EVA air กับ คำว่า " fragile "

ขอพื้นที่ในบอร์ดนี้ บ่นหน่อยนะครับ
วันอาทิตย์ที่ 4 พย.55 ผมเดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิตอนเที่ยงกว่าๆ
บินมาจากซานฟรานซิสโก ต่อเครื่องที่ไต้หวัน
รอกระเป๋าที่สายพาน จนกระทั่งป้ายเตือนแจ้งว่า last bag แต่กระเป๋าของผมก็ยังไม่มา
เลยแจ้งไปที่ จนท. ของสายการบิน ได้คำตอบว่า กระเป๋าไม่ได้โหลดมา ไม่ได้มีแต่ผมคนเดียว มีอีก 3-4 คนที่มีปัญหาเดียวกัน
ที่ซานฟรานฯ ผมเช๊กอินตามปกติครับ ได้แท็กติดกระเป๋ามาพร้อม ห้อยป้ายว่า " fragile " มาด้วยครับ

ความคิดเห็นที่ 1
โหลดกระเป๋า 2 ใบ
มาช้าทั้ง 2 ใบ
ติดป้าย " fragile " ทั้ง 2 ใบ

ตอบกลับความเห็นที่ 1
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 2
กระเป๋าใบสีฟ้าถูกเปิด โดยการตัดที่ตัวรูดซิปครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 2
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 3
ส่วนเป้ใบสีดำ ไม่ได้ล๊อก แต่ถูกเปิดรื้อค้นแน่นอน เพราะการผูกเชือกไม่ใช่วิธีผูกแบบที่ผมมักจะทำ
งานเข้าชิ้นที่ 1 สเปรย์น้ำยารักษาหนัง ของรองเท้า vans ซื้อมาจากซานฟรานฯ หัวสเปรย์ก็หายไป

ตอบกลับความเห็นที่ 3
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 4
ถ้ามีป้าย " fragile " ของเหล่านี้ไม่น่าจะแตก

ตอบกลับความเห็นที่ 4
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 5
กล้อง โอลิมปัส c730 UZ
มีนาคม 2556 จะมีอายุครบ 10 ปี
หลุดเป็นชิ้นๆ


ตอบกลับความเห็นที่ 5
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 6
แฮนด์มอเตอร์ไซค์ ตอนซื้อจากศูนย์ กล่องไม่ได้อยู่ในสภาพนี้ครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 6
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 7
สรุป ป้าย "fragile" ติดหรือไม่ติด ก็แค่นั้น


ตอบกลับความเห็นที่ 7
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 8
ตอนสแกนกระเป๋าขาออกจาก อเมริกาเค้าอาจสงสัยเลยเปิดดูก็เป็นได้นะ

เพราะพอโหลดเข้าเครื่องจาก ซานฟรานแล้วคงไม่มีใครมีเวลาไปแตะมันแล้วแหละครับ

ตอนออกจาก JFK เดือนสิงหาที่ผ่านมา เชคอินติดแทกเสร็จ เค้าก็ให้ลากไปวางทิ้งไว้หน้าเครื่องสแกน

ส่วนที่ของแตกน่าจะเกิดจากการโยนๆ สุมๆ ปกติอยู่แล้ว บวกกับเป็นกระเป๋าผ้า

เข้าใจความรู้สึกครับซื้อของมาแล้วคนอื่นทำเสีย - - หน่ายเลย


ตอบกลับความเห็นที่ 8
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 9
ถ้าไม่ติดป้าย fragile ของในกระเป๋าคงเป็นชิ้นๆนะครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 9
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 10
เห็นแล้วเซ็งแทน
มันเปิดกระเป๋า แล้วเอาเท้าเข้าไปกระทืบหรือเปล่า

แหะ แหะ
ขอโทษค่า อารมณ์ขึ้นแทน จขกท.


