ขอถามคุณแม่บ้าน เมื่อไหร่ที่คุณคิดว่าพร้อมจะมีลูกกันค่ะ

คิดว่าไม่ได้เข้าผิดห้องนะค่ะ ขอเกริ่นนิดนะค่ะจะได้ทราบแบล็คกราวด์ จขกท.อยู่เมกาเข้าปีที่สาม เพิ่งแต่งงานได้ครบปีไปเมื่อเดือนที่แล้วค่ะ หลังแต่งงานก็เป็นแม่บ้านเต็มตัวดูแลสามี ทำโน้นนี่ไปตามประสา ก็มีความสุขดี แรกๆ คุยกัน จขกท ยังอยากทำงานบ้างพาร์ทไทม์ก็ยังดีเพราะก่อนนี้ยังปรับตัวไม่ได้ เครียด อึดอัด เหงา รู้สึกไร้ค่าจากการอยู่บ้าน แต่ตอนนี้เริ่มติดบ้านและมีความสุขที่ได้อยู่บ้าน ตอนนี้มีอะไรให้ทำเยอะมาก ค่ะ หัดทำงานฝีมือ ทำกับข้าว และมาคุยอีกทีสามีบอกไม่ต้องทำงานละเนอะ อยากให้เราใช้ชีวิตแบบสบายๆ เค้ารู้ว่าเราอยากเปิดร้านอาหาร กับร้านเสื้อผ้า ก็เลยรอให้เราเรียนรู้แล้วค่อยทำเพราะเรารักแฟชั่นมาก ที่เค้าขอไว้เพราะคิดว่าอยากจะมีลูกก่อนเกรงว่าถ้าทำร้านอาหารจะไม่มีเวลาให้กัน และลูก
ทีนี้ก่อนแต่งคุยกันก็จะมีลูกอาจจะคนเดียวหรือ สอง หรือสาม ไม่ได้ ซีเรียสแค่คุยเพื่อให้แน่ใจว่าเราคิดไปแนวทางเดียวกัน ตอนนี้แต่งมาแล้วหนึ่งปี เรายังสนุกกับชีวิตคู่ ยังอยากทำอะไรสองคนก่อน เรา อายุ 32 แฟน อายุ 49 แต่เค้าแอ็คทีฟ มากดูหนุ่มมากๆ แฟนเกริ่นๆ ว่าแต่งงานสักปีสองปีน่าจะมีลูกกันนะ เราเองที่เงียบ เรารักเด็กนะ แต่ยังไม่พร้อมจะเป็นแม่
เพราะเมื่อก่อนเจอแฟนโสดตลอด คือเดทแต่ไม่คบเพราะไม่เจอใครที่ใช่ เราใช้ชีวิต มีความสุขดี เจอแฟนแต่งงานเราปรับเยอะเหมือนกันเพราะไม่เคยอยูกะคนๆ หนึ่งแบบชีวิตคู่ ต้องประมาณไหน ถึงจะพอดี เราพยายามเยอะมากอยากเป็นภรรยาที่ดี เพราะรักแฟนมาก ทีนี้คิดไว้คืออีกสักปีค่อยมี อย่างอื่นพร้อมหมด รอแค่ความรู้สึกเราเมื่อไหร่บอกว่า "อยากมีลูกจัง อยากเป็นแม่" เพราะเราอยากเต็มที่กะเค้า อยากรู้สึกแฮปปี้ ทุกวันเวลาเลี้ยงเค้า ไม่อยากแบบว่าพอเหนื่อยแล้วหงุดหงิด หรือมาบ่นไม่น่ามีเลยอะไรแบบนั้นนะค่ะ
มีคำถามมาถามแม่ๆ ดังนี้ค่ะ
1.รู้ตัวว่าพร้อมมีน้องตอนไหนกันค่ะ
2.หลังจากมีน้องชีวิตเปลี่ยนไปมากแค่ไหน มีอะไรบ้าง
3.พอตัดสินใจจะมีน้อง เตรียมตัวอะไร ยังไงกันบ้างค่ะ
4.เคยดูหนัง และเห็นพี่บางคนมี ดูชีวิต มันยุ่งยาก วุ่นวายมากมาย แกบ่นเหนื่อย คือ 24 ชม. ความเป็ฯแม่
ปล. จขกท.แอบกังวลมากไปไหมค่ะเนี่ย บางทีคิดว่าหรือว่าเรา กลัว เพราะเรายังเห็นแก่ตัวอยู่ ยังไม่พร้อมเสียสละให้ใคร
ปล.2 แต่สามีเป็นคนน่ารักมาก ทุกวันนี้เราแทบไม่ได้ดูแลอะไรเค้าๆ ดูแลตัวเอง และเราๆ แค่ทำกับข้าว ทำงานบ้าน แฟนก็ช่วยตลอด
ขอรบกวนแม่ๆ หรือ ว่าที่คุณ คุณ พ่อก็ได้นะค่ะ มาช่วยให้กำลังใจและแชร์ประสบการณ์ ด้วยนะค่ะ
มีใครเป็นเหมือนเราไหมเนี่ย
จขกท.ก็ได้แต่คิดว่าปลายปีกลับเมืองไทยจะหาซื้อหนังสือเตรียมเป็นคุณแม่มาอ่านไว้ เพราะถ้ารู้สึกอยากมีเมื่อไหร่ก็จะได้มีข้อมูลค่ะ
ตอนนี้มาช่วยดูลูกให้พี่คนไทย สองคน ชาย อายุ 3 ขวบ และ หญิง อายุ 5 ขวบ ก็โอเคนะค่ะเด็กค่อนข้างเลี้ยงง่าย แต่มีบ้างที่ต้องเลี้ยงแปด ชม สิบ ชม มีแอบรำคาญเพราะบางทีเด็กจะให้เราเล่นด้วยตลอดเวลาค่ะ แฟนให้มาลองหัดูว่าจะเป็นไงก่อนมีเอง แฮะๆ
ขอบคุณทุกคนมากๆ ค่ะ

