Fly like an Eagle ตัวเหยี่ยวแต่ใจนกกระจิบ มาปันประสบการณ์ทำงานไปรษณีย์ค่ะ

วันนี้นั่งคิดถึงตอนเริ่มทำงานไปรษณีย์ที่นี่ (อเมริกา) ทำมา 5 ปีแล้ว ที่ผ่านมานี่นึกแล้วก็ขำตัวเอง บางทีเวลาคุยโทรศัพท์กับเพื่อนที่ทำงานเก่าก็ยังขุดเรื่องสมัยเก่ามานั่งหัวเราะกัน นึกๆ แล้วบางทีก็เอ้อ ทำไปได้ (ถ้าคนที่รู้จักกันอย่าได้ทักนะคะ อายอ่ะ บางทียังคิดอยู่เราไม่ได้โง่นะ แค่ไม่รู้เอง แต่หากพออ่านๆ ไปหากเริ่มคิดว่าไม่ใช่ก็ขอให้ย้อนมาข้อความตรงนี้ จขกท ไม่ได้โง่ก็แค่ไม่รู้จริงๆ !!?)



ตอนก่อนจะเริ่มทำ ช่วงนั้นพึ่งย้ายจากเท็กซัสมาที่จอร์เจีย จากที่เมื่อก่อนเราก็ทำงานแต่ทำได้ไม่นานก็ต้องลาออกบ่อยๆ เพราะว่าย้ายบ้านบ่อยมาก จนย้ายมาจอร์เจียก็ได้นัดเจอกับพี่ที่รู้จัก เราก็สนุกสนานเฮฮา นัดเจอกัน เลี้ยงลูก เล่นเน็ต ใช้ชีวิตเอ้อระเหยมาก ตอนนั้นก็คิดหางานทำไปด้วย แต่ก็หาไปเรื่อยๆ แต่ก็ไม่ได้สักทีจนได้ยินจากพี่ที่รู้จักเรื่องงานไปรษณีย์ ตอนนั้นก็เริ่มรู้สึกอยากรู้ว่างานเป็นอย่างไง (คำว่าไปรษณีย์ไม่เคยมีผ่านเข้ามาในหัวเลย) ก็เลยถามคนข้างๆ เขาบอกว่ารายได้และสวัสดิการดีนะ ลองดูไหม เขาสนับสนุน เราก็ โอเค ลองก็ได้ ไม่มีอะไรต้องเสีย ก็เลยสมัครดู



ความคิดเห็นที่ 1
ตอนก่อนที่จะสมัครเขาก็มีให้เลือกว่าจะให้เลือกตำแหน่งอะไร ซึ่งก็มีหลายอย่าง มีเซลล์ (อันนี้เราไม่เอา ไม่อยากติดต่อพูดคุยคิดว่าตัวเองเป็นคนพูดไม่เก่ง ไม่อยากยืนขายด้วย) มี City carrier และก็ Rural carrier จริงๆ มีตำแหน่งอย่างอื่น แต่พอมาเลือกๆ สองอันนี้แหล่ะ แล้วก็มาชั่งใจอีกที ส่วนการเลือกนี้ก็ใช้สัญชาตญาณ ความเป็นตัวของตัวเอง คือ เราเป็นคนมีโลกส่วนตัวสูงในบางครั้ง ชอบอะไรเงียบๆ Country ๆ ไม่ต้องพบปะคน สันโดษหน่อย รู้ใช่ไหมคะว่าเราเลือกอันไหน Rural นั่นเอง


จนสอบเข้าไป ปรากฏว่าสอบผ่าน แนวข้อสอบมันไม่ยาก เขาเน้นเรื่อง ความจำ เร็ว แม่น และตัวเลข ตอนทำอย่าตื่นเต้นมีสติหน่อย เราเน้นแม่น ช้า(นิดนึง) แต่ชัวร์ค่ะ เพราะเวลานั้นความลวกอ่ะมันไม่จำกัดเชื้อชาติและภาษา ส่วนเลขนี่ อย่าหาว่าคุยเลย คนไทย (จบ)เลขไทยมา ไม่แพ้ชาติไทยในโลกจริงๆ


สอบข้อเขียนผ่าน แล้วก็มีนัดไปตรวจสายตา ตรวจสุขภาพ แบล็กกราว์น จากนั้นไม่นานไปรษณีย์ที่เขาต้องการคนก็จะเรียกเราไป วิธีการคัดเลือกนี่ก็ต่างกันไปค่ะ ที่แรกที่เราเคยโดนเรียกนี่เขาเรียกไป 17 คน จากนั้นเขาก็เรียก 2 คนที่ได้คะแนนสูงสุดเข้าไปแล้วก็ถามว่าสนใจไหม สองคนที่เข้าไปตกลงโอเค 15 คนที่เหลือ(รวมทั้งตัวเรา)ที่เป็นตัวเลือกพึ่งเหยียบย่างเข้าไปรษณีย์ได้ไม่ทันลมปราณด้านล่างที่ปล่อยออกมาจะหายเหม็นก็อกหักกันไปเป็นแถว Y_Y

