หนุ่มสุดปวดใจ ต้องทุบป้ายหลุมศพมารดาตัวเอง หลังถูกสั่ง บอก"หรูเกินไป-ต้องทำลายใน 24 ชม."

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 21 ส.ค.ว่า นายมาร์ค โด และครอบครัว ต้องเดินทางไปยังหลุมศพของแม่ของเขา หลังจากโบสถ์เซ็นต์แมรี่ ในเมืองพูลโบโรห์ ของอังกฤษ มีคำสั่งให้เขา"ทุบป้ายหลุมศพ"ของมารดาทิ้งเสีย เนื่องจากป้ายดังกล่าวหรูเกินไป เพราะมีดอกกุหลาบสลักถึงสามดอก แทนที่จะเป็นดอกเดียวเหมือนหลุมอื่น ๆ แถมป้ายดังกล่าวยังโดดเด่นกว่าของคนอื่น โดยเขาถูกสั่งให้รีบทำลายป้ายดังกล่าวภายใน 24 ชม. และนายมาร์ค ต้องลงทุนใช้ฆ้อนปอนด์ทุบป้ายหลุมศพดังกล่าวกับมือตัวเอง เพราะไม่สามารถว่าจ้างช่างคนใดได้ทันเวลา โดยหากไม่ปฎิบัติตาม อาจถือว่าผิดกฎหมาย

ด้านนายมาร์คบอกว่า คำสั่งดังกล่าวไม่ยุติธรรมมากสำหรับเขาและครอบครัว เมื่อดูจากหลุมศพอื่น ๆ ที่ไม่ควรจะเป็น เช่น หลุมศพสีดำ แต่ก็ไม่ถูกสั่งให้รื้อถอน และว่า คำสั่งนี้ทำให้เขาต้องเสียเงินกับการหาป้ายหลุมศพใหม่ให้แก่มารดาเขาอีก แต่ก็บอกวา จริง ๆ แล้ว เรื่องเงินไม่ใช่ปัญหาเลย

ที่มา :

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1345526842&grpid=01&catid=&subcatid=

----------------------

แค่ป้ายหลุมศพหรูนี่ก็ผิดหรอครับ

ความคิดเห็นที่ 1
ขอตอบตามความคิดเห็นส่วนตัวนะ ว่าครอบครัวนี้ คงไปเจอพวก Religious Freaks หัวเก่า ใจแคบ
หน่ะ เราเห็นภาพจากในข่าวแล้ว เห็นว่าหินที่ว่าหน่ะ โดดเด่นจากอันอื่นจริงๆ แต่ก็ควรจะเป็นสิทธิของ
ครอบครัวนี้ เพราะเงินของเขาหน่ะ

แต่อีกความติดเห็นหนึ่ง คือในสังคมอังกฤษบางครั้งยังมีพวกหัวเก่าอนุรักษ์นิยมอยู่มากๆ คนพวกนี้
จะไม่วามารถยอมรับอะไรที่ไม่เหมือนกับตนเองคิดได้เลย หรือไม่สามารถยอมรับอะไรที่แปลกใหม่ได้เลย

อีกความคิดเห็นหนึ่ง คือในสังคมอังกฤษ ถ้าใครทำตัวอวดรวยฟู่ฟ่าจะถูกมองว่าเป็นเศรษฐีใหม่
ทำอะไรต้อง Loud เอาไว้ก่อน

อยากจะยกตัวอย่างให้ฟังเช่นว่า ทำไมในงานแต่งของเจ้าชายวิลเลี่ยม และ นางสาวแคเธอรีน มิดเดิลตั้น
ทำไมสมาชิกของวินเซอร์หลายๆ องค์ถึงได้นั่งรถแวนไปโบสถ์ แทนที่จะนั่งรถแพงๆ หรูหรา หรือทำไม
เจ้าชายฯ กับนางสาวแคเธอรีน เลือกที่จะใช้รถเก่าๆ ของเจ้าฟ้าชายชาร์ล ขับออกมาจากโบสถ์หลังจาก
จบพิธีอภิเสกสมรส คือรถเก่าคันนั้นนอกจากจะมีความหมายมากมายที่เกี่ยวกับชีวิตของเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์
ตั้งแต่วัยหนุ่ม แต่ยังเป็นการแสดงออกถึงรสนิยมแบบอังกฤษด้วยว่า ผู้ดี และคลาสสิค