ความคิดเห็นที่ 1
ตอนที่ท้องคนแรกและคนที่สองดิฉันก็ไม่ได้เตรียมอะไรเลยค่ะ ดิฉันคิดว่ามันเป็นธรรมชาติของความเป็นแม่ มันมาเองค่ะ ก็ดูแลตัวเองดี ๆ กินอาหารที่มีประโยชน์

ชีวิตหลังจากมีลูก ก็เปลี่ยนไปเยอะค่ะ ทุกอย่างที่คิด หรือ ที่ทำ ก็จะนึกถึงลูกก่อน เหนื่อยมากขึ้น แต่มีความสุข เห็นความเปลี่ยนแปลงของลูกทั้งสองคนทุกวัน


ตอบกลับความเห็นที่ 1
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 2
เราว่าถ้า financial พร้อมก็พร้อมแล้วแหละ emotional มีลูกก็พร้อมเองถ้ารอให้คิดว่าพร้อมก่อนคงไม่ได้มี ฮ่าๆ

มีลูกแล้วก็เหนื่อยจริงๆค่ะ เราบ่นทุกวันว่าเหนื่อย ยิ่งตอนลูกเล็กๆนี่บ่นทุกวันจนแทบจะตีกันตายกะสามี
แต่ไม่เคยคิดนะคะว่าไม่น่ามี เหนื่อยมากแบบที่ไม่เคยเหนื่อยมาก่อน
แต่ก็มีความสุขมากแบบที่ไม่เคยสุขมาก่อนเหมือนกัน เราว่าคุ้มนะคะ


ตอบกลับความเห็นที่ 2
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 3
.

เห็นหัวข้อกระทู้ก็รีบคลิกเข้ามาเลยค่ะ ขอร่วมคุยด้วยคนนะคะ

คือเป็นแม่บ้านมาอยู่ต่างแดนเหมือนกัน แต่สามีของเราเป็นคนไทยนะคะ
ตอนนี้แต่งเข้าปีที่สี่แล้วค่ะ เจอพ่อแม่และญาติผู้ใหญ่ถามบ่อยมาก ว่าเมื่อไหร่จะมีเจ้าตัวเล็กให้อุ้ม


สามีก็อยากมีลูกค่ะ แต่คู่เราก็ยังรู้สึกว่าจังหวะชีวิตยังไม่ลงตัว เราเองก็ยังไม่พร้อม เลยผลัดมาเรื่อย
เพราะตั้งแต่หลังแต่ง คู่เราย้ายจากไทยมาอยู่ที่นี่ทันที (สามีมาเรียนต่อ) ก็เลยยังไม่ได้ปล่อย กะรอให้สามีเรียนให้จบก่อน
ตอนนี้จบแล้ว ก็ยังรู้สึกว่ายังไม่พร้อมอยู่ดี เพราะเป็นช่วงจุดเปลี่ยนชีวิตว่าสามีจะได้งานที่ประเทศไหน รองานที่มั่นคงน่ะค่ะ
แล้วก็กะรอให้มีบ้านอยู่เป็นหลักแหล่งเสียก่อน จะได้ไม่ต้องเป็นแม่ลูกอ่อนกระแตงลูกที่แบเบาะเดินทางไปนู่นไปนี่
คิดในใจว่าคงอีกสักปีสองปีข้างหน้านี้ล่ะมังที่จะอุ้มท้องเสียที แต่ก็นะ อนาคตยังไม่ค่อยชัดเจน เลยยังวางแผนอะไรไม่ได้มากนัก


ช่วงหลายเดือนมานี้ ได้ความรู้ใหม่ๆ เยอะเลย ถือว่าเก็บข้อมูลไว้เรื่อยเปื่อย
ได้เห็นมุมมองคุณแม่หลายท่าน ทั้งเรื่องการเลี้ยง เรื่องดูแลสุภาพระหว่างตั้งครรภ์ เรื่องอาหาร เรื่องโรงเรียนลูก ฯลฯ .. อ่านเพลินมากค่ะ

ระหว่างนี้ เราเริ่มดูแลสุขภาพให้มากขึ้นค่ะ (ขึ้นเลขสามแล้ว) เตรียมความพร้อมของร่างกายเผื่อเอาไว้
เตรียมรับมือกับความรับผิดชอบที่จะต้องตามมา เพราะการเป็นแม่คนต้องอุทิศทั้งแรงกายแรงใจ
โดยเฉพาะช่วงที่ลูกยังอยู่ในช่วงแรกเกิดจนถึง 2-3 ปีแรก ตารางชีวิตคงเต็มไปด้วยความรับผิดชอบ


