ขอคำแนะนำเรียนต่อ ป.โท จบป.ตรี วิศวะโทรคมนาคม

ขอคำแนะนำหน่อยครับ สนใจเรียนต่อ ป.โท จบป.ตรี วิศวะโทรคมนาคม

มีที่ไหนแนะนำบ้างครับ เอาตรงสายหรือใกล้เคียงก็ได้ครับ

แล้วประเทศไหนดีครับ เยอรมัน ดีไหมครับ เห็นขึ้นชื่อด้านวิศวะ (รึเปล่า)

หรือ อเมริกาดี

แนะนำด้วยครับว่าประเทศนั้น คณะนั้นใช้คะแนนสอบอะไรบ้าง พอดีกำลังเตรียมตัวอยู่ครับ ขอบคุณทุกคำแนะนำล่วงหนน้าครับ

ความคิดเห็นที่ 1
เยอรมัน เหตุผลมีฝึกงานภายนอกและโอกาสได้งานทำที่นั่นสูงมาก คะแนนก็โทเฟลหรือไอเอลปกติ บางยูมีGREด้วย


ตอบกลับความเห็นที่ 1
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 2
ถ้าเรียนวิศวะ ก็เยอรมันดีที่สุดอยู่แล้วอันนี้ไม่เถียงครับ แต่ที่ คห 1 บอก โอกาสได้ทำงานที่นั่นสูงมากนี่ เข้าใจอะไรผิดรึเปล่าครับ? สถานการณ์ตอนนี้ และอนาคตปีต่อๆไปกำลังจะเปลี่ยนไปแล้วนะครับ ใช่ว่าจะดีได้ตลอด แม้จะไม่แย่เหมือนประเทศอื่นในยุโรป แต่ก็ไม่ได้ประเมินอะไรเกินตัว ตอนนี้บริษัทในเยอรมันทั้งหลายเตรียมรับมือกับ % การเติบโตของเศรษฐกิจที่จะลดลง เริ่มมีการตัดนู่นตัดนี่กันทีละเล็กทีละน้อย

ยิ่งในกรณี่ จขกท จะมาเรียนต่อโทภาษาอังกฤษแปลว่า ยังไงภาษาเยอรมันก็ไม่คล่อง หรือไม่ได้อยู่แล้ว ถ้าไม่ได้ภาษาเยอรมัน แต่อยากทำงานในประเทศเยอรมัน คิดว่าโอกาสหางานได้มันสูงแค่ไหนล่ะครับ? จำนวนวิศวะเยอรมันที่จบปีต่อปี ตอนนี้ถึงจะขาด แต่ปีต่อๆไปก็จะจบออกมามีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ตลาดการแข่งขันสูงขึ้นเรื่อยๆ คนไม่ได้ภาษาเยอรมันหางานได้มันก็มีครับ แต่น้อย ถึงน้อยมาก นอกจากนี้ยังไม่นับจำนวนวิศวะมหาศาลที่กำลังแห่กันเข้ามาจากประเทศพวกสเปน โปรตุเกส อีก วิศวะพวกนี้แม้จะไม่ได้ภาษาเยอรมัน แต่ก็ยังได้รับการยอมรับมากกว่าวิศวะไทยเยอะ

ไม่ได้จะตัดกำลังใจแต่อย่างใด แต่อยากให้มองสถานการณ์อย่าง realistic ครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 2
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 3
คงไม่ได้เข้าใจผิดมากหรอก เพราะน้องชายกับเพื่อนก็จบและได้งานอยู่นั่นน่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 3
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 4
พอดีน้องชายไม่ได้ภาษาเยอรมันเลยน่ะ แต่ได้งานที่นั่นเลยหลังจบ บริษัทส่งคนมาสอนภาษาเยอรมันให้อีกตอนเย็นหลังเลิกงาน


