รบกวนปรึกษาเกี่ยวกับเงินเดือนถ้าไปเป็น expat ที่สิงคโปร์หน่อยครับ

เมื่อตอนต้นปีเคยตั้งกระทู้ไปทีนึง แต่หายไปละครับ เลยจะขอรบกวนถามอีกทีนะครับ - -"

พอดีตอนต้นปีได้งานกับทางสิงคโปร์ แต่รับเป็นแค่ consult แบบ long-distance จากประเทศไทยอะครับ
ทีแรกนึกว่าปลายปีจะย้ายไปนู่นไปทำประจำเลย แต่สุดท้ายบริษัทเค้าออกแนวงก+ระบบแย่มาก ก็เลยลาจากกันไปแล้วครับ


ตอนนี้ก็เลยลองหางานที่ใหม่ในสิงคโปร์ครับ
วันนี้มี recruiter เค้าสนใจเลยโทรมาคุยด้วย แล้วเค้าก็สอบถามเกี่ยวกับ profile แล้วก็ expected salary ของผมครับ

ปัญหามันอยู่ที่ expected salary นี่ละครับ
เพราะว่าผมไม่ค่อยแน่ใจเรทที่เหมาะสมเท่าไหร่ - -"


สำหรับ profile คร่าวๆ ผมครับ
ผมทำทางด้าน IT เกี่ยวกับพวก user experience design/research (ซึ่งค่อนข้างเป็นด้านที่หายากนิดนึงในย่านแถบนี้ครับ)
จบโทจากยูทางด้าน com-sci top10 ของอเมริกาครับ และก็มีประสบการณ์ทำงานประมาณ 8 ปี ภาษาอังกฤษไม่มีปัญหาครับ
และเคยมีประสบการณ์ทำงานทั้งที่ไทย อเมริกา
และเคยรับพวก freelance consult ให้บริษัทที่สิงคโปร์ (เมื่อต้นปี) และที่ฮ่องกงครับ


ผมว่า profile ผมก็เรียกได้ว่าดีระดับนึงนะครับ
ทีนี้คราวก่อนที่ตอนสมัครงานตอนต้นปี เคยลองรีิเสิชดูเรทตัวเอง และตั้งกระทู้ถาม
พี่ๆ เพื่อนๆ แถวนี้ก็แนะนำว่าไปทั้งทีควรจะเรียกซัก 6k-8k ซะเลย ผมก็เลยจำเรทนี้ได้คร่าวๆคับ



แต่ตา recruiter วันนี้เค้าบอกว่า เนื่องจากยูไม่ใช่ local เลยแนะนำว่าเรทยูน่าจะยูประมาณ 5-5.5K
เพราะว่าไม่งั้นบริษัทที่นี่เค้าก็ไปหาคน local ที่มีความรู้เกี่ยวกับที่นี่ดีกว่า

ผมก็เลยงงว่า เ๊อ๊ะ ทำด้าน IT นี่ ไม่ใช่ local มันจะมีปัญหาด้วยเหรอ ไม่ได้ไปทำด้านสังคมสงเคราะห์อะไรแบบนั้นหนิ - -"
ผมว่ามันน่าจะกลับกันนะ ยิ่งมีประสบการณ์จากต่างประเทศเยอะ มันน่าจะยิ่งได้เปรียบไม่ใช่เหรอ - -"






ก็เลยขอรบกวนปรึกษาว่า โปรไฟล์ประมาณนี้ 5-5.5K นี่เรียกว่าน้อยไปหรือเปล่าครับ และผมน่าจะเรียกไปเลยซักประมาณเท่าไหร่ดีครับ - -"
และควรจะ request benefit อะไรเพิ่มเติมไปด้วยบ้างดีครับ

ขอบคุณครับๆๆ (-/\-)

ความคิดเห็นที่ 1
โพรไฟล์ขนาดนี้ เมื่อหักภาษีแล้ว ควรจะเหลือสุทธิอย่างน้อยๆ 125,000-150,000 ไทยบาท หรือ ราวๆ
5,000-6,000 สิงคโปร์ดอลล่าร์ ต่อเดือนค่ะ จะได้ใช้ครึ่งนึง เก็บครึ่งนึง

