เราควรปฏิบัติตัวอย่างไรกับ Professor ที่เป็นที่ปรึกษาเรา

คือผมมาเรียนป.โทที่อเมริกาได้ 3 เดือนแล้วครับ แต่ปัญหาคือทำตัวกับอาจารย์ที่ปรึกษาไม่ถูกครับ

แกเก่งมาก จนแทบไม่มีเวลาคุยกับเราเท่าไรนัก
แต่ผมเป็นคนที่ต้องการความชัดเจนในการทำงาน ผมเลยเมลล์ไปถามอาจารย์เรื่องงานหลายรอบ แต่แกก็ไม่ค่อยจะตอบกลับและหลัง ๆ ก็นัดแก แกก็บอกยังไม่ว่างให้นัดกะเลขา ฯ ผมก็นัดนะพอไปถึงแกบอกว่า มาวันอื่นได้มั้ย แกยุ่งอยู่เลย T T

ตอนเรียนในห้องแกก็ถามให้เราตอบ บ่อยกว่าคนอื่น ๆ เราก็ตอบทุกครั้ง ถ้าเรารู้ มีอยู่วันนึงแกไม่ได้ถามเรา แต่เราตอบ.....ดันตอบผิด แกมองผมแบบยิ้ม ๆ แล้วพูดว่า " You are my graduate student here, but I still fail you " แล้วแก กับทุกคนในห้องก็หัวเราะ แต่ผมไม่เข้าใจ และเครียดเลย

จากนั้นก็ไม่ค่อยกล้าคุยกับแก บวกกับแกไม่ว่างก็เลยยังไม่ได้คุยกัน
ถามเพื่อนอเมริกัน เค้าก็บอกว่าถามไปเลยไม่ต้องกลัว บางคนก็บอกว่าระวังแกจะรำคาญเรานะ
ตอนนี้ก็เลยเครียดว่า ที่แกไม่ค่อยคุย ไม่ตอบเมลล์ แกคิดอะไรอยู่หรือว่าแกจะรำคาญ

เพื่อนๆ คนไหนมีประสบการณืเล่าให้ฟังบ้างครับ จะได้ปรับปรุงตัว (โดยเฉพาะประโยคที่แกพูด ผมไม่เข้าใจความหมายนัก แกผิดหวังกับเราหรือแกพูดเล่น ๆ )

ขอบคุณล่วงหน้าครับ

ความคิดเห็นที่ 1
มุขน่ะ เพราะคุณตอบแกผิด แกเลยมุขไปว่าถึงคุณจะเป็นนักเรียนแกแต่แกให้ตกนะ แบบไม่มีเข้าข้างไรเงี้ย ไม่ต้องซีเรียส ข้อแนะนำคืออย่าไปจี้ซุปมากนัก เค้ารู้ว่าหน้าที่เค้าคืออะไร ถ้าเค้าว่างเค้าก็ตอบคุณเองเพราะคุณได้ส่งเมลล์ไปถามแกแล้ว


ตอบกลับความเห็นที่ 1
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 2
คุณคนเดินดิน
โอ้ เป็นอย่างนี้นี่เอง
ขอบคุณมากเลยนะครับ เครียดมาหลายวัน


ตอบกลับความเห็นที่ 2
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 3
ที่คุณทำถูกต้องแล้ว ไม่รู้ก็ถาม ซุปว่าเขามาตอบเอง
ซุปจะได้รู้ด้วยว่า คุณเข้าใจมากแค่ไหน ต้องเสริมอะไรให้คุณ


ตอบกลับความเห็นที่ 3
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 4

คหสต.


"But I still fail you" ในที่นี้ อาจารย์บอกว่าตัวเองล้มเหลว ที่ถ่ายทอดความรู้ให้ศิษย์ของตัวไม่ได้ผลอย่างที่ควรเป็น

คือมันก็เเค่โจ๊กนั่นเเหละ เเต่เขาโจ๊กว่า 'ตัวเขาเฟล' ไม่ได้หมายความว่าจะให้ลูกศิษย์(คือคุณ) สอบตกเพราะตอบผิด


Just my 2 Cents.





