อยากขอขมาคุณป้าท่านนึงที่ทางเข้าตลาดน้ำอัมพวา

เริ่มเรื่องคือ ผมไปเที่ยวหัวหินกับเพื่อน แล้วขากลับเราตกลงแวะตลาดน้ำอัมพวากัน (ก็ดี เพราะผมยังไม่เคยไปตลาดน้ำอัมพวาเลยซักครั้ง)

ด้วยความที่ผมมาครั้งแรก ยังไม่ชินทาง ก็เลยพยายามขับตามรถของเพื่อนคันหน้าไม่ให้ห่างเพราะกลัวจะพลัดหลงกัน เพราะตลาดก็พื้นที่ไม่ใช่เล็กๆ หลงไปทีก็คงหากันลำบาก

แล้วจังหวะพอดีไปหน่อย ขาเข้ารถติดมาก เพราะเป็นวันอาทิตย์บ่ายๆ (วันนี้) ก็พอดีมีคุณป้าคนนึง แกออกมากันรถทางตรง(ก็ตรงหน้ารถผมนี่ล่ะ) เพื่อโบกให้รถที่จอดถอยออกมาได้

และด้วยความร้อนรนของผม ที่กลัวจัดมากว่าจะพลัดหลงกับเพื่อน (เพราะขณะนั้นรถทางส่วนหน้ามันก็เคลื่อนไปแล้ว) ผมก็เลยพยายามจะหักหลบคุณป้าคนดังกล่าว แต่ท่านก็พยายามเดินมาบล๊อค พลางตะโกนว่า "ขอทางหน่อย มีมารยาทหน่อย" ด้วยสีหน้าหงุดหงิด และด้วยความร้อนรนของผมก็เลยไล่ด้วยแตรไป 1 ทีสั้นๆ ก็เลยโดนด่ามาอีกหลายประโยคว่า "ไอ้คนไร้มารยาท รอนิดรอหน่อยไม่ได้..." พร้อมมือของคุณป้าที่ฟาดฝากระโปรงหน้าไป 1 ที ดังปั้ก ...

ผมก็ตะโกนจากในรถว่า "จะรีบตามคันหน้าไปเดี๋ยวพลัดหลงกับเพื่อน" (โดยที่ลืมเปิดกระจก ท่านอาจจะไม่ได้ยิน ท่านก็ยังคงยืนไซโคผมอยู่จากด้านนอก)

จนรถดันที่ถอยออกมาพ้น แล้วคุณป้าท่านนั้นก็เดินมาทางขวาของผมโดยยืนฝั่งตรงข้ามถนน (ซอยวิ่งไป-กลับ 2 เลน 1เลนไป 1เลนกลับ) ท่านยังคงไซโคชี้หน้าด่ากราดผมอยู่ ด้วยพลังเสียงที่น่าจะได้ยินกันไปทั้งซอย + หลายคัน

ด้วยความที่ผมหงุดหงิด+ร้อนใจมากเพราะ พลัดกับคนนำทางไปแล้ว ก็เลยหันไปหาท่านป้าแล้ว แสดงกิริยาไร้มารยาท+ไร้สัมมาคารวะอย่างที่สุดไป นั่นคือ ให้ไป 1 นิ้ว (นิ้วไหนคงไม่ต้องบอกนะ) เท่านั้นล่ะครับ เหมือนโยนถังแก๊ซเข้าไปในบ้านที่ไฟกำลังไหม้ ...

จังหวะนั้นรถเคลื่อนตัวพอดี แต่ท่านป้าก็วิ่งเข้ามาแล้วจัด กระจกข้างหลังขวารถผมไปเต็มๆ 1 ฝ่ามือถ้วน ภาพตามลิ้งก์ (ผมมาถ่ายตอนจะถึงบ้าน เลยอาจจะมืดไปหน่อย)
http://upic.me/i/if/dsc_1138.jpg

รถเคลื่อนตัวไปได้ซักพักก็หยุดใหม่ ท่านป้าก็ยังคงวิ่งตามรถผมมาพร้อมด่ามาตลอดทาง (ด่าอะไรมั่งก็ไม่รู้ล่ะ) มาถึงก็จัดไปอีก 1 ฝ่ามือถ้วนทางกระจกหลังซ้าย http://upic.me/i/n7/dsc_1137.jpg

