สงสัย คนที่ได้ ล๊อตโต้กรีนคาร์ดนั้น เขาไปเริ่มต้นใช้ชีวิตที่อมเริกาอย่างไรครับ

เคยเห็นสถิติที่ผ่านมา บางประเทศแถวอัฟริกา ได้เยอะมาก

พอได้แล้วเขาจะเริ่มไปใช้ชีวิตอย่างไรครับ สมมติว่าญาติก็ไม่มี ไม่รู้จักใคร

ภาษาก็ไม่เก่ง แบบนี้ จะต้องเริ่มต้นอย่างไรครับ

แล้วพวกอัฟริกานี่ อาจจะมีบางคนที่ฐานะคงยากจนแน่ๆ

แล้วอย่างนี้ มีกองทุนอะไรที่ช่วยเหลือพวกเขาก่อนไหม

แบบว่าช่วยออกค่าเครื่องบินก่อน แล้วไปถึงก็ทำงานใช้หนี้สักพัก

ทุกอย่างค่อยๆอยู่ตัวหรือครับ

.........................................................................................

มีใครหรือเพื่อนใคร คนรู้จักใครได้ ล๊อตโต้กรีนการ์ด

แล้วแบบว่าไม่มีเงินที่จะไปเริ่มต้นที่นั่น

แต่สุดท้ายพอมีหนทางไปจนได้ ในที่สุดก็ทำงานใช้หนี้ หรือว่า

สามารถปรับตัวและอยู่อเมริกาจนได้บ้างไหมครับ

อยากรู้ครับ

ความคิดเห็นที่ 1
เมื่อโชคดีได้รับเลือกล็อตโต้ใบเขียวแล้ว ก็ต้องหาทางมาใช้ชีวิตในเมกาด้วยตัวของตัวเอง จะให้ทางรัฐบาลเมกันออกโน่นนี่อะไรให้ไม่มี เพราะนี่ไม่เหมือนนักรบแรงงานของเมืองไทย ที่ไปทำงานต่างประเทศ โดยมีเอเย่นต์หรือนายจ้างออกค่าใช้จ่ายเดินทางให้ก่อน หากรู้ตัวว่าภาษาก็ไม่ได้ ก็ไม่ควรสมัคร เพราะการมาใช้ชีวิตที่เมกานี่ภาษาเป็นสิ่งที่สำคัญยิ่ง หากพูดฟังภาษาไม่เข้าใจ ก็ไม่รู้จะหางานการทำได้ที่ไหน ผู้ที่ได้ใขเขียวจากล็อตโต้นี้ เขาก็มากันและมาหางานทำที่นี่ หลายๆคนก็ไม่มีเพื่อนฝูงหรือญาติพี่น้องในเมืองที่จะไปอยู่เลย แต่ก็สามารถไปอยู่ได้ ดังสมาชิกห้องนี้รายนึง ขออนุญาตเอ่ยนาม "คุณสามีนุ่น" ก็ได้รับใบเขียวจากการที่ภรรยาสมัคร แล้วพาครอบครัวมาอยู่ในฮาวายเมื่อเร็วๆนี้ เป็นต้น


ตอบกลับความเห็นที่ 1
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 2
บางทีการได้ล็อตโต้กรีนการ์ดก็อาจจะไม่ได้เป็นโชคดีเสมอไป อาจจะเป็นทุกขลาภก็ได้ ถ้าไม่มีเงินเลยอาจจะไม่ได้กรีนการ์ดตั้งแต่แรกเพราะในขั้นตอนต้องโชว์หลักฐานการเงินว่าไม่ต่ำกว่าที่กำหนดไว้หรือมีคนสัญชาติอเมริกันเป็นผู้รับรอง จะมาเริ่มต้นแบบไม่มีอะไรเลยน่าจะเป็นไปได้ยากมากในประเทศนี้ เอาแค่อยู่เฉยๆนั่นก็คือเสียเงินค่าที่พักต่อวัน ค่ากิน ค่าอยู่เยอะกว่าที่ไทยมากแล้ว


