ขอคำปรึกษาเรื่อง Forced entry by the police ที่ประเทศอังกฤษค่ะ

สวัสดีค่ะ วันนี้มีเรื่องขอคำปรึกษา เนื่องจากตอนนี้ทางครอบครัวประสบความเดือดร้อนโดยตำรวจค่ะ เรียกว่า Forced entry เเละให้เหตุผลว่า concern for welfare

เนื่องมาจากว่าตำรวจได้รับโทรศัพย์จากเืพื่อนบ้าน (ซึ่งบอกเราไม่ได้ว่าใคร) ว่าได้ยินเสียงทะเลาะวิวาทเเละได้กลิ่นเหม็นตุๆมาจากบ้านดิฉัน เเละไม่เห็นดิฉันเเละลูกเกินกว่าสองสัปดาห์ เเต่ในขณะนั้นดิฉันเเละครอบครัวฮอลิเดย์อยู่ที่โปเเลนด์เป็นเวลา หก สัปดาห์เเล้ว ก่อนจะเกิดเเอกชั่นนี้ ตำรวจได้ติดต่อไปยังเืพื่อนสามี (ที่ค้นเจอในประกันรถ) เเละที่บริษัท ซึ่งต่างก็ยืนยันว่าเราทั้งครอบครัวอยู่ที่โปเเลนด์ (เพิ่มเติมว่า สัปดาห์่ก่อนเกิดเเอกชั่นนี้ สามีได้ติดต่อไปทางบริษัท คุยเรื่องงานกัน)

เเต่ตำรวจก็ยังพังประตูบ้านเข้ามา เป็นการพังประตูที่ยับเยินมาก วงกบไม้ เเละกำเเพงด้านข้างประตูยึด พังเรียบ หลังจากที่ตำรวจไม่เจออะไีร ก็ได้เเต่เอาไม้อัดขันน๊อตตอกปิดทางเข้าบ้านไว้ (ลองคิดดู บินกลับมาถึงบ้านตอนกลางคืน สี่ทุ่มต้องมานั่งขันน๊อต หาทางเข้าบ้านกันเอง)

ในระหว่างที่กำลังขันน๊อตกันอยู่นั้น ก็มีเพื่อนบ้านออกมาสองคน ก็ได้สอบถามกันไปมา ได้ความว่า วันที่เกิดเีรื่อง พวกเค้าต่างก็ออกไปทำงาน กลับมาตอนเย็นก็เห็นว่าตำรวจพังประตูไปเเล้ว ดิฉันจึงเชิญพวกเค้าเข้าไปในบ้าน (หลังจากงัดไม้อัดได้เเล้วนะค่ะ) พิสูจน์กลิ่นที่ได้ีัรับเเจ้งว่าเหม็นอะไรไหม ก็ได้รับคำตอบว่า ไม่ พูดคุยกันไปมา ได้ความว่าตำรวจไม่ได้รอสอบถามอะไรจากเพื่อนบ้านทั้งสองนี้ ทั้งๆที่บ้านอยู่ติดกัน

จากวันนั้นถึงวันนี้ ก็เป็นเวลาร่วมหนึ่งสัปดาห์เเล้วที่ดิฉันเเละลูกอายุ สิบห้า เดือน ต้องอยู่บ้่่านที่ไม่มีประตู (อยู่ลำำพังตอนกลางวัน สามีไปทำงาน) เเละไม่มีเจ้าหน้าที่ หรือเเม้เเต่ตำรวจเข้ามาเยี่ยมเยียน ถึงเเม้ว่าจะได้โทรศัพย์ไปสอบถามเหตุผลเเละค่าเสียหายที่เกิดขึ้น ทุกคนปัดความรับผิดชอบ โดยจะโยนให้ไปคุยกับทางนั้น ทางนี้ (ซึ่งก็โทรไปทุกที่ที่เค้าบอกมานะค่ะ) ก็ไม่มีการตอบรับเเต่อย่างใดเลย โดยเฉพาะบริษัทประกันต่างๆที่มีอยู่ ก็ไม่รับผิดชอบ สามวันเเรกโทรไปฝ่ายต่างๆของประกัน ต่างก็พูดว่าไม่รับผิดชอบในเรื่องเเบบนี้ ตอนนั้นใจห่อเหี่ยวมากค่ะ เพราะค่าทำประตูใหม่เป็นเงินจำนวนไม่น้อยเลย โดยเฉพาะช่วงกลับมาจากฮอลิเดย์ด้วยเเล้ว

เเต่ครอบครัวได้รับน้ำจิตน้ำใจจากเืพื่อนบ้านยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ คุณป้าโิทรไปบริษัทประกัน (ที่เราทำร่วมกัน ซึ่งก่อนหน้านี้โทรไปเเล้วนะค่ะ) เเจ้งว่า บ้านเลขที่นี้ไม่มีประตู ถ้าเกิดไฟไหม้ จะทำยังไง เธอต้องมาทำประตูให้เึค้าด่วนเลยนะ ตอนเเรกทางประกันบ่ายเบี่ยงค่ะ เเต่คุณป้าขู่เรื่องกฎหมายอัคคีภัยอะไีรทำนองนี้นะค่ะ ดิฉันไม่ค่อยเเน่ใจ เเต่ก็ทำให้ประกันต้องจำใจรับผิดชอบค่่าเสียหายที่เกิดขึ้นได้ เเต่ทั้งนี้ดิฉันต้องจ่ายเงิน หนึ่งร้อย ปอนด์ให้กับเค้าเป็นค่าธรรมเนียมที่เกินวงประกัน (เป็นจำนวนเงินที่มากนะค่ะ เพราะสามารถซื้อเเพมเพิร์สให้ลูกได้อีกหลายเดือน)

