ย้ายบ้านไปเมกา จะขนส่งทางเรือ ใครมีข้อมูลบ้างคะ

กำลังวางเเผนจะย้ายไปเมกาปีหน้าคะ ไปเเบบถาวรเลยกว่าจะได้กลับคงเป็นตอนเเก่ -_- สัมภาระของเรามีเเค่เสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า (ก็ผู้หญิงอ่ะเนอะ) เเล้วก็อาจเป็นหนังสือคะ ว่าจะส่งทางเรือ ใครมีข้อมูลเเนะนำบ้างคะ เค้าคิดราคายังไง ใช้เวลานานเท่าไหร่ หรือชื่อชิปปิ้งเเนะนำ รบกวนด้วยคะ

ขอบคุณมากคะ

ความคิดเห็นที่ 1
เข้ามารอคำตอบเป็นเพื่อนจขกท ค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 1
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 2
ถ้ามีแค่ที่บอกข้างบน มาซื้อใหม่ดีกว่า


ตอบกลับความเห็นที่ 2
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 3
ค่าส่งไม่คุ้มหรอกคะ เสื้อผ้าจากไทยเอามาซัก อบ ที่นี่ หดหมดคะ
แนะนำขนมาพอใช้ มาซื้อใหม่แบบ คห. ข้างต้นบอกดีกว่า
ตอนเรามาก็ไม่ได้เอามาเยอะ ของที่นี่ไม่ได้แพงมากหรอกคะ ของดีๆ ลดราคาเยอะแยะ


ตอบกลับความเห็นที่ 3
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 4
เอาของมาใช้แค่ชั่วคราวเท่านั้น มาซื้อเอาใหม่ที่นี่ครับ
เสื้อผ้าเอามา๓เดือนก็ใส่ไม่ได้แล้ว
เพราะว่านำหนักขึ้นหรือเสื้อมันหดก็ไม่ว่ากัน
หนังสือก็แปลงเป็นไฟล์pdfใส่ซีดีมาครับ
ตอนเดินทางก็ซื้อตั๋วbusinessมาจะได้นำหนักกระเป๋าเพิ่ม


ตอบกลับความเห็นที่ 4
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 5
ในฐานะทำงานอยู่บริษัทโลจีสติกส์
มันไม่คุ้มหรอกครับที่จะหอบหิ้วอะไรไป
เอาแค่ซื้อผ้าไปก็พอครับ สิ่งของคุณก็ขายทิ้งแล้วไวปซื้อใหม่
จะดีกว่า ค่าขนส่งทางเรือจะแพงเหมือนกัน ไหนจะค่าภาษี
ในของมีค่าบางอย่าง หากหาซื้อที่นั่นได้ ก็ไปแต่ตัวกับเงินใน
กระเป๋าจะดีกว่าครับ เท่าที่ผมทำงานมา ไม่เห็นมีฝรั่งคนไหนเขา
หอบหิ้วเครื่องใข้ไฟฟ้า หนังสือ หรือรถลาอะไรส่งกลับไป
มีแต่ของตกแต่งที่ซื้อหาในจตุจักร เสื้อผ้าส่งไปเพื่อขาย
นอกนั้นก็ไม่ส่งอะไรแล้วครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 5
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 6
ขอบคุณทุกคนมากคะ

คือเสื้อผ้ามันเยอะมากกกเลยคะ บางตัวก็ราคาเเพงมาก บางตัวก็ถูก เเล้วจะย้ายถาวรเลยอยากขนไปอะคะ เสื้อผ้าส่วนใหญ่ที่อยากเอาไปก็คิดว่าเอาไปใช้ที่นู๊นได้หมด เพราะว่าทุกวันนี้ก็ซักผ้าเเบบอบร้อนอยู่เเล้ว คงจะไม่หดมั้ง จะไม่เอาไปก็เสียดาย สงสัยต้องตัดใจ