ตอบกลับความเห็นที่ 4
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 5
จริงๆที่คุณคนเดินดินพูด ก็เป็นการยืนยันถึงความสำคัญของภาษาเยอรมันอยู่แล้วนะครับ หรือคุณจะเถียงว่าไม่ใช่อีก??? ไม่งั้นบริษัทจะมานั่งให้ลูกจ้างเรียนภาษาเยอรมันทำไม?? รวมถึงมีกี่บริษัทที่จะลงทุนมา offer คอร์สให้เรียนภาษา หรือสอนภาษาแบบที่คุณว่า? ก็มีแต่บริษัทใหญ่ๆเท่านั้นที่ทำ ซึ่งหากพูดถึงจำนวนบริษัทใหญ่แล้ว นับว่าเป็นเพียงส่วนน้อยเท่านั้น เพราะนั่นหมายถึงค่าใช้จ่ายต่างหากที่เพิ่มขึ้นมาอีก บริษัทเล็กไม่ทำให้ลำบากอยู่แล้ว จริงๆแล้วการจะหางานทั้งๆที่พูดภาษาเยอรมันไม่ได้ ก็ต้องเล็งหาไปที่บริษัทใหญ่ หรือบริษัทอเมริกัน ที่ใช้ภาษาอังกฤษในบริษัทเป็นหลักอยู่แล้ว แต่มันมีกี่บริษัทล่ะครับ? แล้วมันหากันได้ง่ายขนาดนั้นเชียวหรือ?

นอกจากนี้น้องคุณกับเพื่อนน้องคุณน่ะ ก็แค่ 2 คนจากกี่พันคนล่ะครับ??? มันแค่กี่ % จากจำนวนเด็กต่างชาติที่เข้ามาเรียนต่อโทในเยอรมันคอร์ส inter? ทุกวันนี้ก็มีนักศึกษาจีนมาอีก อินเดียมาอีก ใช่ว่า เรียนจบแล้วจะหางานกันได้ทุกคน แถมพวกนี้เองบางชาติเช่น อินเดีย เก่งและภาษาอังกฤษดีกว่าวิศวะไทยอีกไม่รู้กี่เท่า ที่คุณบอกมาว่า น้องคุณกับเพื่อนน้องคุณน่ะ ก็นับว่าส่วนน้อยไม่ใช่เหรอครับ? ผมก็บอกไปตั้งแต่แรกแล้วว่า มันก็มีคนที่หางานได้ทั้งๆที่พูดภาษาเยอรมันไม่ได้ ไม่ได้บอกว่าไม่มี ผมเองก็เคยรู้จักอยู่หลายคนที่เคยทำงานอยู่ Infineon หรือ สมัยก่อนที่ยังมี Qimonda แต่สุดท้ายคนไทยเหล่านี้ก็โดน lay off ออก ตอนบริษัทต้องปิดไป และไม่สามารถหางานใหม่ทำต่อไปได้ เพราะไม่ได้ภาษาเยอรมันนั่นแหละ และบริษัทก็ offer คอร์สเรียนหลังเลิกงานนั่นแหละครับ แล้วไงล่ะครับ? สุดท้ายแต่ละคนก็ต้องกลับเมืองไทยไป เพราะคอร์สที่เรียนไป มันช่วยได้แค่เล็กน้อยแค่นั้น ไม่ใช่ว่า สอนปุ๊บแล้วพูดกันคล่อง ใช้งานได้ดีซะที่ไหน ก็เหมือนกับการเรียนภาษาต่างชาติอื่นๆนั่นแหละ นี่ก็แค่ตัวอย่างเล็กๆตัวอย่างหนึ่งเท่านั้น

