มีใครกลับเมืองไทยตุลานี้บ้างมั้ย กลัวน้ำท่วมกันหรือเปล่าคะ?

อยู่เมืองไทย
ติดตามข่าวน้ำท่วมตลอดมา
ยังไม่เห็นข้อมูล หรือข่าวสารอย่างเป็นทางการที่ชัดเจน ว่า
ปีนี้น้ำจะไม่ท่วม กทม.

คุณข้าวปั้นคะ เรื่แงน้ำท่วมดิฉันไม่ทราบค่ะ และยังไม่อยากคิดถึงมันเลย เพราะเมื่อปีที่แล้ว
เครียดมากค่ะกับเรื่องน้ำท่วมกรุงเทพฯ และหลายๆ ส่วนในประเทศไทย

ดิฉันแค่แวะมาแจ้งข่าวคุณข้าวปั้นว่า ร้านโครเชท์ชื่อร้านน้องก้อย ที่สยามเซ็นเตอร์ที่ดิฉันแนะนำให้
คุณข้าวปั้นในกระทู้ก่อนหน้านี้ของคุณ จะต้องย้ายจากสยามเซ็นเตอร์ชั้น 2 ไปอยู่สยามสแควร์
อยู่ในซอยชั่วคราวนะคะ เนื่องจากสบามเซ็นเตอร์จะปิดปรับปรุงหลายเดือนค่ะ

ถ้าไงก็รบกวนไปตามข่าวใน เฟคBook ของทางร้านสำหรับการอัพเดทของเขานะคะ

และตรงนี้ขอรบกวนเนื้อที่กระทู้ของคุณข้าวปั้นด้วยค่ะ เพื่อแจ้งข่าวให้คุณหนูสองท่านนี้ทราบ
ที่ดิฉันติดค้างเรื่องข้อมูลเขาอยู่ คือ

คุณหนู Ilaria เรื่องร้านสักคิ้วที่เวียงจันท์ค่ะ ดิฉันถามเพื่อนให้แล้วเพื่อนบอกว่าไม่มีค่ะ

ส่วนคุณอย่ามาห้ามผม ดิฉันติดเรื่องโค้กวานิลลานะคะ ดิฉันดูให้แล้วที่สิงคโปร์ และ ที่ญี่ปุ่น
ไม่มีเลยค่ะ แต่เห็นเชอร์รี่โค้กที่ญี่ปุ่นค่ะ

น้ำท่วมคราวที่แล้วไม่ใช่เพราะน้ำเยอะเป็นหลัก
หากประเด็นสำคัญมันอยู่ที่การจัดการบริหารน้ำได้ไม่ดี
ดังนั้นถึงน้ำน้อยก็ท่วมได้ถ้าบริหารห่วย ซึ่งปีที่แล้วก็แจ็คพ็อต

จขกทอย่าคิดมากเลยครับ ไม่เป็นไรหรอก ก็เค้าบอกแล้วไงว่า "เอาอยู่" ฮ่าๆๆๆๆๆๆ

// ผมว่าถ้ากลับไทย แล้วไปต่อจังหวัดอื่นไม่จะมีปัญหานะ
แต่ถ้าอยู่กรุงเทพ หรือปริมณฑล อาจต้องมีลุ้นกันหน่อย
แนะนำว่า จองตั๋วเครื่องบินเอาไว้ก่อน โดยจองตั๋วคลาสสูงๆ หน่อย อาจราคาแพงกว่านิดหนึ่ง
แต่ถ้าเกิดน้ำท่วมสามารถเปลี่ยนวันเดินทางได้ หรือ refund ตั๋วได้บางส่วน

