วีรกรรมสุดแสบ สุดฮาในต่างแดน

เชื่อว่าตามประสาวัยรุ่น คึกคะนองมันต้องมีกันบ้าง ตั้งแต่วัยรุ่นตอนต้น วัยรุ่นตอนปลาย จนย่างเข้าวัยมีครอบครัว
อย่างชีวิตตอนเรียนมหาวิทยาลัยที่ไทยเห็นเพื่อนหลายๆ คนเซี้ยวๆ กันทั้งนั้น รู้ว่าไม่ดีก็ยังทำ รู้ว่าไม่ควรทำก็ยังทำ

ยกตัวอย่างอย่างของตัวเองเคยสุดๆ ก็เมาหลับในห้องน้ำสาธารณะ จนเพื่อนต้องพังประตูเข้าไปเอาออกมา
ใครบอกว่าเมาแล้วขาดสติ แค่เราว่าเราเมาแล้วรู้เรื่องนะ แค่ไม่มีแรงโต้ตอบหรือลุกไปไหนเองได้

ขำสุดๆ เพื่อนสาวบอกว่ามันอายมากกกก ตะโกนเรียกเท่าไรก็ไม่ยอมออกมา บอกแต่แปบนึงๆ จนมันรอไม่ไหว
ต้องพังประตูห้องน้ำลากอีนี่ออกมาจากห้องน้ำ คนก็มองเต็ม
พอกลับห้องเพื่อนสาวแสนดีถอดกางเกงยีนเปลี่ยนให้อีก พร้อมเอากะละมังเล็กๆ วางไว้ข้างเตียง กันอ้วกแตกใส่ห้อง

แต่พอตื่นขึ้นมานังเพื่อนตัวดียังทำเป็นทองไม่รู้ร้อน บอกกรูไม่รู้กรูจำไม่ได้ กรูไม่อาย มึนใส่มันไป
(ไม่สำนึกในพระคุณคุณเธอเลย) 5555

ความคิดเห็นที่ 1
เพื่อนคนไทย อยู่flat เดียวกับเรา สนิทกันตั้งแต่เมืองไทย
ไปเรียนพร้อมกัน แฟนก็ไปเรียนด้วยแต่อยู่คนละบ้านนะคะ
ไปเดินช็อปปิ้ง oxford street กันเป็นกลุ่ม สองคนนี้ก็ไปด้วย
อยู่ ๆ ทะเลาะอะไรกันขึ้นมาก็ไม่รู้ ฝ่ายหญิงงอน ฝ่ายชายก็เป็นพวกชอบง้อแบบกวน ยิ่งงอนยิ่งพยายามแกล้ง

ฝ่ายหญิงรำคาญถึงจุด ไม่เตือนอะไรเพื่อนเลย อยู่ ๆ ก็กรี๊ดขึ้นมา ตะโกน HELP คนโรคจิต ช่วยด้วย (ฝรั่งมันจะฟังภาษาไทยออกมั้ย -_-" มันบอกตอนนั้นนึกภาษาอังกฤษไม่ออก) เสียงดังมาก คนหันมามองเยอะมาก นึกภาพ oxford street ตอนห้าโมงเย็น ได้ผลชะงัด ฝ่ายชายถอยกรูดและเดินห่าง ๆ ไม่กล้าไปตอแยอีกพักนึงเลย

ดีนะไม่มีตำรวจอยู่แถวนั้น หรือมีพลเมืองดีวิ่งมาช่วยจริง ๆ

เรื่องวีรกรรมตัวเองไม่ค่อยมี เป็นพวกชอบทำตามกฎ อย่างเดียวที่ไม่ทำตามคือ ข้ามถนนตอนสัญญาณไฟยังแดงแต่ไม่มีรถนี่ล่ะ ชอบนัก ไม่ชอบเสียเวลา


ตอบกลับความเห็นที่ 1
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 2
สุดแสบไม่ค่อยมีนะคะ มีแต่สุดฮา

เรื่องเกิดตอนเราWT หลายปีแล้วค่ะ วันนั้นเป็นวันพักผ่อนพวเราเลยนั่งเล่นที่ส่วนกลางของบ้านพัก มีแต่เพื่อนคนไทยทั้งนั้นเลยค่ะ เราก็เออ! นั่งว่างๆ กินป๊อบคอร์นกันไหม พอเสียงตอบรับจากเพื่อนๆ ดี เราลุกไปอบป๊อบคอร์นเลยค่ะ