เรืื่องประตูใช้เวลาดำเินินการ สี่ สัปดาห์ (จากบริษัทประตูบ้่าน) ดังนั้นดิฉันต้องจ้างช่างมาทำประตูชั่วคราวเพื่อให้บ้านปลอดภัย (ช่างว่างจะมาทำให้วันเสาร์อาทิตย์นี้) ซึ่งต้องรับภาระค่าใช้จ่ายเอง

มาถึงตอนนี้ ดิฉันไม่เเน่ใจว่าจะถามอะไรจากเพื่อนๆในห้องนี้ เเต่ขอเเชร์ประสบการณ์อีกด้านหนึ่งของตำรวจที่เป็นห่วงสวัสดิภาพของเรา (ขณะที่เราฮอลิเดย์) เเต่ทอดทิ้งเรา ในขณะที่เราอยู่อย่างอันซีเคียวในบ้านของเรากับเบบี๋ อายุสิบห้าเดือน

ความคิดเห็นที่ 1
ขอแชร์ประสบการณ์ด้วยคนค่ะ...

อยู่อเมริกานะคะ...คืนวันหนึ่งคุณสามีมีอาการโรคหัวใจกำเริบ คุณสามีบอกให้โทรเรียก 911 พอสายติดคุณสามีก็บอกให้วางหูไม่ต้องเรียก 911 ล่ะ เพราะจะขับรถไปโรงพยาบาลเองดีกว่าซึ่งก็อยู่ไม่ไกลประมาณ 6 ไมล์ ระหว่างทางเกือบจะถึงโรงพยาบาลเพื่อนบ้านก็โทรเข้ามือถือ ถามว่าอยู่ไหน? ตอนนั้นประมาณเกือบเที่ยงคืนได้ค่ะ...เราก็บอกว่ากำลังขับรถไปโรงพยาบาลกับคุณสามีเพราะเขามีอาการโรคหัวใจกำเริบ เพื่อนบ้านบอกว่ามีตำรวจมาที่บ้าน 2 คนนะ เขาบอกว่าเราโทรไปแล้ววางหู เขาเลยมาดูว่าเราเป็นอันตรายอะไรหรือเปล่า? เพราะมาถึงบ้านปิดเงียบ ไฟดับหมด เคาะประตูเรียกก็ไม่มีคนมาเปิด แต่เขายังไม่ได้พังประตูทันที...เขาเดินไปถามข้างบ้านก่อน...เพื่อนบ้านเลยโทรมาหาเรา และทางตำรวจก็ขอพูดโทรศัพท์กับเราด้วยเพื่อความมั่นใจว่าเราไม่ได้ตกอยู่ในอันตรายจริงๆ พอเราบอกว่ากำลังจะไปโรงพยาบาล เขาบอกว่ามีอะไรจะให้เขาช่วยไม๊? แบบต้อการรถตำรวจนำหรืออะไรประมาณนั้น...เราบอกว่าไม่ต้องเพราะถึงโรงพยาบาลแล้ว...

วันต่อมาเพื่อนบ้านบอกว่า ถ้าเพื่อนบ้านติดต่อเราไม่ได้คืนนั้น เขาจะพังประตูล่ะ...โชคดีไป!


ตอบกลับความเห็นที่ 1
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 2
เสียใจด้วยอยู่ๆเพื่อนก็มาพังประตูบ้านแล้วไม่รับผิดชอบ ถ้าเป็นเมืองช่างฟ้องอย่างอเมริกาก็คงไม่พลาด


ตอบกลับความเห็นที่ 2
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 3
ไม่มีความรู้ด้านกฏหมาย แต่อยากแชร์ประสบการณ์เจอตำรวจพังประตูเหมือนกัน ดิฉันเคยเล่าในนี้ไปแล้วในกระทู้แนะนำด้านบน ยกลงมาให้อ่านอีกที

เหตุเกิดที่โปแลนด์ก็ไปเช่าเต๊นท์นอนเรื่องนี้แปลกมากและไม่เข้าใจจนบัดนี้ว่า
เหตุบังเอิญหรือว่าอะไร คือฝันว่าดิฉันและคุณพ่อที่เสียไปแล้วกำลังโดนน้ำพัดไป
คนละทาง คุณพ่อตะโกนว่าพ่อช่วยได้แค่นี้นะและตอนนี้พ่อช่วยลูกไม่ได้แล้ว

พอตื่นขึ้นก็รู้สึกใจหายห่วงแฟลตที่อังกฤษมาก เพราะฝากให้เอเย่นขายบ้าน
ประกาศขายให้ พอโทรไปถามเอเย่น เขาบอกว่าบ้านโดนงัดเพราะประตูพัง
พอโทรไปวานเพื่อนให้ไปดูให้ถึงรู้ว่าตำรวจพังประตู เข้าไปเพราะว่าน้ำท่วมจาก
แฟลตเราลงไปแฟลตด้านล่าง จนไฟเขาช๊อตหมด โชคดีมาก
แฟลตข้างล่างเขาไม่เอาเรื่องเอาราวแต่อย่างใด