และก็กระจกหน้าซ้ายฝั่งที่นั่งข้างคนขับ ท่านหวดกำปั้นทุบกระจกรถผมราวๆ 4-6 ดอก พร้อมตะโกนด้วยระดับเดซิเบลที่ไม่ได้ลดลงจากเดิมเลย "-ึงจะเอายังไง!" ตุบ! ตุบ! ตุบ! http://upic.me/i/ng/dsc_1136.jpg

ตอนนั้น "ขอโทษ" ไม่ได้อยู่ในใจผมเลย เพราะผมกำลังอารมณ์เสียที่ตามรถเพื่อนไม่ทัน ได้แต่พยายามหาที่จอด จนมุดเข้าซอยไปซักพักถึงได้ที่จอด แล้วก็เดินเข้าตลาดไป โทรคุยหากับเพื่อนอยู่ราวๆ ครึ่งชั่วโมงถึงหากันเจอ

ผ่านไปพักใหญ่ผมถึงคิดได้ว่า ผมได้ทำเรื่องเสียมารยาทกับ "คนท้องถิ่น" ไปซะล่ะ เพื่อนผมก็บอกว่า "เรื่องแล้วก็แล้วกันไป" แต่ผมบอกว่า ถ้าขากลับไปเจอท่านป้าเข้าผมจะลงไปขอขมาท่าน ที่เสียมารยาทกับท่านไป

แต่ขากลับผมก็มั่วๆ ไม่รู้ออกทางเดิมรึเปล่า ขับตามๆ คันอื่นมา สรุปก็ไม่ได้เจอท่านหรอก

อย่างน้อย เผื่อจะบังเอิญมีคนรู้จัก หรือคนในซอยนั้น มาอ่านกระทู้นี้เข้า

ผมอยากบอกกับคุณป้าท่านนั้นว่า "ผมกราบขอขมาคุณป้าด้วยครับที่ทำตัวเสียมารยาท + ไร้สัมมาคารวะอย่างสูงกับท่านไปในวันนี้ครับ"

ก็หวังว่าจะส่งไปถึงคุณป้าท่านนั้นไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง.

โดยปกติผมก็ไม่ได้ใจดำบนถนนแนว "ขอทางแล้วไม่ให้" นักหรอกครับ (เว้นพวกรถใหญ่ๆ ไว้ล่ะกัน) แต่พอดีมันกำลังลนลานว่าจะพลัดหลงกัน ก็เลยเป็นอย่างที่เล่ามานี่แหละครับ -.-

ความคิดเห็นที่ 1
สายไปป่ะคะ ถ้าบอกป้าแกดีๆว่าขอไปหน่อยครับผมกลัวพลัดหลงกับเพื่อนคันหน้า แกคงไม่ปรี๊ดขนาดนั้น แถมให้ของลับคนอายุมากกว่าอีกด้วย
เพื่อนไม่มีโทรศัพท์เหรอคะ
หลงก็ให้มันหลงไป เพื่อนข้างหน้าเค้ายังไม่รอคุณเลย
เป็นเรา เราก็คงด่าเหมือนกัน...
ทำไรไม่คิด มาขอโทษทีหลังแบบนี้ป้าเค้าคงเข้ามาอ่านหรอกนะ


ตอบกลับความเห็นที่ 1
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 2
แต่เราว่าจากที่เล่าป้าแกแรงเกินไปนิดนะ ถ้าเค้ามาตามเลนส์แล้วคนมันรีบ ก็สิทธิของเค้า

ที่จะขอแทรกตัวผ่านไปก่อน ป้าก็แค่หยุดแป๊บนึง มีทุบรถก่อนนี่เราว่าไม่ใช่มารยาทที่ดี

(เน้นว่าจากที่เล่านะคะ เพราะเราไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์)


ตอบกลับความเห็นที่ 2
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 3
ป้าทุบรถหลังจากที่จขกท.แจกนิ้วให้ป้าครับ ไม่แปลกที่เค้าจะโมโห


