มีวัดไทยในตุรกีบ้างมั๊ยคะ

ไม่คิดว่าจะมีวัดไทยในตุรกี

เราไม่คิดว่าจะมีวัดไทยในกรุงอิสตันบูลนะคะ คุณ จขกท. เพราะชุมชนไทยในประเทศตุรกี กลุ่มคนไทยที่ไปทำงาน
หรือไปแต่งงานกับคนตุรกีนั้นเล็กมากๆ ค่ะ

ตอนเราไปอิสตันบูล เราได้พบคนไทยในตุรกีที่ร้านอาหารไทย ซึ่งมีเจ้าของเป็นคนตุรกีและคนอังกฤษ ได้พูดคุยกับคนไทย
ที่อาศัยอยู่ที่นั่น และได้ลองรับประทานอาหาร และเห็นว่าเครื่องปรุงอาหารไทย วัตถุดิบต่างๆ ขาดแคลนมาก เนื่องจาก
ชุมชนไทยที่นั่นเล็ก (แต่เชฟใหญ่ที่เป็นคนไทย ดัดแปลงเก่งนะคะ ในการเอาวัตถุดิบ เครื่องปรุงเท่าที่จะสามารถหาได้ และ
เท่าที่มีอยู่เอามาปรุงอาหารไทยค่ะ เป็นร้านหรูและดังของที่นั่น และมีคนท้องถิ่นไปกินมากมาย และชาวไทยที่ไปเที่ยวที่นั่น
ก็ไปค่ะ และเชฟผู้นี้มีประสบการณ์สูงมากจากหลายๆ ประเทศรวมทั้งในประเทศไทย)

และเราเข้าไปค้นข้อมูลในอินเตอร์เน็ทมาให้คุณ ไปเจอข่าวกิจกรรมฯ ของคนไทยในต่างแดน ในตุรกี ทำให้แน่ใจว่า
ไม่มีวัดไทยในอิสตันบูล หรือไม่มีวัดไทยในตุรกีแน่นอนค่ะ

นี่ค่ะลิ้งค์ข่าว มาจากเว็บของกระทรวงการต่างประเทศของไทยค่ะ
http://www.mfa.go.th/main/th/media-center/30/25437-สถานเอกอัครราชทูต-ณ-กรุงอังการานิมนต์คณะพระภิกษุไท.html

อนึ่งคนไทยในตุรกีที่เล่นอยู่ในเว็บนี้ และเล่นห้องนี้มีหลายท่านนะคะ ถ้ายังไงก็ รอคนไทยในตุรกีมาคอนเฟิร์มให้คุณนะคะ
เราช่วยหาข้อมูลให้ได้แค่นี้ค่ะ

เราไม่คิดว่าจะมีวัดไทยในกรุงอิสตันบูลนะคะ คุณ จขกท. เพราะชุมชนไทยในประเทศตุรกี กลุ่มคนไทยที่ไปทำงาน
หรือไปแต่งงานกับคนตุรกีนั้นเล็กมากๆ ค่ะ

ตอนเราไปอิสตันบูล เราได้พบคนไทยในตุรกีที่ร้านอาหารไทย ซึ่งมีเจ้าของเป็นคนตุรกีและคนอังกฤษ ได้พูดคุยกับคนไทย
ที่อาศัยอยู่ที่นั่น และได้ลองรับประทานอาหาร และเห็นว่าเครื่องปรุงอาหารไทย วัตถุดิบต่างๆ ขาดแคลนมาก เนื่องจาก
ชุมชนไทยที่นั่นเล็ก (แต่เชฟใหญ่ที่เป็นคนไทย ดัดแปลงเก่งนะคะ ในการเอาวัตถุดิบ เครื่องปรุงเท่าที่จะสามารถหาได้ และ
เท่าที่มีอยู่เอามาปรุงอาหารไทยค่ะ เป็นร้านหรูและดังของที่นั่น และมีคนท้องถิ่นไปกินมากมาย และชาวไทยที่ไปเที่ยวที่นั่น
ก็ไปค่ะ และเชฟผู้นี้มีประสบการณ์สูงมากจากหลายๆ ประเทศรวมทั้งในประเทศไทย)

