สัมภาษณ์วีซ่านักเรียนไม่ผ่าน ต้องการไปสัมภาษณ์อีกครั้งช่วยแนะนำด้วยครับ

ผมได้ไปสัมภาษณ์ที่สถานฑูตอเมริกา เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 55 ที่ผ่านมาโดยผมให้แม่ผมเป็นสปอร์นเซอร์ให้ ตอนนี้ผมอายุสามสิบสอง ประสบการ์ทำงานล่าสุดสี่ปี มีเงินเก็บหกหลักในธนาคาร ให้แม่รับรองอีกนิดหน่อย เพราะเกรงว่าจะไม่ผ่าน และด้วยตอนเด็กใฝ่ฝันว่าอยากไปพอมีโอกาสจึงทำแต่ไม่ผ่าน ซึ่งการสัมภาษณ์กับ ทางเจ้าหน้าที่และผมเป็นดังนี้
เจ้าหน้าที่: คุณจะไปทำไรที่us
ตอบ: ไปเรียนภาษา เพื่อเพิ่มทักษะการใช้ภาษา และเพิ่มประสบการณ์ใหม่ ๆ
หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่คนนั้นก็ดูเอกสารผมและถามต่อไปว่า
เจ้าหน้าที่: มีรู้จักใครที่อเมริกาไหม
ตอบ: รู้จัก และผมยื่นเอกสารการรับรองการพักอาศัก พร้อมกับค่าใช้จ่ายการพักต่อเดือนให้
เจ้าหน้าที่ : ถามว่ารู้จักได้ยังไง
ตอบ : เป็นป้าของแฟน(แฟนสาวไม่ใช่ภรรยา) โดยผมบอกว่า girlfriend มาคำนึง
เจ้าหน้าที่ ก็สอบถามเอกสารผมว่านี่หนังสือรับรองบริษัท โดยผมให้หนังสือรับรองบริษัทที่ผมทำงานอยู่ไป พร้อมกับหนังสือรับรองบริษัทของแม่ที่รับรองค่าใช้จ่ายในการเรียนที่นั่น และในนั้นเขียนบอกว่าเมื่อเรียนจบจะกลับมาช่วยทำงานที่บริษัทแม่ หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ก็ตอบผมว่าไม่ผ่านเพราะไม่รู้ว่าคุณจะไปทำอะไรที่นั่น
รบกวน พี่ ๆ น้อง ๆ ช่วยให้คำแนะนำผมที และผมต้องทำอะไรใหม่บ้างในการยื่นนัดสัมภาษณ์ รวมถึงการสัมภาษณ์ หรืออย่างไรช่วยแนะนำที่อีเมลล์ [email protected] จักขอบพระคุณอย่างสูงครับ

ความคิดเห็นที่ 1
....


ตอบกลับความเห็นที่ 1
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 2
ยื่น ไอ -20 ไปด้วยไหม
ลงเรียนที่ไหนอย่างไรครับ
คงต้องลองขอใหม่ดู


ตอบกลับความเห็นที่ 2
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 3
เดาว่าเจอ
อีสวยประหารชัวร์
ขออภัยที่ใช้คำไม่สุภาพครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 3
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 4
คุณกอล์ฟครับ พลาดที่คุณบอกว่ามีคนรู้จักที่นู่นด้วยนะครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 4
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 5
พลาดเรื่องรู้จักคนที่นั่นครับ ความผูกพันธ์ไม่มีเลยครับ

จะบอกรู้จัก ต้องยื่นไรไปมากกว่านี้ แถมไม่ได้สนิทด้วยซ้ำ

เรียน รร ไหนนี่ครับ

แล้วเกรดใน transcipt เป็นไง


ตอบกลับความเห็นที่ 5
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 6
เห็นด้วยค่ะ ว่าไม่ควรบอกว่ามีคนรู้จักที่โน่น
เพราะทางสถานพูตเค้ากลัวว่าเราจะมีลู่ทางในการไปตั้งรกรากที่นั่นได้
ไม่น่าจะเป็นเหตุผลอื่น เนื่องจากถ้ามี I-20 แล้ว มีเงินเพียงพอแล้ว
ที่สำคัญ ถ้าเข้าใจไม่ผิดคือช่วงที่ไปเรียนยังมีสถานะเป็นพนักงานของบริษัทที่นี่ด้วย จึงไม่น่ามีปัญหาอะไร แต่ถ้าช่วงที่ไปถือเป็นการลาออก ก็จะเป็นคนละกรณีกันนะคะ


