หิมะเกาหลี 8-15 ธันวาคม 2555

วันแรกของการเดินทาง เราเดินทางคืนวันที่ 7 ธันวาคม เครื่องบินดีเลย์ประมาณ 3 ชั่วโมงโดยสายการบินแจ้งว่าหิมะตกหนักที่สนามบินทำให้เครื่องขึ้นจากสนามบินอินชอนไม่ได้ วันแรกของการเดินทางเราเดินทางไปฝากกระเป๋าใบใหญ่ไว้ที่เกสท์เฮ้าส์แห่งหนึ่งที่เคยไปพักแถวย่านมหาวิทยาลัยฮงแด เจ้าหน้าที่ใจดีมาก ให้ฝากฟรีๆ ทั้งที่การไปเที่ยวครั้งนี้เราไม่ได้ไปพักกับเขาเลยสักวันเดียว จะให้เงินก็ไม่ยอมรับ หลังจากฝากกระเป๋าเรียบร้อยนั่งรถไฟใต้ดินไปพระราชวังเคียงบกกุง อ้อลืมเล่าให้ฟังว่าตอนเดินทางจากอินชอนไปย่านฮงแด เรานั่งรถไฟใต้ดินจากสนามบิน แค่ 7 สถานี ค่ารถประมาณ 3,500 วอน ต่อเดียวถึงสถานี 239 ที่ฝากกระเป๋าเลยครับ สะดวกมาก หลังจากเที่ยวชมพระราชวังที่ปกคลุมไปด้วยหิมะแล้ว เราเดินต่อไปยังย่านอินซาดง เพื่อไปติดต่อสำนักงานของเกาะนามิ จ่าย ค่ารถไปเกาะนามิ เราจองไว้ก่อน จะเดินทางไปเกาะนามิเช้า วันที่ 11 ธันวาคม ค่ารถไปเกาะนามิถ้าจำไม่ผิดประมาณ 23,000 วอน ต่อคน หลังจากนั้น ทานข้าวกลางวัน และเดินทางกลับไปยังที่ฝากกระเป๋าอีกครั้ง เพื่อเอากระเป๋าใบเล็กเดินทางไปเที่ยวต่อที่เกาะเจจู โดย ไปขึ้นเครื่องบินที่สนามบินกิมโป ค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับเกาะเจจู ประมาณ 3 พันปลายๆ ไปถึงเจจูช่วงค่ำ ทานอาหารเย็นและนอน เช้าวันรุ่งขึ้นนัดแท็กซี่มารับตอน 9 โมงเช้า เพื่อพาเที่ยวเกาะเจจู 2 วัน คือวันที่ 9 และ 10 ธันวาคม ค่าเหมารถแท็กซี่วันละ 120,000 วอน 9.00-17.00 น. สถานที่เที่ยวแล้วแต่เราจะวางแผน พูดกันไม่รู้เรื่องหรอกครับ ใช้ภาษามือ ภาษาใบ้ และรูปภาพ แต่ก็สื่อสารกันรู้เรื่อง

อากาศที่เกาะเจจูก็หนาวแต่ไม่เท่าที่โซล อดแปลกใจไม่ได้เพราะคิดว่าเวลานี้ที่เจจูหิมะไม่ตก เนื่องจากอยู่ตอนใต้สุดของเกาหลี และอุณหภูมิไม่ต่ำมาก แต่ระหว่างทางที่รถแท็กซี่ขับมาพบหิมะขาวโพลน ตลอดสองข้างทาง

Chokolate Castle สวยดี และมาช้อปของฝากอร่อยๆ หมดไปคนละแสน สองแสน วอนนะครับ

จุดชมวิว Oedolgae Rock คือของจริงสวยมาบรรยากาศดี แต่เก็บภาพมาได้แค่นี้ ฝีมือตก 555

น้ำตก Cheonjiyeon มีน้ำตลอดเลย ไปเดือน พ.ค. ก็มีน้ำ มาเดือน ธ.ค. ก็มีน้ำ สงสัยมีน้ำตลอดทั้งปีแน่

มานั่งรถไฟชมป่า และหิมะ บึงน้ำ ที่ Eco Land

เข้ามาเก็บข้อมูล^^

ที่สถานีรถไฟ Eco Land

Folk Vilage ที่ถ่ายทำละครแดจังกึม ใช้เวลาเดินเที่ยวประมาณ 1 ชม.