เรื่องนี้เกิดขึ้น สิบกว่าปีแล้ว เหตุเกิดเพราะไปเที่ยวโปแลนด์เหมือนกันเลย หลังจากกลับมาจากอังกฤษ ดิฉันก็โทรคุยกับประกันส่วนตัว แต่เขาไม่รับผิดชอบอย่างใดทั้งสิ้น ส่วนประกันรวมของแฟลตเขาก็ไม่รับผิดชอบ เขาบอกว่าตำรวจมีสิทธิ์ที่พังประตูเราได้ตามกฏหมายและประกันจะไม่รับผิดชอบตรงนี้ เขาบอกว่ามีบอกอยู่ในสัญญา เลยต้องเสียค่าทำประตูใหม่ไป ถ้าจำไม่ผิดราวๆ 375 ปอนด์ สมัยนั้น


ตอบกลับความเห็นที่ 3
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 4
If you weren't home, how could the neighbour have heard any loud noise coming from your home? This is odd, but would be a good ground to help you in your complaint to claim for a compensation as the police might not have performed adequate checks before the forced entry occurred.

You may try to apply to the police force to claim for a compensation. You can pick up a claim form from your local Police station.


http://forums.moneysavingexpert.com/showthread.php?t=3202214

Plenty of advice, here.

If the police acted lawfully (a welfare check would be lawful), they will not be liable for costs. You will need to check your insurance, but be aware that the insurers may not cover damage incurred during a lawful entry (as opposed to a burglary/ trespass).


Information:
http://www.charitybags.org.uk/forced_entry_for_saving_life_or_limb.shtml


http://www.adviceguide.org.uk/england/law_e/law_legal_system_e/law_police_e/police_powers.htm#Complaints

Powers of entry
When can the police enter and search

Police can only enter premises without a warrant if a serious or dangerous incident has taken place.

Situations in which the police can enter premises without a warrant include when they want to:

deal with a breach of the peace or prevent it
enforce an arrest warrant
arrest a person in connection with certain offences
recapture someone who has escaped from custody
save life or prevent serious damage to property.

Apart from when they are preventing serious injury to life or property, the police must have reasonable grounds for believing that the person they are looking for is on the premises.


In other circumstances, the police must have a search warrant before they can enter the premises. They should enter property at a reasonable hour unless this would frustrate their search. When the occupier is present, the police must ask for permission to search the property – again, unless it would frustrate the search to do this.

When they are carrying out a search police officers must:

identify themselves and - if they are not in uniform - show their warrant card, and
explain why they want to search, the rights of the occupier and whether the search is made with a search warrant or not.

If the police have a warrant, they can force entry if:

the occupier has refused entry, or
it is impossible to communicate with the occupier, or
the occupier is absent, or
the premises are unoccupied, or
they have reasonable grounds for believing that if they do not force entry it would hinder the search, or someone would be placed in danger.


Compensation paid by Avon and Somerset Constabulary:

http://www.google.es/url?sa=t&rct=j&q=&esrc=s&source=web&cd=5&cad=rja&ved=0CDQQFjAE&url=http%3A%2F%2Fwww.avonandsomerset.police.uk%2Finformation%2Fdocuments%2FDisplay.aspx%3Fdt%3D2%26d%3D4953&ei=acFBUJ2SE8iW0QWmhYGoBQ&usg=AFQjCNEnKhV8T-WHnS83G903f_ejKQu-1A

Ex Gratia Payments 500.00 18/11/08 Warrant was executed at home address whilst on holiday resulting in considerable damage


Good luck.


ตอบกลับความเห็นที่ 4
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 5
เข้ามาต่ออีกนิดว่าของดิฉันตำรวจเขาทำประตูชั่วคราวให้เป็นไม้ตรอกๆก็ใช้ได้เหมือนประตูจริงๆ เพียงแต่ไม่แข็งแรงเท่านั้น เขาทำให้ก่อนที่ดิฉันจะกลับจากโปแลนด์ค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 5
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 6
ขอแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนะคะ

........................

มาเล่าให้ฟังบ้างค่ะ

กรณีของดิฉัน ยังไม่ได้เกิดขึ้นจริงนะคะ เพียงแต่อาจจะเกิดขึ้นได้ ถ้าไม่รีบปฏิบัติตามคำแนะนำ ...

คือ ดิฉันเป็นคนไม่ดูทีวี ตอนย้ายมาบ้านนี้ใหม่ ๆ แล้วเจ้าหน้าที่ทีวีไลเซ่นต์คงเคยมานั่งเฝ้า
หน้าบ้านครั้งหนึ่งแล้ว ที่ทราบเพราะได้รับจดหมายสอดเข้ามาในประตู จากนั้นก็ได้รับจดหมายลงทะเบียนมาอีกฉบับ

จดหมายก็ไม่มีอะไรค่ะ ขู่อะไรทำนองนี้ เราก็มั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าไม่เคยเปิดสัญญาณทีวีหรือมีเครื่องรับ
จะมาทำอะไรกันเล่า แต่พอจดหมายที่เขียนมาดุดันขึ้นเพียงเพราะอยากจะได้ชื่อเสียงเรียงนามของเรา
ก็เกิดความไม่สบายใจค่ะ เลยโทรศัพท์ไปปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมาย แรก ๆ คนให้คำแนะนำก็ไม่เชื่อว่า
ดิฉันไม่ดูทีวี แต่พออธิบายว่าดิฉันไม่มีเหตุความจำเป็นต้องดูและไม่คิดจะดู แต่ที่ต้องโทรหาเพราะเรื่องจดหมายขู่ รวมไปถึงเจ้าของบ้านคนเก่าคงจะมีคนดูทีวี และเขามีอุปกรณ์ติดรับสัญญาณบนหลังคา ก็บอกไปว่าจะทำอย่างไรดี เพราะจะไปเรียกช่างมารื้ออุปกรณ์มันก็หลายสตางค์อยู่

