การขอทุนโดยตรงจากมหาลัยในอังกฤษ หรืออเมริกา

ป.ตรีน่ะค่ะ อยากรู้ว่าถ้าเราจะขอทุนโดยตรงกับทางมหาลัยเลยได้มั้ยค่ะ? ส่งจดหมายทำเรื่องของทุนแค่ปีแรก จะมีโอกาสได้ทุนมั้ยค่ะ?

เกรดไม่ค่อยดีเท่าไหร่ไม่ถึงสาม แต่ไอเอลประมาณ 6.5 =='
แล้วนักเรียนต่างชาตืสามารถกู้เงินกับทางมหาลัยได้มั้ยค่ะ?
หรือพอจะมีหนทางไหนบ้างที่ทำให้ได้ไปเรียนต่างประเทศ ไม่ต้องบอกว่าให้ไปเรียนตอนป.โทนะค่ะ เพราะตัดสินใจแล้วค่ะ รอไม่ไหวจริงๆ กำลังหาหนทางอยู่ค่ะ TT

ใครพอรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ช่วยทีนะค่ะ ขอบคุณค่ะ

ความคิดเห็นที่ 1
- ลองดูสกอลล่าร์ชิปส์ ดอทคอม
- ดูในเว็บของยู ตรงหัวข้อทุน อ่านให้ละเอียด ว่าแต่ละยูเค้าว่าไง เค้าจะมีอีเมลติดต่อคนที่รับผิดชอบ สงสัยอะไรก็เมลไปถามเค้า


ตอบกลับความเห็นที่ 1
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 2
ไปเรียนปตรี? ถ้าอเมริกาก็ต้องมีคะแนน SAT ก่อนค่ะ แล้วก็ลองเข้าไปเช็คแต่ละยูที่อยากไปดูว่ามีมั้ย แต่โอกาสยากมาก

ที่ว่าเกรดไม่ถึงสามคือเกรดมัธยมหรือคะ แล้วทำไมถึงรอไปตอนปโทไม่ไหว อย่าเพิ่งรีบร้อนตั้งใจเรียนเมืองไทยให้ดีก่อนดีมั้ย


ตอบกลับความเห็นที่ 2
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 3
ขอตอบว่ายากมากๆหรือแทบไม่มีโอกาสเลย เพราะข้อแรกเกรดน้อย ข้อสองเงื่อนไขของยูที่อังกฤษป.ตรีเด็กที่นี่จะกู้ยืมเรียนแต่ว่าเฉพาะพลเมืองของเค้าน่ะ ชาติอื่นเค้าไม่ให้หรอกจ้าไม่งั้นคนก็แห่กันมาหมด เค้ายิ่งอยากจะลดเด็กต่างชาติลงด้วย

ส่วนระดับโท เอก ส่วนมากเงื่อนไขคือเป็นพลเมืองที่นี่หรือในยุโรปหรือว่าอยู่อาศัยที่นี่มาอย่างน้อยสามปีน่ะ

ถ้าทุนในต่างประเทศมันของ่ายขนาดนั้นหลายๆคนคงเลือกขอแบบจขกท.แล้วหล่ะไม่ต้องไปสอบแข่งแบบในเมืองไทย แถมยังต้องกลับไปใช้ทุนอีก เพราะทุนที่นี่ไม่ผูกมัด


ตอบกลับความเห็นที่ 3
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 4
ลองสอบ GMAT หรือ GRE ดูคะแนนว่าสูงไหม


ตอบกลับความเห็นที่ 4
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 5
ไอเอล มันใช้กับ ประเทศอังกฤษ นะ

ส่วนเมกา ต้องโทเฟิล
แล้วไอเอล 6.5 ไม่ถือว่าสูงนะ แค่พอผ่าน
ฝึกภาษาเพิ่มขึ้น เรียนต่อโทในไทย ทำเกรดดีๆ ค่อยไปหาทุน โท ใบที่สอง หรือ เอก