หรือ อย่างนางสาวเคท เมื่อได้เป็นเจ้าหญิง เป็นว่าที่ราชินีอังกฤษในอนาคตแล้ว ทำไมเธอถึงเลือก
ที่จะใช้เสื้อผ้าจากร้านไฮสตรีทเหมือนคนชั้นแรงงานและคนชั้นกลางทั่วไปของอังกฤษ ทั้งๆ ที่เธอสามารถ
จะใช้ของดีไซเนอร์แพงๆ ได้ตลอดเวลา หรือทำไมเธอเลือกที่จะใส่ชุดซ้ำบ่อยๆ ส่วนหนึ่งเท่าที่เรามองเห็น
คือเธอชอบของเธออย่างนั้นจริงๆ และ ทำด้วยความจริงใจ แต่ก็มีนัยยะสำคัญด้วยว่า ต้องทำเพื่อที่
จะแสดงให้เห็นว่าไม่ฟุ่มเฟือย ใช้เงินอย่างมีเหตุผล ไม่ผลาญภาษีของประชาชน และต้องเป็นตัวอย่างที่ดี
และป้องกันคำครหาว่าแต่งงานเพื่อเลื่อนสถานะภาพในทุกๆ ด้านนะ

ที่เขียนมานี่ไม่ใช่ว่าไม่ชอบเคทนะ เราชอบเธอมากๆ เธอฉลาด สง่างาม และเหมาะสมกับตำแหน่งนี้จริงๆ
และดีใจกับเจ้าชายวิลเลี่ยมด้วย และดีใจกับราชวงศ์อังกฤษด้วย ที่ได้เคทมาร่วมส่งเสริมภาพลักษณ์
ที่ดี เพื่อให้ราชวงศ์อังกฤษมีความแข็งแรงสืบต่อไป เพื่อเป็นความภาคภูมิใจของประเทศอังกฤษ และ ปท.
ในเครือจักรภพนะ

ปกติแล้วคนอังกฤษมักจะนินทาคนที่ชอบใช้เงินเพื่ออวดรวย อวดความมั่งมี อ่าค่ะ

//นี่คือความคิดเห็นส่วนตัวล้วนๆ นะคะ เพราะมองเห็นและใกล้ชิดกับสังคมอังกฤษมานานพอสมควร
ถึงแม้ว่าเราจะไม่ได้อาศัยอยู่ที่นั่น แต่ก็เห็นมานานพอ และใกล้ชิดมานานพอ พอที่จะรู้จักความเป็นไป
และเมนทาลิตี้ของคนอังกฤษในหลายระดับชั้น ทั้งคนอังกฤษในประเทศและนอกประเทศ

ยังไม่ได้คุยถึงคุณนายพอช วิคตอเรีย แบ็คแฮ่ม เลยค่ะ เราไม่มีเวลาพิมพ์แล้ว คนอังกฤษหลายๆ คน
ไม่ชอบเธอ เธอตกเป็นเป้าโจมตีจากสื่อและคนที่เกลียดชัง ทั้งๆ ที่จริงๆ แล้วเธอน่ารัก และมีความสามารถ
เพียงแต่ว่าคนอังกฤษ สืออังกฤษชอบว่าเธอเช่นอวดรวย อะไรทำนองนี้นะคะ ว่างๆ อาจจะเข้ามาคุยใหม่

ตอนนี้มีความคิดเห็นแค่นี้ค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 1
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 2
ปอลอ _คนที่มีอำนาจดูแลและสามารถออกคำสั่งต่างๆ ของโบสถ์นี้ได้ ถ้าเขาไปเห็นสุสานที่ Recoleta
ที่เมืองบัวโนส ไอเรส ประเทศอาร์เจนติน่า พี่แกคงสั่งทุบทั้งสุสานนะ เพราะที่นั่นที่บัวโนส เมื่อเทียบกับ
ของอังกฤษที่มีกุหลาบ 3 ดอก อันกุหลาบ 3 ดอกหน่ะ จืดไปเลย เด็กๆ ไปเลยค่ะ เพราะที่เก็บศพ
ที่เร็คโคเลต้า ที่บัวโนส ไอเรสหน่ะ หรูหราฮาบีโกะ อลังกาลงานสร้างมากๆ เลยค่ะ ศพของนาง
เอวิต้า เปรอง ก็อยู่ที่สุสานนี้ นักท่องเที่ยวแห่ไปดูกันทุกวัน ในสุสานมีแมวเยอะแยะ ถ้าเดินไปตรงที่คน
น้อยๆ วังเวงมากเลยค่าาาา บรื๋ออออส์


