คนไทยฟ้องหย่าสามีอเมริกันที่นอกใจยังไงคะ

ง่ายๆเลยนะคะ คนรู้จักแต่งงานกับผู้ชายอเมริกามา 2 ปีได้ใบเขียวแล้วสามีนอกใจ ไปมีผู้หญิงใหม่แล้วจะขอหย่า มีทนายคนไทยในซานฟรานแนะนำไม๊คะ

ถ้าจะเอาให้ยาวทนอ่านกันนิดนะคะ

คือพี่คนนี้เป็นคนต่างจังหวัดที่มาทำงานเป็น au pair อยู่กี่ปีไม่รู้จำไม่ได้แล้ว ตอนแรกอยู่ที่แถวๆ Silicon Valley เมือง Mountain View ระหว่างเลี้ยงเด็กอยู่ด้วยความที่เป็นสเปกฝรั่งก็คบผู้ชายหลายคน เคยจะแต่งงานด้วยคนนึงแต่นายคนนั้นกลับมีเรื่องฟ้องร้องลูกติดอยู่ในศาลนางเลยชิ่ง ไปเจอคนใหม่ที่นางเล่าให้ฟังว่าเจอกันไม่นานก็บอกเค้าไปตรงๆว่าวีซ่านางขาด นางอยากแต่งงานเพื่อให้ได้อยู่อย่างถูกกฏหมาย

ปรากฏว่านางโชคดีผู้ชายยอมแต่งด้วย ตอนนั้นผู้ชายอายุ 26 เองมั้ง นางแก่กว่าสองปี ตอนนั้นผู้ชายยังเรียนปีสุดท้ายอยู่ที่ SJSU อยู่เลย พอเรียนจบก็พากันย้ายเข้ามาอยู่ในเมืองซานฟรานเพราะนางน่าจะมีโอกาสทำงานร้านอาหารไทยได้มากกว่า และผู้ชายก็ได้ทุนเรียนด้านกฏหมายจากมหาลัยไฮโซ USF บางส่วน

อ่อ ตอนยื่นขอกรีนการ์ดนางใช้แม่ของสามีเป็นสปอนเซอร์เพราะสามียังไม่มีรายได้ แม่สามีนางก็ดี๊ดีไม่ต้องทำงานแต่ได้เงินเลี้ยงดูทั้งจากสามีเก่าและใหม่

จขกท. ได้รู้จักนางตอนช่วงนี้ โดยส่วนตัวชอบถามชอบคุยแต่ไม่ชอบการกระทำของนางเพราะเป็นการทำให้ผู้หญิงไทยโดนดูถูก anyway คู่นี้แรกๆก็ดูเหมือนข้าวใหม่ปลามัน ฝ่ายหญิงก็ทำหน้าที่แม่บ้านไทยอย่างเต็มที่ทำอาหาร เก็บกวาด ซักผ้าให้ แล้วก็ทำงานร้านอาหารรับเงินสด ให้ผู้ชายเรียนอย่างเดียว

แต่ที่เห็นๆคือผู้ชายยังมีวุฒิภาวะไม่พอ ยังไม่รู้จักโต ยังต้องขอเงินแม่ใช้บ้าง แล้วที่สำคัญ (โรคจิตนิดๆ) คือฮีชอบสาวเวียดนามมาก เพราะเคยไปทำงานเวียดนามมาก่อน

ปรากฏว่าไปเรียนหนังสือก็ไปเจอสาวเวียดเข้าให้ ก็มีเรื่องระหองระแหงมาเป็นระยะ พี่ไทยเราก็อดทนอดกลั้นคิดว่าเดี๋ยวฮีเรียนจบอนาคตจะดีกว่านี้ และจุดมุ่งหมายของนางคือนางจะต้องต่อกรีนการ์ดในปีนี้ด้วย เวลาทะเลาะกันทีบ้านก็โทรหาคนนู้นคนนี้ทีว่าจะทำยังไง ไทยก็ไม่อยากกลับ หย่าเลยก็ไม่ได้เดี๋ยวไม่ได้ต่อใบเขียว

คราวนี้ผู้ชายเพิ่งไปได้ internship ที่เวียดนามหนึ่งเดือน จขกท.กลับไทยพอดีไม่ได้ติดตามข่าว กลับมาไม่นาน เช้านี้นางโทรมาบอกว่าฮีขอเลิกเด็ดขาดเพราะตอนไปเวียดนามมีผู้หญิงใหม่มาตลอด โดยนางขอให้ขับรถพาไปส่งหาแฟนเก่าที่ Mountain View เพราะฮีรู้เรื่องกฏหมายเยอะ (แหงล่ะ โดนฟ้องไว้แยะนิ่) ดิฉันอยากช่วยแต่ขี้เกียจตื่นเลยบอกไปว่าตอนเที่ยงได้ไม๊ นางเลยต่อรองขอให้ไปส่งแต่ที่ Caltrain (สถานีรถไฟ) ฉันง่วงเลยบอกให้ขึ้นรถเมล์ไปเอง

