Mini Review : เขากระโจม 28 ตุลาคม 2555

เราจองรถขึ้นเขากระโจมกับที่พัก อ้อ ทริปนี้เราไปพักกันที่ บ้านสวนปาล์ม อยู่ใกล้ ๆ กับทางขึ้นเขากระโจมเลย

คนขับรถนัดมารับเราตอนตี 5 ... รถแต่ละคันนั่งได้ 8 - 10 คน แต่เราว่าสัก 8 คนกำลังพอดี แต่ของเราไปกัน 10 คน สงสารรถมาก เต็มเอี๊ยด (จริง ๆ ถ้านับตามปริมาณ 10 คน แต่ถ้านับตามคุณภาพ 15 คน Big Size กันเยอะ)

ระยะทางจากทางเข้าถึงเขากระโจม 8 กิโลเมตร ช่วงแรก ๆ สัก 2 กิโลเมตร เป็นทางราดยางอย่างดี แต่หลังจากนั้น เป็นทางแบบโหด ๆ ตลอด

ช่วงขาขึ้นไม่มีโอกาสได้ถ่ายภาพเลย เนื่องจากมืด และวิ่งขึ้นเขาตลอด มาได้ถ่ายรูปก็ตอนที่จะขึ้นเขาช่วงสุดท้าย จะมีทางราบให้หยุดพักรถ เลยได้ถ่ายรูปนี้มา พระอาทิตย์ใกล้ขึ้นเต็มทีแล้ว

เนื่องจากว่ารถเรานั่งกันมาเต็มเอี๊ยด 10 คน พี่คนขับเค้ากลัวว่าจะขึ้นช่วงสุดท้ายไม่ไหว เลยจอดรอรถคันหลัง แบ่งไปสัก 2 คน

ในที่สุด ก็ขึ้นมาถึงแล้ว ... เขากระโจม สุดเขตประเทศไทย

ยังไม่เห็นพระอาทิตย์โผล่มา รอไปเรื่อย ๆ ถ่ายรูปเล่นไปเรื่อย ๆ

ชมทะเลหมอก พระอาทิตย์เริ่มโผล่พ้นมาแล้ว รูปนี้เวลา 6.19 น.

ค่อย ๆ ขึ้นมาทีละนิด เสียดายเอาแต่เลนส์ kit ไป เลย zoom มาได้แค่นี้ แถมรีบ ๆ กด รีบ ๆ ไปถ่ายเพื่อน ๆ ต่อ

โชคดีจังได้เห็นทะเลหมอก ตอนเราไปไม่เห็นทะเลหมอกเลยค่ะ

ในที่สุด ก็โผล่พ้นขึ้นมาเต็มดวง ... เขากระโจม เป็นอีกที่หนึ่งที่ได้มาดูพระอาทิตย์ขึ้นในปีนี้

มีคนชอบบอกเราว่า พระอาทิตย์ขึ้น พระอาทิตย์ตก ดูที่ไหนก็เหมือนกันแหละ ดวงอาทิตย์ก็ดวงเดียวกัน จะไปดูมันทำไม ก็ใช่ว่ามันเป็นดวงเดียวกัน แต่สิ่งที่แตกต่างในความรู้สึกเรา คือ สถานที่ที่ไป และคนที่ไปด้วย แต่ละครั้งมัน แต่ละที่ อารมณ์มันต่างกัน สรุปว่า ... ยังไงก็จะไป ^^

สวัสดีคะ คุณยัยนู๋แก้มป่อง

เราว่าเป็นคนโชคดีในเรื่องทะเลหมอกนะ ไปหลาย ๆ ที่ได้เห็นเกือบทุกครั้ง ตอนนี้มีอยู่ที่เดียวที่อยากเห็นพระอาทิตย์ตกทะเลสวย ๆ คือ แหลมพรหมเทพ ไปมา 5 ครั้งแล้ว ยังไม่มีโอกาสเลย "-.-

บรรยากาศบนเขากระโจม มีคนขึ้นมาเยอะพอสมควรเหมือนกัน มีขี่มอเตอร์ไซค์ขึ้นมาด้วย คันเขียว ๆ นี้

หลังจากถ่ายรูปกันเป็นที่หนำใจแล้ว ก็ได้เวลาขาลงแล้วคะ อยากเห็นทางที่เราขึ้นมาจัง ว่าจะเป็นยังไงบ้าง ทางลงก็ถ่ายรูปมานิด ๆ หน่อย ๆ

