เอกสารของ Sponser

คือพัทจะเดินทางไปอเมริกาเพื่อไปเยี่ยมครอบครัวของแฟน
แล้วก็แฟนค่ะ โดยแฟนเป็นสปอนเซอร์ให้
ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนเตรียมเอกสาร
อยากสอบถามเพื่อนๆ พี่ๆ ว่า เอกสารของสปอนเซอร์
เราต้องให้เค้าเซ็นต์รับรองมาด้วยหรือป่าวค่ะ เช่นเวลาเราซีร๊อคบัตรประชาชน
ก็ต้องเซ็นสำเนาถูกต้องตามด้วยชื่อ
แล้วในส่วนเอกสารของสปอร์เซอร์เนี๊ย ต้องให้เค้าเซ็นรับรองด้วยหรือป่าวค่ะ
หรือว่าให้เค้าแสกนแล้วเราไปปรินท์ได้เลยค่ะ

คือว่าไม่รู้จริงๆจะว่าโง่ก็ว่าได้ค่ะ

ความคิดเห็นที่ 1
ไม่แนะนำให้แฟนเป็นสปอนเซอร์นะคะ...

ถ้าเป็นไปได้คุณควรจะใช้ตัวเองเป็นหลักจะดีกว่านะคะ เช่น หน้าที่การงาน หรือไม่ก็ให้คนในครอบครัวเป็นสปอนเซอร์ให้ (ถึงแม้ในความเป็นจริงแฟนคุณจะเป็นคนออกค่าใช้จ่ายทั้งหมด)

โดยทั่วไปแล้วเอกสารที่สถานทูตต้องการเห็นคือ หนังสือรับรองจากที่ทำงานของคุณ ที่แสดงให้เห็นว่าคุณมีงานทำมั่นคง ไม่คิดจะมาอยู่อาศัยในอเมริกา ส่วนเอกสารการเงินนั้นถ้าข้อแรกผ่านเขาแทบจะไม่ขอดูเลยค่ะ (แต่ก็ต้องเตรียมไว้)... ปกติเอกสารของอเมริกานั้นถ้าเขาไม่ได้ระบุว่าต้อง notarized ก็ไม่ต้องเซ็นกำกับเหมือนที่ไทยค่ะ เขาต้องการดูตัวเลขย้อนหลัง 6 เดือนที่แสดงให้เห็นเงินหมุนเวียนเข้าออก

การให้คนอื่นโดยเฉพาะแฟนเป็นสปอนเซอร์ ต้องเตรียมใจนะคะเพราะโอกาสที่จะได้วีซ่านั้นยากทีเดียว เพราะเขาเกรงว่าคุณจะมาแต่งงานที่นี่แล้วไม่กลับไทย... และจะโดนซักถามมากๆ เลยค่ะ

โชคดีนะคะ


ตอบกลับความเห็นที่ 1
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 2
เห็นตาม คห ข้างต้นนี้ ถ้าเอ่ยว่าแฟนปุ๊บ กงสุลเขาจะถามว่าเป็นแฟนกันตั้งแต่เมื่อไหร่ รู้จักกันได้อย่างไร ทีนี้ผู้ตอบก็ตอบอย่างมั่นอกมั่นใจว่า รู้จักเมื่อนั้นเมื่อนี้ รู้จักกันที่โน่นนี่ (ตอบเพราะเป็นความจริง) พอกงสุลรับฟังเสร็จ เขาปฏิเสธวีซ่าท่องเที่ยวเลย ด้วยเหตุผลว่า โอกาสที่ผู้ได้วีซ่าอาจจะเดินทางไปแล้วอยู่กันกับแฟนไม่กลับมา ดังนั้นจึงปฏิเสธวีซ่าท่องเที่ยว แต่...ให้ไปขอเป็นวีซ่าคู่หมั้นซะ

