ขั้นตอน immigration ขาเข้าประเทศไทย กับระบบบริหารจัดการ

มันก็เหมือนของประเทศอื่นๆ แหละครับ พอมีระบบอัตโนมัติเข้ามา คนของประเทศตัวเองก็จะสะดวกมาก คนชาติอื่นก็เข้าแถวกันต่อไป

ที่ออสเตรเลียก็เหมือนกัน ตรงช่องอัตโนมัติของคนออสเตรเลียว่างมว้ากกกกกกกกกกก ส่วนคนต่างชาติก็คิวยาวถึงสนามหลวง

คุณ จขกท. บอกว่าช่วงสองเดือนนี้เดินทางไป ตปท. บ่อย เราจึงขอเรียนถามคุณเพื่อเป็นข้อมูลในการช่วย
ตอบกระทูัว่า

1. ในช่วงสองเดือนนี้ คุณเดินทางเข้า-ออกประเทศไทยบ่อยแค่ไหน เฉลี่ยเดือนละกี่ครั้ง ขาออกกี่ครั้ง
ขาเข้ากี่ครั้ง

2. แล้วก่อนหน้า 2 เดือนที่ผ่านมานี้ คุณเดินทางบ่อยแค่ไหน เฉลี่ยเดือนละกี่ครั้ง ปีละกี่ครั้ง
ขาออก กี่ครั้ง ขาเข้ากี่ครั้ง

3. ก่อนหน้าที่จะมีสนามบินสุวรรณภูมิ คุณเคยใช้บริการที่สนามบินดอนเมืองหรือไม่

4. คุณเคยเดินทางผ่านขาเข้า ขาออก ในสนามบินของประเทศอื่นๆ มาหลายแห่งแล้วหรือไม่ กี่พอร์ท
กี่ทวีป ประเทศที่พัฒนาแล้วกี่สนามบิน ประเทศที่กำลังพัฒนากี่สนามบิน (ที่ต้องถามละเอียด เพราะในแต่ละ
ประเทศมีสไตล์ในการจัดการไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับเมนทาลิตี้ของชนชาตินั้นๆ ด้วย)

______________________________________

ส่วนตรงนี้เข้ามาคุยกับคุณ จขกท. เป็นข้อๆ ตามที่คุณลิสท์มาเลยนะคะ

ตอบข้อ 1 ค่ะ เห็นด้วยค่ะ ว่าระบบเข้าออกนอกประเทศไทยผ่านทางออโต้ เกท ของด่าน ต.ม. สนามบิน
สุวรรณภูมิ ไวมาก เราเริ่มใช้มาตั้งแต่เขาเริ่มเปิดใช้ในช่วงแรกๆ แล้ว ซึ่งเริ่มใช้กันมาตั้งแต่ราวๆ ช่วง
สงกรานต์ของปีนี้ หรือเมื่อราวๆ 4 เดือนที่แล้ว เราชอบมากๆ เพราะ

1.1 ไม่ต้องมีสแตมป์เข้าออกให้รกพาสปอร์ต จะได้มีหน้าว่างๆ เยอะๆ จะได้ไม่ต้องไปทำพาสปอร์ตบ่อยๆ
(เผอิญเราเดินทางบ่อยมาก ถ้าให้ ต.ม. ไทยสแตมป์ขาเข้าขาออก หน้าพาสปอร์ตของเราจะถูกใช้ไปแล้ว
2 หน้าเต็มๆ ภายในระยะเวลาเฉลี่ยแค่ 2เดือน-2เดือนครึ่ง และ จะเสียหน้าว่างไปอย่างน้อยเฉลี่ย
8-10 หน้าภายในระยะเวลาทุกๆ 1 ปี นี่แค่พูดถึงตราประทับเข้าออกของไทย ยังไม่รวมหน้าที่ต้องแปะ
วีซ่าของประเทศอื่นๆ อีก และ สแตมป์ ต.ม. ของประเทศอื่นๆ อีก_พาสปอร์ตเราพรุนสุดๆ

ที่ยังต่ออายุพาสปอร์ตได้และยังสามารถแทรกหน้าแบบแผ่นๆ ยาวๆ ในเล่มพาสปอร์ตได้
พาสปอร์ตของเรามีหน้าแทรกแบบพับๆ หลายหน้า และเต็มเกือบทุกหน้า ทุกพับ)

1.2 ออโต้ เกท ทำให้การเข้าออกนอกประเทศรวดเร็วมากๆ เราไม่เคยต้องต่อคิวเลย และใช้เวลาในการ
เข้าออกนอกประเทศเฉลี่ยครั้งละ 30 วินาทีหรือน้อยกว่านั้น