หมั่นเข้าไปเปิดดูเงื่อนไขการขอทุนแต่ละมหาลัย ว่าเขาต้องการคนคุณสมบัติอย่างไร
แล้วพยายามทำให้ตัวเองมีคุณสมบัติอย่างนั้น

ไม่มีอะไรสายเกินไป นอกจาำกว่า จะไม่ได้พยายาม
ขอให้โชคดีหาทุนเรียนได้ โดยไม่ต้องใช้ทุนคืน


ตอบกลับความเห็นที่ 5
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 6
ลูกชายปีที่แล้ว เกรด 3 แก่ๆ, TOFEL 100 กว่า, SAT 2200 กว่า, SAT subject test 800 เต็ม 3 วิชา, AP ระดับ 5 สามวิชา, รางรัลชนะเลิศระดับประเทศ, ระดับนานาชาติ ยังต้องลุ้นทุนรอบ waiting list (สมัคร U ระดับ top)

-------------------------------------------------
ระดับปริญญาตรี สอบทุนรัฐบาล โอกาสได้ง่ายกว่า ลองดูทุนรัฐบาลไทย รัฐบาลญี่ปุ่น รัฐบาลสิงคโปร์ รัฐบาลเกาหลี รัฐบาลไต้หว้น รัฐบาลจีน ฯ

----------------------------------------------------------------
จริงๆแล้ว แนะนำเหมือนคนอื่นๆ เรียนตรีให้ดี พยายามฝึกภาษาให้ดีกว่านี้ แล้วหาทุนต่อโทง่ายกว่ามาก


ตอบกลับความเห็นที่ 6
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 7
ถ้าเป็นออสเตรเลีย ทุนปริญญาตรีได้ยากมากกกกก เฉพาะคนของเขาเองต้องโปร์ไฟล์เทพจริงๆ ตอนสอบมัธยมทั่วรัฐจะต้องได้คะแนนในระดับต้นๆ เท่านั้น (ต้องระดับที่หนึ่งที่สองของรัฐน่ะ) เพื่อนที่เป็นฝรั่ง ลูกสาวเขาทำคะแนนสอบได้ 98-99% ยังขอทุนไม่ได้เลย

ขนาดคนในประเทศเขายังแข่งกันแทบเป็นแทบตายเพื่อที่จะชิงทุน แล้วมันจะมีเหลือเผื่อแผ่ไปให้เด็กต่างชาติหรือ ยิ่งเกรดไม่ดี เราว่าหนทางยิ่งตัน

น่าจะเรียนมหาวิทยาลัยที่เมืองไทย ทำคะแนนดีๆ ให้ได้เกียรตินิยม ยังพอมีหวังจะได้ทุนต่อโทนะ โดยเฉพาะถ้าเรียนสายวิทยาศาสตร์ด้วยแล้ว ทุนจะเยอะกว่าสายศิลป์


ตอบกลับความเห็นที่ 7
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 8
เราเคยปรึกผู้ใหญ่ที่ช่วยเราเหมือนกันคะ(สำหรับอเมริกานะ) เขาบอกว่าที่นู่นเขาจะคัดคนในประเทศของเขาก่อนถ้าในประเทศเขาก่อน แต่ถ้าคุณเป็นตัวเลือกที่โดดเด่นและโปรไฟล์เหนือตัวเลือกอื่นๆในประเทศเขาแล้วมันก็อาจจะมีโ่กาสก็ได้คะ

สู้ๆนะคะ


ตอบกลับความเห็นที่ 8
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 9
มีเหตุผลอะไรถึงรอไม่ไหวครับ?

