(CR) Korea Suwon city และ ยิบย่อย

บนเครื่อง T-way ครับ เครื่องบินแบบโบอิ้ง ที่นั่ง ข้างละ 3 แบบว่าผมไปนั่งหลังเลย เพราะด้านหน้ามีแต่กรุ๊ปทัวร์ เครื่องแอบเก่านะ

ตอนเครื่องจะ take off มีคนเกาหลีผู้หญิงด้านหน้าผมทางขวามือกรีดร้องอะไรไม่รู้ แล้วหลังจากนั้นแอร์ก็สั่งให้ผมปิดหน้าต่าง แล้วแอร์สองคนก็มะรุ้มมะตุ้มเอาถังออ๊กซิเจน มาครอบปาก ญ เกาหลี มีอายุเหมือนกัน ผมก็เดาเอาว่าเป็นโรคกลัวเครื่องบินหรือป่าว ถึงกรีดร้อง ญาติเธอก็ร้องไห้ด้วยผมก็งงๆ แต่หลังจากนั้น ญ คนนั้นก็หายดี มองผ่านหน้าต่างออกไป ผมก็อะไรว่ะ นึกว่ากลัวความสูง หรือว่า เป็นลมบ้าหมูแน่ๆเลย ก็เพิ่งเคยเจอครั้งแรกเนี่ยแหละ ส่วนแอร์สาวสี่คนในลำนี้ ถือว่า หน้าตาสอบผ่านทีเดียว แต่ยังสู้ Korean air ไม่ได้ครับ แต่ขาที่ผมกลับเนี่ยสิ ความสวยของทั้งสี่คนนี่ระดับ korean air ทีเดียว เล่นเอาผมมองตาไม่กระพริบเลย

ถึงอินชอน ตามสูตร ผ่านตม. สาว เกือบสวย หน้าตาดีทีเดียวแต่ดูทอมๆหน่อยนะ จ้องหน้าเราทีนึงแล้วก็ปั๊ม ตู้ม ผ่าน เครื่องที่มาด้วยกันมีสองสาวก่อนหน้าไม่ผ่านตม.ครับ ผมเห็นเข้าไปแล้วตม.ถามไรก็ไม่รู้แล้วไล่กลับเข้ามาให้เดินไปทางซ้าย เข้าใจว่าไล่ไปห้องเย็น นี่เป็นครั้งแรกเช่นกันที่เห็นว่ามีคนไม่ผ่านตม.เกาหลี

มาแอบปาด ด้วยค่ะ

คุ้นๆว่าราคาออกปั๊ป แทบจะบินปึ๊ปเลย ราคาเท่าไหร่ครับ

เนื่องด้วยแผนไม่ได้วาง รู้แต่ว่าวันแรกจะไปซูวอน ดังนั้นเลยยิงยาวจาก อินชอนไปซูวอนเลยครับ ลงไปซื้อบัตร T-money ที่ G25 ตรงทางออกเดินไปขวามือตรงที่รอรับคนก่อน แต่ถ้าซื้อที่ 7-11 ให้เดินไปทางซ้ายหลังจากออกประตูหลังผ่านศุลกากร บัตร t money ที่7-11 จะมีลายสวยๆไม่ใช่เป็นบัตร แต่จะแพงกว่าครับเก็บเป็นที่ระลึกได้ ก็เลือกเอาละกัน สนนราคา 2500 won ต่อใบ แอบเซงนิดนุง ตรูลืมเอาบัตรมา เพราะยังมี T-money จากรอบที่แล้วที่ไปอยู่ แต่หมดอายุหรือยังไม่รู้ ไปมาเมื่อสงกรานต์นี้ แต่ช่างมันก็ต้องซื้อใหม่ แล้วไปชาร์จตัง 20,000 วอนก่อนที่ตู้หน้าทางเข้ารถใต้ดิน

