ขอสอบถามเรื่องถือ 2 passport (Thai-UK) เข้าออกไทยและเข้าออกประเทศอื่น

ครอบครัวเราถือ2สัญชาติมีทั้งพาสปอร์ตไทยและอังกฤษ

เท่าที่ทราบและปฏิบิติมาตลอดโดยไม่เคยมีปัญหาการเข้าออกประเทศไทยเลยคือเดินทางเข้า-ออกประทศไทยใช้พาสปอร์ตไทยเข้าออกเล่มเดียว

และเวลาเดินทางกลับอังกฤษก็แสดงพาสปอร์ตอังกฤษคู่กับพาสปอร์ตไทยตอนเช๊คอินเท่านั้น(แต่ไม่แสดงต่อตม.ตอนขาออก ออกด้วยพาสปอร์ตไทยเล่มเดียวไม่เคยมีปัญหาใดใดและเข้าอังกฤษด้วยพาสปอร์ตอังกฤษที่ไม่มีตราประทับการเดินทางใดใดจากทริปนั้น)

ทีนี้เรากำลังจะเดินทางไปญี่ปุ่น และกำลังสงสัยและสับสนต่อคำแนะนำของคนไทยในอังกฤษด้วยกันว่าไม่สามารถออกจากไทยด้วยพาสปอร์ตไทยและเข้าญี่ปุ่นด้วยพาสปอร์ตอังกฤษได้ มิเช่นนั้นจะถูกยึดพาสปอร์ต?!และโดนยึดสัญชาติ (ซึ่งคิดว่าไม่น่าจะเป็นไปได้)

ที่ไปสอบถามมานั้นมีทั้งจนท.ไทยที่ทำงานสายการบินในอังกฤษและจนท.จากสถานทูตไทยที่แนะนำมาเช่นนี้ว่าไม่สามารถเข้าไทยด้วยพาสไทยและออกไทยด้วยพาสไทย แล้วไปเข้าญี่ปุ่นด้วยพาสปอร์ตอังกฤษได้แต่บุคคลเหล่านั้นไม่ได้แนะนำข้อแก้ไขมาให้ (หรือควรจะต้องเข้าออกไทยด้วยพาสปอร์ตอังกฤษอย่างเดียวตลอดการเดินทาง?และเก็บพาสไทยไม่ใช้เลยตลอดทริปนี้ คือ... อังกฤษ-ไทย , ไทย-ญี่ปุ่น, ญี่ปุ่น-ไทย, ไทย-อังกฤษ จึงจบสิ้นการเดินทาง)

จึงอยากขอสอบถามเพิ่มเติมจากที่อาจจะมีบางท่านได้เดินทางบ่อยและมีความรู้ลึกซึ้งในเรื่องการใช้2พาสปอร์ตเดินทางเข้าออกประเทศอื่นๆและกลับเข้าประเทศไทยอีกครั้ง

ขอสอบถามว่า........''หากจะเดินทางไปประเทศญี่ปุ่นโดยออกจากไทยใช้พาสปอร์ตไทย และจะสามารถเข้าญี่ปุ่นด้วยพาสปอร์ตอังกฤษได้ทันทีเลยหรือไม่?'' (แม้ในพาสปอร์ตอังกฤษจะไม่มีตราประทับการเข้าออกประเทศไทยใดใดเลยเพราะเราเข้า-ออกไทยด้วยพาสปอร์ตไทย) แต่เนื่องจากพาสปอร์ตอังกฤษไม่ต้องขอวีซ่าเข้าประเทศญี่ปุ่นจึงคิดว่าจะสะดวกแก่การเดินทางมากกว่า จะมีปัญหาอะไรหรือไม่? มีข้อห้ามหรือข้อแนะนำใดใดที่ท่านผู้รู้จะพอแนะนำได้หรือไม่?

ขอบพระคุณเป็นอย่างสูงสำหรับคำแนะนำที่จะตามมา

ความคิดเห็นที่ 1
ดิฉันยังอยู่ในระหว่างเดินทาง ระหว่าง ๖ เดือนนี้


เข้าไทยด้วยพาสฯไทยอยู่ ๔ เดือน
ขาออกจากไทย จะอยู่เยอรมนี ๒ เดือน ที่เคาเตอร์เช็คอินตั๋วและกระเป๋าที่สนามบินสุวรรณภูมิ โชว์พาสฯอเมริกัน เพราะว่าพาสฯอเมริกันไม่ต้องใช้วีซ่าเข้าเยอรมนี

ตรงผ่านตม.ขาออกที่สนามบินสุวรรณภูมิ ต้องโชว์พาสปอร์ตไทยเพราะเข้าไทยด้วยพาสฯไทย ขาออก ก็ต้องใช้พาสฯไทยเหมือนเดิม... ข้อมูลขาออกต้องตรงกันกับขาเข้า


ที่ตม.เยอรมนีใช้พาสฯอเมริกัน
ขาออกใช้พาสฯอเมริกันเพื่อกลับมาไทย... ข้อมูลขาออกต้องตรงกันกับขาเข้า


กลับเข้าไทยขาเข้าไทย อยู่ ๑ อาทิตย์ถึงกลับอเมริกา ที่ตม.ขาเข้าดิฉันเลือกใช้พาสฯไทย ถึงแม้ว่าอยู่ ๑ อาทิตย์ก็ตาม เพราะเป็นคนไทยยังต้องการใช้พาสฯไทยกับประเทศไทย

ขาออกกลับอเมริกาที่เคาเตอร์เช้คอินกระเป๋า ดิฉันใช้พาสฯอเมริกัน
ที่ตม.ขาออกใช้พาสไทย เพราะว่าเข้ามาใช้พาสฯขาเข้าไทย ก็ต้องใช้พาสฯไทยขาออก... ข้อมูลขาเข้าและขาออกต้องตรงกัน


ถึงที่ตม.สนามบินในอมเริกา ใช้พาสฯอเมริกัน


ดิฉันไม่มีปัญหาอะไร ตอนนี้อยู่เยอรมนี


แก้ไขตรวจทาน

ตอบกลับความเห็นที่ 1
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 2
ดิฉันถือพาสปอร์ตไทยพาสปอร์ตเดียว แต่ทราบเรื่องการเข้า-ออกต่างประเทศ และ การเข้า-ออก
ประเทศไทยของคนไทยที่ถือสองพาสปอร์ตมานานแล้ว