ตอบกลับความเห็นที่ 10
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 11
บินเข้าอเมริกา เค้าห้ามล็อคกระเป๋าค่ะ
หรือต้องใช้ที่ล็อคแบบที่เค้าเปิดได้ (เอ๊ะ ยังงัย)
อิฉันก็ไม่สันทัด เพราะไม่นิยมล็อคกระเป๋า
ถือคติว่า ถ้าโจรมันจะขโมย อย่างน้อยกระเป๋าก็ไม่พัง อิอิ


ส่วนเรื่องโหลดกระเป๋าแล้วไม่มานี่ไม่แปลกค่ะ ธรรมดาม๊ากกกกกก
ต่อให้ติดแทก priority บางทียังไม่มาเลยค่ะ

เป็นนักเดินทาง ต้องทำใจ
วิธีรับมือของอิฉันคือ ศึกษา ทำความเข้าใจในสิทธิ์ของตัวเอง
แล้วไปเคลมกับสารการบิน เรื่องกระเป๋าล่าช้าค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 11
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 12
อเมริกาเขาห้ามล็อกกระเป๋าไม่ใช่เหรอ เพราะขอสงวนสิทธิ์รื้อค้นได้ตามชอบใจ
ถ้าจะล็อกต้องใช้ตัวล็อกที่มีเครื่องหมายอะไรซักอย่าง ที่ จนท. เขาเปิดได้ TSA หรืออะไรๆซักอย่างนี่แหละ
ยิ่งกระเป๋าตกค้างนี่โดนแน่นอนอ่ะครับเพราะมันน่าสงสัย ของไม่หายเลยก็แสดงว่าเขาเปิดเพื่อรื้อค้นนั่นแหละ


ตอบกลับความเห็นที่ 12
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 13
กระเป๋าทุกใบที่เข้าประเทศอเมริกาห้ามล็อคกระเป๋าโดยเด็ดขาด กฎนี้ออกมาเกือบ 10 ปีเห็นจะได้แล้ว

ดังนั้น กระเป๋ายุคใหม่จึงมีที่ล็อคที่สามารถใช้กุญแจเฉพาะเปิดได้ ไม่ว่าจะกระเป๋ายี่ห้อ SAMSONITE DELSEY RIMOWA ฯลฯ ก็มีการติดตั้งกุญแจแบบนี้เอาไว้เช่นกัน เผื่อคนอเมริกานี่แหละ

ส่วนคำว่า FRAGILE นั้น สายการบินเดี๋ยวนี้ฉลาด เวลาผู้โดยสารขอให้ติดป้ายFRAGILE จะให้ผู้โดยสารเซ็นกำกับเอาไว้ที่แทคผูกกระเป๋าด้วย ซึ่งเนื้อความนั้นเขียนว่า"หากแตกหัก ทางสายการบินจะไม่รับผิดชอบ" ดังนั้น นางฟ้าไม่เคยขอติดคำว่า FRAGILE อีกเลย ได้แต่พยายามแพคกระเป๋าให้ดีๆเท่านั้นเองนะฮ้า


ตอบกลับความเห็นที่ 13
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 14
เคยติด FRAGILE แล้วออกมาบู้บี้เหมือนกันค่ะ

หลังๆมาเลยไม่ขอละ


ตอบกลับความเห็นที่ 14
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 15
ตามความเห็นข้างบนๆค่ะ

1. ห้ามล๊อคกระเป๋าตอนเข้าอเมริกา
2. เป็นกระเป๋าผ้า ที่ไม่มีรูปทรง เลยแตกค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 15
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 16
อาจเป็นเพราะว่าคุณใส่กล้องไว้ในกระเป๋าหรือเปล่า ปกติ เขาไม่ให้ใส่กล้องในกระเป๋าเดินทางไม่ใช่หรอ หรือว่าผมผิดพลาดประการใด


ตอบกลับความเห็นที่ 16
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 17
ของผมกระเป๋าเพิ่งซื้อใช้ครั้งแรกขึ้นโหลดหางแดงที่ดอนเมืองไม่ได้ล๊อคแต่ตัวหูสำหรับ

ล๊อคโดนถอดออกทั้งคู่(หายจากซิบ)พอถึงโรงแรมจะเปิดกระเป๋าหาที่จับไม่มีแล้ว


ตอบกลับความเห็นที่ 17
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 18
สรุปง่ายๆว่ากระเป๋าไหนล็อกไว้จะโดนทำลายอย่างเดียวแน่นอน รวมถึงของข้างใน
จะถูกรื้อและแงะ เห็นใจ จขกท.ครับแต่ทำใจอย่างเดียว