ตอบกลับความเห็นที่ 2
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 3
นาย Omar ของผม เขาก็ได้ Lotto จากประเทศของเขาที่ ghana เดินทางไปใช้ชีวิตที่ New York แต่กอ่นนั้นเขาเคยมีหน้าที่ เป็นครูสอนเลขให้เด็กๆที่ประเทศของเขา แต่ที่อเมริกา เขามีหน้าที่ได้ดีกว่าเป็นครู คือเป็นคนประจำตัว ช่วยเหลือผมอยู่นี้

สองปีที่ผ่านไป Omar ได้เสียเงินอีก $550 ไปเรียนเป็น home attendant อยู่ตั้งสองอาทิตย์ กว่าจะได้หน้าที่ระดับนี้


ตอบกลับความเห็นที่ 3
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 4
คห 2

ไปเอามาจากไหนที่ว่า กรีนการ์ดล็อตโต้นี้ต้องแสดงฐานะทางการเงินและต้องมีคนสัญชาติเมกันเป็นผู้รับรอง ? ไปอ่านรายละเอียด Qualification ของผู้มีสิทธิ์สมัครก่อนแล้วค่อยมาแสดงความเห็น เขากำหนดคุณสมบัติแค่ ต้องจบการศึกษาระดับมัธยมตอนปลายหรือเทียบเท่า หรือ ผ่านการทำงานมาเป็นเวลาติดต่อกันไม่ตำกว่า 2 ปี เท่านั้น และที่สำคัญ ต้องเป็นประชากรในประเทศที่ไม่อยู่ในรายชื่อห้ามสมัคร (ประเทศไทยไม่เกี่ยว)

ไปดูที่ www.green-card-dv-lottery.com/requirement/


ตอบกลับความเห็นที่ 4
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 5
จาก DV2006 สนับสนุน คห 2 คะ
ในขั้นตอนการสัมภาษณ์ จะมีรายละเอียดเพิ่มเติมจากตัวเอกสารที่ได้รับพร้อมกับการนัดสัมภาษณ์ ซึ่งจะแจ้งให้ทราบว่า "ควรจะ" มีเงินสำรอง เพื่อสนับสนุนให้สามารถดำรงชีวิตอยู่ในประเทศอเมริกาในช่วงเริ่มต้นได้ โดยจะมีสัดส่วนจำนวนเงิน ต่อค่นเท่าไหร่
และจะมีข้อความในเอกสาร ซึ่งจะบอกชัดเจนว่า หากคุณได้รับ กรีนคาร์ด จากสหรัฐแล้ว จะไม่ทำตัวเป็นภาระของรัฐบาล ซึ่งอาจจะหมายถึง เมื่อมาถึงแล้ว คุณไม่ควรจะมาแบมือขอเงินรัฐบาล เพื่อให้ช่วยเเหลือ จากการไม่มีงานทำ
ดังนั้นการได้รับจดหมายว่าคุณได้รับ green card lotto ไม่ได้หมายความว่า คุณจะสัมภาษณ์ผ่าน และได้รับสิทธิ์ที่จะมาอยู่อาศัยถาวรในอเมริกา ทุกคน
บางคนมีแค่คุณสมบัติขั้นตอน คือการเป็นคนไทย และมีการศึกษาอย่างน้อย 12 ปี หรือผ่านการทำงาน 2 ปี ก็อาจจะไม่ได้รับกรีนคาร์ด ในช่วงการสัมภาษณ์
หากคุณผ่านขั้นตอนทั้งหมดมาได้ โดยมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ เช่น ค่าตรวจสุขภาพ ประมาณ 3000 บาท, ค่าตั๋วเดินทาง 40,000 บาท, ค่าวีซ่า US$735 จำนวนเงินโดยประมาณเมื่อปี 2006
คุณควรจะมีเงินสำรองติดตัวมาเพื่อเป็นค่าที่พักอาศัย ค่าอาหาร ค่าเดินทาง ประมาณเดือนละ US$1,500 โดยควรจะเผื่อไว้สำหรับระยะเวลาหางานประมาณ 3 เดือนเป็นอย่างต่ำ
การหางาน หากคุณไม่ได้ภาษาอังกฤษ ก็ต้องเริ่มจากงานร้านอาหารไทย ในกรณีที่คุณมี green card ซึ่งถือว่าเป็นใบเบิกทางสำคัญสำหรับการหางาน ในช่วงแรกจะอยู่ในช่วงหนักพอสมควร แต่ถ้าคุณรู้จักขวนขวาย เรียนรู้ หาช่องทาง เพื่อความก้าวหน้า ที่สำคัญต้องใช้ความอดทนสูงมาก ในการปรับตัว ถ้าคุณผ่านไปได้ คุณก็สามารถอยู่ในประเทศใหม่นี้ได้เช่นกัน
ส่วนคำถามสำหรับคนแอฟริกัน แต่ละชนชาติเค้าจะมีพวกพ้อง หากไม่เลวร้ายเกินไป ก็คงจะมีคนยื่นมือเข้าช่วยเหลือ เช่นกัน คนไทย หากคุณรู้จักติดต่อ มีปฏิสัมพันธ์ กับคนในหลาย ๆ กลุ่ม ต้องมีสักคนที่แนะนำคนรู้จักที่อยู่ในอเมริกาให้คุณได้สักคน
แต่ในอีกทาง ต้องจำไว้ว่า "อย่ายืมจมูกคนอื่นหายใจไปตลอด เพราะคุณต้องหายใจด้วยตัวคุณเองให้เร็วที่สุด"
ขอให้โชคดีคะ
ปล. แม่ไข่หก โชคดีมีญาติอยู่ที่นี่ จึงผ่านอุปสรรคขั้นแรกมาได้คะ


