รบกวน/อยากรู้จริงๆค่ะ เกี่ยวกับ Work&Study วานพี่ๆตอบคำถามที่ยังคาหัวใจหน่อยนะคะ:)

วันนี้นั่งค้นหาข้อมูลทั้งวัน เพราะว่าตอนนี้ก็เรียนอยู่ปี 4 แล้วค่ะ แต่ไม่รู้ว่าจนป่านนี้ถ้าตัดสินใจสมัครมันจะยังทันไปปีหน้าอยู่มั้ยย ToT อยากไปประมาณ 6 เดือนแล้วกลับมาหางานทำ ถ้าไปทันก็คงได้กลับมาทันช่วงรับปริญญาด้วยเลย (ที่ม.รับช่วงเดือนกรกฎา-สิงหา) ที่สำคัญคืออยากเก็บเงิน+ทักษะภาษาไว้ติดตัวด้วย
ทีนี้เลยมีคำถามคาใจหลายๆอย่างเลยค่ะ วานผู้รู้ช่วยตอบคำถามหน่อยนะคะ ~~~

1. UK New Zealand Canada Aus 4 ประเทศนี้ประเทศไหนน่าไป Work&Study บ้างคะ ที่น่าไปนี่สำหรับเราคงหมายถึง ไปคนเดียวก็ยังอุ่นใจ ค่าครองชีพไม่สูง หาของไทยทำกินเองง่าย มีโอกาสเจอเพื่อนต่างแดน

2. ไม่มีโครงการ Work & Study ที่ USA ใช่มั้ยคะ

3. UK เห็นโครงการนี้มีแต่ที่เรียนในเมือง London พอดีเราสนใจเมืองอื่นเพราะค่าครองชีพคงไม่สูงเท่าลอนดอน จะมีมั้ยคะ (เห็นว่าถ้าเรียนที่ลอนดอนก็อาจจะได้ไปทำงานต่างเมือง ไม่ก็ได้ไปทำงานที่ประเทศสก็อตแลนด์เลย จริงป่าวคะ)

4. ตอนนี้สนใจ Canada กับ UK ค่ะ ช่วยแนะนำเรื่องอื่นๆที เห็นว่าค่าครองชีพทั้งสองที่ก็เอาเรื่องอยู่

ขอบคุณล่วงหน้ามากๆๆๆนะคะ :))

ความคิดเห็นที่ 1
2. ไม่มีโครงการ Work & Study ที่ USA ใช่มั้ยคะ

มีตั้งแยะ


ตอบกลับความเห็นที่ 1
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 2
เงื่อนไขแยะๆระวังจะถูกหลอก

เท่าทีผมเคยเห็นในอเมริกามามีแต่ทางลบๆทั้งนั้น
พวกที่มาแล้วเก็บเงินได้มากๆ ก็คงจะมีแต่จะน้อยมากๆ
พวกนี้มักจะเอาเปรียบสังคม เช่นไปอาศัยวัดอยู่ ไม่ต้องเสียค่าอาหารและที่พัก
สงสารพระ งานเสริมจะแอบไปเสริพอาหารร้านไทย
พอมีอุบัตเหตุหรือเจ็บป่วยเดือดร้อนพระต้องโทรหาหมอไทยมาดูอีก

งานที่จะทำ ไม่ได้เป็นงานที่เราเรียนมาแน่นอน
เพราะเป็นงานแบบใช้แรงงาน จบป๔ก็ทำได้
เขาจะไม่จ่ายค่าชั่วโมงเกินจำเป็น
เช่นอาลาสก้าแพงๆจ่ายไม่เกิน๘เหรียญต่อชั่วโมง
ลูกค้าน้อยจะถูกไล่กลับบ้าน ไม่ได้ทำงานเกิน๔๐ชั่วโมงหรอก

ทำไมเขาถึง ไม่จ้างคนอเมริกันที่ตกงานมากมายแทน
ดังนั้นงานที่จะได้จะต้องเป็นที่เงินน้อย
และพวกคนอเมริกันไม่อยากจะทำคืองานเซอวีส

