เที่ยวไปกับสาวโก๊ะ : โมรอคโคจ๋า ฉันมาแล้วจ้ะ

ตอนน้องผู้นำทริปชวนเที่ยวโมรอคโค มันคือที่ไหน สายลมไม่รู้ แต่ชื่อมันคุ้นมาก
ไม่เคยดูหนังคาซาบลังกา (Casablanca)
ไม่เคยฟังเพลง as time goes by
ไม่เคยรู้มาก่อนว่ามันมีทะเลทรายที่อื่นอีกนอกจากอียิปต์
แต่สายลมก็ตกลงไป

และดีใจที่ตกลงไป

ที่เที่ยวแปลกตาสวยงาม  เพื่อนร่วมทริปที่น่ารัก เที่ยวสบายในราคาที่พอสู้ไหว

รูปอาจไม่สวย เรื่องอาจไม่แน่น

แต่อยากมาแบ่งปันปนอวด

ถ้าสนใจก็ตามอ่านนะค่ะ
ความคิดเห็นที่ 1
โมรอคโคเป็นอีกประเทศค่ะที่ต้องทำวีซ่า แต่ก็ไม่ยุ่งยากอะไรนะค่ะ

เตรียมเอกสารประมาณนี้ค่ะ

1. แบบฟอร์มคำร้องขอวีซ่าที่กรอกข้อมูลครบถ้วน ตามไป download ได้ที่
http://www.moroccoembassybangkok.org/visa.html.pdf

เผื่อๆไปบ้างก็ดีนะค่ะ เผื่อกรอกไรผิด จะได้กรอกใหม่เลย  ที่สถานฑูตไม่มีฟอร์มแจกค่ะ มีแต่ตัวอย่างการกรอก

2. หนังสือเดินทาง (Passport) ที่มีอายุมากกว่า 6 เดือน พร้อมสำเนาหน้าแรกที่มีรูป 1 ชุด

3. ถ่ายสำเนาบัตรประชาชนและแปลเป็นภาษาอังกฤษให้เรียบร้อย

4. รูปถ่ายสี พื้นด้านหลังเป็นสีอ่อน ขนาด 4.0x 3.0 ซม. จำนวน 2 รูป ถ่ายไม่เกิน 6 เดือน

5. หนังสือรับรองจากธนาคาร หลักฐานการเงินเป็นภาษาอังกฤษ
ไม่ใช่ถ่ายสำเนาสำเนาสมุดเงินฝากแล้วธนาคารรับรองนะค่ะ
ไปติดต่อกับธนาคารที่เราฝากเงิน ขอให้เขารับรองเงินฝากเราเป็นภาษาอังกฤษ
อันนี้แล้วแต่ธนาคารจะเก็บค่าธรรมเนียมค่ะ เราโดนเพื่อการนี้ 100 บาทค่ะ

6. หลักฐานการทำงานเป็นภาษาอังกฤษ
- จดหมายรับรองการทำงาน หรือ หนังสือจดทะเบียนธุรกิจ
หรือหนังสือจดทะเบียนพาณิชย์ หรือ จดหมายรับรองจากสถาบันการศึกษา

7. สำเนารายละเอียดของเที่ยวบินและ / หรือ สำนาตั๋วเครื่องบิน ในกรณีที่ซื้อแล้ว

8. หลักฐานการจองที่พัก/โรงแรม มีวันแรกที่เดียวก็ใช้ได้ค่ะ
     
9. สุดท้าย กำเงินบาท 766 บาทเป็นค่าธรรมเนียมค่ะ
 เตรียมไปให้พอดีเน้อ เพราะคุณเจ้าหน้าที่ไม่มีทอนค่ะ

 ย้้า เตรียมเงินให้พอดีเปะ
ตอบกลับความเห็นที่ 1
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 2
เตรียมแล้วก็ไปสถานทูตค่ะ อยู่ที่
ชั้น 12 อาคารสาทรซิตี้ 175 ถนนสาทรใต้ สาทร กรุงเทพฯ 10120

นั่งรถไฟ BTS ไปก็สะดวกมาก  ออกสถานีช่องนนทรี ช่อง exit 2

ออกมาแล้วก็ต่อ sky walk  ค่ะ ข้ามไปลงด้านที่มีรถ BRT นั้นละค่ะ ฝั่ง bank of china ค่ะ
เดินไปอาคารสีน้ำตาล หลังที่สามเลยค่ะ จะเห็นป้ายแบงค์กรุงเทพ  
เดินเข้าด้านหน้าขึ้นบันไดเลื่อนไปต่อลิฟท์นะค่ะ ไปชั้น 12 โลดค่ะ
ตอบกลับความเห็นที่ 2
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 3
ตามข้อมูลรอ 3-5 วัน  สายลมรอแค่ 3 วัน  ก็ไปรับ passport คืน  
ง่ายนิดเดียวเอง

เกือบลืมเวลาทำการ

ยื่นเอกสาร  ทุกวันจันทร์ถึงศุกร์ ตั้งแต่เวลา 9.30 น. ถึง 12.00 น.