สงสัยคุณจะยังไม่เข้าใจคำถามผมที่ผมถามว่า เข้าใจอะไรผิดรึเปล่า กับการที่เที่ยวมานั่งบอกคนอื่นว่า "โอกาสหางานได้ที่นี่สูงมาก" ผมถึงได้ยกภาพรวมของประเทศเยอรมันเรื่องเศรษฐกินขึ้นมา ซึ่งก็คือ economic forecast ที่ผมกล่าวไปนั้นก็มาจาก German Institute for Economic Research ซึ่งถือเป็นหนึ่งในผู้นำด้านสถาบันวิจัยเศรษฐกิจในประเทศเยอรมนี เค้าก็บอกมาแล้วว่า ปี 2013 เศรษฐกิจของเยอรมันนีจะเติบโตเพียงแค่ 1,6%! บริษัทใหญ่ๆทั้งหลายแหล่ เช่น Continental เองก็เริ่มมาตรการประกาศให้มีการประหยัดในบริษัทเกิดขึ้น ให้ตัดนู่นนี่แล้ว ทั้งๆที่ปีนี้เองก็ได้กำไรไปไม่รู้เท่าไหร่ แล้วคิดว่า ด้วยเหตุผลที่ Experts ทำนายมาขนาดนี้แล้ว ยังจะหางานทำได้ง่ายๆเหรอครับ??? ขนาดบริษัทใหญ่ทั้งหลายยังเตรียมรับมือ นับภาษาอะไรกับคนที่อยู่ในฐานะลูกจ้าง ขนาดคนเยอรมันเองยังนั่งหวั่นใจว่า อีก 2-3 ปี ตลาดจะเป็นยังไง เรียนจบกันออกมาแล้วจะหางานกันได้มั้ย คงไม่ต้องพูดถึงต่างชาติที่ภาษาเยอรมันไม่ได้หรอกมั้งครับ?? จริงครับที่วิศวะมีโอกาสหางานได้สูงกว่าอาชีพอืนๆ แต่เวลาเศรษฐกิจทรุด วิศวะก็เดินเตะฝุ่น ไม่ต่างกันหรอกครับ อดีตที่ผ่านๆมาก็แสดงให้เห็นอยู่แล้วว่า ทุก 4-5 ปีก็จะมีขาลงของเศรษฐกิจให้เห็น ซึ่งตอนนี้ก็เป็นจุดเริ่มขาลงแล้ว แถมตอนนี้หลายๆบริษัทในเยอรมันเองก็นิยมไปรับวิศวกรจากประเทศที่กำลังมีปัญหาอยู่ เช่น สเปน เพราะถือว่าเป็นวิศวกรทีมีคุณภาพ ไม่ต้องลำบากมานั่งจัดการเรื่องวีซ่าเหมือนประเทศนอก EU ภาษาอังกฤษได้ ภาษาแม่ตัวเองก็สำคัญอีก เงินเดือนก็ไม่เรื่องมาก เพราะหากอยู่ในประเทศตัวเองก็ตกงาน สรุปหากเลือกได้ในฐานะบริษัทระหว่างวิศวะจากประเทศพวกนี้ กับจากประเทศไทย คิดว่า บริษัทจะเลือกใคร คงไม่ต้องให้อธิบายต่อมั้งครับ?

นี่ล่ะที่ผมถามว่า คุณเข้าใจอะไรผิดรึเปล่า หวังว่า คำถามคราวนี้คนจะเคลียร์นะครับ หากยังจะยืนยันว่า "โอกาสหางานที่นี่สูงมาก" อีก ก็รบกวนช่วยอธิบายให้ผมเข้าใจด้วยว่า มันจะเป็นไปได้อย่างไร เผื่อผมเองจะตกหล่นข่าวคราวในวงการตรงไหนไป ที่ผมว่ามา ผมกล่าวถึงสภาพเศรฐกิจ และตลาดงานโดยรวมของเยอรมันทั่วๆไป ซึ่งสามารถหาอ่านเช็คข้อมูลข่าวสารได้ตามหนังสือพิมพ์หรือข่าวทั่วๆไป ผมไม่ได้เจาะจงถึงคนส่วนน้อยซึ่งเป็นข้อยกเว้น


ตอบกลับความเห็นที่ 5
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 6
นอกจากนี้ต่อให้บริษัทจ้างคนมาสอนภาษาเยอรมันแล้วยังไงครับ? ภาษาเยอรมันใช่จะเรียนรู้กันได้ง่าย ต้องอาศัยเวลาและการใช้อย่างสม่ำเสมอ ให้เรียนไป ลงทุนค่าเล่าเรียนให้เรียนภาษาไป เค้าก็ต้องหวังเห็นผล ให้พูดหรือสื่อสารภาษาเยอรมันได้ในอนาคตอยู่แล้ว แต่รู้หรือไม่ว่า ด้วยเหตุผลนี้แหละ บริษัทก็สามารถใช้เป็นเหตุผลให้ไล่คนออกกันได้เช่นกัน เพราะไม่เรียนรู้ภาษาเยอรมันซะทีมาไม่รู้นักต่อนักแล้ว เคสแบบนี้ก็เกิดขึ้นในบริษัท Software ใหญ่รองจาก SAP ในเยอรมันเช่นกัน ที่มีพนักงานไม่พูดภาษาเยอรมัน และพูดไม่ได้ซักทีหลังจากผ่านมาเป็นเวลาซักพักหนึ่ง สุดท้ายบริษัทก็ตัดสินใจไล่ออก เพราะประชุมทุกครั้งก็ต้องมานั่งพูดภาษาอังกฤษแค่เพราะคนๆนี้ นี่ก็แค่อีกเคสที่แสดงให้เห็นว่า การที่ไม่ได้ภาษาเยอรมัน มีแต่ข้อเสียในการหางานขนาดไหน

