มีใครเคยไปสอบเอาDriver's licenseใบแรกในชีวิต ที่เมืองนอกกันบ้างมั้ย?

คือ เราจำเป็นจะต้องทำอย่างนั้น เพราะตอนนี้เราขับรถไม่ได้ ต้องการจะเรียน แต่ครอบครัวไม่ให้เรียน และเรากำลังจะเดินทางสิ้นเดือนนี้ไปอยู่แคนาดา1ปี เรารู้สึกว่าถ้าขับรถไม่ได้เลยชีวิตจะลำบากมากแน่ๆ

แต่ลองอ่านตามเว็บไซต์โรงเรียนสอนขับรถในแคนาดา มันดูมีแพกเกจอะไรยุ่บยั่บไปหมด เช่นแพคเกจ $300 6ชม. ของโรงเรียนนึง เหมือนจะเป็นหลักสูตรสอนธรรมดาไม่ใช่เตรียมสอบให้ด้วย แล้วก็มีRoad test PreparationI & II ราคาต่างกันออกไปอีก แพงมากน้อย ตามชั่วโมงเรียน

อีกโรงเรียนก็ Intensive 5ชม. $235 Road test session $80

คำถามนะ เวลาสมัครเรียนก็ต้อง
1.ลงคอร์สเรียนขับรถ
2.คอร์สRoad test
3.อ่านหนังสือ
4.ไปเสียเงินค่าสมัครสอบใบขับขี่+ไปสอบ

เราเข้าใจถูกมั้ยคะ?

รวมทุกขั้นตอนเป็นเงินประมาณกี่เหรียญ เราจะได้เก็บเงินเผื่อถูก

อีกคำถามเวลาการเรียนขับรถของคนทั่วๆไปเค้าเรียนกันกี่ชม.ถึงจะโอเคเห็นแพกเจกมีหลายชม.หลายราคา มันขึ้นอยู่กับความสามารถในการเรียนรู้ใช่มั้ยอ่ะ ถ้าเราเรียนรู้เร็ว ไม่กลัวถนน ก็ลงเรียนแพกเกจขั้นต่ำได้อย่างงั้นรึป่าว?

คำถามสุดท้ายมีใครอยากแนะนำโรงเรียนสอนขับรถในVancouverมั่งมั้ย?

ขอบคุณทุกคนที่แวะเวียนเข้ามาอ่าน ตอบคำถาม และ แสดงความคิดเห็น ^^

ความคิดเห็นที่ 1
เราเรียนที่อเมริกา 750 USD 10 ชั่วโมง ไม่การันตรีว่าจะผ่าน สอนขับอย่างเดียว
แต่เราอ่านหนังสือและเตรียมสอบข้อเขียนเอง ถ้าข้อเขียนผ่านเค้าถึงจะให้เรานัดสอบขับรถอีกทีหนึ่ง

ตอนนี่เราเรียนขับอยู๋แต่เราเคยขับที่เมืองไทยนะ แต่ไม่คุ้นกับเส้นทางและกฏของที่นีก็เลยต้องลงเรียน เราว่ายากกว่าเมืองไทย ที่เมืองไทยเราสอบวันเดียวผ่าน แต่ที่นี่เราไม่แน่ใจเลย แต่สามีก็ช่วยติวเราอยู่และก็ลงเรียนกับโรงเรียนสอนต่างหาก คิดว่าแล้วแต่คนมากกว่า ถ้า จขกท มั่นใจไม่ลังเลก็คงไม่ยาก เราห็หวังว่าตัวเองจะผ่านสอบปฏิบัติ


ตอบกลับความเห็นที่ 1
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 2
ยกมือค่ะ
หัดขับที่ไทยไม่ถูกกับรถแม่ที่เป็นเกียร์กระปุก รถครูฝึกก็เกียร์กระปุก
หัดไปหัดมา ตัดสินใจทิ้งเลยเพราะโดนแม่ตวาด โกรธเกียร์กระปุกจนกระทั่งบัดนี้