รับวีซ่า    ทุกวันจันทร์ถึงศุกร์ ตั้งแต่เวลา 14.00 น.ถึง 16.00 น.
ตอบกลับความเห็นที่ 3
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 4
สายลมบินไปกับ ETIHAD ได้ตั๋วโปรมา แต่ผิดพลาดนิดหน่อย เพราะจองวันกลับผิด

ดีว่าเป็น ETIHAD เลยเสียค่าเปลี่ยนวันได้ แต่จ่ายเพิ่มอีก 4000 บาท

สิริรวมค่าตั๋วเลยแพงกว่าผองเพื่อนเป็น 31,051บาท
ตอบกลับความเห็นที่ 4
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 5
เพราะบินจากสุวรรณภูมิ กลัวไปสายเลยตื่นแต่มืดตี 4 กะไปหากินมื้อเช้าของสายการบิน

แต่ ETIHADไม่มีเล้าท์เป็นของตัวเอง  คุณสามารถไปใช้เล้าท์ของการบินไทยได้

แต่ต้องมีตั๋ว business class ค่ะ

สายลมนะ ชนชั้นก็ประหยัด  king ก็ไม่มี  

ตื่นเช้า ก็ต้องอดทนรอไปกินบนเครื่องค่ะ
ตอบกลับความเห็นที่ 5
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 6
อ้อ อ้อ ข่าวเก่าของใครบางคน แต่ข่าวใหม่ที่ไม่มีประโยชน์สำหรับสายลม

คือทีสนามบินสุวรรณภูมิ ไปขอเนตเล่น wifi ฟรีได้นะค่ะ

ติดต่อหน่วยประชาสัมพันธ์พร้อมโชว์ passport เลยก็จะได้ user password ไปเ่น 1 ชม

อีกข่าว เดี๋ยวนี้ตมพี่ไทยเราไฮเทคค่ะ ไม่มีคุณเจ้าหน้าที่มาประทับตราปึกๆพร้อมแมทแล้ว

มีแต่เจ้าหน้าที่แนะนำว่าเอา passport คว่ำหน้า..ใช้นิ้วชี้วางมาแทน

สำหรับสายสม รู้สึกขาดสีสันไป passport ขาดรอยแมท สมุดเลยดูเหงาๆไป

เศร้าค่ะ  T^T
ตอบกลับความเห็นที่ 6
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 7
นั่งเครื่องกันยาวนาน ทีละ 7 ชั่วโมง แวะเปลี่ยนเครื่อง แล้วบินกันต่ออีก 7-8 ชม เมื่อยกันไปเลย

สายลมมาแวะ transfer กันที่สนามบินประเทศดูไบ

แค่สนามบิน ก็งามงดแล้ว  ไม่รู้ประเทศเขาจะงดงามขนาดไหน


ปล. ขอโทษค่ะ ข้อมูลผิดพลาด สายลม transfer ที่สนามบินอาบูดาบี

ซึ่งสนามบินอาบูดาบี เป็นสนามบินของประเทศสหรัฐอาหรับอามิเรตค่ะ

คราวนี้ประเทศสหรัฐอาหรับอามิเรตเนี่ย เกิตจากการรวมตัวของรัฐ 7 รัฐค่ะ

ดูไบ เป็น 1 ใน 7 รัฐค่ะ มีฐานะเป็นรัฐ หรือเมืองค่ะ ไม่ใช่ประเทศค่ะ

ต้องขออภัยมา มา ณ ที่นี่ค่ะ
ตอบกลับความเห็นที่ 7
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 8
ที่นั่งไม่กว้างนัก โชคดีขาไป ที่ว่างเยอะ เลยนอนไป และเซอร์ไพสร์เจอแอร์คนไทย

ส่วนขากลับคนแน่น เลยนั่งหลับกลับ และเซอร์ไพสต์ เจอทริปทัวร์คนไทยตั้ง 27 คน
ตอบกลับความเห็นที่ 8
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 9
ขอบคุณนะครับ ไม่ค่อยได้เห็นรีวิวประเทศแบบนี้ :-)
ตอบกลับความเห็นที่ 9
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 10
กรี๊๊ดดดดดด นานๆ จะเจอรีวิวโมร๊อกโคสักที

เป็นอีกประเทศที่อยากไปมากกก

อยากไปนอนในริยาดง่ะ
ตอบกลับความเห็นที่ 10
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 11
ถึงโมรอคโคแล้ว ผ่านตม.อย่างสบายๆ

แต่ขากลับซิ มีการถามเรื่องงานกับเงินอยู่นั่น หาว่ามาทำงาน

พอบอกว่าเป็นนักท่องเที่ยว ก็พยายามถามว่าเหลือเงินเท่าไร

น้องผู้นำทริปรีบให้ตอบว่าเหลือแต่เงินบาทเท่านั้น

เฮ้อ เที่ยวโมรอคโคดีมาทุกอย่าง มาตกม้าตายตอนจบนี่เอง
ตอบกลับความเห็นที่ 11
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 12
ขอบคุณ คุณTitle_boy และคุณนางมารชุดส้มที่แวะมาชมค่ะ

ช้าหน่อยนะค่ะ เหมือนเนตที่บ้านอืดจัด

// smile
สนามบิน Mohamed v Intl.Airport เป็นสนามบินที่ไม่ใหญ่โตเท่าไรค่ะ

แต่ก็มี 2 terminal แน่ะ

ตามแนวคิดใหม่ต้องอยู่นอกเมืองค่ะ
ตอบกลับความเห็นที่ 12
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 13
ถ้าจะเข้าเมืองคาซาบลังกา  ก็มีรถไฟเข้าเมืองแบบแอร์พอร์ตลิงค์บ้านเรา

