ปล่อย "โคมลอย" ช่วงเทศกาลขึ้นปีใหม่ ตามอุทยาน มีความจำเป็นแค่ไหน?

เคยไปเหนือ ปีก่อน เห็นสองข้างทาง แถวจอมทอง บ้านถวาย และจุดต่างๆ ทั่ว ชม. ขาย โคมลอย กันอย่างสนุกสนาน

คนต่างถิ่น นักท่องเที่ยว แวะจอดซื้อหา กันเยอะพอควร
และก็เอาไปจุดปล่อยตามที่พักอุทยานต่างๆ

จำเป็นแค่ไหน? มีความปลอดภัยหรือไม่?

มารณรงค์ กันดีไหม....? (ลด ละ เลิก)

ความคิดเห็นที่ 1
ส่วนตัวผมไม่เคยปล่อยนะครับ

แต่ผมก็สนับสนุนความคิดที่ว่า ควรจะ ลด ลงไปบ้าง

แต่คงไม่ถึงกับเลิกหรอกครับ เพราะอาจปล่อยได้ในสถานที่ที่เหมาะสม


ตอบกลับความเห็นที่ 1
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 2
แต่ก่อนการปล่อยโคมลอยจะมีแต่ภาคเหนือเท่านั้นและการปล่อยโคมลยมันก็มีความหมายไม่ใช่ปล่อยกันเล่นๆเหมือนทุกวันนี้ วัฒนธรรมอันดีงามของชาวเหนือกับการปล่อยโคมลอยถูกนำมาปรับเปลี่ยนโดยคนรุ่นใหม่

ทุกวันี้การปล่อยโคมลอยมีอยู่ทั่วทุกพื้นที่ ทุกภาค ผมอยู่อีสานก็มีการปล่อยโคมลอยกัน มีพ่อค้าแม่ค้านำโคมลอยมาขายตามริมถนนบอกว่าโคมลอยของทางเหนือ บรรดานักศึกษาก็ชอบซื้อมาปล่อยกันไม่ว่าจะเป็นงานรับน้อง งานชมรม หรือกิจกรรมอื่นๆก็ชอบปล่อยโคมลอย(ไม่รู้มันจะปล่อยไปทำไม)

จริงๆแล้วตาม อุทยานแห่งชาติต่างๆไม่ควรมีการปล่อยโคมเพราะโคมอาจไปตกกลางป่าทำให้เกิดไฟไหม้ได้ มีตัวอย่างให้เห็นกันมาแล้ว อันนี้ต้องระวังให้ดีๆ


ตอบกลับความเห็นที่ 2
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 3
มันก็แค่เป็นเรื่องของความเชื่อ...แค่นั้นเอง ! พอมีเรื่องของความเชื่อเข้ามา มันก็กลายเป็นประเพณีเกิดขึ้น

ซึ่ง....ความเชื่อ และความหมาย........มันพิสูจน์อะไรๆ แบบแน่ชัดได้มั้ย !

ว่า....ถ้าปล่อยไปแล้ว ชีวิตของคนนั้นๆ จะมีแต่สุขีสโมสร ปราศจากเรื่องร้ายๆ ทั้งปวง

มันเป็นสิ่งที่ทำให้คนปล่อยโคมลอยนั้น..ได้รู้สึกว่า...ได้ทำในสิ่งที่ได้ทำ ก็ถือว่า จบสิ้นของขั้นตอนอย่างหนึ่ง

"ความหมาย" มันเป็นเพียงแค่..ความนึกคิดของคนๆ นั้น....เท่านั้นเองครับ

เพราะบางคนอาจจะคิดประมาณว่า....." ช่วงนี้เซ็งๆ จัง มีแต่เรื่องแย่ๆ เข้ามาบ่อย " หรือ...." อยากจะลืมเรื่องนี้ให้ได้ หรือไม่อยากแบกภาระความรู้สึกแบบแย่ๆ"

งั้น...ไปปล่อยโคมลอยดีกว่า เผื่ออะไรๆ มันจะดีขึ้น !

ผมคิดว่า...การกระทำ หรือความนึกคิดของคนๆ นั้นมากกว่า ที่เค้าทำเรื่องให้กับตัวเอง แล้วอยากจะปล่อยโคม..เพื่ออยากจะให้ตัวเองนั้น..สบายใจ

หรือ....คู่รัก มักอยากจะไปปล่อยโคมลอย อีกคนถือ อีกคนจุดไฟ "โอมเพี้ยง.....4-3-2-1.....ปล่อยเลยจ๊ะ...ที่รัก"

ลอยขึ้นไป ต่างก็แหงนคอขึ้นฟ้า มองไม่ละสายตา ภาคภูมิใจแบบมีความหมาย และความรู้สึกที่ดีๆ ให้กัน และกัน

ผ่านไปเกือบๆ สองปี ! ทะเลาะกันบ้านแตก ลูกไปทาง เมียไปทาง

ถ้างั้น....ก็จงลอยกันต่อไป !