ปกติถ้าของมีค่าผมจะติดตัวเสมอ กระเป๋าโหลดเลยไม่เคยล็อก


ตอบกลับความเห็นที่ 18
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 19
ของที่ไม่ควรโหลดคุณก็โหลด กระเป๋าก็ไม่ได้แข็งแรงอะไรเลย

ไม่พังก็แปลกแล้วล่ะครับ

ถ้าจนท.คอยประคบประหงมกระเป๋าที่ติดแท็คก็ไม่ต้องบินแล้วล่ะครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 19
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 20
จากที่เคยเห็นการโหลดกระเป๋าเข้าตู้มานะครับ จะมีหรือไม่มี แท็กFraกระจาย ก็ใช้การโยนเข้าไปทั้งนั้นแถมโดนทับถมอยู่ในตู้โหลดสัมภาระอีกต่างหาก ไม่ว่าสายการบินไหนในโลก ก็ไม่ต่างกัน
....ถ้าสัมภาระของเราเสียหาย ก็สามารถเคลมกับทางสายการบินที่เราใช้บริการได้นะครับลองติดต่อเขาดู.....แต่ควรจะติดต่อตั้งแต่ตอนที่เรารับกระเป๋านะ ให้เขาดูความเสียหาย และให้ชดใช้ให้เรา


ตอบกลับความเห็นที่ 20
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 21
บินเข้าอเมริกายังพอจะล๊อกกะรเป๋าได้ แต่ถ้าบินภายในอเมริกาหรือบินออกจากอเมริกานี่เค้าสงวนสิทธิ์อย่างที่ด้านบบนบอกไว้ว่า เค้าจะต้องเปิดตรวจค้นได้เสมอ ถ้าล๊อกก็โดนตัดล๊อกอย่างที่คุณเจอนี่แหละ กระเป๋าผ้าแบบนี้ก็ไม่ควรจะใส่สิ่งของที่แตกหักง่ายด้วยเลย

ส่วนตัวผมก็เคยใช้กระเป๋าผ้าแบบนี้เหมือนกัน ล่าสุดก็ใช้บินออกจากLAXกลับไทยนี่แหละ ใช้ได้นะครับ แต่ของที่จะใส่ไปเนี่ย ควรจะเลี่ยงของที่แตกหักได้ง่ายเป็นอย่างยิ่งครับ ขนาดกระเป๋าhard sideยังโดนสายพานตีเป็นรอยเกือบแตก ก่อนหน้านี้เคยใส่ของที่เป็นขวดเจลสบู่แชมพู น้ำยาขัดรถ อะไรพวกนี้ในกระเป๋าผ้าเหมือนกัน แต่ต้องใส่ถุงพลาสติกซ้อนชั้นในก่อนให้มันอยู่รวมกัน ไม่กลิ้งไปมาเป็นชิ้นๆ ใส่ของอื่นๆ อย่างเสื้อผ้าให้เต็มใบ ของจะได้ไม่กลิ้งไปมาเสี่ยงแตกอีก ตอนนั้นกระเป๋าของผมก็ไม่มาเหมือนกัน ต้องไปแจ้ง สายการบินตรวจสอบและนำมาส่งวันถัดมา ของทุกอย่างอยู่ในสภาพดีหมด ยกเว้นหัวฉีดสเปรย์ยาขัดรถหัก ณ ตอนที่เจ้าหน้ายกกระเป๋ามาวางที่หน้าบ้านนี่แหละ แต่มันแค่5เหรียญก็เลยช่างมันตอนนั้น


