ขอบ่นเรื่องแท็กซี่ออกสื่อค่ะ

สวัสดีค่ะ

ได้ลาพักร้อนไปเที่ยวไทย 3 อาทิตย์ค่ะ ทุกปีจะมีเรื่องฮาๆแบบขำไม่ออกเกี่ยวกับแท็กซี่ อาทิเช่น

- เรื่องแท็กซี่ขับพาวน

- ขอแวะเติมแก็สแล้วปล่อยให้มิเตอร์วิ่งไปเรื่อยๆ

- เรียกราคาเหมาทั้งๆที่ก็มีมิเตอร์พอถามว่าทำไม พี่แท็กซี่บอกว่า น้องมิเตอร์พี่เสียอ่ะ

- ขอทิปเยอะๆ เวรกรรมเพราะมากับสามีชาวต่างชาติ

- แท็กซี่ไม่รับ บอกว่ารถติดน้อง ให้ไปรถไฟฟ้า อยากทราบว่าช่วงหลัง 5 โมงเย็นไปแล้ว มีถนนสายไหนในกรุงเทพฯ รถไม่ติดบ้างคะ

เรื่องที่บ่นๆมา มันเหมือนจะชินและรู้นะคะว่าอย่างไร เรื่องหนึ่งในนี้ก็ต้องเจออยู่ดี

แต่ปีนี้ที่เจอหนักสุดคือ แท็กซี่เมาแล้วขับค่ะ เรื่องนี้คือเรื่องจริงที่เจอมากลับตัวค่ะ ไม่น่าเชื่อและไม่อยากจะเชื่อ ว่าเขาจะกล้ารับผู้โดยสารให้มานั่งร่วมชะตาขาด หมายถึงชะตากรรมกับเขาด้วย

ค่ำนั้นเพิ่งกลับมาจากพาที่บ้านไปทะเลมาค่ะ กลับถึงบ้านก็ราวๆสามทุ่มครึ่งได้ ก็เรียกแท็กซี่จากบ้านย่านฝั่งธนฯจะไปพักแถวๆสถานีรถไฟฟ้าสุรศักดิ์กับสามีค่ะ

ทันทีที่ขึ้นไปในรถก็ได้กลิ่นเหล้าอย่างแรงค่ะ แต่ก็ไม่ได้เอะใจเพราะระหว่างทางกลับบ้านจากทะเล สามีก็ดื่มกับคุณพ่อมาตลอดทางค่ะ เลยคิดว่ากลิ่นเหล้าที่ได้มาจากสามีเอง

แต่พอรถเคลื่อนตัวไปได้สัก 5 นาที สามีก็บอกว่าคนขับเขาเมานะ กลิ่นเหล้าออกมาแรงขนาดนี้ เรายังจะไปกับเขาอีกหรือ ดิฉันว่า มิน่าล่ะถึงได้กลิ่นเหล้า แต่คิดว่ามาจากสามี อีกอย่างคนขับพูดจาวกไปวนมาด้วยค่ะ

สรุปเราทั้งสองคนก็ขอลงจากรถค่ะ คนขับถามว่าทำไมไม่ไปกับเขา ดิฉันต้องทำผิดศีลโดยการโกหกไปว่าลืมของไว้ที่บ้าน จะให้น้องสาวเอาออกมาส่งให้

เสียดายที่ไม่ได้จำชื่อคนขับและเลขทะเบียนรถเพื่อโทรไปร้องเรียนกับบริษัทค่ะ เผื่อว่าเขาจะได้ตักเตือนคนขับบ้าง ว่าเมาแล้วก็กลับบ้านไปนอนซะ ไม่ต้องกดไฟว่างเพื่อแวะรับผู้โดยสารให้ไปร่วมชะตากรรมด้วย

อยากให้กฎหมายมีมาตรการลงโทษหนักๆ กับคนขับแท็กซี่ที่เมาแล้วจอดรับผู้โดยสารค่ะ อาจจะยึดใบขับขี่ไปกี่เดือนก็ว่า หรือให้ทำความดีกับสังคมค่ะ คิดว่าคนที่ทำอาชีพแบบนี้ เขารับผิดชอบเราทั้งชีวิตนะคะ ไม่ใช่แค่ขับรถรับ-ส่ง ผู้โดยสารแล้วก็จบๆกันไป แต่เราเอาชีวิตเราไปฝากไว้กับเขาจริงๆ