และ ถ้าเป็น Expat บริษัทควรจะจ่ายค่าเช่าที่พักให้ด้วย ถ้าคุณบรึ๋ยฯ เป็นคนโสด ควรจะได้ Allowance ค่าที่พัก
เดือนละอย่างน้อยๆ ราวๆ 2,000 สิงคโปร์ดอลล่าร์ หรือ ราวๆ 50,000 ไทยบาทค่ะ

เบเนฟิทอื่นๆ คือ ควรจะได้ประกันสุขภาพค่ารักษาพยาบาล ถ้าต้องเดินทางไปประเทศอื่นๆ ด้วยควรได้ประกันการเดินทาง
ควรได้ตั๋วเครื่องบินฟูลคอส ไป-กลับ เมืองไทย อย่างน้อยๆ ปีละ 1-2 ครั้ง โบนัสปีละหนอย่างน้อยๆ เท่ากับเงินเดือน
1-2 เดือน

พูดก็พูดนะคะ บริษัทสิงคโปร์หลายๆ แห่งเวลาจ้างงาน เขาเน้นของถูก ไม่เน้นคุณภาพค่ะ ดิฉันว่าคุณบรึ๋ยฯ ทำงานกับ
บริษัทฝรั่งจะดีกว่านะคะ

โพรไฟล์ขนาดนี้ หางานที่ออสเตรเลีย หรือ ประเทศเมืองฝรั่งอื่นๆ ในแถบยุโรป หรือ อเมริกาด้วยสิคะ หรือ หางานกับบริษัท
ฝรั่งค่ะ โสขะปิงหน่ะขี้เหนียวนะคะ และ ชอบคิดไปเองว่าคนเอเชียชาติอื่นๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เก่งสู้พวกตนเอง
ไม่ได้ หรือ ชอบคิดไปเองว่าคนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ประเทศอื่นๆ (ยกเว้นมาเลย์) ไม่สามารถพูดหรือไม่สามารถเข้าใจ
ภาษาอังกฤษได้ ถ้าคุณไม่เข้าใจภาษาซิงลิชหน่ะค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 1
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 2
แต่คุณบรึ๋ยฯ ต้องทำใจนะคะ เพราะเรทเงินเดือนหลายๆ บริษัทให้ตามสัญชาติค่ะ คนไทยจะได้น้อยกว่าฝรั่งค่ะ
และ พวกฝรั่งด้วยกันแต่ละสัญชาติก็ได้ไม่เท่ากันค่ะ พวก Expat ที่เมืองไทยก็เป็นแบบนี้ค่ะ บางทีคนเวียตนาม
คนพม่า ทำงานเก่งกว่าฝรั่งอีก แต่ได้เงินเดือนน้อยกว่าฝรั่งค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 2
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 3
ขอบคุณสำหรับข้อมูลมีประโยชน์นะครับคุณ Been there, done that!


จริงๆ คือขี้เกียจไปทำงานไกลๆ อะคับ เอาใกล้ๆ จะได้แวะกลับบ้านมาได้บ่อยๆ ตอนนี้ดูฮ่องกงกับสิงค์อยู่ครับ
แต่ฮ่องกงเหมือนเค้าต้องการคนพูดจีนหรือกวางตุ้งมากกว่า เลยไม่เคยมีคนติดต่อมามากเท่าไหร่ครับ


เรื่องสำเนียงสิงค์ ก็มีปัญหานิดๆ ครับ แต่ช่วงก่อนได้ไปสิงคโปร์ ไปทำรีเสิช นั่งสัมภาษณ์ local สิงค์อยู่หลายวัน เลยเริ่มจะชิน ก็สบายหน่อยละครับ - -'