สถานีต้นทางอยู่ภายในสนามบิน เดินตามป้ายได้เลย

ค่าโดยสาร ค่ารถไฟ Airport-Casablanca Voyagers

น้องผู้นำทริปบอกราคา 50 Dh ต่อคน

ไปออกที่สถานีรถไฟ Casavoyageurs Railway Station ที่อยู่ย่านใจกลางเมืองค่ะ


agent local tour ที่สายลมไปเที่ยวด้วย บอกว่าสามารถดูตารางรถไฟได้ที่

www.oncf.ma/Pages/Accueil.aspx

แต่ข้อมูลเป็นภาษาฝรั่งเศสนะค่ะ
ตอบกลับความเห็นที่ 13
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 14
ประเทศในฝันอีกประเทศนึงเลยค่ะ รอชมนะคะ
ตอบกลับความเห็นที่ 14
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 15
ตามข้อมูล คนโมรอกโคจะพูดภาษาอารบิค กับภาษาฝรั่งเศส

แต่ตามร้านขายของที่เราแวะ ก็เห็นพอพูดอังกฤษได้ค่ะ ส่วนร้านอาหารจะมีคนพูดได้  

แต่ชาวบ้านทั่วไป โดยเฉพาะเมืองไกลๆหน่อย อย่างเมือง Ouarzazate

จะพูดอิงค์ไม่ได้ ก็ภาษากายภาษาสากลค่ะ
ตอบกลับความเห็นที่ 15
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 16
ส่วนเงินที่ใช้ในโมรอคโค เขาใช้เงินสกุล dirham (Dh) ดีรฮัม

ที่โมรอคโคเขาควบคุมการแลกเปลี่ยนเงิน  เงินดีรฮัมเลยแลกได้ที่ โมรอคโคเท่านั้น

คุณต้องเตรียมเงินยูโร หรือ ดอลล่าร์ มาแลก ดีกัมที่นี่ค่ะ

เราเงินบาทก็ต้องเทียบไปมา คิดแล้ว 1 Dh ไม่ถึง 4 บาทดีค่ะ

แต่เพื่อง่าย เวลาจะจ่ายอะไร ก็เอา 4 คูณ

ลืมถ่ายตัวอย่างเงินบ้านเขามาค่ะ พอดีละลายที่สนามบินหมดเพราะมันใช้ที่ไหนไม่ได้ นอกจากที่โมรอคโค  


ตอบกลับความเห็นที่ 16
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 17
แต่ไม่ดีเลย เพราะที่สนามบิน ราคาของติดเป็นยูโร

และรับเงินดีกัมเฉพาะสินค้าท้องถิ่น ราคาของก็แพงกว่าข้างนอกเกือบเท่าตัว  

อัตราแลกเปลี่ยนก็โหดมาก  ควรชอปให้หมดที่ข้างนอก

ถ้าไม่หมดก็แวะแลกที่ธนาคารข้างนอกให้เรียบร้อย

เพราะในบริเวณสนามบินขาออก เราหาที่แลกเงินไม่ได้  

ที่แลกเงินที่เจอเป็นตอนขาเข้าค่ะ
ตอบกลับความเห็นที่ 17
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 18
ขอบคุณคุณตัวเล็กเล็กค่ะ ทำฝันให้เป็นจริงนะค่ะ เป็นประเทศที่น่าเที่ยวมากค่ะ


ทริปนี้เที่ยวหรู แล้วฟ้าก็มืดแถมมีแต่สาวๆ ลากกระเป๋า ก็เรียกแทกซี่ค่ะ

คิวจอดอยู่ด้านนอกอาคาร เดินออกมาเลยนะค่ะ มีป้ายประกาศราคาชัดแจ้ง 250 DH อิอิ

เลือกแทกซี่เพราะลองคำนวณแล้วมันพอกันนะค่ะ

คันแรกที่คุยก็แป่ว ไม่ตกลงค่ะ จะเอา 400

พอมาอีกคัน ตกลงที่ 250 DH สาวๆนั่งรถ 5 คนคันเดียวได้

แต่กระเป๋า 5 ใบ มันยัดท้ายรถไม่ได้ค่ะ  

เลยต้องสุมหัวกันว่าจะกลับใจไปนั่งรถไฟ หรือจะจ้างแทกซี่ 2 คัน

พอตาคนขับได้ยินประมาณ 2 คันเท่านั้น เสนอว่าเอากระเป๋าขึ้นหลังคารถได้

แต่ต้องเพิ่มเงิน
ตอบกลับความเห็นที่ 18
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 19
ตรงนี้น่าจะเป็นไคล์แม็ก ทำให้มีเรื่องตื่นเต้นเล็กๆ

เพราะไม่รู้การเจรจาตอนเพิ่มเงินเนี่ย ตกลงกันคนละเรื่องเดียวกันหรือเปล่า

เพราะพอส่งถึงที่พัก พวกเราจ่ายไป 300 DH แต่ตาคนขับจะเอา 400-500 DH

สายลมเลยไปช่วยน้องผู้นำทริปเจรจา

ไม่รู้เพราะภาษาอังกฤษสายลมแย่ หรือเริ่มมีคนมามุง

เพราะสายลมช่วยพูดประนีประนอมว่าให้ 400 DH ไม่ได้หรอก

เพราะมารถคันเดียวไม่งั้นนั่งคันแรกไปแล้ว เพิ่มได้ก็อีก 50 DHเท่านั้น มากกว่านี้ไม่ได้

แหะๆความหมายเราคือ ให้ 350 DH แต่แกคงเข้าใจผิด เพราะเห็นพูดอะไรก็ไม่รู้

(คาดว่าอาจจะชมเรา แต่แปลไม่ออก) แล้วขับรถออกไป ไม่เห็นรับเงินอีก 50 DH เลย 555

Lesson learn เรื่องนี้คือการที่ภาษาแย่เนี่ยก็มีประโยชน์เหมือนกัน
ตอบกลับความเห็นที่ 19
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 20
ที่พักใน คาซาบลังกาค่ะ  โรงแรม  ENASMA HOTEL