เจ้าหน้าที่ตอบดิฉันว่า ถึงแม้ไม่มีหลักฐานแต่ถ้าเขาได้ใช้ความพยายามที่จะติดต่อดิฉัน และดิฉันปฏิเสธ เขาก็มีอำนาจที่จะขอหมายเรียกที่สามารถพังประตูบ้านเราเข้ามาได้ ดิฉันก็บอกว่าจะพังเข้ามาทำไม ถ้าเขาไม่มีหลักฐานว่าดิฉันดูทีวีหรืออะไร

เจ้าหน้าที่พูดต่อไปด้วยว่า ไม่รู้แหละ ... ถ้าประตูคุณพัง ที่เกิดจากเจ้าหน้าที่เหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็น ตำรวจ เจ้าหน้าที่ที่มีหมายศาล เจ้าหน้าที่พวกทีวีไลเซ่นต์ ... คุณจะมาร้องเรียกค่าซ่อมไม่ได้นะ คุณต้องซ่อมเอง
พอดิฉันได้ยินดังนั้น ก็รีบติดต่อไปค่ะ เรื่องก็เลยจบ ปีนั้นก็เพิ่งทราบเหมือนกันว่า เจ้าหน้าที่ทีวีไลเซ่นต์มีอำนาจเยอะเท่ากับเจ้าหน้าที่ติดตามภาษีของรัฐ

อีกเรื่องคือ ... ถ้าสัญญาณกันขโมยบ้านคุณดังรบกวนชาวบ้าน โดยที่คุณไม่อยู่บ้านเป็นเวลานาน เช่นไปท่องเที่ยว หรืออะไรก็ตามแต่ เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถพังประตูบ้านเข้ามาเพื่อหาทางตัดสัญญาณในบ้านคุณได้ค่ะ

เท่าที่ทราบ ในเขตดิฉันเขามีโครงการฝากกุญแจบ้านไว้กับตำรวจ อะไรทำนองนี้ ... เพื่อนบ้านดิฉันเวลาเขาไม่อยู่บ้านนานหลายสัปดาห์ ก็จะบอกดิฉันไว้ และจะมีเพื่อนสนิทของเขาเข้ามาตรวจบ้านทุกสัปดาห์ เข้าใจว่ามาตรวจดูว่ามีอะไรรั่วไหล ซึม ฯลฯ หรือเปล่า

ตอบกลับความเห็นที่ 6
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 7
ขออนุญาตเจ้าของกระทู้คุยกับ คุณบีพีหน่อยนะคะ ดิฉันก็พึ่งย้ายบ้านใหม่ บ้านใหม่ที่ย้ายมาอยู่ใจกลางเมืองสัญญาทีวีเข้าไม่ถึง เพราะแถวนี้เป็นบริษัทหรือศูนย์การค้าทั้งนั้น แต่ว่าไลเซ่นต์ทีวีมันจ่ายตามบุคคลไม่ใช่ตามที่อยู่ พอย้ายบ้านมาได้เดือนเดียวสัญญาหมดลง เขาก็ส่งจดหมายมาเตือนให้รีบต่อสัญญาเสียไม่งั้นดิฉันต้องถูกฟ้องศาล

ดิฉันบอกว่าที่บ้านไม่มีทีวีดู เจ้าหน้าที่ก็บอกว่าถ้ามีแลปท๊อปหรือคอมก็ต้องเสียค่าไลเซ่นต์เพราะดูทางคอมได้ ตกลงดิฉันก็ต้องต่อไลเซ่นต์เพราะขี้เกียจเถียงกับเขา พอต่อเสร็จเลยติดต่อ Sky ให้มาติดดาวเทียมให้ เพราะมีทางเดียวที่จะดูทีวีได้และไหนๆก็เสียค่าไลเซ่นต์ไปแล้ว สกายส่งเจ้าหน้าที่มาสองรอบก็ติดไม่ได้เพราะอยู่ตึกสูง ทุกวันนี้ก็เสียค่าไลเซ่นต์โดยที่ไม่มีทีวีดูค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 7
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 8
ขออนุญาตคุณเจ้าของกระทู้เช่นกันนะคะ

กรณีของคุณรินตา แสดงว่าคนที่เขาแนะนำคุณว่าจ่ายตามบุคคล มีความจริงแค่ครึ่งเดียวค่ะ
คือถ้าเราเคยมีไลเซ่นต์อยู่แล้ว และย้าย ไลเซ่นต์ของเราก็จะย้ายตามได้ค่ะ

ขอเล่าประสบการณ์การบีพีหน่อยนะคะ ..
พอดีบีพีไม่เคยมีชื่อในระบบว่าเคยดูทีวี เจ้าหน้าที่มาเฝ้าแล้ว ก็ไม่มีเหตุ .. ที่ทราบก็เพราะอย่างที่บอกค่ะ