* ใจเราคิดว่าจะกลับไปคลอดที่ไทยนะคะ เพราะคุณแม่และเพื่อนแม่อยู่ในแวดวงนี้ เป็นทั้งพยาบาลเด็กและไอซียูกุมาร
เราคงจะรู้สึกอุ่นใจกว่าคลอดต่างบ้านต่างเมือง และก็อยากให้ลูกโตมาด้วยสภาพแวดล้อมที่รายล้อมไปด้วยญาติผู้ใหญ่มากกว่าน่ะค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 3
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 4
แวะเข้ามาให้กำลังใจค่ะ ปล่อยให้เป็นเรื่องธรรมชาติจะดีที่สุด


ตอบกลับความเห็นที่ 4
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 5
เป็นแม่บ้านแดนซามุไรค่ะ

มีลูกทันทีหลังแต่งงาน เมื่อไหร่ถึงเรียกว่าพร้อม. มีบ้าน มีรถ เงินเก็บ. ถึงวันนั้น มดลูกเหี่ยวกันพอดี มดลูกมีอายุจำกัด ไม่เหมือนผู้ชาย 50-80 มีผลิตอสุจิได้. แต่ผู้หญิง 37ขึ้นก็เริ่มยากแล้ว. แล้วคิดจะอยู่กับลูกอีกกี่ปี. ถ้าคิดว่าจะตายตอน อายุ 70 ณ ตอนนี้ เราอายุ 27 ปี ลูกชาย 1ขวบ เราจะได้อยู่กะลูกคนโต ถึงอายุ 43ปี เราไม่คิดจะมีลูกคนเดียว อีกสัก 1.5-2ปี ตั้งใจมีอีกคน เราก็จะได้อยู่กะลูกคนเล็ก40ปี

มีลูกแล้วจะไม่มีเวลาเที่ยว. เรื่องเที่ยวเอาไว้ก่อนก็ได้. ระหว่างท้องก็แค่ 9เดือน พอคลอดแล้ว สัก 6-7เดือนก็พาเจ้าตัวเล็กเที่ยวได้สบาย. เที่ยวแบบครอบครัว ก็สนุกที่. ตอนนี้เราเหมือนอยู่ตัวคนเดียว ไม่ญาติพี่น้อง ใกล้ๆ ไม่มีเพื่อน. อยู่กะลูก2คน ภาษาก็ไม่แข็งแรง แต่ก็ไม่เหงา ไม่มีเวลาเหงา. วันๆ อยู่กะลูกยิ่งเห็นพัฒนาการเค้าทุกๆ วัน ยิ่งเหนื่อย ทุกวัน ยิ่งไม่มีเวลาฟุ้งซ่าน. มีลูกแล้วมันทำเราเข้มแข็งขึ้น. ลูกต้องการเรา ตลอดเวลา. มันทำให้เรา ขยันขึ้น งานบ้านเพิ่มขึ้น มันทำให้เรา มีวินัยมากขึ้น. เช่น จากที่เรา ตื่น 9โมง 10 โมง. ตอนนี้ทุกเช้า 6โมงจะมีคนปลุก บ้านต้องสะอาดขึ้น ข้าวกินตรงเวลา


ตอบกลับความเห็นที่ 5
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 6
เรากับแฟน ณ ตอนไม่มีแพลนจะมีลูกนะค่ะ คงอยู่กันสองคนแบบนี้จนแก่
แม่และพี่สาวเราก็ถามตลอดว่าทำไมไม่มีลูกสักคน เรากับแฟนยังไม่อยากมี
แต่ในอนาคตก็ยังไม่แน่ว่าอาจจะมี ตอนนี้ขอท่องเที่ยวกันสองคนก่อนค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 6
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 7
อยู่ญี่ปุ่นค่ะ ดิฉันกับสามีอายุยังไม่ถึง 30 สามีทำงานคนเดียวค่ะ ฐานะไม่ลำบากอะไร พร้อมมีเจ้าตัวน้อยแล้วค่ะ รออยู่ว่าเมื่อไหร่จะขึ้น 2 ขีดซะที (^_^)☆


ตอบกลับความเห็นที่ 7
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 8
แต่งงานมา 5 ปีถึงมีแอบคิดว่าจะมีลูกดีไหม อีกอย่างเราสองคนก็เริ่มงอม

ตอนก่อนแต่งงานคิดว่าจะไม่มีลูก เพราะสองคนชอบอิสระ อยากไปเที่ยว อยากทำนั่นทำนี่ อยากเติมเต็มฝัน คิดว่ามีลูกคงจะลำบาก คงไม่อิสระ ที่สำคัญคงต้องใช้เงินมากขึ้น ซึ่งเราก็ไม่ใช่จะมีอะไร

แว่บๆ คิดอยากจะมี สามีก็คิดด้วยว่าน่าจะลองนะ แบบว่า เปิดปุ๊บติดปั๊บ ไม่ทันตั้งตัว ฮาฮา เลยได้ลูกชายมาหนึ่งหน่อ