@tottui 7,900

หลังจากนั้นก็เปิดแผนที่รถใต้ดิน ที่ขอมาจาก tourist information ที่สนามบิน ก็ดูไปดูมา ตกผลึกว่าจะนั่ง arex ไปที่ seoul station แล้ว ไปต่อรถไฟอีกสาย ซึ่งคือ line 4 ไป Suwon ดูตามแผนที่ในเล่มเล็ก มันมากระจุกเหมือนจะ link กันใกล้หน่อยครับ แต่พอไปถึงมันไม่ลิงค์อ่ะดิ

ดูหน้าตาบัตร t-money

มาตามไปซูวอนด้วยคนค่ะ...จะกี่ครั้งก็ยังอยากไปเกาหลีเหมือนกันเลย

ถึง seoul station เดินไปต่อ line 4 ครับ ต้องออกมาด้านบน พอออกมาปุ๊บโอ้แม่จ้าว คว้าเสื้อกันหนาวไม่ทันเลนทีเดียว หนาวววววววววโคตรครับ ไม่เคยเจอความหนาวขนาดนี้มาก่อนเลยในชีวิต ประมาณ 2-3 องศาได้ครับ seoul station นี้เป็นที่รวมรถนานาชนิดครับ ถ้าจะขึ้นหัวจรวดไปเมืองต่างๆก็มาขึ้นที่นี่ จิงๆผมก็นั่งคิดว่าจะขึ้นหัวจรวดไปนอนปูซานคืนนึงดีป่าวว่ะ เพราะยังไงที่ซูวอนก็ยังไม่ได้จองที่พัก ปรากฎว่าคิดไปคิดมา ค่าตั๋วหัวจรวย ไปกลับ สามพันบาทไทย เพื่อไปนอนปูซานคืนนึงดูมันเป็นการกระทำที่โง่เขลาไปหน่อย เลยคิดว่าก็ตามเดิมไปซูวอนดีกว่า วันหลังจะไปปูซานก็รอโปร บินด่วนแบบนี้อีกทีแล้วไปปูซานสามคืนเลยดีกว่า

ตามรูปดาราเกาหลีคนนี้ใครอ่ะ ผมไม่รู้จักหรอก

ขอไปเที่ยวด้วยคนนะคะ ^ ^

บัตร T money ใช้ได้เรื่อย ๆ ค่ะ ไม่มีหมดอายุค่ะ ของเราตั้งแต่ ปีก่อนโน้น ยังใช้ได้อยู่ค่ะ

ตามไปเที่ยวโปรถูกด้วยค่ะ ^_^

เหอๆ รูปเล็กเอาใหม่

คนนี้ครับ ใคร?

ทำไมรูปเล็กแว้ แก้ก่อน

ไม่เอาละ ต่อๆ แล้วก็นั่งไปซูวอนครับ ชั่วโมงนึงได้ ต้องไปต่อ line 4 สีฟ้า ไปลงที่ Geumjeong เพื่อขึ้นรถไปสาย 1 ไป Suwon city

ระหว่างบนรถแอบถ่ายรูปสาวสวย หน้าคล้าย จียอน ทีอาร่าเลย อ่าวรู้จักเพิ่มอีกคนละผม เพิ่งนึกออก ถ่ายได้แค่ด้านข้างเอง

ถึงละ Suwon station

พอถึงปุ๊บ รีบหาที่พักทันที ตามที่คุณแอนแนะนำมา ปราฎว่าหาไม่เจอ 555 มุดใต้ดินข้ามไปอีกฝั่ง ที่ suwon station หาร้านที่มีรูปควัน ปรากฎว่าหาไม่เจอ เลยเดินหาที่พักทุกซอย ปรากฎว่ามีที่พักจริงครับ มีแต่ MOTEL เพียบ เดินเข้าไปปุ๊บ แต่ละแห่งคนดูแลพูด ENG ไม่ได้ซักคน พี่แกใส่เกาหลีใหญ่เลย เท่าที่ดูท่าท่งอนุมานได้ว่า จะชั่วคราวหรือค้างคืน 555 เข้าไปผมก็แอบมองนะ มีเด็กวัยรุ่นเกาเหลาประมาณ สิบปลายๆ ยีสิบต้นๆ อนุมานได้ว่าจูงมือกันมาซั่มกัน กำลังเข้าห้องพัก ไอ่เราคิดในใจ อืมประเทศนี้คงเสรีกว่าบ้านเราแยะ จูงมือเข้ามา กันหน้าตาเฉย ปรากฎว่าเข้าไป 5-6 ที่ พูดไม่รู้เรื่องเลยไม่เอาดีกว่า เด่วมันนึกว่าตูมาแค่ชั่วคราว เลยเดินออกมาหาไรกินหน้าปากซอยตรงข้าม sowon station ที่ร้านนี้ อร่อยโฮกๆ ใครจะไปจำไว้