และเราเข้าไปค้นข้อมูลในอินเตอร์เน็ทมาให้คุณ ไปเจอข่าวกิจกรรมฯ ของคนไทยในต่างแดน ในตุรกี ทำให้แน่ใจว่า
ไม่มีวัดไทยในอิสตันบูล หรือไม่มีวัดไทยในตุรกีแน่นอนค่ะ

นี่ค่ะลิ้งค์ข่าว มาจากเว็บของกระทรวงการต่างประเทศของไทยค่ะ
http://www.mfa.go.th/main/th/media-center/30/25437-สถานเอกอัครราชทูต-ณ-กรุงอังการานิมนต์คณะพระภิกษุไท.html

อนึ่งคนไทยในตุรกีที่เล่นอยู่ในเว็บนี้ และเล่นห้องนี้มีหลายท่านนะคะ ถ้ายังไงก็ รอคนไทยในตุรกีมาคอนเฟิร์มให้คุณนะคะ
เราช่วยหาข้อมูลให้ได้แค่นี้ค่ะ

นี่ผมคิดเอาเองนะ.... เพราะว่าประเทศเค้านับถือศาสนาอิสลาม ซึ่งไม่เปิดกว้างให้กับศาสนาอื่น ทำให้ไม่คิดว่าจะมีการเปิดวัดไทยในประเทศเค้าได้ ขนาดอิสลามด้วยกันแต่ว่าคนละนิกาย (Suni, Shia) ยังฆ่ากันอย่างไม่รู้จักหยุดหย่อน นับประสาอะไรกับศาสนาอื่น

อาฟฆานิสถานก็ไม่มีวัด แม้แต่พระพุทธรูปก็ยังพังทิ้ง คนศาสนาอื่นที่นั่นที่อาศัยอยู่ถาวรก็ไม่มี ถ้ามีก็ไม่เกิน 600

ตุรกีเป็นประเทศมุสลิมที่ทันสมัยค่ะ มีเกย์เยอะด้วย และคนตุรกีมากมายโดยเฉพาะคนเมืองอิสตันบูล เหมือนฝรั่งค่ะ
ในอิสตันบูลมีโรงแรมเก๋ๆ ฮิพๆ เริ่ดๆ มากมายเป็นโรงแรมประเภท Gay Friendly ด้วยค่ะ

ร้านอาหารไทยอัพมาร์เก็ตในย่านแพงของอิสตันบูล ที่ดิฉันเล่าให้ฟังใน คห. 3 ข้างบน เจ้าของก็เป็นคู่เกย์ค่ะ

คนตุรกีชอบคนไทยด้วยนะ และมีหลายๆ คนเคยมาเมืองไทย คุ้นเคยกับเมืองไทยและคนไทยดี
ที่ตลาด Grand Bazar ตลาดเก่าแก่ชื่อดังในอิสตันบูล มีสินค้าจากเมืองไทยไปขายมากมาย

คุณ จขกท. คะ ทุกๆ อย่่างหน่ะ อยู่ที่ใจนะคะ วันเกิดถ้าทำบุญในวัดไทยไม่ได้จริงๆ แค่ออกไปทานข้าวมื้อพิเศษก็
น่าจะพอแล้วนะคะ หรือกลับมาทำบุญที่เมืองไทยภายหลังค่ะ อะไรที่เป็นนามธรรมหน่ะ บางครั้งปล่อยวางเสียบ้าง
แล้วเราจะไม่ทุกข์นะคะ ความสุขสามารถมีได้ทุกวัน และวันเกิดสามารถฉลองได้ทุกวันค่ะ หลายๆ อย่างในชีวิต
ของคนเราที่ทำให้ยุ่งยาก ทำให้ทุกข์ เพราะเราไปกำหนดกฏเกณฑ์มันมากเกินไป อยากจับต้องนามธรรม
ให้ความสำคัญกับสิ่งในอุดมคติมากเกินไป ปล่อยวางนะคะ แล้วกลับมาทำบุญภายหลัง หรือทำบุญกับโบสถ์ของ
ศาสนาอิสลามก็ไม่ผิดกฏกติกานะคะ เพราะพี่เชื่อเสมอว่าทุกศาสนาสอนให้คนเป็นคนดี และถ้ายึดสายกลางค่ะ