ตอบกลับความเห็นที่ 2
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 3
จริงๆแล้วไม่ใช่เรื่องหัวเก่าใจแคบใดๆทั้งสิ้น แต่เพราะกฏระเบียบที่อังกฤษเขามีจะทำอะไรผิดแผกแตกต่างไปจากคนอื่นต้องขออนุญาตก่อนจะทาสีประตูบ้าน หรือประตูร้านที่เป็นสีแตกต่างไปจากที่เขากำหนดมาก็ต้องเขียนหนังสือขออนุญาต

ถ้าคุณมาร์ค เขาได้ไปสั่งป้ายหินจากร้านโดยตรง ทางร้านก็คงจะถามว่าเอาไปใช้ที่ไหนหากรู้ว่ากับ Church of England graveyard เขาคงไม่ทำให้ให้ เพราะผิดสเป๊ค และต้องโดน council หรือ church สั่งให้ย้ายออกและแถมอาจจะโดนฟ้องได้อีกต่างหาก สำหรับกรณีนี้นี่ คิดว่าคุณมาร์คคงไปสั่งมาจากเมลล์ออเดอร์ เขาเลยไม่ถามว่าเอาไปใช้ที่ไหน


ตอบกลับความเห็นที่ 3
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 4
ชอบอังกฤษตรงนี้หล่ะ จะทำอะไรก็ให้ดูภูมิทัศน์โดยรวมเสมอ


ตอบกลับความเห็นที่ 4
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 5
คหสต.นะคะ คิดว่าเกินไปนิดตรงไม่ให้เวลาเลยอ่ะเนี่ยนะ เกินไปไม๊อ่ะคะ
บางทีก็ยินดีที่เกิดเป็นคนไทยได้อยู่ในเมืองไทยนะ ด้านดีของคำว่ายืดหยุ่นก็คงใช้ได้กับกรณีนี้ ถ้ากฏเป็นกฏก็เข้าใจได้ แต่จะรีบอะไรขนาดนั้นภายใน 24 ชม. T_T


ตอบกลับความเห็นที่ 5
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 6
ขอบคุณคุณ Rinta ที่เข้ามาให้ความรู้ในเชิงลึกในเรื่องของกฏหมายในจุดนี้นะคะ
ถ้าเป็นเรื่องของกฏหมายเราเห็นด้วยกับคุณ Rinta

แต่ในข่าวนี้ เกี่ยวกับเรื่องนี้โดยตรง เราอ่านจากในเว็บนี้อ่าค่ะ
ทางคุณมาร์ค ลูกชาย เล่าว่าได้ตกลงกับบาทหลวงของโบสถ์นี้แล้วก่อนที่จะสั่งซื้ออ่าค่ะ

ตอนตกลงกัน ทางโบสถ์รับทราบในเรื่องของขนาด เรื่องของดอกกุหลาบแล้ว ว่ามี 1 ดอก
แต่เวลาที่ของมาจริงๆ มันมี 3 ดอก และ ทางโบสถ์ยังบอกว่าป้ายมัน too shiny ด้วยค่ะ
และทางโบสถ์ไม่ยอมรอให้ของใหม่มาเปลี่ยนก่อน แต่สั่งทำลายเลย

คุณมาร์คยังเล่าอีกว่าป้ายบางอันสีดำ ซึ่งไม่ควรจะมีอยู่เลย แต่ก็ไม่เคยโดนสั่งให้ทำอะไรนะคะ

คุณ Rinta หรือท่านที่สนใจลองไปอ่านกันเอาเองนะคะ จากลิ้งค์นี้ค่ะ เพราะฉนั้นดิฉันจึงได้เข้ามา
วิเคราะห์เอาไว้ตาม คห. แรก และ คห. 2 ค่ะ _ไม่ได้มาว่าอะไรนะคะ มาขอบคุณจริงๆ และเอาข่าวมาแปะ
ให้อ่านกันค่ะ