พออิ่มท้องเสร็จก็เดินมุดใต้ดินกลับมาฝั่ง station เดินไปทางซ้ายของสถานี หากหันหน้าเข้าถนนนะ ไปที่ tourist information ว่าแนะนำที่พักให้หน่อย สาวสวยพนักงานแอคชั่นทันทีถามว่า จะเอาแบบไหน เกสท์เฮาส์หรือ โฮสเทล หรือโฮเทล ผมบอกเอาเกสท์เฮาส์ ถ้าไม่มีเอาไรก็ได้ไม่ซีเรียส เธอก็ต่อสายไปที่เกสท์เฮาส์อะไรไ่ม่รู้ แล้วบอกว่าที่นี่ว่างไปได้เลย เอาแผนที่มาวงให้ ปรากฎว่าที่พักอยู่แถวป้อมฮวาซองที่จะต้องไปอยู่แล้ว ใกล้ๆกับประตู paldamun ก็เลยนั่งรถสาย 11 หน้า station ไปลง paldamun

ลงปุ๊บก็เดินหาที่พักปั๊บ ปรากฎว่าหาที่เขาบอกไม่รู้อยู่ไหน ขี้เกียจละ เจออะไรก็พักไปเถอะ ปรากฎว่าพักที่ ฮวาซอง เกสท์เฮาส์ ไม่ค่อยมีคนเท่าไหร่ เจ้าของพูด ENG ดี คำแรกที่ถามคือ คุณคือ เจแปนีสใช่ไหม เอ่อ มะช่ายอ่ะ หว่อ มาจาก ไท่กว่า

ห้องก็พอนอนได้หล่ะว้า ห้องน้ำรวมครับ แต่รู้สึกว่ารวมไม่รวมก็ค่าเท่ากัน แทบไม่เห็นแขกคนอื่นเลย

เข้าที่พักอาบน้ำเสร้๗ก็สี่โมงเย็นได้ แล้วก็เดินมั่วซั่วมาเดินบนกำแพงทางด้านขวามือของ paldamun ก่อน เดินไปเรื่อยๆ พร้อมกับนำมูกที่เริ่มไหลแบบไม่รู้ตัว ทำไมหนาวโคตรบิดา มารดาอย่างนี้ว่ะ คิดถูกคิดผิดว่ะเนี่ยมาหน้านี้ หนาวเกินไป ถุงมือ หมวกไหมพรม เสื้อหนาวแทบเอาไม่อยู่ ไม่มีลมไม่เท่าไหร่ แต่บนกำแพงลมโกรกตลอด เดินไปจนถึงประตูอีกด้าน ที่ีมีรถทัวร์จอดเยอะๆ ขอลงจากกำแพงเดินด้านล่างดีกั่ว ไม่ไหวจริงๆ หนาวโพดๆ พระอาทิตย์ก็ตกแล้วด้วย

ขาเดินกลับที่พัก เดินมั่วๆเข้าซอยโน้นซอยนี้เอ้ย ร้านอะไรฟร่ะคนเพียบเลย ต่อคิวซื้อกลับบ้านกันด้วย เลยเดินไปใกล้ๆ อ่อ ขายไก่ทอด เอ๊ะคุ้นๆ ตรูจดมานี่หว่า มีคนมาบอกว่าไ้ก่ทอดอร่อย ร้านนี้แน่ๆ ไม่ต้องสืบ ว่าแล้วก็เดินเข้าไปเล้ย สั่งมา ชี้เอาแบบโต๊ะข้างๆเนี่ยแหละ เด็กวัยรุ่นกินกันเพียบ มาสองคนแฟนกันหลายโต๊ะ บางโต๊ะสั่งมาสองจานแหนะ แบบสองรสชาด ตรูคิดในใจ ตรูมาสามคนกินจานเดียวแทบไม่หมด มันกินกันคนละจานยังไงว่ะ