ถามว่าพร้อมตอนไหน มันไม่เคยมีวันพร้อมเลยสำหรับเราสองคน คือไม่เคยคิดว่าตัวเองพร้อมที่จะมีลูก แต่เค้ามาเอง แบบไม่ตั้งตัว คิดว่าสวรรค์คงส่งเค้ามาให้เรา

ก่อนหน้าที่จะมีลูก เราก็ได้ไปเที่ยว ได้ใช้ชีวิตคู่ ซึ่งถือว่า คุ้มในระดับหนึ่ง ได้เห็นอะไรเยอะขึ้น ได้เรียนรู้กันมากขึ้น ได้ใช้ชีวิตแบบที่เราอยากให้เป็น


พอมีลูกแล้ว หลายๆอย่างเปลี่ยนไปค่ะ แต่เราก็เที่ยวเหมือนเดิม(ถ้ามีเงินนะ) ไปไหนไปกัน แต่ความเหนื่อยมันมีมากขึ้น เลี้ยงลูกนี่เป็นงานที่เหนื่อยมาก แต่มีความสุขนะคะ ถึงแม้จะเหนื่อย มันก็มีช่วงเวลาที่ทำให้เรามีความสุขมาก รู้สึกว่าชีวิตคู่เปลี่ยนไปมาก จากที่คิดถึงแค่เรา ตอนนี้ก็ต้องคิดถึงลูก และอนาคตมากขึ้น เหนื่อยขึ้นแต่สุขค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 8
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 9
ถ้าจะรอให้พร้อมทางด้านจิตใจ อาจไม่มีวันนั้นนะคะ เราว่าผู้หญิงส่วนใหญ่ยังไงๆก็คิดว่าตัวเอง
ไม่พร้อมที่จะรับภาระดูแลชีวิตคนๆนึงโดยเฉพาะตอนมีลูกคนแรก

แต่ถ้าร่างกายพร้อม ฐานะพร้อม สภาพแวดล้อมพร้อม ก็ปล่อยเถอะค่ะ ทางด้านจิตใจต้องท้อง
ก่อนแล้วเราจะค่อยๆพร้อมไปเอง

คุณอายุ 32 ถ้าคิดจะมีลูกคนเดียวก็อาจรอได้ถึงอายุ 35 (ท้องหลัง 35 มีความเสี่ยงมาก)

แต่ถ้าคิดจะมีมากกว่า 1 คน คุณต้องปล่อยแล้วค่ะ เพราะต้องทิ้งระยะห่างคนแรกและคนถัดมา
พอสมควรเนื่องจากมดลูกต้องการพัก และอยู่ต่างแดนด้วยแล้วต้องเลี้ยงลูกคนเดียว
ถ้ามีติดๆกันมากจะลำบากมาก ทางที่ดีควรให้ลูกคนโตไปโรงเรียนก่อน (5 ขวบ)

เราเองตอนแรกก็ไม่พร้อมหรอกค่ะ ไม่ได้ตั้งใจมีคนแรกด้วยซ้ำ ตอนนั้นบ้านก็เช่าอยู่ รถก็ไม่มีขับ
ฐานะก็ไม่ดี ไม่มีอะไรพร้อมซักอย่าง แต่พอท้องแล้วก็เริ่มๆปรับกันไปจนพร้อมไปเอง

ส่วนคนที่สองนี้พร้อมทุกอย่าง ตั้งใจมีค่ะ ตอนนี้ลูกอายุสองเดือนแล้ว มีบ้าน มีรถ มีทุกอย่างพร้อมหมด

เรื่องเหนื่อยมากไหมนั้น เหนื่อยแน่ค่ะ แต่ไม่เคยทำให้เราเศร้าหรือผิดหวังที่มีลูกเลยซักนาทีเดียว

เราไม่เคยให้ใครช่วยเลี้ยง แทบไม่อยากให้ลูกโตเลยด้วยซ้ำ ทุกนาทีมีค่าเราอยากให้เค้าเป็นเด็กทารกตลอดไปด้วยซ้ำค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 9
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 10
บังเอิญจริงๆ ฉันก็อายุไล่ๆ กับคุณเจ้าของกระทู้ สามีก็อายุไล่ๆ กับสามีของคุณเจ้าของกระทู้เช่นเดียวกัน และไม่นานมานี้ก็เริ่มวางแผนมีลูกกับสามีอย่างจริงจัง

แต่ที่ผ่านมากลัวการมีลูกมาก ภูมิหลังค่อนข้างไม่สวยงาม ฉันเกิดในครอบครัวที่ให้ความสำคัญกับเพศชายมากกว่าเพศหญิง ได้รับการเลี้ยงดูไม่เท่าเทียมกับน้องๆ พี่ๆ ผู้ชาย แต่กลับถูกคาดหวังให้ทำตัวดีๆ ตอนเด็กๆ เลยมักแอบตัดพ้อกับพระกับเจ้าว่า เราไม่น่าเกิดมาเลย อยู่เสมอๆ