ดิฉันขอช่วยตอบแบบสั้นๆ และ ง่ายๆ เลยนะคะ คุณเจ้าของกระทู้ คือ ตอนคุณออกจากเมืองไทย
ทำดังนี้ค่ะ

1. ที่เช็คอินเคาน์เตอร์ของสายการบิน ตอนเช็คอินให้โชว์พาสปอร์ตอังกฤษค่ะ เพราะถ้าโชว์พาสปอร์ตไทย
คุณจะไม่มีวีซ่าในเล่มไทย แต่ถ้าโชว์พาสปอร์ตอังกฤษ เจ้าหน้าที่จะไม่มีคำถามใดๆ ทั้งสิ้นค่ะ

2. ที่ ต.ม. ไทย ตอนขาออกจากเมืองไทย โชว์พาสปอร์ตไทยค่ะ หรือ ไปผ่านออกนอกประเทศทาง
ออโต้ เกท ตรงนี้จะได้ไม่ต้องมีสแตมป์ในพาสปอร์ตให้รกรุงรังและเปลืองหน้าว่างโดยใช่เหตุค่ะ
แต่ถัาอยากได้แสตมป์จาก ต.ม. ไทยเป็นที่ระลึก ให้ไปออกนอกประเทศ ผ่านทางเคาน์เตอร์ ของ
ต.ม. ไทยตามปกติ

แต่ถ้าคุณบินชั้นบิสซิเนส, ชั้นเฟิสท์ และ หากถือบัตรแพลตินั่นมการ์ดของการบินไทย คุณจะได้ผ่านช่อง
ต.ม. ช่องพิเศษ ตรงนี้จะมีอยู่ 2 เคาน์เตอร์ โดยที่ไม่มีออโต้ เกทค่ะ เป็นแบบแสตมป์ปกติ
แต่จะมี เจ้าหน้าที่ ต.ม. อาวุโสมานั่งประจำ

และ ขอไฮไลท์ตัวเข้มๆ ในเครื่องหมายคำพูดว่า "ต.ม. ไทย จะตรวจ และ สแตมป์หนังสือเดินทางไทย
ของคุณเท่านั้น และ เขาไม่มีหน้าที่ตรวจวีซ่าเข้าประเทศญี่ปุ่น และ จะไม่ถามว่าคุณจะเข้าญี่ปุ่นอย่างไรค่ะ
เพราะว่า การเข้าประเทศญี่ปุ่น ไม่ใช่อำนาจหน้าที่ของ ต.ม. ไทย"

3. เมื่อไปถึงประเทศญี่ปุ่นแล้ว ไม่ว่าจะเข้าที่สนามบินไหน นาริตะ, ฮาเนดะ, คันไซ เป็นต้น
ให้ยื่นพาสปอร์ตอังกฤษให้ ต.ม. ญี่ปุ่นค่ะ แล้วทาง ต.ม.ญี่ปุ่นจะติดอากรสแตมป์เป็นสติ๊กเกอร์สีดำๆ ขาวๆ
ลงบนพาสปอร์ตอังกฤษของคุณและครอบครัว โดยที่ไม่มีสแตมป์แบบหมึก อากรสแตมป์นี้จะเขียนว่า
Landing Permission และจะอนุญาตให้ผู้ถือหนังสือเดินทางอังกฤษ สามารถท่องเที่ยวในประเทศ
ญี่ปุ่นได้สูงสุด 90 วัน

และเช่นเดียวกัน ทาง ต.ม. ญี่ปุ่นจะไม่ถามหาพาสปอร์ตไทยของคุณ เพราะเขาไม่มีหน้าที่ตรวจคน
ที่เข้า-ออกประเทศไทยค่ะ หน้าที่ของ ต.ม. ญี่ปุ่น คือตรวจคนเข้า-ออกประเทศญี่ปุ่นเท่านั้น

และ ต.ม. ของทั้งไทยและญี่ปุ่น ไม่มีหน้าที่ๆ จะมาถามหรือขอดูพาสปอร์ตว่าคุณถือกี่เล่ม และมีกี่สัญชาติ
ตราบใดที่คุณเข้า-ออกบ้านเมืองไทย และ บ้านเมืองญี่ปุ่นอย่างถูกกฏหมาย

ส่วนเวลาที่ออกนอกประเทศญี่ปุ่น ก็ใช้พาสปอร์ตอังกฤษ ทั้งที่เช็คอินเคาน์เตอร์ และ ที่ ต.ม. ญี่ปุ่นค่ะ
ถ้าจะกลับไปอังกฤษจากญี่ปุ่นก็พาสปอร์ตอังกฤษโลด แต่ถ้าจะกลับเข้าเมืองไทยอีกและอยู่เกิน 30 วัน
ก็ใช้พาสปอร์ตไทยเข้าเมืองไทยค่ะ และ ต.ม. ไทยเขาไม่มาถามคุณด้วยว่าไปญี่ปุ่นมาทำไมไม่มีวีซ่าญี่ปุ่น
อยู่ในเล่มพาสปอร์ตไทย เพราะมันไม่ใช่อำนาจหน้าที่ของเขาค่ะ

ดิฉันเพิ่งกลับมาจากญี่ปุ่นสดๆ ร้อนๆ ดิฉันเป็นคนไทยในประเทศไทยที่ถือพาสปอร์ตไทยเท่านั้น
และไม่คิดที่จะถือพาสปอร์ตอื่นๆ และในกลุ่มที่เดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่นกับดิฉัน มีคนถือทั้งพาสปอร์ตอังกฤษ
และ พาสปอร์ตอเมริกันค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 2
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 3
หรือให้คุณเข้าไปอ่านในกระทู้นี้นะคะ เป็นกระทู้เกี่ยวกับเรื่องถือสองพาสปอร์ต คือของไทย และของ
ประเทศในกลุ่มอียู กับการเดินทางเข้า-ออกประเทศไทย ประเทศที่ตนเองอาศัยอยู่ และ การไปประเทศอื่นๆ
ค่ะ

http://www.pantip.com/cafe/klaibann/topic/H12362236/H12362236.html


ตอบกลับความเห็นที่ 3
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 4
อ่า ตรง ต.ม. ไทย ขาออกไปญี่ปุ่น ดิฉันลืมไปค่ะ ว่าไม่ทราบว่าคุณ จขกท. และครอบครัวจะเข้าเมืองไทย
ด้วยพาสปอร์ตอะไร เพราะถ้าเข้าเมืองไทยเล่มไหน ก็ให้ออกเล่มนั้นค่ะ ตามย่อหน้าที่ 3 ของคุณ
JidNince ใน คห. 1 เลยค่ะ

