+++ ขับรถจากอเมริกาข้ามไปแคนาดา ต้องทำอย่างไรบ้างครับ +++

ต้องมีวีซ่าแคนาดาด้วยครับ
เช่ารถก็ต้องบอกบริษัทว่าจะขับไปแคนาดาด้วย
ให้คำแนะนำได้แค่นี้แหละครับ

-ต้องขอวีซ่าแคนาดามาก่อนจากเมืองไทยนะครับ ส่วนใหญ่ถ้าได้วีซ่าเมกาก่อน แล้วค่อยไปขอ จะง่ายมากครับ ผ่านเกือบทุกคน

-การขับรถในแคนาดาเหมือนเมกาทุกประการ เว้นอย่างเดียวคือ บอกระยะทางเป็นกิโลเมตรเหมือนเมืองไทย ขณะที่เมกาใช้ไมล์
เพราะฉะนั้น ต้องคอยคำนวณเรื่องเข็มความเร็ว และป้ายบอก speed limit (1 mile = 1.6 km.)

-ไม่ได้บอกว่าจะขับจากไหนไปไหน เลยตอบไม่ได้ว่าผ่านแดนที่จุดไหน แต่โดยทั่วไป เวลาตรวจคนเข้าเมืองแคนาดาตอนขับรถข้ามแดน
จะง่ายมากๆ แป๊บเดียวผ่าน ด่านที่ตรวจก็จะอยู่บนไฮเวย์ที่ขับข้ามมานั่นเอง หน้าตาคล้ายบู๊ทเก็บเงินค่าทางด่วนที่เมืองไทย
แต่ขากลับเข้าเมกา อาจจะรอคิวยาวมากๆ บางทีเป็นชั่วโมงสองชั่วโมง และถูกถามคำถามละเอียดยิบ
และบางทีจะถูกสั่งให้ไปจอดรถ แล้วเดินเข้าไปในอาคารตรวจคนเข้าเมือง เพื่อตรวจวีซ่าและถามคำถาม ดังนั้นต้องเผื่อเวลาไว้ด้วยนะครับ

-ค่าน้ำมันฝั่งแคนาดา แพงกว่าฝั่งเมกานะ และเติมน้ำมันที่เมกา หน่วยจะเป็นแกลลอน ส่วนฝั่งแคนาดา หน่วยจะเป็น ลิตร (1 gallon = 3.78 litre)

คุณ PKL ครับ

จะขับจาก Niagara -> Toronto -> Ottawa -> Montreal -> Quebec -> Boston

ถ้ากลับมาจากทาง Quebec นี่ใช้สะพานข้ามระหว่างประเทศที่ Quebec ได้เลยเหมือนกันมั๊ยครับ

แล้วราคาน้ำมันถ้าเทียบกับของไทยเป็นต่อลิตแพงกว่ามากมั๊ยครับ


ขอบคุณครับ

เคยไปขอที่Detroitเลยครับ ที่นั่นเค้ามีกงสุลแคนาดา ก็ของ่ายอยู่เหมือนกันนะครับ แล้วรุ่งขึ้นค่อยขับรถข้ามไปเอา หรือจะขับต่อไปถึงที่นิวยอร์กเลย ก็ยังได้ ตามแต่สะดวกกับแพลนของจขกทน่ะครับ ตอนออกจากเมกาจากด่านที่มิชิแกนไม่เข้มงวดเท่าไหร่ แต่ตอนขากลับเข้ามา จำได้ว่ามีผลไม้ที่ซื้อจากแลนด์ซิ่ง ยังติดรถกลับมา ศุลกากรก็รู้ว่าผลไม้มาจากฝั่งเค้า แต่ก็โดนริบหมดเลย เดาเอาว่าเค้าคงกลัวมันเจือปนสิ่งแปลกปลอมเช่นโรคและแมลง ระหว่างที่อยู่ฝากแคนาดามั้งครับ แต่เท่าที่สังกตพวกที่ด่านไม่ได้ตรวจคนหรือรถอะไรมากมายนะครับ แต่จะเน้นหนักเรื่องพืชและอาหารนะครับ

-การขับข้ามมาจาก Niagara Falls ฝั่งเมกา ถ้าแวะเที่ยวทางฝั่งเมกา คงข้าม Rainbow Bridge จะใกล้กว่า แต่รถมักติดมากกว่า
ถ้าไม่แวะเที่ยวน้ำตกฝั่งเมกา (ซึ่งไม่จำเป็นต้องแวะเลย มาแวะฝั่งแคนาดาทีเดียวดีกว่า เพราะสวยกว่ามาก) ให้ข้ามสะพาน Lewiston Queenston Bridge
ซึ่งวิ่งมาตามถนน I-190 จากฝั่งเมกา จะเร็วกว่า แต่อ้อมกว่านิดหน่อย