หวังว่า รอบนี้คงเคลียร์นะครับ คุณคนเดินดิน ที่ผมกล่าวมานี้ คือ fact ที่ทุกคนในประเทศ (ที่ติดตามข่าวสาร) รู้กัน ไม่ใช่เรื่องใหม่แต่อย่างใด และผมก็ไม่ได้มีเจตนาจะขู่น้องๆรุ่นหลังที่คิดจะมาเรียนต่อที่เยอรมันแต่อย่างใด แต่อยากจะให้ผู้ที่มาเรียนต่อ หัดเรียนรู้ภาษาเยอรมันอย่างจริงจัง เพื่ออนาคตของตัวเอง ไม่ใช่มักง่าย เห็นภาษาเยอรมันยาก แล้วก็ไม่เรียน ไม่ใส่ใจ คิดแค่ ไม่เป็นไร ภาษาอังกฤษได้ก็จบ อยู่ประเทศไหน ก็ควรจะต้องเรียนรู้ภาษาชาตินั้นๆ เรียนรู้นิสัย ความคิดความอ่านคนของชาติที่เจริญกว่า รวมถึง culture และสังคมทั่วๆไป หากไม่ได้ภาษาชาติเค้า เรื่องพวกนี้ก็เป็นไปได้ยาก จริงๆแล้วหากแค่ขั้นแรกภาษาบ้านเค้ายังไม่เรียน จะอยู่ประเทศไหนก็ลำบากครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 6
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 7
เพราะเค้าต้องการให้ได้วีซ่าถาวรภายในเวลาไม่ถึงสองปีก็แค่่เท่านั้นแค่พอผ่านยื่น เพราะตามกฏวีซ่าถาวรและพลเมืองเยอรมัน ส่วนการติดต่อในบริษัทใช้ภาษาอังกฤษ ขอจบประเด็นไม่อยากต่อยาวและเสียเวลา


ตอบกลับความเห็นที่ 7
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 8
ขอบคุณครับ พอจะมีทุน, มหาลัย, คณะ แนะนำบ้างไหมครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 8
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 9
จริงๆทุนนอกจาก DAAD ที่ให้ฟรีๆก็มีให้เรื่อยๆทุกปีเท่าที่ทราบ ลองเข้าไปเช็คที่เวปเค้าดูสิครับ http://www.daad.de/ นอกจากนี้ก็ยังมีบ้างอีกหลายทุนนะครับ ทุน กพ นี่ condition คงไม่ต้องพูดถึง น่าจะรู้จักอยู่แล้ว ส่วนคณะและมหาลัยนี่ ต้องดูว่า คุณจะมาเรียนแบบไหนล่ะครับ คอร์สอินเตอร์ หรือภาษาเยอรมัน? แล้วจะต่ออะไร สายไหนครับ? เยอรมันเองเป็นประเทศที่ Ranking ไม่ค่อยมีความสำคัญเหมือนอเมริกา เพราะคุณภาพการศึกษาค่อนข้างเท่าเทียมกัน แม้จะมีมหาลัยที่นับเป็นมหาลัยหลักๆทางด้านเทคนิค แต่มหาลัยทั่วๆไปก็ได้รับการยอมรับครับ ไม่ได้แบ่งพักแบ่งพวกมากเหมือนที่เมืองไทยหรืออเมริกา