เมื่อเช้า เราขึ้นมาทางนี้หรอเนี่ยะ

มาถึงทางราบก่อนขึ้นเขาเมื่อเช้า ชันเหมือนกันนะเนี่ยะ

เป็นหลุมเป็นบ่อตลอดทาง

จุด climax ในทริปนี้ของเราอยู่ตรงนี้คะ

ขาลงจะเจอทางที่เป็นแอ่งแบบนี้อยู่ มีรถจอดรอก่อนเราอยู่ 2 - 3 คัน พอคันเรามาถึง พี่คนขับชื่อพี่เจี๊ยบ ที่ใส่เสื้อสีขาว ก็ลงไปคุยกับรถคันหน้า สักพักได้ยินว่า เดี๋ยวพี่ขับเบิกทางให้แล้วกัน แล้วก็ขึ้นรถมา จากที่เปิดกระจกมาตลอดทาง ก็ปิดกระจก เราก็เริ่มสงสัย ว่าปิดกระจกทำไม แต่ก็ยังไม่คิดอะไร

พอรถเคลื่อนตัวลงไปถึงแอ่ง รู้แล้วค่ะ ว่าพี่เค้าปิดกระจกทำไม "-,-

ลงไปปุ๊บล้อหลัง free เลยคะ โคลนดีดขึ้นมาเต็มที่ คนนั่งข้างหลัง รวมทั้งเราด้วยได้อาบโคลนกันเลยทีเดียว

อันนี้ไม่ใช่คันเราคะ คันอื่นที่ตาม ๆ กันมา

ควันขึ้นกันเลยทีเดียว

ขนาดล้อใหญ่ ๆ ยังลงไปเกือบมิดล้อ

คันไหนที่ข้ามมาแล้ว ก็มารวมพลเอาใจช่วยคันข้างหลัง เด็กแว้นทั้งนั้น ^^

สภาพผู้โดยสารกระบะหลังรถเรา

คันอื่นไม่เป็นแบบนี้เลย พี่เจี๊ยบบอกว่า เห็นน้อง ๆ ร้อนเลยปะแป้งให้ เอ่อ แป้งยี่ห้ออะไรคะเนี่ยะ

ทุกคันถามคันเราหมด ทำไมถึงเละขนาดนี้ ... เอ่อ พอดีพี่คนขับเห็นว่าร้อนคะ เลยปะแป้งให้ซะเลย (อันนี้ถามกันสนุก ๆ ^^ แอบหัวเราะกันด้วย )

มีลุยโคลนแล้ว ก็ต้องมีลุยน้ำบ้าง ดีนะพี่เค้าไม่เห็นว่าเราอยากอาบน้ำ ไม่งั้นสงสัยเทกระจาดลงไปทั้งกระบะ

สุดท้ายเราก็มาถึงข้างล่างโดยสวัสดิภาพ จากนั้นก็ไปเที่ยวไร่องุ่น แต่ไม่มีแรงจะเดินไปในไร่ แค่แวะซื้อของฝากนิดหน่อย จากนั้นก็กลับที่พัก

จริง ๆ ตามโปรแกรมจะพาไปชมน้ำตกผาแดง และสวนกล้วยไม้ด้วย
น้ำตกผาแดงเดินเข้าไปได้แป๊บนึงเจอทากเกาะกันเกือบทุกคน เลยถอยหลังกลับ
สวนกล้วยไม้ พี่เค้าจะแวะให้ แต่ ไม่ไหวแล้ววววคะ อยากกลับแล้ว ก็เลยไม่ไป

ทริปเขากระโจมก็จบแค่นี้คะ รีวิวแบบ mini จริง ๆ

ใครอยากไปชมทะเลหมอก+พระอาทิตย์ขึ้นแบบใกล้ ๆ กรุงเทพ เขากระโจมก็เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งนะคะ

อยากไปบ้างจังเลยค่ะ ^_^

สวัสดีคะ คุณElektra King อยากไปก็ไปโลดเลยคะ ขึ้นไปแล้วหายเหนื่อยจริง ๆ

น่าสนุกอ่ะ

ถ้าเป็นเรา คงจะตื่นเต้นมากค่ะ ดูไปก็ลุ้นไปด้วยค่ะ

เดี๋ยวนี้เค้ามีรับจ้างขึ้นเขาด้วยเหรอครับ

ไม่ทราบคนละเท่าไรหรือต้องเหมาทั้งคันอ่ะครับ

ส่วนใหญ่จะเห็นเหมาเป็นคันคะ นั่งได้ 8 - 10 คน แต่ไม่เกิน 8 คนจะกำลังดี
ของเราได้มา 1,500 บาท เพราะอยู่ใกล้ทางขึ้นเขากระโจมแล้ว

ขอบคุณสำหรับรีวิวมากๆนะครับ
น่าไปมากๆครับ

วิวด้านบนเขากระโจมสวยจังเลย..

เห็นแล้วอยากไปชมทะเลหมอกสักครั้ง..

ขอบคุณที่รีวิวให้ชมนะครับ