พอแต่งงาน ความรู้สึกที่ไม่อยากมีลูกก็ยังมีอยู่ ใครๆ ก็ถามว่าทำไมไม่มีตัวน้อยๆ สักที เวลาถูกถามก็รู้สึกขุ่นเคืองในใจลึกๆ มองไปทางไหนก็น้อยนักจะเจอพ่อแม่ที่ใส่ใจกับลูกจริงๆ คนส่วนมากมีลูกก็เอามาให้ปู่ย่าตายายเลี้ยงบ้าง และก็มีหลายๆ รายหย่าร้าง เรียกร้องและโยนความรับผิดชอบในเรื่องลูกให้กันและกัน ฯลฯ นับวันก็ยิ่งรู้สึกว่า หากเราไม่มีอะไรการันตีว่าเราจะเลี้ยงเค้าอย่างที่เค้าควรได้รับ เราก็ไม่ควรนำพวกเขามาสู่โลกที่วุ่นวายใบนี้จะดีกว่า

แต่เร็วๆ นี้ ฉันรู้สึกอยากมีลูกเป็นจริงเป็นจัง ไม่รู้อะไรมาดลใจ อาจจะเป็นเพราะฉันมีโอกาสซึมซับการเลี้ยงลูกให้ลูกเป็นคนดีมีความสุข จากการเฝ้าดูคนรอบๆ ข้าง หรืออาจจะเป็นเพราะอายุและวุฒิภาวะที่ทำให้ฉันมั่นใจกับการเป็นแม่ ลืมไปค่ะ พร้อมๆ กับการกลัวการมีลูก ฉันกลัวการคลอดลูกด้วยค่ะ ฉันกลัวโรงพยาบาล เบื่อการฉีดยา กลัวเครื่องมือแพทย์ พอหายจากการกลัวสิ่งเหล่านี้ จู่ๆ ฉันก็รู้สึกว่าพร้อม พร้อมขนาดมีวันนี้ พรุ่งนี้เลยก็ได้

ฉันกับสามีเลยตกลงกันว่า จะมีลูกกันภายใน 4-5 ปีข้างหน้า 1 คนเท่านั้น คือจะตั้งใจมีให้ได้ ถ้าธรรมชาติไม่ได้ คงจะพึ่งหมอ ถ้าหมอพึ่งไม่ได้ ก็จะรับเด็กมาเลี้ยง ที่อยากมีแค่คนเดียว เพราะอยากให้ความรักกับเขาให้เต็มที่ หลายๆ คนบอกให้มีหลายๆ คนเผื่อๆ ไว้ ฉันไม่เคยถามเอาสาระเลยว่า เผื่ออะไร

มีเพื่อนหลายๆ คนทักท้วงว่ามีลูกตอนอายุเยอะๆ ไม่ดี แต่ฉันก็ยังยืนยันจะมีลูกเมื่ออายุ 35 ปี ตอนนี้พร้อมแล้ว แต่อีกไม่กี่ปีข้างหน้าก็จะพร้อมมากว่านี้ในหลายๆ ด้าน เพื่อนๆ ฉันส่วนมากมีลูกกันตอนอายุ 20 ต้นๆ ไปจนถึงกลางๆ ลูกๆ (ฉันเรียกว่าหลาน) ของทุกคนล้วนแต่อยู่ในการดูแลของปู่ย่าตายาย

ฉะนั้น การมีลูกในวัย 35 ของฉัน โดยที่ฉันตั้งใจที่จะเลี้ยงเอง คงไม่เลวร้ายไปกว่าการมีลูกในวัย 20 แต่ไม่มีกำลังความสามารถที่จะดูแลลูกอย่างใกล้ชิดได้

การใช้ชีวิตแบบอิสระแค่สองสามีภรรยาก็มีความสุขดี แต่มาถึงจุดหนึ่งแล้ว การตื่นเช้ามาแล้วทำแต่เรื่องเดิมๆ อาจจะทำให้เราคิดอยากมีตัวน้อยๆ มาเพิ่มคุณค่าให้กับครอบครัวขึ้นไปอีก

สุดท้าย ตอบคุณเจ้าของกระทู้ หากสถานะการเงินพร้อมแล้ว ร่างกายพร้อมแล้ว ถ้าใจพร้อม ฉันว่าทุกอย่างก็คงออกมาดี