อ่านตรงไฮไลท์ต้นข่าวนะคะ และ ย่อหน้าที่ 3 ถึงเหตุผล 3 ข้อที่ทางโบสถ์ให้กับคุณมาร์คค่ะ
ดิฉันอ่านแล้ว และถ้าเป็นไปตามที่คุณมาร์คเล่ามาจริงๆ ดิฉันว่าหลงพ่อท่านใจแคบไปหน่อยค่ะ อิอิ

http://www.dailymail.co.uk/news/article-2191007/St-Marys-Church-Pulborough-Son-smashes-mothers-grave-sledgehammer-councils-order.html


ตอบกลับความเห็นที่ 6
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 7
ปอลอ ในเนื้อข่าวเขาบอกว่า ทางโบสถ์ใช้คำที่ให้เหตุผลกับคุณมาร์คว่า Too Lavish ด้วยค่ะ
นี่คืออีกเหตุผลหนึ่งที่ดิฉันเข้ามาตอบ ใน คห. 1 และ 2 แบบนั้นค่ะ

คุณ Rinta เข้ามาคุยกันอีกนะคะ ดิฉันอยากฟังความคิดเห็นของคุณเพิ่มเติมเมื่ออ่านข่าวในลิ้งค์แล้วค่ะ
หรือท่านอื่นๆ ที่อยู่อังกฤษมานาน หรือ เคยอยู่อังกฤษ หรือ คุ้นเคยกับอังกฤษ ดิฉันขอเรียนเชิญให้เข้ามา
คุยกันด้วยค่ะ เรามาพูดคุยกันเพื่อต่อยอดของความรู้ ประสบการณ์ และ แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันค่ะ

ซึ่งสิ่งเหล่านี้ ดิฉันมองว่าเป็นประโยชน์ต่อทุกๆ คนไม่ว่าจะผู้ตอบ หรือผู้อ่าน เพราะไม่มีใครที่รู้อะไรทั้งหมด
แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคนที่อาศัยอยู่ในที่นั้นๆ จะรู้อะไรไปทั้งหมด และในขณะเดียวกันก็ไม่ได้หมายความ
ว่าคนที่ไม่ได้อยู่ที่นั่นจะไม่สามารถรู้อะไรได้เลยค่ะ

ความรู้เกี่ยวกับสิ่งต่างๆ รอบตัว รอบบ้าน รอบประเทศ รอบโลก ขึ้นอยู่กับมุมมอง ประสบการณ์
ความคุ้นเคยทัศนคติ และเหนืออื่นใดความสนใจในเรื่องของวัฒนธรรม ของสังคม เรื่องข่าวต่างประเทศ
หรือความสนใจในพฤติกรรมของชนชาติต่างๆ _คนเราอยู่ที่การเรียนรู้ การเปิดรับ และความสนใจจริงๆ

//ดิฉันรู้จักรถแอชตั้น มาร์ตินของเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์มาตั้งแต่ดิฉันเด็กๆ เลยค่ะ เพราะรถคันนี้
เป็นรถที่ดังมากๆ เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ท่านได้เป็นของขวัญวันประสูติครบ 21 พรรษา สมัยหนุ่มๆ หน่ะ
ท่านออกแนวเพลย์บอยเนื้อหอม ไม่ใช่ว่าจะมารู้จักตอนที่เจ้าชายวิลเลี่ยมขับออกจาโบสถ์พร้อมกับ
พระชายาแคเธอรีน เมื่อเดือนเมษายนของปีที่แล้ว _ตรงนี้แค่จะสื่อว่า ดิฉันสนใจไฝ่รู้ในเรื่องของ
การต่างประเทศ เรื่องราชวงศ์ต่างประเทศ และเรื่องการเมือง สังคม วัฒนธรรมของประเทศอื่นๆ
มาตั้งแต่เด็กๆ แล้วค่ะ ตั้งแต่สมัยชั้นประถมต้นเลยทีเดียว

เรื่องขับรถแอชตั้นมาร์ตินในวันอภิเษกสมรสของเจ้าชายวิลเลี่ยม กับ นางสาวเคทเนี่ย เป็นเรื่อง
คล้ายๆ กับตอนงานเปิดโอลิมปิคที่มีสตั๊นท์แต่งเป็นสมเด็จพระราชินีอีลิซาเบ็ธที่ 2 โดดร่มลงมา
เลย _อังกฤษแท้ๆ ค่ะ ต้องทำอะไร เรียบๆ ง่ายๆ แต่ขำลึก หรือ ต้องมีความหมายเชิงลึก
ให้คิดเล่นๆ ไม่แสดงออกแบบโฉ่งฉ่าง เอาไว้ด้วยเสมอ หรือต้องมี Twist ในเชิง
Play it down เพื่อที่จะได้ไม่ดูหรูหราเป็นทางการจนเกินไป ดังเช่นที่พวกเราอาจจะเคยได้ยินข่าวว่า
สมเด็จพระราชินีอังกฤษท่านเสวยซีรีลจากกล่องทัปเปอร์แวร์ หรือเอาเก็บไว้ในกล่องทัปเปอร์แวร์
นั่นแหละค่ะ อังกฤษแท้ๆ เลย