ตอบกลับความเห็นที่ 9
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 10
คุณ Prudence อาจไม่ทราบก็ได้ว่า คุณ คนเดินดิน จะให้คำตอบเรื่องโอกาสทำงานของนักศึกษาไทยในเยอรมนีไปในทางบวกเสมอ โดยใช้กรณีที่ตนเองประสบจากคนใกล้ชิดเป็นตัวอย่าง ถึงแม้ว่าในสถานะการณ์ความเป็นจริงโอกาสได้งานของคนต่างชาติจะมีไม่เกิน 25% ก็ตาม แต่คนที่มีความสามารถย่อมมีโอกาสเป็นหนึ่งใน 25% นี้ กระนั้นก็ต้องรับทราบความเป็นจริงด้วยว่าความเป็นไปได้นั้นเป็นเพียงแค่ 1 ใน 4 เท่านั้น ไม่ได้ง่ายอย่างที่เข้าใจกันผิด ถึงแม้ว่ากฏหมายใหม่จะผ่อนคลายเรื่องความเป็นอยู่ของนักศึกษาต่างชาติลงมากก็ตาม รวมทั้ง Blue Card EU ด้วย แต่การแข่งขันกับต่างชาติอื่นๆ ก็สูงตามไปด้วยเช่นกัน

พักหลังๆ เรื่องการศึกษาในเยอรมนีคนมักเข้ามาตอบกันบ่อย เมื่อก่อนยังเห็นคุณเดินดินใช้ log in ปกติเข้ามาบอกเรื่องน้องชายกับเพื่อนได้งานทำงานในเยอรมนีหลังเรียนจบอยู่หลายครั้ง

ไม่ได้ตอบคำถามเรื่องเรียน เรื่องทุนของ จขกท หรอกครับ ต้องขอโทษด้วย

ตอบกลับความเห็นที่ 10
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 11
ขอผมถามเจ้าของกระทู้ ว่า วิศวะโทรคมนาคม ชื่อภาษาอังกฤษ เป็น communication engineer หรือเปล่าแล้ว ได้วุฒิ bachelor of science หรือ bachelor of engineering

ที่เยอรมันถ้าผมจำไม่ผิด เคยได้ยินแต่พวกที่เรียนเรียน Nachrichtentechnik หรือ Elektroingenieur(วิศวะไฟฟ้า) ที่เรียนเกียวกับพวก RF engineering ที่เป็น วิศะวะ นะคับ นอกนั้น ก็เรียน ฟิสิกส์ กันไปเลยนะคับ


ผิดพลาดประการใดขอภัยไว้ในที่นี้ด้วยนะคับ


ตอบกลับความเห็นที่ 11
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 12
ที่คุณ Dearz เข้าใจน่ะ ถูกบางส่วนครับ วิศวะโทรคมนาคม คือ เรียน Elektrotechnik และไปสาย Vertiefung Kommunikationstechnik บางที่จะเรียกสายนี้เป็น Nachtichtentechnik ครับ แล้วแต่มหาลัยจะให้ชื่อบางที่เรียก Information and Communication Engineering บางที่ใช้ Informationstechnik บางที่เรียกรวมไปเลยว่า Nachrichten- und Kommunikationstechnik และอีกหลายชื่ออีกมากมาย

สายนี้นับเป็นว่า 1 ใน major ของสายไฟฟ้าที่ใหญ่และเก่าที่สุด และมีให้แทบทุกมหาลัยที่มีสอนไฟฟ้า และไม่ใช่ว่าจะเรียกสาย RF Engineering เสมอไป นั่นเป็นเพียงแค่ 1 ในเรื่องมี่เรียน นอกจากนี้มีแตกสายจาก Nachtichtentechnik / Kommunikationstechnik มากมายครับ เช่น Ton-, Bild- und Datenkommunikation แล้วแต่มหาลัยจะ offer มีให้เรียกทั้งใน Uni และ FH