จากที่คุณ BTDT แนะนำมา แสดงว่าถ้าจะเรียกเค้าไปซัก 6000 และต้องมี allowance ที่พักต่างหากด้วยนี่จะไม่ดูเยอะน่าเกลียดไปใช่ไหมครับ - -" กลัวเค้าจะมองว่า ให้แค่ 5K นี่จะเล่นขอที 8K เลยเรอะ (ุ6000+2000ค่าที่พัก) = ="


ตอบกลับความเห็นที่ 3
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 4
เพื่อนน้องที่ไปเป็น expat ที่สิงคโปร์ ไม่ใช่คน local ของที่นั่น เธอยังเรียกเงินเดือนไปสองแสนบาทไทย แล้วบริษัทจ่ายค่าที่พักให้เธอสองปีด้วยค่ะ พักในเมืองด้วย

เหตุผลเธอคล้ายๆ คุณจขกท ที่เลือกสิงคโปร์ เพราะใกล้ไทย กลับมาดูแลพ่อแม่ได้บ่อยๆ


ตอบกลับความเห็นที่ 4
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 5
ส่วนมาก recruiter จะมี budget มาแล้วจาก นายจ้าง และเค้าไม่ได้มีหน้าที่กดเงินเดือนเรา ดังนั้นถามเค้าไปตรงๆเลยครับ

แต่ถ้าคุณคิดว่า เค้าเสนอมาน้อยเกินไป ก็ต้องรอ บ.ที่เห็นว่าคุณมีความจำเป็นต่อองค์กรเค้ามาก เค้าจ่ายไหว เดี๋ยวก็มีติดต่อมาเองแหละ


คุณถามเรื่องตัวเลขเงินเดือน ผมว่าคุณถามเรื่องค่าครองชีพแล้วเอาไปคำณวนบวกลบเอาเองเหมาะสมกว่า เพราะงานแต่ละสาขาย่อมแตกต่างกัน ไม่มีใครรู้ค่าจ้างชัดเจนนอกจากคนในวงการนั้นๆ

ยกตัวอย่าง เคยรู้จักคนไทยคนหนึ่ง ปสก และอายุพอๆกับคุณ ทำงานเป็น Specialist ด้าน IT ที่สิงคโปร์ ในสาขาที่ทั่วโลกมีไม่เกิน 100 คนจากประชากรบนโลกเบี้ยวๆกว่า 7,000 ล้านคน คิดเป็นอัตราส่วน 0.0000000143 : 1 คน จาก ratio นี้คุณคิดว่าเค้าควรมีค่าจ้างเท่าไหร่??? 5000 SGD, 10000 SGD, 50000 SGD???

แต่เท่าที่รู้ เค้าก็เงินเดือนปกติพอๆกับที่ recruiter คุณเสนอ แถมไม่มีหรอกค่าบ้าน ค่าเครื่องบินกลับบ้านต่อปี ทุกอย่างรวมในนั้นหมดแล้ว

โชคดีครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 5
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 6
แชร์ข้อมูล เผื่อมีประโยชน์ในการเปรียบเทียบ

Expat ชาวต่างชาติที่เมืองไทยด้านแบ็งค์กิ้ง ตำแหน่งผู้บริหารระดับกลาง

Overall Profile น้อยกว่า จขกท แต่ไม่มาก

รายได้หลังหักภาษี (เงินเดือนบวกค่า Allowance สำหรับรถ) ประมาณ 1.6-1.8 แสนบาทต่อเดือน

โบนัสสองเดือน (เป็นอย่างน้อย) ไม่มีค่า Allowance สำหรับที่พัก มีประกันสุขภาพ มีเดินทางไปฝึกอบรมต่างประเทศปีละครั้งโดยเฉลี่ย


ตอบกลับความเห็นที่ 6
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 7
http://www.morganmckinley.com.sg/news/singapore-salary-guide-2012
ตามลิงค์ไปอ่านดูค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 7
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 8
สำหรับ จขกท.คิดว่าไม่น่าจะเกิน 6K net เพราะคนที่บ้านไปทำงาน IT ที่ SG ได้้ 5K
แต่ประสบการณ์ทำงานน้อยกว่า จขกท. 2 ปี จาก บ.น้ำมันข้ามชาติ
บริษัทที่ทำปัจจุบัน มีเครือข่ายทั่วโลก
จบ ป.โท ม.รัฐชั้นนำในประเทศ