ดูข่าว ทีวี มุสลิมตุรกีในเยอรมนีสร้างสุเหร่าใหญ่โตในเมืองที่มีชนชาวตุรกีอยู่มาก ขณะที่ในประเทศตุรกีมีโบสถ์คริสเล็กๆ แถมยังถูกรังแกจากคนพื้นเมืองอีกด้วย

ไม่มีทางที่เราจะหาวัดในดินแดนมุสลิมได้หรอกครับ
เพราะว่านอกจากเขาจะไม่ให้สร้างและไม่ให้มีแล้ว
พวกเขาจะหาทางกำจัดคนต่างศาสนาออกไปจากประเทศเขาด้วย
สังคมอิสลามไม่ใจกว้างเหมือนสังคมอื่น
คนพวกนี้เห็นแก่ตัว และไม่ต้องการศาสนาอื่นเข้าไปอยู่ในดินแดนเขา
พวกเขาจะหาทางแกล้งทุกอย่าง ทำทุกวิถีทางที่จะให้เราออกไป
ไม่ต้องอื่นไกล ดุแค่ทางใต้ของเราก็พอ
พวกมันเคยคิดจะปรับตัวเข้ากับคนอื่นเขาได้ไหม
นอกจากพวกมันเอง ซึ่งวันๆก็เอาแต่ท่องอ้อนวอนพระเจ้า
ไม่ทำมาหากินอะไร นอกจากป่วนเมือง
สำหรับผมมองพวกนี้ว่า พวกปัญญาอ่อนครับ
อาเมนนนนนนนนนนนนนนนนน

เห็นด้วยกับทุก คคห และ คิดว่า ไม่น่ามีวัดไทยในตุรกีค่ะ

รายชื่อวัดจากวิกิพีเดีย http://th.wikipedia.org/wiki/รายชื่อวัดไทยในต่างประเทศ
ไม่มีครับ

คำกล่าวของ คห 9 ดูจะใกล้เคียงความเป็นจริงมากที่สุด

"ไม่มีทางที่เราจะหาวัดในดินแดนมุสลิมได้หรอกครับ
เพราะว่านอกจากเขาจะไม่ให้สร้างและไม่ให้มีแล้ว
พวกเขาจะหาทางกำจัดคนต่างศาสนาออกไปจากประเทศเขาด้วย
สังคมอิสลามไม่ใจกว้างเหมือนสังคมอื่น"

ตุรกีเป็นประเทศหนึ่งที่ทำรายได้หลักจากธุรกิจท่องเที่ยว เมื่อดูจากวิถีชีวิตผิวเผินภายนอก โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากประสบการณ์ของผู้ไปเยี่ยมเยือนท่องเที่ยว ตุรกีเหมือนจะเป็นมุสลิมที่ทันสมัยเมื่อเทียบกับมุสลิมประเทศอื่นๆ ทุกประเทศ แต่ความเป็นตัวตนตุรกีที่แท้จริงก็ยังคงเป็นมุสลิมที่อยู่ภายใต้อิทธิพลความเชื่อตามกฏหลักศาสนาอิสลามอยู่นั่นเอง

ถ้ามองออกจากมาจากสายตาคนไทย อาจมองว่าตุรกีทันสมัยเพราะในแง่ของเศรษฐกิจโดยรวมแล้วตุรกีนำหน้ากว่าไทย 2 เท่าตัว คนไทยบางคนถึงกับเปรียบเทียบไปว่าตุรกีเหมือนฝรั่งไปเลย และแม้แต่ตุรกีเองก็อยากจะถูกนับว่าเป็นฝรั่งยุโรปด้วยเหมือนกัน ซึ่งจะเห็นได้ว่าตุรกีได้พยายามอย่างยิ่งที่จะเข้าเป็นสมาชิกสหภาพอียู และได้พยายามมาตลอดระยะเวลา 40 ปี จนถึงวันนี้ก็ยังไม่สำเร็จ