ตอบกลับความเห็นที่ 10
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 11
คำแนะนำบรรดาคุณแม่ อ่านไปยิ้มไป ชอบใจ คุณ jtsunod7 "มดลูกมีอายุจำกัด แถมกลัวมันจะเหี่ยวอีกซะด้วย" ;)
อายุ 32 ปี ด้วยวัยวุฒิน่าจะเหมาะสมแล้ว เพราะเป็นแม่คนได้นี่ ต้องใช้หลาย ๆ อย่าง ที่สำคัญคือ ควบคุมอารมณ์ ให้มาพร้อมกับเหตุผลได้
ของเราท้องคนแรกตอน 29 คะ ตอนตัดสินใจแต่งงานก็พร้อมแล้วคะ แต่ร่างกายมันไม่พร้อม หาหมอเกือบ 2 ปี
คุณ คนเลี้ยงแกะปริศนา เดี๋ยวพอเห็น 2 ขีดเมื่อไหร่ น้ำตาปริ่มเหมือนเราแน่ ไม่ลองอันเดียวด้วยนะ อยากเห็นให้ชัด ต้องลองซ้ำอีกอัน :)
คุณ chilla ใช่เลย พอลูกมา สัญชาตญาณ (เขียนถูกไหมเนี่ย) ความเป็นแม่มาเอง ความพร้อมมันแทบไม่มีความสำคัญเลย ใจเรา สำคัญกว่า ลูกคือสัญญลักษณ์ของคำว่าครอบครัว เป็นเหมือนศูนย์รวมให้ทุกคนมารวมกัน เราคิดว่า ครอบครัว ต้องมี พ่อ+แม่+ลูก นะถึงจะครบองค์
ตอบคุณlife is precious
1.รู้ตัวว่าพร้อมมีน้องตอนไหนกันค่ะ
ตอบ ตั้งแต่เริ่มแต่งงาน เริ่มอยากเป็นครอบครัว ตอนนั้นไม่มีบ้าน อาศัยอยู่กับพ่อแม่ ไม่มีรถยนต์
2.หลังจากมีน้องชีวิตเปลี่ยนไปมากแค่ไหน มีอะไรบ้าง
ตอบ เปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น บ้านคึกครึ้น มีเสียงคุยกันของบรรดาปู่ย่า ตายาย ลุง ป้า น้าอา เหมือนมีของเล่นใหม่มาให้คนในบ้านได้ชื่นชม, ทำงานก็อยากรีบกลับบ้าน มีกำลังในการทำงานมากขึ้น มีเป้าหมายให้ชีวิต, เวลาท่องเที่ยวก็สนุกไปอีกแบบ เป็นความสนุกที่มีความสุขมากกว่าสุขกันแค่ 2 คน, มีความทรงจำในช่วงมหัศจรรย์ของชีวิตที่สร้างจากความรัก ให้จดจำตลอดเวลา, มีปัญหาระหว่างสามีภรรยา ก็จะปรับความเข้าใจกันได้เร็วขึ้น เพราะครอบครัวไม่ใช่คนสองคน ฯลฯ มีอีกเยอะเล่าไม่หมด
3.พอตัดสินใจจะมีน้อง เตรียมตัวอะไร ยังไงกันบ้างค่ะ
ตอบ เตรียมร่างกายให้แข็งแรง หาความรู้เพิ่มเติม จากหนังสือ จากเน็ท จากเพื่อน จากญาติ
4.เคยดูหนัง และเห็นพี่บางคนมี ดูชีวิต มันยุ่งยาก วุ่นวายมากมาย แกบ่นเหนื่อย คือ 24 ชม. ความเป็ฯแม่
ตอบ ภาพยนต์ กับชีวิตจริง มันคนละแบบ ภาพยนต์ส่วนใหญ่จะสร้างให้เกินจริง ในชีวิตจริง สัญชาตญาณความเป็นแม่ จะสอนให้รู้จักความอดทนและความรักที่ยิ่งใหญ่ ทุกอย่างไม่ได้เรียบง่ายตอนเริ่มต้น แต่ถ้าคุณตั้งใจและใส่ใจด้วยความรัก ก็ไม่มีอะไรยากเกิน ความสามารถของคนเป็นแม่ ที่จะทำให้ลูกได้
ปล. จขกท.แอบกังวลมากไปไหมค่ะเนี่ย บางทีคิดว่าหรือว่าเรา กลัว เพราะเรายังเห็นแก่ตัวอยู่ ยังไม่พร้อมเสียสละให้ใคร
ปล.2 แต่สามีเป็นคนน่ารักมาก ทุกวันนี้เราแทบไม่ได้ดูแลอะไรเค้าๆ ดูแลตัวเอง และเราๆ แค่ทำกับข้าว ทำงานบ้าน แฟนก็ช่วยตลอด
ตอบ ถ้ามีตัวเล็ก ๆ เพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งหรือมากกว่านั้น คุณสามีจะน่ารัก และได้เห็นมุมหวาน ๆ มุมอื่นที่ไม่ได้เห็นมากขึ้น จะรักสามีมากขึ้นอีกหลายเท่าเลยหละ
อย่าคิดรอนานนะคะ "เดี๋ยวมดลูกจะหมดอายุ" ;)


ตอบกลับความเห็นที่ 11
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 12
ต้องบอกว่าอย่ากังวลค่ะ