เรามาเรียนขับที่อเมริกา ต้องสอบข้อเขียนผ่านก่อนแล้วก็จะได้ใบขับขี่นักเรียน
เสร็จแล้วก็ต้องเก็บชั่วโมง 60 ชั่วโมง โดยต้องมีคนมีใบขับขี่นั่งประกบไปด้วย
แล้วก็บังคับไปลงเรียน กี่ชั่วโมงจำไม่ได้ เรียนอยู่เป็นอาทิตย์เหมือนกัน
คิดว่าประมาณสามร้อยกว่าเหรียญค่ะ (สามปีที่แล้ว) แล้วแต่พื้นที่
ย่านคนรวยเห็นบางโรงเรียนเก็บ 600 ก็มีค่ะ แต่ก็มีคอร์สแบบเดียวกันทั้งหมด เรียนเสร็จก็เสร็จ
เข้าคลาสฟังบรรยาย ดูวีดีโอ แล้วก็ทำข้อสอบให้ผ่าน เสร็จแล้วก็นัดเรียนภาคสนาม
เรียนเสร็จฝึกเองทวนอีกนิดก็ไปสอบขับได้


ตอบกลับความเห็นที่ 2
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 3
ดิฉันก็มาเรียนขับที่เมืองนอกคะ ตอนอยู่ไทย เจ้านายให้ไปเรียนขับ และจ่ายค่าเรียนให้ แต่ไม่เอา เพราะรถเมล์เยอะ ขึ้นรรถเมล์สะดวกกว่า

พอมาอยู่นิวฯ ก็อยู่บ้านนอก ไม่มีรถประจำทาง เหมือนคนง่อย ทำไรไม่ได้ เลยต้องเรียนขับ

ก็ได้หนังสือ Road code มาก็อ่านๆๆ พอคิดว่าน่าจะทำข้อสอบผ่าน ก็ไปสอบ และก็ผ่านจริงด้วย
พอได้ใบอนุญาต learner มาก็หัดขับ สามีสอนให้คร๊า ที่นี่เค้ามีกฎว่า หัดขับ 6 เดือน (ผู้ใหญ่อายุ 20 ปี ขึ้นมั้ง จำไม่ค่อยได้นานแล้ว ) ถ้ามั่นใจว่าจะสอบขับผ่าน จึงจะไปสอบขับ เพื่อเอา

restricted license ซึ่งอันนี้ถ้าสอบผ่านเราสามารถขับเองคนเดียวได้ แต่เอาคนที่ไม่ใช่คนในครอบครัวมานั่งด้วยไม่ได้ และ คนที่ไม่มี Full license มานั่งเป็นผู้โดยสารก็ไม่ได้

ถ้าเราขับจนมั่นใจว่า เราสามารถไปสอบ Full license ได้ ก็ไปสอบ ถ้าไม่มั่นใจก็ใช้ restricted license ไปจนกว่าจะหมดอายุ สำหรับดิฉัน สอบ Full license
ง่ายกว่า restricted license เพราะที่นี่เขาไม่ปล่อยให้ได้ restricted license ง่ายๆ

จขกท สู้ๆ นะคะ ไม่มีอะไรที่เราทำไม่ได้ เพียงแค่เราตั้งใจ เดี๋ยวก็ได้ใบขับขี่มาครอง อิอิ...


ตอบกลับความเห็นที่ 3
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 4
เรามาจับรภ หัดขับที่เมืองนอกค่ะ ตอนแก่แล้วด้วย
ที่เมกา เวอร์มอน อ่านคู่มือก่อน ไปสอบเอาใบอนุญาตหัด
แล้วมาหัด หัดกับตนที่บ้าน จะฆ่ากันตาย
ไปหาครูสอน ออกถนนกะครู อาทิตย์ละ1-2 ชม
หัดได้ทั้งหมดประมาณ 8 ชม
พอดีครูลาหยุดคริสมาสต์-ปีใหม่ เลยไปนัดสอบขับ
สอบหนเดียว ผ่านเลย


ตอบกลับความเห็นที่ 4
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 5
ขอแชร์ประสบการณ์จากฝั่งยุโรปมั่งนะครับ

ผมสอบได้ใบขับขี่รถยนต์และมอไซร์เมื่อ  2 ที่แล้ว

จำได้ว่าต้องไปนั่งเรียน 26 ชั่วโมง โดดเรียนไม่ได้ด้วย
พอเรียนจบก็ไปหัดขับรถกับครูฝึกบนถนน รวมๆก็ 6 ชั่วโมง

พอเรียนขับจริงเสร็จใครพร้อมก็นัดสอบทฤษฎีผ่านคอมพิวเตอร์ คนที่ผ่านต้องใด้คะแนน
เกิน  80% ซึ่งข้อสอบยากมาก จำไม่ด้ว่ามีกี่ข้อ

พอผ่านทฤษฎี ก็นัดสอบขับโดยมีครูฝึกกับคนคุมสอบนั่งไปกับเรา เค้าจะบอกว่าให้ขับไปใหน

ใครสอบขับจริงผ่านก็ได้ใบขับขี่มาครอง 
แต่ครับแต่ มันยังไม่จบ....