ในทางภูมิศาสตร์นั้นตุรกีมีดินแดนคาบเกี่ยวกับทั้งสองทวีปคือยุโรปและเอเชีย(กลาง) โดยด้านตะวันตกเฉียงเหนือมีเขตแดนติดต่อกับบุลกาเรียและกร๊ซ ส่วนทางด้านตะวันออกติดต่อกับประเทศตะวันออกกลางทั้งหลาย ซึ่งเมื่อคิดเป็นเปอร์เซนต์แล้ว ดินแดนที่ถูกนับว่าอยู่ในยุโรปนั้น (รวมอิสตันบูล) มีอยู่แค่ 3% อีก 97% หรือส่วนใหญ่นั้นเป็นดินแดนที่อยู่ในทวีปเอเชีย จึงอย่าได้แปลกใจว่าทำไมคนไทยกับคนตุรกีจึงเข้าอกเข้าใจกันได้ดี

แต่ในแง่ของการการเมือง สังคมและเศรษฐกิจแล้ว ตุรกีมีความสำคัญอย่างยิ่งยวดทั้งกับยุโรปและตะวันออกกลาง ในแง่ของการเมืองนั้นเห็นได้ชัดเจนจากกรณีสงครามกลางเมืองที่สู้รับกันอยู่ในซีเรียขณะนี้ และแม้แต่กรณีพิพาทในตะวันออกกลาง ตุรกีเป็นประเทศมุสลิมเพียงประเทศเดียวที่เคยมีสัมพันธ์อันดีกับอิสราเอลมาตลอดจนถึงกับมีการร่วมซ้อมรบกันหลายครั้ง เพิ่งมาแตกคอกินแหนงแคลงใจกันเมื่อไม่นานมานี้เองที่อิสราเอลยิงเรือส่งเสบียงขององค์กรช่วยเหลือเอกชนของตุรกีที่จะเข้าไปช่วยชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซ่า ทำให้ชาวตุรกีที่อยู่ในเรือตายไป 9 คน ตอนนี้ตุรกีจึงไปมีสัมพันธไมตรีญาติดีกับกลุ่มสันนิบาตอาหรับอิสลามทั้งหลายเป็นพิเศษ

สำหรับยุโรปนั้นคงไม่มีใครจะรู้จักตุรกีดีเท่ากับเยอรมนี ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นประเทศที่ชาวตุรกีอาศัยอยู่มากที่สุดเป็นอันดับสองรองคงมาจากประเทศตุรกีเอง จึงเป็นกลุ่มชนที่เกี่ยวข้องกับปัญหาชีวิตประจำวันของชาวเยอรมันที่ส่งผลทั้งทางด้านการเมือง เศรษฐกิจและสังคมอย่างแยกกันไม่ออก

ชาวตุรกีที่อพยพเข้าไปในยุโรปนั้น เริ่มเข้าไปตั้งแต่ปี 1950-1970 โดยเป็น migrant worker ในหลายประเทศซึ่งขาดแคลนคนงานในช่วงสร้างประเทศหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ประเทศยุโรปที่รับคนงานตุรกี สเปญ และ อิตาลี เข้าไปได้แก่ เบลเยี่ยม สวีเดน เนเธอร์แลนด์ สวิตเซอร์แลนด์ ออสเตรีย และ เยอรมนี

สำหรับชาวสเปญกับอิตาเลี่ยนนั้นไม่มีปัญหาในการอยู่ร่วมกับสังคมใหม่เพราะเป็นชาวยุโรปที่นับถือศาสนาเดียวกัน แต่ตุรกีนั้นยังคงเป็นปัญหาอยู่จนกระทั่งทุกวันนี้ในทุกประเทศที่ระบุชื่อถึงข้างต้น

อยากรู้ว่าฝรั่งมีทัศนคติอย่างไรกับตุรกี ก็เหมือนกับคนขาวอเมริกันย้ายบ้านหนีเมื่อมีเพื่อนบ้านอเมริกันผิวดำเพิ่มมากขึ้น ฉันใดฉันนั้นคนขาวยุโรปก็ปฏิบัติเช่นเดียวกัน จนหมู่บ้านหลายแห่งใน Berlin, Frankfurt กลายเป็นชุมชนชาวเตอร์กครอบครองไปโดยปริยาย