ตอบกลับความเห็นที่ 5
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 6
เพิ่งได้มาเหมือนกันคะ มาอยู่ได้ 6 เดือนแล้ว อยากกลับไทยแต่ก็ยังอยากเก็บใบเขียวไว้ งงกะตัวเองจริงๆ
ดิชั้นก็มาคนเดียวเลย


ตอบกลับความเห็นที่ 6
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 7
ตอบ คห 4

ได้มาจากประสบการณ์ตรงเมื่อปีแรกที่มีการสมัครออนไลน์ ถ้ามีเงินไม่ถึงที่กำหนด poverty line ก็ต้องมี affidavit of support ซึ่งคนจะทำตรงนี้ให้ได้ต้องเป็นซิติเซ่น(กรีนการ์ดอาจจะได้ จำไม่รายละเอียดไม่ค่อยได้แล้ว กฎอาจจะเปลี่ยนด้วย) ปกติผู้สมัครต่อให้มีเงินหลายหมื่นเหรียญ บางคนต้องการความมั่นใจตรงนี้ก็ต้องขอให้ซิติเซ่นรับรองให้ ตรงนี้ทำมาแล้ว หลักฐานการเงินตอนยื่นต้องตีมูลค่าเป็นยูเอสดอลลาร์ ในเอกสารจะบอกมาเลยว่าทรัพย์สินชนิดไหนที่ใช้ได้ แม้ว่าตอนนั้นจะมีเงินเก็บในแบงค์ที่อเมริกาเป็นยูเอสดอลลาร์ ก็ยังให้สามีเพื่อนกับน้าชายทำให้ ปกติถ้าไม่ใช่ญาติหรือสนิทกันจริงๆไม่มีใครเค้าทำให้กัน เพราะมันเหมือนกับคนนั้นต้องซัพพอร์ทคนที่ไปรับรองและจะผูกพันกันไปหลายปี บางคนบอกว่าต้องซัีพพอร์ทจนถึงคนที่ไปรัีบรองได้ซิติเซ่นถ้าคนๆนั้นจะไปขอให้รัฐช่วย อันนี้ไม่รู้จริงเท็จแค่ไหนเพราะไม่เคยต้องไปขอ food stamp ผู้ที่รับรองต้องยื่นเอกสารการเสียภาษี(ย้อนหลังสองปี)และหลักฐานการเงินเข้าไปพร้อมกันด้วย ตรงนี้อีกที่ไม่มีใครอยากรับรองเพราะมันเปิดเผยข้อมูลการเงินของคนรับรอง ดังนั้นจะตอบคำถามที่ว่าคนที่ไม่มีเงินเลยจะมาอยู่อเมริกาด้วย DV visa คงไม่ใช่เรื่องง่าย คุณสมบัติของผู้สมัครล็อตโต้กับคุณสมบัติของผู้ที่จะได้รับการอนุมัติกรีนการ์ดคงจะเป็นคนละเรื่องกัน