ตอบกลับความเห็นที่ 21
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 22
อันนี้ผมคิดของผมคนเดียวนะครับ
ถ้ากระเป๋าถูกขนขึ้นเครื่องมาพร้อมผม และผมมาตรวจเจอภายหลังว่ามีข้าวของเสียหาย ผมคงไม่รู้สึกอะไร
แต่นี่กระเป๋าไม่ได้ถูกโหลดขึ้นเครื่องมาด้วย เพราะเหตผลที่ว่า เมื่อถึงเวลาเครื่องออกแล้ว ถึงแม้กระเป๋ายังมาไม่ครบก็ต้องขึ้นบิน (จนท. อีว่า แอร์ โทรมาบอกตะกี้นี้เอง)
ตอนแรก บอกว่า จะส่งกระเป๋าไปให้ถึงที่บ้าน
วันรุ่งขึ้นบอกว่า ต้องมารับเองที่สนามบิน ก่อน 17.30 น.
สายการบินบอกว่า จะจ่ายค่าข้าวของเสียหาย และค่าเดินทาง ค่าเสียเวลา 1,000 บาท
ส่วนกระเป๋่าที่เสียหาย รอทางสายการบินโทรมาบอกว่า จะส่งคนมารับกระเป๋าไปซ่อมให้วันไหน


ตอบกลับความเห็นที่ 22
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 23
เอ่อ ดูจากสภาพกระเป๋าแล้ว ไม่แปลกที่มันจะพัง

ต้องอย่าลืมว่าเวลาเช็คอินมันไม่มีกระเปูาเราใบเดียว มีใบอื่นวางทับๆกัน
ซึ่งเราป้องกันได้คือหากระเป๋าแข็งแรงกว่านี้หน่อย มันน่าจะช่วยบรรเทาได้บ้าง

ส่วนกระเป๋าเดินเปิด เราก็เคยโดนที่ซานฟรานเมื่อเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา แต่มันจะมีกระดาษแนบมาในกระเป๋า ว่าเปิดโดยใคร แต่ งง สภาพกระเป๋า ไม่มีร่องรอยเปิดเลย


ตอบกลับความเห็นที่ 23
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 24
มันแปลว่า "กรุณาทำให้แตก โดยไว"


ตอบกลับความเห็นที่ 24
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 25
ขอแบ่งปันนะครับ สำหรับกระเป๋าที่ชำรุด ระหว่างการเดินทาง หลังจากได้รับตัวกระเป๋าที่อยู่ในสภาพ ชำรุดจากรางสายพาน แล้วนะครับ ให้รีบติดต่อสายการบิน เพื่อทำเรื่องซ่อมทันทีนะครับ ไม่มีค่าใช้จ่าย นะครับ ทางสายการบินจะเป็นผู้รับผิดชอบในการซ่อมให้เรา หลังจากทำเรื่องแล้ว ทางสายการบินจะให้เบอร์ติดต่อกับร้านที่ซ่อมกระเป๋า

แต่ถ้าเราเอากระเป๋าที่ชำรุดกลับบ้าน โอกาสที่ขอเคลม ก็ยากขึ้น สำหรับแท็คที่ติดกระเป๋า ไม่ต้องรีบดึงออกนะครับ เพราะ ทางสายการบิน จะขอเช็คจากแท็คที่ติดกับกระเป๋าด้วย

ส่วนของอื่น ๆ ทางสายการบิน น่าจะรับผิดชอบ แต่คงจะมีวงเงินที่จำกัด ในกรณีของ จขกท ผมคิดว่า เรื่องกล้อง หรือของที่ใส่มา น่าจะเคลมกับสายการบินบ้างบางส่วน แต่เรื่องกระเป๋า คงซ่อมให้ใหม่ อันนี้เป็นสิทธิ์ของผู้โดยสาร ซึ่งคนส่วนใหญ่ ไม่ค่อยรู้ กันครับ พอดีผมเดินทางค่อนข้างบ่อย เลยได้มีโอกาสใช้บริการซ่อมกระเป่า กับสายการบินบ้างครับ ไม่ต้องกลัวนะครับ ซ่อมได้ทุกอย่าง แต่ขอให้รีบเคลมก่อนนำกระเป๋ากลับบ้าน เพราะส่วนใหญ่ จะเบื่อรอ และเหนื่อยจากการเดินทาง เลยไม่ค่อยให้ความสนใจกัน


ตอบกลับความเห็นที่ 25