เวลาเอเย่น(sale)ไปชวนมาทำงานมักจะบอกว่าดีทุกๆอย่าง
ได้เที่ยว ได้ประสพการดีๆ รวยๆกันทุกคน ถ้าเจอแฟนแก่ๆใกล้จะตายก็แต่งงานโดดวีซ่าได้เป็นซิติเซ่น พอสามีตายก็จะได้เงินประกันสังคมของเขาเป็นต้น

ระวังถุกหลอกนะ

อย่างไปเที่ยวต่างประเทศ
แบ็กแพ็กไปชมธรรมชาติที่พม่าหรือลาว ถูกกว่าและได้ประสพการที่ดีกว่านะ


ตอบกลับความเห็นที่ 2
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 3
โครงการอย่างที่ว่านี้ ไม่ว่าจะเรียกชื่ออย่างไร work and travel หรือ work and study ผมว่ามันเป็นลักษณะ"คนในอยากออก คนนอกอยากเข้า"นะ เท่าที่ฟังมาจากเด็กๆที่มาทำหลายคนมักผิดหวังและมีประสบการณ์ที่ไม่ค่อยประทับใจกลับไป ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเพื่อนร่วมงาน ที่พัก อาหาร หรือนายจ้างและสถานที่ทำงาน

ถ้าจขกท.เป็นน้องเป็นนุ่ง เป็นลูกเป็นหลาน ผมคงไม่แนะนำมาให้เข้าโครงการอย่างนี้หรอก ประการแรกต้องถามตัวเองว่าสถานะทางสังคมของคุณที่เมืองไทยอยู่ในระดับไหน และพร้อมรับสภาพที่ต้องมาทำงานประเภทที่คนอเมริกันยังไม่อยากทำเลย หรือเปล่า งานปูผ้าปูเตียงตามโรงแรม งานถูพื้นทำความสะอาด เคยสงสัยไหมว่าทำไมเขาต้องไปจ้างคนต่างถิ่นต่างแดนมาทำงานเหล่านี้ ถ้าจะมองสภาพจริงๆหน่อยก็คือว่าเพื่อนๆร่วมงานเขาก็เป็นประเภทมาจากต่างถิ่นทั้งนั้น พูดภาษากันไม่ค่อยรู้เรื่อง ไอ้เรื่องอยากมาฝึกภาษา มาหาเพื่อนมันอยู่ในจินตนาการมากกว่ามั้งครับ อย่าหาว่ามองโครงการนี้ในแง่อคติเลยน่ะ แต่มันไม่ได้สวยหรือเหมือนที่เขาวาดภาพให้เห็นหรอก

ถ้าจะมาจริงก็ขออวยพรให้ปลอดภัย ให้ระวังตัวมากๆอย่าไปเชื่อใจใครง่ายๆ และก็ขอให้สมหวังกับสิ่งที่คาดหวังไว้ทุกประการก็แล้วกันครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 3
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 4
เราเองเรียกร้องให้คองเกรสยกเลิกโครงการนี้เสีย ก็มีเสียงค้านเข้ามาว่า แล้วเรามีสิทธิอะไรในการเรยกร้องให้ยกเลิก ? มีผลประโยชน์อะไรกับการนี้หรือไม่? คำตอบคือ มี เรามีสิทธิในฐานะพลเมืองที่จะให้เรียกร้องให้คองเกรสแมนทำการยกเลิกได้ ด้วยเหตุผลที่โครงการนี้ ไม่ได้ก่อให้เกิดประโยชน์ให้กับสังคมเมกัน แต่เป็นการเอื้อประโยชน์ให้แก่เอเย่นต์และนายจ้าง เพื่อที่จะได้จ้างงานในแรงงานที่ถูก และเป็นการชั่วคราวได้ ทั้งๆที่คนเมกันตกงานอีกบานตะไท

อีกข้อหนึ่ง คือ เราเองทำงานเสียภาษีให้แก่สังคมนี้มาหลายสิบปี มีลูกหลานที่ยังต้องหางานทำกันอยู่ทุกวัน แต่กลับมีโครงการ "ทำงานๆ+เที่ยวๆ" นี้ มาแย่งงานจากลูกหลานเราไป ในขณะที่สร้างความร่ำรวยให้กับเอเย่นต์ It is very unfair for those who worked their ass out of their life.


ตอบกลับความเห็นที่ 4
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 5
ต้องการเก็บเงินและทักษะภาษา?