ปากปล่องภูเขาไฟ Seongsan Ilchulbong

บนปากปล่องภูเขาไฟ หลังจากนั้น ก็หมดเวลา เที่ยว 2 วันบนเกาะเจจู จริงๆ บนเกาะยังมีที่เที่ยวอีกหลายที่ ที่เรายังไม่ได้ไป แต่เราไม่อยากอัดจนโปรแกรมแน่นเกินไป จริงๆ ผมว่าน่าจะมีเวลาสัก 3 วันสำหรับเกาะเจจู ที่เกาะเจจู เราประทับใจ อาหารทะเล อร่อยมากๆ และช่วงที่เราเดินทางไปส้มออกลูกดกมาก แทบจะทุกสวน รสชาติจัดจ้าน

วันที่ 4 ของการเดินทาง 11 ธันวาคม 55 เดินทางไปเกาะนามิครับ 2 ข้างทางเด็มไปด้วยหิมะ หนาวจนน้ำแข็งจับที่กระจกรถบัสเลย ภาพนี้คือ แม่น้ำ ที่ท่าเรือเกาะนามิ ผิวน้ำเริ่มจับตัวเป็นแผ่นน้ำแข็งบางๆ

อีกภาพบริเวณท่าเรือเกาะนามิ และทิวเขาที่เริ่มมีหิมะขาวๆ ปกคลุม

พนักงานต้อนรับบนเกาะนามิ

ต้นแปะก๊วย และพื้นที่คลุมไปด้วยหิมะ

หิมะที่พื้นเกาะนามิหนาประมาณ 10 ซม.ขาวโพลนทั่วทั้งเกาะทีเดียว

เที่ยวเกาะนามิหมดเวลาไป 1 วัน วันต่อมาคือวันที่ 5 ของการเดินทาง เราเที่ยวในโซล
ที่แรกคือ Trick Eye แถวๆ ฮงแด เข้าฟรีด้วย ไปขอรับบัตรฟรี ที่ อสท. เกาหลี เอสพานาด ช่วงนั้นเขาแจกบัตรเข้าฟรี

อยู่ในนี้นานมาก มีภาพหลายๆ ภาพ ให้เราเพลิดเพลิน กว่าจะเสร็จเกือบครึ่งวันเข้าไปแล้ว

หลังจากนั้นเราไปมหาวิทยาลัยสัตรี Ewha และนัมซานทาวเวอร์

บันไดทางขึ้นนัมซานทาวเวอร์

ต่อมา เดินมาช้อปปื้งต่อที่เมียงดง และขอถ่ายภาพกับเจ้าหน้าที่ ที่คอยช่วยเหลือให้คำแนะนำนักท่องเที่ยว

วันที่ 6 และ วันที่ 7 ของการเดินทาง หรือวันที่ 13 และ 14 ธันวาคม เราเดินทางไป Yongpyong Ski Resort โดยนั่งรถของทางรีสอร์ท ที่สถานี Jamsil สะดวกมากครับ ค่ารถไปกลับ 30,000 วอน

บนยอดเขาของสกีรีสอร์ท

แอบถ่ายภาพนักกีฬาสกี

วันที่ 7 ของการเดินทาง เราได้เห็นหิมะตกโปรยปราย เต็มๆ 4 ชั่วโมง ช่วงรถรถกลับโซล สวยมากๆ เป็นบรรยากาศที่ประทับใจมาก ขึ้นกอนโดล่าไปบนยอดเขา ค่าใช้จ่ายประมาณ คนละ 9,800 วอน

วันที่ 8 ของการเดินทาง เราไม่ได้ไปไหนมาก ตื่นสายๆ ไปช้อปปิ้งที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตในห้าง COEX ซึ่งเปิด 10.30 น. ไปซื้อขนม และของฝากต่างๆ ทานอาหารกลางวัน และนั่ง Airport Bus สาย 6020 ราคา 15,000 วอน ไปสนามบิน เพราะวันกลับนี่ของเยอะจริงๆ นั่ง Airport Bus จะสะดวกกว่านั่งรถไฟใต้ดิน