1.3 ไม่ต้องโดนพี่ๆ ลุงๆ น้าๆ ต.ม. ไทย เอาที่เย็บกระดาษเบอร์ใหญ่ๆ ที่มีลูกแม็กซ์ตัวโตๆ มาคลิป
ใบ ต.ม. ขาเข้าติดกับหน้าพาสปอร์ตของเราอีกต่อไป ทำให้หน้าพาสปอร์ตปอร์ตเป็นรูสองรูโตๆ เสมอ
หน้านึงมีตั้งหลายรู (เราถึงได้ใช้สำนวนว่า "พาสปอร์ตพรุน" ไง )

______________________________________

2. ถ้าคุณพูดถึงแถว ต.ม. ขาเข้าของต่างชาติ สาเหตุที่เรามองเห็นถึงคิวสะสม เป็นเพราะว่าตรงบริเวณ
ที่เชื่อมระหว่าง ห้องโถงขาเข้า และบริเวณเข้าคิวหน้าเคาน์เตอร์ ต.ม. ทางเชื่อม จากทางเดินบนทางเลื่อน
และจากดิวตี้ฟรีน้อยๆ ตรงนั้น มาถึง โถงลานหน้า ต.ม. ทางเชื่อมมีลักษณะยาว แคบอย่างที่เรียกว่า
"คอขวด" แล้วคนข้างหน้าไม่เดินเข้าใน (ไม่ชิดในเหมือนเวลาที่คนบนรถเมล์ บนรถไฟ ไม่ยอมชิดใน
จนคนข้างหลังไม่มีที่ไปนั่นแหละ)

สาเหตุที่คนไม่เดินเข้าในคือ

2.1 ลักษณะพื้นที่เป็นคอขวด

2.2 คนที่ไม่คุ้นเคยกับสนามบินสุวรรณภูมิ ไม่รู้ว่าอะไรอยู่ตรงไหน เช่นคนต่างชาติที่เพิ่งจะเคยมาเมืองไทย
หรือคนไทยที่อาศัยอยู่ใน ตปท. ที่ไม่ได้กลับเมืองไทยบ่อยๆ นานทีปีหนกลับทีนึง หรือคนไทยที่เมืองไทย
เองแต่ไม่ได้เดินทางบ่อยๆ คนเหล่านี้ ไม่ชิดใน แต่ต่อแถวต่อๆ กันตรงคอขวด ทำให้แถวล้น ยาว

2.3 คนไทยหลายๆ คนไม่ทราบว่า แถวของพาสปอร์ตไทย และ ออโต้ เกท อยู่ด้านในสุด ขวามือ
ซึ่งต้องเดินผ่านแถวแน่นๆ ตรงคอขวดเข้าไป ถึงจะพบ แต่ถ้ามองจากดิวตี้ฟรีน้อยๆ หรือถ้ามอง
จากทางเลื่อน มองจากห้องโถงขาเข้าจะไม่เห็นเลย

2.4 คนต่างชาติ และคนไทย ที่อยู่ในข่ายเหล่านี้ เช่น พวกที่ถือพาสปอร์ตทางการทูต, พวกที่ถือพาสปอร์ต
ของยูเอ็น, ผู้โดยสารชั้นบิสซิเนสของการบินไทย หรือของสายการบินที่แจกบัตรไพร์ออริตี้ขาเข้า ต.ม.
หรือ ผู้โดยสารชั้นเฟิสท์ของการบินไทยหรือของสายการบินที่แจกบัตรไพร์ออริตี้

หรือ ผดส. ที่เดินทางกับเด็ก คนแก่ ผดส. ที่ได้ Priority ในการผ่านด่าน ต.ม. ทั้งหลาย จำเป็นต้อง
เดินผ่านคอขวดเข้าไป เพื่อเข้าไปที่เคาน์เตอร์ด้านในขวาสุด ถัดจากเคาน์เตอร์พาสปอร์ตไทย
และถัดจากออโต้ เกท เข้าไป

2.5 ตรงบริเวณคอขวด ไม่มีเจ้าหน้าที่มาจัดแถวเลย ไม่มีป้ายเพื่อแจ้งบอกทิศทางใดๆ ทั้งสิ้น
ไม่มีเจ้าหน้าที่มาคอยอำนวยความสะดวก หรือบอกทางให้แก่ ผดส.เลย ไม่เคยเห็น