พอดีไม่ค่อยมีความรู้สาย IT เลยไม่รู้ว่าสายไหนเป็นยังไง

คงจะเป็นประโยชน์บ้าง


ตอบกลับความเห็นที่ 8
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 9
เรียนคุณบรึ๋ยฯ ดิฉันว่า คุณบรึ๋ยหน่ะ โพรไฟล์แบบนี้ควรจะได้รับค่าตอบแทนที่เหมาะสม ที่ยุติธรรมหน่ะค่ะ
คือ สักอย่างน้อยๆ เดือนละราวๆ สองแสนไทยบาท หรือ ราวๆแปดพันสิงคโปร์ดอลล่าร์ทั้งแพ็คเกจ พร้อมสวัสดิการต่่างๆ
ถ้าน้อยกว่านี้หน่ะ ไม่สมราคานะคะ คุณอุตส่าห์เรียนจบมาขนาดนี้ ประสบการณ์ขนาดนี้ ภาษาก็เก่ง ถือว่าเป็นคน
ที่มีคุณภาพมากๆ ไม่ว่าจะสำหรับของประเทศไทย หรือ เทียบระดับโลก

แต่ดิฉันเชื่อว่าถ้าคุณเรียกไปขนาดนี้ถ้าบริษัทนั้นๆ เป็นบริษัทที่ไม่คำนึงถึงคุณภาพของพนักงาน เขาก็จะปฏิเสธเอาได้ค่ะ
เพราะสามารถเอาเงินตรงนี้ไปจ้างคนสัญชาติอื่นๆ ที่โพรไฟล์น้อยกว่าคุณบรึ๋ยฯ ได้ราวๆ สองคน หรือ คนที่อาจจะมีโพรไฟล์
และ ประสบการณ์น้อยกว่าคุณบรึ๋ยฯ นิดนึง ที่เต็มใจจะไปรับเงินน้อยๆ ไม่สมราคา ไม่สมกับค่าครองชีพนะคะ
ถ้าคุณบรึ๋ยฯ ยอมรับที่เดือนละ ราวๆ แสนบาทต้นๆ หรือราวๆ ห้าพันสิงคโปร์ดอลล่าร์ต่อเดือน ดิฉันจะรู้สึกเสียดาย
บุคลากรดีๆ มากๆ ค่ะ และ คุณจะอยู่อย่างไม่สบายนะคะ เพราะแค่ค่าที่พักที่คุณพอจะอยู่ได้ก็จะทำให้เงินจำนวนนี้
หายไปอย่างน้อยๆ พันกว่า สองพันแล้วนะคะ ไหนจะค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโดยสารยานพาหนะต่างๆ ค่าอาหารอีกนะคะ

คิดดูให้ดีๆ สิงคโปร์ค่าครองชีพสูงมากค่ะ ค่าอาหารก็แพงมากๆ แต่ไม่ค่อยมีคุณภาพนะคะ หรือถ้ารับประทานแบบดีหน่อย
แบบแค่พอรับประทานได้ไม่ถึงกับเลิศเลออะไร การบริการก็ไม่เลิศเลอ ค่าใช้จ่ายก็พอๆ กับ หรือ น้องๆ ลอนดอน โตเกียว
ปารีส มอสโคว์ค่ะ _ที่สิงคโปร์เขาเน้นจ้างงานถูกๆ แต่ไม่เน้นคุณภาพนะคะ เช่น พนักงานร้านอาหารระดับแพงๆ บางคน
หรือพนักงานร้านหรูๆ หรือ พนักงานโรงแรมห้าดาวในสิงคโปร์บางส่วน มีมากมายที่พูดภาษาอังกฤษแทบจะไม่ได้เลย
และ ทำงานเหมือนไม่ได้ผ่านการเทรนนิ่งมาก่อน คนที่แบกรับภาระคือผู้ได้รับการบริการล้วนๆ ค่ะ เพราะจ่ายแพงเท่าๆ กับ
เมืองแพงๆ อื่นๆ แต่คุณภาพที่ได้รับไม่เท่ากับที่อื่น เป็นต้นค่ะ