ตอบกลับความเห็นที่ 3
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 4
คนเรามีผิดพลาดกันได้ค่ะ แต่ผิดแล้วยอมรับผิด ขอโทษออกมาจากหัวใจและจดจำไว้เป็นบทเรียนอย่าให้เกิดซ้ำอีก นั้นคือ สิ่งที่สำคัญ และการที่คุณเข้ามาขอโทษคุณป้าในนี้ถึงคุณป้าจะไม่ได้มาอ่านแต่คุณคงหวังว่า คนรู้จักซักคนของคุณป้าที่อาจทราบเรื่องนี้ได้เข้ามาอ่านแล้วจะนำไปบอกกับคุณป้า ซึ่งนั้นก็หมายถึงคุณรู้สึกไม่ดีกับการกระทำนั้นจริงๆ แต่จะมีคนๆนั้นมาอ่านรึไม่เราก็ไม่รู้ แต่ที่รู้คือคุณได้ระบายความรู้สึกนั้นออกมา

อีกข้อ คุณกล้ามาโพสต์ในนี้แสดงว่าคุณเองก็ยอมรับในการคอมเม้นต์ของคนที่เข้ามาอ่าน ไม่ว่าจะเป็นแนวลบ หรือ ให้กำลังใจก็ตาม สำหรับเรา เราว่าคุณเป็นคนที่มีจิตรสำนึกดีคนหนึ่งนะคะ เพราะเรื่องนี้คุณจะปล่อยผ่านไปก็ได้ไม่เห็นต้องมาเล่าจริงมั้ย


ตอบกลับความเห็นที่ 4
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 5
สำนึกดี ดีกว่าไม่มีสามัญสำนึก
อย่างน้อย จขกท คงรู้สึกไม่ดีที่ทำเสียมารยาทไป เลยอยากไถ่โทษ
แต่ด้วยไม่รู้ว่า ท่านป้า อยู่ส่วนไหนของอัมพวา และเป็นใคร
หรือถ้าจะไปตามหา อาจจะเจออะไรอีกก็ไม่รู้

งานนี้ โพสหรือไม่โพส ท่านป้าคงไม่หายโมโหง่ายๆ
ส่วน จขกท คงรู้สึกดีที่อย่างน้อยได้มาโพสขอโทษในนี้

สรุปแล้ว แรงทั้งคู่ คนหนึ่งด้วยความ.... เลยแจกนิ้ว....
ส่วนอีกคนเจ้าถิ่น มาแจกนิ้ว.... เลยแจกคำหมากไปหลายคำ.....

อ่านแล้วก็ตกลกันดีนะ สถานที่ท่องเที่ยว แต่คนบางส่วนไปถึงแล้วกลับอารมณ์เสียใส่กัน
ทั้งๆที่จุดประสงค์ของการท่องเที่ยว หรือ สถานที่ท่องเที่ยว คือการพักผ่อนกายใจให้มีความสุข

ตอบกลับความเห็นที่ 5
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 6
ที่เราอ่าน และวิจารณ์คือป้าทุบรถ+ด่า ก่อนที่เค้าจะแจกนิ้วอ่ะค่ะ (ย่อหน้าที่ 4)


ตอบกลับความเห็นที่ 6
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 7
อ่านแล้วเหมือนไม่ได้ต้องการขอโทษจริงๆหรอก คล้ายจะออกแนวประจานอีกฝ่ายในตัวมากกว่า ไม่รู้ดิ่ครับผมไม่ค่อยแจกกล้วยให้ใครง่ายๆหรอก ยิ่งคนแก่ๆถ้าไม่พอใจก็ลงไปฉะกันเลยดีกว่า


ตอบกลับความเห็นที่ 7
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 8
ผมว่าจขกท.เค้าก็เจตนาดีในระดับนึง ผมว่าตามไม่ทันก็โทรศัพท์คุยให้จอดรอก็ได้นี่ครับ ผมก็ทำบ่อย มีวิธีอีกหลายแบบเทคโนโลยีสมัยใหม่แล้ว ไม่ต้องรีบร้อนขนาดนั้น แต่แกคงโมโหมากจริงๆไม่งั้นคงไม่ตามมาหลายป๊าบแบบนี้หรอกครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 8
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 9
ผมยอมรับทุกๆ ความคิดเห็นแหละครับ

ส่วนเรื่องมือถือนี่ ผมลืมมันไปสนิทใจเลยครับ โดยเฉพาะช่วงที่กำลัง ตุบตับนี่

จริงๆ เพื่อนคันแรกก็จอดรออยู่ในอีกระยะนึงครับ แต่เป็นช่วงกำลังโดนกำปั้นพอดีผมเลยคลาดกับเขาไป (เขามาบอกผมตอนหลังจากที่ตามกันเจอในตลาดน้ำ)

งวดนี้ผมก็ได้บทเรียนชีวิตไปเยอะครับ ไม่โดนยิงดับก็บุญโขล่ะ - -.

