ใครอาศัยอยู่ญี่ปุ่น ช่วยตอบหน่อยคับ

อยู่โตเกียวนะคะ

ต้องดูขนาดห้องด้วยว่าขนาดไหน ถ้าเล็กมากขนาดวันรูม หรือ ไมเกิน 2DK ก็แปลกค่ะ
ขนาดห้องเรา 2DK เราตั้งค่าไฟไว้ที่ 30 แอมเพราะอยู่สองคนเรตค่าไฟจะรันถูกกว่า
แต่ถ้าตั้งที่ 30 ขึ้นไปส่วนมากก็จะแพงขึ้นด้วย

ของเรากรณีที่ 30 แอมนะคะ
ค่าไฟอยู่ไม่เคยเกิน 4,000 มีแอร์ หม้อหุงข้าว เครื่องปิ้งขนมปัง ไมโครเวฟ กาต้มน้ำและตู้เย็นขนาดใหญ่ เครื่องซักผ้า-อบผ้าบ้างตามแต่ช่วง
ใช้แอร์ตามแต่อากาศแพงที่สุดอยู่ที่ 5,000 เยนค่ะ

ค่าน้ำเราก็อาบปกติแต่ไม่ค่อยแช่โอฟุรุเท่าไหรเพราะเราอยู่บ้านคนเดียวมากกว่าถ้าเราอยากแช่กันมักเป็นหน้าหนาว แล้วก็ชอบไปแช่ตามพวกร้านอาบน้ำสาธารณะมากกว่า (มันกว้างมีแบบจากุชชี่ด้วย ><)
ค่าน้ำประมาณไม่เกินเดือนละ 2,000 ค่ะ

ส่วนค่าแก๊สทำกับข้าวของสองคนทำข้าวกล่องและกับข้าวตามปกติทุกวันอยู่ที่ราวๆเดือนละ 2,500 เยนค่ะ
ถ้าช่วงหน้าหนาวที่แช่น้ำร้อนบ่อยก็จะราวๆเกือบสามพันค่ะ

ค่ามือถือตกเดือนละหมื่นเยนเพราะเราเล่นเนตในมือถือด้วย แต่ถ้าโทรต่างประเทศแบบที่ใช้มือถือโทรเลยแพงแน่ค่ะ
เราเคยใช้มือถือของซอฟแบงค์โทรกลับบ้านสูงสุดที่โดนไปคือเจ็ดหมื่นเยน (อ่านไม่ผิดค่ะ)
เพราะนาทีนึงราวๆสองร้อยกว่าเยนได้
ส่วนค่าอินเตอร์เนตบ้านเราใช้แบบเหมาจ่ายตกเดือนละ 4,000 เองค่ะ

เราคิดว่าคุณจ่ายเกินไปเยอะมากพอดูเลยค่ะ เพียงแต่ว่าถ้าคิดว่าเขาทำธุระจัดการให้อาจจะพอกันมั้งคะ?
เขาคงมองว่าการให้ยืมชื่อใช้ทั้งมือถือทั้งบ้านคือความเสี่ยง

ความเห็นส่วนตัวคือ เราคิดว่าที่จริงห้องที่คุณเช่าอาจจะเป็นห้องเล็กๆขนาดที่มีที่นิดหน่อยแล้วเหมาจ่ายเนตน้ำไฟในตัวมากกว่านะคะ
เพราะเพื่อนเราเองก็เช่าห้องเล็กๆอยู่แต่เหมาจ่ายหมดใช้แบบกระหน่ำเท่าไหรก็ไม่ได้ต่างราคาไปมากนัก
ยังไงก็ใจเย็นๆก่อนนะคะ อาจจะมีค่าใช้จ่ายส่วนอื่นอีกที่เขาเอาไปคิดคำนวนค่าเสี่ยงกรณีที่คุณทำของเสียหาย หรือหนีไปโดยทิ้งภาระอะไรไว้ให้เขา

ปล.เราคิดว่าอยู่โรงแรมอาจจะถูกกว่ามีห้องพักที่นี่นะคะ หรืออาจจะเช่าแบบบางครั้งบางคราวก็เอาพวกเลโอพาเนตก็ดีนะคะเหมาน้ำไฟแก๊ส มีเครื่องเรือนดีๆห้องกว้างๆสะอาด ส่วนมากไม่ไกลสถานีแล้วเข้าอยู่ได้ทันทีด้วย อาจจะแค่แพงค่าเช่าแต่ไม่ต้องผูกมัดอะไร
ส่วนมือถือก็เช่าเอา หรือไม่ก็ซื้อแบบเติมเงินไปเลยอาจจะเครื่องไม่หรูหราแต่ก็มาทีเติมทีก็โอเคนะคะ

ขอบคุณคับสำหรับคำตอบ ผมอยู่hamamatsu ครับ ขนาดห้องระเบียนห้องก็ประมาณ 4-5 เมตร ได้อะครับ โทรศัพท์นี่ใช้ชื่อเราเองได้ไหมอะครับ ถ้าได้ต้องใช้หลักฐานไรมั่ง ผมสักผ้าทุกวัน ทำอาหารเฉพาะมื้อเย็นอาทิตละ3-5วัน ตู้เย็นขนาดเล็กเท่าเอว

คุณจกท.