จะบอกให้ทราบว่า หน้าที่กงสุลที่ทำการสัมภาษณ์ออกวีซ่าในต่างประเทศเมกานั้น เขาถือหลักว่า ผู้ยื่นขอวีซ่าชั่วคราวทุกชนิด เป็นผู้ที่มีโอกาสหรือตั้งใจที่จะอยู่อย่างถาวรในเมกา ดังนั้นมันเป็นหน้าที่ของกงสุลที่จะต้องพยายามไม่ออกวีซ่าให้แก่ผู้ที่ไม่สามารถแสดงถึงความมั่นใจในการจะกลับบ้านเมืองของตน เมื่อมาทำการอยู่อย่างชั่วคราวแล้ว กรณ๊ผู้ยื่นขอวีซ่าท่องเที่ยว โดยอ้างว่าจะไปเยี่ยมแฟนเมกัน ซึ่งคิดเองว่า คงจะไม่มีปัญหาเพราะมีแฟนเป็นเมกัน แต่....กงสุลกลับเห็นว่า โอกาสที่เป็นแฟนกันแล้วเจอตัวเป็นๆกัน อาจจะลงเอยด้วยกันอยู่กินกันก็ได้ ทีนี้ ถึงแม้จะอยู่กินกัน ผู้ขอวีซ่าท่องเที่ยวก็สามารถแต่งงานกันแล้วทำเรื่องขอวีซ่าถาวรได้ แต่ (มีแต่อีก) มันไปเข้าหลักเกณฑ์ของการที่ผู้ขอวีซ่าชั่วคราวไปแล้วไม่กลับ เลยต้องปฏิเสธก่อน โปรดจำไว้ว่า การทำงานหรือปฏิบัติหน้าที่ของราชการเมกันนั้น เขาปฏิบัติ By language คือข้อกฏหมายเขียนไว้อย่างไร ก็ขอให้ทำการนั้นทุกตัวอักษร รับรองไม่พลาดเด็ดขาด มีตัวอย่างมาแล้ว ว่างๆจะมาเล่าให้ฟังเป็นวิทยาทาน


ตอบกลับความเห็นที่ 2
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 3
เห็นด้วยกับทุกความเห็น เพราะเพิ่งจะโดนปฏิเสธมาค่ะ
เรามั้นใจมาก ว่าจะต้องได้ เพราะประวัติเราไม่ขี้เหร่เลย ทำงานบริษัทใหญ่โต
และเป็นเวลา 8 เกือบ 9 ปี และการตอบคำถามของเราก็ไม่ได้ติดขัด
แต่แล้ว ท่านกงศุลก็ไม่ให้เราค่ะ ซึ่งอาจจะมีเหตุผลที่ท่านไม่สามารถให้เราได้ เราไม่อยากให้ จขกท เสียเวลาอย่างเราค่ะ ถ้าย้อนเวลาได้เราก็จะเป็นสปอนเซอร์ตัวเองค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 3
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 4
คือพัทมีหนังสือรับรองจากมหาลัยว่ายังคงมีสภาพเป็นนักศึกษาอยู่
คือช่วงเดือนที่จะเดินทางไปคือ มกราคม กุมภาพันธ์ มีนาคม
ส่วนเดินเมษายนจะเดินทางกลับเนื่องจากว่ามีสอบอีก 1 วิชา
ก็จะเรียนจบแล้ว ถ้าเรามีหนังสือรับรองจากมหาลัย
ว่ายังไงเราก็ต้องกลับมาแน่นอนเพราะว่าต้องกลับมาสอบที่
มหาลัยแน่นอน ไม่ทราบว่าจะมีความน่าเชื่อถือพอหรือป่าวค่่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 4
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 5
จากคห.4..ก็ลองดูครับแนบไปด้วย..แต่อย่างทุกท่านแนะนำไม่ควรบอกว่าเป็นแฟนครับ


บอกแค่เป็นเพื่อนก็พอ..


ตอบกลับความเห็นที่ 5