หลังจากไบขับขีี่มา 3 เดือนก็ต้องนัดครูฝึกเพื่อดูว่าการขับรถของเราต้องปรับปรุงตรงใหน ก็ขับๆไปประมาณชั่วโมงนึง

ผ่านไป4-9 เดือนถึง เดือนก็ต้องเข้าอบรม Safety training +traffic psychological group discussion กินเวลาไป 1 วันเต็มๆ

ซึ่งช่วง 2 ปีแรกที่เรามีใบขับขี่เรียกว่า trial license ซึ่งมีอายุ 2 ปีใครไม่ทำผิดกฎจราจรหนักๆ ก็จะได้ใบขับขี่ตลอดชีวิต

กว่าจะได้ใบขับขี่ EU มาเลือดตาแทบกระเด็น กระเป๋าฉีกเพราะหมดไป3,xxx ยูโร ถึงว่าคนที่นี่จะมีวินัยการขับขี่ที่ดีมาก เพราะออกแบบมาเหมือนกันหมด

ตอบกลับความเห็นที่ 5
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 6
ขอโทษที่ไม่ได้ตอบคำถาม

คหสต ถ้าอยู่แค่ปีเดียวแล้วไม่มีรถ (คือไม่ได้ซื้อรถหรือมีรถให้ขับเป็นประจำ) เราว่าไม่จำเป็นต้องมาหัดขับที่นี่
คือหัดได้ใบขับขี่ไป จะมาใช้เฉพาะตอนเช่ารถ หรือยืมเพื่อนขับเราว่ามันไม่คุ้มกับค่าเรียน ขับรถยังงัยมันต้องใช้ความเชี่ยวชาญ ขับบ่อยๆ

ต้องดูด้วยว่า learner permit กฏของที่แคนาดามันยังงัย ต้องมีคนนั่งด้วยมั้ย ต้องถือกี่เดือน


ตอบกลับความเห็นที่ 6
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 7
Before you do any of that just one question,
do you have the learner permit of the specific
state that you live at? If not, then you'll
have to get that done prior taking any of the
classes. Me myself studied all the questions
through one of the app which you can download
in appstore but it'll cost you little money.
But if you wish not to spend money on it then
you can go to your local DMV or driving school.

Once you got the learner permit then you can now
start searching for driving school. From my own
experience, I had the package for the total of
$300 which includes just about everything you
needed such as 10 hours driving lesson, free of
charge for the car that you'll be using for the
road test and they'll schedule it for you as well.
So there's really nothing you have to do other than
passing all the tests which is quite easy from
my opinion.

Good Luck!!


ตอบกลับความเห็นที่ 7
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 8
เราได้ใบขับขี่ที่ไทยมาก่อน...แต่ก็คือแค่ไปสอบไม่ได้ขับซักเท่าไรเลยคะ

เราจะบอกว่าจากประสบการณ์เรา เราอ่านคู่มือเอง แล้วโฮสเราสอนเราขับแค่นั้นเอง แล้วเราก็ไปสอบ ถ้าแคนนาดามีคู่มือออนไลย์หรือว่าข้อสอบออนไลย์ให้ทำด้วยจะดีมากเลยคะ เพราะจะช่วยเยอะ

ลองหัดขับเยอะๆ อาจจะให้ใครซักคนสอนขับรถนะคะ ขับรถต่างประเทศง่ายกว่าขับที่ไทย (เราอยู่เมกา) เพราะว่าเค้าไม่ได้มีมอไซค์ป๊าดซ้ายป๊าดขวาเหมือนบ้านเรา การจัดการถนนและป้ายเค้าดีกว่ามากคะ มีการกำหนดความเร็ว ฉะนั้นเราว่าอ่านคู่มือ ฝึกหัดทำข้อสอบคะ แล้วก็ไปสอบ

โชคดีคะ :)