และขอขยายความเพิ่มเติมตรงข้อ 2 ในย่อหน้าที่ 3 ของ คห. 2 ของดิฉันว่าที่ให้ยื่นพาสปอร์ตอังกฤษ
จอนเช็คอินกับเจ้าหน้าที่ของสายการบิน เพราะว่าเจ้าหน้าที่ของสายการบินจะต้องตรวจค่ะ ว่าคุณวีซ่า
เข้าญี่ปุ่นหรือเปล่า ซึ่งในกรณีนี้คุณไม่มีวีซ่าญี่ปุ่นในพาสปอร์ตไทย แต่จะเข้าญี่ปุ่นด้วยพาสปอร์ตอังกฤษ
ซึ่งไม่ต้องมีวีซ่าเพราะฉนั้นคุณจึงต้องโชว์พาสปอร์ตอังกฤษตอนเช็คอินค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 4
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 5
ผมเดินทางด้วยพาสปอร์ต ไทย และอังกฤษ
เวลาเข้า/ออกไทย ใช้พาสปอร์ตไทย (แต่การแสดงตนต่อสายการบิน จะขึ้นกับว่าประเทศปลายทางนั้นต้องใช้วีซ่าหรือไม่ เช่น เดินทางไปอังกฤษ ผมจะใช้พาสปอร์ตอังกฤษแสดงตนต่อสายการบิน เป็นต้น)
เวลาเข้า/ออกอังกฤษ ใช้พาสปอร์ตอังกฤษ
เวลาเข้า/ออกประเทศที่สาม
ก) ใ้ช้พาสปอร์ตไทยถ้าหากประเทศนั้น พาสปอร์ตไทยไม่ต้องใช้วีซ่า เช่น รัสเซีย หรือผมมีฟาสท์แทรกอยู่กับพาสปอร์ตไทย เช่น ฮ่องกง เพื่อจะได้ไม่ต้องเข้าคิวยาว สามารถใช้อิเลคทรอนิคส์เกตได้เลย
ข) ใช้พาสปอร์ตอังกฤษถ้าหากประเทศนั้น พาสปอร์ตอังกฤษไม่ต้องใช้วีซ่า เช่น สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น หรือ ต้องใช้วีซ่าแต่ผมขอวีซ่าประเทศนั้นจากอังกฤษ เช่น อินเดีย จีน ผมเคยถูก ตม สหรัฐอเมริกาสอบถามว่าเคยมีสัญชาติไทย หรือมีวีซ่ามาก่อนหรือไม่ เพราะชื่อ/นามสกุล ตามพาสปอร์ตไทยยังคงอยู่ในฐานข้อมูล ก็ตอบไปตามความจริง

การถือหนังสือเดินทางสองสัญชาติ ไม่มีข้อห้ามในกฏหมายของอังกฤษ
แต่สำหรับกฏหมายไทย พรบ สัญชาติ ไม่มีข้อห้ามโดยตรง แต่รมต มหาดไทย สามารถสั่งการให้มีการสอบสวนเพื่อถอดถอนสัญชาติไทยได้ โดยผ่านคณะกรรมการตามที่กำหนดในกฏหมาย หากพบว่าเข้าข่ายที่จะต้องถูกถอดถอนตามหมวด 2
ลองอ่านดูนะครับ
http://www.thaiconsulatechicago.org/ebook/law/nationality1.pdf
ดูหมวด 2 หน้า 9
ส่วนใหญ่ผู้ที่ถูกถอดถอนสัญชาติ เท่าที่เคยสังเกต มักจะเข้าข่ายมาตรา 17 ครับ

การเดินทางไปประเทศญี่ปุ่น หรือประเทศตะวันตก โดยไม่มีวีซ่า บางครั้ง ตม อาจจะสงสัยและสอบถาม เพื่อสวัสดิภาพของตัวผู้เดินทางเอง ว่าำไม่ได้ถูกหลอกให้เดินทางไปครับ เราก็ต้องตอบไปตามความเป็นจริง
แต่ขณะนี้ ตม ที่สุวรรณภูมิเริ่มใช้อิเลคทรอนิคส์เกตแล้ว โดยไม่ต้องมีการประทับตราออก ก็ไม่มีปัญหาอะไรครับ (ผมจำไม่ได้ว่าขาเข้ายังคงมีเจ้าหน้าที่ประทับตราเข้าเมืองหรือไม่)


ตอบกลับความเห็นที่ 5
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 6
การใช้พาสปอร์ตอะไรกับประเทศไหน... มันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร... เพียงแต่คน "ส่วนหนึ่ง" ที่มีพาสปอร์ตมากกว่าหนึ่งพาสปอร์ต มักคิดกันไปเอง วิตกกังวล และ ส่วนหนึ่งไม่อยากใช้พาสไทย เข้าประเทศไทยก็มี ทั้งๆที่มีก็ไม่ใช้กับการเข้าประเทศไทย... นั่้นเป็นเหตุผลส่วนตัวส่วนบุคคล


ดิฉันไม่มีปัญหาอะไรเลย ไม่วิตกกังวล กับการใช้ Dual passport... ตรงที่ตรวจคนเข้าเมือง... ใช้เอกสารเดินทางอะไรเข้าประเทศไหนๆ ก็ต้องใช้เอกสารเดินทางนั้นๆออกจากประเทศนั้นๆ... ทำให้ข้อมูลมันตรงกันทั้งขาเข้าและขาออก


ซึ่งบางคน... จะรู้ หรือไม่รู้ ก็ไม่ทราบได้.. เกิดอยากเปลี่ยนเอกสารเดินทางไปใช้เอกสารเดินทางประเทศอื่น ตอนขาออก... จึงทำให้ข้อมูลบันทึกของตม.ที่เข้าประเทศนั้นๆไม่ตรงกัน



การที่คนส่วนหนึ่งมีพาสปอร์ตมากกว่าหนึ่งพาสปอร์ต นอกเหนือไปจากพาสปอร์ตไทย... มันขึ้นอยู่กับภูมิลำเนาอาศัยในประเทศอื่นๆของแต่ละคนมันต่างกัน.. มีเยอะแยะไปที่คนย้ายไปอยู่ประเทศอื่นๆ อย่างดิฉันอยู่ต่างแดนมา ๓๕ ปี มากกว่าอยู่เมอืงไทย มีพาสปอร์ตมากกว่าหนึ่งพาสปอร์ต (ไทย) ก็ไม่แปลกอะไร