ที่น่าแปลกคือคู่แฟนกัน สองสามโต๊ะนั้นผู้ชาย สั่งโค้ก ผู้หญิงกินเบียร์ครับ แก้วเบ้อเริ่ม งงเลยตรู ที่บ้านตรู ญ กินโค้ก ชายกิน เบียร์

อ่ะเมนูไปอ่านเอาเองอ่านไม่ออก แบบว่าสนนราคาไก่ตัวละจานมั้ง

ตื่นเช้ามาอีกวัน เป็นการเดินทางวันที่สอง เดินชิวๆเข้าเมือง ผ่านวังแดจังกึม วังไรก็ไม่รู้มีรูปแดจังกึมอยู่ด้านหน้า แต่ผมไม่เข้าไปหรอกนะ ผมไม่ชอบเท่าไหร่ แค่ถ่ายรูปชะเง้อดูด้านหน้าก็พอแล้วมั้ง รูปผมถ่ายลงมาจากด้านล่างนะ ตอนเดินไปบนกำแพงแล้ว

แล้วก็เดินไต่กำแพงต่อไปท้าลมหนาวยามสายๆ ก่อนกลับไปโซล เดินไปเดินมาจะลงอยู่ละ โดนเก็บตังค่าเดินซะงั้น คนละ 1000 วอน อือ จ่ายไป

กลับมาที่พักปุ๊บเอากระเป๋าออก มาจะขึ้นรถกลับไป Suwon station เดิมที่ว่าจะไปกินกลางวันที่โซล ลงมาปุ๊บ คิดทีแรก กลับสาย 11 สายเดิมดีกว่า แต่เอ๊ะทำไมสาย 11 ไม่จอดฟร่ะ มันก็ผ่านนะเห็นๆอยู่แต่ไม่จอด ลองมองไปที่ป้ายรถได้ความว่า สาย 11 คงไม่จอดป้ายนี้ เพราะไม่มีเขียน ก็เลยคิดว่าเดินไปขึ้นป้ายหน้าตรงวงเวียน paldamun จุดตรงที่ลงรถดีกว่า แต่ฝั่งตรงข้ามกัน แต่ต่อมขี้เกียจดันแรงกว่า นึกขึ้นได้ขึ้นสายไรก็ได้ขอให้ถึง Suwon station ก็ได้หนิ ว่าแล้วเลยอ่านสายรถที่ผ่านว่ามีอะไรผ่าน ซูวอน สเตชั่นบ้าง ปรากฎว่าตาลายหาไม่เจอซักที เลย มองเป็นเห็นคนข้างๆสาวเกาหลีนางหนึ่งน่ารักทีเดียว คิดว่าน่าจะรู้เรื่อง eng บ้าง ปรากฏว่า เธอก็ไม่รู้ว่าสายอะไร แต่เธอก็มีน้ำใจมาช่วยอ่านให้ว่าสายไปซูวอน สเตชั่นบ้างปรากฎว่าคือ สาย 66-4 ครับ ว่าแล้ว พอรถมาปุ๊บก็ขึ้นปั๊บ เราก็ดูว่า 10 ป้ายคงถึง เรา่นับมาจากที่เขียนที่ป้ายรถเมล์ แต่ตอนขามานั่งสาย 11 มา paldamun แค่ สามสี่ป้ายเอง คิดในใจ ว่ามันคงไปคนละทางกันนิดนึงเลย 10 ป้ายก็ไม่เป็นไร นั่งไป