ส่วน Expat ที่คุณ คห. 6 เล่ามา แสดงว่าเขาอาจจะมาสมัครงานที่เมืองไทยนะคะ เพราะจากโพรไฟล์ทที่คุณเล่ามา
และจากงานที่เขาทำหน่ะ เงินเดือนน้อยไปค่ะ และ ไม่มี Allowance ค่าที่พักด้วย


ตอบกลับความเห็นที่ 9
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 10
ผมขอแสดงความเห็นในฐานะที่เคยเป็นหนึ่งในคณะกรรมการExpatriate Remuneration Committee ของบริษัทฯข้ามชาติหนึ่ง ซึ่งก็นานมาแล้วน่ะครับ

Salary Range -ของไทย และสิงค์ไปร ไม่ต่างกันมาก

อาจต่างกันนิดหน่อยที่ Benefits และการ Keep up standard of Living(Hardship Allowance) โดยเฉพาะพวก ยุโรป/ตะวันตก จะได้ top-up ขึ้นไปอีก 10-30% เพราะเขาต้องทิ้งบ้าน ทิ้งสภาพแวดล้อม อาหารการกิน วัฒนธรรม มาอยู่ที่แปลกใหม่ ในยุคผม ทางสิงค์โปร ก็พยายามต่อสู้ให้ยกเลิกเพราะ ของเขาก็สะดวกสะบายและStandard of Living ของเขาก็เสมอเหมือนกับยุโรป และดีกว่าบางประเทศอีก

Accomodation- ต้องจัดหาให้ หรือจ่ายเป็นก้อน ให้พนักงานไปหาที่พักเอง

การเดินทาง- ในสิงค์โปร ไม่มีจัดให้ ยกเว้นตำแหน่งผู้นำองค์กรใหญ่ๆ จะมีรถประจำตำแหน่ง และ/หรือโชเฟอร์ด้วย แต่ถ้าในไทยในระดับ ผู้บริหาร ส่วนใหญ่ต้องมีรถประจำตำแหน่งและคนขับรถ เพราะ Public Commuter ของเรายังไม่ดีพอกอร์ปกับ การจราจรและภาษาก็เป็นอุปสรรค

Pension- ยังต้องคงรักษาเอาไว้ เสมอเหมือนกับเขาทำงานอยู่ในบ้านเขาเอง(Original place of hire) ทั้งส่วนของบริษัทฯ และพนักงานที่ต้องจ่ายเข้ากองทุน
Pension ที่บ้านเขา

Income Tax- สำคัญมาก เพราะแต่ละประเทศไม่เท่ากัน ยิ่งในยุโรป/ตะวันตก ภาษีสูงมาก ดังนั้นเวลาคำนวณ รายได้เพื่อจ่ายพนักงาน ต้องเอา Nett มาเป็นฐานในการจ่ายพนักงาน แล้วบริษัทเป็นผู้จ่ายภาษีให้ ตามกฎหมายของแต่ละประเทศ ยกเว้นรายได้ที่ไม่ประจำบางประเภทที่เจ้าตัวต้องจ่ายเอง อาทิ โบนัส ค่าครองชีพ
หรือตามตกลงกัน

Home Visit- ปีละอย่างน้อยหนึ่งครั้ง พร้อมครอบครัว และค่าเดินทาง เพื่อให้พนักงานยัง Keep in touch กับครอบครัว และสภาพแวดล้อม วัฒนธรรม กับบ้านเกิด
เพราะในที่สุดพวกนี้ก็ต้องกลับบ้าน ในที่สุด หรือเกษียณ