สำหรับดิฉันไม่คิดอะไรเลย ที่มีกี่พาสปอร์ตไว้ครอบครอง... ไม่ได้ทำให้ตนเองรู้สึกโดดเด่นไปกว่าคนที่มีพาสปอร์ตไทยเล่มเดียว และ ยังรู้สึกเป็นคนไทยเหมือนกับคนที่มีพาสปอร์ตไทยเล่มเดียว... ไม่ได้ทำให้ความเป็นคนไทยน้อยลงไปแต่อย่างใด เมื่อมีพาสปอร์ตของประเทศอื่นๆเพิ่มมาด้วย... ภาษาไทยก็ยังใช้พูดอ่านออกได้ ถึงต่อให้ไปอยู่เมืองอนก ไม่ได้ใช้ภาษาไทยในชีวิตประจำวันก็ตาม.. ลายมือเขียนไทยได้สวยศิลป์มากด้วย... การมีพาสปอร์ตไทยหนึ่งเล่มเดียว มันขึ้นอยู่กับทางเลือกส่วนบุคคล ไม่เกี่ยวกับคนอื่นๆที่มีพาสปอร์ตอื่นๆด้วย


แก้ไขตกหล่นสะกด

ตอบกลับความเห็นที่ 6
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 7
ต้องขอขอบพระคุณทุกท่านมากที่ช่วยสละเวลาเข้ามาแนะนำและไขข้อข้องใจอย่างรวดเร็วในเรื่องของการใช้2passport เข้าออกประเทศอื่นๆนอกจากประเทศไทย

ตอนนี้สบายใจมากว่าสามารถเข้า-ออกไทยโดยใช้พาสปอร์ตไทยได้เหมือนอย่างเคย (แม้จะออกไปประเทศอื่นด้วย) เพราะโดยปกติจะไม่ใช้พาสปอร์ตอังกฤษเข้าออกไทยแม้ว่าจะอยู่ช่วงสั้นๆก็ตาม ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน ชอบใช้พาสปอร์ตไทยเข้าออกบ้านเกิดตัวเองมากกว่า

ส่วนการใช้พาสปอร์ตอื่นเข้าประเทศอื่นนั้นถือว่าเป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่ตนเองและครอบครัวโดยไม่ต้องขอวีซ่าไปประเทศนั้นๆหากถือพาสปอร์ตไทย(เพราะบางครั้งมีเวลาเพียงไม่กี่วันในไทยการมีพาสปอร์ตอื่นๆที่อนุญาตให้เดินทางโดยไม่ต้องขอวีซ่าจึงทำให้การเดินทางคล่องตัวมากขึ้นสำหรับครอบครัว)

ในกรณีนี้ขอทำความเข้าใจกับตัวเองว่า
A)เราสามารถเข้าออกไทยด้วยพาสปอร์ตไทยได้ตามปกติ แต่เมื่อเข้า-ออกประเทศญี่ปุ่นก็ยื่นพาสปอร์ตอังกฤษได้เลย และเมื่อกลับเข้าไทยก็ใช้พาสปอร์ตไทยตามเดิม

B)หากทางตม.ญี่ปุนถามว่าทำไมไม่มีตราประทับขาออกจากไทย เราควรจะตอบอย่างไร? ตามที่คุณคห.5ได้แนะนำว่าอาจจะมีการถาม เราควรจะแสดงพาสปอร์ตไทยหรือไม่ว่าเราออกจากไทยมาด้วยพาสไทย? คือเป็นนัยยะว่าเรามี2สัญชาติ หรือเราไม่จำเป็นต้องทำอะไรเลย แค่ตอบคำถามก็พอ (ในกรณีที่ตม.ญี่ปุ่นถาม)

C)ออกจากไทยให้แสดงพาสปอร์ตอังกฤษที่เคาท์เตอร์เช๊คอินพร้อมตั๋วเครื่องบินไปญี่ปุ่น

D)เข้าไทยจากญี่ปุ่นใช้พาสปอร์ตไทยตามเดิม

หากเข้าใจตรงไหนผิดไปรบกวนทุกท่านช่วยแก้ไขด้วยจักของพระคุณมาก


ตอบกลับความเห็นที่ 7
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 8
เรียนคุณ Giuseppe ต.ม. ขาเข้าประเทศไทยยังคงมีเจ้าหน้าที่นั่งประจำสำหรับช่องพาสปอร์ตธรรมดา
ทั่วๆ ไปสำหรับคนไทยถือพาสปอร์ตไทย อย่างน้อยๆ 2 เคาน์เตอร์ค่ะ มีออโต้ เกท 4 เครื่อง
และยังมีช่องสำหรับ ผดส. บิสซิเนส และ เฟิสท์ และ ช่องสำหรับพวก Diplomat อย่างละ 1 ช่อง
ตามปกติค่ะ

ส่วนขาออก มีออโต้ เกท 4 เครื่องเช่นกัน และมีเจ้าหน้าที่ ต.ม. เป็นคนๆ นั่งประจำเพื่อสแตมป์อย่างน้อยๆ
สองท่านค่ะ

_____________________________

ดิฉันเข้าใจคนไทยอย่างคุณ JidNince ค่ะ ว่าถือสองพาสปอร์ตเพราะความจำเป็นในเรื่องของถิ่นที่อยู่และ
เพราะอยู่ที่นั่นประจำ ดิฉันชื่นชมคุณจิ๊ดที่ไม่ลืมประเทศไทย ไม่ลืมภาษาไทย ไม่ลืมว่าส่วนหนึ่งคือคนไทย และดิฉันไม่ได้ว่าอะไรคุณ JidNince ใน คห. บนๆ นะคะอันนี้ดิฉันเข้ามาบอกเอาไว้ เผื่อคุณจะเข้าใจผิดค่ะ