เกรดไม่ดี คะแนนไอเอลธรรมดา ไม่มีโอกาสครับ บอกตรงๆ


ตอบกลับความเห็นที่ 9
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 10
คนไทยชอบคิดแต่ว่า GPA ดี คะแนนสอบดี แล้วจะเข้ามหาวิทยาลัยดีๆได้ ได้ทุนได้
ขอบอกว่าจริงครึ่งเดียวครับ คนเรียนเก่งไม่ได้ประสบความสำเร็จเสมอไป แต่ก็จริงที่เป็นส่วนหนึ่งที่พิจารณา

คุณ จขกท มีจุดเด่นอื่นๆไหมครับ

เคยดูภาพยนตร์เรื่อง 21 ไหมครับ ข้างล่างนี้เป็นบทพูดในเรื่องดังกล่าวตอนที่พระเอกพยายามจะไปขอทุนครับ

Prof. Phillips: Premed. 4.0 GPA. 44 MCATs. President, American Legion Math League. TA to Professors Wilkins and Sanders. Both of whom are friends of mine, and who wrote glowing recommendations. And you're accepted early into school here
at Harvard Med, pending graduation from MIT. It's very impressive.

Ben: Thank you.

Prof. Phillips: The Robinson Scholarship is comprehensive, as you know. It's a free ride. And free rides don't come easy.

Ben: Absolutely.

Prof. Phillips: We have 76 applicants this year, only one of whom will get the scholarship and most of whom have resumes just as impressive as yours.

Ben: Right.
Ben: Professor Phillips? Some kids grow up wanting to play for the Red Sox. You know, some grow up wanting to be, I don't know, a fireman. I grew up... Well, really, I just wanted to come here to Harvard Med. And now that I've gotten accepted, it seems to only come down to the money. Which I don't really have. So, what I'm trying to say is that I really, really need this scholarship.

Prof. Phillips: Did you rehearse that?

Ben: Yeah. Like, 14 times in front of the mirror.

Prof. Phillips: Unfortunately, desire doesn't figure into this much. The Robinson is going to go to someone who dazzles. Somebody who just jumps off the page.

Ben: Oh, well, then, I'm also involved in a science competition. We're building a robotic wheel that can navigate itself using a proprietary GPS system. Well, I'm designing the system. So...

Prof. Phillips: Right.
Prof. Phillips: Ben, last year, the Robinson went to Hyum Jae Wook, a Korean immigrant who has only one leg.

Ben: Well, I have both my legs.

Prof. Phillips: Well, have you considered cutting one of them off? That was a joke. Ben, it's all about the essay. You need to really explain to us what makes you special. What life experience separates you from all the rest.

Ben: Life experience.

Prof. Phillips: What can you tell me, Ben, that's going to dazzle me?

คุณ จขกท มีไหมครับ?


ตอบกลับความเห็นที่ 10
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 11
เห้นด้วยกับความเห็นข้างต้นครับ
ผมว่า สองประเทศนี้ต่างกันครับ
อังกฤษ เข้าใจว่า เน้นเกรดเป้นหลัก ถ้าลองดูจาก website แต่ละมหาวิทยาลัยจะบอกเลย คะแนนเท่าไรถึงจะยอมรับ
สหรัฐฯ ไม่ได้ระบุตรงๆ แต่ดูจากหลาย ๆ อย่างประกอบกัน ถ้าคุณมีประสบการณ์อะไรที่โดดเด่น คุณก็มีสิทธิแม้ว่าเกรดจะไม่สูงครับ

ถ้าเป็นกรณีคุณ ผมว่า สหรัฐฯ น่าจะมีโอกาสมากกว่าอังกฤษ เพราะเกรดคุณไม่สูงมาก และที่สำคัญมันผ่านไปแล้วแก้ไม่ได้แล้วครับ ดังนั้นคุณลองทบทวนตัวเองก่อนว่า คุณมีอะไรที่แตกต่างจากคนอื่นครับ ถ้าคุณมีประสบการณ์ที่แตกต่าง ต่อให้เกรดคุณน้อย ผมว่าคุณก็มีสิทธิ์ครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 11
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 12
http://www.britishcouncil.org/th/thailand-student-education-higher-education-scholarships.htm
หรือ ลองสอบถามที่ธนาคารกรุงเทพ หรือ กพ. ก็ได้ค่ะ มีศูนย์แนะแนวค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 12