-เมื่อเทียว Quebec เสร็จแล้ว จะขับกลับมาบอสตัน ให้ขับลงมาผ่านเมือง Sherbrooke แล้วข้ามพรมแดนกลับเข้าเมกา ตามทางหลวงสาย 55 (ไม่เป็นสะพาน)
ซึ่งเมื่อข้ามเข้าเมกาแล้ว ถนนจะเปลี่ยนเป็น I-91 ตรงมาแล้วเปลี่ยนเข้า I-93 วิ่งยาวทะลุรัฐ New Hampshire ตรงเข้าบอสตัน
ระยะทางรวม 650 ก.ม. ใช้เวลาขับอย่างน้อย 6 ช.ม. ช่วงที่อยู่ฝั่งเมกา จะขับได้เร็วกว่าในแคนาดาหน่อยนึง เพราะถนนดีกว่าและกว้างกว่า

-ระหว่างที่อยู่ในรัฐ NH จะผ่านป่าเขา ทะเลสาบ และที่เที่ยวสวยงามมากๆแนวธรรมชาติหลายแห่ง ควรจัดเวลาแวะเที่ยวรัฐนี้สัก 1 วันด้วย แล้วจะประทับใจแน่นอนครับ
ที่เที่ยวสำคัญซึ่งเป็นทางผ่าน คือ Cannon Mountain (มีกระเช้าขึ้นไปบนยอดเขา), Flume Gorge,เมือง Meredith ริม Lake Winnipesaukee
ถ้ามีเวลามากขึ้นหน่อย ก็อาจเลี้ยวซ้ายที่เมือง Lincoln วิ่งไปตามถนนสาย 112 (Kancamagus Highway) ซึ่งผ่านป่าเขาและเลียบแม่น้ำ
ถนนเส้นนี้เป็นที่นิยมขับชมใบไม้เปลี่ยนสีในเดือนกันยา-ตุลา ซึ่งสวยสุดในรอบปี วิ่งไปจนทะลุออกเมือง Conway
แล้วค่อยวิ่งลงทางใต้กลับมาผ่าน Meredith และ Lake Winnipesaukee เพื่อทะลุกลับเข้าเส้น I-93 เพื่อไปบอสตัน ลองเอาชื่อพวกนี้ไปเสริชดูนะครับ

รูปที่แปะนี้ คือรูปถ่ายจากยอดเขา Cannon Mountain มองลงมาเห็นถนน I-93 วิ่งผ่านป่า White Mountain National Forest

-ที่โตรอนโตวันนี้ $1.19/L (ช่วงนี้น้ำมันถูก ปกติจะประมาณ 1.20-1.30)ลองคำนวณเปรียบเทียบดูเองนะครับ ผมไม่รู้ว่าเมืองไทยราคาเท่าไหร่

-เวลาเช่ารถ พยายามเลือกให้ขนาดเล็กที่สุด จะได้ประหยัดน้ำมัน เลือกบริษัทไหนก็ได้ที่ราคาถูกที่สุด เพราะคุณภาพไม่ต่างกัน

-ขับรถเข้าเมืองใหญ่ทุกเมือง ถ้าหาข้อมูลเรื่องที่จอดรถที่ถูกไว้ก่อนจะดี เพราะไม่งั้น ค่าที่จอดจะแพงมาก อย่างโตรอนโต ถ้าขับเข้าดาวน์ทาวน์ ค่าที่จอดราว $16 ตลอดวัน
ถ้าจอดนอกเมืองแถวสถานีรถไฟใต้ดิน แล้วนั่งรถไฟใต้ดินเข้าเมือง อาจจะดีกว่า ถ้าต้องไปเที่ยวหลายๆที่

-ลืมถามว่าจะมาเดือนไหน ควรต้องเป็นหลังเดือนเมษานะครับ ก่อนหน้านั้น ทาง Quebec อาจจะยังมีหิมะตกอยู่ ซึ่งถ้าไม่เคยขับรถเวลาหิมะตก จะอันตรายมาก

-ควรขอวีซ่าแคนาดามาจากไทยเลยนะครับ เพราะเอกสาร ราคา และขั้นตอนเหมือนกันทุกอย่าง จะได้ไม่ต้องเสียเวลาในการขอและรอ
ที่สถานกุงสลที่นิวยอร์คหรือ Niagara Falls ซึ่งอาจจะทำให้แผนการเที่ยวและเดินทางรวนไปหมด หากต้องรอ หรือมีปัญหาอย่างใดอย่างหนึ่ง