และพอหลังจากให้ชื่อเสียงเรียงนามไป อีกสองสามปีถัดไป ก็มีจดหมายมาอีกค่ะ
พอถัดมาอีกครั้ง คราวนี้เจ้าหน้าที่มาเจอดิฉันยืนอยู่หน้าบ้านพอดี ดิฉันก็บอกว่า อยากเข้ามาตรวจไหม
เพราะจำจดหมายที่พวกเขาส่งมาล่วงหน้าได้ว่า จะมีเจ้าหน้าที่มาตรวจนะ ..
เขาบอกว่า "ไม่" มาเอาลายเซ็นต์เธอเฉย ๆ แล้วก็รีบไป บอกว่าอีกสามปีค่อยว่ากันใหม่
ครั้งหลังสุด คราวนี้มาบอกว่าให้เซ็นต์ชื่อไปอีก หรือไม่ลงทะเบียนทางเวปไซด์
ดิฉันก็ทำตามค่ะ ลงตามเวป ซึ่งก็แสดงว่า ดิฉันมีคอมฯนะคะ แต่ไม่ได้ดูทีวีของเขาผ่านคอมค่ะ

ถ้าเป็นอย่างที่เจ้าหน้าที่บอกคุณรินตา ว่าใครมีคอมฯ ต้องเสียค่าไลเซ่นต์ ก็ไม่ใช่นะคะ
ยกเว้นว่าเราไปดูในเวปบีบีซี ซึ่งมีรายการแบบสด แบบนั้นต้องเสียค่าไลเซ่นต์ค่ะ
ในแบบฐานข้อมูลครั้งล่าสุดที่ให้ดิฉันยืนยันไปผ่านทางคอมฯ เขาก็มีให้เลือกนะคะว่า
ถ้าไม่ดู เพราะเหตุใด เท่าที่สังเกตดู ถ้าเป็นการเลือกดูแบบแห้งคือผ่านคลิปเป็นรายการเก่า
แบบนั้นก็ไม่ต้องเสียค่าไลเซ่นต์นะคะ ยกเว้นว่าเครื่องคอมฯของเรามีติดอุปกรณ์รับสัญญาณได้

ดิฉันเลือกว่าไม่มีอุปกรณ์ค่ะ เพราะเครื่องคอมฯของดิฉันตอนที่ตอบเขานั้น
มันเก่ามาก (เครื่องนี้พึ่งได้มาใหม่) สตรีมได้ช้ามากถึงช้าที่สุด แถมยังใช้บริษัทเทเลคอมที่ให้สัญญาณไม่ค่อยเร็วด้วย ปัจจุบันนี้บริษัทฯนั้นขายกิจการไปแล้ว แถมเวลาดิฉันได้คอมฯเครื่องใหม่ อุปกรณ์บอร์ดแบนของเขามันก็ไม่เข้ากับคอมฯใหม่อีกด้วย ก็เลยจำต้องเปลี่ยนบริษัท

จึงคิดว่าการมีอุปกรณ์คอมฯยังไม่สามารถมาบังคับให้จ่ายค่าไลเซ็นต์ได้นะคะ จำได้ว่าเขาเคยนำ
เรื่องนี้เข้าสภามาเมื่อหลายปีแล้ว แต่กฎหมายไม่ผ่าน ดิฉันว่าอนาคตอันใกล้นี้ ... คงมีการเปลี่ยนกฎหมายค่ะ
เพราะถ้าเขาเก็บภาษีต่ำกว่าเป้า หรือคอมฯรุ่นใหม่ ๆ มันมีอุปกรณ์รับสัญญาณทีวีได้ ยิ่งการดูผ่านคอมฯเป็นเรื่องง่าย ๆ คงผ่านกฎหมายตัวนี้แน่นอนค่ะ

ถ้าเสียค่าไลเซ้นต์โดยไม่มีทีวีดู คุณรินตาต้องอธิบายไปค่ะ เขาอาจจะส่งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบในบ้านเรา
ปัญหาคือ สมัยก่อน ถึงแม้เราจะมีทีวี แต่ไม่ได้เปิดดู เขาก็เอามาเป็นข้ออ้างไม่ได้ นอกจากว่านั่งจับผิดเราอยู่หน้าบ้าน เช่น ได้ภาพการรับสัญญาณทีวีจากบ้านของเรา อันนี้คือคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่ทางกฎหมายนะคะ
เพราะว่าคนเราบางครั้งตกงาน ไม่มีเงินเพียงพอ เขาก็ยกเลิกดูทีวีค่ะเพื่อลดค่าใช้จ่าย
ในเวปของทีวีไลเซ่นต์ก็ไม่ได้ระบุนะคะว่าทุกคนที่มีคอมฯจะต้องเสียค่าทีวีไลเซ่นต์ บอกแต่ว่าถ้าเราดู
ทีวีรายการสดผ่านคอมฯ อันนี้แน่นอนค่ะ
http://www.tvlicensing.co.uk/check-if-you-need-one/

บุรุษไปรษณีย์ที่มาส่งจดหมายบ้านดิฉันก็เล่าประสบการณ์ของตัวเองมาให้ดิฉันฟังแบบนี้ค่ะ
ว่าเขาก็เถียงกับเจ้าหน้าที่ว่าเขาเลิกดู เพราะเขาตกงาน เจ้าหน้าที่ไม่เชื่อก็มาตรวจเดินในบ้านค่ะ
ส่วนมากบริษัทขายอุปกรณ์ทีวี จะทำการแจ้งไปยังทีวีไลเซ็นต์ค่ะ ทันทีที่เราซื้ออุปกรณ์ทีวี
ชื่อที่อยู่ของเราจะถูกส่งผ่านไปทางเจ้าหน้าที่พวกนี้เลยค่ะ คาดว่าในอนาคตใครซื้อคอมฯ คงจะถูกรายงาน
ไปทางบริษัททีวีไลเซ่นต์เหมือนกัน (ถ้ากฎหมายตัวที่เขาเคยเสนอแล้วตก ... ผ่านสภานะคะ)