"ไปอ่านรายละเอียด Qualification ของผู้มีสิทธิ์สมัครก่อนแล้วค่อยมาแสดงความเห็น" --> Is that too harsh? I may not know laws well like you do but I don't think I deserve those words. Did you get green card lotto too? I would not refer to other website beside the government's (hence .gov). By the way, I was one of 102 of Thais who were selected for DV2005. The first selection process doesn't guarantee that you will be granted green card. It all depends on your run number and availability of the green card. If the run number is high, you may not have a chance for the interview before end of Sept the following year. The run number for DV2005 was rolled back after the first month which was October.

ตอบกลับความเห็นที่ 7
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 8
คห 7

Here is the hint: It was stated clearly and briefly that: The first selection doesn't garantee that you will be granted greedcard. If the run number is high, you may not have a chance for the interview before end of September the following year. The run number for DV 2005 was rolled back after the first month which was October.

Is where any statement indicatin that you will have to have submit your personnel financial support or any US co-signer ?

Please note: The US laws and regulations are enforced by the written language.

Did I get Green Card Lotto Too ? No, I earned my GC this programe was never happended.


ตอบกลับความเห็นที่ 8
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 9
สนับสนุนคห 5และ 7

จากประสบการณ์ตรง Dv lotto 2011 คะ

แต่ของเราไม่ไ้ใช้ทั้งสองอย่างที่ท่านว่ามาตอนยื่นสัมภาษณ์ ( statement and affidavit support)
เราได้งานที่อเมริกาก่อนหน้าจะได้เรียกสัมภาษณ์ลอตโต้สองสัปดาห์ค่ัะนายจ้างกำลังจะเริ่มดำ้นินการทำ h1b ให้
เราก็เลยยื่นแค่ สัญยาจ้างงานไป กะว่าถ้าไม่พอค่อยเอาบัญชีธนาคารไปให้ดู
แต่ก็ผ่านเลยค่ะ คิดว่าเป็นเพราะเงินเดือนเกิน poverty line พอสมควร และที่ทำงานค่อนข้างมีชื่อเสียง


ตอบกลับความเห็นที่ 9
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 10
ผมก็คิดว่าทางกงสุลพิจารณาเรื่องฐานะความมั่นคงทางการเงินและการพึ่งพาตัวเองด้วย

ที่ผมผ่านมาได้ไม่ลำบาก อาจเป็นเพราะสถานภาพนักศีกษาปริญญาโทที่ต่างประเทศ ซึ่งทางบ้านสนับสนุน

ประกอบกับการใช้ภาษาอังกฤษที่ทางกงสุลเห็นว่าพึ่งพาตัวเองได้ (ผมแปลเอกสารทุกอย่างเองทั้งหมด)

และสามารถอธิบายทุกอย่างได้อย่างสมเหตุสมผล ไม่น้อยหรือมากเกินไป อยู่ในระดับที่กำลังพอดีๆ

อย่างไรก็ตาม ไม่มีความแน่นอนในเรื่องนี้นะครับ วิเคราะห์เอาเองจากประสบการณ์


ตอบกลับความเห็นที่ 10