ตอบกลับความเห็นที่ 6
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 7
บอกว่ามีคนรู้จัก และ ไปพักกับเขาด้วยเนี่ยแหละ


ตอบกลับความเห็นที่ 7
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 8
อายุของผู้ยื่นหนึ่ง รร ที่จะไปเรียนสอง บอมีคนรู้จักสาม เป็นเหตุแห่งการไม่ผ่าน

เหตุที่ทำให้ผ่าน ที่ไม่เพียงพอ คือ เป้าหมายในการเรียนหนึ่ง ความผูกพันที่มีในเมืองไทย ในอันที่จะทำให้เชื่อได้ว่าไปแล้วต้องกลับมาแน่นอนสอง หลักฐานทางการเงินสาม (ต้องคำนึงถีงว่า ค่าใช้จ่ายทั้งหมดระหว่าทีไปเรียนไปอยู่กินที่โน่น รวมทั้งสิ้นเท่าไหร่ คลอบคลุมทั้งหมดหรือเกินพอหรือไม่? เพราะเห็นบอกว่ามีตัวเลขหกหลัก แต่ยังให้แม่เป็นสปอน์เซอร์ให้กลัวไม่พอ)


ตอบกลับความเห็นที่ 8
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 9
ถึงคุณ rapier และทุก ๆคน แล้วสัมภาษณ์อาทิตย์หน้านี้ผมต้องทำอย่างไรดีครับ ควรแก้ไขใน DS-160 ว่าไม่รู้จักใช่ไหมครับเพราะจริง ๆ แ้ล้วไม่ได้ญาติสนิท เพราะไปอยู่เสียค่าเช่าครับมีเอกสารรับรองจากทางญาติว่าอยู่แล้วมีสัญญาการเช่า

ส่วนเป้าหมายการเรียนคือเมื่อเีรียนจบจะมาทำธุรกิจทางบ้านเพราะต้องการขยายงานติดต่อกับบริษัท(,มหาชน) เช่น Thai bev, IRC rubber เป็นต้นขึ้นและถ้าเป็นไปได้ก็ำทำธุรกิจที่พม่่าไม่ก็เวียดนาม(นี่คือเป้าหมายการเรียนภาษาและ่ต่อทางด้านธุรกิจการค้าที่ลงใน I-20) ส่วนค่าใช้จ่ายนั้นทางผมต้องแสดงอย่างไรครับเพราะค่าใช้จ่ายที่แสดงในหนังสือรับรองธนาคารมีมากกว่าในเรื่องค่าเทอม ส่วนที่รับรองของแม่นั้นคือค่ากินค่าอยู่ ครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 9
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 10
ผมลืมบอกไปว่าป้าที่ผมติดต่อตอนนี้เป็นคนอเมริกาแล้วอีกปีกว่าก็จะกลับเมืองไทยมาพักหลังจากเกษียณที่กงสุล แต่ผมงงว่า ทำไมน้องชายของญาติอีกคนที่ยังเรียนอยู่เขาบอกว่ารู้จักป้าแล้วมีใบรับรองจากป้า สัมภาษณ์ผ่าน งง จริง ๆ


ตอบกลับความเห็นที่ 10
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 11
อ่านแล้วกลัวเลยค่ะ เพราะกําลังเตรียมเอกสารไปขอเหมือนกันแถมตัวเองอายุ 35 ปีแล้วไม่มีสปอนเซอร์ด้วยมีแต่เงินเก็บในบัญชีที่เพียงพอต่อการเรียนมหาลัย อย่างนี้ความหวังคงริบรี ขอถามผู้รู้หน่อยค่ะว่า แล้วถ้าเค้าถามถึงเรื่องที่พักเราจะตอบยังไงดีค่ะ เพราะตอบว่ามีคนรู้จักก็ไม่ได้อย่างงี้ต้องตอบลักษณะไหนค่ะ ท้ายสุดนี้ขอให้คุณกอล์ฟโชคดีได้วีซ่าน่ะค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 11
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 12
ตอบ จขกทเรื่องการไปกรอกใหม่ว่าไม่มีคนรู้จักนั้น ไม่ควรทำอย่างยิ่ง เพราะคุณบอกไปแล้วอยู่ในเรคคอร์ดแล้ว มาอีกทีบอกว่าไม่มีแล้ว อย่างนี้โดนปฏิสเธทันทีเลย เพราะกงสุลเขาจะถือว่าผู้ยื่นพยายามอย่างยิงที่จะยื่นขอวีซ่าให้ได้ ที่ถูกต้องควรจะหาเอกสารยืนยันการติดต่องานที่คุณอ้างว่า เรียนจบแล้วกลับมาจะมาขยายงานติดต่อกับบริษัทใหญ่ๆที่คุณอ้างไว้ใน คห 9 การขอวีซ่าเมกาต้องฟังหูไว้สองหู บางข้อมูลคนขอได้อาจจะพูดความจริงบวกความเกินจริงเข้าไปด้วย เพื่อให้ดูว่าตัวเรานี่มัน Extraordinary นะ
บางคนก็คุยบอกว่าตัวเองไปยื่นเขาไม่ดูอะไรเลย ก็มี ดังนั้น เพื่อเป็นการ Play safe เราเตรียมตนเองให้พร้อมและรัดกุมไว้จะดีกว่า