ส่วนเรื่องคนไทยอื่นๆ เช่นเรื่องที่คุณ JidNince เคยสงสัยเรื่องทำจมูก ดิฉันเองก็สงสัยเช่นกันค่ะ
ว่าคนไทยหลายๆ คนอยู่ดีๆ ทำไมไม่ชอบจมูกที่รับกับโครงหน้าและเผ่าพันธ์ของตนเอง
และสงสัยเหมือนกันว่าคนเราอยู่ดีๆ ทำไมอยากมีจมูกแหลมเหมือนนกฮูกไปได้ (ทำจมูกแหลมๆ
จนเหมือนนกฮูกนี้ ดิฉันจำมาจากตลก "เทพ โพธิ์งาม" ค่ะ เพราะคุณเทพ เคยวิจารณ์ลูกสาวของตัวเอง
ที่ไปทำจมูกมา คุณเทพบอกว่า อยู่ดีๆ ไม่ชอบแต่อยากจมูกแหลมเหมือนนกฮูก )

ดิฉันเข้าใจคนไทยอีกหลายๆ ท่านในนี้ที่ไม่ได้ถือสองพาสปอร์ตเพื่อเอาไว้ทำตัวให้สูงกว่าคนไทยอื่นๆ
และไม่ได้เห็นว่าตัวเองพิเศษกว่าคนอื่น

ดิฉันชื่นชมท่าน ดร. Giuseppe ด้วยค่ะ คุณเป็นคนไทยที่น่ายกย่องและเก่งมากๆ ทำงานในต่างแดน
และเดินทางไปทั่วโลกด้วยพาสปอร์ตไทยมาตลอด และเมื่อถึงแก่เวลาอันสมควรคุณก็ได้สมัครเพื่อขอ
สัญชาติอังกฤษและได้พาสปอร์ตมาด้วยความสามารถของคุณเองล้วนๆ ทั้งนี้เพื่อความคล่องตัว
ในการเดินทางติดต่อธุรกิจการงาน ดิฉันขอคารวะค่ะ แต่ดิฉันเสียดายที่คุณไม่ได้อยู่ประเทศไทย
เพื่อช่วยกันพัฒนาประเทศค่ะ

ดิฉันทราบค่ะว่าคนในนี้ที่เล่นห้องนี้ ถือสองพาสปอร์ตหลายท่าน หลายๆ คนถ่อมตัว ไม่โอ้อวด
แต่ในขณะที่หลายๆ คนพยายามจะบอกว่าตัวเองไม่ใช่คนไทยแบบนี้หน่ะ ไม่เท่ห์และไม่น่ารักค่ะ

ในชีวิตจริงๆ ดิฉันเคยมีคนไทยที่ถือสองพาสปอร์ตมาว่าด้วยว่าดิฉันเป็นคนไทยที่อยู่ใน Coconut Shell
เพียงเพราะว่าดิฉันไม่ได้ถือสัญชาติอื่นแบบเขา และไม่ได้อาศัยอยู่ในประเทศที่เขาคิดว่าศิวิไลซ์กว่าเมือง
ไทย ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว คนที่ว่าดิฉันหน่ะ เขาว่าเพราะความอิจฉา เพราะจริงๆ แล้วถึงเขาจะมี
พาสปอร์ตของประเทศรวยๆ แต่เขาแทบจะไม่ค่อยได้ออกนอกประเทศที่ตนเองอาศัยอยู่ไปไหนๆ เลย
หรือนานๆ ไปทีนึง ปีละ 3-4 ทริปก็จัดว่าหรู และ ได้ไปที่ๆ Exotic ของเขาแล้ว หรือบางทีไม่ได้
ไปไหนเลยแต่ก็มาเด็กเลี้ยงแกะว่าไป เพื่อที่จะไม่ให้น้อยหน้าดิฉันค่ะ ดิฉันเองไม่สนหรอกค่ะ เพราะบอก
แล้วว่าถือพาสปอร์ตอะไรไม่สำคัญหรอกค่ะ แต่สำคัญว่าคุณมีเวลาไปไหม และมีสตางค์ไปไหม
แค่นั้นแหละค่ะ

และอย่างที่เคยเล่าในกระทู้อื่นข้างล่างนี้ คือเวลาที่ดิฉันเดินทางจะเห็นบ่อยมากว่ามีคนไทยที่ถือพาสปอร์ต
ของประเทศอื่นชอบถือพาสปอร์ตสองเล่มสองสัญชาติซ้อนๆ กัน ตามแถวของ ต.ม. ประเทศต่างๆ
โดยที่เอาพาสปอร์ไทยไว้ล่าง แล้วโชว์พาสปอร์ตของประเทศอื่นที่เอาไว้บน แล้วต้องมองไปรอบๆ
ด้วยว่าจะมีคนเห็นหรือเปล่า แบบนี้ก็ไม่น่ารักค่ะ

ดิฉันเองมีเพื่อนทั้งคนไทยคนต่างชาติ ที่ถือ 2-3 สัญชาติค่ะ แต่คนเหล่านี้เขาไม่อวดเลย และเขาไม่เคย
เอาไปข่มใครด้วย แต่เขาเงียบๆ ค่ะ เพราะหลายๆ คนเขาได้มาจากความสามารถในการทำงาน (อย่างคุณ
Giuseppe เป็นต้น) หรือได้มาจากการที่เขาเป็นลูกครึ่งแล้วคุณพ่อ-คุณแม่ขอให้ค่ะ

หวังว่าเมื่อคุณ JidNince และคุณ Giuseppe หรือท่านอื่นๆ มาอ่านแล้วจะเข้าใจดิฉันว่าไม่ได้ว่าอะไร
พวกคุณ แต่ชื่นชมด้วยซ้ำไปค่ะ

หรืออย่างในชีวิตจริงๆ ดิฉันเคยเจอคนไทยบางคนที่ไม่น่ารักค่ะ เช่นเจอกันตามงานพบปะสังสรรค์ครั้งแรก
ภายในบทสนทนาไม่เกิน 5 ประโยคแรก เขาก็ต้องบอกให้ดิฉันหรือคนอื่นๆ ทราบแล้วว่าเขาเป็นคนไทย
ที่ถือสองพาสปอร์ตนะ และมีพาสปอร์ตของประเทศรวยๆ ด้วยนะ แบบนี้้ไม่น่ารักค่ะ