ตอบกลับความเห็นที่ 3
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 4
ไม่จำเป็นครับ อันสองอันให้ดูสวยงามก็พอแล้ว ปล่อยไปเยอะแยะไปตกลงบ้านคนอื่นเค้าเดือดร้อน ถ้าอยากปล่อยนะ ก็ออกกฏมาเลยว่าให้เขียนชื่อคนปล่อยแล้วใส่กล่องเหล็กที่ไม่ติดไฟ ถ้าไปตกลงบ้านใครแล้วไฟใหม้ก็ก็คนนั้นรับปิดชอบไปเลย ฟ้องร้องให้หนักๆและไม่ต้องรอลงอาญาเหมือนบางคดีก็ดีมากครับ

ตอบกลับความเห็นที่ 4
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 5
เคยได้ยินว่าเมื่อก่อนมีวันที่ปล่อยโดยเฉพาะไม่ใช่หรือ แล้วไปปล่อยที่วัด

แต่เดี๋ยวนี้ ทำไมปล่อยพร่ำเพรื่อไปหมดแทบทุกเทศกาล

แฟนเราเคยไปเชียงใหม่ บ่นใหญ่เลยว่าพอเครื่องบินขึ้นหรือแลนดิ้งนี่แหละ จะเห็นโครงลวดของโคมลอยนี่เต็มไปหมด เห็นแล้วหวาดเสียวว่าจะมาพันเข้าห้องเครื่อง


ตอบกลับความเห็นที่ 5
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 6
ผมว่าเลิกไปเลยก็ดีนะ ไม่เห็นจะมีประโยชน์อะไรเลย
แม้แต่ประเพณีลอยกระทงโดยส่วนตัวผมก็ไม่ชอบด้วยซ้ำไป


ตอบกลับความเห็นที่ 6
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 7
ถ้าจะเลิกปล่อยผมว่าไปบอกแม่ค้าให้เลิกขาย บอกผู้ผลิตให้เลิดผลิต แล้วใครจะกล้า..... มันเป็นช่วงเทศกาล บรรยากาศมันให้....นานทีปีครั้ง เงินทองสะพัด .... ปล่อยๆไปเถอะ..


ตอบกลับความเห็นที่ 7
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 8
ไม่มีความจำเป็นใดๆทั้งสิ้น แล้วก็ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง ตามกฏอุทยานเค้าห้ามอยู่แล้ว แต่เจ้าหน้าที่ก็ละเลย คนขายก็ไม่มีจิตสำนึก คนปล่อยก็ไม่เคารพกฏ ที่สำคัญอุทยานบางที่มีสัตวืป่า มีต้นไม้มากมาย คนปล่อยบางคนปล่อยโคมไม่เป็นโคมนั้นอาจหล่นลงมาได้ แล้วใครจะรับผิดชอบ


ตอบกลับความเห็นที่ 8
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 9
ถ้าไม่อยากเลิก ก็ควรมีการจัดระเบียบค่ะ
แต่จากดูตามสไตล์ไทยๆ คงต้องให้ไฟไหม้ใหญ่ เครื่องบินตกกันก่อนคนส่วนใหญ่ถึงเห็นอันตราย


ตอบกลับความเห็นที่ 9
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 10
สมัยก่อนลอยตามความเชื่อ สมัยนี้ลอยตามแฟชั่น

ลอยไปไหม้บ้านคนอื่น ใครจะรับผิดชอบ

ควรออกกฎหมายควบคุมได้แล้ว !

.


ตอบกลับความเห็นที่ 10
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 11
ไม่จำเป็นเลยและไม่สมควรค่ะ น่าจะมีการสื่อสารออกไปให้มากๆว่ามันเป็นแฟชั่นที่ล้าสมัยไปแล้ว มันเชย


ตอบกลับความเห็นที่ 11
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 12
ตอนปีใหม่มีการปล่อยในตัวเมือง เป็นสายเลย
สวยมากกกก ปล่อยที่ไหนก็ไม่สวยแบบเท่าเชียงใหม่ อาจจะเป็นเพราะลม
ที่นี้ไม่เหมือนที่อื่น จริงๆมันก็เป็นประเพณีอะนะ จะเลิกคงไม่ได้
อย่างดีก็ควรจะจัดระเบียบให้ดี อย่างในอุทยานเค้ามีกฎอยู่แล้ว
ว่าห้ามปล่อยโคม
มีอีกเรื่อง เราว่ารบกวนมากกว่าโคม อย่างปีที่แล้ว เราได้ไปนอนที่อ่างขาง
มันอาจจะไม่ใช่อุทยานแห่งชาติ แต่มันเป็นป่าอยู่ดี มีการขายพลุในอ่าง
และมีคนซื้อมาจุด ทั้งคืน ย้ำอีกรอบ ทั้งคืน จุดเสียงดังยังงั้นทั้งคืน
ทำเราเซงอ่างขางอย่างแรง ทำไมคนขายทำยังงี้ แล้วทำไมคนซื้อทำยังงี้
สัตว์ป่าเค้าตกใจแย่เลยอยู่ดีๆเสียงไรก็ไม่รู้ดังทั้งคืน อยากให้มีจิตสำนึกกันนิดนึง