ส่วนนักเรียนฟิสิกส์เรียนไม่เหมือนของวิศวะนะครับ มีบ้างทีที่ทีหลังนักฟิสิกส์กับวิศวะมาทำงานร่วมกัน แต่เบสิคแล้วฟิสิกส์เรียนลึกกว่าเยอะครับ เพราะต้องเรียนตั้งแต่พื้นฐานโดยรวมทั้งหมด ไฟฟ้าเป็นแค่ field หนึ่งของฟิสิกส์เท่านั้น ส่วนด้านนี้ kommunikationstechnik แบบนี้ฟิสิกส์ไม่มี major ครับ ถ้ามีก็จะไปทางด้าน signal แต่จะไม่เน้นไปทาง tele แบบที่ จขกท เรียนครับ เพราะฉะนั้นถ้าจะเรียนต่อโทแบบ จขกท ก็คือเรียนวิศวะไฟฟ้า major แบบที่ผมว่ามาข้างบน ไม่ได้เกี่ยวกับฟิสิกส์แต่อย่างใดครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 12
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 13
Dearz : จบมา เป็น Telecommunication Engineering ครับ

Prudence : คือจะมีเป็น สาขา Electrical Engineering แล้วไปเลือก เน้นวิชาที่สนใจ เป็นสาย Telecom เอาเอง ผมเข้าใจถูกไหมครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 13
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 14
ผมคงอธิบายไม่เคลียร์ จขกท เลยงงๆ ขอโทษทีครับ เอาใหม่แล้วกัน คือ การที่เรียกว่า major ของที่นี่เนี่ยในระดับ master จะแบ่งสายไปแล้วครับ เช่น สายคุณก็คือ Electrical Engineering / Major: Communication จะมีตัวบังคับเรียนจำนวนหนึ่ง วิชาให้เลือกจำนวนหนึ่ง แล้วแต่มหาลัยครับ ตัวคุณเลือกเรียนได้เองอีกเป็นจำนวนหนึ่ง แต่ไม่ใช่ว่าต้องเลือกเองทั้งหมดแล้วให้มันออกมาเป็นสาย tele การเรียน master ก็เท่ากับเน้นมาทาง major ทางเดียวแล้วครับ ทางที่ดีผมแนะนำให้คุณไปปรึกษาที่ DAAD อีกที ให้เค้าอธิบายระบบการศึกษาระดับมหาลัยให้ฟัง เพราะมีแยกเป็นระบบ Fachhochschule / university of applied science กับ University ธรรมดาอีก ซึ่งก็เคยมีกระทู้แบบนี้ให้เห็นบ่อยครั้งแล้วครับ

ผมยกตัวอย่างจากหลายๆมหาลัยให้ดูแล้วกันนะครับ จขกท ลองตามเข้าไปไล่ดูเอง อาจจะเข้าใจมากขึ้น ผมคละๆปนๆไปหมดนะครับ ทั้งมหาลัยใหญ่และเล็ก จริงๆแล้วการเลือกเรียนโทในสาย tele นั้น ผมแนะนำให้ จขกท เข้าไปไล่ดูตัวที่เรียนเป็นหลักครับ เอาตัวที่ตัวเองสนใจที่สุด แล้วก็เลือกมหาลัย ส่วน Ranking ของเยอรมันีนั้นก็มี แต่ไม่ได้หมายความว่า จบไปแล้วจะดีกรีดีกว่ามหาลัยทั่วๆไปซักเท่าไหร่

http://master.ei.tum.de/
http://www.ice.tu-darmstadt.de/about/index.en.jsp
http://ctech.e-technik.uni-ulm.de/ctech/bin/view/CTech/WebHome
http://ses.jacobs-university.de/ses/cse/
http://cms.uni-kassel.de/unicms/index.php?id=2444

มีอีกเยอะครับถ้าจะหาจริงๆ สายนี้มีสอนทั่วประเทศ และเกือบทุกมหาลัยที่มีสอนไฟฟ้าแบบที่ผมได้บอกไปแล้ว


ตอบกลับความเห็นที่ 14
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 15
ขอบคุณ คุณ Prudence มากครับ พอเห็นแนวทางขึ้นมาบ้างแล้วครับ ช่วยได้เยอะเลย เดี๋ยวผมลองไปศึกษาข้อมูลตามที่แนะนำมาดู


ตอบกลับความเห็นที่ 15
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 16
ก็ถ้าหลังจากไปปรึกษาที่ DAAD แล้ว หากยังมีคำถามอะไร ก็มาตั้งกระทู้ หรือหลังไมค์มาก็ได้ครับ

โชคดีครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 16