ตอบกลับความเห็นที่ 12
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 13
ตอบ คห 11

ไม่ต้องถึงกับกลัว เข้าไปดูที่กระทู้ H12526736 ข้างบนนี้ซิ เขาเข้ามาโพสกันได้วีซ่ากันมาถ้วนหน้าเลย


ตอบกลับความเห็นที่ 13
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 14
เข้าไปอ่านมาแล้วค่ะแต่ล่วนใหญ่ที่ได้กันจะเป็น tourist visa ซึ่งตัวเองก็เคยขอได้ 10 ปีแต่คราวนี้จะไปขอ student visa ซึ่งเท่าที่อ่านมาคนโดน reject ค่อนข้างเยอะก็เลยแอบกังวลน่ะค่ะ อย่างเช่นเรื่องที่พักก็ไม่รู้จะตอบยังไงเพราะตอนแรกจะไปอยู่กะเพื่อนแต่พอได้อ่านที่คุณ waddee_golf โพสไว้ก็เลยไม่กล้าบอกว่ามีคนรู้จักอยู่ทีนั่น ตอนนี้ก็เลยงงว่าจะหาที่อยู่ที่ไหนดี???


ตอบกลับความเห็นที่ 14
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 15
ก็ต้องหาที่พักที่เป็นหอของทาง รร หรือให้เพื่อหาที่อยู่อพาร์ทเม้นท์สักแห่งที่ไม่แพงนัก แล้วแจ้งว่าจะไปเช่าพัก เคยได้วีซ่ามา 10 ปี แล้วทุกวันนี้หมดอายุหรือยัง?


ตอบกลับความเห็นที่ 15
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 16
ขอบคุณค่ะเดี๋ยวจะลองติดต่อกับทางโรงเรียนเรื่องที่พักดูค่ะล่วนเรื่องวีซ่าเพิ่งหมดอายุไปเมื่อเดือนที่แล้วค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 16
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 17
ถ้าไปสัมภาษณ์ ต้องทำอย่างไรบ้างครับ พอแนะนำได้ไหมครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 17
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 18
ถ้าโดนยึดpp แล้ว ให้ไปจ่ายค่าซองไปรษณีย์แสดงว่าผ่านแล้วใช่ไหมครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 18
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 19
ดีใจด้วยน่ะค่ะสงสัยคงจะผ่านแล้ว


ตอบกลับความเห็นที่ 19
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 20
ถึงทุกคนในกระทู้นะครับ ผมมีเรื่องจะบอกในการสัมภาษณ์ คือ นิสัยของคนไทยกับต่างประเทศไม่เหมือนกัน ยกตัวอย่างเช่น การไปสัมภาษณ์แล้วบอกว่ามีญาติอยู่ที่เมืองนั่นตอบได้ แต่ต้องเป็นญาตินามสกุลเดียวกับคุณจริง ๆและคุณรู้จักด้วย นั่นตอบได้ว่ามีญาติอยู่เมืองนอกแต่ถ้าไม่ใช่ตามที่ผมบอกให้บอกไปว่าไม่มีญาตินะครับ เพราะการที่ได้ข้อมูลมาผิดทำให้เขาตัดสินใจคุณผิดได้


ตอบกลับความเห็นที่ 20
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 21
เพราะว่าผมมีประสบการณ์ เลยอยากแชร์ให้เพื่อน ๆในกระทู้เพราะหลายคนช่วยการให้สัมภาษณ์ ดังนั้นถ้ามีอะไรช่วยได้ยินดีครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 21