ตอบกลับความเห็นที่ 4
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 5
เราว่าเป็นความหมายแบบความเห็น 1 ค่ะ เพราะถ้าจะพูดว่าคุณทำให้อาจารย์ผิดหวัง ต้องเป็น you failed me

ส่วนเรื่องการปฏิบัติตัวกับอาจารย์ เจออาจารย์ยุ่งมากก็ลำบากเราหน่อย แต่อย่างน้อยจากการที่อาจารย์เขาถามคุณบ่อยๆ ในห้องเรียนก็แสดงว่าสนใจคุณอยู่ คงต้องหาจังหวะว่าต้องนัดหมายหรือฉวยโอกาสคุยตอนไหน อาจจะเตรียมคำถามไว้แล้วคุยกับอาจารย์ตอนเลิกเรียนก็ได้นะคะ กับอีกส่วนนึงอาจต้องลองเริ่มทำงานเองไปก่อน (ไม่ใช่ถามอาจารย์ว่าจะให้ทำอย่างไร) แล้วได้ผลอย่างไรค่อยเอาไปคุย อาจารย์จะสามารถให้ความเห็นได้มากกว่าค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 5
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 6
ผมว่าตรงจุด "ผมเป็นคนที่ต้องการความชัดเจนในการทำงาน" นี่ คุณอาจจะต้องสังเกตอาจารย์หน่อยนะครับ อาจารย์บางคนมักจะไม่ค่อยมีเวลาและไม่ค่อยจะให้ความสำคัญในรายละเอียดตัวงานโดยเฉพาะงานที่เป็น research ของคุณเอง เช่นเวลามีหัวข้อที่อาจารย์เห็นด้วยแล้ว เค้าอาจจะอยากให้คุณไปศึกษาและหรือได้ผลอะไรบ้างแล้วค่อยเอาผลมา discuss กับเค้าว่าดีพอหรือยัง อาจารย์ที่ยุ่งมากๆ บางทีได้เจอปีละไม่กี่ครั้งก็มีครับ

อาจจะต้องลองปรับนิดหนึ่งครับ พอมี idea อะไรที่คิดว่าน่าจะดีและอาจารย์น่าจะสนใจก็ลองเลย หรืออาจจะ email บอกก่อนก็ได้ หลายๆ ครั้งงานพวก research เป็นเรื่องใหม่ แม้แต่อาจารย์ก็ไม่สามารถให้คำตอบแน่ชัดได้ครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 6
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 7
เป็นกำลังใจให้ครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 7
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 8
คุณ UlingChi
คุณ Jennifer Lowclass
คุณ สลิน
คุณ en ligne
ขอบคุณทุกความเห็นจริง ๆ ครับ แล้วผมจะปฏิบัติตามที่ทุกท่านแนะนำมาครับ
ขอบคุณอีกครั้งครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 8
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 9
คุณ MG-Jlin (MG-Jlin)
ขอบคุณมากครับ
ความจริงผมส่ง Proposal ไปให้แล้ว
เพราะหัวข้อที่คุยกันได้ข้อสรุปแล้ว ผมก็เลยเขียน Proposal ไปหลังจากที่คุยกันประมาณ 1 สัปดาห์ แล้วก็ถามว่าท่านอ่านหรือยัง ท่านบอกว่ากำลังดูอยู่

พอดีว่าอุปกรณ์ทุกอย่างพร้อมแล้ว แต่แกยังนิ่งอยู่ก็เลยไม่แน่ใจว่าแกจะให้เริ่มเลยหรือไม่
เมลล์ไปถามก็ไม่ได้คำตอบเลยครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 9
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 10
ดิฉันคิดเหมือนคุณJennifer Lowclassค่ะ แต่ยังไงก็เป็นโจ๊กเหมือนกัน อย่าคิดมาก ส่วนเรื่องที่อาจารย์ไม่ค่อยตอบ ไม่รู้จะทำยังไงต่อ ลองปรึกษารุ่นพี่ที่มีprofessor เดียวกันดูว่าต้องทำอย่างไร อาจารยฺ์ทำงานสไตล์ไหน

บางทีทำงานที่ไทยต้องรายงานอาจารย์ทุกอย่าง ไม่อย่างนั้นถือว่าไม่ให้เกียรติอาจารย์ แต่เมืองนอก อาจารย์เหมือนไกด์ คอยแนะนำแต่ไม่ลงรายละเอียด


ตอบกลับความเห็นที่ 10
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 11
อย่าไปคิดอะไรมากมายเลยกับการที่คิดว่าตอบอะไรผิดไป แล้วพอ อจ ตอกกลับมาแบบขำๆ คนก็หัวเราะกัน

ปู้โธ่..ใครจะวิเศษขนาดที่จะตอบ all the answers under the Sun ได้ถูกต้องไปหมด อย่ากังวลจนไม่กล้าอ้าปากพูดอะไรใน class อีก เพราะหลายๆคำตอบมันไม่ได้ว่าจะต้องถูกต้องผิด แต่มันสามารถที่จะช่วยให้คนคิดอะไรต่อได้อีก