นั่งไปนั่งมาทำไมไกลจังว่ะ นี่มันเกิน 10 ป้ายแล้วนะเนี่ย ทำไมมันเริ่มออกนอกเมืองว่ะ ชักรนละ ตัดสินใจเดินไปถามคนขับว่า suwon station คนขับ speak korean มาเลย แล้วหัวเราะ ได้ความโดยสามัญสำนึกว่า ตายหล่ะหว่ากรูนั่งผิดฝั่งแน่ แหม่ เชื่อใครไม่เชื่อ ไปเชื่อคนเกาหลีที่ไม่รู้เรืิ่องเหมือนกัน เลยนั่งผิดฝั่งซะงั้น พอรู้ตัวปั๊บ ตรูลงทันทีเลย ก่อนที่จพถลำไปไกลกว่านีิ้ นั่งมาตั้งชั่วโมงนึงแหนะ ลงจากป้ายปุ๊บข้ามฝั่งมาทันทีเลย เจอสาวน้อยนางหนึ่ง ยืนอยู่ที่ป้ายเลยถามว่าไป Suwon station สาวน้อยนางนั้นเลยบอกว่า 66-4 นั่นแหละ ตรูว่าแล้วตรูนั่งผิดฝั่ง แล้วก็ขอบใจนะจ๊ะสาวน้อย รถมาปุ๊บขึ้นกลับทันที ก็ต้องผ่านที่เดิมด้วยแต่คนละฝั่ง มันวิ่งคนละด้านกับ สาย 11 แต่ไปจอดที่ suwon stationเหมือนกัน แต่คนละฝั่งกับสาย 11 ผมนั่งหลังเลย ตอนขึ้นคนไม่เยอะ นั่งไปสองสามป้ายคนเพียบเลยอย่างแน่น คิดในใจ ดีนะที่รู้ตัวช้าเลยใกล้ต้นทาง ขืนรู้ตัวเร็วลงเร็ว ขึ้นกลับมาอีกทีคงไม่มีที่นั่ง ยืนไม่กลัว กลัวกระเป๋าเกะกะ

มาถึง suwon station เสียเวลาเกือบสองชม. คงไปกินที่โซลไม่ไหวละ ตัดสินใจกินร้านเดิม ซอยนี้นะจำไว้ อร่อยจิงๆ โดยเฉพาะข้าวหน้าหมูเกาหลี เห็นป่ะร้านเหลืองๆทางขวามือ

นี่เป็นไง อร่อยโฮกๆ ข้าวหมูเกาหลี

เกาะท้ายไปเที่ยวซูวอนด้วยครับ..

หลังจากนั้นนั่งรถมาที่โซลครับ ผมจองที่ Sinchon hostel จิงๆแล้วอยากพักที่เดิมคือ 41 studio แถวฮงอิค จริงๆก็ไม่เต็มครับ แต่ว่าอยากลองเปลี่ยนบรรยากาศมั่ง เลยมาพักที่นี่ ขอตอบว่าถ้าจะให้มาพักอีกจะไปพักที่ 41 studioครับ ถึงจะแพงกว่า แต่ก็สะอาดกว่า ใหม่กว่า ด้วยครับ พอถึงปุ๊บก็ไป เมียงดง นั่นแหละครับ คือจะไปแค่กินไอติม กับซื้อเครื่องสำอางค์ตามใบสั่งนั่นแหละ จริงๆซื้อที่ไหนก็ได้ผมเห็นมีทุกที่ แต่ผมขี้เกียจหา ผมจำร้านที่เมียงดงได้ว่ามันอยู่ตรงไหนเลยไปที่นั่นซะเลย มันมีทุกยี่ห้อตามใบสั่ง เลยไปซะ รูปไม่ต้องลงนะครับ มันที่ยอดฮิต ผมก็ขี้เกียจถ่ายรูปมาเหมือนกัน แล้วก็ไปเดินคลองเกชอนครับ

เอารูปซูวอนไปเยอะๆหน่อยละกัน เด่วจะหาว่าไปซูวอน แต่ไม่มีรูปมาลงเลย

1

ลงผิด

1

1.

2.

3

4 รูปเล็กไปหน่อย ขออภัย