สอบถามหน่อยสิค่ะ จริง ๆ แล้วบนเครื่องบินเปิดมือถือได้หรือเปล่าค่ะ

พอดีวันนี้นั่ง แอร์เอเชีย กลับมาจากหาดใหญ่ เห็นผู้โดยสารใกล้เคียงเอามือถือมาถ่ายรูปกันตอนเครื่องขึ้นกับเครื่องลง แล้วก็หยิบมาสไลด์ไปมาเป็นพัก ๆ พอแอร์เดินมาก็เก็บครื่อง สรุปแล้วมันเปิดมือถือได้หรือค่ะ
ในแถวที่ดิฉันนั่ง เห็นหยิบขึ้นมา 2 - 3 คนถ่ายเป็นพัก ๆ

ความคิดเห็นที่ 1
ปิดเฉพาะสัญญาณมือถือเพื่อป้องกันสัญญาณรบกวนนักบินคับ


ตอบกลับความเห็นที่ 1
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 2
สงสัยเขาเปิดไฟล์ทโหมดรึเปล่าคะ


ตอบกลับความเห็นที่ 2
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 3
เปิดได้ หมายถึงมันเปิดได้อะครับ ควรปิดดีกว่า ^^


ตอบกลับความเห็นที่ 3
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 4
ได้สิครับ โหมดบิน
ถ่ายรูป เล่นเกม ฟังเพลง

ผมยกมือถือถ่ายรูปลูกบนเครื่องแอร์เอเซีย แอร์โฮสเตสยังอาสาเป็นตากล้องให้เลย

ตอบกลับความเห็นที่ 4
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 5
ถ้าขณะเครื่องบินจะร่อนลง เคยได้ยินประกาศว่าให้ปิดเครื่องอิเลคโทรนิคทั้งหมด หมายความตามนั้นจริงๆ ซึ่งก็ไม่นานเพื่อความปลอดภัย แม้ไม่ใช้สัญญาณโทรศัพท์ แต่ขณะฟังเพลง สไลด์หน้าจอ จะมีสัญญาณไฟฟ้าเกิดขึ้น


ตอบกลับความเห็นที่ 5
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 6
ผมคิดว่าวัตถุประสงค์หลังขอการปิดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกต่างๆ ขณะเครื่องขึ้นลง เพราะ
ช่วงที่เปผิดสัญญาณรัดแข็งขัด ตั้งแต่พื้นถึงความสูง 10,000 ฟิตจากระดับน้ำทะเล ถือเป็นช่วงที่อันตราย อาจเกิดอะไรขึ้นก็ได้
ผมเคยดูรายการทอร์คโชว์ คุยกับนักบินการบินไทย เขายังบอกเลยว่า แม้แต่ตัวนักบินเองช่วงเวลาที่ว่านี้ยังไม่สามารถคุยเรื่องอะไรนอกเหนือจากเรื่องการบินขณะนั้นได้เลย
ฉะนั้นหากเกิดเหตุ จะได้เตรียมรับสถานการณ์ทันท่วงทีั

ส่วนเวลาอื่น ผมว่า ไฟล์ทโหมดใช้ได้นะครับ หลายสายการบินให้บริการ wifi หรือโทรศัพท์กันแล้ว ซึ่งผมอนุมานได้ว่า เครื่องรุ่นใหม่ๆถูกออกแบบมาให้รองรับเรื่องราวเหล่านี้แล้ว

แต่การใช้อุปกรณ์อะไรก็ตาม ก็ควรจะใช้โดยไม่รบกวนผู้โดยสารท่านอื่นด้วย


ตอบกลับความเห็นที่ 6
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 7
ตอนนี้หลายสายการบิน บริการ internet คนเครื่องบินกันละ เรื่องรบกวนสัญญาณ ต่างๆ อาจจะไม่ค่อยอันตรายละครับ แต่เรื่องความปลอดภัย เลยต้องให้หยุดใช้ตอนเครื่องขึ้น และลง


