จะเกิดอะไรขึ้นถ้านำอาหารต้องห้ามเข้า USA แล้วโดนค้นกระเป๋าที่ ตม?

อยากรู้อ่ะค่ะ มีใครเคยโดนจับได้บ้างคะ?
อยากกิน bratwurst จากเยอรมันอ่ะ >_<
จะให้เพื่อนหอบมาให้

ความคิดเห็นที่ 1
ถ้าโดนค้น ถูกทิ้งลงถังขยะหมดเลยค่ะ

เคยเห็นนักท่องเที่ยวอเมริกัน ถูกเรียกตรวจค้น มีไส้กรอก ซาลามิ ชีส... จนท.ทิ้งลงถังขยะหมดเลย


เสียดาย


ตอบกลับความเห็นที่ 1
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 2
ถ้าเค้าแสกนเจอ ..ก็โดนยึดคับ


ตอบกลับความเห็นที่ 2
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 3
ถ้าโชคดีก็แค่โดนยึด ถ้าโชคร้าย โดนปรับ+ลงบัญชีดำ


ตอบกลับความเห็นที่ 3
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 4
ไม่มีการดีแคลร์ของหรือคะ?

อย่างที่ออสเตรเลียเข้มงวดเรื่องของกิน แต่ถ้าดีแคลร์ ก็ไม่ถูกปรับค่ะ อย่างมากถูกยึดไปทำลาย (ถ้าเป็นของที่เขาห้ามนะ)


ตอบกลับความเห็นที่ 4
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 5
มันคุ้มกันใหมกับบัญชีดำ ลองคิดดูนะ


ตอบกลับความเห็นที่ 5
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 6
หากว่าในใบ declare บอกว่าไม่มี แล้วเขาค้นพบ โทษหนักมากในการโกหกหลอกลวงเจ้าหน้าที่ หากกรอกไปว่ามี ก็แล้วแต่บุญแล้วแต่กรรมครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 6
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 7
ตอนที่ผมกำลังกลับมาจาก London ผมซื้อ Nuatella จำนวนมากเข้ามา ผลสุดท้ายโดนค้นตั้งแต่ที่โน้นเลย เลยไม่สามารถเอากลับมาไทยได้ ฮือออ

Nuatella ที่ไทยรสชาตห่วยแตก ที่โน้นกลิ่นเฮเซลนัทหอมมากๆ


ตอบกลับความเห็นที่ 7
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 8
นูเทลล่า ในไทย... นำเข้าจากต่างประเทศนะคะ อ่านฉลากข้างขวดสิคะว่า ผลิตจากประเทศไหน


เข้าใจว่า คุณ 4-lunatic (คห. ๗) คิดไปเองมากวก่า ว่ารสชาติห่วยแตก เพราะเห็นว่าวางขายในไทย จึงอุปาทานไป

ช้อคโคแลทจากทางยุโรป ในไทยนำเข้าไปขายเยอะแยะ ดิฉันคุ้นตากับตราช้อคโคแลทหลายชนิดในไทย ที่ขายในเยอรมนี... ราคาไม่ได้แพงมากมายอะไร เมือ่เทียบกับที่วางขายในเยอรมนี

แต่คนไทยก็ยังพอใจที่อยากได้กินตรงมาจากเยอรมนี โดยคนอื่นนำมาฝาก... ความอุปาทานมันให้ความรู้สึกที่แตกต่างว่ารสชาติต่างกัน


การนำอาหารที่ทำมาจากเนื้อหมู และอาหารเดรี่ พันธุ์พืช มันเสี่ยงกับผ่าตม. ถ้ากรอกว่าไม่มี แต่ขนมา และถ้าถูกเรียกตรวจกระเป๋าล่ะก็ จะโดนตรวจค้นละเอียดยิบ

ที่ดิฉันเห็นจนท. ทิ้งลงถังขยะเลยต่อหน้านักท่องเที่ยวอเมริกัน พอค้นเจออย่างหนึ่ง จนท.ลงมือตรวจละเอียด