ตอบกลับความเห็นที่ 8
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 9
สอบที่ออสเตรเลียค่ะ โหดมาก ตอนสอบขับจริงต้องหยุดตอนขึ้นเนิน แล้วก็ตอนลงเนินด้วย สอบจอดรถในที่แคบแบบเอาท้ายเข้าก่อนแล้วหมุนพวงมาลัยตอนกะให้ได้ 45 องศา เป็นอะไรที่ท้าทายน่ะ เจ้าหน้าที่ RTA ที่นั่งมาด้วยก็น่ากลัวมากเลย ไม่พูดไรซักคำ ไม่ยิ้ม ไม่ไร เฉยมากกก สอบสองครั้งกว่าจะผ่าน ให้ไปสอบอีกคงไม่ได้แล้วอะ


ตอบกลับความเห็นที่ 9
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 10
ป้าก็มาหัดขับที่อเมริกาค่ะ อยู่เมืองไทย ไม่เคยขับ ไม่เคยมีรถ
เอาคู่มือมาอ่านก่อน แล้วไปสอบข้อเขียน เกี่ยวกับกฎจราจรต่างๆ เอา Learner's Permit หนดียวได้ ไม่ยากอะไร
เสร็จแล้ว เรียนขับรถกับลุง

บอกเขาแต่แรกเลย ว่าห้ามตะคอกตะโกน เพราะจะยิ่งงกเงิ่น
หัดขับประมาณสองเดือนกระมัง แล้วไปสอบขับ หนเดียวได้ค่ะ
ดีที่ไม่บังคับให้ขึ้นทางด่วนนะ เพราะใหม่ๆ ขี้ขลาดน่าดู


ตอบกลับความเห็นที่ 10
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 11
ดิฉันก็มาได้ที่เมกานี่เหมือนกัน เพราะมาได้ไม่นานก็ได้งาน แล้วงานก็เป็นแบบวิ่งรอกไปที่นั่นบ้างที่นี่บ้าง จะอาศัยรถเมล์อย่างเดียวก็ไม่ได้ แรกๆที่ทำงานก็ยืดหยุ่นให้ทำงานตามเส้นทางที่รถเมล์แล่นผ่าน ตอนนั้นกินแรงเพื่อนร่วมงานหลายคนเหมือนกัน เจ้านายบอกให้เวลาหกเดือน

หว่างนั้นก็กัดฟันเรียน มีสามีเป็นคนสอน แทบจะตบกันตาย แต่ก็รอดมาได้ กว่าจะได้ใบขับขี่ที่นี่มาครอบครองก็สอบแล้วสอบอีกเหมือนกัน แต่เนื่องจากไม่เคยสอบที่เมืองไทยเลยบอกไม่ได้ว่าที่ไหนจะยากกว่า


ตอบกลับความเห็นที่ 11
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 12
ดิฉันมีใบขับขี่รถยนต์ครั้งแรกที่แอฟริกาใต้ค่ะ

ก่อนจะได้ใบขับขี่ ต้องไปสอบข้อเขียนเพื่อให้ได้ learner license ก่อน

เมื่อได้มาแล้ว ก้อสามารถหัดขับรถได้ โดยจะต้องมีบุคคลที่มีใบขับขี่นั่งคู่ไปด้วย เมื่อมั่นใจแล้วก็ไปสอบขับรถเพื่อให้ได้มาซึ่งใบขับขี่ค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 12
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 13
ดิฉันอยู่แคนาดาค่ะ และคิดว่าถ้าคุณมาอยู่เพียงปีเดียว ก็อย่าทำดีกว่าค่ะ ขึ้นรถเมล์ดีกว่า เพราะคุณต้องไปสอบข้อสอบ ประมาณ 50 ข้อ และต้องได้ 40 ข้อ ถึงจะผ่าน เพื่อให้ได้ Learner licence ( L ) หลังจากได้แล้ว คุณก็ขับรถได้ แต่จะต้องมีคนที่เค้ามีใบขับขี่แล้วนั่งคู่ับคุณด้ยว หลังจากได้ ( L ) 1 ปี ก็ไปสอบ Road test เพื่อให้ได้ New driver ( N ) อันนี้แหละทึ่คุณสามารถขับคนเดียวได้ค่ะ หลังจากนั้นอีก 2 ปี คุณก็ต้องไปสอบอีกครั้ง เพื่อให้ได้ ใบขับขี่ตลอดชีพค่ะ
มันไม่ได้ง่ายๆ เหมือนบ้านเราหรอกนะคะ