-ที่บอสตัน ควรไปลงเรือดูปลาวาฬด้วย ผมถือว่าเป็นไฮไลต์อย่างหนึ่งของบอสตัน ที่เมืองใหญ่อื่นๆไม่มี โดยต้องเลือกไปในวันที่ฟ้าใสแดดจัดเท่านั้น
ค่อนข้างการันตีได้ว่าจะได้เห็นปลาวาฬเยอะมากๆจนหายตื่นเต้นเลย จุดซื้อตั๋วและขึ้นเรือ อยู่ข้าง New England Aquarium
http://www.neaq.org/visit_planning/whale_watch/index.php

ทริปใช้เวลาไปกลับรวมประมาณ 4 ช.ม. ราคาจำไม่ได้ น่าจะเกิน $40 แต่จะได้เห็นเยอะจนคุ้มครับ แต่ก่อนผมไปดูทุกปี ไปกี่ครั้งก็ยังรู้สึกสนุกทุกครั้ง ไม่เคยเบื่อเลย

รูปนี้ผมถ่ายจากเวลาไปดูปลาวาฬ เป็นปลาวาฬหลังค่อม (Humpback Whale) ซึ่งเป็นชนิดที่พบได้บ่อยที่สุด

ขอบคุณ คุณ PKL มากครับ

จะไปช่วงสิ้นเดือนเมษาครับ กว่าจะไปถึง Quebec คงประมาณต้นๆ พฤษภาครับ ไม่แน่ใจหิมะยังมีอยู่มั๊ยครับ

ลืมบอกว่า เวลาข้ามแดน ไม่ว่าจากเมกาไปแคนาดา หรือแคนาดาไปเมกา จะถูกตรวจเช็คเรื่อง สิ่งของที่นำข้ามแดนเหมือนๆกัน
คือ ห้ามนำพวกพืชผัก ผลไม้ ไม้ และเนื้อสัตว์ ข้ามแดนเด็ดขาด เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคพืชและสัตว์

ต้นพฤษภา ไม่น่ามีหิมะที่ Quebec แล้ว แต่ตอนเช้าอาจจะยังหนาวมากสำหรับคนไทย อุณหภูมิน่่าจะราว 0-10 องศา ขึ้นๆลงๆ เอาแน่ไม่ได้

เอ่อ ดูแล้วเหมือนผมต้องขยายวันแล้วมีที่น่าเที่ยวเยอะมากๆ

ถ้าผมเปลี่ยนจากเช่ารถขับที่แคนาดามาเป็น พวกรถบัสหรือรถไฟแทน จะลำบากมากมั๊ยครับเพราะกระเป๋าใหญ่ๆกันทั้งนั้น แล้วถ้าขับรถแล้วแวะหลายๆที่ในเมืองรู้สึกว่าค่าที่จอดแพงจริงๆครับ

เดี๋ยวผมขอไปทำการบ้านเกี่ยวกับ Canada ก่อนนะครับแล้วจะมาตั้งกระทู้ขอคำแนะนำใหม่ครับ ตอนนี้กำลังลังเลระหว่างซื้อทัวร์หรือว่าเที่ยวเองดีครัย

ถ้ามีเวลา และมีหลายคน ขับรถเองก็ไม่แพง และได้เที่ยวตามใจชอบมากกว่าครับ แต่ถ้าซื้อทัวร์ก็ประหยัดดี
ลองดูทัวร์นี้เป็นตัวอย่างครับ http://www.taketours.com/new-york-ny/east-coast-canada-6-day-deluxe-tour-package-472-286.html
เคยมีเพื่อนผมซื้อทัวร์นี้มาจากนิวยอร์ค ได้ไปทั่วเหมือนกัน แต่ชะโงกทัวร์นิดหน่อย แต่ผมว่าก็สบายดี ไม่ต้องเหนื่อยขับรถไกล ยิ่งมาหลายคนยิ่งคุ้ม

ไม่แนะนำให้เดินทางด้วยบัสหรือรถไฟนะครับ เพราะกระเป๋าใหญ่จะมีปัญหา และค่ารถบัสและรถไฟที่แคนาดาค่อนข้างแพง หากเทียบกับทางยุโรป

เรื่องที่จอดรถ ถ้าไม่เอารถเข้าดาวน์ทาวน์ ก็อาจไม่เสียค่าที่จอดมาก เวลาเลือกโรงแรม ต้องเช็คให้ดีว่า ที่จอดรถฟรี

Toronto กับ Montreal มีรถไฟใต้ดิน อาจไม่ต้องเอารถเข้าเมืองได้
ส่วน Ottawa กับ Quebec ไม่มีรถไฟใต้ดิน ขับรถเข้าเมืองจะสะดวกกว่า และค่าที่จอดรถก็ไม่แพงมากเกินไป

ตอนนี้กงสุลแคนาดา ไม่ว่าที่ Detroit หรือที่ไหน ไม่มีการขอวีซ่า แบบที่ได้กันวันสองวันแล้ว
มีแต่ส่งคีนทาง ปณ จึงใช้เวลามากนะ