ตอบกลับความเห็นที่ 6
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 7
เสื้อผ้า เฟอร์นิเจอร์ ที่เป็น personal effects เสียภาษีศุลกากรไม่มากครับ
ถ้า ของคุณสามารถจุได้เต็มตู้ ไม่ว่า จะเป็นตู้ 20 ฟุต หรือ
40 ฟุต ค่าระวางจะถูกกว่า LCL ครับ

1. ติดต่อบริษัทเรือที่ เมกา ถามค่าระวางเรือง จาก เมืองท่าของคุณ
มากรุงเทพ ว่า เท่าไหร

2. ติดต่อ Freight Forwarder หรือ บริษัทที่เป็น Custom Clearance
ในเมืองไทย ให้เขา quote ราคามานะครับ

คุณต้องให้ราคาประเมิน ของมือสอง ของคุณ เท่าไหร่ + Freight
เดี๋ยวเขาก็แจ้งคุณได้ครับ ว่า ภาษีเบ็ดเสร็จเท่าไหร

ลากตู้จากท่าเรือไปบ้าน เปิดตู้เอาของออก แล้ว ปล่อยรถเปล่ากลับ
ท่าเรือ ส่วนค่ารถบันทุก ถาม Forwarding company ดูนะครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 7
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 8
เป็นเราจะเอาเงินที่ต้องจ่ายค่าShipping + ภาษีต่างๆ ไปเพิ่มซื้อตั๋วเครื่องบิน First Class ดีกว่าค่ะ ได้นำหนักเพิ่มขึ้นและบริการสุดยอดอีก ถ้าคุณเดินทางในวันที่เครื่องบินค่อนข้างว่าง (จากประสบการณ์คือเดินทางวันอังคาร-พฤหัสฯ)ซึ่งถ้าคุณสมัครสมาชิกของสายการบินอาจจะได้เพิ่มเป็น 3 ใบจากปกติอนุญาตแค่ 2 ใบค่ะ

ตัวอย่างจากสิงคโปร์แอร์ไลนนะคะ เป็นน้ำหนักกระเป๋าต่อใบ

Weight allowances for checked baggage are as follows: ·

First Class: 40 kg (88 lb)
Business Class: 30 kg (66 lb)
Economy Class: 20 kg (44 lb)

ตอบกลับความเห็นที่ 8
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 9
เคยคิดจะทำคะ แต่เห็นราคาแล้วเราว่าไม่คุ้ม ค่อยๆ กลับไปเอาทีละรอบ หรือมีคนมาก็หิ้วมาให้ดีกว่า

เคยให้เค้าลองคิดให้ว่าส่งยิ่สิบกล่องมาทางเรือเนี้ยเท่าไหร่

ถ้าส่งมาแค่ที่ท่าเรือที่อเมริกาเนี้ยไม่แพง ตกไม่ถึงหมื่น แปดเก้าพันบาท
แต่ที่มันมาหนักก็เอาของออกจากท่าเรือมาถึงบ้านเนี้ยแหละ เบ็ดเสร็จรวมแล้วห้าหมื่น
น้องที่เขาทำราคาให้เค้าก็บอกตอนแรกไม่อยากโทรมาบอกราคาเราเลย

ส่วนตัวใช้วิธีเพิ่มน้ำหนักกระเป๋าตอนเดินทางเอาค่ะ แล้วก็เลือกเอาแต่ของจำเป็นมาก่อน
บางส่วนก็ส่ง UPS มา ตอนนั้นมีลดราคา เลือกเอาแต่ของใช้ทำมาหากิน หนังสือเอกสารที่สำคัญ

ที่เหลือก็รอขนรอบต่อๆ ไป เข้าใจความรุ้สึก อย่างเรามีหนังสือซีดีสะสมเยอะ มันคือของสำคัญทางใจ
บางส่วนนี่อยากจะตบกระโหลกตัวเอง เกินครึ่งนั้นคือของที่ส่งกลับไปเมืองไทยหลังเรียนจบ ตอนนี้ต้องมานั่งคิดว่าจะขนกลับมายังงัย


ตอบกลับความเห็นที่ 9