\\(^ ^)// \\(^ ^)// \\(^ ^)// ขอความช่วยเหลือจากคนเก่งภาษาอังกฤษหน่อยคะ \\(^ ^)// \\(^ ^)// \\(^ ^)/

รบกวนผู้รู้ทั้งหลาย แชร์ประสบการณ์การพัฒนาการเขียนภาษาอังกฤษ สำหรับงานเขียนบทความวิชาการ (Academic Writing) เช่นงานเขียน วิทยานิพนธ์ Conference paper หรือ Journal paper

อยากทราบคำแนะนำวิธีการเขียนสำหรับผู้ฝึกหัดนะคะ จขกท ตอนนี้เริ่มเรียน ฝึกการเขียน โดยใช้วิธีการอ่าน Journal ศึกษาโครงสร้างการเขียน และฝึกดูรูปประโยค แต่พอจะมาเริ่มเขียนเป็นภาษาของตัวเอง มันตันๆ คำศัพท์ การเขียนยังไม่สื่อสารได้ตามที่อยากจะอธิบายรายละเอียด นะคะ

ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับทุกๆ ประสบการณ์คะ

ความคิดเห็นที่ 1
ไม่เก่งขั้นเทพแต่พอเขียนได้ ขออนุญาตแนะนำนะค่ะ
เดียวถามคนกะลังปั่นวิทยานิพนธ์ให้ค่ะ
.
.
.
Read the journal first and understand the concept and the key points of the article. Take notes, i use point-form. Rewrite your notes as if you are tellingthe story. Use the thesaurus (from word) sparingly as sometimes the synonym is placed in the incorrect context.

ปัญหาเวลาที่นึกไม่ออกว่าจะเขียนยังไงไม่ให้ดูเหมือนลอกบทความมาทั้งหมดนั้น คนที่เป็นเจ้าของภาษาเองก็เจอปัญหานี่เหมือนกันค่ะ

รอดูคนเก่งๆ ในห้องนี้มาช่วยตอบอีกทีค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 1
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 2

ขอบคุณสำหรับคำแนะนำจาก คุณคนห่างบ้านนะคะ

ภาษากำลังเป็นอุปสรรค และเป็ฯโอกาสที่ต้องพัฒนาตัวเอง
ต้องใช้เวลา กับการฝึก ฝน ........
ตอบกลับความเห็นที่ 2
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 3
ประการแรกผมว่าต้องฝึกอ่านให้เยอะๆนะครับ
เรื่องแบบนี้ต้องให้เวลากับตัวเองครับ ฝึกอ่านบ่อยๆเป็นประจำจะได้ศัพท์เยอะขึ้น

อ่านจาก journal ก็จะได้ศัพท์ที่ academic มากกว่าทาง textbook
แต่่ journal เนี่ยต้องอ่านแบบที่ได้มาตราฐานด้วยนะครับ
หาได้จาก sciencedirect.com ครับแต่อาจจะเสียเงินนะครับสำหรับคนที่เมืองไทย

อ่าน journal เนี่ยอย่ากดดันตัวเองนะครับ เพราะบาง journal เนี่ยอ่านยากมาก ค่อยๆแกะมันไป
อ่านไปจดศัพท์ไปเรื่อยๆครับ จำรูปประโยคเจ๋งๆมาใช้
ซึ่งสิ่งพวกนี้เนี่ยได้ทำเป็นประจำเราก็จะจำคำศัพท์ได้ รูปประโยคได้ครับ
อีกอย่างนึงคือฝึกเขียนรูปประโยคให้เป็น passive เยอะๆครับ

หรือฝึก paraphrase ข้อความจาก journal ก็ได้ครับ
เพราะบางทีอาจ เราอาจจะคิดรูปประโยคไม่ได้ก็ต้องใช้วิธีนี้ครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 3
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 4
เพิ่มเติมครับ
นี่คือตัวอย่างของการ Paraphrase นะครับ ข้างล่างนี้คือ orginal version

Torjusen et al. (2001) analysed the factors affecting the
choice of organic produce for Norwegian consumers using
a logistic regression. Results indicate that income is positively
related to the probability of buying organic foods,
while other socio-demographic characteristics are not statistically
significant. Moreover, some food attributes such
as local produce and health aspects are statistically significant
in explaining organic food choice.

ส่วนข้อความข้างล่างนี้คือ Paraphrase เรียบร้อยแล้วครับ

Torjusen et al., (2001) investigated the factors influencing the choice of organic products by Norwegian consumers by using logistic regression to predict the probability of their purchasing free-range foods. Findings showed that income is significantly related to the likelihood to purchase organic foods. Other socio-demographic characteristics, however, are not important.

นี่เป็นตัวอย่างนึงจาก dissertation ของผมเองครับ

ตอบกลับความเห็นที่ 4
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 5
เห็นด้วยกับการอ่านเยอะครับ ๆ สำหรับผม การอ่านมันคือ reverse process ของการเขียนครับ พออ่านเยอะ ๆ ก็จะเริ่มจับทางได้ครับ


ตอบกลับความเห็นที่ 5
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 6
มายกมืออีกคนค่ะว่าต้องอ่านเยอะ ๆ
อ่านเยอะ ๆ จากหลายๆ แหล่งเราจะได้คำศัพท์มากขึ้น ได้แนวการเขียนมากขึ้น
มันจะซึมซับมาเอง

เราไม่ได้เรียนวิศวะแต่ว่าเรียนกฎหมาย
เวลาจะสอบเนติก็ต้องอ่านคำพิพากษาเยอะ ๆ เพราะว่าสำนวนแบบคำพิพากษาเนี่ยเหมาะเอามาตอบคำถามค่ะ
เวลาไปเรียนต่อเมืองนอก จะเขียน dissertation ก็ต้องอ่าน journal และ textbook เยอะ ๆ เหมือนกัน จะได้ซึมซับวิธีการเขียนมาด้วย เอาอะไรขึ้นก่อน ยกเหตุผลยังไง วิเคราะห์ยังไง สรุปยังไง คำศัพท์หลากหลายขึ้น เป็นต้น


ตอบกลับความเห็นที่ 6
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 7
ดิฉันเพิี่งเรียนคลาส academic writing แบบเริ่มต้นเมื่อเทอมที่แล้ว มันมีวิธีการเขียนค่ะ อาจารย์จะสอนวิธีการใช้ Quotation Sandwich การวางรูปแบบ การวิเคราะห์ข้อมูลจากสื่อหรืองานเขียนอื่น ๆ แล้วมาใช้สนับสนุน theory ของเรา Textbook ที่ใช้ในคลาสสำหรับเรียนการเขียนคือ They Say I say: The Moves that Matter in Academic Writing (ชื่อประมาณนี้) คุณลองหาดู ดิฉันจะเริ่มเรียนการเขียนระดับกลางเทอมหน้านี้ค่ะ

ส่วนการเลือกศัพท์ให้ดูหรู ๆ เป็นทางการ แนะนำ Merriam-Webster Dictionary and Thesaurus เว็บไซต์ค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 7