เราอ่านข้างถุงอย่างดีเขาเขียนให้อบ 2-4 minute เราก็ตอนอยู่บ้านอีกหลัง(เราย้ายที่พัก) เรากด 2 min มันสุกไม่หมด คราวนี้เราก็กดเลยค่ะ 4 min แล้วก็ไปนั่งคุยกะเพื่อนที่หน้าทีวี ผ่านไปสักพักได้ยินเสียงป๊อบดังระรัวมาก เพื่อนเราก็บอกว่า
"แกมันสุกแล้วป่าว"
เราหันไปมองที่ไมโครเวฟ แล้วบอกด้วยความมั่นใจว่า
"ยังอ่ะ ยังเหลือตั้งนาทีกว่า ขอแบบสุกๆ นะ เสียดายถ้ามันเหลือ"
ผ่านไปเกือบนาที คราวนี้พี่คนที่เขาไปหยิบน้ำมาดื่มตะโกนเสียงเราลั่นเลยค่ะ
"น้อง...น้อง...มันไหม้อ่ะ มันไหม้" เรากับเพื่อนวิ่งไปทันเห็นไฟกำลังลุกในไมโครเวฟ เราก็เฮ้ยยยย!!!~ ทำไงดีว่ะ แต่ไม่ทันแล้วค่ะ ควันลอยออกจากไมโครเวฟฟุ้งเต็มห้องไปหมด หนาขนาดมองไม่เห็นเพื่อนที่ยืนอยู่ใกล้ๆ

ผ่านไปประมาณไม่ถึงนาทีจากกรณีควันฟุ้งเต็มบ้าน เสียงรถดับเพลิงก็ดังลั่น แล่นมาจอดหน้าบ้านด้วยความรวดเร็ว เจ้าของบ้านก็วิ่งมาพร้อมพนักงานดับเพลิง เพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้น พอรู้ว่าอบป๊อบคอร์นไหม้แค่นั้นแหละค่ะ เขาก็บอกเราว่า ป๊อบคอร์นน่ะ 2 min. ก็พอ แต่เราก็เถียงน่ะ (ตอนนั้นอายุยังไม่แตะเลข 2 เลย ดื้อด้วย) ชี้ให้ดูว่าข้างถุงเขียน 4 นะ เราเคยอบ 4แล้วด้วย

เจ้าของบ้านเลยชี้ความแรงของวัตต์เครื่องให้ดูแล้วบอกว่า "เชื่อสิ อบ 2 min.เถอะ อย่าให้พนักงานเขานั่งรถมาฟรีๆ เลย" พูดจบเขาก็เดินกลับบ้านพักเขาค่ะ (เขาไม่ดุนะคะ ใจดีมาก) พวกเราเลยเก็บกู้ซากป๊อบคอร์นเหลือแต่ถุงเปล่าๆ เพราะตัวป๊อบคอร์น ไหม้ไปหมดแล้ว เหลือเพียงตอตะโกดำๆ

เราเลยลงไปข้างล่าง เพื่อส่งพนักงานดับเพลิง โอ้โห!! รถดับเพลิง 1 คัน แต่ฝรั่งมุงเยอะเลย (ทั้งที่เราอยู่บ้านนอกนะนั่น) แถมพอทุกคนรู้ว่าเกิดอะไรก็หัวเราะกันเกรียวกราว ตอนนั้นแหละ หายใจตกแล้วอายมาก ที่สำคัญเพื่อนคนไทยที่อยู่บ้านอีกหลังวิ่งมาดูทุกคน (สิบกว่าคน)

บอกได้คำเดียวว่า อายสุดๆ ฮ่าฮ่าฮ่า

ตอบกลับความเห็นที่ 2
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 3
เคยทำไว้เยอะสมัยอยู่เมกาค่ะ เด็ดๆก็เรื่องรถไฟ ตอนนั้นอยู่เมืองห่าง LA ออกมาหน่อย ต้องนั่งรถไฟประมาณ 2 ชม. ซึ่งรถไฟนี่ก็จะมา ทุก 2 ชม.ด้วยค่ะ ประเด็นคือ ตอนนั้นเพิ่งเคยขึ้นครั้งแรก ซื้อตั๋วยังไม่เป็น แล้วคนก่อนหน้าเป็นคนแก่ กดผิดกดถูกอยู่นั่นล่ะ เราจะช่วยก็ไม่กล้า แกไม่ยอม มันมีตู้เดียว แถมเราก็ไม่เคยซื้อด้วย