1.รู้ตัวว่าพร้อมมีน้องตอนไหนกันค่ะ -> ไม่มีวันพร้อมค่ะ เราก็บอกอดีตสามีมาตลอด จนวันหนึ่งเค้าโมโหบอกเราว่า กลัวอะไรไม่พร้อม เงินไม่มีบ้านไม่มี แล้วยังไง ถ้าคิดแบบนี้เมื่อไหร่จะมีลูก แล้วกรรมกรทำไมมีได้ตั้งหลายๆ คน กินแค่ไข่ต้มเค้ายังเลี้ยงกันได้เลย นี่เราไม่รวยแต่ก็ไม่ได้ลำบากแบบกรรมกร ดูครอบครัวที่ยากจนกว่าเป็น ตย. แล้วลูกแต่คนเดียวเราจะเลี้ยงไม่ได้เชียวหรือ จิงอย่างที่เขาพูด เราเลยตัดสินในมีเลยค่ะ นั่นคือ ความพร้อมที่เราคิดว่าไม่พร้อมในตอนนั้น
2.หลังจากมีน้องชีวิตเปลี่ยนไปมากแค่ไหน มีอะไรบ้าง -> เปลี่ยนค่ะ ครอบครัวจะเป็นครอบครัวที่สมบูรณ์แบบ แล้วคุณจะรู้ว่าลูกเป็นทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตคุณ คุณจะรู้จักทั้งคำว่าเจ็บ ความสุข ปลื้มปิติ และคิดถึงพ่อแม่คุณขึ้นมาในเวลาเดียวกัน คุณจะเหนื่อยแต่เข้าใจว่าความสุขที่ได้เป็นแม่คนคืออะไร คุณจะทำทุกอย่างเพื่อลูก และมีเป้าหมายในชีวิตค่ะ
3.พอตัดสินใจจะมีน้อง เตรียมตัวอะไร ยังไงกันบ้างค่ะ -> ดูแลตัวเองให้สุขภาพเข็งแรง อย่าเจ็บป่วย กินอาหารที่มีประโยชน์ที่สุด ปฎิบัติตัวตามที่คุณหมอแนะนำค่ะ ทำตัวตามสบายอย่ากังวล เพราะทุกอย่างที่คุณติดคุณรู้สึกส่งผลถึงลูกในท้องคุณค่ะ เค้ารับรู้ได้ทุกอย่างนะ
4.เคยดูหนัง และเห็นพี่บางคนมี ดูชีวิต มันยุ่งยาก วุ่นวายมากมาย แกบ่นเหนื่อย คือ 24 ชม. ความเป็ฯแม่ -> เหนื่อยแน่ค่ะ เป็นเรื่องธรรมดา แต่สามีคุณก็จะช่วยกันดูแลลูกด้วย เหนื่อยแค่กายค่ะ แต่สุขใจ วุ่นวายแต่คุณเห็นพัฒนาการลูกเติบโต แล้วคุณก็ชื่นใจแล้วค่ะ

ต้องบอกว่าคุณโชคดีที่ได้สามีน่ารัก หวังว่าคุณจะคลายกังวลแล้วคุยกับคุณสามีจะค่ะว่าจะแบ่งเวลาช่วยกันดูลูกยังไง โชคดีค่ะ :)