ตอบกลับความเห็นที่ 7
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 8
เปิดได้ flight mode แต่แอร์บางคนก็ไม่สนใจสั่งอย่างเดียว
ตอนนั่นใช้ ipaq มันเป็นเหมือนคอมเครื่องเล็กที่โทรศัพท์ได้
ตอนนั้นออกใหม่ๆแอร์ยังไม่รู้จัก
ว่าเราใหญ่


ตอบกลับความเห็นที่ 8
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 9
ง่ายๆ เลยคับ


ทำตามข้อบังคับของสายการบินคับ


เขาให้ปิดก็ปิด ตอนนี้ หลายๆสายการบินเขาไม่เชื่อว่ามันมีผลแล้วคับ


แต่ส่วนตัวผมปิดทุกครั้งคับ


ตอบกลับความเห็นที่ 9
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 10
สัญญาณรบกวนจากคนหรือสองคน อาจจะไม่มีผลเท่าไหร่
แต่ถ้าไม่ห้าม แล้วใช้กันเป็น สิบๆคน มีผลกระทบต่อการบินแน่


ตอบกลับความเห็นที่ 10
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 11
เปิดได้ครับ แต่ไม่มีสัญญาณ อิอิอิอิอิอิ


ตอบกลับความเห็นที่ 11
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 12
สิ่งที่ทุกท่านอาจจะลืมไปหรือเปล่าว่า....

การรบกวนนั้นจริงๆแล้ว ไม่ได้เกิดจากระบบโทรศ่ัพท์มือถือหรอก เพราะอย่าลืมว่าช่วงเครื่องบินอยู่กับพื้นนั้น ก็มีระบบเครือข่ายมือถือล้อมรอบสนามบินอยู่แล้ว แต่เขายังยึดกติกาเก่าอยู่เพราะไม่อยากแยกสาเหตุการรบกวนว่ามีมาจากไหน ความถี่ที่ใช้ก็อบู่คนละย่านเลย ฮาร์โมนิคที่ความถี่สูงกว่าไม่เคยเกิดการรบกวนกับระบบการบิน

การติดต่อทางโทรศัพท์มือถือไม่สามารถติดต่อกับสถานีภาคพื้นดินได้ ในขณะที่เราอยู่บนเครื่องขณะบินอยู่ในความสูงปกติได้ครับ เพราะเขาไม่ได้ออกแบให้ระบบสายอากาศยิงสัญยาณขึ้นบนท้องฟ้า ยกเว้นรับส่งจากดาวเทียมครับ

ข้อมูลนี้จากอาจารย์ด้านวิศวฯโทรคมนาคม ครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 12
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 13
ง่ายๆ นะครับ
สมมติว่า คุณ เอาโทรศัพท์ ไปวางไกล้ๆ วิทยุ หรือ ลำโพง
เวลามี สัญญาณ โทรศัพท์ หรือ อินเตอร์เน็ต เข้ามาที่โทรศัพท์
มันจะมี สัญญาณรบกวน ดังออกมาจากลำโพง (พอจะนึกออก ถึงสัญญาณ นั้นไหมครับ)

ฟังดูเล็กน้อยนะครับ

แต่ถ้าสัญญาณนั้น ไปดังขึ้นในห้องนักบิน จะยังเล็กน้อยอีก ไหมครับ

เคยมีคลิป นักบินทดลอง ใช้ มือถือ ใน cockpit ปลากฏว่า มีมาตรวัด ตัวหนึ่ง
แสดงค่าเพี้ยนไปจริงๆ นะครับ