นิสัยคนไทยมักเกรงใจไม่กล้าถาม หรือบางทีเขินที่จะถามเรื่องเงินๆทองๆ
ทั้งๆที่ความจริงมันติดอยู่ในใจ

สมมติว่าถ้าเป็นกรณีคนชาติอื่นล่ะ เขาจะถามไหม
ถ้าคนจีน คนเกาหลี แขก ฝรั่ง เราคิดว่าเขาถามละเอียดตรงๆเลย

ยิ่งไม่ถาม นานวันก็ยิ่งสงสัย มันไม่ดีสำหรับทั้งสองฝ่าย

ค่าต่างๆที่คุณว่ามันสามารถดูบิลได้ ก็ขอดูบิลเลยค่ะ ถ้าไม่ใช่เพื่อนสนิทกันก็ควรให้ค่าจัดการเขาไปด้วย หากยังต้องการให้คนเดิมดูอยู่ก็ควรคุยเลยว่าขอบิลและให้คิดค่าจัดการไปเลยค่ะ

แต่อ่านดูแล้วงงนิดหน่อยตกลง จขกท เสียไปเท่าไรคะ ถ้าตามที่เขียนเข้าใจว่าเสียไป 150,000 อันนี้ต่อ 2 เดือน ค่าห้องและค่า facility อื่นด้วยตนเองมองว่าอยู่ในอัตราปกติ

อย่างของตนเองค่าห้อง 70000 น้ำ ไฟ แกส ค่าโทรศัพท์ internet ประมาณ 10000 โดยรวมอยู่ที่ 80000 ต่อเดือนคนเดียวค่ะ

จากที่เล่ามาถ้า 2 เดือน แสนห้า ถือว่าปกติค่ะ

1เดือนครับผม

ถ้าไม่ใช่เพื่อนกันที่จะจัดการให้ได้ฟรีๆ ก็คิดว่าเป็นการซื้อความสะดวกก็โอเคค่ะ การเช่าห้องพักในญี่ปุ่น โดยปกติต้องจ่ายค่ากินเปล่าแรกเข้า 2-3 เดือนอยู่แล้วค่ะ ตอนมาใหม่ๆเดือนแรกเราก็จ่ายค่าห้องแสนห้า(ค่าเช่าสี่หมื่น) และการซื้อโทรศัพท์และติดอินเตอร์เน็ตก็ต้องทำสัญญา 2 ปี ถ้าใช้ไม่ถึงสองปีจะต้องจ่ายค่าปรับ แบบว่าถ้าคุณทำเรื่องเองทั้งหมดคุณก็คงจ่ายเท่านี้ค่ะ และถ้าวีซ่าไม่ถึง 2 ปีก็ซื้อโทรศัพท์ไม่ได้
ในกรณีนี้ (ถ้าไม่ได้เป็นเพื่อนกัน)คิดว่าเค้าคงมองเป็นเรื่องธุรกิจ อาจจะเก็บเพิ่มเป็นค่่าดำเนินการ แต่ไม่ค่อยชอบตรงที่เค้าไม่บอกคุณให้ชัดเจนและไม่มีใบเสร็จ? ส่วนค่าน้ำค่าไฟค่าโทรศัพท์จริงๆแล้วมันไม่ได้แพงมาก(ไม่ค่อยเข้าใจว่าต้องจ่ายเท่านี้ตลอดไป หรือเฉพาะเดือนแรก ถ้าจ่ายแบบนี้ทุกเดือน เค้าก็ได้กำไรเยอะอยู่ แต่ถ้าจ่ายแค่เดือนแรก หรือรวมทั้งหมดแล้วเค้าคงคิดไว้เผื่อค่าปรับค่าเสี่ยงอะไรก็ว่าไป และถือว่าไม่แพงค่ะ ปกติ)

ถ้าไม่ได้อยู่ตลอด ลองเปรียบเทียบราคา business hotel หรือ weekly mansion ดูเป็นทางเลือกก็ได้ค่ะ

เราอยู่ 4 คน

ค่าใช้จ่ายต่อเดือ

ไฟ - เปิดแอร์เกือบทุกคืน ตกประมาณเกือบ 8000 เยน ... ถ้าไม่เปิดแอร์เลย ใช้พัดลมปกคิ ค่าไฟประมาณ 4-5000 เยน