ตอบกลับความเห็นที่ 12
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 13
สวัสดีค่ะ จขกท.เพิ่งกลับมาจาก camping ต้องขอโทษด้วยนะค่ะที่มาช้าแต่อ่านทุกคำสองรอบอ่านไปยิ้มไปหัวใจพองโต แอบหันไปเล่าสามีว่าเรามาโพส์ถามพี่ๆ เพื่อนๆ สามีอยากรู้ก็เล่าให้ฟังสามีไม่กังวลอะไรเลยค่ะ ดูเค้าพร้อมกว่าเรามากคือเราพร้อมเค้าพร้อมเลยค่ะ แต่ปลายปีอยากกลับไปจัดงานแต่งที่ไทยก่อน ค่อยปล่อยค่ะ
ขอบคุณ คุณ ลูกน้อยกลอยใจ มากนะค่ะ สำหรับกำลังใจดีๆ
ขอบคุณ คุณ chocolate Junkie มากค่ะเนื่อจากสามีและเราเองอายุก็ไม่น้อยๆ ฉะนั้นเรื่อง การเงิน ไม่มีปัญหาค่ะ บ้าน รถ พร้อมหมด ที่แอบกังวลนิดคือสามีเป็นคนแอ๊คทีฟมาก เราทำกิจกรรมกันเยอะมากค่ะ เราเองที่กลับการเปลี่ยนแปลงไปเองเคยลองถามเค้าว่านี่ถ้ามีลูกอาจจะทำกิจกรรมบางอย่างมากแบบนี้ไม่ได้นะ เค้าจะรับได้ไหมคือลองเชิงว่าเค้าเต็มร้อยไหม เค้าบอกว่าชีวิตเค้าทำมาหมดแล้ว สนุกมามากแล้วพร้อมจะมีครอบครัว
ขอบคุณ คุณ MollyJinx คิดไว้เหมือนกันค่ะว่าจะกลับไปคลอดที่ไทยเพราะอุ่นใจมีพ่อแม่พี่น้องคอยดูแล เรื่องที่เราไม่รู้ หรืออาจจะให้คุณแม่มาอยู่เป็นเพื่อนสักพักที่นี่ค่ะ
ขอบคุณ คุณ Cutie_May ขอบคุณค่ะที่แวะมา
ขอบคุณ คุณ jtsunod7 ที่่ว่ามาตอนนี้มีครบค่ะ ไม่ได้รวยมากมายแต่ไม่เดือดร้อนเรื่องพวกนี้ ทุกวันนี้หลังแต่งงานมาแฟนให้อยู่บ้านปรับตัวในการเป็นภรรยา และเตรียมตัวเป็ฯคุณแม่ ค่ะ และในอนาคตด้วยเลยอยากเต็มที่กับการดูแลสามีและลูกค่ะ
ขอบคุณ คุณ laphel&pheboat นี่ถ้า จขกท.ยังอายุน้อยๆ ก็อยากทำแบบนั้นค่ะ ตอนนี้ 32 ละมีเวลาน้อยลงเรื่อยๆ เลยต้องเริ่มคิดจริงจังค่ะ เกรงว่ามัวแต่เที่ยวพออยากจะมีตอนแก่เกินไปมีไม่ได้ซะแล้วจะกลายเป็นมาดายใจทีหลัง
ขอบคุณ คุณ คนเลี้ยงปริศนา ขอบคุณที่แวะมาแชร์ค่ะ ขอช่วยลุ้นให้สำเร็จเร็วๆ นะค่ะ
คุณ PoomPim...TMB ขอบคุณที่แวะมาแชร์นะค่ะ ดีจังคุณมีเวลาตั้งห้าปีได้ใช้ชีวิตคู่สองคนหลายปี จขกท.แต่งช้าไปหน่อยค่ะ ฮ่าๆ
ขอบคุณ คุณ chilla อ่านแล้วรู้สึกถึงความสุข ความของคนเป็นแม่มากกกๆค่ะ นี่ละค่ะความรู้สึกที่ว่ามีแล้วอยากรู้สึกแบบนี้ทุกวัน ทำให้คิดว่าอยากรอให้รู็สึกอยากมี อยากเป็นแม่แล้วจริงๆ ทำให้มาตั้งคำถามค่ะ
ขอบคุณ คุณ รู้ไว้นะว่ารัก คิดว่าจะมีหนึ่งเหมือนกันค่ะ แฟนตามใจค่ะเพราะตอนแรกเราบอกว่าอยากมีสามคน ช่างกล้าใจจริงแอบคิดว่าคงอีกสักสองปีจะมีน้องค่ะ แต่ก็ไม่ได้ต้องตามนั้นเป๊ะ เพราะถ้าอยากมีก็คงปล่อยเลย
ขอบคุณ คุณ แม่ไข่หก เห็นด้วยมากตรงที่อยากให้ลูกเติบโตมาท่ามกลางความรัก ที่อบอุ่นจากปู่ย่า ตายาย ลุงป้าน้าอา ค่ะเพราะที่นี่มีแค่เรากะสามี พ่อแม่สามีอยู่รัฐอื่นหมดเลยค่ะเจอกันปีละ สองครั้งเองค่ะ
ขอบคุณ คุณ MiamiHeat อ่านคำตอบคำแนะนำของคุณแล้วหัวใจพองโตแอบจินตนาการไปด้วยนึกถึงวันที่มีเจ้าตัวน้อย
ขอขอบคุณ พี่ๆ เพื่อนๆมากๆ นะค่ะ ที่แวะมาให้คำตอบ คำแนะนำดีๆ กำลังใจ พูดคุยกัน หวังว่าจะได้กลับมาแชร์เรื่องราวของเจ้าตัวน้อยเร็วๆนี้
ขอบคุณ คุณแม่และคนที่กำลังจะเป็นแม่ทุกคนค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 13
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 14
เราพร้อมมาเจ็ดปีแล้ว ยังไม่มาเกิดซักที เฮ้อ มีลูกไม่ได้มีกันง่ายๆเด้อ


ตอบกลับความเห็นที่ 14
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 15
อ๋าย คุณ คุณนายก้อ แอบกังวลเหมือนกันค่ะ วันก่อนช่วยแฟนทำงานอะไรไม่รู็จำไม่ได้แอบบ่นว่านี่ถ้ามดลูกฉันพังมีลูกไม่ได้ทำไง น้องๆก็แซวว่าแก่ทุกวันนะเดี่ยวจะเหี่ยวก่อน ฮ่าๆ แฟนบอกว่ากลัวแต่ว่าทำให้ท้องแล้วจะบ่น ทำเป็นโม้อีก
ยังไงขอเป็นกำลังใจให้ท้องเร็วๆวันนี้นะค่ะ สู้ๆค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 15
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 16
จาก ปสก ตัวเองนะ ถามเลย มั่นใจในตัวสามีที่คุณแต่งงานด้วยมากแค่ไหน ถ้าใช่ก็ข้อต่อไป
อยากมีลูกไหม ติดภาระอะไรหรือเปล่า คุยกันกับสามีแล้วโอเคใช่ไหม ถ้าใช่ก็ข้อต่อไป
การเงิน พร้อมไหมหากมีสมาชิกเพิ่ม มีแล้วไม่ต้องถึงขั้นเดือดร้อนขัดสน
ตัวเองพร้อมจะดูแลลูก มีเวลาให้ลูกไหม เพราะการอุ้มท้อง ให้นมลูก ต่อให้มีคนช่วย ก็ไม่พ้นหน้าที่แม่อยู่ดี
พอมีลูกแล้ว เรื่องอื่นๆ ก็จะเรียนรู้และลงตัวโดยอัตโนมิติ ไม่ต้องคิดกังวลมากไปก่อนเหตุค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 16