สอบถามเกี่ยวกับการส่งเฟอร์นิเจอร์เข้ามาในไทยครับ

มีลูกค้าเป็นคนญี่ปุ่น ทำงาน unicef nigeria ซื้อคอนโดในไทยไว้ครับ

เขาเก็บเฟอร์นิเจอร์ทั้งหมดไว้ต่างประเทศ ทราบมาว่าถ้าขนเข้ามาเลย จะเสียค่าภาษี ประมานว่าเหมือนคนเอาเฟอร์นิเจอร์เข้าประเทศไทยมาขาย

จะมีทางไหน ให้เสียเงินน้อยที่สุด สะดวกที่สุดไหมครับ

คอนโดนที่ซื้อ 109 ตารางเมตร ใหญ่พอที่จะฟิตเฟอร์ทั้งหมดที่ขนมาครับ คือขนมาใส่ห้องจริงๆนั่นแหละ

ตอนนี้คอนโดยังไม่โอน หรือต้องรอโอนก่อนแล้วใช้หลักฐานเพิ่มเติมมาช่วยตรงนี้

จะติดต่อสอบถามทางไหนดีครับผม

----

อีกข้อนึงครับ คือตอนนี้เขาทำอยู่ ไนจีเรีย ทำให้เข้ามาในไทยได้จำกัดเวลา จะมีทางที่อยู่ไทยได้นานขึ้นไหมครับ ถ้าไม่ได้ทำงานในไทยเลย ถ้าซื้ออสังหาในไทยอ่ะครับผม

ขอบคุนทุกคำตอบครับ

ความคิดเห็นที่ 1
เห็นคำว่าไนจีเรียก็ได้กลิ่นตุ่ยๆ มาแล้ว ก่อนอื่นเพื่อที่จะได้ไม่เสียเวลาและถูกหลอกหมดตัว คุณควรจะตรวจสอบก่อนว่าลูกค้าของคุณ เป็นคนญี่ปุ่นจริง และทำงาน Unicef จริง

ปกติเจ้าหน้าที่ขององค์กรเหล่านี้สามารถจะขนของไปเวลาย้ายสถานที่ประจำการได้ โดยได้รับการยกเว้นภาษีขาเข้า แต่ถ้าไม่ได้ทำงานในประเทศนั้นๆ ก็จะต้องเสียภาษีเหมือนการนำเข้าสินค้ามือหนึ่งหรือมือสองทั่วไป แล้วแต่กรณี

ปกติเจ้าหน้าที่ที่ต้องโยกย้ายที่ทำงานบ่อยๆ เขามักจะไม่สะสมข้าวของมากเพราะเป็นภาระ ย้ายไปไหนก็อยู่ furnished apartment หรือ serviced apartment กรณีนี้เลยน่าสงสัยว่าเป็นเจ้าหน้าที่องค์กรจริงหรือเปล่า ถ้ามีชื่อนามสกุลส่งมาก็ได้นะคะ จะเช็คให้........... ถ้าอีเมล์เขาลงท้ายว่า @ unicef.org ละก็ของจริงค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 1
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 2
เขียนเมลล์มายาวๆ อ่านงงๆ

เมลล์ไม่ใช่ @ unicef.org

เป็นไนจีเรียนเล่นอยู่ร้านเน็ทแน่นอน


ตอบกลับความเห็นที่ 2
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 3
คือยังงี้ครับ ลูกค้าคนนี้ซื้อคอนโดกับผมไป (ผมเป็นเซลล์) passport เป็น Japanese

ทำงาน unicef เมล์ที่คุยติดต่อกัน คือ @unicef.org

เขาแค่ปรึกษาว่าทำอย่างไรดี ขอคำแนะนำธรรมดา ไม่ได้ให้ผม action อะไรให้ครับผม เพราะงั้นเขาคงไม่น่าจะหลอกผมได้

เขายังไม่ได้ย้ายมาทำงานในไทยตอนคอนโดเสร็จ แต่จะย้ายมาในอีกไม่กี่ปี แต่ต้องย้ายเฟอร์เข้ามาแล้วเพราะเสียค่าโกดังเก็บของ

ขอบคุณที่เป็นห่วงครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 3
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 4
คุณ จขกท. เรารู้วิธีสองทางที่เขาจะเอาเฟอร์นิเจอร์เข้าไทยได้แบบของใช้แล้ว หรือของใช้ส่วนตัว คือ