____________________________________

อนึ่ง แถว ต.ม. ขาออกของพาสปอร์ตต่างชาติ ใช้ระบบแถวเดียว สแน๊ค คิว เข้าคิวแบบขดไปมา
แบบงูเลื้อยมาได้เป็นเดือนแล้ว ส่วนบริเวณเอ็กซ์เรย์สัมภาระติดตัวขึ้นเครื่องและตรวจร่างกายตรวจอาวุธ
ที่ชั้นลอยด้านบน ในจุดนี้ ทำคิวแบบงูเลื้อยตั้งแต่เริ่มใช้เลย

ที่เรามาช่วยตอบกระทู้นี้ให้คุณ จขกท. เพราะ เราคิดว่าเรามีคุณสมบัติเกินพอที่จะมาช่วยตอบให้ได้
ในเรื่องของการเดินทาง และเรื่องของสนามบินสุวรรณภูมินะคะ เพราะ

1. เราอาศัยอยู่ทั้งในประเทศไทยและในประเทศอื่น แต่เราไม่ได้
ไกลบ้านนาน เราไกลบ้านเป็นพักๆ

2. เราเดินทางผ่านสนามบินสุวรรณภูมิที่ขาออกอย่างน้อยๆ เดือนละ 2 หน และที่ขาเข้าอย่างน้อยๆ
เดือนละ 2 หนเช่นกันค่ะ

3. ถ้าไม่เดินทางผ่านสนามบินสุวรรณภูมิ เราเดินทางผ่านขาเข้าและขาออกสนามบินชางงี สิงคโปร์
หนึ่งในสนามบินนานาชาติที่ดีที่สุดในโลก หนึ่งในระบบจัดการสนามบินดีที่สุดในโลก อย่างน้อยๆ
ที่ขาออกเดือนละ 2 หน และ ที่ขาเข้าอีกเดือนละ 2 หนค่ะ

4. ถ้าไม่เดินทางผ่านสนามบินสุวรรณภูมิ และชางงี เดือนละหลายหน ถ้าต้องเดินทางไปที่อื่นๆ
ประเทศอื่นๆ ด้วย เราก็ได้มีโอกาสเห็นขาเข้าขาออก ของหลาายๆ สนามบินทั่วโลกค่ะ แล้วแต่ว่า
ในปีนั้นๆ เราจะเดินทางไปไหนบ้างในโลกนี้

ในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมา เราเดินทางผ่านเข้าออกสนามบินนานาชาติของหลายประเทศมาไม่น้อยกว่า
15 สนามบิน ใน 11 ประเทศแล้วค่ะ เพราะบางครั้งเราเดินทางเข้าที่สนามบินหนึ่ง แต่เดินทางออก
ที่สนามบินหนึ่งค่ะ

เราไม่ได้มาอวดนะคะ แค่จะมาเล่าให้ฟัง เล่าเผื่อเอาไว้ก่อนว่าจะมีใครมาโจมตีเราอีก ในเรื่องที่ว่า
เราไม่ควรจะมาตอบกระทู้ในห้องนี้ เพราะเราไม่ใช่คนไกลบ้าน เราหน่ะ คนไกลบ้านค่ะ และปีๆ หนึ่ง
เราเดินทางคิดเป็นระยะทางได้หลายหมื่นไมล์เดินทางจนได้เป็นสมาชิกระดับที่มีบัตรเบ่งของกลุ่มสาย
การบินที่มีเครือข่ายโยงใยไปทั่วโลก กลุ่มใหญ่ที่สุดในโลกด้วยค่ะ _คุณสมบัติพอตัวพอที่จะมาขอเสนอตัว
รับใช้สังคมในการช่วยตอบกระทู้ได้ค่ะ

__________________________

และ คุณ จขกท. คะ แถว ต.ม. ขาเข้าขาออก ของสนามบินสุวรรณภูมิหน่ะ ไม่ได้เลวร้ายหรอกนะคะ
ยังดีกว่าของอีกหลายๆ ประเทศในหลายทวีปค่ะ

สนามบินสุวรรณภูมิหน่ะ สวยงามมากๆ โอ่โถงมากๆ ในระยะไกล แต่ในระยะใกล้ ขี้เหร่ค่ะ เห็นซ่อม
เห็นเสริมไปเรื่อยไม่รู้จักจบสิ้น เพราะขาดการวางแผนที่ดีในระยะยาว แต่เขาบริหารแบบ
แก้ปัญหาไปเรื่อยๆ ห้องน้ำก็เก่ามาก เก่ามาตั้งแต่สนามบินเพิ่งเริ่มเปิดใช้เลย บางจุดผนังหลุดร่อน
ปล่อยไว้นานไม่ได้รับการซ่อมแซมแก้ไข