โรงแรมธรรมดาค่ะ ระดับ 2 ดาว

ไม่มีน้ำขวด หรือ ยาสีฟัน อะไรให้  แต่อยู่ในย่านเมืองค่ะ
ตอบกลับความเห็นที่ 20
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 21
จากสถานีรถไฟเขาว่าเดินแค่ 5 นาที ก็ถึงแล้ว

อันนี้ไม่ได้พิสูจน์เพราะนั่งแทกซี่มา

ส่วนราคาที่ได้ รวมอาหารเช้าประมาณ 17.5 euroต่อคน  

แต่น้องผู้นำทริปเขาว่าได้ลดจากอะไรสักอย่าง เอาว่าจ่ายไปเป็นเงินบาทไปคนละ 650 บาท

แถมที่โรงแรม มีจัดมุมสวยเล็กๆ ให้ถ่ายรูปด้วย
ตอบกลับความเห็นที่ 21
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 22
ข้อดีของที่นี่ กาแฟอร่อยค่ะ

หลังจากเริ่มเที่ยวไกลออกไป กาแฟก็เริ่มไม่อร่อยตามความห่างออกไป

แต่กลายเป็นน้ำส้มอร่อยขึ้นแทน  โดยเฉพาะที่ Marrakech ทั้งอร่อยและถูก
ตอบกลับความเห็นที่ 22
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 23
ก่อนเดินทาง แนะนำว่าซื้อน้ำแถวในเมืองไปเลยก็ดีค่ะ

เพราะราคาจะถูกหน่อย และตามที่พักต่างๆจะไม่มีน้ำดื่มให้ค่ะ

ตอนนั่งรถ เห็นมีคาร์ฟูร์แต่ไม่ได้แวะลงไปพิสูจน์ว่าราคาถูกหรือเปล่า
ตอบกลับความเห็นที่ 23
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 24
มาเที่ยวด้วยช่วยโก๊ะครับ ^^
ตอบกลับความเห็นที่ 24
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 25
ทริปเที่ยวคราวนี้เที่ยวแบบทัวร์ แถมเป็นทัวร์มีระดับ

น้องผู้นำทริปเธอซื้อ ทริป local tour จาก said แห่ง real morocco tours

เป็นทริป 6 วัน 4 คืน รวมอาหารเช้า และก็อาหารเย็น 3 มื้อ ไม่รวมค่าเข้าสถานที่ท่องเที่ยว

ราคา 380 ยูโร

สนใจ ก็ติดต่อที่เวปนี้ค่ะ
Realmoroccotours.com

เพิ่งใช้ครั้งเดียว เลยไม่มีตัวเปรียบเทียบ แต่ส่วนตัว OK ค่ะ

เลือกจัดที่พักให้ดีมาก แต่ขัดใจที่ไม่พาเที่ยวเมืองเฟสเท่านั้น
ตอบกลับความเห็นที่ 25
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 26
ขอบคุณคุณไผ่พลิ้วนะค่ะที่ตามมาช่วย อิอิ


ทริปทัวร์สายลมเริ่มในวันรุ่งขึ้น  โจเชฟ driver ก็ควบเจ้ารถคันนี้มารับเราค่ะ

เขาพูดภาษาอังกฤษเก่ง และพยายามชวนคุยมาก แต่ทำให้เราปวดหัว

เฮ้อ ก็แกไม่ยอมพูดไทยนิ สอนให้พูดสวย ก็พูดเป็นซวย กลุ้มจัง
ตอบกลับความเห็นที่ 26
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 27
รำร้องออกแขกมาซะยาว เริ่มเที่ยวกันเถอะ

ก่อนลาจากคาซาบลังก้า ก็ต้องเที่ยวที่นี่ก่อนค่ะ

มัสยิคพระเจ้าฮัซซันที่ 2 หรือ The New Mosque of Hassan II
ตอบกลับความเห็นที่ 27
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 28
โมร็อกโกเป็นประเทศประชาธิปไตยที่มีกษัตริย์เป็นประมุขค่ะ

ทรงเป็นทั้งผู้นำทางศาสนา ด้านการปกครองและการเมืองด้วย

และประชาชนส่วนใหญ่เป็นมุสลิมค่ะ

สถานที่ท่องเที่ยวดังๆ เลยมักจะเป็นมัสยิคสวยๆ หรือ อะไรๆที่เกี่ยวกับกษัตริย์ค่ะ
ตอบกลับความเห็นที่ 28
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 29
มัสยิคพระเจ้าฮัซซันที่ 2 ถ้าเดินชมรอบนอกไม่เสียค่าใช้จ่าย แต่เข้าข้างใน คนละ 120 Dh พร้อมไกด์ค่ะ

มาทั้งที ก็ต้องเข้าไปดูหน่อย

น้องผู้นำทริปเลือกไกด์อังกฤษค่ะ

แต่ไม่มีผลอะไร เพราะสายลมฟังไม่ออก

ตอนหลังมัวแต่ถ่ายรูป เลยผลัดกับไกด์แบบตั้งใจค่ะ อิอิ

ข้อมูลที่จะด้นต่อไป สายลมก็ควานเอาจากในเวปเนี่ยล่ะค่ะ
ตอบกลับความเห็นที่ 29
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 30
ขอบคุณที่พาไปเที่ยวที่แปลกๆใหม่ๆค่ะ...ไม่ค่อยได้รู้ข้อมูลของประเทศโมรอคโคเลยค่ะ เป็นประเทศที่น่าสนใจเหมือนกันนะคะ
ตอบกลับความเห็นที่ 30
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 31
สาระหน่อยนิด ที่นี่ออกแบบโดยสถาปนิกชาวฝรั่งเศส ชื่อ นาย Michel Pinseau