ตอบกลับความเห็นที่ 1
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 2
จากนั้นไม่นานสองอาทิตย์ให้หลัง ไปรษณีย์อีกที่ก็เรียกเข้าไปสัมภาษณ์ วันนั้นที่ไปมีคนที่ถูกเรียกไปสัมภาษณ์ร่วมๆ 30 เราเห็นแล้ว อ๊าย อีกแล้วเหรอ แต่คราวนี้แปลกตรงที่เรียกทุกคนมานั่ง จากนั้นทางหัวหน้าอธิบายงาน แล้วบอกเรื่องอื่นๆ ว่างานนี้ ไม่การันตีเรื่องตารางงานแต่ที่แน่ๆ ได้แน่นอนอาทิตย์ละวัน คือวันเสาร์ ต้อง On call แลบาง Routeที่เราได้ต้องมีรถส่งจดหมายของตัวเอง รับได้กันหรือป่าว ก็มีคนออกไป แต่เราไม่ออก (ชั้นมาไกลแล้ว) ไปๆ มากๆ ก็เหลือประมาณ 24 คน
ทีนี้ก็โดนเรียกสัมภาษณ์รายคน มาถึงขนาดนี้แล้วตบหน้า เปรี๊ยะๆ สองสามที ยิ้มสยามแม่หญิงไทยจงคืนชีพ สติจงมา ปัญญาจงเกิด ณ บัดนี้


เข้าไปในห้องเจอหัวหน้าสองคน หัวหน้าผู้ชายและผู้หญิง ตอนโดนสัมภาษณ์รู้สึกตัวเองเหมือนผู้ต้องหาแล้วเหมือนเจอ Bad cop (หัวหน้าผู้หญิง) / Good cop (หัวหน้าผู้ชาย) หัวหน้าผู้ชายถามคำถามแบบเกื้อกูลเราดี คุยกันถูกคอ แต่หัวหน้าผู้หญิงจะเข้ม หน้าดุมาก เจอคำถามนึงแปลศัพท์ไม่ออก นั่งเอ๋อได้ 5 วิ หัวหน้าผู้ชายเลยถามว่าเข้าใจไหม แล้วอธิบายช่วยอีกที


ท้ายสุดสัมภาษณ์เสร็จ ได้ไม่ได้ไม่รู้ แต่รู้สึกขอบคุณที่เขาให้โอกาสเรียกเราไปสัมภาษณ์เลยพูดไปว่า ขอบคุณจากใจจริงๆ ค่ะ ที่ให้โอกาสสัมภาษณ์ (ดีใจได้ทำอะไรบ้าง ดีกว่าไม่ได้ทำอะไรเลยแล้วจากไปแบบงง 555)


ตอบกลับความเห็นที่ 2
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 3
จากนั้นไม่นานก็มีจดหมายรับเขาประจำการ ดีใจมาก กรี๊ดกระโดดเหยงๆ ในบ้าน แล้วจากนั้นเขาก็เรียกไปอบรมประมาณอาทิตย์นึง อบรมเสร็จก็มีให้สอบขับรถ รถไปรษณีย์ที่นี่พวงมาลัยจะอยู่ด้านขวา รถทั่วไปพวงมาลัยจะอยู่ด้านซ้าย รถไปรษณีย์เราจะเรียก Long live vehicle (LLV) ค่ะ

ส่วนเรื่องการสอบขับรถไปรษณีย์ถ้าตกก็อาจจะไม่ได้ แต่จริงๆ เรายังไม่เคยเห็นใครตกเลยน่ะ

หลังจากอบรมเสร็จ สอบการขับรถเรียบร้อย ก็ไปรายงานตัวที่ไปรษณีย์ วันแรกก็ไม่มีอะไร หัวหน้าก็เข้ามาดูวิธีการเคสจดหมาย ดึงจดหมาย วิธีการทำงาน และอื่นๆ ซึ่งตอนนั้นยังไม่เชี่ยว(ชาญ) ดูไปแต่ไร้คำถาม จากนั้นก็ติดตามนั่งออกรอบ ออกเร้าท์ ( Route) ที่จะให้เราเรียนรู้ จะบอกว่าตื่นเต้น นั่งดูวิธีส่งไปเรื่อยๆ แรกๆ ก็จดว่าส่งถนนนี้แล้วไปไหนต่อ บ้านนี้ต้องไปส่งหน้าบ้าน ตรงนี้ต้องซิกแซกเข้าไปซอยลึกๆ แต่พอนั่งไปเรื่อยๆ อากาศร้อน เริ่มหมดแรง ไม่ได้สนใจแล้ว นั่งรถตั้งแต่ 10 โมงเช้าจน 4 โมงเย็น เหนื่อยแล้วหิว รถจอดๆ หยุดๆ มึน