บ่นมากไปก็คงไม่ดีใช่ไหมค่ะ คงไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น แค่ไม่อยากให้เรื่องแย่ๆแบบนี้ไปเกิดกับใครค่ะ ถึงจะไม่ได้ร้ายแรงจนเกิดอุบัติเหตุก็ตาม

ปล แท็กซี่ดีๆก็เจอมาเยอะนะคะ แต่ ณ ที่นี้ขอพื้นที่บ่นเรื่องไม่ดีที่เจอมาค่ะ พี่แท็กซี่ที่เป็นแท็กซี่ที่ดีอยู่แล้ว ก็ขอให้รักษความดีไว้ตลอดไปนะคะ ประเทศไทยยังต้องการคนดีๆอย่างคุณค่ะ นักท่องเที่ยวเขาก็จะประทับใจและกลับมาเที่ยวบ้านเราอีกค่ะ

ความคิดเห็นที่ 1
ดูเหมือนว่าตามกฎหมาย แท็กซี่เมาแล้วมาขับรถ มีความผิดถึงติดคุก ยึดใบขับขี่เลยล่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 1
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 2
เราก็เคยเจอนะเรียกจากเจริญนครไปดิโอลสยาม ไม่แน่ใจว่าคนขับเมาหรือง่วง ตาปรือตลอดทางแถมขับกระตุกตลอด. เราคิดขืนไปกับเค้า เวลาข้ามสะพานพุธ. เค้าอาจจะพาเราดิ่งลงแม่น้ำหรือเปล่า ยิ่งเป็นคนกลัวน้ำอยูด้วย(ว่ายน้ำไม่เป็น). ในชีวิตคิดว่าตายดีตายร้ายขอตายบนบกเหอะ ขออย่าตายในน้ำเลยคิดได้ดังนั้นก็บอกคนขับว่า พี่คะขอลงตรงนี้แล้วกัน พอดีได้เวลารับลูกแล้วล่ะ แล้วก็ลงมาขึ้นรถเมล์ต่อไปดีกว่า ไม่รู้เราคิดมากไปป่าว


ตอบกลับความเห็นที่ 2
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 3
นั่นสิค่ะ... ตอนไปเมืองไทย ถึงไม่ค่อยใช้บริการแท็กซี่เลยค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 3
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 4
ใช้บริการแท๊กซี่บ่อยมาก

ส่วนใหญ่เจอแท๊กซี่ดีๆนะ เป็นส่วนน้อยที่ทำให้เข็ดขยาด

เช่น นั่งไปคนเดียว พี่แกเล่น จะไม่เก็บตังส์ คิดเอาเอง ว่าตลอดทาง พี่แ่กชวนคุยอะไร

เข็ดไปหลายวัน แต่สุดท้ายก็ยังคงใช้บริการต่อไป

มีหน้าตาเป็นอาวุธ ยังโดนเลย ฮ่าๆๆๆ


ตอบกลับความเห็นที่ 4
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 5
ของเคยเจอเมายาบ้า บอกว่าขอแข่งกับคันหน้า ขับเร็ว ปาดขวา แซงซ้าย ฝ่าไฟแดง บอกให้จอดขอลง ไม่ยอมจอดด้วย จนไปเจอรถติด รีบลงเลย ขว้างเงินให้ บอกพี่ไปแข่งต่อเหอะ


ตอบกลับความเห็นที่ 5
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 6
เข้ากรุงเทพฯทีไร ครั้งหลังๆนี้เราใช้แต่รถไฟฟ้าเลย ไม่อยากเสียอารมณ์ หงุดหงิด เพราะไปพักผ่อน อยากผ่อนคลายจริงๆ


ตอบกลับความเห็นที่ 6
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 7
ไม่ค่อยนั่งแท๊กซี่ ถ้าไม่จำเป็นค่ะ
ส่วนมากจะรถไฟฟ้า หรือ พี่วิน อิอิ


ตอบกลับความเห็นที่ 7
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 8
ตั้งแต่เค้าจริงจังเรื่องใบขับขี่สาธารณะ กับห้ามปฏิเสธผู้โดยสาร ผมว่าดีขึ้นเยอะนะ แต่นานๆ ไปก็จะหย่อนเหมือนเดิมตามสไตล์พี่ไทย


ตอบกลับความเห็นที่ 8