น้ำ - เดือนละประมาณ 3500 เยน...อาบฝักบัวนะคะ

แก๊ส - ทำกับข้าวเช้าเย็นเที่ยง 7-8 พันเยน

เน็ทบ้าน - 2800 เยน

ค่าเช่าสัญญาณโทรศัพท์ -1700 เยน

ค่า NHK -1250 เยน

มือถือ - 10000 เยน

รวม 84 ,250 เยน โดยประมาณค่ะ แต่คุณไม่ได้อยู่ประจำ นอกจากค่าเน็ท โทรศัพท์ ห้องแล้ว รายการอื่นๆ น่าจะมีแนวโน้มที่จะถูกกว่านี้ค่ะ เพราะไม่ได้อยู่ประจำ

ค่าใช้จ่ายอื่นนอกเหนือจากนี้ คิดว่าคงเป็นเหมือนค่าดำเนินการให้มั้งคะเพราะเขาเป็ฯคนค้ำประกันห้องที่อยู่นั้นด้วย เกิดอะไรขึ้นมา เขาต้องรับผิดชอบก่อน แล้วนอกจากที่กล่าวมาแล้ว เขาต้องเสียค่าประกันภัยที่ห้องด้วยค่ะ แต่จ่ายรายปี + อาจจะมีค่าบริการฉุกเฉิน เช่น น้ำไม่ไหล ไฟดับ สามารถเรียกช่างมาได้ตลอดเวลาก็มีค่ะ

เค้าไม่ได้เอาเปรียบหรอกค่ะ

ถ้าเช่าห้องในญี่ปุ่นอยู่ตั้งแต่หนึ่งเดือนขึ้นไป คุณจะต้องจ่ายล่วงหน้าประมาณสี่ถึงห้าเท่าของค่าเช่าห้อง

ทั้งเงินมัดจำและเงินขอบคุณเจ้าของบ้าน(เรคิน) ซึ่งเมื่อคุณย้ายออกถาวรคุณก็จะไม่ได้เงินคืน

(ถึงจะเรียกว่าเงินมัดจำก็เถอะ สุดท้ายคุณก็ต้องสูญมันไปเพราะเค้าจะเคลมว่าเป็นค่าซ่อมแซมห้อง ดีไม่ดีบางรายเจอจ่ายเพิ่มอีกเพราะทำห้องเค้าเละเกิน)

นอกจากนี้เรื่อง น้ำ ไฟฟ้า แก๊ส โทรศัพท์บ้าน อินเตอร์เน็ท ผู้เช่าจะต้องเป็นผู้ดำเนินการติดต่อกับบริษัทน้ำ บริษัทไฟ บริษัทแก๊ส บริษัทโทรศัพท์

บริษัทอินเตอร์เน็ท ด้วยตัวเอง โดยติดต่อสื่อสารเป็นภาษาญี่ปุ่นและกรอกเอกสารเป็นภาษาญี่ปุ่นทั้งหมด (ถ้าคุณไม่ได้ภาษาญี่ปุ่นเลย ขอบอกว่าลำบากสุดๆ)

ที่สำคัญที่สุดก็คือ ถ้าไม่มีคนญี่ปุ่นเซ็นค้ำประกันในสัญญาเช่าบ้านให้ คุณไม่มีทางได้เช่าแน่นอนค่ะ

คนญี่ปุ่นด้วยกันเองยังหาคนค้ำประกันให้ลำบาก นับประสาอะไรกับคนต่างชาติ

(ตอนดิฉันหาห้องพักสมัยเป็นนักเรียน เคยถูกปฏิเสธไม่ให้เช่าด้วยเหตุผลว่าเป็นชาวต่างชาติมาแล้ว เค้ากลัวเราไม่จ่ายแล้วหนีกลับประเทศ)

สรุปว่า ถ้ามีคนมาให้ดิฉันทำธุระทั้งหมดนี้ให้ ดิฉันไม่ทำค่ะ เหอะๆ (ไม่ทราบจะไปหาญี่ปุ่นที่ไหนมาเซ็นค้ำประกันให้)

ดังนั้นกรณีของคุณ ดิฉันคิดว่าโอเคแล้วล่ะค่ะที่มีคนจัดการทุกอย่างให้ขนาดนั้นโดยไม่โขกค่านายหน้ามากมายชนิดขูดเลือดขูดเนื้อ

มาอ่านแล้ว เรารู้สึกว่าเราใช้น้ำ ไฟ แก๊ส เปลืองมาก
อยู่กันสองคนกับสามี ห้องก็เล็ก ปาเข้าไปสองหมื่นต้นๆ ไม่นับค่าอื่นๆ

ต้องประหยัดซะแล้ว