พอตื่นมาตั้งสติได้ ตอนนี้รู้สึกผิดนิดหน่อยที่ปฏิเสธนางไป ตอนนี้เลยอยากช่วยถามหาความเห็นและทนายที่เก่งเรื่องนี้เพื่อดูว่านางมีโอกาสอะไรบ้าง อย่างที่บอกตอนแรกก็ไม่แปลกใจเลยที่ผลลัพธ์มันจะเป็นอย่างนี้ในเมื่อแต่งงานโดยที่ไม่ได้รักกันจริง แต่เห็นความตั้งใจของนางที่อดทนทำงานเอาไปจ่ายค่าบ้านอยู่คนเดียวก็ละเหี่ยใจ (เล่นอยู่อพาร์ตเมนท์เดือนละตั้งพันหกแต่ตัวเองทำงานงกๆเป็น wait รับเงินสด).

ความคิดเห็นที่ 1
อุตส่าห์นั่งหาอ่านมาทั้งคืน เอาตามนี้เลยรึเปล่าคะ? อ่านแล้วงงนิดหน่อย ว่าทำไมต้องถอนถอดเงื่อนไข หลังจากนั้นทำไงต่อคะ?

http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=lawanwadee&month=08-2007&date=01&group=3&gblog=3


ตอบกลับความเห็นที่ 1
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 2
จขกท เขียนเล่าเรื่องได้แซ่บเว่อ ๆๆๆๆๆ5555


ตอบกลับความเห็นที่ 2
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 3
พิโธ่ พิถัง นางคนนี้ช่างโชคร้ายจริงๆ ที่มีเพื่อนเยี่ยงนี้
ถ้านางรู้ว่าคนที่นางไว้ใจอุ"ส่าโทรไปปรึกษาขอความช่วยเหลือ
เเต่เธอคนนั้นกับเอาเรื่องราวของนางมาเล่าอย่างเเซ่บเว่อร์ขำขำ
บนเวปนี้ นางจะดีใจหรือเสียใจนะ อยากรู้จัง ??????เพราะยังไม่รู้เลยว่า
ที่ จขกท.มาตั้งกระทู้นี้ขึ้นเพราะต้องการจะช่วยเหลือนางหรือซ้ำเติมนางกันเเน่

มีคนเคยกล่าวไว้ว่า ไม่มีมิตรเเท้ เเละศัตรูที่ถาวรกับคนไทยในต่างเเดน
เห็นกระทู้นี้เเล้ว เชื่อจังฮู้...


ตอบกลับความเห็นที่ 3
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 4
ตอบคุณความเห็นที่ 3

จขกท.ไม่ได้บอกว่าเป็นเพื่อนกับนางเลยซักนิด เพราะบอกแล้วว่าส่วนตัวไม่ชอบการกระทำของผู้หญิงไทยที่มักง่าย ทำให้ผู้หญิงไทยคนอื่นถูก generalize ไปว่าเป็นพวกหาสามีฝรั่งเพราะอยากได้กรีนการ์ด

นางโทรมาพูดประโยคแรกเลยว่าไปส่งที่นั่นที่นี่หน่อยได้ไม๊ จขกท.ยังไม่รู้เลยตอนแรกว่านางเป็นใคร ถ้าจะซ้ำเติมฉันจะมานั่งหาทนาย พิมพ์เรื่องนี้ทั้งเรื่องขอความช่วยเหลือทำไม เสียเวลา


ตอบกลับความเห็นที่ 4
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 5
ไม่มีความรู้เรื่องทนายเลย
แต่เข้ามาอ่าน จขกท เขียนเล่าเรื่องเก่ง อ่านมันส์ดีค่ะ

นี่ล่ะหนา คบ ผช ที่ค่อนข้างเจ้าชู้และไม่ได้รักกันด้วยใจจริงๆปัญหามันเลยเยอะจนแก้ไม่ตกมีแต่จะลามไปเรื่อยอย่างที่เห็น
นางเองก็คงชอกช้ำไม่น้อยนะคะแต่ก็ทำตัวเองทั้งนั้น แต่นับถือนางสู้เหมือนกันนะ
แต่อาจจะสติเตลิดเปิดเปิงไปหน่อย เลยทำมให้ชีวิตต้องมาเป้นแบบนี้
เพื่อใบเขียวจริงๆ


แต่ค่าเช่าแพงมาก เหมือนจ่ายค่าผ่อนบ้านได้เลยนะคะ
ไม่รู้จะแนะนำยังไง ขอให้มีทนายดีๆและมีทางออกให้เธอคนนั้นก็แล้วกันคะ


ตอบกลับความเห็นที่ 5
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 6
ก็บอกนางให้ไปที่ City Hall ของ San Fran แล้วฟอ้งหย่า แค่นั้นเอง
หากว่านางอยากจะได้ทรัพย์สมบัติ ก็ต้องไปหาทนายช่วยตบกันสักพักหนึ่ง

แก้แค้นแบบง่ายๆ ให้นางหาทางหลับนอนกับผััวเก่าอีกครั้ง แล้วก็ตัดน้องชายมันออกไป แล้วส่งไปอยู่ แถวๆ Castro

ชายส่วนมากที่ชอบหญิงหรือหนุ่ม Asian จะมีจิตไม่ปรกติเช่นที่ จขกท ว่าไว้คนเหล่านี้จะสูสีไปกับพวก Asian เท่านั้น และส่วนมากจะไม่ค่อยชอบคบกับคนผิวเดียวกับตน ''ที่อาจจะคิดว่าตนเองต่ำต้อย" ไม่สามารถเข้าไปอยู่กับ race ของตนเอง ต้องขอไปเข้ากลุ่ม Asian เท่านั้น


ตอบกลับความเห็นที่ 6
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 7
Q. How do I get divorced?