หรือคนไทยในต่างแดนบางคนที่ดิฉันเคยเจอมา พอเขาได้พาสปอร์ตต่างชาติประเทศรวยๆ แล้ว เขาปล่อย
ให้พาสปอร์ไทย บัตรประชาชนไทยหมดอายุ แล้วไม่ไปต่อ แล้วเสร็จแล้วเขาก็คิดว่าเขาเป็นคนของประเทศ
อื่นๆ ไปแล้วและไม่เกี่ยวข้องกับเมืองไทยอีกต่อไป ไม่ได้เป็นพลเมืองไทยอีกต่อไป โดยที่เขายังไม่ได้
ไปทำเรื่องขอถอนสัญชาติไทยก็มีค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 8
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 9
ตอบคุณเจ้าของกระทู้ ข้อ B_ต.ม. ญี่ปุ่นจะไม่ถามคุณเด็ดขาดค่ะ ว่าในพาสปอร์ตอังกฤษถึง
ไม่มีตราประทับขาออกจากประเทศไทย ขอให้คุณเชืื่อดิฉันเถอะค่ะ เพราะมันไม่ใช่หน้าที่ของ ต.ม.
ญี่ปุ่นที่จะมาเช็คการเข้า-ออกประเทศไทยซึ่งเป็นหน้าที่ของ ต.ม.ไทยค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 9
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 10
ขอขอบคุณคุณ Been there, done that! ที่ช่วยกลับเข้ามาตอบคำถามให้อีกครั้ง
คำแนะนำของคุณและของท่านอื่นๆมีประโยชน์ต่อผู้น้อยมากไม่ว่าจะเป็นคุณ JidNince หรือ คุณ Giuseppe
ขอให้ทุกท่านมีความสุขความเจริญที่มีน้ำใจสละเวลามาแนะนำและไขข้อข้องใจจนกระจ่างชัด


ตอบกลับความเห็นที่ 10
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 11
จากความเห็นที่ ๙ ของคุณ : Been there, done that!


ดิฉันชอบดูตลกของคุณ เทพ โพธิ์งาม เขาตลกหน้าตาย ไม่หยิ่งยะโส

เกี่ยวกับจมูกโด่ง เป็นสันของผู้หญิงไทยหลายคน ในปัจจุบันที่เห็นในกทม. คนพวกนั้นส่วนมาก มักวางตัวราวกับว่าเป็นหงส์ (นึกถึงเพลงลูกทุ่ง หงส์ปีกหัก) ไปทำหน้ามา ใส่เลนส์ตาโต เลนส์ตาสี แต่มีนิสัยส่วนตัวที่หยิ่งยะโสใส่คนที่ดูปกติ


ส่วนเรือ่ง Dual citizenship
มีคนประเภทนั้นเยอะ มีปมด้อย หรือแค่ขอให้ได้โอ้อวด ที่ไม่มีอะไรมาอวดได้แล้ว ต้องเอาการเป็น Dual citizenship มาคุยโอ่ข่มทับ

ถ้าเจอแบบนั้น ดิฉันตีตัวออกห่าง ไม่ต้องการสังคมด้วย ไม่แม้แต่จะเสียเวลาหยุดเสียเวลาฟังคนพูด เพียงเพื่อเขาจะได้หาคนไทยฟังเขาคุยโอ่ก็มีค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 11
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 12
ถึงคุณ จขกท. ดิฉันขอมาตอบแบบเคลียร์สุดๆ อีกครั้งนะคะ ว่าทำไม ต.ม. ญี่ปุ่นจะไม่สนใจเกี่ยวกับ
สแตมป์ขาออกจากประเทศไทยในพาสปอร์ตอังกฤษของคุณ จขกท. และ ครอบครัว ในตอนขาเข้าญี่ปุ่น
เพราะ เพราะว่าคุณ จขกท. และครอบครัวอาจจะไม่ได้ผ่านขึ้นเครื่องโดยการเดินทางผ่าน ต.ม. ของ
ประเทศไทยค่ะ ซึ่งคุณ จขกท. และครอบครัวอาจจะเป็นผู้โดยสารที่มาทรานสิทท่่สนามบินสุวรรณภูมิ
โดยที่คุณและครอบครัวสามารถเดินทางมาจากเมือวไหนพอร์ทไหนก็ได้จากทั่วโลก และแค่มาแวะทรานสิท
เปลี่ยนเครื่องที่กรุงเทพฯ เช็คทรูกระเป๋ามา เพื่อที่จะแค่มาต่อเครื่องที่กรุงเทพฯ โดยทีทอยู่แต่ในบริเวณ
ห้องโถงขาออก โดยที่ไม่ได้ผ่าน ต.ม.ประเทศไทยออกไป เพราะไม่ได้เข้าประเทศไทยนะคะ

ซึ่งในทุกสนามบินนานาชาติทั่วโลก ไม่ว่าจะพอร์ทไหน ในแต่ละวันมีผู้โดยสารทรานสิทมากมายค่ะ
และไม่ใช่หน้าที่ของ ต.ม. ประเทศไหนๆ เลยที่จะไปทำหน้าที่แทน ต.ม. ของประเทศอื่นๆ ค่ะ

ตอนที่ดิฉันไปญี่ปุ่นทริปล่าสุดสดๆ ร้อนๆ นี้ ดังที่เรียนให้ทราบแล้วใน คห. 2 ของดิฉันว่าในกลุ่มของดิฉัน
มีคนอังกฤษ และ คนอเมริกันด้วย ซึ่งในกลุ่มของดิฉันนี้ มีดิฉันคนเดียวที่เดินทางผ่าน ต.ม. ไทยออกจาก
สนามบินสุวรรณภูมิ โดยที่คนอังกฤษ และ อเมริกันในกลุ่มของดิฉันบินมาจากเมืองอื่นๆ ในเอเชียเพื่อที่
จะมาสมทบกับดิฉันที่กรุงเทพฯ และ ขึ้นเครื่องลำเดียวกันออกไปจากกรุงเทพฯ พร้อมๆ กับดิฉัน
โดยที่คนอเมริกัน และ คนอังกฤษแค่มาทรานสิทที่สุวรรณภูมิ

และเมื่อพวกเราไปถึงญี่ปุ่นแล้ว เราต่อแถวผ่าน ต.ม.ญี่ปุ่นแถวเดียวกัน และ ต.ม. ญี่ปุ่นไม่ได้ถาม
ไม่ได้ขอดูสแตมป์ของ ต.ม. ไทยของคนอังกฤษและอเมริกันเลยค่ะ