ตอบกลับความเห็นที่ 7
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 8
ความคิดเห็นส่วนตัวล้วนๆ นะครับ บางทีนั่งรถผ่านหลุมศพ ก็อดคิดไม่ได้ว่าทำไมต้องทำให้หรูเกินหน้าเกินตาคนอื่น เขาจะรู้สึกบ้างไหมหนอเวลาลูกหลานมาไหว้หลุมศพมันจะทำให้เขาดูภาคภูมิใจมากขึ้นหรือไร คนที่ฐานะต่ำต้อยหลุมศพมีแค่ไม้ปักมันจะทำให้รู้สึกแย่กว่าพวกทำป้ายหินตกแต่งหรูหราหรือ?

คือผมว่าถ้าปล่อยอิสระมันก็คงมีกรณีทำเวอร์แข่งร่ำรวย ตกแต่งจนเกินความพอดี ใช้ที่เปลือง ซึ่งหากมีกฏหมายทำให้มันเท่าเทียม ทำให้ไม่ต้องมากังวล ทำให้ไม่ต้องคิดมาก ตายแล้วทุกอย่างก็จบ ไม่เห็นต้องมาปั้นแต่งที่ทำไปคนตายคงไม่รับรู้อะไร จะยังประโยชน์สำหรับคนอยู่หรือก็ปล่าวประโยชน์ครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 8
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 9
คุณ Been there, done that! ขอบคุณมากที่เอาลิ้งค์มาให้อ่านค่ะ เห็นมีความเห็นด้านล่างด้วยเลยยกมากให้อ่าน บางคนก็เห็นใจครอบครัวคุณมาร์ค บางคนก็กฏเป็นกฏแบบความเห็นอันนี้

There are widely-publicised rules about the type of gravestones you are allowed in a Church of England graveyard and this gravestone is not as agreed with the priest in charge. Whilst I sympathise with Mr Doe's and his family, he chose to disregard the regulations and break his agreement with the Church. One gravestone company in its literature warns that "the regulations have changed over the years and things which which were permitted years ago are not permitted now". If Mr Doe bought this by mail order, if he told the company that it was going to be used in a Church of England graveyard he should sue them for giving him improper advice as all stonemasons know the rules very well. I also find it hard to believe that Mr Doe would not have been given more time to remove the gravestone if he had explained the situation - again local stonemasons would have found a way to get it out without destroying it.

- The Uncivil Servant, Wetherby, Yorkshire, 21/8/2012 08:31

คุณ BTDT เดินทางไปอังกฤษบ่อยๆ ก็คงจะรู้ว่า พวก tabloid newspapers ที่นี่ชอบแต่งสีแต่งกลิ่น พอๆกับไทยรัฐบ้านเราเชื่อมากไม่ได้ ข่าวที่ลงหนังสือพิมพ์พวกนี้ เขาได้รับตังค์กันค่าข่าวกันเกือบทั้งนั้นค่ะ อะไรที่พูดเว่อร์ให้คนอ่านเห็นใจไว้ก่อนเป็นการยิงนกครั้งเดียวได้นกสองตัวทั้งนั้น ส่วนว่าจะตกลงกันกับบาทหลวงอย่างไรเราคงไม่รู้แน่ค่ะ