ส่วนถ้าขึ้นไปบนฟ้า ณ ความสูงระดับ หนึ่ง (น่าจะสูงกว่า 10000 ft) ก็เปิดใช้ไปเถอะ ครับ
เปิดหรือปิด flight mode คงไม่ส่งผลอะไร เพราะ ยังไง ก็ไม่มีสัญญาณ
แต่เปิดไว้ เพื่อ ประหยัด แบต จะ work กว่า ครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 13
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 14
แต่ละสายการบินมีข้อบังคับต่างกัน แอร์ สจ๊วต เค้าก็ปฏิบัติหน้าที่ตามกฎที่มาจากบริษัท เค้าก็ทราบกันค่ะว่ามันมีไฟลท์โหมด แต่ตามคำประกาศส่วนใหญ่แล้วให้ปิดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิคและอุปกรณ์สื่อสารทุกชนิด ก่อนเครื่องขึ้นและลง ค่ะ ถ้าเค้ายังไม่เปลี่ยนกฎ ก็ให้ความร่วมมือเถอะค่ะ ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เพื่อความปลอดภัยไม่ใช่เหรอคะ ;)


ตอบกลับความเห็นที่ 14
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 15
อยู่บนฟ้าสูง 11 กิโล ก็อาจจะมีสัญญาณโทรศัพท์หรืออินเตอร์เน็ตได้ครับ ขึ้นอยู่กับความแรงของสัญญาณเสามือถือที่ส่งขึ้นไปด้วยว่าจะมีมุมพอดีทำให้ส่งไปถึงขนาดนั้นรึเปล่า และเครื่องรับอยู่ใกล้หน้าต่างพอที่สัญญาณจะเข้าไปถึงได้รึเปล่า เนื่องจากตัวเครื่องบินมันห่อหุ้มอยู่เหมือน Faraday's Cage สัญญาณก็เลยเข้าไม่ถึง กรณีเดียวกันกับรถไฟบางรุ่นที่สัญญาญจะเบาลงมากถ้าเข้าไปอยู่ข้างใน


ตอบกลับความเห็นที่ 15
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 16
เคยเจอผู้โดยสารที่นั่งข้างหน้าเรามีสายโทรศัพท์เข้ากลางอากาศมาแล้วค่ะ สัญญานแรงได้ใจเนอะ 5555 แถมพอเราบอกว่า "ขอโทษนะคะ ระหว่างบินควรจะปิดโทรศัพท์นะคะ" ชียังสะบัดหน้ามาส่งเสียงจิ๊ใส่เราอีก 5555


ตอบกลับความเห็นที่ 16
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 17
เคยเจอแบบว่า เครื่องกำลังแลนดิ้งอยู่ ล้อยังไม่แตะพื้นเลย โทรศัพท์ของคนข้างๆก็ดังขึ้นมาซะงั้น พี่แกรับแทบไม่ทัน 555


ตอบกลับความเห็นที่ 17
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 18
เบื่อพวกชอบทำผิดกฎจริงๆ เหมือนพวกไม่ปิดมือถือในโรงหนัง
อิน #17 อิิอิ แวะมาบ่น!


ตอบกลับความเห็นที่ 18
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 19
มันเป็นอย่างงี้ครับ ข้อแรกเลยความถี่ที่ใช้มันต่างกันครับ ข้อที่สองไม่มีผลกับการบินและการสื่อสารการบินครับ ขณะที่เครื่อง TAXI อยู่บนทางขับผมก็ลองเอาโทรศัพท์คุยกันในห้อง cockpit มาแล้วครับ คุยมันจนกระทั่งเครื่อง takeoff เกิน 500 ft. สัญญาณมันก็หายไปแล้วครับ จริงครับที่มีกฏว่าห้ามนักบินคุยกันระหว่างการนำเครื่องขึ้นและลง แต่ความเป็นจริงแล้วมันก็คุยกันทั้งนั้นแหละครับ ส่วนใหญ่จะคุยกันว่าเลิกงานแล้วไปไหนต่อดี เอาแค่นี้ล่ะกันพอหอมปากหอมคอ
ตอบกลับความเห็นที่ 19