และถูกสร้างโดยถมทะเลลงไปในมหาสมุทรแอตแลนติคตามความเชื่อในพระคัมภีร์อัลกุรอ่านที่ว่า

บัลลังค์ของพระอัลเลาะห์ถูกสร้างอยู่เหนือน้ำอยู่ระหว่างทะเลและท้องฟ้า

ตอนนั่งรถแล่นตามถนนเลียบทะเล จะเห็นมัสยิด เด่นมาแต่ไกล

ดูงามเด่นมาก
ตอบกลับความเห็นที่ 31
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 32
ขอบคุณคุณไข่จังน้อยที่แวะมาชมค่ะ  
โมรอคโคน่าเที่ยวมากค่ะ ทั้งบ้านเมืองที่แปลกตา ผู้คนทั่วไปก็นิสัยน่ารักมากค่ะ
เสียแต่ไกล ค่าตั๋วแพงค่ะ



มัสยิคพระเจ้าฮัซซันที่ 2 นี้ถือเป็นเมกะโปรเจ็คที่ทั้งใหญ่และสร้างนานหลายปี

เห็นว่าใหญ่เป็นอันดับสอง รองจากเมกกะ  

เข้ามาดูก็เห็นว่าทั้งใหญ่และกว้างจริงๆ

ประมาณมองคอตั้งบ่าเลย ตกเฟรมกล้องกันเลย

แต่ไม่เคยเห็นมัสยิคใหญ่อันดับหนึ่งและสาม

ดังนั้นอันดับเนี่ย ไม่คอมเฟริ์มนะค่ะ  

เพราะสถิตเนี่ย สมัยใหม่มันทำลายกันง่ายมาก
ตอบกลับความเห็นที่ 32
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 33
มัสยิดในโมรอคโค มีเอกลักษณ์อย่างหนึ่ง คือ โดม หรือ หออาซาน

จะมีรูปแบบทรงเดียวกันเหมือนหมดทั้งประเทศเลยทีเดียว เป็นแท่งตรงๆขึ้นไป รูปทรงจะต่างจากบ้านเรา

มัสยิคแบบโมรอคโคนี้ ตามข้อมูลที่มี บอกลอกแบบมาจาก อูตูบียะฮฺ

เป็นมัสยิดที่เก่าแก่ จากสมัยอันดะลุส ตอนที่อิสลามรุ่งเรือง เมื่อหกร้อย-เจ็ดร้อยปีก่อน

ที่ปัจจุบันอยู่ในสเปนค่ะ

ไว้มีโอกาสไปสเปน จะตามไปดู
ตอบกลับความเห็นที่ 33
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 34
เคยไปมาแต่ Tangier-Morocco เมืองใหญ่อันดับสามทางตอนเหนือ ด้วยการโดยสารเรือจากเฟอรี่ของประเทศสเปญ  เรือเล่นผ่านบริเวณช่องแคบยิบรอลตาร์ (Gibraltar ดินแดนพ้นทะเลของสหราชอาณาจักร)

ชอบเพลง Casablanca มาก จะเกิดความสุขเมื่อได้ฟังครับ                  
                 
                      I feel in love with you wathching  Casablanca

สักวันหนึ่งคงได้พบกันที่ Casablanca
ตอบกลับความเห็นที่ 34
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 35
เราเข้าไปดูข้างในกันดีกว่า
ใหญ่โต อลังการงานสร้าง ใหญ่อย่างกะวังเลย
ตอบกลับความเห็นที่ 35
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 36
ขอบคุณ คุณ land_v นะค่ะที่แวะมาชมค่ะ
พอดีน้องคนนำทริป อยากท่องทะเลทรายค่ะ แล้วก็มีตั๋วโปรมาโมรอคโค
เลยมุ่งสู่คาซาบลังกาเลย
เพื่อจะไปนอนนับดาว ดูดาวตกท่ามกลางทะเลทรายค่ะ
ตอบกลับความเห็นที่ 36
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 37
มัสยิคส่วนใหญ่จะมีแยกที่ละหมาดชายหญิง ที่นี่เดินขึ้นไปชั้นสองเป็นส่วนของผู้หญิงค่ะ

เราได้มีโอกาสเดินขึ้นไปดู ทั้งที่เขาห้ามนักท่องเที่ยวเข้า

โดยลุงใจดีที่แอบพาพวกเราไปดู
ตอบกลับความเห็นที่ 37
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 38
ถามหาเหตุผล นับได้แค่สามค่ะ

ข้อแรก พวกเราเป็นผู้หญิงล้วน  

ข้อสอง เป็นช่วงสูญญากาศ เพราะตอนนั้นตรงนั้นนักท่องเที่ยวหายไปหมด

และสุดท้าย คิดว่าน่าจะสำคัญสุด ลุงคนนำทางแกหวังผลตอบแทนความดีเป็นปัจจัยจากเรา

ก็ ทิปกันไปค่ะ ฮึ นึกว่าใจดี
ตอบกลับความเห็นที่ 38
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 39
ตรงส่วนของสตรีจะมีระเบียงไม้ลายสวยกั้นไว้ด้วยค่ะ  ก็เพื่อจะได้ไม่เห็นผู้หญิงไงค่ะ

แต่ภาพลายไม้มัวค่ะ ดูส่วนอื่นแทนแล้วกัน
ตอบกลับความเห็นที่ 39
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 40
ชั้นล่างใต้ดินเป็นห้องอาบน้ำ ภาษาอังกฤษใช้คำว่า bathroom  