ข้างในก็คับแคบแออัด เนื้อที่ตรง ต.ม. หน่ะ พูดก็พูดเถอะค่ะ ยังเนื้อที่น้อยกว่าอีกหลาย
สนามบินที่เขาไม่ใช่ฮับหลักด้วยค่ะ

ห้องน้ำในสนามบินสุวรรณฯ แคบมาก เอาสัมภาระในการเดินทางเข้าไปด้วยลำบากมาก โดยเฉพาะคน
ที่มีรถเข็นมีกระเป๋าล้อลาก ที่แขวนของไม่มี หรือถ้ามีแต่ใช้งานได้ไม่ดี เพราะไม่ได้เอาของดีๆ มาใช้ติดตั้ง
ที่วางของไม่มี ที่แขวนเสื้อโค้ทไม่มีสำกรับคนที่จะไปเมืองหนาว หรือคนที่มาจากเมืองหนาวที่ต้องเอาโค้ท
ขึ้นเตครื่องด้วยสำหรับใส่ไปสนามบินหรืออกจากสนามบิน

//มาแชร์แค่นี้นะคะ สวัสดีค่ะ











_____________________________________

ขอแทรกคำ ในย่อหน้าที่ 4 ของเซ็ตที่ 2 ว่า "ในสมัยที่พาสปอร์ตไทยยังสามารถต่ออายุได้
ยังสามารถแทรกเล่มเพ่ิมหน้าได้"

__________________________________

และลืมให้ข้อมูลไปว่า ผดส. ชั้นบิสซิเนส และชั้นเฟิสท์ ของการบินไทย และ ผดส. บัตรแพลตินั่มของ
การบินไทย มีเคาน์เตอร์ ต.ม. ให้โดยเฉพาะนะคะ อยู่ด้านหลังเช็คอินเคาน์เตอร์ชั้นบิสซิเนสและบัตร
แพลตินั่มค่ะ ตรงจุดนี้ ไม่มีออโต้ เกทค่ะ

ส่วน ผดส. เฟิสท์ และบิสซิเนสของสายการบินอื่นๆ ใช้เคาน์เตอร์ของบัตรไพร์ออริตี้ที่สายการบินจะแจกให้
นะคะ หรือใช้ทางเข้าออกรวมกับ ผดส.อื่นๆ ตามปกติค่ะ ส่วนพวกถือพาสปอร์ตดิโพลแม็ท พาสปอร์ตยูเอ็น
ใช้ด่าน ต.ม.พิเศษค่ะ

นึกขึ้นได้ ลืมเสริมห้ คห. ของคุณดอสไปค่ะว่า ในหลายๆ ประเทศ เช่น ฮ่องกง เกาหลีใต้ สิงคโปร์
ที่มีระบบออโต้ เกท หน่ะ ไม่ได้ใช้ได้แต่เฉพาะคนที่ถือพาสปอร์ตของประเทศเขาเท่านั้นนะคะ

แต่คนที่มีเรสซิเด้นท์ซี่อยู่ที่นั่น ไม่ว่าจะเป็นพีอาร์ วีซ่าทำงาน วีซ่าเรียน ถ้าอยู่ในประเทศเกาหลีใต้ ฮ่องกง
สิงคโปร์ ก็สามารถใช้ออโต้ เกทได้ค่ะ เพราะทาง ต.ม. ในประเทศนั้นๆ มีประวัติ มีลายนิ้วมือของ
บุคคลนั้นๆ อยู่แล้วในระบบตรวจคนเข้า-ออกเมืองของเขา

หรือแม้แต่นักท่องเที่ยวก็สามารถใช้ได้ค่ะ เช่นของฮ่องกง ถ้าเข้าออกบ่อยๆ ไปลงทะเบียนได้เลยค่ะ
แล้วพิมพ์ลายนิ้วมือ แล้วเขาจะออกบัตรให้

หรืออย่างของเกาหลีใต้ ถือพาสปอร์ตอเมริกันเข้าออโต้ เกทได้เลย หรือคนถือพาสปอร์ตเกาหลีใต้สามารถ
ใช้ออโต้ เกท เข้าอเมริกาได้นะคะ เขามีสนธิสัญญากันระหว่างสองประเทศนี้ค่ะ

แต่ของสิงคโปร์นักท่องเที่ยวยังไม่สามารถใช้ออโต้ เกทได้ ส่วนของไทยคือเหมือนของออสเตรเลีย
อย่างที่คุณดอสเขียนเอาำว้ใน คห. 1 คือสำหรับพลเมืองของประเทศตัวเองที่ใช้พาสปอร์ตของปท.ตัวเอง
เท่านั้นค่ะ

จัดเต็ม