กลับพฤศจิกาค่ะ ไม่ได้กังวลอะไรเลยค่ะ ท่วมก็ท่วม ไม่ท่วมก็ดีไป

ไม่ต้องห่วงครับ เอาอยู่

เค้าสร้าง "เขื่อน" กั้นน้ำหมดแล้วครับทั้งมหาลัย นิคมอุตสาหกรรมแถวรังสิต

ขอย้ำไม่ใช่กำแพง มันเป็นเขื่อนกั้นน้ำ

ผมกลับปลายเดือนกันยายนครับ
บอกตรงๆครับ ไม่เคยกลัวเรื่องน้ำท่วมเลย ขอให้ได้อยู่ไทย
เจอน้ำท่วมมาทั้งชีวิตเลย ยกเว้นปีที่แล้วผมเดินทางออกจาก กทม ก่อนน้ำมาถึง กทม เพียง 10วันเท่านั้นเอง

บ้านผมอยู่ ตจว ทำนามาทั้งปีทั้งชาติ ปีที่น้ำท่วมนา ข้าวจะได้ผลผลิตดีหว่าปีที่ฝนแล้ง
เมื่อวานโทรกลับหาแม่ แม่บอกว่าข้าวแห้งตายเกือบหมดแล้ว ฝนไม่ตกเลย
แต่เพื่อนที่ กทม บอกว่าฝนตกหนักทุกวัน

ก็เพิ่งจะรู้ว่าฝนก็ไม่ชอบใช้ชีวิตที่บ้านนอกเหมือนกัน

Don't worry .... Just enjoy your trip ...

เห็นทำนั่นนิดนี่หน่อยพอเป็นข่าวบ้าง ให้รู้สึกว่า พยายามแก้น้ำท่วมอยู่

ที่เห็นถี่ๆก็มีแค่พยายามจะแก้อะไรนูญๆ นั่น แล้วก็เร่งกฏหมายดองๆ อะไรเทือกนั้น

ของแพง ก็เลิกแก้ไปแล้วด้วย เพราะบอกว่าคิดไปเองว่าแพง

ถึงหน้าฝนปีนี้ ก็ลุ้นกันไป

ปีนี้กลับไทยวันที่ 28 ตุลาถึง 16 พฤศจิกาค่ะ ไม่กลัวน้ำท่วมค่ะ ถ้าท่วมไม่เกินปีที่แล้ว เพราะปีที่แล้วก็กลับไทยช่วงปลายตุลาไปถึงกลางธันวาคมค่ะ

แค่ไม่สะดวกไปเที่ยวไหน ไม่ได้ออกไปช็อปปิ้งมากมายเท่านั้นเองค่ะ

แต่ข้อดีคือได้มีโอกาสอยู่บ้านมากขึ้น คุยกับคุณแม่มากขึ้นค่ะ และเข้าใจความรู้สึกคนที่โดนบ้านน้ำท่วมเหมือนๆกัน

ยอมรับว่าเครียดและอึดอัดนะคะ แต่ก็ดีใจที่ในสภาวะแบบนั้นดิฉันได้กลับบ้านไปอยู่ใกล้ๆครอบครัวค่ะ เพราะถ้ามีอะไรแย่มากๆ ดิฉันก็จะรีบอพยพครอบครัวไปอยู่ที่อื่นได้
นั่งอยู่ที่นี่ทุกวันโดยที่ไม่รู้ไม่เห็นว่าครอบครัวที่ไทยเป็นอย่างไรบ้าง ดิฉันกลับรู้สึกเป็นห่วงและอึดอัดมากกว่าค่ะ


อะไรจะเกิดก็ต้องเกิดค่ะ

ปล บ้านดิฉันอยู่ฝั่งธนฯค่ะ ใกล้จะลงทะเลแล้ว

ไม่ทราบว่าคุณซ่อนนามไปอยู่ที่ไหนมา
คำว่า "บริหารจัดการห่วย" นี้โดนยำหน้าแหกที่หว้าก้อไปหลายหนแล้ว