เราเข้าใจว่าคงแบบไม่ใช่อาบน้ำ

แต่คงเป็นที่ชำระล้างหน้า มือ เท้าตามขนบของชาวมุสลิมก่อนทำละหมาด

แต่เราก็ไม่เห็นท่อน้ำอะไรเลย เลยงงๆ ไม่มีคนให้ถามด้วย

งั้นดูเอาสวยแล้วกัน ผิดถูกวางไว้ก่อน
ตอบกลับความเห็นที่ 40
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 41
ส่วนรูปนี้เป็นทางเข้าห้องน้ำค่ะ เราเข้าไปพิสูจน์

และเป็นจุดเริ่มต้นของการบอกว่าเข้าห้องน้ำที่โมรอคโค ต้องเสียเงินค่าทิป

ไม่เว้นแม้แต่สนามบินขาออก

แต่จ่ายไปแค่ คนละ ฮีดัมเอง ก็ประมาณ 4 บาท

ขอบ่นว่าเพิ่งไปลาวใต้มา ที่นี่ต้อง 5 บาท แถมที่น้ำตกผาดเยื้อนโดนไป คนละ 10 บาท

เฮ้อ รักเมืองไทยจัง ห้องน้ำบางที่เป็นแอร์ ยังฟรีเลย
ตอบกลับความเห็นที่ 41
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 42
หลังชมมัสยิดเสร็จ สายลมก็ออกจากคาสบลังก้า(Casabalanca)

เพื่อมุ่งหน้าสู่ราบัต (Rabat) เมืองหลวงของโมรอคโค

ถึงเมืองราบัตจะเป็นเมืองหลวงโมรอคโค แต่ใช่จะมีแต่ความทันสมัย  

ยังมีซากเมืองโบราณที่อยู่มาเก่าก่อนให้ดู

เป็นซากเมืองโบราณที่งามมาก ติดดาวในใจสายลมเลย
ตอบกลับความเห็นที่ 42
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 43
ขอเรียกอุทยานประวัติศาสตร์แห่งเมืองราบัตแล้วกัน  

ค่าเข้าชม คนละ 10 Dh
ตอบกลับความเห็นที่ 43
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 44
เมืองป้อมปราการนี้ชื่อ Chellah Necropolis เกี่ยวข้องกับอาณาจักรเก่าแก่

ย้อนกลับไปปีคริส 1248 สมัย Abou Yahia ตั้งราชวงศ์ Merinid

เทียบๆกับบ้านเราก็ประมาณสมัยสุโขทัย
ตอบกลับความเห็นที่ 44
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 45
ราชวงศ์นี้รุ่งเรืองสุดในยุคของ Abou el-Hassan

ก่อนจะโรยราไปในปี 1420

สิริรวมแล้วมีอายุประมาณเกือบสองร้อยปี
ตอบกลับความเห็นที่ 45
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 46
กำแพงเก่า แต่สีสด กับท้องฟ้าที่ฟ้าเข้มมาก

ก็กลายเป็นแบคกราวให้นางแบบไทยโพสต์ท่ากัน
ตอบกลับความเห็นที่ 46
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 47
ลั้นลาถ่ายรูปกับซากเมืองโบราณแล้ว ก็นั่งรถต่อก็เข้าดัวเมือง

เราจะไปชมสุสานกันค่ะ

สุสานกษัตริย์ Mausoleum of Mohammed V แห่งเมืองราบัต
ตอบกลับความเห็นที่ 47
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 48
อย่างที่บอกไป โมรอคโคเป็น Kingdom มีกษัตริย์เป็นศูนย์รวมจิตใจ

กษัตริย์ Mausoleum of Mohammed V ท่านเป็นผู้ปลดปล่อยประเทศโมรอคโคจากฝรั่งเศสและจากสเปน

ทรงกอบกู้บ้านเมือง  เรียกว่าทรงเป็นมหาราช  

เมื่อทรงสวรรคต รัฐบาลจึงอยากสร้างสุสานให้อลังการณ์งานสร้าง

เลยเลือกที่ใจกลางเมือง  ที่เคยเป็นที่ตั้งเก่าของมัสยิด Hassan Mosque อันเก่าแก่

ที่สร้างมาตั้งแต่อาณาจักร Al-Andalus

มาเราเข้าไปชม ไปทำความเคารพกัน
ตอบกลับความเห็นที่ 48
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 49
หน้าประตูทางเข้ามีทหารขี่ม้าอย่างเท่ห์ยืนอยู่

และคงเคยชินกับการเป็นพรอบของการถ่ายรูป

เพราะ He หน้าเคร่งได้ใจ

แต่ก็นะ แต่ละคนที่เคยมาถ่ายรูปคงท่าธรรมดามาก

พอพวกเราทำท่าคิขุอะโนเนะตอนหนึ่ง

คุณทหารก็อดหัวเราะไม่ได้ และพอรู้ตัวท่านก็เก็กหน้าต่อ อิอิ
ตอบกลับความเห็นที่ 49
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 50
เห็นข้อมูลว่าชุดทหารเนี่ยมีชุดเปลี่ยนตามหน้าร้อน หน้าหนาวด้วยนะค่ะ