ในกรณีย์ ของ จกท. คุณไม่ใช่การจ้างงานแบบ Expatriate (บริษัทฯ ส่งคุณไปทำงานที่ประเทศอื่น) แต่จะเป็นแบบ Local Hire เพียงแต่เขาจะรับผิดชอบในเรื่องการขอ Work permit ให้ ณ ตอนนี้ เพราะฉะนั้นก้จะจ้างตาม Salary Range แต่คุณสามารถต่อรองเรื่อง Accomodation Allowanceได้ ถ้าไม่เกินงปที่เขาจะจ้าง

สิ่งที่อยากให้คำนึงคือ Nett หรือ Money taken home มากกว่าGross ผมไม่ทราบเรือง ภาษี และ Tax exception/Deduction ของสิงค์โปร แต่ของไทยตอนนี้ก็มีการลดหย่อยเยอะน่ะครับ ลองคำนวณดู

ขอให้โชคดี และ Welcome to the near coming AEC Era.


ตอบกลับความเห็นที่ 10
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 11
เพิ่มเติมครับ-

เรื่อง Retirement Provident Fund ครับ ผมจำตัวเลขเปอร์เซ็นต์ไม่ได้แล้วแต่สูงครับน่าจะเป็น หลักสิบ ที่บริษัทฯและรัฐบาลต้องจ่ายสบทบเข้ากองทุน ก็คือ กองทุนเทมาเส็กนั่นเอง ครับ คุณต้องถามรายละเอียดพวกนี้ด้วยว่าครอบคลุมคุณหรือไม่ แล้ววิธีการถอนเมื่อคุณออกจากงานเป็นอย่างไร Gravity rate ของ Years of service เป็นอย่างไร ก็ควรนำมาเป็น points of considerationด้วย เพราะมันคือ Remuneration Package
ซึ่งผู้สมัครงานคนไทยส่วนใหญ่ไม่ค่อยสนใจเท่าที่ควร มักมุ่งไปแค่ เงินเดือน(Monthly Salary) อย่างเดียว ผิดกับทางตะวันตกที่เขาพูดกันที่ Yearly Remuneration Package
ยิ่งผู้บริหารระดับสูง จะมีวิธีการที่แยบยลในการแบ่งรายได้ออกไปเป้น benefits อื่นๆเพื่อหลีกเลี่ยงภาษีอีกต่างหาก


ตอบกลับความเห็นที่ 11
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 12
Expat ในความคิดเห็นที่ 6 เท่าที่ทราบมา รูัสึกว่าจะสมัครงานในเมืองไทย เป็นตามที่คุณ Been there, done that! คาดไว้ ซึ่งในที่นี้อาจทำให้เป็นที่มาของการที่ไม่มี Allowance ค่าที่พัก

ส่วนเรื่องเงินเดือนนั้น ระดับความพึงพอใจหรือคาดหวังคงแตกต่างกันไปสำหรับผู้ที่ออกความเห็นในที่นี้

หากสมัครงานในเมืองไทย แต่เป็นระดับเงินเดือน Expat (แบบสมัครงานเอง) นั้น โดยส่วนตัวคิดว่า หากเป็นตัวเองได้เงินเดือนขนาดนี้ ก็เป็นเงินเดือนที่รับได้พอสมควรมากแล้ว เพราะเมืองไทยก็กดราคาเช่นเดียวกับที่สิงคโปร์ หากเรียกเงินเดือนสูงกว่านี้ (คุณภาพระดับที่เป็นตามความเห็นที่ 6) ก็คงเข้าข่ายที่นายจ้างคงไปจ้างคนอื่นดีกว่า ที่คุณภาพน้อยลง แต่จ่ายน้อยกว่ามากๆ

สุดท้ายนี้ -- จขกท. คงไม่สามารถต่อรองได้มากนัก เอาแค่เงินเดือนบวกกับค่าที่พักเอาให้เป็นที่รับได้ก็ดีที่สุดแล้วในสถานการณ์แบบนี้ (แน่นอนประกันสุขภาพจะต้องมีด้วย)