1. เขาต้องรู้จักพวก Expat ที่กำลังจะย้ายบ้านจากเมืองที่คนญี่ปุ่นคนนี้เก็บเฟอร์นิเจอร์เอาไว้
แล้ว Expat นั้นๆ กำลังจะย้ายมาเมืองไทย ปกติพวก Expat ถ้ามีครอบครัว หรือพวก จนท. UN
ที่มีครอบครัว เวลาเขาย้ายเบสย้ายประเทศกันทีนึง เขาย้ายกันทั้งบ้านค่ะ หลายๆ ครอบครัว
มีข้าวของเป็นคอนเทนเน่อร์เลย ย้ายยกครัว ย้ายไปทั่วโลกค่ะ จนท. UN บางครอบครัว เอามาด้วย
แม้กระทั่งรถยนตร์ เพราะเขาไม่ต้องเสียภาษีนำเข้า แต่ต้องติดทะเบียนของยูเอ็น หรือของพวก
ดิโพลเม็ทนะ แล้วคนญี่ปุ่นคนนี้ต้องไปขอแชร์คอนเทนเนอร์เพื่อย้ายของเข้าไทยค่ะ ค่าใช้จ่ายจะถูกลง


2. เขาต้องรู้จัก จนท. ของหน่วยงานในยูนิเซฟด้วยกัน หรือ จนท. ของยูเอ็น หรือพวกคนสถานทูต
ที่กำลังจะย้ายข้าวของมาประจำเมืองไทย แล้วขอแชร์คอนเทนเน่อร์ค่ะ

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นทั้งสองวิธีนี้ คนญี่ปุ่นคนนี้จะต้องรู้จีกคนที่จะให้แชร์ และคนที่จะรับแชร์คอนเทนเน่อร์
เขาเต็มใจให้แชร์ และโดยที่ไม่ผิดกฏระเบียบของบริษัทของเขานะคะ

อนึ่งมี Expat ทั่วโลก จนท. UN ในหลายๆ หน่วยงาน และ เจ้าหน้าที่สถานทูตทุกระดับ ที่ย้ายเบส
ย้ายประเทศที่ต้องไปประจำบ่อยๆ เวลาย้ายทีนึง เขาย้ายทุกอย่างค่ะ ยิ่งถ้าคนที่มีลูกเนี่ย
มีแม้กระทั่งจักรยานของลูก หรือเขามีตู้ เตียง โซฟา ของสะสมต่างๆ เป็นเรื่องปกติค่ะ
และบริษัทรีโลเคชั่น บริษัทที่รับขนย้ายข้าวของ (ที่คนไทยชอบเรียกว่าพวก ชิปปิ้ง) หลายๆ บริษัท
เขามีสาขาอยู่ทั่วโลก หรือมีเครือข่ายทั่วโลกค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 4
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 5
ลืมเล่าไปว่า ส่วนใหญ่แล้ว คนที่เคยประจำในประเทศเหล่านี้เช่น ไทย จีน อินโดนีเซีย แม็กซิโก
เป็นต้น เขามีของสะสม เป็นพวกเฟอร์นิเจอร์สวยๆ ของแต่งบ้าน หรือของเก่ากันทั้งนั้นแหละค่ะ

ยิ่งถ้าครอบครัวไหน หรือคนโสดคนไหน กำลังจะพ้นวาระในประเทศไทย หลายๆ คนซื้อเฟอร์นิเจอร์
กันสนั่นค่ะ เพื่อที่จะขนไปประเทศของตนเองด้วย หรือเอาไปใช้ที่ประเทศอื่นที่ตัวเองต้องไปประจำด้วยค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 5
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 6
ขอนุยาดกลับมาอีกครั้งค่ะ เพราะคิดว่ายังให้ข้อมูลแก่คุณ จขกท. ไม่ครบถ้วนดี คืองี้นะคะ ดิฉันมีอีก
วิธีหนึ่ง ดิฉันแนะนำให้คุณ จขกท. ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญในเรื่องขนย้ายของ โดยเฉพาะจำพวกเฟอร์นิเจอร์
ของตกแต่งบ้านให้ชาวต่างชาติ ทั้งที่จะย้ายจากเมืองไทยไปประเทศอื่น หรือจากประเทศอื่นย้ายมา
เมืองไทย ปรึกษาบริษัทพวกนี้โดยตรงเลยนะคะ

เรามาให้ข้อมูลอีกทางหนึ่งแล้วคุณ จขกท. ต้องไปสอบถามจากบริษัทเหล่านี้เอาเองค่ะ บริษัทที่ทำเรื่องตรงนี้
โดยตรงในเมืองไทย คือบริษัทเหล่านี้ อาทิเช่น Santafe, Crown Relocation, Hong Kong Transpack เป็นต้นนะคะ หรือไปหาดูชื่อจากในเยลโลเพจเจ็ส แล้วอีเมล หรือโทรไปสอบถาม
เอาเองค่ะ

เรานึกวิธีออกแค่นี้ และช่วยคุณได้แค่นี้ค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 6
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 7
ขอบคุณมากๆทุกท่านครับผม !


ตอบกลับความเห็นที่ 7