คุณลุงกดนานซะจนรถไฟจะมา เห็นรถไฟมาไกลๆละ งานเข้าค่ะ ซื้อไม่ทันต้องรออีก 2 ชม. ไปกะเพื่อน 4 คน เราก็ไม่รู้ว่ากดตั๋วที่เดียว 4 ใบได้ (โง่ได้อีก) คนแรกซื้อไปก่อน วิ่งไปรอรถไฟเทียบละ แต่เรากะเพื่อนยังไม่ได้ตั๋ว เพื่อนมันไม่รู้จะทำไง มันแกล้งเอากระเป๋าให้ประตูหนีบค่ะ รถไฟเลยออกไม่ได้ จนคนตรวจเดินมา เพื่อนเราโดนด่า แต่เราก็เนียนๆ ทำเป็นไม่รู้จักมัน วิ่งตื๋อไปขอเค้าขึ้น (เค้าคงรู้ล่ะว่ามันตั้งใจทำ)

คนมองกันทั้งโบกี้ อายก็อาย รู้สึกว่าเพื่อนเราโคดแสบเลยอ่ะ

ปล.หลังจากนั้นเพิ่งค้นพบว่า ตัวเองซื้อตั๋วผิดเป็นตั๋วเด็ก ถึงว่า ทำไมมันถูกๆ 555+ ดีนะเค้าไม่มาตรวจ แย่จริงๆเรา


ตอบกลับความเห็นที่ 3
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 4
อีกเรื่องก็ที่เมกาเหมือนกัน ตอนนั้นขับรถจาก San Francisco เข้า LA ก็ไกลอยู่นะคะ แล้วมันก็ดึกมากละ ตีหนึ่งกว่า อยากถึง โรงแรมเร็วๆ เหนื่อยมาก ก็เอาวะ เหยียบเลย เกิน 90 ไมล์/ชม.

เหยียบได้ไม่ถึงนาที มาแล้วค่ะ วี้ หว่อ วี้ หว่อ ด้านหลัง ไฟแวบมาเลย กรี๊ดดด ยังกะในหนัง ไม่เคยคิดชีวิตจะโดนตำรวจไล่ที่เมืองนอก ตื่นเต้น ทำไรไม่ถูก แต่รีบจอด

เพื่อนเตือนมาว่าถ้าโดนเรียกให้รีบจอด หยิบเอกสารทุกอย่างเตรียมไว้ก่อนเค้าเดินมา แต่ๆๆๆ รถยืมน้องมาค่ะ ไม่รู้มันคืออันไหนบ้าง หาไม่เจอ ตำรวจมาถึงก่อน อารมณ์นั้น ไม่รู้ทำไง แกล้งโง่ค่ะ ทำเป็นพูดอังกฤษไม่ค่อยได้

แบบแทนคำมั่วไปหมด she ใช้ me แทน ตอบเค้าได้ แต่ตอบช้าหน่อย เค้าถามว่ามากี่วัน อะไร ยังไง นี่รถใคร ดู passport กะใบขับขี่ เราก็ยื่นให้เค้าแบบโง่มากๆ ตื่นเต้น ทำไรไม่ถูก (จริงๆรู้เรื่องหมดนะคะ แต่แกล้งโง่อยู่) โดนด่าไปหลายทีอยู่เหมือนกัน 555+

สักพักตำรวจถอนหายใจ ท่าทางจับมันไปโรงพักคงต้องลำบากหาล่าม จะให้ Ticket ก็ไม่รู้มันจะเข้าใจมั้ย เลยปล่อยเราค่ะ ดีใจที่สุดใน 3 โลก แต่โดนย้ำอยู่เป็น 10 รอบว่าถ้าขับเร็วอีก จะต้องเข้าคุก (เค้ากลัวเราไม่เข้าใจเค้าพูด)

คุณตำรวจคะ ขอบคุณค่ะที่ปล่อยหนู ถ้าเค้ารู้ว่าเราแกล้งพูดไม่ได้ เค้าคงโกรธเราน่าดูเลย


ตอบกลับความเห็นที่ 4
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 5
ไปเที่ยวหอเอนปิซ่ากะพี่สาว มันจะมีสนามหญ้ากว้างๆ เหมาะแก่กาารถ่ายรูปนัก เค้าก้อล้อมรั้วมีป้ายห้ามเข้านะ แต่พวกเราก้อทำตัวติ่ง ข้ามไปถ่ายรูป(เหมือนพวกนักท่องเที่ยวเกรียนอื่นอีกประปราย)
กะลังจะแชะรูป ตำรวจก้อมาเป่านกหวีดดังไล่กราด หนีกันแทบไม่ทัน แอบอายเล็กน้อย แต่พอตำรวจไป เราก้อเห็นคนอื่น เข้าไปถ่ายอิก แถมโดนไล่ออกมาอีก นักท่องเที่ยวเกรียนกันมาก


ตอบกลับความเห็นที่ 5