ตอบกลับความเห็นที่ 12
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 13
เราเป็นคนที่ได้รับความเดือนร้อนจากการปล่อยโคมลอยที่ไม่ได้เป็นไปตามเทศกาลหรือประเพณีค่ะ
สามีทำไร่อ้อย แล้วเจอโคมลอยมาตกที่ไร่
ไฟไหม้สิคะท่านผู้ชม
ดีที่ชาวบ้านเค้าจะคอยระวังไร่เค้าอยู่แล้ว เจอไฟลุกเลยมาช่วยกันดับไฟ เพราะถ้าไม่ดับมันก็จะลามไปไร่เค้าด้วย
แม่เจ้า ถ้ามันมาลงไร่ที่ไม่ได้อยู่ใกล้บ้านคนจะเป็นไงกันละเนี่ย
แล้วอ้อยเนี่ย ถ้าไม่ใช่ช่วงเวลาที่โรงงานเปิดหีบ ก็ไม่มีที่ไหนจะเอาไปขายได้
ที่ลงทุนลงแรงกันมาเกือบปีก็สูญเปล่า

ช่วงเดือนที่แล้วและเดือนนี้ แล้งมาก อากาศแห้ง อ้อยก็โตเต็มที่ จะเริ่มตัดอ้อยเข้าโรงงานกลาง พย นี้ค่ะ
เดือนกันยาที่ผ่านมา มีวัยรุ่น มาพักรีสอร์ทไกล้กับไร่เรา แล้วปล่อยโคมลอยกัน จะปล่อยหาอะไรหรือปล่อยทำอะไรกันไม่ทราบได้
แต่พื้นที่ที่เราอยู่ ไม่มีธรรมเนียม เทศกาลหรือประเพณีที่ต้องปล่อยโคมเลย
แล้วจะมาปล่อยกันทำไม สุดท้าย โคมที่เอามาปล่อย คงไม่มีคุณภาพ หรือเราดวงตกก็ไม่รู้มันถึงได้ลอยไปไม่ไกลแล้วมาแหมะลงไร่เรา ลงมาทั้งๆที่ยังมีไฟติดอยู่น่ะ

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เราเจอว่าโคมสร้างปัญหา
หลายปีก่อน เราทำงานที่ระยอง ลูกน้องที่ทำงานเราก็เจอเรือไดหมึกไฟไหม้เพราะโคมลอยที่มีคนปล่อยริมทะเล
อะไรมันจะแม่นขนาดน้านนนน ทะเลกว้างใหญ่ แต่ดคมดั้นมาตกบนเรือ เจอน้ำมันไฟลุกท่วม
ฟังแล้วกลุ้ม
คนปล่อย ปล่อยความซวยของตัว ปล่อยเพื่อถ่ายรูป ปล่อยเพื่อเป็นกิจกรรมไว้อับเฟส
แต่สร้างความหายนะให้คนอื่น
ประเพณีรึก็ไม่ใช่ นี่มันอะไรก๊านนนนนน


ตอบกลับความเห็นที่ 13
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 14
สมัยเป็นเด็ก มี "ความเชื่อ" ว่า ปล่อยที่วัด ในวันสำคัญทางศาสนา วันใดวันหนึ่ง เพื่อให้ผู้ปล่อย ได้ปล่อยเคราะห์ ปล่อยโศก แต่เดี๋ยวนี้ ไม่รู้เป็นอะไรกันแล้ว โดยเฉพาะพวกวัยรุ่น ปล่อยเป็นแฟชั่น ไปซะงั้น

ลองไปเชียงใหม่สิ แหม่ บางสถานที่นี่ ปล่อยเป็นประเพณีไปซะงั้น


ตอบกลับความเห็นที่ 14
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 15
สงสัยจะเคราะห์มากครับเลยปล่อยบ่อย


ตอบกลับความเห็นที่ 15
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 16
ถ้าเลิกได้ก็ดีครับหรือไม่ก็เอาเชือกผูกไว้ไม่ให้ลอยไปที่อื่น อันตรายกับเครื่องบินด้วย


ตอบกลับความเห็นที่ 16
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 17
ไฟไหม้บ้านเรือนและไฟดับทั้งเมืองก็ว่าน่ากลัวแล้วนะคะ
แต่ถ้าหากโคมลอยไปติดใบพัดเครื่องบินละก็โศกนาฏกรรมแน่นอน ..
แค่นกตัวเล็กๆบินเข้าไปยังทำให้เครื่่องตกตายกันมามากมายแล้วหลายครั้ง ตามข่าวในต่างประเทศ

อันตรายมากเลยค่ะ ..เลิกลอยกันเถอะค่ะ

สวย.. แต่อันตราย ไม่คุ้มเลยจริงๆ >__<"


ตอบกลับความเห็นที่ 17