หลังจากนั่งออกเที่ยวชมเมืองดูเร้าท์เสร็จ วันต่อมาหัวหน้าเรียกให้แค่มาส่งจดหมายแต่มาส่งแค่ใน 1 ส่วน 3 ประมาณบ้าน 200 หลัง ออกไปส่งทำได้สองชั่วโมงกว่าๆ กลับ เพื่อนร่วมงานชม เก่ง เรียนรู้ไว อ้าว ยิ้มแก้มปริ คิดในใจ งานอะไร สบายจัง เหมือนขับรถชมเมือง แป็บๆ ไม่ได้รู้ว่าชะตาชีวิตข้างหน้าจะต้องมาเสียน้ำตาช้ำใจ


ตอบกลับความเห็นที่ 3
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 4
วันต่อมาหัวหน้าลองให้ส่งอีกส่วนบน (เคสแยกจดหมายของแต่ละเร้าท์จะมีประมาณ 6 แถวนะคะแถวนึงก็ประมาณ 100 ที่อยู่ มากน้อยแล้วแต่เร้าท์ บางเร้าท์ก็มีทั้งบ้าน บริษัทก็มี โรงเรียนก็มีปนกันไป) ก็ไม่มีปัญหา


จนสุดท้าย หัวหน้าบอก เอ๊า ทีนี้ลองทำทั้งเร้าท์ แต่เรายังไม่ต้องลองแยกจดหมาย ให้มาส่งอย่างเดียว อ๊ะ ไม่มีปัญหา ช่วงแรกลื่นไหล เจ้าของเร้าท์คนที่เราไปฝึกเพื่อที่เราจะไปเป็นแบ็คอัพให้เขาก็โทรถามเป็นระยะว่าอยู่ไหน โอเคไหม เราก็บอกว่าไม่เป็นไร ไม่ต้องห่วง ส่งไปเรื่อยๆ จนมาหมู่บ้านสุดท้ายเป็นหมู่บ้านเก่า ป้ายถนนก็ชำรุด ขับไปถ้ายังไม่รู้แอบเหม่อ เดี๋ยวกลับไม่ถูก ที่นี้มีซิกแซกหน่อย พอดีเกิดอาการเหม่อ ตัวเลขบ้านกระโดด งง เฮ้ย ไปยังไงต่อ ถนนเปลี่ยนด้วย ตอนนั้นมีพกเนวิเกเตอร์ติดตัวไปด้วย กดหาบ้านเลขที่ แล้วเครื่องนี้ก็บอกขับวนไปรอบนึงแล้วกลับมาอีกที่เดิม ….. หืม … บ่นกับตัวเอง เอ๊ย เครื่องเสียหรือป่าว …. พึ่งซื้อมาไม่นาน กลับบ้านไปจะส่งรีเทริน์บริษัทเลย


แล้วก็ขับเวียนอย่างนั้นประมาณ 15 นาที เสียเวลามาก แต่ก็ยังหาไม่เจอ แต่เบอร์มือถือเจ้าของเร้าท์ก็มี (เราจะเรียกเจ้าของเร้าท์ซึ่งเป็นพนักงานบรรจุว่า Regular ค่ะ) ไม่! เราจะไม่โทร เราจะหาบ้านด้วยตัวเอง (โง่ อุ่ยไม่ใช่ ไม่รู้ต่างหาก ไม่รู้แถมทะนงอีก) จาก 3 โมงครึ่งปาไป 4 โมงกว่า ชักไม่ได้การ ถ้ามัวแต่หาบ้าน กลับไปไม่ทันจะตกงานเอา เลยยอมโทรหา Regular มาช่วยหน่อย เขามาถึงเอ๊า หาบ้านไหน อ้อ บ้านนี้เหรอนี่เลี้ยวขวาไปหน่อยนึงแล้วยูเทริน์มา มันอยู่ตรงข้ามนี่เอง ! วันนั้นกลับไปรษณีย์ทันก่อนห้าโมง รอดไปอีกวันนึง


ตอบกลับความเห็นที่ 4
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 5
จากไปด้วยรูปนี้ บรรยากาศดี (คิดในใจว่าดีที่เลือก Rural) ไม่เหมือนขับรถเที่ยวรอบเมืองให้มันรู้ไป



ตอบกลับความเห็นที่ 5
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 6
เจอตัวพอดี^^ พึ่งกลับจาก'เมกา แล้วให้สงสัย และใคร่รู้ว่า

ตู้ไปรษณีย์ แบบนี้ ถ้ามีจดหมาย ลงทะเบียน หรือ ของมีค่าส่งมา

จะทำยังงัยคะ รูปนี้ถ่าย แถวๆ ทางเข้า อุทยาน Sequoia CA .

พยายามมองหาตัวบ้าน แต่ไม่เห็น หรือบางหลังก็อยู่ไกลจากถนนใหญ่มาก

รูปใหญ่เกิน เดี๋ยวย่อรูป ก่อนนะคะ

ตอบกลับความเห็นที่ 6