ส่วนดิฉันซึ่งถือพาสปอร์ตไทย ก็ไม่มีสแตมป์ที่แสดงว่าออกมาจากประเทศไทยนะคะ เพราะทริปนี้
ดิฉันบินชั้นประหยัดและออกจากประเทศไทยมาทางออโต้ เกท (แต่ถ้าบินชั้นธุรกิจ ชั้นเฟิสท์
และ คนที่ถือบัตรสมาชิกการบินไทยแพลตินั่ม จะได้สแตมป์นะคะ เพราะไม่มีออโต้ เกท ค่ะ)

ส่วนใน คห. 7 ของคุณ จขกท. ข้อ A, C, D คุณเข้าใจถูกแล้วค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 12
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 13
คุณ JidNince คะ ตามนั้นค่ะ ดิฉันก็เห็นเช่นนั้นค่ะ เวลาที่ดิฉันเจอน้องๆ หงส์พวกนั้น ดิฉันจะออกห่าง
เช่นกันค่ะ หรือพวก Dual Citizenship ที่ชอบข่มคนไทยในเมืองไทยเช่นกันค่ะ ขอออกห่างไว้เลย

อ้อ แล้วน้องๆ "หงส์จมูกฮูก" พวกนั้นหน่ะ ถ้าจะให้ครบสูตร เขาต้องไปฉีดกลูต้าฯ ให้ตัวขาวๆ หน้าขาวๆ
กันด้วยนะคะ ส่วนที่ต้นขาก็ต้องฉีดอะไรที่เรียกว่าบ็อกซ์ๆ ซี่ๆ อะไรสักอย่างเพื่อให้ต้นขาเล็กค่ะ

กนะเป๋าที่ใช้ต้องเป็นกระเป๋าแบรนด์เนมเท่านั้นค่ะ แล้วเวลาเดินนอกจากจะหยิ่งๆ เชิ่ดๆ แล้ว
บางครั้งน้องๆหงส์จมูกฮูก จะชอบทำหน้าตาแอ๊บแบ๊วไร้เดียงสา และชอบทำท่าเหมือนกับว่าอ่อนต่อโลก
ด้วยค่ะ

ประทานโทษค่ะ คุณ JidNince ดิฉันขอละลาบละล้วงนิดนึง คือเมื่อประมาณ 2-3 เดือนที่ผ่านมา
ที่สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสสยาม ที่กรุงเทพฯ

ดิฉันเห็นสุภาพสตรีไทยท่านหนึ่ง ผิวสีแทนจัดๆ หน้าตาเก๋ๆ จมูกไม่โด่งแต่รับกับใบหน้า ตาคมๆ โตๆ
ไว้ผมสั้นๆ และรวบไว้เล็กๆ ข้างหลัง ใส่ผ้านุ่งสีบานเย็นสะพายย่าม ใส่เสื่อแขนกุดสีชมพู
สวมรองเท้าแตะ หน้าตาเหมือนจะดุ แต่ดิฉันดูแววตาแล้วเห็นคนใจดี ลักษณะของเธอเหมือนคนไทยที่มาจากเมืองนอก และอยู่เมืองนอกมานาน และไม่ได้กลับเมืองไทยมานานมาก
เธอมองสิ่งรอบๆ ตัวอย่างตื่นตาตื่นใจ และพิศวง งง งวย (ดิฉันสังเกตจากบอดี้ แลงเกว็จ และ แววตา)

ดิฉันยืนอยู่ห่างจากเธอแค่ประมาณ 1 เมตร ตอนที่รอรถไฟฟ้า ดิฉันคันปากมากๆ อยากจะเข้าไปใกล้ๆ
เข้าไปถามว่าคุณตุ๊กตา JidNince จากนิวยอร์คใช่ไหม แต่ไม่กล้าค่ะ เพราะเกรงว่าสุภาพสตรีท่านนั้น
จะตกใจ_คุณอย่าแปลกใจนะคะ ว่าทำไมดิฉันทราบ เพราะดิฉันบอกแล้วว่าดิฉันเป็นนักซุ่มโป่งแอบ
อ่านค่ะ อิอิอิ


ตอบกลับความเห็นที่ 13
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 14
ปกติไม่เคยมีใครถามผมเลยนะครับว่า ทำไมไม่มีสแตมป์จากประเทศนั้นประเทศนี้ ตอนจะเข้าเมือง
เว้นแต่ว่าคุณเดินทางไปตะวันออกกลาง แล้วคุณมีสแตมป์จากประเทศอิสราเอล ก็อาจเป็นปัญหาได้ครับซึ่งเวลาไปอิสราเอล ทางตม เขายินยอมให้เราร้องขอว่า ไ่ม่ต้องแสตมป์ลงในหนังสือเดินทางได้ และสามารถขอวีซ่าเป็นแผ่นกระดาษต่างหากได้ด้วย ทำให้ไม่ต้องแปะลงบนหนังสือเดินทางของเรา

ที่เคยเห็นสอบถามกันส่วนใหญ่จะเป็น ตม มาเลเซียครับ ไม่แน่ใจว่าทำไม แต่เดาเอาว่า มีบุคคลที่อาจจะหลบออกนอกประเทศไทย ด้วยเหตุผลอื่นๆ ก็เป็นได้ครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 14
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 15
ลูกชายถือหนังสือเดินทางสองเล่มเหมือนกัน ขอหนังสือเดินทางไทยให้เขา เผื่อเมื่อเขามีอายุมากและอยากไปอยู่เมืองไทย ลูกชายจะเดินทางไปเยี่ยมเพื่อนที่ทำงานอยู่ที่ดูไบก่อน และจะเดินทางไปประเทศไทย จากประเทศไทยจะเดินทางไปเที่ยวไซ่ง่อน มีหลายท่านให้คำแนะนำว่า เวลาเดินทางไปดูไบให้ใช้หนังสือเดินทางของประเทศที่อาศัยอยู่ เมื่อเดินทางเข้าประเทศไทยให้แสดงหนังสือเดินทางไทย และเวลาเดินทางไปเที่ยวไซ่ง่อน ก็แสดงหนังสือเดินทางไทยเช่นกัน
เข้าใจแบบนี้น่าจะถูกต้อง


ตอบกลับความเห็นที่ 15
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 16
คุณ Been there, done that!