ตัวดิฉันเองเข้าไปเดินเล่นใน church บ่อยๆ(แต่ยังไม่เคยใช้บริการเช่าซื้อที่ดิน แหะๆเค้ายังไม่เคยตายเลยคร๊า) ป้ายหินของ Church of England จะเก่าๆทึมๆ ไม่สวยงามวิลิสมิหราเหมือนของ พวก Roman Catholic Cemetery ค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 9
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 10
กฎเยอะค่ะ สมัยที่มีสมาชิกในครอบครัวเสียชีวิตก็เอาง่าย ๆ เลยค่ะ
โดยใช้บริการของคนทำสุสานที่มีชื่อเสียงเก่าแก่ของเมืองนั้น ๆ
อย่างจะขออนุญาตปลูกต้นไม้ เพราะเห็นหลุมศพอื่น ๆ ก็มี
ก็ต้องปรึกษาทางเคาซิลว่าจะอนุญาตและไม่ และถ้าเขาอนุญาต
ก็มิใช่ไปจัดหาซื้อมาเองได้ คือ เขาจะมีรายชื่อต้นไม้ว่าอะไรปลูกได้ไม่ได้
และก็ไม่ใช่ว่าเราจะเลือกว่าปลูกตรงนั้นตรงนี้นะ
คือ ต้องแล้วแต่เขาหมดทุกอย่างมันมีกฎระเบียบของเขา

เอาง่าย ๆ อย่างสุสานจีนในไทย ก็เหมือนกัน กฎอาจจะไม่เคร่งเท่าที่นี่
แต่การสร้างแบบ ก็ต้องได้รับความเห็นชอบจากสมาคมฯที่เราไปซื้อที่
และถ้าจะให้ราบรื่น ก็ควรใช้บริการคนของเขา รวมไปถึง
การดูแลความสะอาดของสุสานประจำปี

ข่าวนี้อ่านคร่าว ๆ ก็คิดว่าการให้เวลายี่สิบสี่ชั่วโมงนี้มันเกินไปหน่อย
แต่ก็ไม่รู้ว่าครอบครัวไปท้าทายอะไรกับทางโบสถ์หรือเปล่า ก่อนที่ทางเขาจะออกมา
เป็นลายลักษณ์อักษรอย่างนั้น

แก้ไข พิมพ์ตัวสะกดผิด

ตอบกลับความเห็นที่ 10
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 11
คุณรินตา ขอบคุณนะคะที่กรุณากลับมาคุยกันในกระทู้นี้อีกค่ะ ค่ะ ข่าวแทบลอยด์พวกนี้เหมือนไทยรัฐ
ที่เมืองไทย แต่ที่อังกฤษก็จะหาข่าวพวกนี้อ่านไม่เจอในหนังสือพิมพ์คุณภาพเช่นกัน เหมือนที่เมืองไทยคือ
ข่าวประเภทลงไทยรัฐ เดลินิวส์ ข่าวแนวๆ นี้ก็จะหาอ่านไม่ได้ในกรุงเทพธุรกิจ หรือ โพสท์ทูเดย์ เป็นต้น

ฮ่าๆๆ เรื่องรับตังค์ค่าข่าว เรามีเพื่อนคนอังกฤษที่อังกฤษคนนึง เคยโทรไปให้เบาะแสเกี่ยวกับคนดังของ
อังกฤษคนหนึ่ง จนป่านนี้ผ่านมาเป็นสิบๆ ปีแล้ว เพื่อนเรายังไม่เคยได้ตังค์เลยค่ะ แต่ข่าวดังมาก
เพราะสมัยโน้นคนดังคนนี้ดังมาก แต่เราขอนุยาดไม่เล่านะคะ ว่าคนดังของอังกฤษคนไหน เรื่องอะไร
และหนังสือพิมพ์แทบลอยด์หัวไหนค่ะ เอ.... หรือจะ นิวส์ ออฟ เดอะ เวิลด์ หว่า อิอิอิ

เรื่องเต้าข่าว เรื่องเสี้ยม เรื่องใส่ความ ต้องยกให้แทบลอยด์เค้าหละ แต่ดิฉันชอบอ่าน เดอะ ซัน นะคะ
อ่านมานานเป็นสิบปีแล้ว เวลาที่ไม่ได้ไปอังกฤษก็เข้าไปอ่านในเว็บของเดอะ ซันค่ะ ดิฉันชอบพาดหัวข่าว
ของเดอะ ซัน ตลกดี ชอบเล่นคำ ชอบตั้งฉายาต่างๆ สำนวนตลกๆ เหมือนไทยรัฐเลย
ดิฉันชอบหลายๆ คอลัมน์ของ เดอะ ซันค่ะ เพราะอ่านแล้วจี้เส้นดี ได้ฝึกภาษาด้วย ฝึกสแลงตลกๆ
หรือมีข่าวระดับชาวบ้านเยอะดี

เห็นด้วยกับคุณรินตาค่ะ สำหรับความแตกต่างของสุสานของสองนิกายนี้


ตอบกลับความเห็นที่ 11