หลังผมโพสกระทู้นี้ไป ผมก็รู้สึกโปร่งขึ้นมาหน่อยนึง เพราะตอนแรกผมเครียดมากที่เสียมารยาทกับท่านไปครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 9
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 10
โอเค ถ้า คนอัมพวา รับแขกแบบนี้

ผมไม่ไป

การมีน้ำใจหรือไม่มี ไม่มีใครในโลกนี้ มาบังคับกันได้ คนไม่มีน้ำใจ อาจมีเหตุผลอื่นที่ไม่จำเป็นต้องบอกใคร

ป้าคนนั้น มีอำนาจอะไรมาก้ันรถถอย เป็นตำรวจเหรอ

ผมอาจจะคิด ขวางคนอื่นไปบ้าง

แต่ ยายป้านั่น ลุแก่อำนาจ ลุแก่โทสะ เป็นผม ได้ลงไปด่ากันกลางตลาดแน่ ๆ


ตอบกลับความเห็นที่ 10
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 11
ถ้าเป็นความเห็นส่วนตัวของผม ผมถือว่าเจ๊ากันไปครับ ไม่ต้องขอขมาหรอก


ตอบกลับความเห็นที่ 11
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 12
ต่างคนต่างคิดถึงแต่ตัวเอง เรื่องเลยเป็นแบบนี้ ถือว่าเป็นประสบการณ์ก็แล้วกันครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 12
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 13
ที่จริงคุณก็น่าจะเสียเวลานิดนึงเปิดกระจกไปบอกป้าก็ได้นี่คะว่ากลัวจะพลัดหลงกับเพื่อน อย่างน้อยก็ได้ชื่อว่ามีเหตุผลที่เร่งขับเข้าไปหาที่จอด

แต่ดิฉันไม่แน่ใจว่าป้าคนนั้นจะยอมหรือเปล่า ถ้ายอมก็ดีไป แต่ไม่ยอมก็ถือว่าป้าคนนั้นแกเห็นแก่ตัวมากเลยล่ะค่ะ ดูท่าทางโมโหร้ายพอควรเลยทีเดียว



ตอบกลับความเห็นที่ 13
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 14
คุณป้าคนนั้นเป็นอาสาสมัครจราจร ที่เค้าทุบรถคุณก่อน
เพราะคุณไปบีบแตรไล่เค้า 1 ที ในขณะที่เค้ากำลังทำหน้าที่อำนวยความสะดวกการจราจร
โดยกันรถทางตรง เพื่อให้รถที่จอดอยู่ถอยหลังออกมา คันที่พึ่งเข้ามาจะได้มีที่จอด
แทนที่คุณจะเปิดกระจกพูดกับเค้าดีๆ แต่ดันไปบีบแตรไล่ เท่านั้นไม่พอ
คุณยังไปแจกกล้วยให้กับผู้หญิงแก่วัยที่คุณเรียกว่าป้า
ต่อให้คุณขับตามเพื่อนคุณไปได้ คุณแน่ใจหรือว่าจะได้จอดรถข้างกัน
ในเย็นวันอาทิตย์ที่รถมากมายมหาศาล


ตอบกลับความเห็นที่ 14
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 15
แล้วก็แล้วกันไปครับ แต่อยากเตือนสติซักนิดเรื่องการควบคุมอารมณ์
โกรธง่ายหายเร็วเป็นเรื่องอันตราย เพราะบางครั้งเราก็อาจจะไม่มีโอกาสได้ขอโทษหรือสำนึกผิดได้ทัน