ตอบกลับความเห็นที่ 8
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 9
ขอแสดงความเสียใจกับ จขกท ด้วยนะคะ ต้องมาเสียเงินโดยใช่เหตุ

เรื่อง TV license ของอังกฤษอ่านเจอมานานแล้วรู้สึกว่ามันไม่ค่อยยุติธรรมเอาเลย ถึงกับต้องมานั่งเฝ้า ส่วนของคุณรินตาเสียเงินแต่ก็ไม่ได้ดูอีก น่าจะเก็บเป็นเคเบิ้ล satleliteหรือ Fiber Optic ไปเลยใครไม่ต่อก็ดูไม่ได้ ไม่ใช่ปล่อยมาตามอากาศแล้วมาเรียกเก็บเงิน คนบอกไม่ดูก็ไม่เชื่ออีก

ไม่ทราบว่ามีแบบนี้ที่ประเทศอื่นไหมคะ แล้วอังกฤษเค้าเก็บแพงไหม


ตอบกลับความเห็นที่ 9
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 10
คุณ pixp คะ เรื่องทีวีไลเซ่นต์ เป็นภาษีชนิดหนึ่งค่ะ
ถ้ามีเคเบิ้ลหรือดาวเทียม ก็ต้องจ่ายค่าบริการต่างหากอีกค่ะ

เรื่องภาษีประเภทนี้ เมื่อก่อนเก็บกับค่าฟังวิทยุนะคะ
พอตอนปีหลังที่มีการเปิดให้บริการรับชมข่วสารทางโทรทัศน์
ก็ถือว่าเป็นการรวมค่าไลเซ่นต์ และไป ๆ มา ๆ ก็พูดแต่ค่าไลเซ่นต์ดูทีวีอย่างเดียว
บางประเทศในยุโรป ยังต้องเสียค่าฟังวิทยุแยกต่างหากนะคะ

คือเป็นระบบที่ต้องการให้สื่อเป็นอิสระค่ะ
โดยเจ้าของคนที่จ่ายค่าดำเนินการ ค่ากระจายเสียงอยู่ในมือคือมวลชน
ฉะนั้นบีบีซีจะไม่มีการโฆษณาค่ะ เพราะถือว่าภาษีที่เก็บมานั้นคือรายได้ของบีบีซี

แต่กระนั้น ก็ยังมีช่องอื่น ๆ ที่มีโฆษณานะคะ ไม่ใช่ไม่มี
ที่นี่จะเป็นแบบผสมนะคะ
แต่ประเทศอื่น ๆ ในยุโรปที่มีการเก็บรายได้จากมวลชนอย่างเดียวก็มีค่ะ
เช่น ประเทศทางแถบสแกนดิเนเวียนะคะ

อีกระบบหนึ่งที่รายได้ของสื่อมาจากห้างร้านกิจการต่าง ๆ
ที่เรียกว่าการหาสปอนเซอร์เพื่อให้การดำเนินการคงอยู่ได้
ทีวีพวกนี้ถึงจะมีเจ้าของก็จริง แต่จะทำอะไรขัดใจธุรกิจที่เป็นสปอนเซอร์ก็จะอยู่ลำบากนะคะ
เพราะจะมีโทรศัพท์ถึงฝ่ายบริหารทันที ซึ่งฝ่ายรายการก็ต้องปรับเปลี่ยนหรือไม่ก็ต้องตัดต่อใหม่
ให้ดูเบาลง .. บ้านเราก็มีการริเริ่ม โดยใช้ภาษีเหล้าบุหรี่มาอุดหนุนอยู่ช่องหนึ่ง
เพื่อที่จะทำให้ทีวีช่องนั้นเป็นทีวีเสรี ปราศจากอำนาจเก่า ๆ
แต่อย่างไรไม่ทราบได้ การบริหาร การผลิตรายการ
ก็ยังมีคนทำงานร้องเรียนเป็นจดหมายเปิดผนึกออกมา เมื่อเร็ว ๆ นี้
ลองตามข่าวดูนะคะ บีพีจำไม่ค่อยได้แม่นยำนัก

ขอโทษคุณเจ้าของกระทู้นะคะ ที่ทำให้กระทู้ออกทะเลไป

พอดีอยากจะอธิบายเรื่องภาษีตัวนี้นะคะ เพราะที่อังกฤษก็มีการถกกันเหมือนกันค่ะ
เรื่องไม่เก็บค่าไลเซ่นต์ แต่ให้สื่อไปหาโฆษณากันเอาเอง
หลายคนก็เกรงว่าสืือจะตกอยู่ในอิทธิพลของนักธุรกิจ เจ้าพ่อการค้า ฯลฯ
แต่อะไร ๆ ก็ไม่มีความแน่นอนตลอดไปค่ะ ทุกอย่างก็มีการเปลี่ยนแปลง