ไม่ทราบว่าคุณทราบหรือเปล่าว่า พายุเข้ากี่ลูก ห่างกันเท่าไหร่ น้ำมากแค่ไหน

ถ้าคุณซ่อนนามมีสามารถ ช่วยถามพระอินทร์หน่อยว่าพายุปีนี้จะเข้ากี่ลูก ปริมาณน้ำเท่าไหร่
จะได้วางแผนจัดการน้ำในเขื่อนถูก
หรือถ้าปากว่างมากก็ช่วยไปอมน้ำช่วยชาวบ้านมั่งก็ดี

ขอบคุณ คุณ Been There Done That เรื่องร้านโครเชต์ค่ะ

ยอมรับว่าปีที่แล้ว เครียดกับข่าวน้ำท่วมมาก เพราะเป็นห่วงที่บ้าน แต่โชคดีที่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น เพราะอยู่กรุงเทพฯ ชั้นใน สงสารก็แต่ญาติที่เขาเดือดร้อน ต้องอพยพหนีน้ำกันทั้งครอบครัว เห็นบอกว่าหมู่บ้านที่เขาอยู่ท่วมมิดเลย จากทีแรกท่วมแค่เข่า แต่กลางคืน มีคนแอบไปรื้อคันกั้นน้ำหวังจะระบายน้ำที่ท่วมแค่เข่าออก ปรากฎว่าขึ้นมามิดเลยทีนี้ ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าไปทำอีท่าไหน เลยหนักยิ่งกว่าเดิม

ถ้าจะกลับ เราต้องกลับไปทำธุระหลายอย่างค่ะ ถ้าแค่ไปเยี่ยมที่บ้านอย่างเดียว เกิดน้ำท่วมขึ้นมาจริงๆ อย่างมากก็ไม่ออกไปไหน แต่นี่ต้องไปทำธุระ ออกจากบ้านเกือบทุกวัน เกรงว่าจะไม่สะดวกเอามากๆ เลยยังลังเลอยู่น่ะค่ะ

ปีที่แล้วก็เห็นมีเขื่อนใหญ่ๆ หลายๆแห่ง ยังเอาไม่อยู่ และพร้อมกับเสียดายทิศทางของสัตว์ป่าที่หดไป เพราะเอาที่ทางของเขาไปทำเขื่อน และน้ำก็ยังท่วมบ้านเมืองอยู่บ่อยๆ

แต่แรกๆผมก็ไม่รู้เรื่องมากมาย แต่เมื่อได้ติดตามบ่อยๆ ทั้งภาษาไทยและอังกฤษ ทำให้พอที่จะจับเรื่องราวได้บ้างว่า น้ำท่วมนั้นไม่ใช่เรื่องของธรรมชาติเท่านั้น แต่เป็นสิ่งที่คนในประเทศไทยไม่เอาใจใส่เสียมากกว่า

ดังนั้นปีนี้ก็ไม่แน่ใจว่าจะตกเป็นผลกรรม ในการไม่เอาใจใส่เสียแต่ก่อนโน้น

จะกลับถึงไทยวันที่18พ.ย. ตอนค่ำค่ะ หวังว่าจะไม่เจอกับเหตุการณ์น้ำท่วมเหมือนกับครอบครัวที่เมืองไทยต้องประสบ เพราะต้องอพยพไปอยู่ต่างจังหวัดร่วมสองเดือน น้ำท่วมจากแค่หัวเข่า ขยับขึ้นถึงเอว และเป็นระดับอกในที่สุด เขื่อนกั้นน้ำรับไม่ไหวเพราะบ้านอยู่ห่างจากแม่น้ำเจ้าพระยาเพียงไม่กี่ร้อยเมตร ในย่านหลังการไฟฟ้าบางกรวย แต่ถึงน้ำจะมาก็จะกลับค่ะ ไม่ได้กลับบ้านมาห้าปีกว่าแล้ว คิดถึงครอบครัวที่ไทยเหลือเกิน

ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาแสดงความคิดเห็นค่ะ