ตอบกลับความเห็นที่ 11
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 12

อาจารย์เขาไม่ได้พูดว่า จขกท ทำให้ตัวเขาผิดหวัง (You failed me) ค่ะ

เขาบอกว่า ตัวเขาทำให้ลูกศิษย์ผิดหวังต่างหาก (I failed you หรือเอาตามที่ จขกท ได้ยินคือ I fail you) คือเเกโจ๊กว่าตัวเเกสอนไม่ได้เรื่องว่าอย่างนั้นเถอะ

เเต่ไม่ว่าอาจารย์จะพูดว่าตัวเองสอนไม่ได้เรื่อง (I failed you) หรือจะบอกว่าเเกจะให้ลูกศิษย์ตก (You'll get an F) มันก็เป็นเเค่ teasing เล็กๆเอง อย่าคิดมากเลยจ้า



ตอบกลับความเห็นที่ 12
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 13
อย่าไปคิดมากค่ะ ผ่านมาแล้ว
ตอนนี้เอาเรื่องว่าจะเริ่มทำงานเลยดี หรือว่ารอแกก่อนดี

เราคิดเหมือนคุณ en ligne ค่ะ ว่าต้องดูว่าสไตล์การทำงานแกเป็นยังไง
บางที แกไม่มานั่งบอกขั้นตอนเราอย่างละเอียดหรอก
ที่ว่าอุปกรณ์พร้อมนี่ เรียนทางวิทยาศาสตร์รึเปล่าคะ อาจารย์มีนักเรียนคนอื่นมั้ยคะ หรือ postdoc
บางที เริ่ม train เทคนิคบางอย่างจากนักเรียนคนอื่น หรือ postdoc ไปเลยก็น่าจะได้
แต่ควรแจ้งให้แกทราบก่อนเท่านั้นเอง ถ้าแกไม่ชอบใจ เดี๋ยวแกก็มาบอกเอง

ทั้งนี้ทั้งนั้น ขึ้นกับสไตล์อาจารย์จริงๆ ค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 13
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 14
มักมีจดหมายโยนทิ้งไว้บนโต้ะทำงานผมที่ภาควิชา จากอาจารย์ที่ปรึกษาผมเอง
เป็นจดหมายที่นักศึกษาใหม่ จากต่างประเทศ
เขียนเข้ามาแนะนำตัวเอง กับที่ปรึกษาในอนาคตของเขา
คือเขา กำลังจะมาเป็นเพื่อนใหม่ ของพวกเราในภาควิชา นั่นเอง

ดีใจ เมื่อรู้ว่า คนใหม่ที่กำลังมา เป็นคนไทย
จบโทจากจอร์เจีย เป็นข้าราชการ ลามาศึกษาต่อ
และได้อาจารย์ที่ปรึกษาคนเดียวกันกับผม

เวลาผ่านไปค่อนเทอม
อาจารย์ที่ปรึกษาผม ออกอาการกับนักศึกษาใหม่จากไทยคนนี้
คล้ายกับที่คุณเล่ามา ว่า คุณโดนอะไรเข้าไปบ้าง

วันหนึ่ง ท่านอาจารย์ที่ปรึกษาถามผม เชิงขอความเห็น ว่า
เพื่อนผมคนนี้ สมควรเป็นนักศึกษา ป.เอก หรือไม่ !


ทำไมท่านถาม อย่างนั้น

เพื่อนใหม่ผมจากไทยคนนี้
เป็นเด็กเรียบร้อย พูดจาค่อยๆแผ่วๆ คือ สุภาพตามมาตรฐานไทยเต็มร้อย
น่าตาดี ใบหน้ายิ้มละมัย กระเดียดไปทางผู้หญิงสวย
เขาไม่ใช่ตุดแน่นอน เพราะมีเมียมาเรียนล่วงหน้า ณ ที่เดียวกัน เกือบสองปีแล้ว

ความรู้ความสามารถทาง Academic ไม่มีปัญหา
เพราะจบจาก state university ระดับมาตรฐาน
เป็นคนที่ระมัดระวัง ไม่พยายามคิดนอกกรอบ
แต่ถ้าสั่งให้ทำงาน จะเอาเป็นเอาตาย หามรุ่งหามค่ำ
มีการติดต่อกับอาจารย์ที่ปรึกษา เพื่อขอความเห็น ในทุกขั้นตอนการทำงาน
จนบางวันโดนอาจารย์ เอาเท้าปิดประตูห้องทำงานใส่หน้าก็มี
ขณะที่เขาเก้ๆกังๆ ว่า จะเข้าไปรบกวนอาจารย์ดีหรือไม่
แบบนี้ใครก็ใจเสียนะ