โครงการนี้ไม่น่าใช่คำตอบนะคะ
ทำงานแรงงานงก ๆๆ ท่ามกลางแรงงานต่างด้าวเหมือนกัน ภาษาน้อยมากค่ะ พูดกับคนสำเนียงแปลก ๆ ด้วยกัน ถึงได้พูดกับฝรั่ง conversation ก็จำกัดอยู่ที่กับงานที่ทำ

เงินยิ่งไม่รู้จะคุ้มหรือเปล่าเลย ถ้าหา second job, third job ไม่ได้ก็ไม่น่าคุ้มนะคะ เสี่ยงที่จะไม่คุ้มมากกว่าเพราะว่าคนก็ไปแย่งงานกันเยอะแยะ

เราว่าเอาเวลา หก เดือนเนี่ยไปสมัครงานในไทยให้มี career path เลยดีกว่า มีประสบการณ์ทำงานเร็วเท่าไรยิ่งดี (พวกนี้ไม่นับ มันเป็นงานแรงงานไม่ต้องจบปริญญาก็ทำได้ ไม่ควรเขียนใน resume หรือ ใบสมัครงานด้วย)

ไม่ก็ถ้าอยากไปแค่เอาประสบการณ์ ไม่ได้เดือดร้อนเงินว่ากลับมาต้องได้กำไร ก้ไปเถอะค่ะ ก็เป็นประสบการณ์ชีวิต เราก็เคยไปตอนปีสอง สามเดือนขำ ๆ ไม่ได้หวังกำไร สนุกมากเพราะว่าไม่ได้เครียดเรื่องเงิน สุดท้ายก็ได้ค่าโครงการคืน เหมือนว่าไปทำงานแล้วก็เอาเงินที่ได้ไปเที่ยวแล้วก็คืนพ่อแม่เฉย ๆ แต่ส่วนน้อยที่จะได้อย่างนี้โดยที่ไม่ต้องไปแอบทำงานเกินกำหนดผิดกฎหมายนะคะ


ตอบกลับความเห็นที่ 5
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 6
อยากไปเหมือนกันค่ะ ดูๆไว้อยู่ >,<


ตอบกลับความเห็นที่ 6
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 7
สำหรับผม ผมอยู่ New Zealand ถ้าถามว่าเจ้าโปรแกรมนี้จริงๆมีไหม ผมไม่เคยได้ยินนะ ในประเทศนี้ เข้าใจว่ามันคือการมา study แล้วก็มาหางานทำไปปกติแบบเด็กนอกปกติมากกว่า คือมาเรียนเป็นหลัก แต่คงเป็นเพราะเอเจนเขาเอา work ไปไว้ข้างหน้า เลยทำให้ดูคล้ายกับ work and holiday หรือปล่าว ผมว่ามันเว่อร์ๆการตลาดไปครับ

แต่ถ้าจะพูดกันตามเนื้อผ้าแล้ว ถ้าเรียนอยู่ปีสี่ ก็ไป work and holiday ที่เมกาเถอะถ้าอยากจะไปทำงานแต่คงไม่ต้องคิดว่าไปแล้วภาษาจะได้ เพราะน้องๆผมไปกันส่วนใหญ่ก็ไม่ได้ไ้ด้ภาษาเพิ่มขึ้นเลย เพราะอยู่กับคนไทยด้วยกัน

แนะนำว่าเอาเรียนจบแล้ว แล้วมาเรียนภาษาเลยดีกว่าถ้าอยากได้ภาษา สักครึ่งปีหรือปีนึงแล้วกลับไปรับปริญญาก็ได้ ซึ่งถ้าจะพูดตรงนี้แล้ว ก็แนะนำ Nz นั่นแหละเพราะค่าครองชีพถูกและคุณภาพชีวิตดีที่สุด คนไทยน้อยการสอนดีเพราะรัฐบาบเขาดูแล้วเข้มงวดจริง อย่างเดือนที่แล้วก็มี รร ปิดไปสองที่ ดังนั้นผมว่ามาที่นี่คุ้มครับ งานก็มีให้ทำเยอะครับ เจ๋งไปเลย ลองอ่านที่บล็อกผมได้ครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 7