อย่างที่คุณบอนเนอร์บอกใน คห 8 ชาวตุรกีสามารถสร้างสุเหร่าได้ใหญ่โตมโหฬารในเยอรมนี (Duisburg) แถมยังได้รับเงินช่วยเหลือสนับสนุนจากรัฐเจ้าของพื้นที่ถึงครึ่งหนึ่งหรือราว 3.2 ล้านยูโร รวมจำนวนสุเหร่าที่มีทั้งหมดเกือบ 150 แห่ง และที่ยังมีสถานที่ที่ใช้ปฏิบัติศาสนกิจเสมือนสุเหร่าอีกกว่า 2 พันแห่ง

แต่ในตุรกีเองกลับตรงกันข้าม แม้แต่โดยทางกฏหมายตุรกียังไม่รับรองโบสถ์หรือสถานปฏิบัติศาสนกิจของศาสนาอื่นใด โบสถ์คริสที่มีอยู่นั้นเป็นของที่มีมาแต่เดิมในประวัติศาสตร์ จะสร้างใหม่ไม่ได้ จะแสดงกิจศาสนาอื่นในที่สาธารณะก็ไม่ได้ ที่ร้ายแรงไปกว่านั้น ชาวคริสต์ที่ถือว่าเป็นเป็นชนกลุ่มน้อยจะถูกทำร้ายและฆ่าตายมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน และยังคงเกิดขึ้นอยู่ในปัจจุบัน

เฉพาะสาเหตุนี้ก็เป็นหนึ่งในเหตุผลหลายข้อที่ตุรกียังสอบไม่ผ่านหลักเกณฑ์การเข้าเป็นสมาชิกอียู และยังต้องใช้เวลาอีกนับทศวรรษกว่าจะขยับเข้าใกล้ความเป็นจริงได้ ถ้าคนตุรกียังอยากจะเป็นชาวยุโรป

ผมให้ที่อยู่ องค์กรกิจการศาสนาพุทธในอิสตันบูลมาให้ จขกท เผื่อว่าคุณสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้บ้างครับ



Buddhists following Tibetan/Central Asian tradition

Address: Eryaman / Ankara 06770
Tradition: Vajrayana
E-mail: [email protected]
Website: http://www.dharamsala.web.tr
Find on:
Main Contact: A.ilker Bekarslan Email
Goenka Vipassana

Address: Millet cad. No.82 Fındıkzade, Istanbul, Turkey Contact details for vipassana meditation courses
Tradition: Theravada
Phone: (532) 471-28-28
E-mail: [email protected]
Find on:
Contact: Melek Cilingir.

ขอบคุณ คุณ : Bagheera ครับ

เข้าใจว่าสำนักวิปัสนาของ Goenka Vipassana ไม่มีการสวดมนต์ จริงไหมครับ

ยินดีครับคุณอิสวาสุ

เท่าที่ผมทราบมาจากหลายๆ แหล่งและฟังจากการสัมภาษณ์อาจารย์ โคเอนก้าตอนมายุโรป ก็เป็นไปตามที่เข้าใจครับว่า การทำวิปัสสนากรรมฐานในหลักสูตรของท่านโคเอนก้าไม่มีรูปปั้นพระพุทธรูปให้กราบไหว้ ไม่มีสวดมนต์ ท่านโกเอ็นก้าบอกว่า พระพุทธเจ้าบอกว่าธรรมะคือธรรมชาติ ไม่ว่าคุณคือ เอเชีย หรือ ยุโรป คริสเตียน หรือ อิสลาม ทุกคนต่างเป็นมนุษย์ที่เกิดมาในโลกนี้ อยู่ใต้กฎเดียวกันคือธรรมชาติ เพราะฉะนั้นธรรมชาติเป็นของทุกคน ธรรมะเป็นของทุกคน และไม่ผิดกับหลักศาสนาใดๆ เพราะเราก็ไม่ได้กราบไหว้หรือชี้นำให้มานับถือศาสนาพุทธ แต่เรานับถือพระพุทธเจ้าในฐานะบุรุษผู้ค้นพบหนทางพ้นทุกข์

คำตอบการสัมภาษณ์ตัดตอนมาครับ

คำถาม: คุณคิดว่าในสังคมชาวพุทธ ซึ่งความรุนแรงเห็นได้อย่างกลาดเกลื่อนอยู่ในตอนนี้ ผู้คนทำหน้าที่ด้วยการไม่ยึดติดถือมั่นหรือเปล่า?