ตอบกลับความเห็นที่ 10
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 11
รู้จักเพื่อนชาวฟิลิปินส์ครอบครัวหนึ่ง สามีเป็นโรคหัวใจ มีอุปกรณ์(จำไม่ได้ว่า
เรียกอะไร Beeper หรือเปล่าไม่แน่ใจ)ที่กดเรียก paramedic ได้ในกรณีฉุกเฉิน
ที่ต้องการความช่วยเหลือ พี่แกเล่าว่าวันหนึ่งอยู่คนเดียวและนอนหลับไป รู้สึก
ตัวอีกทีไปอยู่ที่พื้น ลุกไม่ขึ้น กดปีบเปอร์ Medic รถหวอมาเร็วมากเคาะประตู
หน้าบ้าน พี่แกเล่าว่าได้ยินแต่ลุกไม่ขึ้น เขากำลังเตรียมจะพังประตู ขนเครื่อง
มือมาหน้าประตูแล้ว บังเอิญเพื่อนบ้านที่ให้กุญแจไว้(เผื่อกรณีฉุกเฉิน)มาพอดี
เลยประตู7ร้อยกว่าเหรียญเลยไม่ต้องพัง

พวกนี้เขาถือว่าชีวิตคนมาก่อนครับ รอนานไม่ได้ก็ต้องตัดสินใจทันที กรณีของเพื่อน
ถ้าช้าอาจถึงตาย เบาะก็เป็นอัมพาติ

ถ้า False alarm ก็ถือว่าซวยไป แต่ถ้าจริงก็ต้องขอบคุณในการตัดสินใจและการทำงาน
อันรวดเร็วของเขา ถ้าต้องพิการเพราะประตูบานเดียวคงไม่คุ้ม


ตอบกลับความเห็นที่ 11
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 12
ขอบคุณทุกความเห็นค่ะ คุณ Techie คุณ pixp คุณ genf คุณRinta คุณบีพี คุณBlackmagicW คุณอิสวาสุ

เรื่องทีวีไลเซนต์นั้น ดิฉันก็มีประสบการณ์นะค่ะเเต่ท้าทายรถตรวจจับค่ะ ตอนเเรกๆเมื่อเข้าัอังกฤษ ฐานะนักเรียนเมื่อปี 2005 เห็นค่าไลเซนเเล้ว โหหหห จ่ายทำไมเนี่ย ก็ไม่จ่ายนะคะ เเอบดูเอา ก็รอดมาได้ คิดใว้ว่าถ้าเค้าจับได้ ก็จะโยนทีวีทิ้งลงหน้าต่าง (ทำลายหลักฐาน)

เรื่องตำรวจพังประตูเข้ามานั้นตอนนี้ประกันในส่วนที่ทำร่วมกันของตึก ส่งใบยอมรับค่าทำประตูให้เเล้ว เป็นจำนวนเงิน 880 ปอนด์ (ค่าประตู บวก ค่าติดตั้ง)

เมื่อวันเสาร์ก็ได้ช่างมาติดตั้งประตูชั่วคราวให้เเล้ว ตอนนี้ก็รู้สึกโล่งปลอดโปร่ง (ตลอดทั้งอาทิตย์ที่ไม่มีประตูบ้าน จะทำอะไร ลูกจะเดินไปไหน ก็ระเเวงระวัง) เรื่องค่าใช้จ่ายก็ขอช่างให้ทำใบอินวอย ก่อนได้ไหม เผื่อจะได้เคลมจากใคร (ตำรวจ หรือ ประกัน) เค้าก็เข้าใจเราดี เเถมสละเวลามาทำให้เราก่อน ปกติก็ต้องจองคิว (ช่างเเถวนี้งานยุ่งนะค่ะ)

จริงๆดิฉันอยากเล่ารายละเอียดมากกว่านี้นะ (กลัวว่าจะยาวเกินไปในตอนเเรก) เเต่ ณ เวลานี้เรื่องค่าเสียหายก็ได้ประกันเป็นผู้รับผิดชอบไป (ประตู) ดิฉันก็พยายามคิดเเง่บวกใว้ว่าเพื่อนบ้าน (ซึ่งไม่รู้ใคร) เค้าคงห่วงเราจริงๆนะ (ในรูปการณ์เเล้ว ดูเหมือนการกลั่นเเกล้ง) อีกอย่างคือตัวดิฉัน สามี เเละลูกสาว ก็สุขสบาย ปลอดภัย ก็ถือว่าดีมากเเล้ว เเละก็ให้ถือว่าเป็นความโชคร้ายที่ต้องเสียทรัพย์ ซึ่งดีกว่าเจ็บตัวเป็นไหนๆ


ตอบกลับความเห็นที่ 12
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 13
กระทู้ที่ออกทะเลเเบบนี้ ดิฉันชอบนะค่ะ คลิกเข้ามาอ่านเเล้วได้ประสบการณ์ความรู้เพิ่มเติมลงในชีวิตอีก

สำหรับรูปข้างบนถ่ายในคืนที่กลับมา พองัดบานไม้อัดออกได้ก็เจอเเบบในรูปเลยค่ะ (รีบงัดเอากล้องมาถ่ายใว้ก่อน)

ส่วนรูปนี้คือไม้อัดที่เค้ามาขันน๊อคใว้ เเล้วตำรวจก็สเปร์เบอร์บริษัทที่ทำใว้ให้เเบบว่าถ้าจะเข้าบ้านก็โทรไปเบอร์นี้นะ เเต่โทรไปเเล้วนะค่ะ เค้าบอกว่ามีค่าใช้จ่ายนะ สามีก็เลยหาทางงัดเเงะกันเอง