ถึงคราวเคราะห์หามยามร้าย เรื่องนี้หากเปลี่ยนจากคุณป้ารมณ์บ่จอย เป็นโก๋เจ้าถิ่น ค่ายกนิ้วของคุณอาจจะแพงเกินคาดคิดเหมือนกรณีฝรั่งยกนิ้วให้โจ๋ที่เชียงใหม่เมื่อหลายปีก่อน ที่มาเที่ยวไทยแล้วไม่ได้กลับบ้าน


ตอบกลับความเห็นที่ 15
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 16
แจกกล้วยเคยคิดแต่ไม่กล้าทำ ละอายใจครับ



ไม่รู้ดิถึงแม้ว่ามันก็น่าแจกอะนะ


แต่กรณี จขกท กลัวหลงทำไมอ้ะครับ ตอนนี้บ้านเรามีโทรสับมือถือใช้แล้วนะ. ถึงแม้ไม่ใช่3G. ก็เถอะ
เอาไว้โทรตามกันก็ได้อ้ะครับ


มันไม่ควรเริ่มต้นดันทุรังตั้งแต่ป้าออกมากั้นรถเลยอ้ะครับ(สมควรหยุด อย่างยิ่ง+คุณก็สมควรโดนมากกว่าด่าแล้วละครับนั่น)


อีกอย่างเขาโบกรถถอยออก เป็นผมจะกดไฟ ป๊อกแป๊กรอเสียบเลยอ้ะ


ปล.อันนี้เรียกว่าขาดสามัญสำนึกโดยแท้ๆ เลยครับ แล้วมันก็คงติดเป็นนิสัยไปแล้วละครับ


ผมว่าชาตินี้ทั้งชาติ ก็คงไม่มีสามัญสำนึกอ้ะครับ เพราะมันต้องปลูกฝังง่ะ

ตอบกลับความเห็นที่ 16
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 17
ถ้าตามไม่ทันคุณก็มีโทรศัพท์มือถือนิครับมันแก้ปัญหาได้

แต่คิณใจร้อนเกินไปจนไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้...

นั้นละคือปัญหาของคุณ

ถ้าคุณไปเจอคนที่ไม่ใช่คุณป้าคนนี้คุณอาจจะไม่มีโอกาสได้กลับมาคิดแบบนี้หรอกครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 17
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 18
ใจร้อนครับ ขับรถอย่าใจร้อน หลงก็โทรถามกันได้ครับ เห็นมาเยอะแล้วครับเดี๋ยวนี้แค่บีบแตร ตบไฟยังลงมายิงกันได้ เพราะความใจร้อนครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 18
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 19
อัมพวาเมืองเล็ก เวลามีคนไปเที่ยวเยอะรถก็ติด การจราจรก็เยอะเป็นปกติค่ะ คุณน่าจะใจเย็นๆกว่านี้หน่อยนะคะ

รู้ว่าหงุดหงิด แฟนเราก็คนอัมพวาค่ะ บ่นทุกเสาร์อาทิตย์เลยว่าคนมาเที่ยวอัมพวาแล้วชอบจอดรถไม่เป็นระเบียบ

คิดจะจอดไหนก็จอด คิดจะปาดหน้ารถใครก็ปาด คนที่นั่งเค้าก็เบื่อเหมือนกันค่ะ ใจเขาใจเรานะคะ


ตอบกลับความเห็นที่ 19
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 20
คิดเหมือน @10 ป้าใจนักเลงมากวัยนี้แล้วยังตะโกนด่าวิ่งตามทุบรถ
แล้วถ้าคู่้กรณีไม่ใช่จขกท. แต่เป็นจิ๊กโก๋หรือเจ้าพ่ออะไรจะเกิดขึ้นครับ
คุณป้าอาจต้องจ่ายค่าประสบการณ์ในราคาแสนแพงเลยก็ได้ -*-

สรุปอย่างเป็นกลางแล้วก็แรงกันทั้งคู่อ่ะ จขกท.ก็ใจร้อนคุณป้าก็ห้าวเหลือเกิน
ทีหลังใจเย็นๆ ก่อนแล้วคุยกันดีๆ ด้วยเหตุผล
การแสดงความจริงใจแล้วขอโทษกันดีๆ เป็นใครก็โกรธไม่ลงหรอกครับ ^^


ตอบกลับความเห็นที่ 20