ถ้ามีคำถามใดๆ เพิ่มเติม ที่ต้องการสอบถาม จะพยายามตอบนะครับ (ถ้ารู้)

มาเก็บข้อมูลปีหน้าจะไปเจอหิมะให้จงได้

นู๋ไม่รู้ว่านัมซานมีบันไดเดินขึ้น 555 เดินต้านแรงโน้มถ่วงโลกบนถนนทางเท้าเหนื่อยมาก เพราะตอนไปถึงมืดแล้ว มองไม่เหน

อยากได้ชื่อที่อยู่ของโรงแรมที่ใจดีให้ฝากของ  ไม่ได้จะไปขอฝากของบ้าง แต่เห็นน้ำใจของเขาแล้ว อยากไปอุดหนุนที่พัก และน้ำใจของเขาแบบนี้คิดว่าคงบริการดีแน่นอน รบกวนหน่อยนะครับ

อยากไปมากๆ เลย

ขอบคุณสำหรับรีวิวค่ะ หนาวดีจังไม่เหมือนบ้านเราเลย ร้อนมาก อิอิ

สวยมากกกกค่ะ กำลังจะไปปลายปีนี้เลย

เกสเฮ้าส์ ที่ฝากกระเป๋าที่โซล นะครับ ชื่อ Hongdae Guesthouse 302 Paradisetel 159-6 Dongkyodong Tel. +82-0-2336-0003 Fax. +82-0-2-336-0569 email : [email protected] ที่พักเป็นเกสเฮ้าส์มีหลายแบบนะครับ คือ พักแบบห้องเดี่ยว ห้องคู่ หรือ 4-6 คน 8 คน  ที่พักอยู่สถานีรถไฟฮงแด 239 เดินออกจากสถานีรถไฟ ถ้าจำไม่ผิดประตู 1 (อันนี้จำไม่ได้นะครับ) ก็ถึงตึกเลย อยู่ชั้น 3 มีลิฟท์ ชั้นล่างเป็นร้านดันกิ้นโดนัท ใกล้แหล่งช้อปปิ้ง ร้านอาหารสะดวกมากครับ แต่ไม่ใช่โรงแรมนะ เป็ฯเกสเฮ้าส์ ที่เดินทางสะดวกมากๆ ผมเคยไปพักที่นั่น ประมาณ 3-4 ครั้งครับเลยพอคุ้นเคยกับเจ้าของ วิธีการจองจะจองผ่านทางเมล หรือ Web Hostel World ก็ได้ จ่ายค่าจอง 10% และค่าบริการ 2 USD ทีแรกเลย ผมจองห้องพักแบบพักรวมที่ถูกที่สุดครับ คือคืนละ 20,000 วอน กะว่าจ่ายค่าเช่าไปเป็นที่เก็บกระเป๋า พอไปถึงเราบอกเขาว่าเราจะเก็บกระเป๋าอย่างเดียว แต่จะไปพักที่เจจู เขาก็บอกว่าไม่เป็นไรไม่ต้องจ่ายเงินส่วนที่เหลือ คือคืนละ 18,000 วอน ซึ่งเราต้องฝากเขาไว้ 3 คืน สรุปคือเราจ่ายแค่เงินที่จองผ่านทางเว็บไซต์ 3 คืน 6,000 วอน หรือราวๆ 180 บาทเท่านั้นเอง และค่าบริการผ่านเว็บอีก 64 บาท รวมค่าฝากกระเป๋า 3 คืน 224 บาท ซึ่งเป็นกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ 5 ใบ กระเป๋าใบเล็ก 1 ใบ ส่วนตอนที่เราไปเกาะเจจูเอากระเป๋าใบเล็กไปครับ

น่าสนุกจังค่ะ

กำลังจะไปช่วงวันที่ 5-9 ธันวาคมนี้ อยากเจอหิมะบ้างจังค่ะ