ตอบกลับความเห็นที่ 13
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 14
เรื่องนี้น่าจะขอข้อมูลเพิ่มเติมจากตำรวจได้ว่าทำไมเหตุใดจึงตัดสินใจพังประตูเข้าไป ถ้าทางคุณเจ้าของกระทู้ไ่ม่ได้รับคำตอบที่ชัดเจนเป็นเหตุเป็นผล หรือเห็นว่าการกระทำของตำรวจได้กระทำเกินกว่าเหตุก็สามารถทำเรื่องคอมเพลนได้ โดยตั้งต้นเรื่องว่าเป็น police misconduct ซึ่งจะมีวิธีขั้นตอนในการดำเนินการ ในส่วนนี้อาจต้องติดต่อขอคำแนะนำจาก Citizens Advice Bureau ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ของคุณเจ้าของกระทู้ หน่วยงานนี้เป็นองค์กรอิสระและเก็บข้อมูลผู้ติดต่อเป็นความลับไม่ต้องกังวลเรื่องพวกนี้เลยนะคะ ข้อดีของการคอมเพลนให้รู้เรื่องรู้ราวก็อาจต่อยอดไปถึงการขอให้ทางตำรวจชดใช้ค่าเสียหายในการดำเนินการเกินกว่าเหตุได้ ทั้งนี้ทั้งนั้นควรดำเนินการภายในสิบสองเดือนนับแต่วันเกิดเหตุค่ะ


ตอบกลับความเห็นที่ 14
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 15
จากประสบการณ์ ride along, sussex ambulance ในอังกฤษ รถพยาบาลได้รับคำสั่งให้ไปช่วยผู้ป่วยในบ้าน โดยญาติเป็นคนแจ้งไปที่ 999 ด้วยสาเหตุที่ว่าไม่เห็นเจ้าของบ้านออกจากบ้านมาหลายวันแล้ว จนท. ambulance ไปถึงเคาะประตู ตะโกนเรียก ไม่มีเสียงตอบ ได้ขออนุญาตกับศูนย์ทางวิทยุสื่อสารว่าจะพังประตูเข้าไปและยืนยันกับผู้แจ้งเหตุถึงสาเหตุที่ต้องทำ ปรากฎพังเข้าไปเจอเจ้าของบ้านสะลึมสะลือลุกขึ้นนั่งจากเตียงนอน (คงจะเมาเรื้อรังหลายๆวัน)

เคสนี้จึงถือว่าสมควรแก่เหตุแม้ว่าจะพังประตูเข้าไปแล้วไม่ได้มีคนป่วยฉุกเฉินจริง แต่มีเหตุให้เชื่อว่าเจ้าของบ้านอาจได้รับอันตราย ประเภทโรคหัวใจ หมดสติ ฯลฯ ในบ้าน สุดท้าย จนท.แจ้งตำรวจให้ช่วยมาดูต่อ อิอิ


ตอบกลับความเห็นที่ 15
   
  
 
 
   
ความคิดเห็นที่ 16
สวัสดีค่ะ เข้ามาอัพเดทนะ เผื่อจะมีใครคอยติดตามอยู่

เมื่อเช้าวันนี้ก็ได้รับการติดต่อจาก นายตำรวจยศสูงนิดนึง (ปกติที่จะได้คุยก็ตำรวจธรรมดาๆ คือพวกเค้าบอกดิฉันเองนะค่ะว่าเค้าคือเจ้าหน้าที่ธรรมดาๆทำอะไรไม่ไ้ด้ เเต่พังประตูบ้านได้) ขอประณีประณอมกับดิฉัน เนื่องจากเํธอทราบว่าดิฉันกำลังเดินเนินเรื่องคอมเำพลน (เตรียมจะทำ ยังไม่ได้ส่ง หรือไปที่สำนักตำรวจนะค่ะ) พวกเธอทราบจากที่เมื่อประมาณวันอังคาร หรือพุํํํธ ดิฉันทำการขอเอกสาร เหตุผลที่ตำรวจพังประตูบ้านเข้ามานะค่ะ (อันนี้เดาเอานะค่ะ ว่าตำรวจคงเดาทางดิฉันออกว่าจะเอาเอกสารนี้ไปทำอะไร)

ถามเหตุผลของการคอมเพลนนี้ว่าจะเรื่องอะไร เรื่องเเอกชั่น หรือ ค่าเสียหาย

ดิฉันตอบไปทั้งสองอย่างค่ะ รวมไปถึงสวัสดิภาพของดิฉันเเละลูก หลังจากที่ตำรวจพังประตูบ้านด้วย ว่าอันซีเึคียวอย่างไร

สรุปว่าทางตำรวจจะส่ง จนท ฝ่ายเคลม มาเจรจาอีกทีค่ะ

ก็ถ้าไม่มีใครมาให้เห็นหน้าภายในอาทิตย์นี้ ดิฉันก็ว่าจะดำเนินตามที่เเำพลนเอาใว้

ได้เรื่องอย่างไรจะมาอัพเดทอีกทีค่ะ เพราะการพูดคุยวันนี้เป็นเพียงลมปาก ตำีีีรวจอาจจะไม่ทำอะไรจริงก็เป็นได้ หลังจากที่ไม่เคยติดต่อเราเลยหลังจากพังบ้านเีรา

ปล. ตอนนั้นที่ขอเอกสาร เเละเรื่องคอมเพลนค่าเสียหาย ดิฉันยังไม่ได้รับการเเจ้งจากประกันนะค่ะว่าจะชดใช้ให้

ตอบกลับความเห็นที่ 16