คำตอบ: "ถ้าใครบางคนมาบอกว่า เขาเป็นชาวพุทธ และทั้งหมดที่เขาทำก็คือแค่นี้ ผมก็จะบอกว่า คุณเป็นได้แค่ผู้ศรัทธาในพระพุทธเจ้า แต่คุณไม่ได้เป็นสาวกของพระองค์ ซึ่งแตกต่างกันมาก คุณมีศรัทธาแรงกล้าในพระพุทธเจ้า คุณพร่ำพูดว่า “พระพุทธองค์ โอ พระพุทธองค์ ผู้เลิศประเสริฐแท้” แต่คุณไม่ได้ปฏิบัติฝึกฝน ไม่ว่าเราจะเรียกตัวเองว่าเป็นคริสเตียน เป็นฮินดู หรือมุสลิม ไม่มีอะไรแตกต่างกันเลย สาวกของพระพุทธเจ้าต้องปฏิบัติตามคำสอนของพระองค์ คือ ศีล สมาธิ และปัญญา ส่วนคนที่เอาแต่เรียกตนเองว่าชาวพุทธ ไม่เห็นว่าจะใช้ชีวิตเยี่ยงพุทธแต่อย่างใด นี่คือเหตุผลว่า ทำไม ผมจึงไม่ใช้คำว่า “ชาวพุทธ” หรือ “พุทธศาสนา” พระพุทธเจ้าไม่เคยสอนลัทธิหรือศาสนาใด ๆ ในพุทธพจน์ทั้งหมด รวมทั้งอรรถกถาทั้งหลาย ซึ่งรวมแล้วหลายพันหน้ากระดาษ ไม่เห็นมีคำว่า “พุทธศาสนา” คำทั้งหมดนี้ล้วนเกิดขึ้นภายหลังเมื่อคำสอนของพระองค์เริ่มลงหลักปักฐานแล้ว ผมไม่รู้ว่าเริ่มมีการเรียกสิ่งนี้ว่า “พุทธศาสนา” ตั้งแต่เมื่อไหร่ และอย่างไร แต่ทันทีที่คำเรียกนี้เกิดขึ้น มันได้ลดทอนคุณค่าคำสอนของพระพุทธองค์ลงไป สิ่งเหล่านี้เคยเป็นคำสอนสากล แต่คำเรียกเหล่านี้ทำให้เกิดการแบ่งแยกเป็นลัทธินิกายศาสนา ราวกับจะบอกว่า พุทธศาสนามีไว้เพื่อชาวพุทธเพียงเท่านั้น เช่นเดียวกับศาสนาฮินดูก็เพื่อชาวฮินดู ศาสนาอิสลามก็มีไว้เพื่อคนมุสลิมเท่านั้น แต่ธรรมะนั้นมีไว้เพื่อมนุษย์ทุกคน"

เอวังด้วยประการฉะนี้ครับ

แต่อาจารย์โคเอ็นก้าไม่ได้ปฏิเสธพิธีกรรมทางศาสนาครับ เพียงแต่ในการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานนั้น พิธีกรรมไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องหรือส่งผลลัพธ์ใดๆ นอกจากนั้นโคเอ็นก้าต้องการให้วิปัสสนาเป็นการชำระจิตใจให้บริสุทธิ์สำหรับคนทุกเชื้อชาติโดยไม่มีความเชื่อของศาสนาต่างๆ เข้ามาเป็นอุปสรรคยึดติดอยู่ในจิตใจ จึงตัดสิ่งเหล่านี้ออกไปเสีย