ที่อนุโลมให้เข้าได้ต้องเป็นขนม หรืออาหารที่ไม่ใช่เนื้อหมู สัตว์ปีก พืช

อาหารที่แพ้คใส่ห่อหรือกระป๋องมาจากโรงงานแล้ว ขนมช้อคโคแลท คุกกี้นำเข้าได้ แต่ต้องกรอกลงไปดีแคลร์ลงไปในฟอร์ม... ดิฉันกรอกลงในฟอร์ม ตอนยื่นฟอร์มให้จนท. ที่สนามบิน JFK จนท.ถามว่ามีแค่ช้อคโคแลทใช่ไหม... ตอบไปตามความจริง... จนท.ให้ผ่านไป

ดิฉันไม่ต้องการใจเต้นตุ๋มๆต่อมๆแล้ว กับการลุ้นว่าจะถูกเรียกตรวจกระเป๋าหรือไม่... จึงนำมาเฉพาะที่ลงกรอกตามความจริงในฟอร์ม

ตอบกลับความเห็นที่ 8
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 9
ถ้าจะให้เพื่อนเอาเข้ามาให้
ก็ทำให้ถูกต้องดีกว่าค่ะ
ถ้าเกิดอะไรขึ้นมา ไม่คุ้มกันเลย
แล้วคนที่โดนก็เพื่อน ไม่ใช่คุณด้วย
อย่าให้เพียงเพราะความอยากของคุณ อาจทำให้เพื่อนเดือดร้อนได้เลยนะคะ


ตอบกลับความเห็นที่ 9
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 10
คุณ : JidNince
"ดิฉันไม่ต้องการใจเต้นตุ๋มๆต่อมๆแล้ว" ไม่ชอบแล้วหรือครับ ผมก็เหมือนกันไปไหนมาไหนจึงไม่ขนของให้ตื่นเต้านโดยไม่จำเป็นและไม่รบกวนใครด้วย ยกเว้นแต่รู้แน่นอนว่าไม่เสียเวลาที่ด่าน


ตอบกลับความเห็นที่ 10
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 11
ตามคุณ JidNince เหมือนกันค่ะ เนื้อสัตว์ไม่เอาเข้าโดยเด็ดขาดยกเว้นพวกปลาและอาหารทะเล หลายปีหลังเห็นที่หลายสนามบินตรวจเข้มมาก ขนาดดีแคลร์ว่ามีอะไรก็ยังขอรื้อดู สงสัยจะมีคนกรอกไม่จริงไว้เยอะ ขนาดมาม่ายังขอดูรสกันเลยว่าไม่ใช่หมูหรือไก่แน่ๆ ถ้าเป็นไส้กรอกแบบนี้คงไม่น่าจะรอด เคยเห็นใช้สุนัขดมกลิ่นด้วย

มีอาหารต้องกรอกลงไปค่ะแม้ว่าจะเป็นอาหารที่นำเข้าได้ก็ตาม เจ้าหน้าที่เกิดขอค้นแล้วเจอนี่จะเป็นเรื่องใหญ่เหมือนคุณ hollywop ว่า ไม่รู้ว่าเจ้าหน้าที่เค้าลงบันทึกในประวัติเราด้วยหรือเปล่านะ เคยสังเกตุว่าตอนตรวจเข้าเมืองเค้าจะถามว่ามีอะไรต้องสำแดงไหม แล้่วก็เหมือนเหลือบดูประวัติในเครื่อง แล้วก็มาร์คที่หัวแบบฟอร์มอะไรซักอย่าง


ตอบกลับความเห็นที่ 11
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 12
เคยนำเม็ดบัว กับเม็ดทานตะวัน (จะเอามาปลูก) กลับมาด้วยก็ลงไปว่ามีเม็ดพันธ์พืชประมาณนั้น คนที่ซักดันเป็น ตม. ซะนี่ บอกที่นี่ก็มีขายก็เราไม่เคยเห็นนี่หว่า ส่วน custom ไม่ถามอะไรสักคำให้ผ่านได้เลย

เราว่าถ้ามีของต้องห้ามพวกอาหารก็เขียนว่ามีดีกว่า อย่างน้อยก็แสดงความบริสุทธิ์ใจส่วนการตัดสินใจของเจ้าหน้าที่ก็แล้วแต่ค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 12
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 13
ขึ้นอยู่กับว่าสำแดงหรือไม่