ตอบกลับความเห็นที่ 13
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 14
ส่วนคอร์สที่เคยเรียน ถ้าเรียนทั้งคอร์สก็ $1200 คือ
- เรียนในห้องเรียน จำไม่ได้ว่ากี่ชั่วโมง
- เรียนขับในรถ โดนรถจะมี สองพวงมาลัย 9 ชั่วโมง
- สอนเกี่ยวกับเทคนิคที่เค้าจะสอบ Road test อีก 2 ชั่วโมง

แต่ถ้าไม่เรียนในห้องเรียน ก็ $640 คือ
- เรียนขับในรถ โดนรถจะมี สองพวงมาลัย 9 ชั่วโมง
- สอนเกี่ยวกับเทคนิคที่เค้าจะสอบ Road test อีก 2 ชั่วโมง

แต่ละจังหวัดจะไม่เหมือกันนะค่ะ อันนี้ยกตัวอย่างที่เคยเรียนมา และผ่านค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 14
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 15
แคนาดาใช่ไหมค่ะ แนะนำ young driver ค่ะ ค่าเรียนมันจะแพงหน่อย

แต่ว่าเรียนจบแล้วเอาไปยื่นกับบริษัทประกันแล้วจะจ่ายประกันถูกลงค่ะ(เรียกว่าถูกที่สุดแล้ว เมือเทียบกับจบจากโรงเรียนอื่น มองในแง่ประหยัดค่าประกันในระยะยาว)

(ใน ON ก่อนจะเข้าไปเรียนได้ ต้อง มี G1 แล้วคือ ผ่านข้อเขียนแล้วนะคะ)
ส่วนคอร์สเรียนรายละเอียดก็คล้ายๆความเห็นที่14 ค่ะ
แนะนำให้ลงแบบที่มีทั้งหมดนี่ไปเลย เพราะเป็นใบขับขี่ใบแรก
-เรียนในห้องสี่วันเต็มๆ
-ทำแบบฝึกหัด+แบบทดสอบออนไลน์
-เรียนขับรถภาคปฎิบัติ
-ซ้อมก่อนสอบ+ให้ยืมรถไปสอบในวันสอบ (ถ้าเป็นใน ON ก็คือไปสอบ G2หละนะ)

ทั้งนี้ทั้งนั้นมันแล้วแต่ด้วยนะคะ ว่าจขกท อยู่รัฐไหน รายละเอียดการสอบใบขับขี่อาจจะต่างกัน พอดีของเราอยู่ Ontario มี G1 G2 G ค่ะ

โชคดีค่ะ

ขอแก้ค่ะ เพิ่งเห็นว่าเจ้าของกระทู้มาปีเดียว อกอีแป้นจะแตก จะขับรถไปทำไมค่ะ ทำใบขับขี่มาจากไทยให้เรียบร้อยแล้วใช้ international driver license เถอะค่ะ ซื้อรถที่นี่ไม่แพงก็จริงแต่ว่าค่าประกันต่อปีนี่บานๆๆๆนะคะ ต่ำๆ แบบเป็นผญอายุ25ขึ้นไป เรียนขับรถมาจากโรงเรียนชื่อดังก็ สองพันกว่าเหรียนต่อปีแล้วค่ะ แล้วก็บังคับว่าต้องมีด้วยค่ะ ถ้าคุณมีรถ แต่ถ้าจะเช่ารถก็ต้องจ่ายในส่วนนี้เหมือนกัน ซึ่งก็ไม่ต่างจากใช้ license จากไทยเลย

แวนคูเวอร์การเดินทางไม่ลำบากเลยซักกะนิด BClink ระบบเดียวไปได้ทุกที่ เรายังนั่งรถไฟฟ้าต่อเรือ ต่อบัสไปเล่นสโนวบอร์ดที่ north van มาแล้วบ่อยๆเลย หรือไม่ก็ต่อ grey hound ไปเที่ยว whistler สะดวกสบายสุดๆค่ะ ..

เฮ้ออ....

ตอบกลับความเห็นที่ 15
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 16
ขอบคุณทุกข้อมูล ทุกความคิดเห็นค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 16