A. Divorce matters are handled by the Superior Court. For more information, visit their website at www.sfgov.org/courts. The Court's customer service number is (415) 551-3802. They do not have e-mail access. However, you may mail correspondence to: Superior Court, 400 McAllister Street, San Francisco, CA 94102 .


ตอบกลับความเห็นที่ 7
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 8
แหะ แหะ เพิ่งจะอ่านละเอียด เกี่ยวกับเรื่อง Green Card ดังนั้นก็อย่าไปยอมหย่าจากเขาเท่านั้นเอง

ให้นางเก็บหลักฐานให้ดีๆ ว่าไม่ใช่เป็นคนผิด แต่เขาไปหาอีคัวใหม่นั้น แปลว่าเขาผิด


ตอบกลับความเห็นที่ 8
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 9
ไม่รู้ ไม่ได้อ่าน แต่ตอบตามคำถามที่หัวกระทู้ว่า California เป็นรัฐที่ใช้
No-fault divorce law คือฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งอยากจะหย่าก็แค่ให้เหตุผล
ว่าเข้ากันไม่ได้ เรื่องใครผิดใครถูกไม่มีผลอะไรในการ file


ตอบกลับความเห็นที่ 9
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 10
อ่านแล้วเพลีย


ตอบกลับความเห็นที่ 10
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 11
คุณบอกว่าไม่ใช่เพื่อน ถ้างั้นก็อย่าไป เผือก เรื่องของเขาเลย ปล่อยให้นางจัดการเองแล้วกัน และคุณก็บอกไม่ชอบการกระทำของนาง


ตอบกลับความเห็นที่ 11
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 12
จขกท ไม่ได้เสสือกนี่คะ นางโทรมาหา จขกท ไม่ใช่เหรอ

เราว่า จริงๆ จขกท สงสารนางนะ ๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕


ตอบกลับความเห็นที่ 12
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 13
เอ่อ..เเล้วตกลงนางกับ จขกท.เป็นอะไรกันเหรอ?


ตอบกลับความเห็นที่ 13
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 14
ตอบนะคะ

คุณ MajestyLove ค่าเช่าหนึ่งห้องนอนกลางซานฟรานก็ประมาณนี้แหละค่ะ แพงกว่านี้ก็มีแต่ถูกกว่านี้คงต้องออกไปไกลๆและอยู่ท่ามกลางหมอกตลอดเวลาน่ะค่ะ จริงอยู่ใกล้เคียงกับค่าผ่อนบ้านแต่บ้านในซานฟรานก็แพงอีกมากๆๆๆ แถมยังต้องมีเงินก้อนไปวางดาวน์ 20 เปอร์เซ็นต์อีก

คุณ hollywop ขอบคุณมากนะคะที่ช่วยเหลือตั้งหลายความเห็น (แม้จะดูโหดไปนิด ฮิๆ) อ่านคอมเมนท์คุณแล้วรู้สึกว่าคุณอินมาก ฮ่ะๆๆ สรุปแล้วนางจะรอจนถึงเดือนกุมภาพันธ์นี้เพื่อต่อกรีนการ์ดแล้วค่อยหย่าค่ะ ระหว่างนั้นคงแยกกันอยู่ไปก่อน

ความเห็นอื่นๆ.. จขกท.ทำงานกับเจ้านายเก่าของนางค่ะ ไม่ได้:-) เป็นคนชอบช่วยเหลือคนไทยที่มาซานฟรานใหม่ๆเท่าที่ช่วยได้ ถ้าดูท่าไม่ดีก็จะถอยห่างเพราะไม่อยากเกี่ยวข้องด้วย แต่นี่นางรุกโทรมาขอความช่วยเหลือตลอด เท่าที่คุยกับเจ้านายของนางเค้ายังบอกเลยว่า นี่นางเห็นเธอเป็น on call taxi หรือไงถึงจะให้ไปส่งที่นั่นที่นี่

มาคิดดู ก็จริงแฮะ คนมีรถก็อย่างนี้แหละ โดนขอความช่วยเหลือเรื่องนี้ตลอดเวลา มากน้อยแค่ไหนขึ้นอยู่กับความหนาบางของคนขอ ความจริงแล้วใครอยู่ซานฟรานจะรู้ว่าระบบคมนาคมของที่นี่ดีมาก ไม่ต้องมีรถก็อยู่ได้สบายๆ


ตอบกลับความเห็นที่ 14