คุณจะมีบุคลิก หน่อมแน้มอย่างนั้นหรือไม่ ไม่ทราบ
หรือถ้ามีอะไรคล้ายๆกัน ก็เปลี่ยนเสีย เรื่องก็จบ
ไม่มีอาจารย์ทีปรึกษาที่ไหน ยินดีต้อนรับนักศึกษา
ที่ทำท่า ทำทาง จะมาตายใส่เขาหรอก
ถ้าไม่ชอบ ขออภัยครับ

ตอบกลับความเห็นที่ 14
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 15
ความหมาย ประโยคนั้น เป็นแบบที่คุณ Jennifer Lowclass ตอบใน คคห ๒ และ ๑๒ สุดๆ ๑๐๐ ปซ
ประโยคนั้น ไม่มีอะไร ไม่ต้องคิด
ข้อสำคัญ มาเรียนอะไร แล้วที่ว่า เรื่องงานนั้น งานอะไร วันนัดเก่าและใหม่เมื่อไร ได้พบ ได้เข้าใจแล้วยัง
ตั้งกระทู้ใหม่ บอกด้วย จะได้ช่วยกันบอกว่า จะทำอย่างไรนะ


ตอบกลับความเห็นที่ 15
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 16
คุณ โตช้าแก่เร็ว
คุณ PatPDX
คุณ Jennifer Lowclass
คุณ เป็นแค่เพียงเม็ดทรายบนชายหาด
คุณ newcomer
ขอบคุณทุกท่านอีกครั้ง ช่วยผมได้มากเลยทีเดียว เรื่องประโยคนั้นหายเครียดแล้วครับ T T
เหลือแต่เรื่องงาน สิ่งที่ยังกังวลอยู่ก็คือว่า ไม่รู้จะเริ่มได้เลยหรือไม่ เพราะผมเคยถามไปหลายครั้งแกก็ยังไม่ตอบกลับมาว่าสิ่งที่ผมเสนอไปโอเคหรือเปล่า
บ่อยแค่ไหน ก็ประมาณว่าหลังจากคุยกันจบหนึ่งครั้งและผมก็ส่ง Proposal จากนั้นก็ถามถึงผลของ Proposal (แกบอกว่าพิมพ์ออกมาแล้ว ขออ่านก่อนนะ) ครั้งที่สาม 1 เดือนถุดมาผมก็ถามพร้อมแจ้งไปว่าอุปกรณ์การทดลองที่แกให้สั่งมาน่ะมาถึงแล้วนะ จะให้ลุยเลยหรือไม่ (แกก็บอกว่าแกกำลังดูในรายละเอียดให้ เพราะว่าโครงการนี้มันละเอียดอ่อน) ตั้งแต่นั้นผมก็ยังไม่ได้คุยเลยมาจนถึงวันนี้ก็ครึ่งเดือน
แต่ผมสรุปเอาเองว่า รอแกบอกมาว่าจะให้เริ่มตอนไหน เพราะวันนี้ผมเพิ่งคุยกับเพื่อนใน Lab เดียวกันว่าแกทำงานแบบไหน เพื่อนบอกว่ารอให้แกบอกก่อน แต่ถ้าสงสัยก็ถามไปเถอะ
คุณ ธนิตา
ขอบคุณมากครับ ผมจำได้ว่าก่อนผมจะมาเรียนที่นี่ได้ ผมแอบอ่านทุกกระทู้ที่เป็นของคุณธนิตา คุณ ธนิตาใจดีมากครับ ที่เสียสละเวลามาตอบให้กับเพื่อน ๆ หลาย ๆ คน
ขอบคุณมากครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 16
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 17
รู้สึกว่า จขกท ต้องมั่นใจในตัวเองหน่อยอะ


ตอบกลับความเห็นที่ 17
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 18
ครึ่งเดือนแล้ว ก็ควรจะไปถามอีกได้แล้ว อย่าปล่อยให้นานนะ


ตอบกลับความเห็นที่ 18
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 19
คุณ lovelypriest
ผมไม่แน่ใจว่าต้องมั่นใจยังงัยครับ
คุณธนิตา
ขอบคุณมากครับ เพิ่งถามไปก็ได้คำตอบเหมือนเดิมครับ ตอยยี้ผมก็เลยเฉย ๆ ปล่อยไปก่อนครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 19