ในการอบรมวิปัสสนา มีการเปิดเทปสวดมนต์ภาษาบาลีเสียงอาจารย์โคเอ็นก้า เป็นการถ่ายทอดคำสอนของพระพุทธเจ้าโดยไม่เน้นขนบธรรมเนียมของแต่ละชาติ เพราะต้องการให้เป็นสากลไม่จำกัดเชื้อชาติ-ศาสนา
สามารถเปิด U-tube เข้าดูได้ เพราะละเอียดดี


http://www.youtube.com/watch?v=aUzEWDQCkzE

ขอบคุณครับ
เ้พื่อนผมไปฝึกวิปัสนากับอาจารย์โคเอ็นก้าที่บอสตันมา เข้าใจว่าคงเหมือนๆกับโคเอ็นก้าอื่นๆ

ขอบคุณทุกๆ ความคิดเห็นค่ะ ^^
จขกท

ดีใจที่คุณ จขกท. เข้ามาเอาคำตอบไปแล้วนะคะ เห็นหายไปหลายวัน จึงไม่ทราบว่าจะได้เข้ามาอ่านหรือยัง
เที่ยวตุรกีให้สนุกนะคะ อิสตันบูลเป็นเมืองที่น่าสนใจค่ะ อาหารอร่อย กาแฟอร่อยแบบแปลกๆ ขนมอร่อย ชีสก็อร่อย
ผู้คนโดยทั่วไปเป็นมิตร อย่าลืมไปดื่มน้ำทับทิมคั้นสดผสมกับน้ำส้มคั้นสดนะคะ อร่อยมากๆ ราคาถูก และ หาดื่มได้ทั่วไปค่ะ

ว่างๆ ถ้ามีเวลาดิฉันก็อยากกลับไปตุรกีอีกค่ะ ชอบมาก คุณ จขกท. เที่ยวให้สนุกนะคะ
การท่องเที่ยวเป็นสิ่งที่ดี ที่ทำให้คนเราได้ใช้เวลาว่างจากการทำงาน ไปพักผ่อนหย่อนใจ ไปพบปะผู้คนที่แตกต่าง
ได้ไปเปิดหูเปิดตาเปิดใจ ได้ไปใช้เงินทองที่เราหามาด้วยความสุจริตใช้จ่ายเพื่อความบันเทิง กินอยู่ พักผ่อน
ท่องเที่ยวแล้วได้ไปชาร์จแบต ทำให้ไม่จำเจค่ะ เที่ยวเสร็จแล้วก็กลับประเทศไทย กลับบ้านเมืองของเราค่ะ
กลับมาทำงานหาตังค์เที่ยวต่อ และหาเวลาไปเที่ยวต่อให้ได้ เพราะการที่จะไปท่องเที่ยวได้บ่อยๆ ต้องมีสองอย่างหลักๆ
คือ เงิน และ เวลา ค่ะ

การท่องเที่ยวถือเป็นอุตสาหกรรมที่สำคัญอย่างหนึ่งที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจของหลายๆ ประเทศและของโลก
หลายๆ ประเทศให้ความสำคัญกับการท่องเที่ยวมากๆ จนถึงกับมีกระทรวงการท่องเที่ยว สำนักข่าวใหญ่ๆ ทางทีวี
ในระดับโลก มีโปรแกรมที่น่าสนใจเกี่ยวกับการท่องเที่ยวมากมาย

สุขสันต์วันเกิดล่วงหน้าค่ะ และขอให้หาสถานที่หรือสิ่งที่เหมาะสมในการทำบุญวันเกิดในต่างแดนของคุณได้ในระหว่าง
ท่องเที่ยวนะคะ

คุณ Been there, done that!

ช่วงนี้งานยุ่งๆ เลยไม่ค่อยได้เถลไถลมาเเถวนี้ ^^
ขอบคุณสำหรับข้อมูลมากๆ เลยนะคะ ตอนนี้ก็ำกำลังหาโรงเเรม ถูกๆ และดีๆ (ฮา)
เเล้วก็สถานที่เที่ยวอ่ะคะ สรุปไป 18-24 พ.ย. ไม่รู้ว่าอากาศตอนนั้นจะเป็นยังไงบ้าง
ที่เเน่ๆ ตอนนี้หาผ้าโพกหัวเอาไว้เวลาไปเที่ยว mosque แล้ว ไม่ค่อยเห่อเลยเรา 555++