ตอบกลับความเห็นที่ 12
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 13
เพิ่มเติม CPF ค่ะ จะต้องจ่ายถ้าคุณสมัครเป็น PR ซึ่งก็ไม่ได้สมัครกันง่ายๆ ต้องอยู่มาหลายเดือนหน่อย หรือถ้าเงินเดือนไม่สูงจ่ายภาษีไม่สูง ก็หลายปีกว่าจะได้ PR status
(ซึ่งมันมี benefit หลายๆอย่างเมื่อเทียบกับการเป็น foreigner)

ซึ่ง CPF อยู่ที่ 20% นะคะ cap ที่เงินเดือน 5000 คือ 1000 SGD ต่อเดือน สองปีแรกจ่ายไม่เยอะ เป็น graduation rate แต่หลังจากนั้นก็ต้องจ่ายเต็ม ตรงนี้ควรเอามาคิดด้วยค่ะ ว่า take home pay จะเท่าไหร่

บริษัทเรา localisation package มีตามนี้ค่ะ ลองพิจารณาดู แต่ของคุณเป็น local mid hire ไม่ใช่ localisation ไม่ใช่ expat คงไม่ได้เต็มแบบนี้

มี housing allowance 3 ปีแรก ตามระดับสายงาน
มี children education support สำหรับเด็กเรียนอินเตอร์
มี relocation one time allowance = 1/6* annual pay
มี visit home flight allowance
จ่ายค่าย้ายของให้
ขอวีซ่าให้
มี retirement protection plan

ความเห็นส่วนตัวนะ คุณน่าจะได้ซัก 7-8000 น่ะ แบบ เอาหัวแม่โป้งกะเอา (คือไม่มีหลักการณ์อะไรน่ะค่ะ)


ตอบกลับความเห็นที่ 13
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 14
ขอบคุณสำหรับทุกความเห็นนะครับ ^^"


เท่าที่ประมวลผลคร่าวๆ ผมว่าน่าจะต่อไปซักประมาณ 6k น่าจะดูเหมาะสมดีนะครับ แต่เดี่ยวถ้าเค้าโทรมาอีกคงต้องลองคุยดูเพิ่มครับ



ใครมีข้อมูลอยากมาแชร์เพิ่มเติม เชิญได้เลยนะคับ ^^"


ตอบกลับความเห็นที่ 14
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 15
ถ้าเรทเป็นเงินไทย คุณควรได้เฉียด ๆ 2 แสน ไม่รวม allowance นะคะ เพราะโพรไฟล์คุณก็ดีซะขนาดนั้น มีคนที่ทำงานสาย IT นี่แหละอยู่สิงคโปร์มาก่อน เป็นคนไทยนี่แหละ จบโท จาก ตปท เหมือนกัน ทำงานสายไอที พัฒนาระบบอะไรทำนองนี้ ตอนนี้เขากลับมาอยู่ไทยแล้ว GM จ้างให้มาดูระบบของทั้งโรงงาน + พัฒนาระบบกับเครือข่ายโทรศัพท์ + wireless + พนง และ ผู้บริหาร อะไรเทือกนี้ (ไม่รู้เรียกว่าไร แฮะ แฮะ) เงินเดือน 1.6 แสน อันนี้คือ เงินเดือนที่ประเทศไทยนะคะ ดังนั้น ถ้าจะวัดตามเรทค่าครองชีพแต่ละประเทศ และคุณอยู่ในกลุ่ม high-skilled เราว่าคุณควรได้เยอะกว่าเป็นเท่าตัวด้วย

เรทจ้างแบบ offshore คนสิงคกับคนไทย ต่างกันเกือบเท่าตัว บริษัทเรา ตัวอย่าง วิศวกรไทยเงินเดือน ตั้งแต่ 7 หมื่น- 1.2 แสน วิศวกรสิงโปร์เงินเดือน 2.5 แสนอะค่ะ แม้เจ้า งานก็ไม่ได้ยากกว่ากันไปเท่าไหร่เล้ยยยยยยยยยย คราวนี้ต้องเอาคืนบ้างล่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 15