อันนี้ก้ไม่ทราบว่าเป็นชุดหน้าร้อนหรือหน้าหนาว

เพราะโมรอคโคได้ชื่อว่าเป็นประเทสในแอฟริกาที่มีอากาศเย็น

ตอนที่ไปอากาศก็แค่เย็นๆ

แต่เดือนพฤศจิกายนเนี่ยน่าจะเป็นชุดหนาวแล้วนะ

เอาเถอะ ถึงไม่ได้เห็นชุดหน้าอื่น

ไงสายลมก็ไปจังหวะเขาเปลี่ยนเวรค่ะ

เลยเห็นม้าเปลี่ยนสี จากสีขาว เป็นสีน้ำตาล 555
ตอบกลับความเห็นที่ 50
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 51
ค่าเข้าที่นี่ฟรี คงเพราะได้แต่เดินวนๆเรอบ เข้าส่วนมัสยิค หรือสุสานไม่ได้ ก็พวกเราไม่ใช่มุสลิมะนิน่า
ตอบกลับความเห็นที่ 51
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 52
อาคารรูปสี่เหลี่ยม มีหลังคารูปปิรามิดสีเขียวเป็นที่ฝังพระศพของท่าน

ข้อมูลบอกว่าออกแบบโดยชาวเวียดนาม ก็ภูมิใจนิดหน่อยในความเป็นชาวเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ด้วยกัน

อาคารพระสุสานท่านดูไม่ใหญ่โตอลังมาก ไม่เวอร์

แต่รู้สึกได้ถึงความเรียบง่าย(แบบชะเง้อดู)  

เพียงพอแบบอย่างกษัตริย์มหาราชผู้พอเพียง
ตอบกลับความเห็นที่ 52
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 53
ตอนนั้นไม่ได้เข้าไปดูใกล้ๆ เพราะตอนจะเข้าไปส่วนมัสยิค โดนไล่

เลยเข้าใจเองว่าส่วนสุสานก็เข้าไม่ได้

แต่ตอนเขียนรีวิว เริ่มไม่แน่ใจ เพราะเห็นข้อมูลที่ตัวเองแคปเก็บไว้

มีคนรีวิวว่าเข้าไปได้

ไงทิ้งเป็นข้อมูลคนถัดไปว่าลองเดินไปดูแล้วกัน  อย่างมากก็แค่เข้าไม่ได้
ตอบกลับความเห็นที่ 53
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 54
เข้าไม่ได้ ก็มาดูส่วนมัสยิคเก่ากัน (ของปัจจุบันห้ามเข้าอ่ะ)
ก็เดินดูเสารอบๆเนี่ยแทน

เห็นนักท่องเที่ยวคนหนึ่งปีนขึ้นไปยืนถ่ายรูปบนเสาแล้วอยากทำบ้าง

แต่ตัวเตี้ยตะกายไม่ถึง  

ก็เปลี่ยนเป็นแบคกราวด์แบบอินเดีย ถ่ายรูปข้างเสาแทน
ตอบกลับความเห็นที่ 54
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 55
เจ้าเสารอบๆเนี่ย คือส่วนหนึ่งของหอ Minaret ของ มัสยิคเก่าอายุกว่าพันปี Hassan Mosque ค่ะ

หอเนี่ยเป็นหอสูงสุดใน 3 หอเลื่องชื่อของอาณาจักร Al-Andalus เลย

แต่อนิจจาสังขาราค่ะ เพราะเดี๋ยวนี้เหลือแค่นี้ อิทธิพลจากแผ่นดินไหวค่ะ
ตอบกลับความเห็นที่ 55
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 56
ได้เวลากินข้าวแล้ว  แวะทานอาหารสไตส์ฝรั่งเศสกันมื้อแรกเลยที่ร้านนี้  

แต่บอกพิกัดไม่ถูกจ้ะ รู้แต่อยู่ในเมืองราบัต ดูจากนามบัตรเอาเองเด้อ
ตอบกลับความเห็นที่ 56
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 57
อาหารอร่อย  ถูกปากค่ะ
ร้านตบแต่งสวย น่าถ่ายรูป

เพราะร้านสวย และกินข้าวต้องแชะ ก็ได้เรื่อง  เจ้าของร้านเดินออกมาดูเลย

ต้องให้โจเซฟ driver เราบอกว่าพวกเราไม่คิดกอปรูปแบบร้านหรอก  

แต่พวกเรามันนิสัยเสีย กินข้าวก็ถ่ายรูป เจอมุมเล็กๆไรเข้าก็ถ่ายรูป

เจ้าของร้านคงงง แต่ก็ยอมจะเดินกลับไป

แต่ไหนๆออกมาแล้วก็ขอถ่ายรูปคู่เลย

รูปเจ้าของร้านไม่มีค่ะ อยู่กล้องเพื่อน

แต่ขอบอกว่าเด็กแล้วก็หน้าตาดีมาก
ตอบกลับความเห็นที่ 57
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 58
ออกจากราบัตก็มุ่งหน้าสู่เมคเนส(Meknes)

เมคเนสเป็นหนึ่งเมืองหลวงโบราณในสมัยสุลต่านมูเล อิสมาอิล (Mouley Ismail) แห่งราชวงศ์อะลาวิท (Alawite Dynasty)

เรามาแวะเมคเนส(Meknes) เพื่อชมประตูบับมันซู(Bab Mansour Monumental Gate)ที่ได้ชื่อว่าสวยที่สุด
ตอบกลับความเห็นที่ 58
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 59
ขอบอกว่าผิดหวังนิดหน่อย เพราะมันงามแค่กระหย่อมเดียวตรงประตู

นอกนั้นมันเป็นกำแพงดินผสมอิฐสีน้ำตาลมอๆ ไม่มีลวดลาย
ตอบกลับความเห็นที่ 59
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 60
สายลมเลยข้ามถนนมาด้านลานกว้างอีกด้าน มาเดินดูวิถีชาวบ้านที่สนุกกว่า