ถ้ามีของต้องห้ามแล้วสำแดง จนท.จะค้อนหน่อยๆและเอาของไปทิ้ง แค่นั้น

ถ้ามีของต้องห้ามแล้วไม่สำแดง แล้วจนท.ค้นเจอ เขาจะ

๑ เอาของทิ้ง
๒ คุณต้องจ่ายค่าปรับ รู้สึกว่าจะสามร้อยเหรียญนะ ไม่แน่ใจ
๓ red flag ประวัติคุณ ต่อไปนี้ถ้าคนถือพาสปอร์ตเล่มนี้(คุณเอง) เข้าอเมริกา จะถูกเชิญไปที่มุมนึงแล้วสกระเป๋าของคุณจะโดนรื้อแบบระเบิดเถิดเทิง เป็นเวลาห้าปีเต็ม


ตอบกลับความเห็นที่ 13
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 14
โอ้ววววววววววววว

ขอบคุณมากค่า
ปรกติเรามา เราก็กรอกนะ ว่าเรามีอะไรบ้าง แต่ก็เห็นว่ารอดทุกครั้ง ทั้งๆที่มารู้ทีหลังว่า ในกระเป๋าน่ะ สำแดงทั้งนั้นเลย T__T

ไม่เคยเข้าอเมริกามาก่อนนี่เนอะ เลยขนมาซะเพียบ


ตอบกลับความเห็นที่ 14
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 15
และครั้งที่เข้ามาอเมริกา คุณนำไส้กรอกหมูมาด้วยหรือเปล่าคะ

เป็นไปไม่ได้ที่จนท.จะให้ผ่าน สมมติว่าถ้านำเข้าไส้กรอกหมู ถ้ากรอกไปตามความจริงจนท.


ตอบกลับความเห็นที่ 15
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 16
อีกอย่างหนึ่งที่ขอแนะนำ หากใครที่จะเดินทางออกไปเที่ยวนอกประเทศ และใช้ของนำเข้าที่ดี มีราคาสูง ที่ยังดูใหม่อยู่
หรืออาจจะเก่าแล้วก็ตาม แต่ว่าซื้อในอเมริกาเช่น นาฬิกา กล้อง กระเป๋าถือ ฯลฯ ควรที่จะพกใบเสร็จไว้ด้วย กันเอาไว้
เผื่อว่าถูกซัก จะได้แสดงหลักฐานได้ว่าซื้อที่ไหน หรือไปที่สำนักงานศุลกากรให้ลงบันทึกรับรอง แล้วแนบใบแจ้งติดไว้
กับพาสปอร์ต จะได้ไม่มีปัญหากับ ต.ม. เวลากลับเข้าประเทศ เรื่องการเสียภาษี...ประเทศอื่นๆก็คงจะทำอย่างนี้เช่นกัน
...เคยเจอมาแล้วกับตัวเอง เมื่อต้องออกไปถ่ายงานนอกประเทศเป็นครั้งแรก ต้องให้เขายึดกล้องไว้ แล้วนำใบเสร็จไป
ยืนยันเพื่อรับของคืน...หลังจากครั้งนั้น ก็จะไปจดลงทะเบียนไว้ก่อนเดินทางทุกครั้ง

ทางศุลกากรที่เราไปแจ้ง เขาจะบันทึกประเภทของสิ่งของ ยี่ห้อ และ serial number ไว้ในใบร้อง ประทับตรารับรอง
พร้อมลายเซ็น ของเจ้าหน้าที่ผู้ทำบันทึก กับลายเซ็นของเรา เขาจะเก็บ copy ไว้ แล้วแนบใบจริงกับพาสปอร์ตของเรา


ตอบกลับความเห็นที่ 16
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 17
อาหารทะเล เอาไปได้
แสดงว่าหอยเสียบดองก็ได้ใช่มั้ยคะ


ตอบกลับความเห็นที่ 17
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 18
ถ้านำของเข้าออกตามคห 16 ก็ต้องแจ้งกระมังคะ มูลค่าโดยรวมนี่ซื้อรถใหม่ได้เลย(ดีไม่ดีมีเงินเหลืออีก) กรณีนี้หมายถึงอยู่อเมริกาแล้วไปเที่ยวประเทศอื่นใช่ไหมคะ


ตอบกลับความเห็นที่ 18