"ดิฉันเห็นสุภาพสตรีไทยท่านหนึ่ง ผิวสีแทนจัดๆ หน้าตาเก๋ๆ จมูกไม่โด่งแต่รับกับใบหน้า ตาคมๆ โตๆ
ไว้ผมสั้นๆ และรวบไว้เล็กๆ ข้างหลัง ใส่ผ้านุ่งสีบานเย็นสะพายย่าม ใส่เสื่อแขนกุดสีชมพู
สวมรองเท้าแตะ หน้าตาเหมือนจะดุ แต่ดิฉันดูแววตาแล้วเห็นคนใจดี ลักษณะของเธอเหมือนคนไทยที่มาจากเมืองนอก และอยู่เมืองนอกมานาน และไม่ได้กลับเมืองไทยมานานมาก
เธอมองสิ่งรอบๆ ตัวอย่างตื่นตาตื่นใจ และพิศวง งง งวย (ดิฉันสังเกตจากบอดี้ แลงเกว็จ และ แววตา)"


ฮ่าๆๆ ถ้าคุณไปทัก ก็จะทักผิดคน !!!!

จะพบดิฉันตัวเป็นๆได้ที่งานหาบ้านให้แมวจร ของโครงการรักษ์แมวที่ผ่านมาต้นเดือนมิถุนายน... ที่สวนจตุจักรไปร่วมช่วยหาบ้านให้แมวข้างถนน ในส่วนที่ดิฉันไปช่วยเหลือมา... และไปอาสาช่วยที่งาน Pet Expo ช่วยโปรโมทหาบ้านให้แมวๆข้างถนนที่ไปช่วยมา และช่วยเก็บบู๊ท


เมืองไทยร้อนอบอ้าวมากกก แต่ดิฉันชอบ สนุก ท้าทาย ได้ทำประโยชน์ช่วยสังคมส่วนรวม เป็นอะไรที่คุ้มค่า


สมมติว่าถ้าอยู่ในไทยนานกว่านี้ ดิฉันก็คงจะตั้งโครงการช่วยเหลือสัตว์ตกยากแน่นอน ไปสี่เดือนได้ช่วยแมวข้างถนนสิบตัว ช่วยชีวิตนกพิราบป่วยหนึ่งตัว


ในรูปจากงานหาบ้านให้น้องแมวที่สวยจตุจักร นำแมวๆ และลูกแมวจากข้างถนนไปช่วยหาบ้าน เจ้าของเคสต้องถ่ายรูปคู่กับผู้รับแมวไปเลี้ยง เป็นสักขีพยาน (เบื้องหลังรอยยิ้ม หัวเราะ โทรมเหงื่อแตกซ่กๆๆ อากาศร้อนมากๆๆ แมวๆลูกแมวหอบแฮ่กๆลิ้นห้อย)


ตอบกลับความเห็นที่ 16
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 17
ฮ่าๆๆ ขอขอบพระคุณคุณ JidNince มากค่ะ ที่กรุณามาเฉลย แต่อย่างไรก็ตามดิฉันประทับใจ
สุภาพสตรีท่านนั้นมากค่ะ และที่คิดว่าเป็นคุณ JidNince เพราะดิฉันมีเหตุผลหลายอย่างค่ะ

ในภาพนี้คุณ JidNince คือสุภาพสตรีเสื้อยืดคอกลมสีดำสวมหมวกใช่ไหมคะ อยากจะบอกว่า
ผิดคาดจากที่ดิฉันจินตนาการไปมากๆ เลยค่ะ ฮ่าๆๆ _คุณ JidNince ไม่เหมือนคนไทยเลยค่ะ
แต่คุณเหมือนคนเวียตนามโพ้นทะเลเวียตนามในอเมริกา พวกลูกหลานคนมีกะตังค์แถวที่ราบลุ่ม
สามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขง ที่พ่อแม่จับใส่เรือให้หนีไปก่อนที่ไซ่ง่อนจะแตกค่ะ
(ที่พูดมานี้ไม่ได้ลบหลู่หรือดูหมิ่นแต่ประการใด แต่คุณหน้าตาเหมือนเพื่อนเวียตนามของดิฉันคนหนึ่งเลย)

อยากจะบอกว่าถึงตอนที่คุณมาเมืองไทยคุณจะทำตัวธรรมดาๆ ปะปนไปกับคนอื่นทั่วๆ ไป
แต่คนที่เขาดูออกเขาจะทราบเองค่ะว่าคุณไม่ใช่ชาวบ้านธรมดาๆ เขาจะทราบว่าคุณเป็นคนไทย
ที่มาจากเมืองนอกอยู่เมืองนอกมานานแล้ว หรืออาจจะคิดว่าคุณเป็นคนต่างชาติค่ะ เพราะคุณธรรมดา
แต่ไม่ธรรมดา

ขอขอบพระคุณคุณ JidNince อีกครั้งจริงๆ ค่ะ ที่กรุณามาตอบ คห. 13 ของดิฉัน


ตอบกลับความเห็นที่ 17
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 18
คุณบอนเนอร์อาจจะยังอ่านคำตอบต่างๆ ในกระทู้ของคุณเองไม่เข้าใจ หรือไม่ทราบว่าจะไปหาข้อมูล
จากตรงไหน เอาเป็นว่าลูกชายของคุณบอนเนอร์สามารถเข้าดูไบได้ด้วยพาสปอร์ตเยอรมัน
โดยท่ีไม่ต้องขอวีซ่าไปล่วงหน้านะคะ

เพราะฉนั้นเมื่อลูกชายของคุณจะเข้า-ออกดูไบ ให้ใช้พาสปอร์ตเยอรมัน

เข้า-ออกไทย เข้า-ออกเวียตนาม ให้ใช้พาสปอร์ไทย

ส่วนตอนออกจากเมืองไทยกลับไปเยอรมันให้โชว์พาสปอร์ตเยอรมันกับเจ้าหน้าที่คนไทยที่เช็คอิน
เคาน์เตอร์ค่ะ แต่เวลาออกจาก ต.ม.ไทยกลับเยอรมัน ให้ใช้พาสปอร์ตเล่มที่ใช้เข้าไทยตอนขากลับ
จากเวียตนามค่ะ

http://www.uaeinteract.com/travel/visas.asp


ตอบกลับความเห็นที่ 18
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 19
อยากถามน่ะค่ะว่าถ้าเข้าออกไทยใช้พาสปอตไทยแต่เวลาเข้ามาอังกฤษใช้พาสปอตอังกฤษเต้าหน้าที่จะถามไมค่ะว่าทำไมไม่มีสแตมป์ขาออกจากประเทศไทยอ่ะค่ะ
ตอบกลับความเห็นที่ 19
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 20
## ความเห็นนี้ถูกลบ ##
ตอบกลับความเห็นที่ 20