก็บ N1 เพราะเทอมหน้าเหลือเรียนสองตัว ว่างจัด คงงนั่งอ่านเอาสอบ N1 อย่างเดียว ตอนนี้ผมอยู่สายกฎหมายครับ แต่ผมอยากได้ความรู้เฉพาะทางที่ตัวเองอยากทำจริงๆ (อย่าถามว่าทำไมไม่เรียนวิศวะมาแต่แรก เพราะเมื่อก่อนคิดว่าตัวเองโง่และเกลียดฟิสิกส์มาก เลยไม่เลือกทางด้านนั้นเลย พอผ่านมาเรื่อยๆถึงรู้สึกว่าที่ตัวเองเรียนมามันไม่ใช่ อยากเปลี่ยนทางเดิน ไม่ก็เอาความรู้มาใช้ร่วมกันครับ)


ตอบกลับความเห็นที่ 3
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 4
ที่เราเห็นเพื่อนเราก็ไม่มีพื้นเลยนะคะ สอบเขาก็เป็นแค่สอบภาษาญี่ปุ่น กับ สอบสัมภาษณ์เท่านั้นเอง
ทั้งด้านเทคโนที่ว่า และ ด้านอาหาร หรือ ด้านกราฟฟิค
เซมมงเข้าไม่ยากแบบมหาลัย ไม่ต้องสอบพวกวิชาอย่างเลข หรือวิทย์ด้วย
(หลายที่ยื่นใบสมัคร เขียนกรอกเอกสาร อาจจะสอบเขียนเรียงความหรืออะไรนิดหน่อย)
มีแค่บางที่ที่เหมือนมีสอบวัดแวว ทำนองนั้นค่ะ

ถ้าอยู่ระดับสองอยู่แล้วลองหาข้อมูลแล้วติดต่อทางรร.ดูก็ไม่น่ามีปัญหานี่คะ

ปล.เซมมงก็เป็นเหมือน Diploma ที่รับจากนร.ที่จบม.ปลายเข้าไปส่วนมากก็เข้าไปเรียนกันได้ง่ายค่ะ ยกเว้นที่ๆมีชื่อเสียงมากก็เล่นตัวตามธรรมดา
ต่างกับมหาลัยทั้งตรี-โทที่จะเข้าก็วุ่นวายอยู่มาก

ลองดูเอาละกันนะคะ


ตอบกลับความเห็นที่ 4