เห็นคนมุงดูอะไรสักอย่างเป็นวงกว้าง เพื่อนสายลมไปมุดชะเง้อดู

ส่วนสายลมหมดหวัง เพราะเตี้ยเกิน คนที่นี่สูงใหญ่กันทั้งนั้น

เพื่อนบอกเหมือนจะแสดงอะไรสักอย่าง แต่อยู่ช่วงเก็บเงิน

ทำให้สายลมอดคิดถึงหนังจีน ที่มีการแสดงปาหี่กายกรรม เก็บเงิน

เอ หรือจะเป็นอับดุล ผู้รู้ทุกอย่าง
ตอบกลับความเห็นที่ 60
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 61
ตรงนี้ยังมีของขาย หลายอย่างด้วย
ตอบกลับความเห็นที่ 61
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 62
ลานตลาดค้าขาย ที่ผู้คนสามารถมาวางของค้าขายกันได้
ตอบกลับความเห็นที่ 62
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 63
ปิดท้ายไปขอเข้าห้องน้ำแถวนั้น ดูซิทางไปห้องน้ำยังสวยขนาดนี้
ตอบกลับความเห็นที่ 63
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 64
ว้า ลืมรูปหรือนี่
ตอบกลับความเห็นที่ 64
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 65
คืนนี้ สายลมพักที่เฟสค่ะ เราพักที่ Riad Dar Cordoba

โรงแรมจากนี้ไป สายลมไม่มีราคาค่ะ เพราะเขารวมอยู่ในค่าทัวร์แล้ว

แต่มีเวปที่พัก เข้าไปดูกันเองนะค่ะ
darcordoba.com
ตอบกลับความเห็นที่ 65
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 66
ที่พักต้องเดินเข้าซอย ตอนแรกแอบเซ็งเพราะแลดูเก่าๆ นึกว่าจะเป็นที่พักแบบดาวสองดาว
ตอบกลับความเห็นที่ 66
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 67
แต่พอเปิดประตูที่พักเข้าไป อย่างหรูเลย

สวยมาก นึกว่าตัวเองเป็นเจ้าหญิงแขกกลับวังเลย 555
ตอบกลับความเห็นที่ 67
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 68
ที่นี่เป็นที่พักแบบริยาจ  คือ

เป็นบ้านชาวบ้านผู้มีอันจะกินแบบโมรอคโคแต่เดิม

ที่นำมาดัดแปลงเป็นที่พัก

คล้ายโฮมสเตล์บ้านเรา

ฮือ ของเขาสวยมากอ่ะ
ตอบกลับความเห็นที่ 68
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 69
ขอนำเสนออีกรูปแล้วกัน

ถ่ายมาเยอะมาก แต่เดี๋ยวจะกลายเป็นรีวิวที่พักไป

รูปสุดท้าย ขอควบสอง อิอิ
ตอบกลับความเห็นที่ 69
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 70
เราถึงเฟสค่อนข้างดึก แต่เจ้าหน้าที่ก็รอต้อนรับตามธรรมเนียมโมรอคโค

เชิญทานชาร้อน แกมขนมหวานค่ะ
ตอบกลับความเห็นที่ 70
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 71
ตามแผน ทีมเราจะทานอาหารกันที่พัก แต่มันดึก  ครัวปิด

เลยต้องเดินไปตลาดค่ะ

โดยน้องฟารีดาเจ้าหน้าที่ที่พักที่เลิกงานกลับบ้านเป็นคนเดินพาไปส่งย่านร้านอาหารให้ค่ะ
ตอบกลับความเห็นที่ 71
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 72
เราเลือกร้านนี้ ร้านสวยมาก แต่อาหารไม่ถูกปากอย่างแรง

งั้นก็ไม่ต้องรู้ชื่อร้านแล้วกัน
ตอบกลับความเห็นที่ 72
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 73
ปิดท้ายด้วยอาหารที่สั่งที่สวยดูน่าทาน

แต่ใส่เครื่องเทศอย่างมาก ทานกันไม่ได้เลย

แถมจานนี้เป็นเนื้อวัว ซึ่งสายลมถ่ายรูปได้ แต่กินไม่ได้
ตอบกลับความเห็นที่ 73
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 74
จบวันแล้ว สายลมก็ขอจบแค่นี้ก่อน เจอกันในตอนหน้า

มาอ่าน สายลมขี่อูฐ  ชมจันทร์  นะค่ะ

สวัสดีค่ะ
ตอบกลับความเห็นที่ 74
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 75
ขอบคุณสำหรับรีวิวนะคะ >______<
อยากไปบ้างจังเลยค่ะ 
ตอบกลับความเห็นที่ 75
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 76
ขอบคุณสำหรับรีวิวค่ะ อธิบายได้ละเอียดดีจัง
ตอบกลับความเห็นที่ 76
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 77
ขอบคุณคุณ MYmyopia และคุณมอคคาโอรีโอ สำหรับการติดตามด้วยค่ะ
ตอบกลับความเห็นที่ 77
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 78
ขอบคุณสำหรับรีวิวนะคะ ....ตามไปเที่ยวโมรอคโคด้วยคนค่ะ
ตอบกลับความเห็นที่ 78
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 79
เป็นรีวิวประเทศที่ผมกำลังโหยหาเลยครับ

ขอบคุณมากๆ ครับ สำหรับรีวิว
ตอบกลับความเห็นที่ 79
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 80
ขอบคุณคุณ Sergeant Keroro และคุณ อาตี๋อินเทอร์เน็ต


ชอบตอนนี้ ก็ช่วยตามไปดูตอนสองที่นี่นะค่ะ
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E13089256/E13089256.html
ตอบกลับความเห็นที่ 80